ต้องขอถอดล๊อคอินมานะคะ (ยาวนิดนึงนะ)
เรื่องของเรื่อง เราเป็นคนอ้วน เป็นนักศึกษาที่ถูกเลี้ยงมาอย่างไข่ในหิน
ไม่เคยไปไหนมาไหนเอง ไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเอง อยู่ในสายตาพ่อแม่ และพ่อแม่ก็ประคบประหงมตลอดเวลา
ตั้งแต่เล็กจนโตก็ถูกล้อ ถูกแซวตลอดว่า อ้วนๆๆๆๆ อีอ้วน ยายอ้วน ไอ้คนไม่รู้จักดูแลตัวเอง ฯลฯ
ทุกครั้งที่ได้ยินก็เสแสร้งทำหน้าระรื่น ไม่สนใจ แต่ทุกครั้งๆก็กลับมาร้องไห้ที่บ้านเหมือนเดิมทุกที
ยิ่งคำว่าไม่รู้จักดูแลตัวเอง เราเสียใจทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้ เราผิดอย่างนั้นหรอ?
เราอ้วน เพราะเรามีปัญหาด้านฮอร์โมน (ฮอร์โมนหลายตัวทำงานผิดปกติ รวมทั้งไทรอยด์เป็นพิษ)
ทุกวันนี้ต้องกินยาและฉีดยาตลอด
หาหมอเดือนละครั้งมาตลอดหลายปี ทุกวันนี้มีโรคตับ (fatty liver) และโรคเครียดเพิ่มมาอีก
ทั้งๆที่คนภายนอกมองว่าเป็นเด็กเรียน อนาคตเกียรตินิยมอันดับ1 ตั้งใจเรียนไม่เที่ยว ไม่สูบบุหรี่ ฯลฯ
และผู้ใหญ่หลายต่อหลายท่าน เพื่อนพ่อ เพื่อนแม่ ที่มักชมว่าเป็นคนหน้าสวย หน้าคม
แต่ไม่มีใครในครอบครัวหรือคนรอบข้างรับรู้ถึงความกดดันเรื่อง"อ้วน"ของเราที่มีมาตั้งแต่เด็ก
มันเป็น ปม ของชีวิตที่ติดตัวเราไปตลอด ทุกที่ ทุกเวลา
วันนึงคนคนนี้ได้รู้จักกับผู้ชายคนนึงใน msn ในฐานะเพื่อนมากว่า 2 ปี
พอย่างเข้าปีที่ 3 ก็อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ และเค้าก็ตกลง เค้าว่าเค้ารับได้ในสิ่งที่เราเป็น
และเค้านั่นละที่จะเป็นกำลังให้เราฝ่าฝันโรคร้ายต่างๆให้ได้ และจะเป็นกำลังใจให้ลดน้ำหนักด้วย
การที่เค้าบอกว่าเค้ารักเรา สำหรับคนที่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะมีใครมารักคนนี้
มันเป็นช่วงนึงในชีวิตที่มีความสุข ได้รับการยอมรับที่เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้
วันนั้นร้องไห้ ดีใจ คิดว่าอย่างน้อยยังมีสักคนนอกจากพ่อแม่และญาติๆที่มองเราจากจิตใจ ไม่รังเกียจที่เราอ้วน
เราเริ่มไปดูหนังกัน ไปกินข้าวด้วยกัน และสุดท้ายวันนึงมันก็พัฒนาไปถึงการมีเพศสัมพันธ์
วันนึงไข่ในหินของพ่อและแม่คนนี้ได้มารู้จักโลกของผู้ชาย
คนคนนึงที่คิดว่าต้องแต่งงานก่อนเท่านั้นถึงมีอะไรกันได้
เปลี่ยนแปลงความคิดกลับกลายมายอมผู้ชายคนนี้เพราะว่ารักเค้าซะเหลือเกิน
ทุกอย่างมันดี มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขช่วงนึงของชีวิตเลย
