Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    [นิทานธรรมเพื่อสุขภาพจิตที่ดี] "อะไร อะไร มันก็ไม่แน่ อย่าดีใจ อย่าเสียใจ"

    หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนวันนี้ วันที่เริ่มแก่ เริ่มบอกตัวเองได้ว่าโชคดีที่เราไม่ได้แก่ชนิด grow old เท่านั้น ..พอจะมีร่องรอยอยู่นิดนิดว่าความแก่ของเรา มันมีแก่แบบ grow up อยู่ด้วย .. ท่องสุภาษิตมากมายและอ่านหนังสือธรรมะมาตั้งแต่เด็กๆ ท่องได้ อ่านออก อ่านรู้เรื่อง แต่ไม่ "เห็น" สักที ใครจะรู้ว่าเมื่อโตขึ้น ชีวิตนำเรื่องราวและประสบการณ์เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตเริ่มมี "โจทย์" ยากบ้างง่ายบ้าง คละกันไป .. และแล้วธรรมะที่ถูกบันทึกอยู่ในหัวแต่เด็ก ก็กลายเป็นเครื่องมือช่วยในการตีโจทย์และแก้โจทย์เหล่านั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยรู้แต่ไม่ "เห็น" ทุกวันนี้ เริ่มเห็นได้ชัดแจ้งขึ้น นี่กระมังที่ผู้ใหญ่เขาเรียกกันว่า "เห็นทุกข์ เห็นธรรม" ..

    ย่อหน้าข้างบน ^ เป็นเพียงความคิดคำนึงที่เกิดขึ้นในเช้านี้ .. เอ .. แล้ววันนี้ เราจะตั้งกระทู้อะไรดีนะ (เผื่อจะเพื่อนสวนลุมอย่างน้อยสักหนึ่งคนอ่านแล้วอาจได้รับประโยชน์ ^^) .. อืมม์ นิทานเรื่องนี้ดีกว่า เรื่อง "อะไร อะไร มันก็ไม่แน่ อย่าดีใจ อย่าเสียใจ" (ตันฉบับของนิทานเรื่องนี้ เราหยิบมาจากหนังสือชื่อ "ปีกระต่ายขอจงสวัสดี" โดยพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก แห่งวัดสุนันทวนาราม จังหวัดกาญจนบุรี แต่เราจำได้คลับคลับคลาว่าเคยได้รับ forwarded mail เรื่องคล้ายๆ กันนี้ เพื่อนหลายท่านอาจเคยอ่านแล้ว)

    นิทานเรื่อง "อะไร อะไร มันก็ไม่แน่ อย่าดีใจ อย่าเสียใจ"

    มีนิทานของชาวจีนเรื่องหนึ่งเล่าว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในชนบท กับท่านผู้เฒ่าผู้หนึ่ง และมีม้าฉลาดแสนรู้อีกตัวหนึ่ง ทั้งสองสามีภรรยารักม้าตัวนี้มาก วันหนึ่งม้าหนีไป ทั้งสามีและภรรยาเสียใจมาก ท่านผู้เฒ่าก็ได้แต่ปลอบใจว่า 'อย่าเสียใจเลย เพราะชีวิตไม่แน่' เวลาผ่านไปหลายวัน ม้าตัวนั้นก็กลับมาที่บ้าน แตคราวนี้ได้พาแฟนมาด้วยเป็นม้าป่าอีกตัวหนึ่ง สามีภรรยาต่างก็ดีใจมาก แต่ท่านผู้เฒ่าก็บอกว่า 'อย่าดีใจ เพราะชีวิตไม่แน่'

    ต่อมาวันหนึ่ง สามีพาม้าตัวใหม่มาหัดขี่เล่นไปรอบๆ บ้าน ม้ามันยังไม่เชื่องดี จึงยังไม่สามารถบังคับได้ดังใจ ม้าพาวิ่งลอดเข้าไปใต้ถุนบ้าน ตัวเขาชนกระแทกเข้ากับตัวบ้านอย่างแรง ตกลงมาแขนขาหัก ทั้งสามีและภรรยาต่างก็เสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก ท่านผู้เฒ่าก็ปลอบว่า 'อย่าเสียใจเลย เพราะชีวิตไม่แน่'

    ต่อมาเกิดสงครามขึ้น ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านถูกทางราชการเกณฑ์ไปเป็นทหารทุกคน สามีได้รับการยกเว้น เนื่องจากเป็นคนพิการ การสู้รบเป็นไปอย่างรุนแรง ทำให้ทหารตายเกือบหมด สามีภรรยาก็ดีใจที่ตัวเองไม่ต้องไปเสียชีวิตในการสงครามครั้งนี้ ..

    นิทานเรื่องนี้สอนเราว่า บางครั้งเราอาจเกิดความรู้สึกว่าเราได้สูญเสียมากมาย เราเสียเปรียบ เราเสียใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว เราอาจจะเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าเสียใจอะไรมาก อาจกลับกลายเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ บางสิ่งบางอย่างที่เรารู้สึกว่าดี แต่เมื่อช่วงเวลาผ่านไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีก็ได้ มันก็กลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น เป็นอนิจจัง ไม่แน่นอนจริงๆ เราจึงควรทำความเข้าใจกับเรื่องของ "ความไม่แน่" และรู้จัก "ปล่อยวาง"

    ..
    ป.ล. เพื่อนสวนลุมเคยมีประสบการณ์เช่นนี้กันบ้างไหมคะ

    ดอกไม้

    จากคุณ : ipiup - [ 5 ก.ย. 50 08:19:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom