ความคิดเห็นที่ 1 ในฐานะคนที่รู้จักกันมานานผ่านบล็อค  ขอชมว่านู๋กล้าดีไม่ถอดล็อคอินมาถาม แต่มันเป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่มนุษย์พึงจะมี เรื่องเริมนี้พี่ก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกันครับ แต่มาให้กำลังใจ ความจริงมีอะไรกันถ้าไม่ชัวร์จริง ๆใส่ถุงยางดีกว่ากันได้หมดแหละ ถ้าไม่รั่ว หลังจากนั้นสามเดือนหกเดือนก็ไปตรวจเลือดให้สบายใจ ส่วนช่วงนี้ก็รักษาตัวให้แข็งแรง อย่างเครียด เพราะพี่เข้าใจว่าเริมจะสำแดงฤทธิ์ก็เมื่อร่างกายอ่อนแอ ขอให้ปลอดภัยไม่มีอะไรและจำไว้เป็นบทเรียน จากคุณ : Johann sebastian Bach (Johann sebastian Bach) - [ 7 ก.พ. 51 08:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอบให้ข้อ3ครับ คลินิคนิรนาม อยู่ข้างรพ.จุฬาด้านอาคาร อปร. เดินออกมาประมาณ100ม. จะเห็นแท๊งค์ประปา2แท๊งค์ อาคารศูนย์วิจัยโรคเอดส์สภากาชาดไทยอยู่ระหว่างกลางครับ เข้าไปคุยเล่าเหตุการณ์ให้เค้าฟังแล้วเค้าจะแนะนำเรื่องตรวจให้ครับ ปล.วันนั้นเค้าใช้ปากกับคุณด้วยไหมอาจจะเป็น HSV type 1 ลงไปข้างล่างแทนละมั้ง เวลาผู้ชายเป็นเริมที่อวัยวะไม่น่าจะใช้ไอ้นั้นได้ถนัดเท่าไหร่นะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 51 08:10:11 จากคุณ : MIVA - [ 7 ก.พ. 51 08:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เง้อนี่ล่ะน๊า...มานั่งกลุ้มทีหลังเลย...มีตัวอย่างมาเยอะแล้วน๊า...ที่ว่าครั้งแรกก้เจอแจ๊คพอตเลยอ่ะ...ภาวนาให้ไม่เกิดกะคุณแล้วกัน...ทีหลังป้องกันด้วยล่ะ...แฟนกันก็ห้ามไว้ใจ...ตีตายเลย... จากคุณ : La Gioconda - [ 7 ก.พ. 51 08:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีค่ะคุณBach ^^" ไม่ถอดลอกอินเพราะขี้เกียจค่ะ ฮ่ะๆๆ ไม่ใช่ละ คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าจะเป็นเรื่องน่าอายก็จริง แต่การพยายามพรางตัวเพื่อมาตั้งคำถาม...ไม่รู้สิคะ เราไม่ค่อยถนัดแบบนั้นมั้ง ถ้าทำอะไรมาก็พูดตรงๆ ว่าทำอย่างนั้น มันเหมือนกับเป็นการแสดงความรับผิดชอบอยู่กลายๆ ด้วยนิดนึง(ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ) คุณ MIVA เค้าไม่ได้ออรัลให้เราค่ะวันนั้น(เค้าขอแต่วันนั้นเราอายๆ  - -") ส่วนตัวเค้าไม่มีอาการเลยนะ เรียบเนียนสะอาด จนตอนตรวจเราก็งงไงคะว่า เอ...แฟนหนูไม่มีอาการเลยน๊า คุณ La Gloconda ไม่ทำแล้วค่า~ แค่นี้ก็เข็ดจะตายแล้วววว ปล.ลืมแปะหัวว่าทู้ติดเรทน่เลย คนเข้ามาตอบน้อยเชียว :P) จากคุณ : psycho patch - [ 7 ก.พ. 51 10:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณรู้ตัวอยู่แล้วว่าการรักษาตัวรอดเป็นยอดดี ต้องทำยังไง กำลังเรียนหนังสือหรือเปล่าคะ เห็นบอกว่าอยู่ม.กลางทุ่ง ยังไงก็ระวังให้มาก ๆ รู้จักป้องกันตัวเอง อนาคตยังอีกไกลค่ะ รักษาสุขภาพให้ดี ๆ นะคะ ขอให้ จขกท ไม่เป็นอะไรมากแล้วกัน จากคุณ : boonrodjang - [ 7 ก.พ. 51 10:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เริมนี่ เป็นแล้วไม่หายขาด มันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต  เมื่อไรที่ร่างกายเราอ่อนแอมันก็จะปรากฎ  และจะเป็นอยู่ที่เดิม ไม่เปลี่ยนที่ นอกจากตอนที่มันเป็นตุ่มใสๆ ถ้ามันแตกแล้วคุณไปสัมผัสถูกน้ำเหลือง แล้วไปสัมผัสถูกผิวที่อ่อนๆ ก็จะติดที่ตรงจุดนั้นอีก เช่น ที่มุมปาก ถ้าเป็นครั้งแรกแนะนำให้ไปหาหมอแล้วทานยาฆ่าเชื้อด้วยจะหายเร็วขึ้น  ถ้าเป็นไปได้ใน 5 วันแรกให้ทายาทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ แผลจะแห้งเร็ว ถ้ารักษาสุขภาพดี ร่ายกายแข็งแรง พักผ่อนให้พอ ที่สำคัญ พักผ่อนให้พอ ในช่วงปีแรก อาจเป็นเดือนเว้นเดือน แต่ต่อมาจะห่างขึ้น ถ้าเป็นตอนใกล้คลอด หมอจะให้ผ่าออก เพราะเด็กที่ออกมาผ่านช่องคลอดตอนแม่เป็นเริม ลูกอาจตาบอดได้ จากคุณ : น้องเสื้อฟ้า (vanilalily) - [ 7 ก.พ. 51 11:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ได้เป็นตรงนั้นยังต้องกินยา 5 เวลาเลยนะ กินทุก 4 ชั่วโมง เคยเป็นตรงท้องแขน พอมันเป็นแล้วมันเป็นเรื่อยเลย ไปหาหมออย่างอายเลย ขนาดเป็นที่แขนนะ พอหมอบอกคุณติดเชื้อไวรัส คล้ายๆๆกับเริม อย่างอายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : คุณซี - [ 7 ก.พ. 51 11:49:36 A:222.123.172.195 X: TicketID:157348 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณแฟนน่ะตัวดีเล้ย จากคุณ : napaznan - [ 7 ก.พ. 51 11:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบคำถามเด็กน้อยเรื่องเริมนะ เรื่องของคุณผู้ชายเราไม่รู้น่ะ ก่อนอื่นต้องชื่มชมในความกล้าหาญของเด็กน้อยก่อนที่มา ตั้งถาม แบบนี้ เราว่าเป็นประโยชน์กับคนอีกหลายคน 1. หมอเค้าไม่ต้องตรวจเชื้อหรือคะว่าเป็นไวรัสชนิดไหน หรือเป็นเริมจริงมั้ย มีโอกาสที่จะวินิจฉัยผิดบ้างมั้ยคะ - บางครั้งคุณหมอเขาดูจากลักษณะภายนอกก็พอจะวินิจฉัยได้จ๊ะ แต่บางกรณีคุณหมอก็จะตรวจว่าเชื้อนั้นเป็น type ไหน ถ้าอยากรู้แบบละเอียดไปตรวจเชื้อ HSV ดูนะว่าเป็น type ไหน ส่วนรายละเอียดแต่ละ type แตกต่างกัน เราจำไม่ได้แล้ว 2. หนูจะตายมั้ย...