ความคิดเห็นที่ 1 เลือกข้อ 1. แต่ถ้าไส้ติ่งแตกกลางทาง ก็ถือว่า..."จบกัน"... จากคุณ : ป๋อหลิน - [ 7 ธ.ค. 50 20:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อยากจะรู้ความรู้สึกของผู้รับบริการครับว่าจากข่าวนี้มีผลกระทบต่อการไปรับบริการหรือไม่ ส่วนฝั่งผู้ให้บริการผมคิดว่ามีผลกระทบอย่างรุนแรงแน่นอน ต่อไปใครคิดจะผ่าตัดที่รพ.ชุมชนคงต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะผ่าดีหรือไม่ ถ้าผ่าตัดเสร็จสิ้นปลอดภัยแพทย์ก็โล่งอกเสมอตัว แต่ถ้าไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ก็... ผมเห็นใจทั้งญาติผู้เสียหายและน้องหมอคนนั้น ความไม่พร้อมในการให้บริการตามต่างจังหวัดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงทุกวัน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ อ่านข่าวนี้แล้วนึกถึงตัวเองครับ เมื่อก่อนทำไมกล้าผ่าตัดตั้งหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นไส้ติ่ง ผ่าตัดคลอด ทั้งที่ไม่มีหมอดมยา ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง ประสบการณ์การผ่าตัดก็มีบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่ ผมโชคดีจริงๆครับที่ผู้ป่วยของผมทุกคนปลอดภัย จากคุณ : I am เตียบ่อกี้ - [ 7 ธ.ค. 50 21:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณป๋อหลินครับ ไส้ติ่งแตกก็รักษาได้ แต่จะผ่าตัดยากขึ้น ให้ยานานขึ้นครับ ปล รู้สึกเราจะเจอกันทุกห้องเลยนะครับ อีกข้อที่สงสัยคือการให้ยาเกินขนาด ผมว่าไม่น่าจะใช่ ไม่มีใครกล้าใช้ยามากกว่า1ampหรอกครับ น่าจะเป็นhigh blockมากกว่า แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 50 21:10:09 จากคุณ : I am เตียบ่อกี้ - [ 7 ธ.ค. 50 21:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมผ่าตัดไส้ติ่งที่ รพ ชุมชน ไม่มีหมอดมยา มีแต่พยาบาลดมยา ส่วนหมอที่ผ่าผมเป็นน้าชายผมเอง เป็นหมอศัลยฯ แต่ไม่ได้ทำงานที่ รพ นั้น แกเป็น  ผอ ที่ รพ อื่น ผมไว้ใจ หมอที่ผ่ามากกว่า จากคุณ : Parn-aE - [ 7 ธ.ค. 50 21:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คิดว่าเป็นhigh block เหมือนกันค่ะ สงสารพี่เค้าจัง จากคุณ : สูงสุดสู่สามัญ - [ 7 ธ.ค. 50 22:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่น่าทำแล้วหละครับ มีปัญหาขึ้นมา คุกน่ะครับ สานไม่ฟังหรอก มันไม่ได้มาตรฐานอเมริกา http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1197027888 จากคุณ : Dr.Eagle - [ 7 ธ.ค. 50 22:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีปัจจัยหลายอย่างที่มากกว่าผู้ป่วยจะเลือกได้ มัน vote ไม่ได้หรอก ถ้าเป็นไม่มาก ส่งตัวทันและไหว ก็อยากให้จะส่งตัว ถ้าไม่น่าจะไหว มันก็ต้องผ่าแหละ และมันก็มีไม่เยอะที่ผ่าแล้วตาย แต่เรื่องยาชาเนี่ย บางทีมันก็คาดเดาผลไม่ได้หรอก บางคนไวต่อการตอบสนองมาก ให้ขนาดปกติ มันก็แสดงผลมากกว่าปกติได้ ถ้ากรณีนี้เป็นคราวซวยจริงๆ คงโทษหมอไม่ได้หรอก แต่อย่างไรก็ดี เราคงต้องดูว่าร.พ.ได้มีการเตรียมตัวในการแก้ปัญหาถ้าเกิดกรณีแบบนี้ไว้ดีหรือไม่ อย่างไร อีกอย่าง ข่าวบอกว่าเลินเล่อ เนี่ย ผมก็ไม่รู้ว่าแค่ไหน เลยไม่อยากวิจารย์ ถ้าเลินเล่อขนาดว่า ให้ไปแล้ว จำไม่ได้ ให้ไปอีก เรียกเลินเล่อโครตๆ หรือคำนวณผิด ให้เยอะเกิน ก็เลินเล่อ แต่ถ้าให้ตามปกติ แต่ผลออกมามากกว่าปกติ อันนี้ผมว่าไม่เรียกว่าเลินเล่อ เรียกว่าหมอซวย ซึ่งน่าเห็นใจ ใครพอรู้รายละเอียดบ้างไม๊ครับ อ่านข่าวแต่ละที่ ไม่ค่อยได้รายละเอียดเลย จากคุณ : Wizard. - [ 7 ธ.ค. 50 22:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนนี้ถ้าไม่มีหมอดมยา ถ้าไม่มีหมอผ่าตัดก็ไม่ทำแล้วล่ะครับ ถ้าหากไส้ติ่งแตกระหว่างทางก็ถือว่า "ซวย" ไป จากคดีดังกล่าวก็เลยเป็นมาตรฐานใหม่ไปเลย รพ.ชุมชนไม่ผ่าไส้ติ่งก็ส่งเข้ามาในรพ.ในเมือง  คนไข้ก็เยอะ ผ่าตัดก็ต้องรอนาน บางทีรอผ่าตัดจนไส้ติ่งแตกก็ฟ้องหมอ รพ.เมืองว่าไม่ดูแล เซ็ง จากคุณ : หมอก้อนหิน - [ 7 ธ.ค. 50 22:58:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าด่วนก้ผ่านะ ถ้าเลือกได้ ก้เลือกข้อ1.แน่นอนอยู่แล้ว ชีวิตทั้งชีวิต ต้องปลอดภัยที่สุดครับ จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง - [ 7 ธ.ค. 50 23:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ต้องซีเรียสครับ เขาให้ผ่าเมื่อมีทุกอย่างพร้อมเท่านั้น ถ้ามีไม่พร้อมก็ไม่ต้องครับ ส่งไปที่ที่พร้อม เป็นอะไรขึ้นมากลางทางเขาก็โทษเราไม่ได้ครับ จากคุณ : Preventive Medicine - [ 8 ธ.ค. 50 00:55:49 A:58.8.85.87 X: TicketID:152311 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สงสารหมอที่รพ.นครศรีธรรมราช (รวมทั้งรพ.ศูนย์ รพ.จังหวัดอื่นๆด้วย) ต่อไปรับรองผ่าตัดกันจนกระอักโลหิต! (แถมยังอาจจะเจออะไรเด็ดๆเข้าไปอีกก็ยังไม่รู้?) จากคุณ : ??? - [ 8 ธ.ค. 50 10:10:38 A:125.24.234.12 X: TicketID:074645 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตาหลกเนอะ ความจริง สมัยก่อนหมอเฉพาะทางดมยา หรือวิสัญญีแพทย์เนี่ย คนให้ความสนใจกันน้อยมาก แม้แต่ในหมู่แพทย์เองก็ไม่ค่อยมีใครสนใจทำเฉพาะทางดมยา ..เพราะหาเงินเข้ากระเป๋าได้น้อยกว่าหมอเฉพาะทางอื่นๆ  ...และหมอทั่วไปก็เป็นหมอที่รักษาได้ทุกแบบมานานแล้ว ไม่ว่าจะโรคหวัด สิว ภูมิแพ กระดูก ตา จมูก ผ่าตัด ทำคลอด ...มัวรอหมอเฉพาะทางครบทุกสาขา ก็จังหวัดหนึ่งเปิดได้แค่ รพ. เดียว........ตอนนี้คนเริ่มรู้จักหมอดมยาแล้ว ...อยากรู้จังต่อไป หมอทั่วไป หรือ หมอศัลย์ ยังจะทำการผ่าตัดได้หรือไม่ถ้าไม่มีหมอดมยา จากคุณ : rainfull - [ 8 ธ.