เริ่มกันเลยนะ อยากให้ทุกคนสุขภาพดี ไม่ต้องเพิ่งหมอเพิ่งยาจ้า

01.00 – 03.00 น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่ไปที่ตับ ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงนี้ ร่ากายจะหลั่งสารเมลาโทนิน (Melatonin) เพื่อซ่อมแซมเซลล์ต่างในร่างกาย ฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากนี้ยังหลั่งสาร โก๊รธฮอร์โมน Growth Hormone ออกมาด้วย จึงไม่ควรกินหรือดื่มในมื้อดึก โดยเฉพาะเหล้า
หน้าที่หลักของตับคือเก็บสะสมพลังงานสำรองให้ร่างกาย ตับจะเก็บเลือดได้ 50 กรัม เพื่อใช้ในการขับสารเคมีทุกชนิดออกจากร่างกาย ตลอดจยผลิตน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน ถ้าช่วงนี้ใครยังไม่เข้านอน หรือนอนไม่หลับ ร่างกายจะสูญเสียพลังงานที่สะสมไว้ การผลิตน้ำดีลดลง (ท้องจะบวมอย่างเห็นได้ชัด ) ส่งผลกระทบของการทำงานของตับอ่อน
ส่งผลให้การผลิตอินซูลินลดลง ผลที่ตามาก็คือโรคภัยไข้เจ็บ  ต่างๆ ตามมา เช่นความดันโลหิต  โรคเกาต์ ภูมิแพ้ หัวใจ เบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด


03.00 – 05.00 น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่มาที่ปอด จึงควรตื่นนอนในช่วงเวลานี้เพื่อสูดอากาศที่บริสูทธิ์ ผู้ที่นอนมากเกินไปเซลล์จะได้รับออกซิเจนน้อย ผู้ใดที่สามารถตื่นนอนในช่วงเวลานี้ประจำ ปอดจะดี ผิวดีขึ้น และจะเป็นคนมีอำนาจในตัว


05.00-07.00 น. เป็นเวลาที่พลังงานเคลื่อนสู่ลำไส้ใหญ่
ควรขับถ่ายอุจจาระ ทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าไม่ขับถ่ายตอนเช้า ลำไส้ใหญ่จะรวน จะมีอาการ ปวดหัวไหล่ กล้ามเนื้อเพดานหย่อน คนที่ขับถ่ายยากต้องกินอาหารเช้า บางคนดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียวก็อิ่ม ร่างกายจะดูดกากอาหารตกค้างซึ่งกำลังจะเป็นอุจจาระกลับเข้ากระเพาะใหม่ เท่ากับ “กินกาแฟแกล้มอุจจาระ”
ถ้าไม่ถ่าย ให้ใช้วิธีกดจุดที่ตำแหน่งสองข้างของจมูกช่วย ให้ดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว ถ้ายังไม่ถ่ายอีกให้ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว

07.00 – 09.00 น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่สู่กระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารจะทำงานได้ดีในช่วงนี้ ถ้าเราไม่ทานอาหาร อุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะ กลิ่นตัวจะเหม็น ถ้ากินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกมื้อ กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ  จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแข้ง หน้าแก่เร็ว

09.00 – 11.00 น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่สู่ม้าม
ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย มีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเลือด ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศีรษะบ่อยมักมาจากความผิดปกติของม้าม
• ม้ามโต ม้ามจะเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย
• ม้ามชื้น อาหารและน้ำที่ทานเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมัน จึงทำให้อ้วนง่าย




ผู้ที่มักนอนหลับในช่วงเวลา 9.00 น. – 11.00 น. ม้ามจะอ่อนแอ นอกจากนี้มามยังโยงถึงริมฝีปาก ผู้ที่พูดบ่อย ๆ พูดเก่ง ๆ ม้ามจะชื้น จึงควรพูดน้อย กินน้อย ม้ามจะแข็งแรง


11.00 – 13.00 น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่สู่หัวใจ
กล้ามเนื้อหัวใจจะทำงานหนักในช่วงเวลานี้ จึงควรเรียกเลี่ยงความเครียด เหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิหนัก และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้น หรืออาการตกใจให้ได้ คนที่มีปัญหาเรื่องนี้ ดูได้จากอาการปวดไหล่ ไม่ได้แสดงอาการที่หน้าอกอย่างที่เข้าใจกัน กล้วย ส้ม มะเขือ เตย รากบัว หัวปลี สามารถบำรุงหัวใจ

13.00 น.- 15.00 น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่สู่ลำไส้เล็ก
จึงควรงดการกินอาหารทุกประเภทเพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารทุกชนิดที่เป็นน้ำ เช่น วิตามิน ซี บี โปรตีนเพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่ซึกหรอ สร้างรังไข่สำรับผู้หญิง
ถ้ากรดอะมิโนน้อย รังไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุต เพื่อให้มีการดูดซึมสารอาหารได้นานกว่า เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากว่าผู้ชาย เมื่อลำไส้ยาวกว่า จึงมีกระดูกซี่โครงมากว่าผู้ชายข้างละ 1 ซี่

15.00น.-17.00น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่สู่กระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด
ช่วงเวลานี้ ควรทำให้เหงื่ออก อาจจะออกกำลังกาย หรืออบตัว กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง ข้อควรระวัง ถ้าเหงื่อมีดซเดียมปนออกมามาก ไตจะวาย แต่ถ้ามีโพแทสเซียมปนออกมามาก หัวใจจะวาย
(ผู้ที่มีปัญหาโพแทสเซียมน้อย ต้องระวังเรื่องของการฉีดยาชา เพราะยาชา จำทำให้โพแทสเซียม ลดลงอย่างรวดเร็ว หัวใจอาจวายได้
การอั้นปัสสาวะบ่อยๆ ปัสสาวะจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ

17.00น.-19.00น เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่สู่ไต
จึงควรทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่ง่วง เหงาหาวนอน ผู้ใดมีอาการง่วนอน อ่อนเพลียช่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหา เรื่องไตเสื่อม ถ้านอนหลับแล้วเพ้อ แสดงว่าอาการหนักมาก

• ไตซ้าย จะคุมสมองด้านขวา ซึ่งจะควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว ถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวย รักงามจะหมดไป กลายเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และขี้ร้อน
• ไตขวา จะควบคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำ ถ้าไตขวามีปํญหา ความจำจะเสื่อม และเป็นคนขี้หนาว ( ผู้ที่ไตแข็งแรงจะเป็นคนมีอายุยืน และกล้า)
ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะมาก อาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายจะผ่านลำเล็กไม่ได้ จึงตกเป็นภาระของไต เป็นผลให้ไตทำงานหนัก ผู้เป็นโรคไต จะสมองเสื่อม ปวดหลัง เป็นหวัดง่าย มีเสลดในคอ


การดูแล คือ ตอนเช้าอาบน้ำเย็น ตอนเย็นอาบน้ำอุ่น หรือใช้วิธีแช่เท้า และควรใส่สมุนไพรที่ถูกกับผู้ป่วย
เช่น ขิง ข่า กระชาย อย่างใดอย่างหนึ่ง



19.00 น.-21.00น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่สู่เยื่อหุ้มหัวใจ
ช่วงเวลานี้ควรสวดมนต์ ทำสมาธิ ปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือ หัวใจโต หัวใจรั่วเส้นโลหิตหัวใจตีบ คนที่มีปัญหาเรื่องนี้ จะมีอาการเจ็บหน้าอกในช่วงเวลานี้ได้ง่าย ดังนั้นผู้ป่วยต้องระวัง เรื่องของอารมณ์ กรณีเส้นเลือดขอด ก็ต้องดูแลเยื่อหุ้มหัวใจให้แข็งแรง  ควรใส่เสื้อผ้าชุดดำ เทา แช่เท้าในน้ำอุ่น

21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาที่มีการสะสมพลังงาน
จึงต้องทำให้ร่ากายอบอุ่น ห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจำทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อย่าไปตากลม เพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ

23.00น-01.00น. เป็นช่วงเวลาที่พลังงานเคลื่อนที่สู่ถุงน้ำดี
(ถุงน้ำดีเป็นถุงสำรองเก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ) อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำ จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายจาเสื่อม เหงือจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือ ตอนเช้าจะจาม ปวดศีรษะข้างเดียวโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือที่พวกคุณเรียกว่าปวดไมเกรนกัน
ทางแก้คือ อย่าใส่ชุดนอนที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ ไนล่อน เพราะผ้าดังกล่าวจะไปดูดน้ำในร่างงกาย ควรสวมชุดผ้าฝ้ายดีที่สุด ไม่ควรนอนบนที่นอนสูงๆ จะทำให้เสียน้ำในร่างกาย และควรดื่มน้ำสักเล็กน้อยก่อนเข้านอน

























ขอขอบคุณที่มาจาก หนังสือนาฬิกาชีวิต
การแพทย์ตามตำราพระไตรปิฏก อาจารย์ สุทธิวัสส์ คำภา นักธรรมชาติบำบัด ผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ลูกดิ่ง Pendulum ประเมินสุขภาพ  และได้เผยแพร่ความรู้เรื่องสุขภาพ แก่ลูกศิษย์ ทั้งเรื่องของ การจัดกระดูกคอ และกระดูกสันหลัง อาหารบำบัด การอาบน้ำรักษาโรค การพอกตัว (Body Detox) เพื่อให้คนไทยสามารถพึ่งตนเองได้







มาถึงข้อแนะนำในการปฎิบัติตัวในทุกๆวันให้สอดคล้องกับนาฬิกาชีวิต
ให้เพื่อนๆทุกคนนำไปปฎิบัติกัน ไม่เชื่อก็ลองดู แล้วจะรู้ว่า สุขภาพจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ช่วงเวลา ระบบที่เกี่ยวข้อง ข้อควรปฏิบัติ
01.00-03.00 น. ตับ นอนหลับพักผ่อนให้หลับสนิท
03.00-05.00 น. ปอด ตื่นนอน สูดอากาศบริสุทธิ์
05.00-07.00 น. ลำไส้ใหญ่ ขับถ่ายอุจจาระ
07.00-09.00 น. กระเพาะอาหาร กินอาหารเช้า
09.00-11.00 น. ม้าม พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
11.00-13.00 น. หัวใจ หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งปวง
13.00-15.00 น. ลำไส้เล็ก งดกินอาหารทุกประเภท
15.00-17.00 น. กระเพาะปัสสาวะ ทำให้เหงื่อออก ( ออกกำลังกาย, อบตัว )
17.00-19.00 น. ไต ทำให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอน
19.00-21.00 น. เพยื่อหุ้มหัวใจ ทำสมาธิ หรือ สวดมนต์
21.00-23.00 น. ระบบความร้อนของร่างกาย ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ทำให้ร่ากายอบอุ่น
23.00-01.00 น ถุงน้ำดี ดื่มน้ำก่อนเข้านอน

แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 50 13:55:27