ไม่ได้เข้าห้องโรคจิต 1 อาทิตย์ แทบทนไม่ไหว เลยแอบเอาคอมแฟนมาใช้ตอนแฟนไปทำงาน เลยได้พบความจริงว่า แฟนเรารู้ log in เรามานานมากแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่เคยบอกเลย (แอบเขินเล็กๆ นะเนี่ย)
Where where is a where where (ไหนๆ ก็ไหนๆ) เข้ามาห้องโรคจิต ก็ขออนุญาตปรับทุกข์เรื่องเซ็งๆ ในอาทิตย์ที่ผ่านมาหน่อยละกันนะครับ
ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ย้อนความไปตั้งแต่ตอนที่ผมขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมินะครับ
ผมนั่งเครื่องของ British Airway เที่ยวบินที่ BA10 ซึ่งจะออกจากกรุงเทพในเวลา 00.30
แต่เครื่องเกิด Delay ไป 1 ชม ผมจึงถามพนักงานฝ่าย Ground ว่าผมจะต่อเครื่องทันหรือไม่
เพราะผมมีเวลาเปลี่ยนเครื่องเพียง 2 ชม เท่านั้น
ทางพนักงานบอกว่า "ทันแน่นอน เพราะว่ากระเป๋าผมขึ้นList ของที่ต้อง Load ใต้ท้องเครื่องไปเที่ยวบินถัดไปแล้ว ยังไงเครื่องก็ต้องรอ"
ผมก็แอบใจระทึกนิดๆ ว่าจะทันจริงเหรอ แต่เมื่อทางนั้นยืนยันผมก็ไม่มีทางเลือก
เที่ยวบินที่ผมไปเป็นเครื่องลำค่อนข้างใหญ่ มีทีวีส่วนตัวให้ทุกที่นั่ง
พนักงานบนเครื่องบริการบนได้ดีมาก (รัก BA ขึ้นจมเลย อิอิ)
แต่ผมก็ยังอดระทึกขวัญไม่ได้ว่าจะไปต่อเครื่องทันรึเปล่า
ด้วยความไม่สบายใจผมเลยถามพนักงานบริการบนเครื่องว่าเครื่อง Delay ไป 1 ชม ผมจะต่อเครื่องทันรึเปล่า
พนักงานก็ยินยันครับว่า "ทันแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีปัญหา"
พอผมลงเครื่องผมก็รีบวิ่งเลยครับเพื่อที่จะไปอีก terminal นึงให้ทันในเวลาที่กำหนด
ซึ่งผมก็แอบถามพนักงานฝ่าย Ground ที่ลอนดอนอีกรอบว่า ผมจะไปทันรึเปล่าเพราะเหลือเวลาไม่ถึง 1 ชม
แถมยังต้องต่อรถอีกประมาณ 15 นาที
ซึ่งทางพนักงานก็ยังคงยืนยันว่า "ทันแน่นอน"
เมื่อผมไปถึง terminal 1 ผมเห็นคิวตรวจกระเป๋าที่ยาวมากๆ ซึ่งผมเหลือเวลาไม่ถึง 15 นาทีก่อนเวลาที่เครื่องจะออกแล้ว
ผมจึงถามพนักงานที่ Terminal 1 ว่า ผมขอเข้าไปตรวจในช่องของ First Class ที่ไม่มีคนแทนได้มั๊ย เพราะว่าเครื่องผมจะออกในอีก 15 นาทีแล้ว
ทางพนักงานก็บอกว่าไม่ได้ เพราะบัตรผมไม่ใช่ First Class ผมต้องต่อแถวตามปรกติ แต่เมื่อตรวจเสร็จแล้ว ให้ไปแจ้งกับหน่วยรักษความปลอดภัย ที่อยู่ปลายทางออกก่อนเข้าเกทด้วย
กระบวนการตรวจของที่นี่จะมีความแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ
คุณจะต้องเอาของทุกอย่างใส่เข้าไปในกระเป๋า 1 ใบให้ได้ ก่อนเข้าเครื่องตรวจ
ซึ่งรวมถึงหนังสืออ่านเล่น กล้องถ่ายรูป กระเป๋าถือผู้หญิง และ คอมพิวเตอร์ Notebook
เท่าที่ผมคุยกับผู้โดยสารท่านอื่น สนามบินต้นทางของหลายๆ ประเทศที่พวกเค้าเดินทางมา
จะไม่นับรวมของเหล่านี้เป็น Carry On
โดยเฉพาะNotebook จะนับแยกให้อีก 1ใบ
เพราะทางสายการบินจะไม่รับผิดชอบความเสียถ้าคุณเอา Notebook ใส่ไว้ใต้ท้องเครื่อง
นอกจากนี้ทุกคนถอดรองเท้าเพื่อนำเข้าเครื่อง x-ray ด้วย เพื่อความปลอดภัย
กระบวนการตรวจกระเป๋าจึงเป็นไปด้วยความล่าช้าเพราะผู้โดยสารหลายๆ ท่านต้อง pack กระเป๋าใหม่ในบริเวณนั้น แถมยังต้องเสียเวลาถอดรองเท้าอีกพอสมควร
โดยส่วนตัวผมไม่มีปัญหาเรื่องเหล่านี้เท่าไร เพราะว่าผมเคยมีประสบการณ์ต้องทิ้งหนังสือ 1 เล่ม เพราะใส่กระเป๋าไม่ลงมาแล้ว ก็เลยรอดตัว (ควรดีใจมั๊ยเนี่ย)
หลังจากผ่านกระบวนการตรวจที่แสนยาวนานผมก็เดินไปหาพนักงานรักษาความปลอดภัยตามที่ได้รับแจ้งไว้ เพื่อได้รูความจริงว่าเครื่องผมออกไปนานแล้ว
ใช่ครับ ผมตกเครื่องที่ลอนดอนโดยสาเหตุคือ
กระบวนการตรวจสัมภาระในลอนดอนใช้เวลานานกว่า 2 ชมครึ่ง
ส่งผลให้มีคนร่วมตกเครื่องบินกับผมมากกว่า 300 คน
(ยังมีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 50 02:09:09
จากคุณ :
น้ำค้างในยามเช้า
- [
23 มิ.ย. 50 02:03:20
]