ค. 50 11:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อึ๋ย ตัดสินว่าผิดเพราะว่าให้ยาเกิน แล้วผมจะซวยไหมเนี่ย วันๆ ให้ยา paracetamol 325 mg ให้เด็กหนัก 20 กิโล ถ้าหากเด็กช็อคตายคงมาโทษผมอีกล่ะ จากคุณ : หมอก้อนหิน - [ 8 ธ.ค. 50 12:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 http://www.tmc.or.th/detail_news.php?news_id=292&id=4 "แพทยสภารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งและเป็นอุทาหรณ์ที่ทำให้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต่อไปนี้ในกรณีที่จะมีการผ่าตัดใดๆก็ตามที่จะต้องมีการที่จะต้องมีการดมยาสล บหรือยาระงับความรู้สึกโดยการฉีดเข้าทางช่องไขสันหลังควรจะต้องกระทำในโรงพยาบาลที่มีวิสัญญีแพทย์เท่านั้น มิฉะนั้นแพทย์จะมีความเสี่ยงมากเพราะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ " ขอไว้ทุกข์ให้กับระบบสาธารณสุขไทย จากคุณ : ถ้ามาตรฐานนี้ ผมคงโดน10ปี (jek ae) - [ 8 ธ.ค. 50 12:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถึงคนใข้จะอยากผ่าหมอคงไม่ยอมทำให้แล้วละ ใครจะเอาอนาคตไปเสี่ยง รักษาหายเสมอตัว ตายไปซวยทั้งชีวิต จากคุณ : ลุงกระปุกยา - [ 8 ธ.ค. 50 21:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก็ตามอ่านกระทู้อยู่ อันนี้แสดงความคิดเห็นในฐานะคนไข้นะคะ ถ้าโรงพยาบาลที่มีหมอดมยานั้นคิวยาว เราก็จะขอกลับมาผ่าที่รพ.ชุมชนค่ะ เพราะคิดแบบคนทั่วๆไปที่ไม่มีความรู้เรื่องการรักษา คิดว่าผ่าตัดไส้ติ่งคงไม่มีอะไรมาก หมอจบใหม่ก็คงผ่าได้ ชิล ชิล (คิดอย่างนี้จริงๆนะ เอ้อ)  ถ้ายังพอมีเวลาก็จะขอให้หมออธิบายการรักษาด้วย (ปกติแล้วข้อมูล ขั้นตอนและความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในการรักษานี่คนไข้ถามหมอได้หรือเปล่าคะ และควรถามไหม ก็เกรงใจหมอเหมือนกัน) และจะบอกกับคุณหมอที่รักษาว่า ขอให้คุณหมอรักษาเราให้ดีที่สุดตามกำลัง และตามสติปัญญาที่หมอมี ถ้าหมอรับรองว่า พยายามดีที่สุดแล้ว แต่ยังเกิดเหตุผิดพลาดใดๆ เราก็จะไม่ว่าอะไร   อืม.... บางที เราคิดว่ามันอยู่ที่เรื่องการสื่อสารระหว่างหมอ คนไข้ ญาติคนไข้ ที่มีความไม่กระจ่างในการสื่อสารด้วยละมั่งคะ อย่างเราเอง ปกติก็เป็นคนเอาเรื่องอยู่ แต่ถ้าได้รับคำอธิบายที่เข้าใจได้ ก็ไม่มีปัญหา จากคุณ : wildlotus - [ 8 ธ.ค. 50 22:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบคุณ wildlotus ค่ะ -ถ้าคนไข้ถามก็ตอบให้ค่ะ แต่เราคนนึงล่ะค่ะ ที่ไม่ผ่าใส้ติ่ง ใส้เลื่อน รึว่าทำหัตถการในโรงพยาบาลชุมชนอีกแล้วค่ะ แต่ก่อนก็เคยคิดว่าชิล ชิล ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ชิวแล้วอ่ะ.... ไม่รู้ว่าขามันจะไปอยู่ในตารางเมื่อไหร่ ส่งต่อโลดค่ะ.. ไม่มีปัญหากะตัวเองดี (ใครจะด่าว่าโบ้ยงาน เห็นแก่ตัว ฯลฯก็เหอะ...) -ไม่ได้เห็นแก่ตัว... แต่สถานการณ์บังคับให้เอาตัวรอดค่ะ -เป็นไปได้เอาจริงๆอยากตรวจคนไข้ซัก30คนต่อวันอ่ะค่ะ อยากถามอะไรก็ถาม อยากรู้ข้อมูลเพิ่ม ถ้าไม่รู้จะไปหาให้... แต่เอาแค่30คนต่อวันพอนะ.. ถ้าเกินกว่านี้ก็ให้กลับบ้านไปต่อคิวใหม่พรุ่งนี้ละกัน(ถ้าเริ่มทำจริงๆแล้วจะมีคนด่าเรามั้ยเนี่ย) จากคุณ : สูงสุดสู่สามัญ - [ 9 ธ.