ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า ที่มาตั้งกระทู้นี้ แค่เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของเรื่องที่เกิดขึ้นจริง อยากให้เพื่อน ๆ ได้รับทราบในหลาย ๆ แง่มุม ทั้งในแง่ของความผิดชอบชั่วดี ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และในแง่ของคนที่ทำพลาดลงไปแล้ว เราขออนุญาตเจ้าของเรื่องเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวเพียงหวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเค้า จะเป็นบทเรียนหรือสิ่งเตือนใจให้กับน้อง ๆ วัยรุ่น หรือทุกคนที่พลาดได้ค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6-8 ปีที่แล้วค่ะ
***อ้อ เราสนิทกับเจ้าของเรื่องมาก ๆ มาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นเรารู้จักผู้หญิงคนนี้ดีที่สุดรองจากคนในครอบครัวเราเองเลยทีเดียวค่ะ***เริ่มเลยนะคะ***
เพื่อนเราเป็นคนหน้าตาจัดว่าดีทีเดียวค่ะ หากมีใครได้มารู้จักเพื่อนเราคนนี้ในตอนนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครคาดว่าเพื่อนเราจะเคยทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตลงไปแล้ว
ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ประมาณปี 2 ในมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เธอเป็นเด็กต่างจังหวัด และมหาวิทยาลัยที่ว่า ก็อยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพนี่เอง 90% ของนศ.ที่นี่ต้องมาพักอยู่หอพักค่ะ เพราะน้อยมากที่จะเป็นเด็กในท้องถิ่น
เป็นเรื่องธรรมดาอย่างเหลือเกินที่เพียงเข้ามาเรียนได้ไม่นาน เธอก็มีแฟน แฟนของเธอก็หน้าตาดีเหมาะสมกันมาก ๆ ค่ะ คบกันมาปีกว่า (ตลอดเวลาเราเม้าท์กันตลอด) เค้าก็เล่าให้เราฟังว่า ได้มีอะไรกับแฟนไปแล้ว ตอนนั้นเราฟังแล้วไม่ได้ตกใจอะไรมากมายนะคะ ก็แค่เตือน ๆ ให้ระวัง ดูเธอก็กังวลเล็กน้อยในช่วงแรกค่ะ
ทีนี้ก็เป็นไปตามกระแสค่ะ ม.ที่ว่า มีนศ.ชายหญิงพักอยู่ด้วยกันเหมือนคู่รักเยอะมากจนดูเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
***ตรงนี้น้อง ๆ ที่คิดจะทำแบบนี้ หรือทำอยู่ อย่างน้อยคิดดี ๆ นะคะ***
แรก ๆ ก็แค่แวะไป-ไป มา-มา หลัง ๆ เริ่มกลับห้องตัวเองดึก ๆ (เพื่อนเราทีแรกอยู่หอหญิงนะคะ) หลัง ๆ เริ่มไม่ค่อยกลับ 2-3 วันมาเอาของที และก็อยู่ยาว จนแอบทางบ้านขนข้าวของ บอกเลิกการเช่าไปอยู่กับแฟน
...เราไม่อยากอ้างว่ามันคือความรัก...แต่ในสายตาของเรา ใช่ค่ะ มันคือความรัก มันคือสิ่งที่ชาย หญิงสองคนปรารถนาที่จะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ได้แชร์ทุกอย่างร่วมกัน เพียงแต่ไม่ทันได้คิดว่ามันก่อนวัยและเวลาอันควร...
