ว่าจะไม่เข้ามาแล้ว แต่เดี๋ยวจะเหมือนไม่แฟร์กับ จขกท เท่าไหร่ ทั้งหมดที่คุณพูดมา ผมเข้าใจนะครับ ไม่ใช่ไม่เข้าใจเจตนาของคุณ แต่ความเห็นเราคงไปคนละทาง เท่านั้นเอง มีบางจุดเท่านั้นเองคับที่เรามองต่างกัน คือ สักข้อสองข้อละกันนะคับ เพราะผมถือว่าแชร์ความคิดไปแล้วเมื่อคืน จะรีบไปทำงานด้วย
1. แล้วคุณไม่อยากให้มันมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีมั่งหรือไง ถึงได้นั่งตบยุงตัวเองไม่ทำไรหวังให้สังคมน่าอยู่ เหอๆ
- ทำไมจะไม่อยากคับ ก็เหมือนคุณ จขกท เพียงแต่ จขกท มีแนวที่จขกทเรียกว่าแบบวิทยาศาสตร์ คือ แนะนำให้มีอะไรกับผู้ชายได้ เมื่อคิดว่าตัวเองพร้อม และรู้จักป้องกันต่างๆ และรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล ถึงสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว จะได้ไม่เสียใจภายหลังโดยไม่เกี่ยวว่าแต่งหรือไม่แต่ง อายุไม่ใช่ประเด็น เมื่อให้ความรู้ในเรื่องเพศที่ดีก็จะป้องกันโรคต่างๆได้ เช่น เอดส์ ท้อง ป้องกันปัญหา ทำแท้ง ป้องกันสภาพจิตใจเวลาพลาดไปแล้ว ซึ่ง จขกท ก็ไม่ผิด ที่คิดแบบนี้ เพราะผมก็ไม่รู้ว่า จขกท พบเจออะไรมาบ้าง
ส่วนผมอาจจะมีแนวคิดแบบโบราณ คือแนะนำให้รู้จักยับยั้ง ชั่งใจ พยายามให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพศมีค่า และเฝ้าระวังไม่ให้เสียตัวโดยง่าย โดยเอาวัฒนธรรมมาเป็นหลักยึดทางความคิด คำนึงถึงพ่อแม่เป็นหลัก ไม่ให้เอาเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถ้ามีคนทำได้ มันก็ป้องกัน โรคเอดส์ ท้อง ทำแท้ง ได้เหมือนกัน แถมยังชัวร์100เปอร์เซนต์ด้วย และสภาพจิตใจก็ไม่บอบช้ำ และผมก็เห็นว่าผมก็ไม่ผิดที่คิดแบบนี้ เพราะรอบๆตัวผม ก็มีผู้หญิงที่ยึดหลักแบบนี้ ซึ่งผมได้เห็นแล้วว่าเขาก็ดำเนินชีวิตได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แถมไม่มีเรื่องอย่างว่าให้พ่อแม่เสียใจด้วย เลยไม่รู้ว่า ผมไม่หวังให้สังคมน่าอยู่ตรงไหน? หรือใจแคบ ไม่ให้เกียรติผู้หญิงตรงไหน? สมมติตอนนี้ผมมีแฟน ผมคิดจะมีอะไรกับแฟนตอนแต่ง ยังไม่อยากชิงสุกก่อนห่าม ก็เท่ากับผมไม่ให้เกียรติ ใช่ไหมคับ?
