1.คือคิดสูตรเอง เอาที่เราชอบทานและหาทานได้ง่ายไม่อ้วนนะค๊ะ
เช้าอาจจะเป็นนม กลางวันอาจจะเป็นตำแตง เย็นอาจจะเป็นผลไม้1ผลนะคะ
2.ออกกำลังกายประจำทุกวันแรกๆก็ออกประมาณ20นาทีก่อนและเพิ่มเป็น40นาที ถ้าอยากให้ได้ผลควรออกตอนเช้านะคะ อย่างเราออกจนชินก็เช้าเย็นคะ
3. ทานปริมาณอาหารเท่าเดิมนะคะโดยเฉพาะมื้อเช้าและกลางวัน
4.ควรตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่ากี่กิโลแต่อย่ากำหนดการลดน้ำหนักเพราะมันจะไม่คงที่คะ
5.อย่าใจร้อน
6.ถ้าไม่ใจร้อนเสาร์และอาทิตย์เราก็รับประทานของชอบได้เช่นช็อกโกแล็ต ขนมที่ชอบ แต่ต้องออกกำลังกายให้มากขึ้นนะคะ
7.การออกกำลังกานควรออกเป็นแบบต่อเนื่องนะคะ
8.ก่อนนอนก็ยืดกล้ามเนื้อด้วยกายบริหารนิดหน่อยคะ
9.สังเกตุหุ่นตัวเองทุกวัน แน่นอนว่าร่างกายเราแข็งแรงขึ้นและเฟริมขึ้นแน่นอนคะ
10.สรุปนะคะทานให้น้อยเผาพลาญให้เยอะคะ
11.ไว้จะเอารูปตอนอ้วนกลับตอนนี้มาให้ดูคะ
12.ฉันเฉือนเนื้อตัวเองไป 21 โล เป็นเวลา 7 เดือนคะ
ประวัติส่วนตัว ชื่อ นามว่า POOKIE_POTTERคะอายุ 26 ปีคะ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่คอมกราฟฟิก ย่านพระราม2 คนไทยมีเชื้อจีนคะ เมื่อปี2545 น้ำหนักอยู่ที่65 กิโลกรัมคะ และได้รับประทานยาลดความอ้วนเป็นเวลา 6 เดือน น้ำหนักลดไป 10 กิโล ช่วงปี 2547 เหลืออยู่ที่ 55 กิโลกรัม หลังจากหยุดยา ภายในไม่กี่เดือนประมาณ3-4 เดือนก็เกิดโยโย่ คะ น้ำหนักขึ้นมาเร็วมาก อยู่ที่85กิโลกรัม และจากนั้นก็เกิดอาการหลงๆลืมๆ จำอะไรไม่ได้คิดช้า น้ำหนักตัวมาก ทานเยอะและเป็นโรคภูมิแพ้ ไม่สามารถความคุมการรับประทานอาหารได้เลย และไม่เคยออกกำลังกาย หลังจากนั้นประมาณ 3 ปี ร่างกายเหมือนจะสามารถความคุมปริมาณอาหารได้บ้างแล้ว ก็เลยเริ่มที่จะออกกำลังกาย ก่อนหน้าที่คิดจะลด คือ เราเข้าทำงานที่ ร.พ.แห่งหนึ่งที่นั้นมีแต่คนหุ่นดีๆและ การทำงานของเราก็ไม่คล่องตัว เชื่องช้า คิดงานไม่ค่อยออก ทำให้เริ่มรู้สึกว่า มีผลกระทบหลายอย่าง เสื้อผ้าก็หาใส่ยาก เพื่อนๆก็ดูจะสวยหุ่นดีกันแทบทุกคน แต่หันมามองตัวเอง จะเป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ อายุก็เริ่มมากขึ้น เกิดมายังไม่เคยได้ใส่ชุดสวยๆกับเขาสักครั้ง  สรุปรวมๆก็คือข้อเสีย และ จุดด้อยทั้งนั้น สิ่งสำคัญก็คือ เราเริ่มรู้สึกรักตัวเองขึ้นมา ก็เลยคิดว่าจะปรึกษาตัวเองนี่แหละ ร่างกายของเราก็คือเพื่อนเรา  จู่ๆจะให้เพื่อนเราหยุดกินซ่ะงั้น คงไม่ดีแน่  ถ้าบังคับร่างกายมากเกินไป ก็จะโยโย่ ซ่ะปล่าวๆ เลยคุยกับตัวเองว่าเอางี้ งั้นฉันจะตกลงกับเธอว่า ฉันจะมีวันกินที่ตามใจเพื่อน อยู่ 2 วัน คือเสาร์และอาทิตย์ อยากกินอะไรก็ทานเลยแต่มีข้อแม้ว่า ต้องออกกำลังกายทุกวัน แรกๆก็อาจจะ 15 นาทีตอนเย็น ส่วนวันจันทร์ถึงศุกร์ เราก็จะต้องความคุมปริมาณอาหาร เลือกประเภทอาหาร และออกกำลังกาย โดยการรับประทานอาหารที่เราชอบแต่ต้องไม่อ้วน ไม่จำกัดปริมาณในมื้อกลางวัน แต่เลือกที่มีน้ำมันน้อยที่สุด และที่สำคัญ ถ้าวันไหนอยากทานขนมขบเคี้ยวก็เลือกเป็นถั่วหรือเมล็ดทานตะวันแทน  หรืออาจทานช็อกโกแลตบ้างก็ได้ในวันที่อยากจริงๆแต่เราจะต้องรู้ว่าเราได้ทานอะไรไปบ้าง