ความคิดเห็นที่ 1 ... จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ - [ 8 ต.ค. 50 00:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 .... จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ - [ 8 ต.ค. 50 00:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ....... จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ - [ 8 ต.ค. 50 00:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .......... จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ - [ 8 ต.ค. 50 00:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สุขกันคนละแบบค่ะ จากคุณ : หวานใจนายโหด - [ 8 ต.ค. 50 00:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คนเขียนตารางนี้ มีใจเอนเอียงให้กับนายเด่นมากกว่า ดูจากวิธีการเขียน ที่ไม่แฟร์แล้ว อยากทำให้ใครอ่านก็ต้องมองว่า เด่นมีชีวิตที่สุขกว่า ซึ่ง ความสุขแท้จริงคืออะไรหล่ะ ในเมื่อ คนที่เขียนตาราง ยังไม่เข้าใจ ? จากคุณ : ~ M @ Y ~ Girl In Heaven - [ 8 ต.ค. 50 00:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ให้ข้อคิดที่ดีมากครับ จากคุณ : ราชันย์แห่งรัตติกาล (Shadowlord) - [ 8 ต.ค. 50 00:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อความเหล่านี้ เหมือนเขียนให้รู้สึกว่า "สังคมคนเมืองมันบัดซบจริงๆ สู้ทำไร่ทำนาไม่ได้" ทัศนะคติบรรทัดฐานของใครถ้าเป็นแบบนี้ผมไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ ออกแนวรังเกลียดด้วยซ้ำอา เหมือนเอาสิ่งที่เราคิดว่าดี ว่าแจ๋วหว่ะ ไปตัดสินเกณฑ์ความสุขของคนอื่น เหมือนกำลังจะบอกว่า "คนนั่งสมาธิเข้าวัดทำบุญ มีความสุขมากกว่าพวกชอบดูหนังฟังเพลง" ใครพยายามชวนเชื่อแบบนี้ไม่ไหวอะ เช่นเดียวกันถ้ามีใครพยายามบอกว่า "ทำงานด้านการเงิน มีความสุขมากกว่าชาวประมง" ผมก็ไม่นิยมเหมือนกัน มันไม่จำเป้นต้องดีไม่ดี ถูกใจใครหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าความสุข ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ให้ดีหน่อยต้องไม่ไปเบียดเบียนใคร แค่นั้นใครจะสุขมากกว่ากัน ก็เรื่องของเค้าแล้ว ความสุขของคนแต่ละคนไม่มีบรรทัดฐานที่สามารถเอามาใช้วัดได้หรอกครับ ว่าเราเป็นแบบนี้เรามีความสุข ถ้าคนอื่นเป็นเหมือนเราต้องมีความสุขด้วยเช่น เดียวกัน ถ้าชีวิตมันง่ายดายแบบนั้น คนเราคงมีพิมพ์ก็อปปี้แบบเดียวกันหมด คนบ้านอกทุกคนไม่ได้เป็นเหมือนนายเด่นทั้งหมด และคนเมืองอย่างผม ก็ไม่ได้มีชีวิตเหมือนนายสุธีซักนิดเดียว ถ้าเอาตามที่คุณเอามาโพส นายเด่นสุขกว่าสิ เจอแค่ข้อครอบครัว ความทุกข์ ความปลอดภัย ปั้นปลายชีวิต ผมเป็นนายสุธีก็อยากไปเกิดใหม่ไวๆแล้ว เรื่องพวกนี้บางทีน่าตลกนะครับ ฟังคนมีความรู้ในประเทศพูด "เราต้องเหมือนประเทศนี้ๆ แล้วเราจะมีความสุข" ผมรับไม่ได้อะ เหมือนบอกว่าคุณกินข้าวจานนี้อร่อยผมก็ต้องกินอร่อยเหมือนคุณ โดยไม่รู้เลยกิเลสตัฒหาของคนมีไม่เท่ากัน แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 02:33:26 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 00:48:34 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 00:41:59 จากคุณ : I.Brother - [ 8 ต.