ขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าน้องคนนี้เป็นลูกเพื่อนแม่ ที่เรารู้จักมา หลายสิบปีแล้วคะ เหตุการณ์น่าเศร้าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28
มิถุนายน 2550
ตอนนี้แม่ของน้องได้ส่งจดหมายให้เพื่อนๆ ญาติๆที่รู้จัก
เราได้รับจดหมายนี้เมื่อเช้า จึงอยากให้เพื่อนๆแนะนำด้วยคะ
ปล. ลอกจากจดหมายที่แม่ของน้องส่งมาเลยนะคะ
- - - เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน2550 น.ส. ............(น้องแป้ง) ขอปิดไว้ก่อนนะคะ ไม่ทราบว่าคุณแม่น้องอยากเปิดเผยหรือเปล่า ศิษย์เก่าสตรีวิทยา
ปัจจุบันเป็นนักศึกษา ปี3 คณะ.......... มหาวิทยาลัยศิลปากร จ.นครปฐม หลังจากพักรับประทานอาหารกลางวัน ได้ขี่จักรยานพร้อมเพื่อนซ้อนท้ายมาตามถนนเลียบคลองเล็กๆในมหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนในวิชาต่อไป
ได้มีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้น โดยระหว่างทางเกิดพายุกรรโชกแรง เป็นเหตุให้ต้นไม้ใหญ่ ที่มีอายุกว่า 40 ปี ที่ปลูกอยู่อีกฝากหนึ่งของคลอง ล้มฟาดลงมาทางฝั่งที่เป็นเส้นทางสัญจรของนักศึกษา แต่น้องแป้ง เป็นนักศึกษาที่โชคร้ายมาก เมื่อต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นฟาดลงกลางหลังของน้องแป้ง เธอนอนร้องครวญครางอยู่กลางสายฝน ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ แต่ยังโชคดีที่เหตุการณ์เกิดช่วงบ่าย จึงมีอาจารย์และนักศึกษามาช่วยยกต้นไม้ใหญ่ออกและพาน้องส่งโรงพยาบาลสนามจันทน์ในทันที
ผลก็คือ ซี่โครงหัก 3 ซี่และแทงทะลุเข้าปอด กระดูกสันหลังแตกหลายข้อ หลังจากรักษาเบื้องต้นแล้ว พ่อแม่ของน้องซึ่งใจจะขาดเมื่อได้รับข่าวร้าย ก็พยายามวิ่งหาโรงพยาบาลที่เก่งที่สุดด้านกระดูกสันหลัง ความพยายามนั้นสำเร็จ เมื่อน้องแป้งสามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเลิดสิน หมอกระดูกที่เลิดสินแจ้งว่า กระดูกสันหลังแตกหลายข้อมากทำให้ไขสันหลังเสียหายหมด คุณหมออธิบายอีกว่า ไขสันหลังของคนเรา ถ้าเปรียบไปก็เหมือนเต้าหู้ที่ฝังตัวอยู่ในโพรงกระดูกสันหลังเมื่อเต้าหู้แตก ก็ไม่สามารถเก็บมาใส่หลอดได้ เหมือนเดิม คุณหมอคงช่วยได้แค่ผ่าตัดจับกระดูกสันหลังมาเรียงต่อกันและใช้เหล็กดามไว้
หนึ่งเดือนผ่านไป น้องแป้งยังคงนอนร้องไห้อยู่กับเตียงคนไข้เหมือนเดิม เพราะน้องรับรู้แล้วว่าประสาทรับความรู้สึกของน้องหายไปหมดตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ซึ่งนั่นก็แปลว่า น้องจะไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้เหมือนเดิม และไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายของตัวเองได้ และเมื่อแผลหายดี คุณหมอก็ต้องให้น้องออกจากโรงพยาบาล แล้วน้องจะทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลืออยู่...........
พ่อและแม่ของน้องได้วิ่งเต้นทุกทางที่จะเสาะแสวงหาวิธีรักษาลูกให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง และแม่น้องก็ได้รับความหวังอีกครั้ง เมื่อได้รับการแนะนำว่า มีคุณหมอที่สามารถช่วยสร้างไขกระดูกให้เกิดขึ้นมาใหม่ได้ โดยการใช้ STEM CELL ที่สร้างจากรกเด็ก ร่วมกับการฝังเข็มและทำกายภาพบำบัด
ซึ่งแม่น้องบอกว่า คุณหมอ เป็นคนจีน เดินทางมารักษาที่อยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน และทำประสบความสำเร็จหลายรายแล้ว
ปัญหาคือ การทำ STEM CELL นั้นใช้เงินจำนวนมาก (แม่น้องบอกว่า ประมาณ 700,000 บาท)
จึงเป็นที่มาของจดหมายที่แม่น้องส่งมาบอกเล่าให้ญาติๆ พี่ๆน้องๆ ซึ่งเรากับแม่ได้รับเมื่อเช้านี้
มาถึงตรงนี้อยากรบกวนถาม พี่ๆน้องๆที่นี่ว่า จากcaseนี้ มีหนทางรักษาไหนที่จะช่วยน้องได้ไหม๊คะ เพราะเราก็คงช่วยเงินกับแม่น้องเค้าเหมือนกัน แต่ก็อยากค้นหาวิธีการรักษาอื่นๆ หรือคุณหมอท่านอื่นที่อาจจะดีกว่า หรือถูกกว่า อย่างไรก็ตาม....
ขอให้พี่ๆเพื่อนๆช่วยแนะนำด้วยคะ ...
...และขอให้น้องแป้งมีกำลังใจในการต่อสู้กับชีวิตต่อไป พี่เชื่อว่าน้องเป็นคนดี ทำความดีกับคุณพ่อคุณแม่ตลอดมา พระต้องคุ้มครอง และต้องดลบันดาลให้เราพบกับหนทางที่ทำให้น้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม และได้ดูแลพ่อแม่ เหมือนดังที่น้องตั้งใจ.....
จากคุณ :
หมูหยอง^-^
- [
24 ส.ค. 50 15:39:59
]