ค. 50 15:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คิดว่าผลโหวตที่ได้ จะไม่สามารถนำไปตัดสินใจอะไรได้ เพราะ   ชาวบ้านจริงๆ ไม่สามารถเล่นเนตได้  อย่าลืมว่าบางที่ น้ำ ไฟยังไม่ถึง ถนนยังไม่ดีพอ ถึงถนนดี ก็ไม่มีรถผ่านแบบในเมืองหรือจังหวัดใหญ่ๆ นับประสาอะไรกับอินเตอร์เนต  ขนาดเราไปอยู่เมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว เวลาขอต่อเนตเข้ารพ.เนี่ย ยากมาก เพราะไม่มีคู่สาย  กว่าจะขอได้ใช้เวลานาน และค่าบริการก็แพง เทียบกับค่าครองชีพชาวบ้าน    ดังนั้น คนที่จะตอบกระทู้นี้ได้ มักจะอยู่ในจังหวัดใหญ่ๆไม่กันดาร เพราะฉะนั้น คุณมองภาพไม่ออกหรอก ว่าเวลาเพียงไม่กี่นาที มีความสำคัญกับชีวิตคนขนาดไหน  โดยเฉพาะ พวกคลอดยากเนี่ยสิ  เด็กอาจตายได้ ทุกเมื่อ  แถมเคสที่เป็นสูติเนี่ย คนมักจะคิดว่า มารพ.1คน ต้องกลับบ้าน 2 คน ไม่ใช่กลับบ้านคนเดียว (แม่หรือลูกตาย) หรือว่าไม่ได้กลับบ้านกันเลย (ตายทั้งแม่และลูก)    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจทำให้เกิดเด็กพิการ หรืออัตราตายของเด็กเพิ่มขึ้น ซึ่ง อัตรานี้ใช้วัดความพัฒนาของประเทศซะด้วยสิ จากคุณ : ฮากันตรึม - [ 9 ธ.ค. 50 19:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อาจจะต้องตั้งคำถามอีกกระทู้นึงด้วยมังครับ ... ต่อไปหมอจะกล้าผ่าตัดไส้ติ่งให้คนไข้ใน รพ.ชุมชนหรือไม่ ??? ... ในเมื่อ รพ.ชุมชนไม่เคยมีความพร้อม จะพร้อมได้ก็คงต้องรอให้กระทรวงสาธารณสุข จัดศัลยแพทย์ และวิสัญญีแพทย์ไปประจำได้ครบทุก รพ. ... ใครจะกล้ารับประกันให้ว่าหากเกิดเหตุสุดวิสัยหมอจะไม่ติดคุก ... มีคนยุให้หมอลาออกไปเป็นดาราดีกว่า ขับรถชนคนตายก็ไม่ติดคุก จากคุณ : Magic+ - [ วันรัฐธรรมนูญ 11:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 ธ.ค. 50 11:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ก็ดี ต่อไปจะได้ refer เยอะ ๆ ให้คนไข้ไส้ติ่งแตกตายกลางทางแทน คิดว่าคงจะได้มีคนตายมากขึ้นครับ จากคุณ : kedinvent - [ 11 ธ.ค. 50 19:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มีหลายคำถามเกิดขึ้นในหัว หลังจากอ่านสองกระทู้นี้ ก็อยากทราบเหมือนกันว่า แพทย์กลัวความเสี่ยงว่าตัวเองจะมีความผิด มากกว่า หรือ แพทย์ มีอุดมการณ์ที่จะรักษาคนไข้ ให้รอดชีวิต มากกว่า แพทย์ เรียนแพทย์มา เพื่ออะไร และ หากว่า แพทย์มีความเสี่ยงจะมีความผิดนั้นแล้ว แพทย์จะยัง อยากรักษาคนไข้ ต่อไปหรือไม่ และหากมีความเสี่ยงสูงแล้ว แพทย์ทำการหลีกเลี่ยง ที่จะรักษา แล้วคนไข้ จะสามารถพึ่งใคร แพทย์จะยอมรับความเสี่ยง เพื่อ ทำการรักษาให้คนไข้หรือไม่ จะรอดูต่อไป จากคุณ : ทำความดีเพื่อในหลวง (Adore) - [ 11 ธ.