ค. 50 00:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตัดสินกันไม่ได้หรอกค่ะ.. แต่ละคนมีวิถีทางต่างกัน มีเป้าหมายชีวิตต่างกัน มีความพอใจในการดำเนินชีวิตของเส้นทางตัวเองต่างกัน จะมาตัดสิน มาวัดว่า อย่างไหนมีความสุขกว่ากันไม่ได้ อย่างเรา.. ถ้าได้นั่งรถหรูๆ ไปทำงาน เราก็พอใจกว่าขี่ควายตากแดดไปทำงานนะ ขอเลือกกินแฮมเบอร์เกอร์ ที่ชื่อว่าเปนอาหารขยะ เพราะอร่อยถูกปากกว่า น้ำพริกกับผักจิ้ม จากคุณ : อาซิ่ม - [ 8 ต.ค. 50 01:46:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความสุขแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน จากคุณ : ฉันเป็นเจ้าหญิงคนต่อไป - [ 8 ต.ค. 50 02:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความสุขของคนเราไม่เหมือนกันจริง ๆ ครับ ถ้าลองให้คนเมืองที่เคยชินกับ สิ่งอำนวยความสะดวก กับชีวิตของคนเมืองมาใช้ชีวิตในชนบท น้ำไฟ ขาด แคลน การเดินทางไม่สะดวกสบาย ผมคิดว่าเค้าก็คงไม่มีความสุขหรอก ครับ ชีวิตชนบทมันดูดี ในอุดมคติ ถามใครใครก็ว่า ชนบทดี อากาศดี รถไม่ ติด ไม่วุ่นวาย แต่ให้มาอยู่จะมาอยู่กันรึเปล่า นั่นก็อีกเรื่องนึงครับ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องความสุขความทุกข์ เราไปตัดสินอะไรไม่ได้หรอกครับ ว่าทำอะไรถึงมี ความสุข ทำอะไรถึงมีความทุกข์ เพราะคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน นายสุธี ที่ชีวิตบั้นปลายเป็นอย่างนั้น เค้าอาจเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก ก็ได้ จากคุณ : aromaticity - [ 8 ต.ค. 50 03:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้าใจประเด็นที่คุณ อาบะเรนเจอร์  หยิบยกขึ้นมานะครับ คือ คุณต้องการชี้ให้เห็นว่า  ความสุขของคนเรานั้น  ไม่ได้อยู่ที่การมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงส่ง ไม่ได้อยู่ที่การมีรถยนต์โก้เก๋ขับ  ไม่ได้อยู่ที่การได้นั่งเครื่องบินเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ไม่ได้อยู่ที่ชื่อเสีียง ความเด่นดังในสังคม แต่อยู่ที่การมีสุขภาพดี   มีความรักความอบอุ่นในครอบครัว     มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีใจสุขสงบ มีความพึงพอใจในชีวิตของตนเอง ไม่ต้องรีบเร่ง ไม่ต้องชิงดีชิงเด่น ไม่ต้องแข่งขันกับใคร รู้จักแบ่งปันและให้ทาน การมีอายุยืนยาว  ก็มีเวลาทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้่อื่นได้ตามฐานะ เพราะ "ความสุข"  คือ "ทุกข์น้อย" การทะเลาะเบาะแว้ง  เป็นทุกข์    การหย่าร้าง  เป็นทุกข์   การรีบเร่งเคร่งเครียดเป็นทุกข์ เป็นเหตุให้เกิดโรคภััยไข้เจ็บ  การเจ็บป่วย เป็นทุกข์ ความพึงพอใจในสิ่งที่ตนมี เป็นสุข ความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น ความสามัคคีกันในครอบครัว เป็นสุข การมีสุขภาพดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นสุข ไม่ว่า life style จะเป็นอย่างไร   ถ้าคนเรามีความพึงพอใจในสิ่งที่ตนมี มีความรักความเข้าใจความอบอุ่นในครอบครัว   และมีสุขภาพดี  คนเราก็มีความสุขได้ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ  และ แง่คิดในเรื่องความสุข (ผมโหวดกระทู้ให้ครับ  ที่โหวตเนี่ย เพราะชอบกระทู้นี้ ไม่มีเจตนาอย่างอื่นครับผม) แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 10:50:43 จากคุณ : Rational Eagle - [ 8 ต.