Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    อยู่เพื่อเสพสุข หรือ หยุดเพื่อความสุข(ติดเรท)กระทู้เตือนใจครับ

    “คุณทำใจดีดีนะ ฟังหมอให้ดี หมออยากจะเรียนให้คุณทราบว่า ผลการตรวจเลือดที่ออกมาของคุณนั้น ไม่ดีเอาเสียเลย ผลเลือดของคุณเป็นบวก” สิ้นเสียงประโยคนี้โลกทั้งโลกดูราวกับภาพขาวดำเสมือนภาพในอดีต เสียงรอบๆข้างดูชัดขึ้นในพริบตา เสียงเปิดประตู เสียงฝีเท้า เสียงแอร์ เสียงทีวีด้านนอก เสียงคนคุยกัน หรือแม้กระทั่งเสียงของลมหายใจของตัวเราเอง ทุกสิ่งทุกอย่างดูชัดเจนขึ้นราวกับเราไม่เคยมีตัวตนอยู่ ณ ที่แห่งนี้มาก่อน
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก ตื่นได้แล้วลูกบ่ายสองแล้วนะ ผมลืมตาขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างกลับสู่ปกติ นี่คือห้องของเรา เตียงของเรา เหลือบดูนาฬิกาเป็นเวลาบ่ายสองโมงสิบนาทีแล้ว เป็นอีกวันหนึ่งในรอบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ตื่นสายแบบนี้ทุกวัน พร้อมๆกับคำถามว่า นี่กูฝันเรื่องเดิมอีกแล้วหรอเนี่ย ตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วก็ทำให้ชีวิตสองอาทิตย์ของผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง วันนั้นผมกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในบ้าน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นผมรับสายปลายทางคือใครผมพยายามนึกถึงเบอร์ๆนี้อยู่ว่าคือใคร เสียงในสายก็พูดขึ้นมาว่า “จำเราได้มั้ยเป็นไงบ้างสบายดีมั้ย ไปตรวจเลือดซะบ้างนะ หวังว่าคงพอใจกับของขวัญที่เราให้ ครบสามเดือนที่เรามีอาไรกันแล้วนะ บาย” แค่ประโยคนี้เพียงประโยคเดียวผมมองเห็นอนาคตของผมราวกับมีทีวีมาเปิดอยู่ตรงหน้า ว่าผมกำลังจะมีจุดจบในชีวิตอย่างไร ทั้งทั้งที่ตลอด20กว่าปีที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ไม่เคยคิดถึงแม้กระทั่งคนรอบข้าง ไม่เคยหยุดคิดถึงความสุขตรงหน้าแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว




    แต่เมื่อสิ้นเสียงโทรศัพท์ภาพทุกอย่างในอดีตมันปรากฏขึ้นมา ณ บัดนั้น ภาพของการดื่ม กิน เที่ยว เต้นรำ เสียงเพลงดังสนั่นหวั่นไหว คลอเคลียพร้อมกับสบตาสาวที่พึ่งจะได้เจอกันในคืนนั้น เธอมีผมที่ยาวสลวยดำเป็นประกาย ผิวของเธอขาวเหมือนอาหมวย เธอมียิ้มที่น่ารัก พร้อมกับเหล็กดัดฟันสีแดงที่เข้ากันกับชุดเดรสสั้นเปิดไหล่ขาวๆของเธอได้เป็นอย่างดี เธอเดินเข้ามาคุยพร้อมกับแนะนำตัวของเธอว่าชื่ออะไร เสียงของเธอหวานจับใจผมเสียเหลือเกิน เสียงเพลงที่ดังสนั่น แต่ในขณะนั้นผมกับได้ยินเพียงแค่เสียงของเธอ เรายืนคุยกันอย่างใกล้ชิด ผู้คนเบียดเสียดตัวเราเข้ามาใกล้กันมากจนผมถูกเนื้อต้องตัวเธอบ่อยครั้ง เธอไม่มีท่าทีปัดป้อง ปฏิเสธใดๆมีเพียงรอยยิ้ม ที่มีเสน่ห์เสียเหลือเกิน ตาของผมจับจ้องไปที่เธอเหมือนกับร้านทั้งร้านมีเพียงเราแค่สองคน เราคุยกันอยู่นานผมบรรจงชงเหล้าให้เธออยู่หลายแก้ว จนเธอเอ่ย ปากบอกว่า “คุณชงเหล้าหนาจังคิดจะมอมเค้าหรอ” ผมปฏิเสธด้วยท่าทีที่สุภาพทันทีว่า “ไม่หรอก ผมไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน ถ้าเกิดว่าเหล้าที่ผมชงให้มันหนาไป เข้มไปคุณก็ไม่ต้องดื่มแล้วก็ได้เดี๋ยวผมจะดื่มเองคนเดียวก็พอ ประเดี๋ยวคุณจะกลับบ้านไม่ไหว” เธอรีบสวนผมมาทันควันว่าถ้าเธอเมาผมก็ต้องไปส่งเธอสิจะให้สุภาพสตรีกลับบ้านเองมันอันตรายนะ ผมรู้สึกตื่นเต้นไปกับคำพูดของเธอที่จะให้ผมไปส่งบ้าน เสียงเพลงในร้านเริ่มเบาลงไฟเปิดสว่างขึ้น ผมเริ่มมองเห็นใบหน้าของเธอชัดเจนขึ้น แก้มของเธอแดงราวกับลูกตำลึง เสียงของเธอเริ่มอ่อนเบาลงไม่ชัดถ้อยชัดคำเหมือนตอนหัวค่ำ ผมจับมือเธอแล้วกระซิบถามเธอว่าจะให้ผมไปส่งเธอที่ไหน เธอตอบอย่างชัดเจนว่าไม่กลับจะไปเที่ยวกับผมต่อ เธอหันมากอดผม จูบแก้มผมแล้วกระซิบข้างหูผมว่าไปนอนคุยกันมั้ย เธอยังไม่อยากกลับบ้าน ไปเปิดห้องคุยกันได้มั้ย เธออยากคุยกับผม รู้จักกับผมให้มากกว่านี้ ผมยอมรับเลยว่าแม้ตัวผมจะสำมะเลเทเมา มาอย่างมากมายแต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะมีสาวสวยสะพรั่งอย่างเธอมาชวนผมเปิดโรงแรมเลย ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ตลอดคืนนี้ด้วยผมจึงไม่ลังเลใจที่จะไปกับเธอ