และก็ต้องรู้ว่าเราต้องเผาพลาญมันออกมากขึ้นด้วย ช่วงแรกของการเริ่มต้นก็อาจจะมี ท้อบ้าง เพราะเป็นช่วงที่ยากที่สุด คือ เราต้องฝืนตัวเองให้ออกกำลังกาย ประมาณ 15 นาที และพออยู่ตัวก็เริ่มเพิ่มเวลาให้มากขึ้น เรื่อยๆ จนร่างกายบอกว่าฉันชินกับการออกกำลังกายและอยากออกเรื่อยๆทุกวันๆ นั้นคือคุณสามารถตกลงกับร่างกายของคุณได้สำเร็จ ร่างกายบอกว่าฉันต้องการวิตามิน คุณก็เสริมวิตามินให้ร่างกายสิ คะ  อาจจะอาหารเสริมวิตามินรวมหรืออาจจะเป็นผลไม้ที่มีวิตามินที่หลากหลาย เช่น ฝรั่งมีวิตามินซีสูง น้ำผลไม้ หรือผลไม้ทีมีเบต้าแคโรทีนสูงก็ได้ ที่สำคัญคือ เวลาที่เราลดน้ำหนัก เราต้องทานอาหารเสริมบางตัวเช่น อาหารเสริมบำรุงสมองเพราะเราต้องทำงานใช้ความคิดคะ อย่าให้ร่างกายของเราเหนื่อยจนเกินไปควรมีวันพักด้วยนะคะ ถ้าร่างกายบอกเราว่าไม่ไหวแล้ววันนี้ฉันขอหยุดออกกำลังกายเพราะฉันเหนื่อยมาก ขอนอนพักผ่อนเยอะๆหน่อย เราก็ทำตามนะคะเพื่อให้ร่างกายของเราได้พักผ่อนคะ อธิบายมาซ่ะเยอะก็เพื่อให้ข้าใจว่า เราหน่ะไม่ได้ลดแค่ความอยาก แต่เราต้องพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงการทำความเข้าใจของทั้งสองด้วย  งั้นเราจะเข้าสู่การลดน้ำหนักภายใน 7 เดือนที่ผ่านมานะคะ เราได้ทดลองอะไรมากมายหลายอย่าง วิธีแรกคือ ความคุมปริมาณอาหารอย่างเดียว
เดือนกุมภาพันธ์เดือนแรกจนถึงเมษายนที่น้ำหนักยังคงอยู่ที่ 85 กิโลกรัมคะ (งดดูทีวี นอนให้เร็ว)
- มื้อเช้า  ทานข้าวปรกติอะไรก็ได้ที่อยากทาน 1 จาน
- มื้อกลางวัน ทาน ส้มตำ อาทิตย์ละ4 วัน นอกนั้นทานข้าวปรกติที่เราชอบ
- มือเย็น ทานข้าวปรกติแค่ครึ่งจานและผลไม้ 1 ผล
- เสาร์อาทิตย์ทานปรกติทุกมื้อและทานขนมขบเคี้ยว ตามสบาย ช็อกโกแลต ก็ทาน
- อบสตรีมเดือนละ 5 ครั้ง และพลังงานที่เราเสียไปในแต่ละวัน คือการอยู่ต่อหน้าคอมการนั้งรถกลับบ้าน
- ก่อนนอนเล่นหน้าท้อง 100 ครั้ง เป็นเครื่องแบบสไลด์ไปข้างหน้า และยกเท้าสลับข้างละ20
น้ำหนักที่ลดในเดือนกุมภาพันธ์จะขึ้นๆลงๆ เป็น75 กิโลกรัม ลดไป 10 โล ภายใน 3 เดือน แต่หุ่นไม่เฟริม
พอเดือนพฤษภาคม ได้เข้าร่วมโครงการ ภารกิจ พิชิตพุง น้ำหนักอยู่ที 75 กิโลกรัม (งดดูทีวี นอนให้เร็ว)
เลือกใช้วิธี การออกกำลังกายเข้าช่วย โดยการออกกำลังกายต่อเนื่อง 15 นาที ตอนเย็น สลับกับอบสตรีม 5 ครั้งต่อเดือน
- และก่อนนอนเล่นหน้าท้อง 100 ครั้ง เป็นเครื่องแบบสไลด์ไปข้างหน้า และยกเท้าสลับข้างละ20
- มื้อเช้า ทาน นมถั่วเหลือง สลับกับ ข้าว เป็นเวลา 5 วัน
- มื้อกลางวัน ทานส้มตำหรือตำแตง+ปลาทอด 1 ตัว สลับกับข้าวตามใจชอบ เป็นเวลา 5 วัน +ปลาทอดกรอบ 1 กระปุ๊กทุกวันบางวัน อาจทานช็อกโกแล็ตไมโลบ้างถ้าอยากทานจริงๆ 1 แท่ง
- มือเย็น ทาน ผลไม้ สลับกับ นม เป็นเวลา 5 วัน
- เสาร์อาทิตย์ทานปรกติทุกมื้อและทานขนมขบเคี้ยว ตามสบาย ช็อกโกแลต ก็ทาน
เดือนแรกของการเข้าโครงการการอาจจะกดดันเพราะว่าเราต้องแข่งขันทำให้เรารู้สึกอยากทานอาหารแต่ถูกจำกัด แต่โชคดีที่ออกกำลังกาย ก็เลยน้ำหนักไม่ลดเท่าที่ควรแต่ก็ยังลดอยู่ที่ 2 กิโลกรัม น้ำหนัก เหลืออยู่ที่ 73 กิโลกรัมคะ