ค. 50 03:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แบบกลาง ๆ น่ะ  ไม่มีหรือ เราเห็นคนได้เงินเดือนเป็นแสนแต่ชีวิตมีสุข  รู้จักแบ่งเวลาว่างไปหากิจกรรมหนุก ๆ ทำ  เป็นคนดีเพื่อนฝูงรักใคร่ ช่วยเหลือสังคม ฯลฯ กับคนยากจนเงินเดือนไม่กี่พัน  แต่ดันผ่อนมือถือเครื่องละ2หมื่น -_-' ดิ้นรนอยากได้นั่นได้นี่ไม่มีที่สิ้นสุด จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 8 ต.ค. 50 03:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับคุณ Rational Eagle ค่ะ จากคุณ : Jerrynui - [ 8 ต.ค. 50 04:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เปรียบเทียบกันไม่ได้ค่ะว่าใครมีความสุขกว่ากัน เพราะความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จากคุณ : Sonnenschein - [ 8 ต.ค. 50 04:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คนเขียนคือนายสุธี ที่อยากเป็นนายเด่น จากคุณ : ชาเขียว - [ 8 ต.ค. 50 04:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วิถีชีวิต ต่างกันค่ะ มีความสุข ความทุกข์ ไปคนละแบบ จากคุณ : beautiful civil - [ 8 ต.ค. 50 05:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นอกเรื่องหน่อย คืออยากจะบอกมานานแล้วว่า โหวตกระทู้ในห้องนี้ไปก็เท่านั้น ไม่ได้ขึ้นกระทู้แนะนำหรอก ตั้งแต่กระทู้ห้องจิตถูกถอดออกจากหน้ารวม ทางพันทิพก็ปิดระบบโหวตกระทู้ของห้องจิตไปด้วยค่ะ ถามหน่อยว่าตั้งแต่โดนถอดออกจากหน้ารวมนี่ เคยเห็นกระทู้ในห้องจิตเป็นกระทู้แนะนำมั่งหรือเปล่า ทั้งที่ก่อนถูกถอดจากหน้ารวม มีแต่กระทู้แนะนำจากห้องจิตทั้งนั้นอ่ะ จากคุณ : ฉันเป็นเจ้าหญิงคนต่อไป - [ 8 ต.ค. 50 05:11:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอยืมไดอะล็อกจากการ์ตูนเรื่องยานางิซาว่าหน่อย มาซาโกะภรรยาของยานางิซาว่าพูดกะพี่สาวตัวเองว่า "ฉันจะต้องมีความสุขมากกว่าพี่ให้ได้" พี่สาวตอบกลับมาว่า "ความสุขมันวัดกันได้ด้วยหรือจ๊ะ" จากคุณ : ฉันเป็นเจ้าหญิงคนต่อไป - [ 8 ต.ค. 50 05:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับคคห. ที่ 19 คุณฉันเป็นเจ้าหญิงคนต่อไป.. ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนๆนั้น ถ้าจะมองว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันคือความสุข มันก็มีความสุขได้นะคะ.. จากคุณ : ล่ามสาวพราวเสน่ห์ - [ 8 ต.