เอ้ย ไมใช่ละๆมันไม่หายขาดแบบนี้แปลว่าต้องใช้ถุงยางตลอดชีวิต? (คือคุณหมอบอกว่าคราวต่อๆ ไปให้ใช้) แล้วถ้าวันนึงอยากมีลูกต้องทำยังไงอ่ะคะ? -เท่าที่ทราบเริมจะติดต่อก็ต่อเมื่ออยู่ในช่วง out break คือช่วงที่แสดงอาการน่ะ ถ้าเอามือหรืออวัยวะไปสัมผัสบริเวณแผลก็จะติดต่อกันได้ อยากจะแนะนำว่าถ้ามีรูมเมท อย่าใช้ของร่วมกันในช่วงที่ยังเป็นแผลอยู่ เราก็ติดจากการกินน้ำ ใช้ของ ร่วมกับเพื่อน ตอนนั้นของเพื่อนเป็นที่ปากน่ะ (แต่ความจริงมันเป็นทั้งที่ปากและที่....ด้วยแต่มันไม่บอกเราอะ) -ส่วนเรื่องมีลูก ถ้าช่วงที่หนูคลอดลูกอยู่ในช่วง out break พอดี คุณหมอจะผ่าตัดเอาลูกออกทางหน้าท้อง คลอดแบบธรรมชาติไม่ได้ เพราะถ้าทารกสัมผัสกับแผลก็จะพิการมั้ง ถ้าจำไม่ผิด ตอนนี้เพื่อนที่เป็นพาหะของเรา ก็คลอดลูกไปแล้ว ลูกก็ปกติดีจ๊ะ เพราะผ่าทางหน้าท้องน่ะ 6. คำว่าไม่หายขาด แปลว่าจะทำให้เป็นกับเราคนเดียว(คือโรคกลับมาเล่นงานใหม่) หรือเป็นพาหะด้วยคะ? แล้วงี้ก็ ออรัลไม่ได้??(โอ้ ไม่นะ - -") -ใช่แล้วไม่หายขาด จะแสดงอาการก็ต่อเมื่อร่างกายอ่อนแอ ไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะงั้นถ้าน้องออกกำลังกาย พักผ่อนพอ โอกาสที่จะเกิด out break ก็ยากนะจ๊ะ ของเราบางที่ 2 ปี ยังไม่เป็นเลยก็มี แต่ถ้าช่วงไหนทำงานหนักมากๆ ไม่ได้พักผ่อนก็เริ่มมาแล้วอาการ พอมีอาการก็กินยา ที่หนูได้มาก่อนเลย ก็จะไม่เกิด out break ส่วนเรื่องออรัล ไม่แน่ใจเน้อ ลองถามคุณหมอดูดิ 7. สืบเนื่องจากข้อเมื่อกี๊ นึกขึ้นได้ ว่าวันนั้นออรัลให้แฟน...ตอนนี้มีแผลในปากค่ะ (เพิ่งเป็นเมื่อสอง-สามวันที่ผ่านมา) จะรู้ได้ไงว่า กัดปาก(ชอบเผลอกัด ไม่รู้ตัว) ร้อนใน หรือเริม (เป็นที่ริมฝีปากล่างด้านใน...มุมซ้ายติดกับฟันเขี้ยวค่ะ(ระบุตำแหน่งมากไปมะ) - นั่นดิ น่าสงสัย บางตำราว่าเริมที่ปาก ไม่สามารถติดที่อวัยวะเพศได้ บางตำราบอกว่าติดได้ ถ้าไงลองศึกษาดู ลอง search คำว่า genital herpes 8. แนะนำการปฏิบัติตัวทีค่ะ นอกจากนอนให้พอ กินยาให้ครบ ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำกิจกรรม...เออ อันหลังไม่ค่อยเกี่ยวรึเปล่า ส่วนเรื่องเพศสัมพันธ์ ไม่ต้องห่วงค่ะ ยื่นเรื่องไปละ ว่าเรางดกันก่อนซักเดือน- สองเดือนน่าจะดีกว่า - อย่างที่บอกตอนต้นน่ะ ไม่ต้องกลัวหรอกนะ เพราะเป็นไปแล้ว จะบอกว่าหญิงไทยเป็นกันเยอะ บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นโรคอะไร แต่ที่สำคัญที่สุดอย่าแพร่เชื้อให้คนอื่น ถ้าอยู่ในช่วง out break อย่าให้ใครได้สัมผัสแผลเด็ดขาด อย่าเครียดมาก ไวรัส มันรักษาไม่หายอะ แต่เราดูแลได้นะ จากคุณ : @^^@ - [ 7 ก.พ. 51 11:57:42 A:161.246.67.108 X:161.246.1.36 TicketID:166851 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เราตอบได้เป็นบางข้อนะ ตอบ ข้อ 6 ยืนยันว่าไม่หายขาดค่ะ  ถ้าร่างกายอ่อนแอ  พักผ่อนน้อยเธอจะมาเยื่ยมดุจญาติสนิทมิตรสหาย   ยาที่ใช้ต้องใช้ติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันนะ  แม้จะหายแล้วก็ตาม   เวลาทายาแนะนำให้ทาจากรอบนอกเข้าข้างในนะ (เอ...เราเป็นที่ริมฝีปากอ่ะ..จะรอบปากแล้วมั้ง)   ทายาเสร็จแล้วต้องล้างมือทุกครั้ง  หรือใส่ถุงมือยาง(เวอร์ไปป่ะ) ป้องกันเชื้อไวรัสไปติดที่อื่น ๆ ห้ามเก็บยาทาไว้ใช้คราวต่อไปเด็ดขาดแม้ว่ามันจะยังไม่หมดก็ตาม ตอบข้อ 8 ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์  หากมีอาการของโรคนะคะ  เพราะจะทำให้ติดต่อไปยังอีกฝ่ายหนึ่งได้ เอ่อออ  กรณีของคุณไม่ได้ติดเชื้อไวรัส Herpes simplex ที่ปากมดลูกเน๊อะ  ฝากไว้แล้วกันว่าถ้ามีการติดเชื้อไว้รัสตัวนี้ที่ปากมดลูกจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น  ควรให้แพทย์ตรวจ Pap smear  บ่อยขึ้น เช่น ทุก 6 เดือน จากคุณ : "แผนที่ไหมคะ" - [ 7 ก.พ. 51 12:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อย่าไปกังวลกับมันเลยครับ เริมมันจะแสดงอาการเมื่อร่างกายอ่อนแอ และมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ รักษาความสะอาดของร่างกาย และรักษาสุขภาพเท่านั้น เรื่องเซ็กส์ก็มีแบบ safe sex เพียงเท่านี้คุณก็สามารถ enjoy ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปครับ แถมความรู้ให้หน่อย เริมมันก็มีที่อื่นได้ครับไม่ใช่แค่ที่ตรงนั้นที่เดียว เช่น เริมที่ปากเป็นต้น ดังนั้นไม่ต้องไปกังวลมากครับ กินยาตามกำหนด รักษาร่างกายตนเองให้ดี ชีวิตนี้ก็มีสุขเช่นกัน จากคุณ : MitJung - [ 7 ก.พ. 51 13:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ขอตอบแล้วกันน่ะ  (เพราะนู๋ไม่รู้ อิอิ) แต่จะบอกว่า  กระทู้นี้ดีมากๆ  อยากให้เก็บไว้อย่างน้อย ในคลังกระทู้   เพื่อเป็นตัวอย่าง ความเหมาะสม ในการมี safe sex  แก่น้องๆวัยรุ่น รวมทั้งผู้ไม่รู้อื่นๆอีกมากมาย ให้ได้เห็นว่า การมีเพศสัมพันธ์ นอกจากเสี่ยงท้องแล้ว ก็ยังเสี่ยงต่อโรคติดต่อประเภทอื่นๆ อีก  เพียงเพราะไม่ใช้ถุงยาง ขอบคุณจขกท.ที่กล้านำเรื่องส่วนตัวมาเปิดเผย แต่เป็นประโยชน์มากๆครับ ยกให้กระทู้นี้ เป็นกระทู้เพศศึกษาที่ดีที่เดียว จากคุณ : Future is on my hand - [ 7 ก.พ. 51 15:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่า.... เสียใจด้วยครับ ถ้าผมมีแฟนผมคง...ใส่มั้งจะได้ลื่นๆ จากคุณ : ^llอ๊Ullบ๊ว^ (sNukEr) - [ 7 ก.พ. 51 16:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่แน่ใจว่าโรคเริมรึเปล่าถ้าไม่ได้แสดงอาการไปตรวจได้ไม๊คะ แล้วเกิดขึ้นเองได้รึเปล่า จากคุณ : สีน้ำตาลไหม้ - [ 7 ก.พ. 51 17:50:17 A:58.8.204.134 X: TicketID:136360 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นค่ะ จริงๆ ตอนแรกเราพารานยด์กับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเลยนะ บางช่วงเวลานี่จิตตกขนาดที่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นก้อนไวรัสเดินได้อย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ ตอนนี้ก็พยายามรักษาสภาพจิตใจตัวเองไว้ มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นซะหน่อยนี่เนอะ... รักษาตัวเองดีๆ เดี๋ยวก็หาย มีเรื่องสงสัยอีกนิดอ่ะค่ะ คืออย่างที่คุณ @^^@ บอกว่ามันจะติดต่อแค่ช่วงที่แสดงอาการ แต่ทำไมแฟนเราถึงปกติดีคะ เป็นไปได้มั้ยที่เราจะมีเชื้ออยู่แล้ว??(แต่เราไม่เคยมีอะไรกับใครนะคะกับแฟนคนนี้เป็นครั้งแรก) อีกอย่างยาที่หมอให้มา เป็นยาสำหรับห้าวัน แล้วก็นัดให้ไปหาวันที่สิบสาม เท่ากับว่ายาจะหมดก่อน?(คือเริ่มทานวันนี้ ก็จะหมดวันที่สิบสอง) แต่อ่านในฉลากยาเค้าให้ทานต่อกันสิบวัน ในการทานครั้งแรก แล้วแบบนี้เชื้อจะไม่ดื้อยาหรือคะ? แล้วเรามีแต่ยากินด้วย(หมอไม่ได้ให้ยาทามา เพราะตอนนี้คุณประจำเดือนมาเยี่ยม -"-) เฮ้อ....เป็นอะไรขึ้นมาทีนี่ยุ่งยากจริงๆ ปล.คุณ Future is on my hand ถ้ากระทู้นี่จะทำประโยชน์ให้คนอื่นก็ยินดีค่ะ ^^" แต่ไม่ใช่ว่าไม่อายนะเนี่ย เหอๆ จากคุณ : psycho patch - [ 7 ก.พ. 51 17:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น้อง psycho patch อย่าคิดมากนะ คิดเสียว่าเราเป็นหวัดน่ะ เพราะเป็นหวัดก็เกิดจากเชื้อไวรัสน่ะ ขอตอบคำถามต่อ 1. มีเรื่องสงสัยอีกนิดอ่ะค่ะ คืออย่างที่คุณ @^^@ บอกว่ามันจะติดต่อแค่ช่วงที่แสดงอาการ แต่ทำไมแฟนเราถึงปกติดีคะ เป็นไปได้มั้ยที่เราจะมีเชื้ออยู่แล้ว??