ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เห็นมีผู้เชี่ยวชาญ fast5 มาตอบ ตอบให้ก็ได้ครับ ตอบแบบกลางๆ ... BMR 2000 ไม่ควรกินอาหารน้อยกว่าวันละ 2000 ครับ การกิน 1600 fast5 ก็คงไม่สนับสนุน ... คุณกินวันละ 2000 ก็ลดน้ำหนักได้แล้วครับ เพราะคุณกินเท่ากับ BMR ถือว่าขาดดุลอยู่แล้ว พล้งงานที่ใช้ในกิจกรรมปกติในคนที่ไม่ออกกำลังกายก็ประมาณ 10% ของ BMR ... นั่นก็คือหากกินเท่า BMR แล้วใช้พลังงานในกิจกรรมปกติ คุณจะได้รับเท่ากับ BMR แต่ใช้เท่ากับ BMR + 10% ... หากกินวันละ 2000 จะแบ่งเป็นวันละ 3-4 มื้อ หรือ กินให้จบในห้าชั่วโมงแบบ fast5 ผลไม่แตกต่างกันครับ ถือว่ารับพลังงานเข้าไปเท่ากัน จากคุณ : Magic+ - [ 23 ธ.ค. 50 18:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยืนยันความเห็นข้างบนว่า Fast-5 ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดเร็วขึ้นแต่สำหรับบางคนมันช่วยให้ควบคุมปริมาณอาหารได้ง่ายขึ้น บางคนพูดถึงว่า Fast-5 ทำให้เกิด Ketosis คือดึงพลังงานจากไขมันมาใช้โดยตรง ความเห็นโดยส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะใช่เพราะช่วงเวลาที่อดสั้นเกินไปที่จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะนั้น ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีใครเข้าใจว่าทำไม Intermittent Fasting (การไดเอ็ท ประเภทของ Fast-5) ถึงให้ผลบางอย่างที่ต่างจากการจำกัดแคลอรี่ธรรมดา แต่มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่า Fast-5 ทำให้เซลในร่างกายผ่านความเครียดอ่อนๆจากการอดอาหารและกระตุ้นกลไกการป้องกันตัวเองและกลไกแก่ตัวลงของเซล กลไกนี้อาจจะอธิบายว่าทำไมบางคนยืนยันว่าการอดอาหารสลับกับทานปกติทำให้สุขภาพดีขึ้น รอกูรูท่านอื่นที่ศึกษา Fast-5 โดยตรงมาตอบนะคะ จากคุณ : ปะการังเรืองแสง - [ 23 ธ.ค. 50 22:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนว่า Fast-5 จะสามารถช่วยให้การลด+ควบคุมน้ำหนักทำได้ดีกว่าการทานวันละ 3 มื้อ คำอธิบายก็อยู่ในหนังสือ The Fast-5 Diet and The Fast-5 Lifestyle ในบท The Physiology of Fast-5 อ่ะค่ะ ในความเห็นเรา การที่ Fast-5 สามารถช่วยลด+ควบคุมน้ำหนักได้ดี ก็เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้ค่ะ 1. Fast-5 เป็นตัวช่วยคุมแคลอรี่ เฉลี่ยน้อยลงกว่าเดิมวันละ 500 แคลอรี่ เมื่อทานน้อยลงน้ำหนักมันก็ลด 2. ภาวะ ketosis วันละประมาณ 16-17 ชั่วโมง ระดับอินซูลินจะต่ำหลัง EW 2-3 ชั่วโมง เรื่อยไปจนถึง EW ของอีกวัน ถ้าต้องการเร่งลดน้ำหนัก ก็อาจจะต้องทำแบบนี้ 1. ออกกำลังกายตอนท้องว่าง ก่อน EW 1-2 ชั่วโมง (ท้องว่างมาแล้ว 17-18 ชั่วโมง) เพื่อเพิ่มการเผาไขมัน และเพื่อเพิ่มการหลั่ง growth hormone 2. จากข้อ 1 ถ้าจะให้ดีกว่า ก็ควรออกกำลังกายแบบที่เค้าเรียกกันว่า interval training และ HIIT 3. ทานอาหารแบบ low carb เพื่อเพิ่มภาวะ ketosis 4. เลือกคุณภาพอาหาร ทานแค่อิ่ม อย่าสักแต่ว่าทานตามใจปาก เพื่อลดแคลอรี่ที่ไม่จำเป็น เราเองคงสรุปได้ว่า จำนวนแคลอรี่น่าจะสำคัญที่สุด รองลงไปก็คือช่วงงดอาหาร 19 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าต้องการลดน้ำหนักด้วย Fast-5 คุณก็คงต้องทานอาหารใน EW แค่อิ่ม แต่ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องอาหารมากนัก คุณจะทานอะไรก็ได้ ไม่มีการนับแคลอรี่ ไม่มีการจำกัดประเภทของอาหาร แต่ให้ทานแค่อิ่ม อย่าจงใจทานมาก อย่าทานตามใจปาก แต่ถ้าต้องการลดเร็วๆ ก็คงต้องควบคุมเรื่องคุณภาพอาหาร ต้องออกกำลังกายค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 50 13:24:36 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 50 11:29:32 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 50 11:26:21 จากคุณ : Xoop - [ 27 ธ.ค. 50 11:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในความเห็นเรา เกี่ยวกะประเด็นเรื่อง health benefits ของ Fast-5 นั้น มีผลการวิจัยล่าสุดบางชิ้นที่สนับสนุนว่า health benefits ของ dietary regimen ลักษณะคล้ายๆ sub-day fasting (เช่น Fast-5, Warrior Diet, Ramadan-style fasting) เกิดขึ้นเพราะ effect ของ Calorie Restriction (CR) ค่ะ Calorie Restriction (CR) ในที่นี้ไม่ใช่การจำกัดแคลอรี่ธรรมดาเพื่อลดความอ้วน แบบที่พวกคนอ้วนทำกันนะคะ เพราะ CR ทั่วไปจะต้องลดแคลอรี่ลง 30-40% จากจำนวนปกติ (ทาน 60-70% ของแคลอรี่ปกติ) และต้องพยายามเลือกทานแต่อาหารคุณภาพดีมากๆ อย่างอาหารแคลอรี่ต่ำแต่ให้สารอาหารสูง เช่น ถ้าจำนวนแคลอรี่ปกติของคุณคือ 2000 ต่อวัน ถ้าคุณจะทำ CR คุณก็ต้องทานวันละแค่ 1200-1400 ไปตลอดชีวิต และเมื่อคุณทานน้อยลง คุณก็ต้องใส่ใจเรื่องคุณภาพอาหาร เพื่อให้แคลอรี่ 1200-1400 นี้ให้สารอาหารครบเท่าที่ร่างกายคุณต้องการ เพราะถ้าไม่แล้ว คุณอาจจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพราะร่างกายขาดสารอาหาร แทนที่จะมีอายุยืนเพราะ CR ค่ะ แต่ปัญหาคือ มนุษย์ทั่วไปคงไม่สามารถทำ CR ไปได้ตลอดชีวิต (แม้แต่จำกัดอาหารเพื่อลดความอ้วน ก็ยังทำกันไม่ค่อยจะได้ในระยะยาวเลยค่ะ หุหุ) ดังนั้นจึงมีคนพยายามหายา หรืออะไรก็ได้ ที่จะสามารถสร้าง effects ของ CR โดยที่ไม่ต้องจำกัดอาหารค่ะ และการงดอาหารวันละ 19-20 ชั่วโมง การงดอาหาร 24 ชั่วโมงสลับกับการทานอีก 24 ชั่วโมง หรือการทานงดอาหารวันเว้นวัน (งดอาหาร 36 ชั่วโมง) หรือที่เรียกรวมๆ ว่า  Intermittent Fasting (IF) ก็อาจเป็นวิธีที่สามารถสร้าง effects ของ CR ได้ค่ะ เท่าที่เราติดตามเรื่องนี้มานาน สำหรับ health benefits ของ Intermittent Fasting (IF) นั้น จนป่านนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า มันเกิดเพราะตัว IF เอง หรือเกิดจาก CR ที่แฝงอยู่ใน IF กันแน่ค่ะ เพราะบางงานวิจัยก็พบว่า สัตว์ทดลองกินอาหารได้น้อยลงกว่าปกติ (CR) ในวัน feeding (แคลอรี่โดยรวมลดลง) แต่บางงานวิจัยก็พบว่า สัตว์ทดลองกินอาหารมากเกือบ 2 เท่าในวัน feeding (หมายความว่า แคลอรี่โดยรวมไม่ลด หรือแทบไม่ลดลงเลย) ค่ะ มีนักวิทยาศาสตร์บางคนตั้งสมมุติฐานว่า การที่ CR และ IF สามารถทำให้สัตว์ทดลองมีสุขภาพดีขึ้น มีอายุยืนขึ้น ก็น่าจะเป็นเพราะสาเหตุต่อไปนี้ค่ะ - CR เน้นที่การช่วยลด free radicals/ROS (byproducts ของ metabolism) ยิ่งทานมาก ก็ยิ่งเกิด byproducts มาก - IF เน้นที่การสร้าง mild stress ให้กับเซลล์ของอวัยวะต่างๆ จนมีความต้านทานต่อความเสื่อม จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มียา อาหารเสริม รูปแบบอาหาร การออกกำลังกาย หรือวิธีใดๆ ที่สามารถช่วยให้สัตว์ทดลองสุขภาพดีขึ้น มีอายุยืนขึ้น ได้เหมือน CR ค่ะ (ไม่พูดถึงผลกับมนุษย์นะคะ เพราะยังไม่รู้ว่า CR จะได้ผลในมนุษย์เหมือนในสัตว์ทดลองหรือไม่) จะมีก็แต่ Resveratrol ที่สามารถสร้าง effects บางอย่างเหมือนกับ CR (เช่น SIRT1 Activation) แต่บางกระแสก็บอกว่า ยังไงมันก็ยังไม่สามารถทำได้เหมือน CR ของจริงค่ะ IF ที่ทำกับสัตว์ทดลองนั้น เป็นแบบที่เค้าเรียกกันว่า Alternate-Day Fasting (ADF) หรือ Every Other Day Fasting (EOD) คือให้สัตว์ทดลองงดอาหารนาน 24-36 ชั่วโมง สลับกับ feeding day อีก 14-24 ชั่วโมงอ่ะค่ะ ไม่ใช่ sub-day fasting แบบ 19-20 ชั่วโมงของ Fast-5 นะคะ แต่ในงานวิจัย CR บางชิ้นก็ให้อาหารสัตว์ทดลองวันละ 1 ครั้ง และสัตว์ก็น่าจะกินอาหารนั้นหมดอย่างรวดเร็ว นั่นก็หมายความว่า สัตว์ทดลองต้อง fast วันละ 20-23 ชั่วโมง ซึ่งอันนี้ก็คล้ายกับ Fast-5 เลยค่ะ ดังนั้นในความเห็นส่วนตัว เราเองเลยสรุปว่า Fast-5 น่าจะเป็นรูปแบบหนึ่งของ CR มากกว่าจะเป็น IF ค่ะ โดยถ้าคุณต้องการ health benefits จาก Fast-5 คุณก็ต้องทำ CR ระดับใดระดับหนึ่ง โดยการทานแค่พออิ่ม อย่าสักแต่ทานตามใจปากจนอิ่มมากเกินไป และต้องเลือกอาหารคุณภาพดี สรุปง่ายๆ ก็คือ Fast-5 เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยให้เราทำ CR ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง เพราะในระยะยาวแล้ว การเตรียมอาหารคุณภาพดี 3 มื้อ การเอาแคลอรี่ 1200-1400 มาแบ่งเป็นมื้อย่อยๆ 3 มื้อ มันทำได้ยากกว่าการเตรียมอาหารคุณภาพดีครั้งเดียวและการทานทีเดียวใน EW ของ Fast-5 ค่ะ มีงานวิจัยในมนุษย์ (เป็น peer-reviewed journal) ที่เรียกว่า Alternate-Day Calorie Restriction (ADCR) หรือการจำกัดแคลอรี่แบบวันเว้นวันอ่ะค่ะ ซึ่งเป็นการดัดแปลง Alternate-Day Fasting (ADF) โดยที่ไม่ต้อง fast แบบ 0 แคลอรี่ แต่ให้ทำ semi-fasting หรือ modified fasting (ทานให้ได้แคลอรี่ 20-50% ของปริมาณปกติในวัน fasting สลับกับการทานปกติในวัน feeding) ซึ่งก็ให้ health benefits คล้ายกับ CR/IF ตามนี้ค่ะ - ลด free radicals (หลายทฤษฎีบอกว่าเป็นต้นเหตุของความแก่) - ลด chronic inflammation (ต้นเหตุของหลายโรค) มีหลักฐานหลายอย่างที่สนับสนุนว่า ADCR สามารถช่วย improve, delay และ prevent โรคที่เกิดหรือเกี่ยวเนื่องกับความแก่ดังต่อไปนี้ค่ะ - asthma (หืด) - arthritis - atherosclerosis - allergies (ไม่ได้ระบุว่าเป็นแบบไหน) - auto-immune disease - cancer - Alzheimers - Parkinson - multiple sclerosis CR และ IF อาจมีความเหมือน หรือมีความสัมพันธ์กันนะคะ เช่น ทำ IF แต่อาจได้ CR ที่แฝงอยู่ หรือ IF ก็คือ CR รูปแบบหนึ่ง แต่เป็น CR แบบสุดขีดคือจำกัดเหลือ 0 แคลอรี่เป็นช่วงๆ (หรือจำกัด 0-50%) จนสามารถกระตุ้น CR process ให้ทำงานได้ แต่ก็ยังไม่มีใครรู้คำตอบที่แท้จริงค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 50 14:28:18 จากคุณ : Xoop - [ 27 ธ.ค. 50 13:07:14 ]