ค. 50 05:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แต่ละคนชอบไม่เหมือนกันค่ะ  ต้องถามความเห็นส่วนตัวว่าใครชอบแบบใหน สำหรับเราชอบแบบท้องไร่  ท้องนา  ชอบแบบชาวสวน  ไม่ได้สร้างภาพนะแต่ชอบจริงๆ แต่ชีวิตจริงไม่เคยเจอแบบนั้นเลย  อยู่แต่ในเมืองตั้งแต่เกิด  อยากทำสวน ปลูกต้นไม้ เบื่อคนมากๆ  เบื่อความวุ่นวาย  เบื่อการแข่งขันชิงดีชิงเด่นเฮ้อ.... อยากมีแฟนเป็นชาวสวนค่ะ  จะได้ไปทำสวนสมความตั้งใจ  อยู่ในโลกส่วนตัว ไม่ต้องยุ่งกับใครอิอิ จากคุณ : คนช่างอาย - [ 8 ต.ค. 50 06:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 . . ความสุขมันมีหลายแบบครับ บางคนก็สุขที่ได้ใช้ชีวิตในเมือง บางคนก็สุขที่ได้ใช้ชีวิตนอกเมือง . . ในกรณีตารางธาตุโลกนี้ เปรียบเทียบให้เห็นได้ชัดเลยว่า ความสุขของนายเด่น มีความน่าสนใจกว่าของสุธี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า สุธีจะไม่มีความสุขนี่นา เค้าก็ยังออกไปดูหนัง กินข้าว ขับรถอวดสาว พูดคุยกับเพื่อนๆในออฟฟิซ แม้จะต้องเลิกรากับภรรยาและลูกๆ แต่ชีวิตที่มีความสุขแบบสุธีก็ต้องเดินหน้าต่อไป . . สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ขอให้ทุกคนพอใจในระดับความสุขที่ตนมีก็เพียงพอ ;) จากคุณ : j a g g i . j a g g i - [ 8 ต.ค. 50 06:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ง่ายๆ สั้นๆ ... ความสุขคือการที่ขึ้นอยู่กับการเลือกว่าเราจะอยู่และจะเป็นแบบไหน พอใจและยอมรับกับมันให้ได้เท่านั้นเอง แค่นี้คุณก็จะสัมผัสกับความสุขแล้วหล่ะครับ จากคุณ : Invisible Guy - [ 8 ต.ค. 50 08:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับคุณ Rational Eagle ค่ะ อยากจะบอกว่า ชีวิตของ นายเด่น คือชีวิตของพ่อดิฉัน จากคุณ : ich habe kein Geld - [ 8 ต.ค. 50 08:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านอย่างนี้อยากกลับบ้านนอกทันทีทันใด (- -  ) จากคุณ : กระดูกหมู - [ 8 ต.ค. 50 08:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบไม่ได้ว่าใครมีความสุขกว่า อยู่ที่ความพอใจครับ ถ้านายสุธีพอใจกับชีวิตมากกว่านายเด่น นายสุธีก็มีความสุขกว่าได้ครับ อย่างผมเป็นเกษตรกร มีความสุขที่ได้ปลูกต้นไม้แล้วดูมันเจริญเติบโต มีเวลาเป็นของตัวเอง อยากทำอะไรตอนไหนก็ได้ ไม่มีใครบังคับ อิสระและสงบ เงียบ--" นานๆจะไป กทม ซักทีไปรับรู้รสชาด รถติด อากาศไม่ดีวัดได้ด้วยการแคะขี้มูก ขี้มูกดำปี๋ แต่ก็ดีครับไปดูความเจริญคั่นเวลาบ้าง แต่บางคนอาจเบื่อก็ได้ อาจรู้สึกว่าชีวิตแบบผมขาดสีสันเกินไป จากคุณ : งามหน้า - [ 8 ต.ค. 50 09:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มันเป็นกระจกเงา 2 ด้านครับ ขึ้นอยู่กับว่า ใครรักที่จะส่องด้านไหน ตราบใดที่มนุษย์ยังเป็นสัตว์สังคมและยังมีกิเลสอยู่ ข้อสรุปก็ยังไม่มีจบครับ จากคุณ : ลุงแก่ (skavee) - [ 8 ต.ค. 50 09:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมรู้แต่ว่าอย่าเอาบรรทัดฐานความคิดเห็นตัวเองไปตัดสินคนอื่น ผมชอบสังคมเมือง ชอบบรรยากาศแบบเมืองครับ แบบว่าพอดีเกิดมาในสังคมแบบนี้อ่ะ ให้ทำไร่ทำนาเป็นไร่ๆ ผมก็ตายได้เหมือนกัน (แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะ แต่ไม่อยากทำ- -) จากคุณ : S e m a k u t e k ! (เจ้าพ่อSemakutek) - [ 8 ต.