ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องการดื่มน้ำปัสสาวะเพื่อบำบัดโรคกันมาบ้างแล้ว แต่ผมเชื่อว่าน้อยนักคนที่จะกล้าทดลองปฏิบัติตาม เพราะอย่างที่รู้ๆ กันดีอยู่ว่าเราถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าปัสสาวะเป็นของสกปรกมีเชื้อโรค ดังนั้นการดื่มน้ำปัสสาวะจึงเป็นเรื่องที่ขัดกับความรู้สึกอย่างยิ่ง เมื่อก่อนผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
จนอยู่มาวันหนึ่ง มีเหตุให้ผมต้องหันมาสนใจแพทย์ทางเลือกแขนงนี้ คือเป็นเรื่องขอคนอื่นอะครับ แต่ผมเป็นเดือดเป็นร้อนแทน ที่ต้องการจะหาแพทย์ทางเลือกมาช่วยรักษา เพราะผมเคยได้ยินผ่านๆ มาเหมือนหลายๆ คน เรื่องการดื่มน้ำปัสสาวะ ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ดังนั้นจะให้อยู่ดีๆ เดินไปบอกเขาว่าให้ลองดื่มน้ำปัสสาวะของตัวเองดู ใครมันจะไปเชื่อหละครับ
ด้วยเหตุนี้ ผมเลยค้นหาข้อมูลต่างๆ ทางเน็ตพอไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ด้วยเริ่มจากเว็บภาษาไทยก่อน ก็พบว่า มีหลายกระทู้ในเว็บเพื่อสุขภาพหลายที่กล่าวถึงเรื่องนี้ มีทั้งการกล่าวอ้างจากประสบการณ์จริง หรือ ประสบการณ์ของคนรู้จัก แม้กระทั้นอ้างอิงจากพุทธประวัติว่ามีข้อกำหนดของพระในสมัยพุทธกาลให้ฉันน้ำมูตรเน่า (ซึ่งก็คือน้ำปัสสาวะนั้นเอง) เพื่อบำรุงสุขภาพและรักษาโรค
แต่นั้นก็อย่างไม่พอสำหรับผมที่จะทำให้ตัดสินเชื่อได้ จนค้นไปค้นมาก็เจอหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า "วิทยาศาสตร์ว่าด้วยน้ำปัสสาวะบำบัดโรค" แต่งด้วย นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ไม่สามารถหาเรื่องเล่มนี้มาอ่านได้ (เดินหาตามร้านหนังสือชั้นนำทุกร้าน แต่เขาบอกว่าหมด) แต่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมแอะใจตรงที่ชื่อหนังสือเขียนว่า "วิทยาศาสตร์ว่าด้วย..." นั้นหมายความว่าการดื่มน้ำปัสสาวะรักษาโรคนั้นเป็นเรื่องของหลักการทางวิทยาศาสตร์หรอกหรือ? ไม่อย่างนั้นแพทย์ท่านนี้จะกล้าจั่วหัวหนังสือแบบนี้ได้อย่างไร
อย่ากระนั้นเลย ผมก็ตะลุยด้วยใช้กูเกิ้ลเจ้าเก่าหาข้อมูลในระดับอินเตอร์ดูซิว่าเขาพูดกันว่าอย่างไรบ้าง ปรากฎว่าไม่ใช่เพราะบ้านเราเท่านั้นที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ฝรั่งเขาก็พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน และมีการทดลองกันมานานแล้วด้วย แต่ก็อย่างที่ทราบข้อมูลที่ปรากฎในอินเตอร์เน็ตนั้น มันไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไร เพราะส่วนมากก็จะบอกว่ารักษาโรคนั้นโรคนี้ได้ ต้องทำอย่างโน่นอย่างนี้ ต้องดื่มปัสสาวะตอนเช้าเอาเฉพาะช่วงกลาง บลาๆๆๆ แต่ก็ไม่มีข้อมูลไหนที่จะมาตอบคำถามในใจผมแต่ว่า "มันรักษาได้อย่างไร ปัสสาวะไปทำปฎิกิริยาอะไร ทำไมถึงรักษาโรคต่างๆ ได้มากมายขนาดนี้"
จากการค้นหาด้วยคำค้นว่า "Urine Therapy" ทำให้ผมเจอลิ้งค์ไปที่ amazon และค้นพบว่ามีหนังสืออยู่ประมาณ 4-5 เล่มที่พูดถึงเรื่องนี้ จากการสำรวจคอมเม้นต์ต่างๆ ในเว็บ amazon ก็ได้รายชื่อหนังสือมาสามเล่มที่ฝรั่งเขาแนะนำว่าดีคือ
1. Your Own Perfect Medicine by Martha M. Christy
2. Golden Fountain: The Complete Guide to Urine Therapy by Coen van der Kroon
3. The Water of Life: A Treatise on Urine Therapy by J.W. Armstrong
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมก็ตัดสินใจสั่งซื้อมันทั้งสามเล่มเลย แต่เล่ม 2-3 ดันหมดสต็อกในตอนนั้น เลยได้แค่เล่มแรกมา ด้วยที่ 2-3 จะตามมาทีหลัง ซึ่งถึงว่าโชคดีสำหรับผมเหมือนกันเพราะว่าในทั้งสามเล่ม เล่มของ Martha Christy เป็นเล่มที่มีการพูดถึงการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มากที่สุด และเป็นสิ่งที่ผมอย่างรู้มากที่สุดด้วย
พออ่านจบเล่ม ผมไม่มีข้อข้องใจอะไรเหลืออยู่อีกเลย ในเรื่องของความปลอดภัย หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ กระบวนของปัสสาวะที่ทำให้บำบัดโรคต่างๆได้ อีกทั้งสาเหตุสำคัญที่ว่า ทั้งที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันขนาดนี้ทำไมไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะชนอย่างเป็นทางการ และ ทำไมแพทย์แผนปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้ถึงงานวิจัยด้านการใช้ปัสสาวะรักษาโรคกันเลย หนังสือเล่มนี้มีคำตอบให้ทั้งหมดครับ
แล้วก็มาถึงนาทีระทึกใจ นั้นคือการทดลองด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าจะได้อ่านและเข้าใจมาอย่างดี แต่จิตที่ถูกปลุกฝั่งมาตั้งแต่เด็กว่าปัสสาวะมันสกปรกก็ยังทำงานอยู่ ผมต้องใช้พลังความกล้าพอสมควรถึงจะกระดกปัสสาวะอึกแรกเข้าไปได้ (เกือบอ้วกเหมือนกัน) หลังจากลองปฏิบัติตามคำแนะนำในหนังสืออยู่ประมาณ 1 เดือน ผมสามารถสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้อย่างชัดเจนครับ อย่างแรกคือเรื่องภูมิแพ้ เพราะผมเป็นโรคภูมิแพ้ ตอนเช้าตื่นมาจะมีอาการคัดจมูก ถ้าได้ออกกำลังกายเป็นประจำ อาการก็จะหายไป แต่ก็จะมีอาการคันจมูกนิดหน่อย แต่จะไม่จามแบบขี้มูกขี้ตาไหล แต่หลังจากลองดื่มน้ำปัสสาวะไปแค่สัปดาห์แรกอาการคันจมูกหายไปอย่างปิดทิ้ง โล่งจมูกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างที่สอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้คาดว่าการดื่มน้ำปัสสาวะจะช่วยได้คือหัวล้านครับ (แม้จะเห็นผ่านๆ ตามกระทู้ในเว็บ) ผมสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าในบริเวณของศีรษะที่เคยล้านขี้นไปมีเส้นผมอ่อนๆ ขึ้นมาเป็นไรๆ จากแต่เดิมที่เลียนใสขึ้นไปเป็นทาง แต่อย่างไรก็จะต้องรอดูผลอีกซักระยะว่ามันจะขึ้นมาดำดกเหมือนเดิมได้หรือเปล่า ส่วนอาการหน้าใสหน้าเด้งอันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะว่ามันค่อยข้าง subjective นิดหน่อยที่จะบอก แต่ผมก็คิดว่าตัวเองหน้าใสขึ้นครับ อีกทั้งสิวผดที่หน้าผากก็เหมือนจะลดลงด้วย
สำหรับตัวผม ผมมั่นใจแล้วครับว่าวิธีการนี้ได้ผลและไม่มีอันตรายใดๆ ถ้าเข้าใจและปฏิบัติอย่างถูกวิธี และความเชื่อที่ว่าปัสสาวะเป็นสิ่งสกปรกนั้นเป็นเรื่องที่ผิดแน่นอนครับ และผมก็มีความมั่นใจที่จะแนะนำการรักษาให้กับคนสำคัญของผมแล้ว ซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงในการทดลองครั้งนี้ครับ
ป.ล.
ผมตั้งใจที่จะไม่บอกวิธีการใช้ปัสสาวะรักษาโรคด้วยละเอียด อีกทั้งไม่ได้บอกถึงโรคต่างๆ ที่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีนี้ เพราะ ว่าผมไม่ได้ตั้งใจที่จะชวนใครมาดื่มน้ำปัสสาวะกับผม แต่ผมอยากจะให้คนที่สนใจแพทย์ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึกก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้ อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ครับ สำหรับท่านที่สนใจการรักษาแนวทางนี้ ผมแนะนำให้ตามลายแทงจากเอกสารอ้างอิงที่ผมให้ไว้ได้เลย ส่วนท่านที่ตั้งใจจะลองแต่ต้องการรายละเอียดในการปฏิบัติ สามารถติดต่อมาที่หลังไมค์ได้เลย ผมยินดีที่จะแนะนำครับ
จากคุณ :
KoKoMan 
- [
1 ส.ค. 51 21:32:43
]
ปัสสาวะบำบัดโรค (Urine Therapy) ไม่ใช่เรื่องงมงามหรือไร้เหตุผลอย่างที่หลายคนเข้าใจ