    ภาพในหัวของผมตัดมาที่โรงแรมเราทั้งสองต่างพรั่งพรูคำหวานออกมาพูดให้กันราวกับคนรักที่คบหาดูใจกันมาอย่างยาวนาน จะต่างกันก็ตรงที่เราพึ่งจะเจอกันเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว ผมสวมกอดเธออย่างเบาๆร่างของเราทั้งสองเริ่มเปลือยเปล่า แต่ความเมาก็ไม่ได้ทำให้ผมลืมที่จะป้องกันตัวเอง ผมหยิบถุงยางอนามัยในกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาสวมก่อนที่จะเริ่มบรรเลงเพลงรักของเราทั้งสองคน เมื่อเพลงจบผมนอนแผ่หลาหลับไปแบบทั้งเมาและเหนื่อย ผมหลับไปแบบไม่รู้สึกตัวอีกเลย จนกระทั่งมีความรู้สึกแปลกๆในตัวเองว่าเหมือนกับมีใครมาทำอะไรกับน้องชายของผม ผมลืมตาแบบสลึมสลือขึ้นภาพที่เห็นคือเธออยู่บนตัวผมและสอดใส่อวัยวะเพศของผม ผมตกใจเป็นอย่างมากว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะว่าตัวผมเองก็ไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้แล้วก็เลยตามเลยจนจบ ผมตกใจเป็นอย่างมากเมื่อรุ้ภายหลังว่าข้างล่างของผมไม่มีเจ้าถุงยางป้องกันภัยเอาไว้ ผมหันไปถามเธอว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เธอหัวเราะ และไม่ตอบอะไร เราอาบน้ำและแต่งตัวออกจากโรงแรมในเวลาราวเที่ยง ผมให้เบอร์กับเธอเอาไว้ เธอบอกว่าเรื่องเมื่อคืนนี้ขอให้ผมอย่าคิดมาก เพราะเธอมีแฟนแล้วแต่ที่เรื่องเป็นอย่างนี้เพราะเมื่อคืนนี้เธอเมาเลยทำอะไรไปไม่ได้คิด แต่เธอก็ชอบผมเหมือนกัน ผมบอกกับเธอไปว่าไม่เป็นอะไรเป็นเพื่อนกันได้เราแยกกันตรงนั้น ผมกลับมาถึงบ้านพร้อมกับความรู้สึกแปลกยังไงบอกไม่ถูกมันเหมือนครั่นเนื้อครั่นตัวจะเป็นไข้ อาจจะเป็นได้ว่าดื่มหนักไปหน่อยเมื่อคืนเลยเหมือนจะเมาค้าง ผมกลับถึงบ้านจึงลองยิงไปหาเธอดูแต่ไม่กล้าโทรเลยเพราะกลัวเธออยู่กับแฟน เธอโทรกลับมาหาผมบอกว่าต่อไปนี้ไม่ต้องโทรมาหาเธออีกต่อไปเลยนะ เธอเบื่อผมแล้วแล้วก็วางสายใส่ผม ผมตกใจในคำพูดของเธอว่าคืออะไร ในเมื่อเราทั้งสองพึ่งจะแยกกันไม่ถึงสองชั่วโมงอะไรทำให้คนเปลี่ยนได้เร็วถึงขนาดนี้ ผมจึงไม่โทรหาเธออีกเป็นเวลาเกือบสามเดือนจนเธอโทรมาหาผมพร้อมกับประโยคสั้นสั้นว่า “ไปตรวจเลือดซะบ้างนะ หวังว่าคงพอใจกับของขวัญที่เราให้นะ ครบสามเดือนที่เรามีอาไรกันแล้วนะ บาย”

    จากคุณ : ตี๋กรุงธน - [ 20 ก.พ. 51 05:27:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom