ความคิดเห็นที่ 1 Glucosamine ในไทย ขึ้นทะเบียนเป็นยาทั้งหมดครับ ไม่มีขึ้นเป็นอาหารเสริม พูดถึงคุณภาพ ในทางทฤษฎีใกล้เคียงกันครับ แต่ในทางปฏิบัติ ผมเลือกใช้ Viatril-s ก่อนครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 23 ม.ค. 51 19:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มีผลงานวิจัย ในต่างประเทศ บอกว่า แตกต่างกัน .. ผมก็คิดว่า น่าจะต่างกันนะครับ ... แต่ไม่ได้มีการวิจัยจริง ๆ จัง ในประเทศไทย ว่าต่างกันแค่ไหน .. จากคุณ : หมอหมู - [ 23 ม.ค. 51 19:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เหมือนกันหมด ตัวที่ต่างกัน อยู่ที่ขนาดโมเลกุล ซึ่งใช้งานคนละอย่าง อีกทั้งทำให้ราคาแพงกว่ากันอย่างมาก ที่ขายอยู่ในท้องตลาด ทั้ง 3 ยี่ห้อ Viartril-S /Gluco-S /Flexa เหมือนกันหมด ส่วนที่จดทะเบียนไม่เหมือนกัน เป็นเทคนิคการลดต้นทุน 2 ชื่อแรก เป็นขนาด 250 มก. ส่วนชื่อหลัง เป็นขนาด 500 มก. ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6 บาท/10 บาท เป็น Chitosan ล้วนๆไม่มีส่วนผสมอื่นเลย ดังนั้นกินยี่ห้อไหนๆก็เหมือนกัน เราทำกินเองตั้งแต่เมืองไทยยังไม่มีขาย จากคุณ : ชัยบาล - [ 23 ม.ค. 51 21:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวผมถ้าราคาต่างกันเยอะผมจะลองกินของไทย แ่ต่ถ้าต่างกันนิดเดียวผมกินของที่มั่นใจ ตอนนี้ปกติกินViartril-S แ่ต่ล่าสุดแม่ไปซื้อของไทยมาให้เป็นกระปุกเลยเห็นว่าไม่กี่ตังเองก็ว่าจะกินสลับๆกัน จากคุณ : Parachies - [ 24 ม.ค. 51 07:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปกติกิน Gluco-S เพราะร้านที่เป็นสมาชิกอยู่ขายเม็ดละ 5 บาท แต่จะบอกความลับให้ว่า ถ้ากินมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องกินทุกวัน เพราะเปลืองเงิน และ ร่างกายไม่ได้ใช้สารตัวนี้ในฐานะที่เป็นยา แต่จริงๆแล้วใช้ในการเป็นอาหารเสริม คือกระตุ้นให้ร่างกาย สร้าง สารตัวอื่นขึ้นมาอีกทีหนึ่ง....เว้นแต่จะกินเพื่อลดนน.ซึ่งต้องกินทุกมื้อ เรากินแรกๆ(แก้ข้อเข่าอักเสบ) กินพอหายเจ็บ ก็จะลดลง เหลือวันเว้นวัน ครั้งละ 1 เม็ด ว่าแต่ของไทยที่คุณParachies พูดถึงนั้นยี่ห้ออะไรราคาเท่าไหร่ ขอหลังไมค์หน่อย เผื่อจะไปหามาดูมั่ง เพราะลูกสาว จะกินบำรุงผม จากคุณ : ชัยบาล - [ 24 ม.ค. 51 08:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น้ำตาล Glucosamine ในไทยต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาครับ ส่วนไคโตซานที่เป็นอาหารเสริม เป็น Polymer ของ Glucosamine ที่เป็นสายต่อกันยาวๆ ไคโตซาน เป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ในทางเดินอาหาร เนื่องจากร่างกายไม่มีเอ็นไซม์ที่ย่อยสารนี้ได้ ทั้งหมดจะถูกขับออกทางอุจจาระ ถือว่าเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่ง ดังนั้นการกินไคโตซานเพื่อให้ได้ Glucosamine ไปสร้างน้ำในข้อเข่านั้นไม่เป็นความจริงครับ รูปแบบ Glucosamine ที่ได้ผลในงานวิจัยจะอยู่ในรูป Glucosamine sulphate ซึ่งร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทางการกิน จากคุณ : pizza_p - [ 24 ม.ค. 51 16:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เวลาที่กินไคโตซาน..ถ้ากินในรูปบดเป็นผง กรดในร่างกายสามารถย่อยได้สะดวก แต่ถ้ากลัวว่าการย่อยจะไม่สมบูรณ์....มีวิธีกินพร้อมสารอาหารบางอย่าง ที่สามารถทำละลายไคโตซาน ให้ร่างกายเอาไปใช้ประโยชน์ได้ สารอาหารตัวที่ว่านี้เป็นสารอาหารหรือสิ่งที่เราบริโภคอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่เวลาที่ทำกินเอง ขี้เกียจไปจ้างเขาบดและบรรจุแคปซูล ....ก็จะทำละลายก่อน โดยใช้สารที่พูดถึงข้างบน   ให้อยู่ในรูปของของเหลว แล้วจึงกินเข้าไป ไคโตซานในรูปของเหลวนี้สามารถซึมผ่านเซลล์ได้ แม้แต่เซลล์ผิวหนัง จากคุณ : ชัยบาล - [ 24 ม.ค. 51 17:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไคติน-ไคโตซานเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ สามารถเข้าได้กับร่างกายมนุษย์ จากการศึกษาในต่างประเทศ พบว่าสามารถย่อยสลาย ได้ภายในสัตว์ เนื่องจากมีเอนไซม์หลายชนิดสามารถย่อยสลายได้ นอกจากนี้ ตัวไคติน-ไคโตซานยังสามารถยับยั้งการเจริญของจุลชีพบาง ชนิดด้วย จากข้อดีต่างๆ นี้เอง ไคติน-ไคโตซาน จึงถูกนำมาใช้งานทางการแพทย์ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ -Wound-healing ointments -Surgical sutures -Orthopaedics -Drug delivery vehicles -Anticholesterol and fat bindings -Skin treatments -Wound dressings -Dentistry -Tranportation of cells -Ophthalmology http://www.thailabonline.com/news3chitin-chitosan.htm http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L6267166/L6267166.html จากคุณ : ชัยบาล - [ 25 ม.ค. 51 09:59:41 ]