ค. 50 09:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 life style ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ... ดังนั้นความสุขของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกันด้วย โชคดีที่เรามีทั้งสองแบบ ผสมกันอยู่ .. จากคุณ : sorry about that - [ 8 ต.ค. 50 09:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความสุขขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน ถ้าคนหนึ่งพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ มันก็มีความสุขแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ตัวเองเลือก เลือกที่จะมีความสุขแบบไหน จากคุณ : มนตราสีน้ำเงิน - [ 8 ต.ค. 50 10:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ก็ว่ากันไป ความสุขมันอยู่ที่เรา หลายคนเอาความคิดของคนอื่น มาตัดสินว่าเป็นความสุข ของเราเอง... ความสุขที่จริงๆ และยั่งยืน คือการที่เรารู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของเราคือใคร.. และเราก็ไม่สามารถไปชี้บอกคนอื่นได้ว่า ให้ทำแบบนั้น แบบนี้ แล้วจะมีความสุข สุขของอะตอม...ก็คือสุขของอะตอม คงไม่เหมือนใคร และคงน้อยนักที่จะมีใครเหมือน... ความคิดมีไว้ให้เราตรึกตรอง...ความจริงมีให้เราใช้ความคิด จากคุณ : atom240 - [ 8 ต.ค. 50 10:16:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ลึกๆ แล้วอยากอยู่ ตจว. มากกว่า มันสบายใจดี จากคุณ : Pupaman - [ 8 ต.ค. 50 10:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ระหว่างนั่งรถยุโรป กับ นั่งเกวียน ฉันก็เลือกรถยุโรป เกิดมายังไม่เคยนั่งเกวียนเลย ยอมรับว่าชินกับสภาพสังคมเมือง ให้ไปอยู่บ้านนอก ตายแน่ แค่ไปพักผ่อน ไม่กี่วันอยู่ได้ แต่ให้ไปอยู่ทุกๆวัน อยู่อย่างไม่รู้ว่า วันนี้วันจันทร์หรือวันเสาร์ คงทำไม่ได้อะ ชีวิตสังคมเมือง อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกวัน แต่ก็ใช่ว่าชีวิตในต่างจังหวัด ทุกคนจะชอบอยู่กับธรรมชาติที่ไร้แสงสี ฉันคนหนึ่งละไม่ชอบกลิ่นโคลนสาบควาย สบายๆตามประสาบ้านนอก กับลำบากในเมือง อยู่ในเมืองลำบากดีกว่า จากคุณ : ..ฟ้าใส.. - [ 8 ต.ค. 50 10:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ใช่ครับ ความต้องการ ของคนเรามันต่างกัน และมันไม่มีขีดจำกัด(ถ้าไม่มีการควบคุม) นอกเหนือพื้นฐานก็คือปัจจัยในการดำรงชีวิต สุขภาพร่างกาย และจิตใจที่ดี ก็ยังมีความ ทะยานอยาก ต้องการ การเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ที่ต้องคล้อยตามกระแสนิยม ความเชื่อของคนส่วนใหญ่ เพื่อให้อยู่รวมกลุ่มได้โดยไม่รู้สึกแปลกแยก เมื่อรู้สึกได้ว่า ตนกลายเป็นส่วนหนึ่งแล้ว ก็ยังเกิดความ ทะยานอยาก ต้องการการยกย่องยอมรับ มุ่งแสวงหาความเด่นดัง  เกียรติยศ ชื่อเสียง อำนาจ ความทะยานอยากนั่น จะตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง ดีงาม ก็ต่อเมื่อมันทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และ โลก ผลที่เกิดจากความทะยานอยาก ในอำนาจของฮิทเลอที่นำไปสู่ความสูญเสีย ต่างกับ ความทะยานอยากที่จะแสวงหาหนทางดับทุกข์ ของ พระพุทธเจ้า วกกลับมาเข้าเรื่อง ... ความต้องการของ สุธี และ นายเด่น สุธี ก็คิดว่าวิถีชีวิตแบบที่เป็นอยู่ว่า นั่นคือความสุข เด่น ก็คิดว่า วิถีชีวิตแบบที่เป็น นั่นเป็นความสุข นายสุธี ก็คงมีความพอใจ ในวิถีชิวิตแบบนั่น นายเด่น ก็คงจะพอใจในวิถีชีวิตอีกแบบหนึ่ง นายสุธี อาจจรู้สึกดี ที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ในฟันเฟืองกลไกในการขับเคลื่อน นำพาสังคมไปสู่ความเจริญก้าวหน้า นายเด่น ก็อาจะรู้สึกดี กับการเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ขับเคลื่อนกงล้อวัฏจักร รักษาความสมดุลในระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม ใช้ประโยชน์ทรัพยากร พร้อมกับการปสร้างใหม่ขึ้นมาทดแทน ทั้งนายสุธี และ นายเด่น ก็เปรียบเหมือน ทรัพยากร(มนุษย์) ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับโลกได้ แต่แตกต่างกันในคุณค่า และความแตกต่างที่ กระทู้นี้ได้ชี้ให้เห็นคือ ความต้องการขั้นพื้นฐาน ด้านสุขภาพร่างกาย และ จิตใจ แต่สิ่งที่นายสุธีมี ก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง ที่คนสังคมเมืองมี *คนเมืองอีกหลายคน ก็อาจจะมีความสุข ที่ได้รับการตอบสนองจากครอบครัวที่อบอุ่น สุขภาพกายที่แข็งแรง หรือสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขกับการที่ได้อยู่รวมกันในสังคม มั่นใจในสวัสดิภาพในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวภัยต่างๆ กันทั้ง อุบัติเหตุ อาชญากรรม การเบียดเบียน ทำร้าย ร่างกายและจิตใจ จากผู้ที่มีเลวทรามต่ำช้า* ทำให้เกิดคำถามอีกว่า อะไร ที่ทำให้เกิดความบกพร่องในการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของนายสุธี ไม่ว่า เราจะเกิดมาทำไม เป้าหมายชีวิตของแต่ละคนคืออะไร แต่ที่เหมือนกันก็คือ ใครๆ ก็ต้องการ มีอยู่มีกินอย่างพอเพียง(ไม่ขัดสน) มีความรัก มีครอบครัวที่อบอุ่น รู้จัก สัมผัสถึงคุณค่าที่ได้เกิดมาเป็นคน และชีวิตมีสวัสดิภาพความปลอดภัย ไม่ต้องหวาดเกรงต่อภยันตราย (เว้นไว้สำหรับใครจะเกิดมามีความสุขกับชีวิตโดยขาดสิ่งเหล่านี้ได้) การหลีกสังคมเมืองไปอยู่สังคมชนบท ในสมัยนี้ ก็อย่าพึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบสนองในสิ่งที่ต้องการเหล่านี้ได้ แล้วถ้าหนีไม่ได้ เลือกไม่ได้ แล้วจะต้องทำอย่างไร สังคมเมือง สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั่น ได้หรือไม่ เราจะร่วมสร้างสังคมเมืองที่จะสนองความต้องการเหล่านั้นได้รึป่าว เราจะทำให้สังคมเมืองตอบสนองความต้องการของเรา ได้อย่างไร หรือเราจะปล่อยให้เป็นภาระหน้าที่ของใคร แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 11:10:11 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 11:06:29 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 10:55:23 จากคุณ : นายไวรัส - [ 8 ต.ค. 50 10:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมว่ามันขึ้นอยู่กับ life style ของแต่ละคนนะครับ จากคุณ : เตียวกงจื้อ - [ 8 ต.