(แต่เราไม่เคยมีอะไรกับใครนะคะกับแฟนคนนี้เป็นครั้งแรก) - เท่าที่ฟังน้องเล่ามา เราคิดว่าน้องอาจติดเชื้อจาก แผลในปาก ของตัวเอง หรือเปล่า เพราะน้องทำออรัลให้แฟน แล้วได้มีการสอดใส่ต่อเลยใช่ป่าว....ไม่แน่ใจน่ะ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เดาเอา เริมจะเกิดบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนๆน่ะ ส่วนใหญ่พบอยู่ 2 ที่ ปาก กับอวัยวะเพศ บางคนเป็นในเนื้อเยื่อในปากด้านใน บางคนก็ริมฝีปาก ส่วนแฟนไม่แสดงอาการอะไร อาจเป็นเพราะเขาร่างกายแข็งแรงก็ได้นะ (เดาอีกแล้ว) search ประกอบจาก google เอานะ 2. อีกอย่างยาที่หมอให้มา เป็นยาสำหรับห้าวัน แล้วก็นัดให้ไปหาวันที่สิบสาม เท่ากับว่ายาจะหมดก่อน?(คือเริ่มทานวันนี้ ก็จะหมดวันที่สิบสอง) แต่อ่านในฉลากยาเค้าให้ทานต่อกันสิบวัน ในการทานครั้งแรก แล้วแบบนี้เชื้อจะไม่ดื้อยาหรือคะ? แล้วเรามีแต่ยากินด้วย(หมอไม่ได้ให้ยาทามา เพราะตอนนี้คุณประจำเดือนมาเยี่ยม -"-) - ของเราตอนที่เป็นครั้งแรกได้ยา ACYCLOVIR ขนาด 400 mg กับ 250 mg มาทาน วันละ 5 เวลา ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะ 10 วัน อาการเราดีขึ้นภายในไม่กี่วันเองนะ (ตอนนั้นเราอยู่อเมริกา คุณหมออธิบาย เรื่องโรคนี้ได้ลึกซึ้งมากๆ มีการเอาเชื้อไปเพาะและติดตามผลหลังรักษาด้วย ) แล้วได้ยามาทาด้วย แต่ยาทาเป็นยาที่รักษาโรคในช่องปาก ยี่ห้อคลอเกต แต่เราเห็นที่เมืองไทยมียาทา ยี่ห้อ vilerm ที่เป็นยาทาเหมือนกัน น้องก็ลองทานยาดูก่อนนะ แล้วไปพบคุณหมอตามที่เขานัดแหละดีแล้ว อย่าไปคิดอะไรล่วงหน้าไปมากน่ะ ***แต่หลังจากนี้คาดว่าคุณหมอคงแนะนำให้ไปตรวจมะเร็งปากมดลูกทุกปีน่ะ**** ถึงไม่ได้เป็นเริม ผุ้หญิงทุกคนที่เคยมีเพศสัมพันธุ์ ก็ควรตรวจอยู่แล้วมะเร็งปากมดลูกน่ะ อย่าคิดมากเกินไป ทำไมจัดหน้าไม่ได้อะ ขออนุญาตส่งแบบนี้นะ ขี้เกียจแล้ว จากคุณ : @^^@ - [ 7 ก.พ. 51 22:18:37 A:125.24.233.168 X: TicketID:166851 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นความรู้และคติเตือนใจมากๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เอามาเล่าสู่กันฟัง ทำให้รู้สึกว่าพอถึงคราวตัวเองต้องป้องกันให้ดี เรื่องที่เป็นนี่เราไม่ค่อยทราบหน่ะค่ะ แต่เข้ามาชื่นชมค่ะ จากคุณ : GsaCabinet - [ 8 ก.