เมื่อปีที่แล้ว แม่ฉันป่วยเป็นมะเร็งมดลูกระยะแรก ซึ่งสามารถรักษาหายได้ แล้วก็ได้ตัดมดลูกทิ้งแล้ว ก็ไม่มีการอาการแพร่กระจายใด ฉันก็กลัวจะลาม จึงได้พาแม่ไปหาหมอที่ศิริราช ท่านก็ได้แนะนำให้แม่ฉีดคีโม แต่แม่ไม่ยอมเพราะทราบมาว่า ถ้าให้คีโมแล้ว ร่างกายจะยิ่งทรุด แต่ฉันก็เชื่อหมอ นึกไม่ถึงจะเป็นการทำร้ายแม่ทางอ้อม สุขภาพแม่แย่ลงเรื่อย ทำให้มะเร็งผ่านไป4 เดือน แต่หลังจากนั้น มันกลับออกฤทธิ์ทวีความรุนแรงขึ้น ผ่านมา 6 เดือน มะเร็งได้ลามไปที่ตับระยะสุดท้ายแล้ว มีคุณหมอท่านนึงที่เป็นอดีตแพทย์ศิริราช แต่ตอนนี้ท่านเกษียณ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องมะเร็งหาตัวจับยากคนนึง แล้ว ท่านบอกว่า "ไม่สมควรให้คีโมเลย เพราะคีโม มันนะทำลายทั้งเซลร้าย และเซลดี ผิดที่ให้คีโมตั้งแต่แรกแล้ว ต่างประเทศเค้ายังไม่ให้กันเลย"
อย่ากลับไปให้อีกนะ ไม่งั้นไม่รอดแน่ แล้วท่านก็ได้ทำจ.ม ส่งตัวแม่ไปรับการฉายแสงที่โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณ์ ซึ่งอาการก็ยังทรงๆ เพราะมอร์ฟีน ทานข้าวได้ เดินได้ สุขภาพจิตดีขึ้น แต่แย่ตรงที่มีก้อนแข็งที่ตับ หมอบอกให้ทำใจ ปาฎิหาร์ยอะไรก็ช่วยไม่ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ฉันพยายามหาทางรักษาทั้งแผนปัจจุปัน และสมุนไพร แม้แต่ที่ว่า เคยมีคนนึงเคยไปรักษาที่เกาหลีเหนือ แล้วหาย และก็ได้รับเชิญ ไปเป็นวิทยากร ทางวิทยุ
สมาคมต่างๆ ท่านให้สูตรมาก็ยังไม่ดีขึ้นกลับทรุดกว่าเดิม คนอื่นเค้าหายกัน มีแต่แม่เราที่ทรุด มาทราบจากหมอที่ฉายรังศีว่า มันเป็นชนิดที่ร้ายแรง ยาอะไรก็รักษาไม่ได้ เอาไม่อยู่ ถ้าแม่ไม่ให้คีโม ก็คงไม่ทรุดขนาดนี้ เพราะปรกติท่านแข็งแรงมาก ไม่ป่วยมา 10ปีแล้ว มีคราวนี้ที่หนักที่สุด ฉันน่าจะตามใจแม่ ไม่ฉีดคีโมแต่แรกก็ดี ป่านี้คงหายแล้ว ตอนนี้ฉันรู้สึกเสียใจมาก เป็นความผิดของฉันเอง ฉันฆ่าแม่ทางอ้อม ชาตินี้จะไม่ให้อภัยตัวเองอีกเลย
จากคุณ :
nana20
- [
19 พ.ย. 50 15:24:57
]