ก็ใครละจะอยากมีอะไรกับคนอ้วนๆ มองไปก็ไม่มีอะไรน่าดู พอนึกอย่างนี้ก็อดดีใจ อดมีความสุขไม่ได้
เรานอนกอดกันทั้งคืน มีอะไรกันหลายครั้ง (ถึงจะรู้สึกเจ็บปวดที่ช่องคลอดมากจนไม่รู้สึกว่าจุดสุดยอดที่เค้าว่ากันมันเป็นยังไง)
แต่ก็รู้สึกดีที่ได้อยู่กับเค้าจึงทนได้ถึงจะเจ็บมาก
รู้สึกเลยว่าจะแต่งงานกับคนนี้แน่ๆ รักเค้ามาก จะทิ้งทุกอย่างเพื่อเค้า
รูปร่าง หน้าตา ฐานะ อะไรก็ตามไม่สำคัญ เพราะรักผู้ชายคนนี้ คนที่รักในสิ่งที่เราเป็น
แต่ก็สัญญากับเค้าว่าจะดูแลตัวเอง กินยาสม่ำเสมอ และจะพยายามลดน้ำหนัก ทีละนิด ทีละหน่อย ไปเรื่อยๆ
หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ ทุกอย่างผิดคาดไปหมด
อยู่ๆผู้ชายคนนั้นทิ้งเราไป ไม่ไยดี ไม่สนใจว่าคนคนนี้จะรู้สึกยังไง
ทั้งๆที่พ่อแม่ของเค้ารู้เรื่องที่ลูกชายเค้ามีอะไรกับเรา ก็ยังบอกให้เลิกกันให้ได้ ไม่ยอมให้คบกัน
ช่วงนั้นเรานอนร้องไห้ทั้งคืน ทุกคืน ร้องอยู่อย่างนั้น
บางทีต้องกรี๊ดออกมาดังๆ เพราะไม่รู้จะหาทางออกยังไง เค้าก็ไม่สน
เด็กเรียนคนนี้ต้องโดดเรียน เพราะสภาพของตาที่บวมปิด และไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้ น้ำตามันไหลตลอดเวลา
สุดท้าย..ก็เครียดจนเอามีดมากรีดๆๆ กรีดข้อมืดจนเป็นรอยไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยรอยจนเลือดออกเต็มไปหมด
แล้วเอามีดกรีดคอ ไม่ลึกมาก เลือดไหลซิบๆเป็นรอยตามรอยกรีด
(ตอนนั้นไม่ได้กรีดเพราะอยากตาย แต่กรีดด้วยความเครียด)
และด้วยความงี่เง่าของเราเอง เราโทรไปหาเค้า หวังว่าเค้าจะเห็นใจ หวังว่าเค้าจะกลับมารักคนที่รักเค้าอีกสักครั้ง
แน่นอนค่ะ มันโง่มากที่ทำอย่างนั้น เค้าพูดมาแค่ว่า..
มันไม่ตายหรอก ถ้าตายต้องตัดใจกรีดทีนึงแรงๆตรงข้อมือเลย
เรายังงี่เง่าต่อ ลองขู่เค้าว่าถ้าเรากินยาตายละ (หวังว่าเค้าจะห้าม) แต่ที่ได้กลับมาคือ
ถ้าจะกินยาตายคงตายไปนานแล้ว ไม่มาโทรหาเค้าอย่างนี้หรอก แล้วก็ปิดมือถือ
เจอคำนี้เข้าเลยยิ่งประสาทเสีย นี่หรอผู้ชายที่แสนดีที่รู้จักกันมาเป็นปี
อารมณ์อยากตายวิ่งเข้ามาในหัว คิดว่าให้กรีดข้อมือ หรือกรีดคอคงไม่กล้าพอ
เราเลยหยิบพารามากำมือนึง กลืนไปหมดกำมือ แล้วเดินไปนอนที่เตียง
เขียนจดหมายถึงพ่อแม่ เป็นข้อความสั้นๆว่า อโหสิให้ลูกด้วย แค่นั้น
จะตายหรือเปล่า ไม่รู้ ตอนนั้นคิดแค่ว่าถ้าไม่ตายพรุ่งนี้เช้าก็ตื่นเอง ถ้าไม่ตื่นก็ได้ทิ้งอะไรไว้บอกพ่อแม่แล้ว
พอขึ้นเตียงไปไม่ทันไร