ค. 50 11:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คนแบบนายสุธีไม่จำเป็นจะต้องไม่มีญาติมาหาเสมอไป ผมก็คิดว่ามันขึ้นกับชีวิตของคนแต่ละคน อาจจะสุขเท่ากันก็ได้ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 8 ต.ค. 50 11:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เท่าที่อ่านเเล้ว นายเด่นก็มีความฝัน อยากได้ในสิ่งที่นายสุธีมี ส่วนนายสุธี ก็ฝันอยากเป็นในสิ่งที่นายเด่นเป็น สรุปคือคนเราไม่เคยพอใจในสิ่งที่มี และสิ่งที่เป็น แต่แต่ละคนก็ยังคงมีความสุขกับสิ่งที่ตนเป็นอยู่ จากคุณ : tynie (Tynie) - [ 8 ต.ค. 50 11:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ความสุขอยู่ที่ใจพอใจในชีวิตที่เป็นอยู่แค่ไหน ปัจจัยภายนอกแค่ตัวเสริมแค่นั้น จากคุณ : เนเวอร์แลนด์ - [ 8 ต.ค. 50 11:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สุขเท่ากัน. . .แต่คนละแบบ เพราะที่มาของความสุขก็ต่างกันแล้วค่ะ จากคุณ : It's not easy to be me... - [ 8 ต.ค. 50 12:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบวิธีคิดของคุณ Rational Eagle มาก ๆ คะ เป็นการสอนให้รู้คิดอย่างสมถะ  รู้จักพอ   มีความสุขแบบที่เกิดมาเป็นแล้วต้องอยู่กับสภาพนั้น ๆ เรื่องนายสุธีและนายเด่น  เป็นตารางสมมุติ   ถ้าเป็นจริง   คนเรามีความสุขและทุกข์ได้ทั้งจากความเรียบง่ายและรุ่งเรืองเสมอคะ สุขและทุกข์เป็นสิ่งสมมุติเหมือนกัน  อยู่ที่ใจทั้งนั้นคะ จากคุณ : หนูเล็กในเมืองนางฟ้า - [ 8 ต.ค. 50 13:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมคิดว่าตารางนี้มีจุดประสงค์แฝงแง่คิดที่ดีตรงที่จะเตือนคนที่มีความคิด แบบนายสุธีให้ลองตรองดูซักนิดว่าชีวิตนี้ความสุขที่แท้มันคืออะไร อาจจะไม่ต้องเปลี่ยนตัวตนไปทำไร่ทำนาหรอกครับ แค่เปลี่ยนใจหรือทัศนคติก็พอแล้ว อะไรแบบนั้นน่ะครับ : ) จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า - [ 8 ต.ค. 50 13:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 42 นั่นแน่แอบมาอยู่นี้เองนะ อิอิ (ขออนุญาตทักเพื่อนนิดนึง) ชีวิตผมที่เป็นอยู่เนี๊ยะ ผมมีความสุขแล้วล่ะครับ ผมเองเกิดมาไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีวันแบบที่เป็นอยู่นี้เลย ขอบคุณครับ   จากคุณ : กราสิก - [ 8 ต.ค. 50 15:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ก่อนอื่น..ขอขอบคุณ..คุณRational  Eagle...ค่ะ.. ที่แนะนำกระทู้นี้.. นานาจิตตํ... ความสุขของมนุษย์..น่าจะเป็นความสมดุลของกาย และจิต กาย...สุข...จิตสงบ....คือวิถีพอเพียง...ความพอประมาณในการดำรงชีวิต ไม่มีมากเกินอัตภาพ..จนต้องกังวล..และดิ้นรนทำร้ายตนเอง และอาจต่อยอด..ไปทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่น.. การเอาชนะใจตนเอง...ด้วยการมีความโลภน้อย.. จะทำให้เบียดเบียน..ผู้อื่นน้อย... บูชามีจิตแผ้ว                    ผ่องใส บูชิตคนดีใด                     ใหญ่น้อย ล้วนแต่สุจริตใจ                 สุขชื่น  สราญแฮ ผลสุขจักเคลื่อนคล้อย         ติดต้อยตามสนอง ที่มา.....หลักมงคล ๓๘ ประการ จากคุณ : aoy1 - [ 8 ต.