ผลก็คือ มีอยู่วันนึงประจำเดือนมาช้าไป 2-3 วัน เธอก็กลัวมาก มาปรึกษากับเราโดยที่ยังไม่บอกแฟน เราเป็นคนบอกว่าให้ซื้อที่ตรวจมาตรวจโดยเร็ว และเราไปเป็นเพื่อนมันเองค่ะ
ตอนที่เธอไปซื้อที่ตรวจครรภ์...คุณเภสัชคงเห็นหน้าเพื่อนเราแล้วดูออก (แบบว่ามันหน้าตาซีดเซียวมาก) เค้ากระซิบเพื่อนเราว่า "ถ้ามีปัญหา กลับมานะคะ"
วินาทีที่เธอมาบอกเราถึงผลที่ออกมาพร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลา เราเครียดกันมาก เรา เธอ และแฟนเธอ เครียดมาก
เธอพูดแต่ว่า ให้แม่รู้ไม่ได้ แม่รักและไว้ใจเธอมาก ที่สำคัญเธอเสียพ่อไปแล้ว และแม่ก็มอบความหวังทุกอย่างไว้ที่ลูกสาวคนสวย(ในสายตาแม่ เธอสวยที่สุดแน่นอนค่ะ)
เธอบอกว่าเธอทำลายความรู้สึกแม่ไม่ได้ เธอไม่กล้า เราเกลี้ยกล่อมให้เธอบอกแม่ เพราะคิดว่ายังไงซะ แม่ต้องเข้าใจ แม้จะโกรธ เสียใจ แต่เค้าก็รักเรา และอาบน้ำร้อนมาก่อน
แต่ยังไงเธอก็ไม่ยอม จนสุดท้ายเธอกับแฟนตกลงกันว่ายังไงก็ต้องเอาออก เธอเป็นเด็กเรียนดีนะคะ เกียรตินิยมค่ะ ส่วนแฟนเธอก็เป็นผู้ชายประเภทความคิดยังเด็กอยู่มาก ทุกคนกลัวค่ะ เงินก็ไม่มี ตัดสินใจกลับไปหาคุณเภสัช
คุณเภสัชแนะนำคลีนิคแห่งหนึ่งให้เพื่อนเราพร้อมกับบอกว่า แพงหน่อย แต่ปลอดภัย
เธอกับแฟนพากันไปปรึกษาทางคลีนิค พบว่า เพื่อนเราอายุครรภ์เกือบ 2 เดือน (กว่าจะไปที่คลีนิค เครียดและคิดหาทางออกกันอยู่ประมาณเดือนนึงอะค่ะ)
ค่าใช้จ่าย 8 พันบาท (ถือว่าแพงมากในขณะนั้น) เพราะแค่กินยา แล้วก็จะเหมือนมีประจำเดือนมาน่ะค่ะ ไม่ต้องขึ้นขาหยั่ง ไม่ต้องเจ็บ ไม่ใช้เครื่องมืออะไรทั้งนั้น เพื่อนเราบอกว่า "เค้าบอกว่ายานอก เลยแพง"
แฟนของเพื่อนเราไปขอยืมญาติได้มา 4 พัน พร้อมคำตำหนิว่า "ทำไมไปทำที่แพงจัง" เรามีอยู่แค่ 2 พันให้ยืมไป แฟนเพื่อนไปยืมเพื่อนมาอีกทีได้อีก 2 พัน (เล่ามาถึงตรงนี้ จะว่าเราบาปด้วยก็ได้ค่ะ แต่ตอนนั้น เพื่อนมันก็ตัดสินใจไปแล้ว ยิ่งนาน ยิ่งรู้สึกแย่ และยิ่งแพง เราเลยตัดสินใจให้เพื่อนยืมเงิน แม้จะรู้ว่าต้องบาปไปด้วย)
แล้วเธอก็ทำลงไปค่ะ...หลังจากวันนั้น เธอเปลี่ยนไป เงียบขรึม และร้องไห้บ่อย เราสงสารเธอมาก ส่วนแฟนเธอเฉย ๆ มากค่ะ วันที่ยาออกฤทธิ์ เราเรียนอยู่ จำได้ดีว่าเธอโทรมาแล้วร้องไห้บอกว่าปวดท้อง เราถามถึงแฟนเธอ เธอบอกว่าไปเรียน....
ไปเรียนได้หน้าตาเฉย ทั้งที่รู้กำหนดว่าวันไหนจะเกิดอะไรขึ้น
น้อง ๆ ผู้หญิงจำไว้นะคะ...ในวันที่มันเกิดขึ้น คนที่เจ็บที่สุด คนที่ทุกข์ที่สุด ก็เรานี่ละค่ะ...มาคุยกันทีหลัง จริง ๆ เธอไม่ได้ปวดอะไรมาก แต่แค่รู้สึกเหมือนมดลูกบีบตัวเหมือนเวลาประจำเดือนจะมา แต่อันนี้เธอคงกังวล สับสน กลัว และอยู่คนเดียว ณ ตอนนั้น เลยฟุ้งซ่านน่ะค่ะ ร้องไห้ใหญ่เลย...