เห็นหน้าของพ่อกับแม่ลอยมา
น้ำตาไหล ภาพตอนเด็กๆ ภาพที่อยู่กับพ่อแม่มันวิ่งเข้ามาในหัวเต็มไปหมด
ไม่รู้หรอกว่ายาที่กินไปและจำนวนที่กินไปจะทำให้ตายได้ไหม เพราะไม่มีความรู้ด้านนี้
แต่ตอนนั้น วินาทีนั้น อยู่ๆก็คิดเลยว่าไม่ได้ อยากอยู่ ถ้าเราไม่อยู่พ่อแม่จะทำยังไง เราเป็นลูกสาวคนเดียวนะ
นึกภาพพ่อแม่มาร้องไห้กอดศพเรา เราก็ทนไม่ได้
เราเลยวิ่งเข้าห้องน้ำ และล้วงคออ้วก อ้วกอยู่อย่างนั้นคนเดียว
ผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ ไม่มีคนที่บ้านรับรู้ (เราอยู่หอ) เวลากลับมาบ้านซึ่งนานๆทีก็ใส่เสื้อแขนยาวปิดรอยมีดกรีดที่ข้อมือ
ส่วนที่คอ เป็นแผลเล็กๆ ไม่ใหญ่และลึกเหมือนที่ข้อมือเลยไม่มีใครสังเกตเห็น
ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ทุกวันนี้รู้สึกว่ากลายเป็นคนมีอารมณ์แปรปรวนและไม่มั่นใจในตัวเอง
ไม่อยากออกจากห้องไปเรียน กลัวการมีความรัก
เวลาใครมามองก็คิดมาก คิดว่าทุกคนมองที่เราอ้วน มองเพราะรังเกียจ
อยากอยู่แต่ในห้องคนเดียว ตอนกลางคืนก็นอนร้องไห้จนหลับ
เป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนรู้สึกว่า ถ้าได้ระบายออกมาบ้างอาจจะรู้สึกดีขึ้น เลยถอดล๊อคอินมาระบายในกระทู้นี้
ปล. เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ทุกคน ขอบคุณมากนะคะที่เสียเวลามาอ่านเรื่องของเรา กระทู้นี้เราจะเข้ามาอ่านบ่อยๆ
เผื่อเราจะได้อะไรใหม่ๆ ได้เพื่อนใหม่ ได้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไปในชีวิต สู้กับโรคต่างๆที่เราเป็น
ปล2. สำหรับคนที่จะเข้ามาต่อว่าเรา ไม่ว่าจะเป็นมาตอกย้ำว่าเราโง่ที่คิดสั้น เราโง่ที่โดนฟันง่ายๆหรืออะไรก็ตาม เราขอเถอะค่ะ อย่าตอกย้ำเราอีกเลย
เพราะเรารู้แล้ว
.ว่า กว่าจะรู้เดียงสา มันเป็นยังไง
*ถ้าใครที่อ่านกระทู้นี้จบแล้ว กำลังเศร้า กำลังเครียด ผิดหวังเรื่องความรัก อยากตาย
อย่าทำเลยนะคะ เอาสิ่งที่เราได้มาเล่าในวันนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์
เราตายไป ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้เศร้า ไม่ได้เสียใจอะไรไปกับเราหรอก
คนข้างหลังที่รักและห่วงใยเราจริงๆอย่างคุณพ่อคุณแม่ต่างหากที่จะทุกข์และเสียใจที่สุด
เราต้องอยู่ ต้องสู้กับมัน ไม่ใช่คุณคนเดียวที่มีทุกข์ ดูอย่างเราสิ เราก็มีทุกข์ สู้นะ ^^
จากคุณ :
กว่าจะรู้เดียงสา
- [
4 มิ.ย. 51 06:53:19
A:210.86.220.148 X: TicketID:001587
]