คุณบอกว่าแฟนคุณใจกว้างมากกว่าผม ให้เกียรติผู้หญิงมากกว่าผมเพียงเพราะเขามาอยู่กินกับคุณโดยยังไม่ได้แต่งงาน แล้วการที่ผมอยากให้ผู้หญิง รักนวลสงวนตัว ปลูกฝังว่าเขาเป็นเพศที่มีค่าไม่ใช่เครื่องระบายทางเพศของผู้ชาย นี่ไม่ได้เป็นการให้เกียรติผู้หญิงเหรอคับ? หรือต้องแนะนำให้มีเซ็กส์เท่านั้นคับ ถึงเป็นการให้เกียรติ ผมยังไม่เคยประนามผู้หญิงที่อยู่ก่อนแต่งเลยนะคับว่าไม่ดี หรือ 11รด สำส่อน ยังคงเคารพในความเป็นผู้หญิงเสมอ เพียงแต่ถ้าลูกๆหลานๆมาถาม ผมเลือกปราการด่านแรกก่อนเลย คือให้เขารู้สึกว่าของๆเขามีค่าเกินกว่าจะไปเสียง่ายๆ แต่ถ้าเขาทำไม่ได้ ผมบอกแล้วไงคับ ว่า ผมก็ยังคงรักเขาเหมือนเดิม ไม่เคยคิดดูถูกหรือมองแค่เยื่อบางๆอยู่แล้ว และการที่ผมเน้นลูกหลานของผมให้ความสำคัญเรื่องเยื่อบางๆ ไม่ใช่ว่าให้เขามายึดติดกับตรงนี้ เยื่อพวกนี้อ่ะ มันขาดได้ทุกเมื่อแม้ไม่มีเพศสัมพันธ์ อันนี้ผมก็รู้คับ เพียงแต่ผมป้องกันบุตรหลานไม่ให้มีเซ็กส์ง่ายๆ หรือมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ไม่อยากให้เขาเอาเรื่องเซ็กส์มาเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้ความรู้ในเรื่องเพศศึกษา อยากให้เขารู้ว่าพร้อมคือการแต่งงานเท่านั้น ซึ่งทางครอบครัวผมก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ญาติๆ ลูกพี่ลูกน้องผมก็แต่งงานกันหลายคน ก็ไม่เห็นใครมีปัญหาอะไร ครอบครัวก็อบอุ่นดี หวังว่าคงเข้าใจ ความคิดของคนอื่นบ้างนะคับ
2.แล้วที่คุณว่าก้แล้วผู้หญิงมาขายตัวทำไม อยากบอกว่าของอย่างนี้ไม่มี Demand มันไม่มี Supply หรอกค่ะ ไม่มีผู้ชายหื่นๆผู้หญิงจะไปขายตัวให้ใคร ในขณะที่ไม่มีผู้หญิงขายตัว ผู้ชายหื่นๆมันก็ไปไล่ทำอนาจานข่มขืนชาวบ้านเขา ทีนี้ชัดแล้วนะคะ
- พูดแบบนี้ก็แสดงว่าสนับสนุนให้ผู้หญิงขายตัวนะสิคับ เห็นไหมละคับผมคิดแล้ว ถ้าถามว่าผู้หญิงขายตัวทำไม คุณต้องมาแย้งว่าเป็นเพราะผู้ชาย คิดแล้วไม่มีผิด ทุกอย่างคุณจะโยนมาให้ผู้ชายผิดหมด ผู้ชายจะหื่นก็ปล่อยมันสิครับ ทำไมคุณผู้หญิงต้องสนองตัณหาไปขายให้เขาด้วยละคับ คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่ทำนิคับ ผมเคยดูรายการ เรื่องจริงผ่าจอ เขาเคยสัมภาษณ์ผู้หญิงหรือนักศึกษาขายตัวเหล่านี้คับ (ไปค้นดูคลิปรายการเก่าๆได้คับ) ว่าทำไมถึงมาทำอาชีพนี้ เธอบอกว่า เพราะต้องการเงิน ไปใช้จ่ายต่างๆ โดยการเอาตัวเข้าแลก ถ้าจำไม่ผิดรายจ่ายของเธอไร้สาระมากคับ อยากได้มือถือรุ่นใหม่ กระเป๋าเบรนเนม ไม่ท้องด้วยนะครับ เพราะรู้จักป้องกันอย่างที่ จขกท ต้องการเลย ถึงบอกไงคับ ถ้าคิดแต่วิทยาศาสตร์โดยลืมวัฒนธรรม จิตสำนึกที่ดี ผู้หญิงหลายคนก็จะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ดังตัวอย่างในเรื่องนี้ เห็นชัดเลยว่า เพียงแค่ต้องการเงิน เลยเอาตัวเองเข้าแลกหรือที่สังคมเรียกว่าขายตัวนั่นเอง ประเด็นตรงนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าสังคมประนามหรือเปล่า แต่อยู่ที่ว่า แค่อยากได้มือถือรุ่นใหม่ ทำไมเด็กสาวๆสมัยนี้ถึงยอมเอาตัวเข้าแลกทั้งๆที่บางคนอายุยังน้อยและมีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธพฤติกรรมเหล่านี้ ส่วนเรื่องผู้ชายหื่น ไล่ทำอนาจาร เรื่องนี้อยู่ที่จิตสำนึกสันดารแต่ละคนคับ ซึ่งพ่อแม่ก็ควรอบรมปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับผู้ชายด้วย ถึงแม้ปัจจุบันจะมีหญิงบริการอีกมากในสังคมบ้านเรา แต่ทุกวันนี้เรื่องราวข่มขืนก็ยังมีต่อเนื่อง และประเด็นขายตัวนี้ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณ จขกท ต้องโยนมาให้ผู้ชายอีกเหมือนเคยทั้งๆที่เจ้าตัวเขาสารภาพมาแล้ว ว่าทำไปเพราะอยากได้เงิน ยังไม่เห็นใครบอกสักคนในรายการ ว่าเพราะผู้ชายมันหื่นเลยมาขายตัว ส่วนที่บอกว่า ประเทศอื่นผู้ชายแอบเที่ยวกัน คุณแน่ใจเหรอคับ? ประเทศอื่นอ่ะ โจ๊ะครึ๋ม กว่าบ้านเราเยอะคับ ยกตัวอย่าง ญี่ปุ่น หนังโป๊เกลื่อนเมืองคับ สถานบันเทิงเปิดเผยออกหน้าออกตา มีมากมาย ผู้หญิงคนไหนสวยๆเล่นหนังโป๊แบบถึงพริกถึงขิง ก็ได้เป็นดาราเลย นั่นเพราะบ้านเมืองเขาไม่มีวัฒนธรรมที่ดีแบบบ้านเราไงคับ ทุกอย่างมันเลยดูปกติธรรมดาสำหรับบ้านเมืองเขา ดังนั้นประเทศที่คนแอบเที่ยวโสเภณี น่าจะเป็นบ้านเราเนี่ยแหละคับ เห็นตามข่าวบ่อยคับ ตรงหยามเล็กอ่ะ วิ่งหนีตำรวจกันจ้าละหวั่น หรือกรณีที่คุณ จขกท บอกว่าผู้ชายบางคนก็พ่อบุญทุ่ม อันนี้ผมก็ขอประนามผู้ชายด้วยคับ ที่มองคุณค่าของผู้หญิงตีราคาเป็นเงิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้หญิงสามารถปฏิเสธได้คับ เพื่อนผมคนนึงเคยไปนั่งเล่นที่ร้านอาหารกึ่งผับแถวมหาลัย มีเสี่ยคนนึงให้คนมาสะกิด เพื่อจะขอเบอร์ กระซิบว่า อยากเลี้ยงดู โชคร้ายที่ว่าเพื่อนผม สวย ดุ คับ เธอตะโกนใส่หน้า ว่า ไม่ใช่กระหรี่!! แค่นี้มันก็ทำอะไรไม่ได้ละคับ หน้าแตกออกจากร้านแทบไม่ทัน