พ. 51 10:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เอาว่าเป็นแล้ว หาทางลดอาการดีกว่า เพราะ ตอนเป็นมันถึงรู้ตัว เรื่องการพักผ่อนน้อยนี่สำมะคัญ ทำงานเยอะๆ เดินทางบ่อยๆ ร่างกายอ่อนแอ คือเพลียมากๆอะนะ อันนี้ เราก็มาลองดูว่า พอมันเป็น แล้วลองทำงัยให้มันหายเร็วๆดีกว่ามั๊ย 1. เริ่มแรก ลองทานยาเขียว ตราใบโพธิ์นะ ทานที ก็ 7-8 เม็ดนะวันนึง ก็ซัก  3 เวลา อย่าไปทานยาอย่างอื่นร่วมนะ จะได้รู้ว่า ถ้าแผลที่เป็นมันยุบ หรือว่าหายเร็วจะได้รู้ว่า เพราะทานยาไรไปนะ 2. พยายามทำให้ส่วนที่เป็น แห้งให้มากที่สุด อันนี้ไปเห็นคนโพสในกระทู้เค้าทำกันแล้วบอกว่าดีมาก ก็ พัดลม งัย หรือว่าให้ดีให้ไว ก็ ไดร์เป่าผมนี่แหล่ะ ไวดี 3.ตอนที่เริ่มรู้ตัวว่ามันจะเป็น ตรง บริเวณไหน นะ ก็ใช้แอลกอฮอร์ เช็ดบริเวณนั้นบ่อยๆหน่อย ย้ำนะ ว่าเริ่มแรกที่รู้ว่าจะเป็นน่ะ หรือว่าเป็นแล้วนิดหน่อยนะ 4. อย่านอนดึกเด็ดขาด อันนี้ห้ามกันยาก แต่เมื่อรู้ว่านอนไม่พอก็ให้รีบ ระวังตัวทานยาเขียว ดักกันไว้เลยดีกว่าเนอะ 5. ยานอกที่เค้าว่ากิน หรือว่าทา อันนี้ ก็เท่าที่ศึกษาดู แล้วคนประเมิน ดูแล้วให้ผลน้อยมาก แต่ก็อย่างว่า ยามันออกมาขายอะนะ เพื่อรองรับผู้ป่วย ก็ว่ากันไป 6. ทำใจให้สบายละกัน เพราะมันไม่หายอะนะ อยู่กะมัน แล้วเป็นก็รักษาไป ดูแลมันให้ดี พอแล้ว 7. เป็นแล้วก็เป็นไป จะได้รู้ตัว เหมือนมีสัญญาณบอกเราว่า ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอ ดีปะ จะได้พักผ่อนซะหน่อย 8. พวกเสลดพังพอนหรือว่าหนุมาน อันนี้เท่าที่ฟังๆอ่านๆ ก็ดีบ้าง ได้ผลน้อยบ้าง ก็ลองดู ลองไปจนกว่า ร่างกายจะตอบสนองกะ อะไรมากสุด จะได้ทำ จะได้รักษาถูกทาง นะ   อีกอย่าง ระวังอย่าให้ไปติดคนอื่นละ ป้องกันตัวไว้หน่อย สอาดเพิ่มขึ้นก็ดีกะตัวเรามากขึ้นนะ สู้ๆ  สู้ๆ ทุกปัญหามีทางแก้ จากคุณ : spacebrain - [ 9 ก.พ. 51 15:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบข้อสอง : -หนูจะไม่ตายด้วยโรคนี้ค่ะ แต่โรคที่แถมมาพี่ยังไม่กล้ายืนยันความรุนแรง -หนูอาจไม่ต้องใช้ถุงยางตลอดชีวิตก็ได้ แต่หากในอนาคตเปลี่ยนคู่นอน หากหนูรักและห่วงใยคนข้างตัวจริงๆ  กรุณาแจ้งให้เค้าทราบก่อนจะร่วมหลับนอนกัน ว่าหนูเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เค้าจะได้มีทางเลือก -ถ้าวันหนึ่งข้างหน้าตั้งครรภ์ จะคลอดธรรมชาติ เรียนคุณหมอทราบด้วย เพราะเด็กที่คลอดจากมารดาเป็นเริมบริเวณช่องคลอด หากระหว่างที่เด็กผ่านออกมา เชื้อโรคโดนตาเด็ก..ก็บอดน่ะค่ะ จากคุณ : ภรรยาสวีดิช - [ 10 ก.พ. 51 17:59:10 ]