ค. 50 19:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คห.22 ข้างบนนะ ไม่ได้เป็นหมอหรอก แต่ก็อยู่ใกล้ ๆ นี้หละครับ อุดมการณ์ในการช่วยคนไข้หนะมีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีคงไม่ทำ แต่ถามว่าถ้าทำแล้วเค้าไม่เห็นคุณค่า เค้าเห็นแต่ว่า สิ่งที่คุณทำนั้นมันเหมือนกับหุ่นยนต์ สั่งอะไรไปแล้ว ก็ต้องได้ตามสั่ง ทำได้ตรงตามสั่ง ก็เท่านั้น แต่ถ้าผิดพลาดแล้วก็เตรียมด่า เตรียมว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ ถามว่าใครจะทนได้ มันไม่มีอะไรที่ 100% สำหรับทางการแพทย์จริง ๆ ยาแก้ปวด Paracetamol ขนาดทั่ว ๆ ไปก็กิน 10 mg / Kg. แต่จะมีไหม บางคนที่กินแล้ว ยังไม่หายปวด หรือกินแค่ 5 mg./kg. แล้วหายปวด มีทั้งนั้น ขนาดปรกตินั้น คือ คนส่วนใหญ่ใช้แล้วรักษาได้ ทางการแพทย์ อันตรายของยา บางทีเค้าดูที่ค่า LD50 หรือ LD90 ซึ่งหมายถึงอะไร หมายถึง ขนาดยาที่ให้เข้าไปแล้ว ทำให้สัตว์ทดลองนั้นเกิดการเสียชีวิตไป 50% หรือเสียชีวิตไป 90% ถ้าเข้าใจคำนี้ ถามว่าความเสี่ยงอันนี้ยอมรับได้หรือไม่ รับไม่ได้ครับ เพราะถ้าใช้ยาในขนาดนี้แล้วยังอาจเสียชีวิตได้ 10% ดังนั้นค่าที่เหมาะสมคือเท่าไหร่ LD0 ใช่ไหม คือขนาดที่ให้ไปแล้ว สัตว์ไม่ตายเลย แต่ในขนาดที่ LD0 นั้น ขนาดยานั้นจะไม่สามารถรักษาโรคได้ อันนี้แค่ตัวอย่างเล่น ๆ อยากให้เห็นภาพหน่อยว่า อะไร คือ ความไม่แน่นอนทางการแพทย์ มารักษาแล้ว ให้ยา จะรักษาได้ตลอดไปไหม มันก็ไม่ใช่ แค่ส่วนใหญ่ใช้แล้วจะหายก็แค่นั้น แต่ถ้าได้ไปแล้ว ร่างกายดันตอบสนองมากกว่าคนปรกติทั่วไป แล้วตาย ตกลงแล้วเป็นความผิดของใคร ความผิดของคนให้ หรือ ความผิดของคนตายที่ร่างกายคุณตอบสนองได้มากกว่าปรกติ หรือ ไม่มีใครผิด จากคุณ : beverage144 - [ 12 ธ.ค. 50 15:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สิ่งที่ทำให้รู้สึกแย่ที่สุด คือ เราตั้งใจทำดีเพื่อเขาเต็มที่ แต่เขาแปลเจตนาผิดว่าเราตั้งใจทำร้ายเขา และต้องการทำให้เราเจ็บสาหัสที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถามกลับความเห็นที่ 22 ดีกว่า ว่าถ้าคุณเจอสถานการณ์แบบนี้บ้าง จะทำอย่างไร ถ้าสังคมไทยยังเป็นเช่นนี้ ต่อไป วงการแพทย์จะได้ใช้มาตรฐานอเมริกา  จ่ายค่ารักษาแพง เพราะแพทย์ต้องจ่ายค่าประกันความเสี่ยง แบบกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H6104560/H6104560.html จากคุณ : ความสัมพันธ์ที่ดีกำลังเปลี่ยน (ฮากันตรึม) - [ 12 ธ.ค. 50 20:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 :-)ูผลโหวตแล้ว งานน้อยลง ดีใจจัง ไม่อยากได้หรอกเงินเยอะๆน่ะ เอาแค่พอมีพอกินอย่างสบายๆก็พอแล้ว จากคุณ : อมยิ้มสีฟ้า - [ 13 ธ.