ทั้งหมดมันแค่เป็นมุมมองที่แตกต่างกันเท่านั้นเองคับ ไม่ใช่หมายความว่า คนที่มีความเห็นแตกต่าง กลายเป็นคนที่ไม่หวังทำอะไรให้ดีขึ้น และการที่สอนให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว ก็ไม่ใช่ว่าเราจะปิดกั้นเรื่องทางเพศให้กับเขา ทั้งสองอย่างมันควบคู่กันไปได้คับทั้งวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม ไม่ใช่ต้องเลือกวิธีแบบของ จขกท เท่านั้นถึงเป็นสิ่งถูก ทั้งๆที่แนวคิดของ จขกท กับ ผม ผมก็เห็นว่าไม่มีใครผิดใครถูก ใครเลือกทำวิธีไหน ผมก็ว่ามันได้ผลดีทั้ง2วิธี จริงๆเรื่องแบบนี้คุยกันถกเถียงกันดีๆก็ได้คับ ไม่จำเป็นต้องด่ากัน จริงๆผมไม่อยากพิมพ์อะไรยาวๆแบบนี้หรอกนะ แต่เมื่อคืนมันปิ๊ดเลย พอมาอ่านเจอว่าสาระแน บอกตรงๆตั้งแต่เล่นกระทู้พันทิพมา เพิ่งมีกระทู้นี้แหละที่ให้ความเห็นแตกต่างจากคนตั้งกระทู้ แล้วโดนด่ากลับมา ไม่รู้เหมือนกันว่าไปด่า จขกท ตอนไหน ผมเคารพทุกความคิดเห็นตลอด ถึงแม้จะมุมมองต่างกัน เวลาผมตั้งกระทู้ ผมยังไม่เคยมาตอบโต้คนที่มาแสดงความเห็นเลยแม้จะสวนทางกัน ยิ่งตอนนี้มาเจออันใหม่อีก พิพากษาผมไปแล้ว ว่าไม่ให้เกียรติผู้หญิง แถมนั่งตบยุงไม่หวังให้สังคมดีขึ้น เพียงเพราะผมมีมุมมองที่ต่างจากคุณ เฮ้อ เอาเป็นว่าถ้ายังมีอะไรขัดใจ จขกท อยู่อีก ก็ถือว่าเรามีความเห็นไม่ตรงกันละกันนะคับ แต่อย่าบอกว่าผมใจแคบ หรือ ไม่หวังให้สังคมดีขึ้น เพราะคุณไม่เคยรู้จักผมแม้แต่นิดเดียว คุณจะเอามุมมองคนอื่นที่ต่างจากคุณมาตัดสินพิพากษาใช้สำนวนตอบโต้แบบเจ็บๆแบบนี้ไม่ได้หรอกคับ ไม่งั้นมันจะเหมือนคุณใจแคบซะเอง ถึงแม้หลายส่วนไม่เห็นด้วย แต่ควรเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน
สุดท้ายนี้ขอย้ำนะคับ ว่าทั้งแนวคิดของ จขกท ของผม และความเห็นท่านอื่นๆ ไม่มีใครผิดใครถูกคับ ทุกคนต่างมีความปราถนาดีด้วยกันทุกฝ่ายที่จะเห็นสังคมดีขึ้น แต่ในมุมมองที่แตกต่างกัน ผมคิดว่า ถ้านำมาผสมผสานหยิบส่วนดีของแต่ละมุมมองมาใช้ ก็น่าจะเป็นผลดีที่สุด
ปล. สถิติการหย่าร้าง การเปลี่ยนคู่นอน มีเมียหลายคน มีผัวหลายคน การขายบริการทางเพศ ประเทศตะวันตกสูงกว่าเรานะคับ เอดส์นี่ประเทศอื่นก็สูงกว่าเรานะคับ แต่ส่วนใหญ่ระบบกฎหมายหรือปัจจัยต่างๆเขาดีกว่าบ้านเราคับ เช่นการฟ้องร้องค่าเลี้ยงดู มูลนิธิช่วยเหลือต่างๆ ดังนั้นปัญหาทางสังคมของเขาเลยลดน้อยกว่าบ้านเรา
(ขอโทษที่แก้ไขข้อความเยอะไปหน่อย แต่คิดว่าน่าจะครบถ้วนในส่วนที่ผมอยากแสดงความคิดเห็นแล้วละ )
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 51 13:01:19
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 51 12:42:51
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 51 12:30:54
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 51 11:38:25
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 51 11:14:17