เหตุการณ์ผ่านไปไวเหมือนโกหก เพื่อนเราดีขึ้นตามลำดับ แต่เชื่อมั๊ยคะ เวลาเรา ๆ ดูหนัง ฟังข่าว อ่านหนังสือแล้วเจอเรื่องราวของการทำแท้ง เราจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่กับคนที่เค้าทำมา เพื่อนเราบอกว่า คำ ๆ นี้สะดุดหูทุกครั้งที่ได้ยิน เจ็บทุกครั้งที่ได้ฟัง และทุกวันนี้ยังกลัวอยู่ว่าผลกรรมจะสนองมาเมื่อไหร่...มันไม่มีวันล้างไปจากชีวิตเราได้เลย...เธอกลัวอยู่ตลอดเวลา ว่า วันนึง ถ้าเธอจะมีลูกอีกซักครั้ง เธอจะมีได้มั๊ย ลูกคนแรกของเธอจะยอมรึเปล่า
วันนี้ เพื่อนเรามีชีวิตใหม่แล้ว เธอได้ทำงานอาชีพที่สาว ๆ หลาย ๆ คนใฝ่ฝัน เธอมีแฟนที่รักเธอและดูแลเธออย่างดี (อ้อ ไอ้ผู้ชายคนแรกที่เธอคบ ก็ทิ้งเธอไปหลังจากเรียนจบได้ไม่นาน) เธอจะแต่งงานปีหน้าค่ะ
และสิ่งนึง ที่อาจดูไสยศาสตร์ไปหน่อย ก็คือผู้ชายคนนั้นที่เป็นต้นเหตุของเรื่องหลังจากเลิกกับแฟนเราไป ชีวิตเค้าก็ตกต่ำมาก มากซะจนแม่ต้องพาไปดูดวง
หมอดูบอกว่า ผู้ชายคนนี้เคยพาแฟนไปทำแท้ง และเด็กคนนั้นไม่ได้ไปอยู่กับแม่เค้านะมาอยู่กับเธอ(ผู้ชาย) ระวังให้ดี ถ้าเธอมีลูกจริง ๆ ระวังลูกคนนี้ให้ดี
น่ากลัวมาก (พิมพ์ไปขนลุกไป)
สุดท้ายนะคะ...เพื่อนเราฝากมาเตือนน้อง ๆ ทุกคนที่คิดจะทำแท้ง...ว่าให้รู้ไว้เลยว่า สิ่งที่ทำลงไปในวันนี้ มันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ไม่ว่าเราอยากจะลืมมันไปแค่ไหน
วันนี้เธอดูเหมือนจะมีชีวิตที่สวยงาม หลาย ๆ คนอิจฉา แต่ลึก ๆ เธอไม่เคยลืมเรื่องนี้เลย เธอบอกเราว่ายอมรับว่าปลอบใจตัวเองอยู่เสมอว่า อายุครรภ์แค่ไม่ถึง 2 เดือน คงยังไม่บาปมาก (ซึ่งเราสองคนก็รู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่จริง)
แต่เราอยากให้เพื่อน ๆ ได้รู้ในอีกแง่มุมนึงว่า บางครั้ง กับบางคนที่พลาดไป เค้าก็ไม่ได้ตั้งใจ อาจเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความขี้ขลาด หรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อนเรามันบอกว่าทุกครั้งที่เจอใครพูดว่า "มันบาปมาก เหมือนกันฆาตกรรม ทำลายชีวิต ๆ นึงที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเอง ฯลฯ" หัวใจมันแทบสลายอะค่ะ นี่คือสิ่งนึงที่มันได้รับ
ยังไงก็ตาม ถึงจะเตือนแล้ว แต่เราก็เชื่อว่าต้องมีคนที่หาทางออกไม่ได้ ไม่กล้าที่จะเปิดเผย และตัดสินใจทำสิ่งที่เลวร้ายลงไปเหมือนที่เพื่อนเราเคยทำ เรากับเพื่อนก็แค่อยากจะเตือนถึงผลที่จะตามมาค่ะ
สุดท้าย เราสองคนขอสดุดีความกล้าหาญของว่าที่คุณแม่ที่มีปัญหาทุกคน ที่ยืนหยัดสู้กับปัญหาและรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุดของคุณไว้ ไม่อ่อนแอเหมือนเพื่อนเรา คุณทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสิ่งนี้จะเป็นเหมือนเกราะป้องกันให้คุณและเจ้าตัวน้อยแข็งแกร่งค่ะ
*****************
ยาวไปหน่อยนะคะ แต่อยากให้เป็นข้อเตือนใจน้อง ๆ วัยรุ่นทุกคนค่ะ...ปัญหายังไม่เกิด ป้องกันไว้ดีกว่านะคะ...
แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 19:28:18
จากคุณ :
IrisGiRL 
- [
13 พ.ค. 51 19:23:13
]
ระยะนี้เห็นมีการพูดเรื่อง "ทำแท้ง" บ่อยครั้ง ประสบการณ์ของเพื่อนเรา หวังว่ามีประโยชน์ค่ะ
... เข้ามาดู