พอเดือนมิถุนายน ยังอยู่ในโครงการลดน้ำหนัก เขาให้จำกัดปริมาณอาหารให้ทานได้ไม่เกิน 1600 กิโลแคลอรี่ต่อวัน น้ำหนักอยู่ที 73 กิโลกรัม (งดดูทีวี นอนให้เร็ว)
เลือกใช้วิธี การออกกำลังกายเข้าช่วย โดยการออกกำลังกายต่อเนื่อง 30 นาที ตอนเย็น สลับกับอบสตรีม 10 ครั้งต่อเดือน คราวนี้จำกัดปริมาณอาหารให้ลดลงไปอีกคือ
- ก่อนนอนเล่นหน้าท้อง 100 ครั้ง เป็นเครื่องแบบสไลด์ไปข้างหน้า และยกเท้าสลับข้างละ20
- ตีแบด อาทิตย์ละ 2  วัน วันละ 1 ช.ม. แบบแข่ง
- มื้อเช้า ทาน นมวัวไม่มีไขมัน 3 วัน สลับกับ ข้าวกับผัดผัก 2 วัน
- มื้อกลางวัน ทานส้มตำหรือตำแตง+ปลาทอด 1 ตัว สลับกับเกาเหลาลูกชิ้นหรือเกาเหลาหมูตุ๋นเป็นเวลา 5 วัน + ปลากรอบ 1 กระปุ๊ก วันเว้นวัน อาจทานช็อกโกแล็ตไมโลบ้างถ้าอยากทานจริงๆ 1 แท่ง
- มือเย็น ทาน ผลไม้ สลับกับ นม เป็นเวลา 5 วัน
- เสาร์อาทิตย์ทานปรกติทุกมื้อและทานขนมขบเคี้ยว ตามสบาย ช็อกโกแลต ก็ทาน
- ผ่อนคลายโดยการทานไอศกรีมก็ได้หรือดูหนังก็ดีคะ
เดือนนี้น้ำหนักก็ขึ้นๆลงๆเหมือนทุกเดือน แต่ลดลงมาอยู่ที่  79.5 ลดไป 3.5 กิโลกรัมคะ เย้

เดือนสุดท้ายของการเข้าโครงการคะ เดือนกรกฏาคม ช่วงอยู่ตัวคะ
การออกกำลังกายทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดี คิดอะไรออกขึ้นเยอะความคล่องตัวก็สูงขึ้นตามแถมคำชมจากที่ทำงานก็เยอะมากมาย ทำให้ดิฉันมีกำลังใจมากขึ้น เสื้อผ้าก็หลวมลงเปลี่ยนไซย์บ่อย ต้องซื้อใหม่หมด
เดือนนี้ดิฉันลด เหลืออยู่ที่ 66 กิโลกรัมน้ำหนักลดไป อีก 3 กิโลกรัมคะ เพราะออกกำลังกายจนชินรู้สึกสนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้นคะ
- ก่อนนอนเล่นหน้าท้อง 100 ครั้ง เป็นเครื่องแบบสไลด์ไปข้างหน้า และยกเท้าสลับข้างละ30
- ตีแบด อาทิตย์ละ 1  วัน วันละ 2 ช.ม. แบบแข่ง
- ตื่นตี 5 ใช้เครื่องเล่นที่เหมือนกับยืนถีบจักรยานและมีที่จับ เพื่อรีดน้ำหนัก รู้สึกว่าชอบชนิดนี้คะ 15 นาที วันเว้นวันคะ
- มื้อเช้า ทาน นมวัวไม่มีไขมันสลับกับน้ำผลไม้ 3 วัน สลับกับ ข้าวอะไรก็ได้ 2 วัน
- มื้อกลางวัน ขนมจีนแกงป่าสลับกับทานส้มตำหรือตำแตง+ปลาทอด 1 ตัวหรือหมูปิ้ง 1 ไม้ หรือน้ำตกหมู 1 ถ้วยเล็ก เป็นเวลา 5 วัน + ปลากรอบ 1 กระปุ๊ก+เมล็ดทานตะวันทอดกรอบ อาทิตย์ละ 3 วันอาจทานช็อกโกแล็ตไมโลบ้างถ้าอยากทานจริงๆ 1 แท่ง
- มือเย็น ทาน ผลไม้  2 ผล เช่นฝรั่ง หรือแอ็ปเปิ้ล
- เสาร์อาทิตย์ทานปรกติทุกมื้อและทานขนมขบเคี้ยว ตามสบาย ช็อกโกแลต ก็ทาน (ทานแค่นิดหน่อย)
- วันหยุดผ่อนคลายโดยการทานไอศกรีมก็ได้หรือดูหนังก็ดีคะ(ทานแค่นิดหน่อย)
- ไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยๆ เพราะเราจะได้เห็นเพื่อนสวยอยู่เสมอเราจะได้อยากสวยบ้างทานอาหารเสริมบำรุงสมอง อาทิตย์ละ 5 วัน ส่วนผสมใบแป๊ะก๊วยและใบบัวบก
- อาจทานวิตามินเสริมได้นะคะ

