ฟังบรรยาย-คุณหมอจะมาให้ความรู้สลับกับการแนะนำรายละเอียดเกี่ยกวับการดูและร่างกายเพื่อรักษาโรคเฉพาะโรค อย่างของเราจะเน้นอาการไมเกรน เค้าก็จะมีวิธีการปฏิบัติที่ช่วยรักษาให้
นอกจากนี้ก็มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนที่เคยป่วยกับวิธีการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ทำกิจกรรมสันทนาการ
ทานอาหารเที่ยง-ในคนที่ป่วยมาก อาหารทั้งสามมือ้จะเป็นผักผลไม้สดทั้งหมด คนที่เป็นเบาหวานก็ควรงดผลไม้ไว้ก่อนจนกว่าอาการจะดีขึ้น
แต่ในคนปกติที่อาการไม่รุนแรงจะทานข้าวได้ในมื้อเที่ยง
ต้องเป็้นข้าวกล้อง (ข้าวขาวและน้ำตาลทรายขาวเป็นของต้องห้ามในชีวิตประจำวัน)
กับข้าวเป็นอาหารมังสวิรัต
ไม่ทานรสจัด
ไม่ทานอาหารทอด ถือว่าอาหารทอดเป็นอาหารขยะเพราะการทอดจะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากในอาหาร
ไม่ทานรสจัดโดยเฉพาะรสเผ็ด
ระวังอย่าใส่ถั่วมากเกินไปเพราะมีโปรตีนเข้มข้น ร่างกายคนเราไม่ไดต้องการโปรตีนมากมายขนาดนั้นในพืชก็มีโปรตีนเพียงพอ นอกจกานี้ร่างกายยังสังเคราะห์โปรตีนขึ้นได้เองด้วย -คนที่เป็นโรคมะเร็งห้ามทานเนื้อสัตว์ ถั่วและเต้าหู้โดยเด็ดขาด เพราะอาหารเหล่านี้มีโปรตีนสมบูณ์ที่ใช้เลี้ยงเซลล์มะเร็งได้ดี
หลีกเลี่ยงอาหารกลิ่นฉุน เช่นกระเทียม หอม ชะอม หากจำเป็นให้ใช้น้อยทีสุด
ทานอาหารที่ปรุงเสร็จไม่เกินสามชั่วโมง ห้ามนำอาหารมาอุ่นซ้ำเพราะม่มีพลังชีวิตแล้วถือว่าเป็นอาหารขยะ
อุปกรณ์ทำอาหารควรเป็นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ เครื่องดินเผา กระเบื้อง แก้ว ไม่ควรใช้อลูมิเนียมและพลาสติก ถ้าจำเป็นต้องใช้ภาชนะโลหะก็อเป็นสเตนเลสคุณภาพดี
โยคะตอนบ่าย-เน้นหารผ่อนคลายระดับลึกและฝึกปราณ
น้ำมะพร้าวตอนบ่าย-น้ำมะพร้าวถือว่าเป็นน้ำที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมากและมีความบริสุทธิ์มาก ธรรมชาติบำบัดใช้น้ำมะพร้าวเป็นทั้งยาและอาหาร
ถ้าท้องเสีย ใช้น้ำมะพร้าวแทนผงเกลือแร่จะดีกว่ากันมาก ในเด็กทารกที่แม่น้ำนมไม่พอให้ทานน้ำมะพร้าวได้และให้เน้นบำรุงที่ร่างกายของแม่ด้วยผักผลไม้ และน้ำมะพร้าว
น้ำมะพร้าวนี้คือเอาเฉพาะน้ำอย่างเดียว ปอกแล้วทานเลยไม่เก็บไว้และไม่แช่เย็น โดยเฉพาะถ้าจะให้เด็กทานต้องเป็นน้ำมะพร้าวที่เปิดไว้ไม่เกิน สิบนาที ปริมาณไม่เกินสามลุกกต่อวันในกรณีกินเป็นมื้อ(หมายถึงสำหรับผูใหญ่นะคะ ไม่ใช่สำหรับเด็ก)และไม่เกินสองลูกถ้าเอามาเป็นอาหารเสริมช่วงบ่าย หรือสาย(ในค่ายจะทานวันละลูกค่ะ ทานได้ทุกวันแต่ต้องพอดี ไม่มากและน้อยไป ต้องทำความเข้าใจว่ามากไปร่างกายจะต้องวุ่นวายในการกำจัดนะคะ) การทานตอนท้องว่างจะให้ผลดีที่สุด