ค. 50 16:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 #คุณRational  Eagle... #~ M @ Y ~ Girl In Heaven Cool !!!! จากคุณ : jeji o - [ 8 ต.ค. 50 17:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมอยากเป็นนายสุธีนะครับ เพราะผมคงหาวิธีทำให้ชีวิตมีความสุขได้ดีกว่าที่เค้าทำ จากคุณ : CARAGIO - [ 8 ต.ค. 50 19:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อยู่ ตรงกลาง . . .ชีวีเป็นสุข . . . บางอย่างต้องเพียงพอแบบนายเด่น บางอย่างต้องทะเยอทะยาน แบบนายสุธี จากคุณ : kuddle - [ 9 ต.ค. 50 01:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เราเป็นประมาณนายสุธี แต่ตอนนี้อยากไปเป็นนายเด่นบ้าง เป็นครั้งคราวในความรู้สึก เฮ้อ!!! จากคุณ : @Living Room - [ 9 ต.ค. 50 02:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อแรกเกิดเด็กร้องไห้พร้อมด้วยกำมือแน่น  เป็นสัญญาลักษณ์ว่าเขาเกิด มาเพื่อจะหน่วงเหนี่ยวยึดถือ  แต่เมื่อหลับตาลาโลกนั้น  ทุกคนแบมือออก เหมือน  จะเตือนให้ผู้อยู่เบื่องหลังสำนึกและเป็นพยานว่า  เขามิได้เอาอะไร ไปด้วยเลย   จากคุณ : ทิวาจรดราตรี - [ 9 ต.ค. 50 02:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตัดสินไม่ได้มั้งคะ บางคนก็มีความสุขกับการนั่งหน้าคอม แม้ตัวเองจะบ่นว่า งานยุ่งไม่มีเวลาให้ครอบครัว แต่ถ้าเค้าต้องเลือกไปอยู่ท้องไร่ท้องนา ที่เค้ารู้ดีว่ามันก็สงบกว่า แต่เค้าก็อยู่ไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ที่ของเค้า ส่วนชาวไร่ชาวนา อาจมีบางทีที่ไม่อยากก้มๆเงยๆทำนาหลังขดหลังแข็ง แต่ถ้าต้องนอนห้องแอร์ ใส่สูท และกินข้าวด้วยช้อนส้อมตลอด เค้าก็คงทนได้ไม่นานเหมือนกันแหละค่ะ จากคุณ : pankee - [ 9 ต.ค. 50 09:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ชอบคำตอบ Rational Eagle  และ นายไวรัส ค่ะ ขอบคุณจขกท ที่เอาอะไรดีๆมาฝาก อ่านเพื่อนๆตอบ ได้แง่คิดดีๆค่ะ จากคุณ : cosmo lady - [ 9 ต.ค. 50 12:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สำหรับคนที่คิดว่าอยู่บ้านนอกไม่ได้ ตายแน่ ๆ ไม่จริงหรอกครับ ... ถ้าสมมติว่าคุณไปอยู่จริงๆ คุณ จะเลือกที่จะอยู่ คุณไม่เลือกที่จะตายแน่ๆ .. แต่คุณพอใจในเมืองเท่านั้นเอง เอ พูดเรื่องไรเนี่ย ผมว่าเราๆ ก็ไม่ต้องคิดมากหรอก ...เอาเป็นว่า มีคนที่รักเรา เรารัก... มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เจ็บปวด ก้โอเคแล้ว จากคุณ : เออว่ะ - [ 11 ต.ค. 50 19:04:30 A:203.155.199.198 X: TicketID:135477 ]

ความคิดเห็นที่ 52 จะสุขจะทุกข์อยู่ที่ตัวเรา ปล.อยากเป็นนายเด่น จากคุณ : เลดี้มาเฟีย - [ 12 ต.ค. 50 12:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ความสุข... ไม่ได้อยู่ที่การมีเงินทองมากมาย สิ่งที่จะทำให้เรามีความสุขได้จะต้องประกอบด้วย สามสิ่งคือ 1. ได้อยู่กับคนที่เรารัก 2. มีสุขภาพที่แข็งแรง 3. คิดทางบวกและมองโลกในแง่ดี ...นี่แหละคือความสุขที่แท้จริง... (วาทะของ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ) จากคุณ : Dr.Manta - [ 13 ต.ค. 50 20:57:15 ]