หมดโครงการ ลดน้ำหนัก เดือนที่แล้วนำคู่แข่งไป 2 โล แต่พอเดือนสุดท้ายคู่แข่งแซงเราไป 3 ขีดคะ เลยอดได้ที่ 1 เลยคะ แต่คงจะได้ที่ 2 ตอนนี้รอประกาศผลอยู่คะ แต่เรายังไม่หมดกำลังใจเพราะเป้าหมายของเราคือที่ น้ำหนักมาตรฐาน 55 กิโลกรัมคะ และก็มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นด้วยเพราะโครงการลดน้ำหนักนี้ กำลังใจก็เพิ่มขึ้น คำชมก็มากขึ้นด้วยคะ แถมหุ่นยังเพรียวขึ้นอีกคะ ขอบอกนะคะว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่วิเศษสุดมันทำให้หน้านี่ใสขึ้นมากๆ คะ  ยังไม่ยอมแพ้คะ

เดือนสิงหาคมรู้สึกว่าเราอยากออกกำลังกายให้มากขึ้น เพราะร่างกายอยู่ตัวแล้ว เลยตกลงกับเพื่อนของเราก็คือร่างกายเรานี่แหละว่า ฉันจะตื่นตี 4 เพื่อออกกำลังกาย เป็นเวลา 40 นาทีแบบต่อเนื่องกันนะ เช้าและเย็น
- ออกกำลังกายตอนตี 4 เผาผลาญไป 400 กิโลแคลอรี่ 40 นาทีแบบต่อเนื่อง ตอนเช้า  และเย็น ออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง 30 นาที  เผาผลาญไป 300 กิโลแคลอรี่ ต่อด้วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องอีก 2 เซ็ท เซ็ทละ10 ครั้ง ตอนเช้า
- ก่อนนอนเล่นหน้าท้อง 100 ครั้ง เป็นเครื่องแบบสไลด์ไปข้างหน้า และยกเท้าสลับข้างละ30   3 ครั้ง/อาทิตย์
- เช้าทานนม พร่องมันเนย 4 วัน ทาน กับข้าว 2 วัน
- กลางวันขนมจีนแกงป่าสลับกับทานส้มตำหรือตำแตง+ปลาทอด 1 ตัวหรือหมูปิ้ง 1 ไม้ หรือน้ำตกหมู 1 ถ้วยเล็ก เป็นเวลา 5 วัน + ปลากรอบ 1 กระปุ๊ก+เมล็ดทานตะวันทอดกรอบ อาทิตย์ละ 3 วันอาจทานช็อกโกแล็ตไมโลบ้างถ้าอยากทานจริงๆ 1 แท่ง
- เสาร์อาทิตย์ทานปรกติทุกมื้อและทานขนมขบเคี้ยว ตามสบาย ช็อกโกแลต ก็ทาน (ทานแค่นิดหน่อย)
- วันหยุดผ่อนคลายโดยการทานไอศกรีมก็ได้หรือดูหนังก็ดีคะ(ทานแค่นิดหน่อย)
- ไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยๆ เพราะเราจะได้เห็นเพื่อนสวยอยู่เสมอเราจะได้อยากสวยบ้าง
- ทานแอลกอฮอลล์บ้างให้เลือดสูบฉีด
- ทานอาหารเสริมบำรุงสมอง อาทิตย์ละ 5 วัน ส่วนผสมใบแป๊ะก๊วยและใบบัวบก
- อาจทานวิตามินเสริมได้นะคะ
เดือนนี้น้ำหนักอยู่ที่  64 คะ ลดไป 2โลแต่ยังอยู่ที่ประมาณวันที่ 19 สิงหา ถ้าสิ้นเดือนจะดูผลว่าลดไปกี่โลคะ
สรุปแล้วว่า จาก 6เดือนกว่าๆนี่เข้าเดือนที่7 ที่ผ่านมาลดน้ำหนัก ไป จาก 85 ลดเหลือ 64 กิโลกรัม
อยากจะบอกว่าในแต่ละเดือนน้ำหนักจะขึ้นๆลงๆนะคะ ไม่ต้องตกใจว่าจะไม่ลดถ้าคุณรู้ว่าร่างกายของคุณต้องการอะไรและออกกำลังกายความคู่ไปกับการควบคุมน้ำหนักรับประกันว่าผอมชัวร์ แต่เราต้องตอบโจรย์ร่างกายของคุณให้ได้ ว่าเพื่อนของคุณจะพร้อมไปกับคุณไหม นี่คือคอร์ดลดน้ำหนักแบบค้นหาตัวเองคะ เพราะแต่ละคนร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน ความต้องการก็ต่างกัน แต่มีสิ่งนึงที่เราสามารถควบคุมได้คือเราต้องหาความพร้อมให้กับตัวเอง ร่างกายพร้อมเมื่อไหร่ใจพร้อมเมื่อไหร่ก็ถึงจุดหมายเมื่อนั้น คะ
เทคนิคนิดหน่อยนะคะ
1. กายพร้อมใจพร้อมเตรียมลุย
2. ตั้งเป้าการลดน้ำหนักแบบคร่าวๆก่อนสัก 5 โลก่อนนะคะแล้วไปให้ถึงจึงค่อยตั้งเป้าใหม่
3. หาแรงบันดาลใจให้ตัวเรา
4. ให้กำลังใจตัวเราก่อนแล้วกำลังใจขากคนรอบข้างจะตามมา