ค. 50 23:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมไม่ขอตอบนะครับแต่มีที่ให้คิดว่า ผมเคยอยู่ รพ. ชุมชน ที่โคราช ซึ่งห่างจากตัวเมือง 100 กม. แล้วมีมารดาที่ใกล้คลอด แล้วพบว่ามีหัวใจเด็กเต้นช้าลงเรื่อยๆ จาก 150 ครั้ง / นาที(ภาวะปกติในเด็กในครรภ์) เหลือ 70 ครั้ง/นาที อล่วลดลงเรื่อยๆ นาที ละประมาณ 10 ครั้ง ผมอยากทราบว่า เพื่อนๆ พี่ในที่นี้ จะทำอย่างไรครับ 1. ส่งตัวไป รพจังหวัด ที่มีหมอพร้อม ใช้เวลา ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง 2. ผ่าตัดด่วน แต่ว่าไม่มีแพทย์ดมยาอยู่   อยากให้ทราบว่าในต่างจังหวัด บางที รพ ชุมชนกับ รพ จังหวัด ห่างกันมากกว่า 100 กม ก็มีนะครับ สำหรับเรื่องนี้ ไม่อยากโทษว่าอะไรผิด ผมลองมีมุมมองอื่น ลองมาดูที่สื่อไหมครับ ว่าประโคมข่าวไวไปไหม ว่า หมอชุ่ยทำคนไข้ตาย ตั้งแต่ยังไม่ได้ตัดสินว่าใครผิด แล้ว ทีตอน ประท้วงพฤษภา ปี 2535  ทำไมมีคนตายเยอะแยะ แต่ไม่มีใครโดนจำคุกเลยครับ หรือ อยากให้ลองคิดว่า ถ้าจำเลย รอลงอาญา แล้วยังตรวจคนไข้ต่อ จะสามารถทำประโยชน์ได้มากกว่าไหมครับ ปล. ถ้าใครอยากแสดงความเห็นส่วนตัว Pm หรือ เมลมาได้ครับ  ตอบได้ทุกคนนะ จากคุณ : xeexaa - [ 17 ธ.ค. 50 22:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กระทู้นี้ให้โหวต แค่เลือก ได้ว่าเอาหมอดมยาหรือไม่ แต่ ขาดข้อมูลที่ประกอบการตัดสินใจ ที่สำคัญมาประกอบด้วย ก็คือ ในรพจังหวัดทั่วไป มีหมอดมยา ไม่ถึง ครึ่ง และปัจจุบัน เคสที่ผ่าตัด และ มีหมอดมยา เป็นคนดมยานั้น มีไม่ถึง 5% นั่นหมายความว่า ถ้าจะเลือกใช้หมอดมยาทั้งหมด หมอดมยาต้องทำงานหนักเพิ่ม เป็น 20 เท่า หรืออีกนัยหนึ่ง คนไข้ต้องรอนานเพิ่มเป็นยี่สิบเท่า ถ้ารพ.นั้นมีหมอดมยา ซึ่งเคยดมยา วันละ 3 เคส ก็ต้องเพิ่มเป็น 60 เคส ซึ่งแน่นอนทำไม่ทัน  ถ้าทำเพิ่มไอ้อีกซัก 3 เท่าเป็นวันละสิบเคส เหลืออีก 50 เคส จะไม่ได้รับการผ่า ปล่อยวัดดวง ถ้าคุณเลือก ต้องดมยาด้วยหมอดมยาเท่านั้น คุณต้องรับความเสี่ยง ตรงนี้ ด้วยไม่ใช่เอาแต่ได้อย่างเดียว เพราะว่า ข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ ฉันจะผ่ากับหมอดมยา แต่คนอื่น มาแย่งฉันไม่ได้  ข้อเท็จจริง ในปัจจุบันมันเป็นอย่างนั้น ทรัพยากร มันมีจำกัด ครับ จากคุณ : -=Jfk=- - [ 18 ธ.ค. 50 13:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอตอบคำถามของคุณ no. 22 หากว่าคุณทำได้ผมจะยกให้เลยครับ ในปัจจุบัน หากไม่ถืออุดมการณ์ แพทย์อย่างผมคงไม่มาอยู่ในรพ.รัฐบาลที่ทั้งงานหนัก รอคิวนาน แปลอีกนัยหนึ่งคือวันหนึ่งต้องตรวจเยอะมาก เงินเดือนน้อยกว่าค่าเติมน้ำมันรถในแต่ละเดือน และที่สำคัญไม่มีแพทย์ดมยา หากคุณไม่ว่าจักทำงานในวิชาชีพอะไรก็ตามผมจักขอให้คุณได้เจอสถานการณ์เช่นเดียวกันนี้ คุณจักได้เข้าใจอย่างแจ่มชัด หรือพบกับคนที่คุณรักจะได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ขอบคุณครับ จากคุณ : คุณคนเหน็ดเหนื่อย - [ 22 ธ.ค. 50 22:29:34 A:58.10.18.223 X: TicketID:163768 ]