ที่จริงการทานเนื้อมะพร้าวก็ไม่ผิดอะไร แต่ที่นี่ตอนบ่ายจะให้ดื่มน้ำมะพร้าวเพื่อเป็นยา ถ้ากินเนือ้ไปด้วยร่างกายจะต้องลหั่งเอนไซม์มาย่อยเนื้อทำให้มันกลายเป็นแค่อาหารว่างเท่านั้นประโยชน์ที่ได้รับจะไม่เต็มที่
ฟังบรรยาย-มีรายการฟังบรรยายเยอะแต่ไม่น่าเบือ่ค่ะ เพราะความรู้ล้วนๆ
อาหารเย็น-เป็นผลไม้สด หลักการแบบเดียวกับอาหารเช้านะคะ
ฟังบรรยายสลับกับการให้รายละเอียดการรักษาตัว ซักถามอาการป่วยของแต่ละคน
สวดมนต์
นอนไม่เกินสี่ทุ่ม-การนอนหลังสี่ทุ่มถึงแม้ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่ทำให้ร่างกายได้ประโยชน์เต็มที่เพระาช่วงสี่ทุ่มมีการหลั่งโกรทฮอร์โมน ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตในเด็ก
ในผู้ใหญ่จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ(ไอ้การซ่อมแซมส่วนสึกหรอนี่ดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ แต่ที่จริงเป็นกระบวนการที่สำคัญมาก เพราะโรคความเสื่อมของร่างกายมาจากการสะสมความสึกหรอที่ร่างกายไม่ได้ซ่อมหรือซ่อมไม่ทันเหล่านี้แหละค่ะ เราไม่ควรทานอาหารหลังสามทุ่มไปแล้วเพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมากมายในการย่อย แทนที่จะได้ไปซ่อมแซมส่วนอื่นๆ
ดังนั้นหลักธรรมชาติบำบัดอีกอย่างคือฟังเสียงในร่างกายตัวเอง ส่งเสริมกระบวนการและกิจกรรมต่างๆของร่างกายโดยไม่ขัดขวาง )
ปกติร่างกายจะหลั่งน้ำย่อยปริมาณมากที่สุดในช่วงมื้อเที่ยงดังนั้นเค้าจึงอนุญาตให้ทานอาหารหนักในมื้อเที่ยง ส่วนตอนเช้านั้น หลักแพทย์แผนปัจจุบันแนะนำว่าควรทานมากๆเพราะร่างกายต้องการพลังงานไปใช้ทั้งวัน แต่จากการศึกษาปริมาณน้ำย่อยที่ร่างกายหลั่งออกมานั้นจะมีน้อยกว่าช่วงเที่ยง เนื่องจากร่างกายกำลังปรับตัวจากการพักผ่อนและทำงานซ่อมแซมเพื่อเตรียมตัวย่อยอาหารหนักในช่วงถัดไป จึงไม่ต้องการใช้พลังงานไปกับการย่อยมากมายในช่วงเริ่มต้น
และในช่วงเย็นร่างกายจะปรับตัวเข้าสู่การทำงานซ่อมแซมน้ำย่อยก็จะมีปริมาณน้อยเช่นกัน นอกจากนั้นร่างกายไม่ต้องการอาหารมากๆในช่วงเวลากลางคืนเพราะไม่ได้ใช้จึงเป็นภาระในการกำจัดและย่อย
แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 22:19:13
แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 22:19:08
แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 22:07:17
แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 13:38:35