5. อย่าใจร้อน เพราะร่างกายของคนเราไม่เหมือนกันการลดเร็วไม่ได้หมายความว่าไขมันจะหายไป
6. ถ้าลดน้ำหนักแล้วไม่มีแรงแสดงว่าลดไม่ถูกต้อง ถ้าร่างกายถามหาอะไรควรให้สิ่งนั้นกับร่างกาย
7. อาหารเสริมก็สำคัญควรทานบ้าง เช่น วิตามินบำรุงสมองและวิตามินรวม
8. อย่าอดข้าว หรือแป้งควรทานทุกวัน แต่ทานให้น้อย ควรทานทุกมื้อ ถ้าเราอดคือการเริ่มต้นลดน้ำหนักใหม่ เพราะมันจะโย่ แสนจะเหนื่อยเปล่าๆ
9. ออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง แรกๆ ก็ 15 นาที พอร่างกายอยู่ตัวค่อยๆเพิ่มเวลาให้มากขึ้น ควรยืดกล้ามเนื้อด้วยจะได้เฟริม
10. ให้เวลาตัวเอง อยู่กับตัวเองอย่างน้อยก็สักประมาณ 3 ช. ม.
11. อย่าบอกว่าเหนื่อยไม่มีเวลาออกกำลังกาย เพราะมันจะไม่ชิน ต้องทำให้เป็นนิสัย (เรากลับบ้าน 3 ทุ่มและออกกำลังกาย ต่อเนื่อง 40 นาที เข้านอน)
12. การทำงานและเดินทางในแต่ละวันก็เผาผลาญเราโดยไม่รู้ตัวก็เท่ากับว่าเราเสียพลังงานเหมือนกัน
13. ทานผักผลไม้เยอะๆยิ่งดี คะ แต่เราก็ทานจำพวกเนื้อสัตว์ทุกวันแต่ไม่ทานไขมัน ทานของทอดให้น้อยที่สุด อาหารผัดน้ำมัดพิสูตรแล้วว่าตัวอ้วน แต่ก็ทานได้คะแต่อย่าเยอะ
14. ของชอบช็อกโกแลตของโปรดเราทานทุกอาทิตย์ ขนมขบเคี้ยวเราก็ทาน แต่น้อยลง
15. ทานให้น้อยเผาพลาญให้เยอะ
ขอบอกว่ามีความสุขกับการลดน้ำหนักในครั้งนี้ที่สุด เพราะมันไม่ทรมารเลยสักนิด แค่ทำให้มันชิน ก็สามารถลดน้ำหนักได้อย่างต่อเนื่องแล้วคะ นี่คือวิธีลดของเรา จะถูกต้องหรือไม่ถูกต้องเราก็ไม่สนใจแล้ว
สิ่งที่เราได้จากการลดครั้งนี้ก็สามารถทำให้เราดูดีขี้น
- สุขภาพแข็งแรง
- สมอง สติ ความคล่องตัวดีขึ้นอย่างมาก
- มีวินัย และได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น
- มีสังคมมากขึ้น
- รูปร่างดีขึ้น
- ใส่เสื้อผ้าหาง่ายขึ้น
- ผิวใสขึ้น
- คำชมมากขึ้น
- และกำลังใจที่จะลดต่อไปคือ สู้ๆ และไม่กลัวอ้วนอีกแล้วคะ
สุดท้ายนี้ขอให้ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจงสู้ต่อไปนะคะ เราก็ต้องลดอีกให้เหลือ 55 กิโลก่อน อีกประมาณ 9 กิโลคะหลังจากนั้นก่ะว่าจะเอาให้เหลือ 4 8 กิโลก็จะหยุดลด ทุกคนคะ สิ่งสำคัญที่สุดคือตัวเรานะคะ อายุเรามากขึ้นทุกวันอย่าปล่อยให้เรามีร่างกายอ้วนมากแบบนี้ เรามาเปลี่ยนชีวิตใหม่กันดีกว่า เปลี่ยนตัวเอง รักตัวเองให้มา จงสลัดไขมันออกไป อย่าให้มันมาอยู่กับเรานานๆเลยคะ อีกหน่อยโรคจะถามหา ยังไงเกิดมาชาตินี้ต้องขอใส่ชุดสวยๆกับเขาสักครั้ง สู้ๆนะคะทุกคน





                                                                                                           รักและปรารถนาดี
                                                                                                     จาก POOKIE_POTTER

แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 13:01:52

แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 50 17:57:18

แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 50 17:46:52

แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 50 07:47:49

แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 50 07:46:07

แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 50 12:46:09