PANTIP.COM : L6876076 อิอิ..พึ่งไปขลิบมา มะเช้าครับ หมอบอกว่า ต้องล้างแผลทุกวันเพราะเป็นแผลเย็บ แต่ลืมถามว่าล้างเองได้ไหม แนะนำนิดนึงครั [สุขภาพกาย]

ความคิดเห็นที่ 1

หลังจากที่หลายคนตัดสินใจไปขลิบมาเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนในการดูแลแผลกันนะครับ อันนี้ต้องเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่าคลินิกหรือโรงพยาบาลบางที่ได้รวมค่าทำแผล ไว้กับค่าผ่าตัดเรียบร้อย ซึ่งสำหรับกรณีแบบนี้ก็คงจะไม่ยุ่งยากอะไรครับ แต่ที่จะพูดถึงนี่คือในกรณีที่มาดูแลเองที่บ้านครับ

ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า หลังจากผ่าตัดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับจูเนียร์ของเราบ้าง คือแน่นอนเราก็จะเห็นจูเนียร์ของเรา มีผ้าก๊อซพันแผลหนา ๆ ป้อม ๆ พันไว้รอบ ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แรก ๆ จะไม่ค่อยรู้สึกเจ็บอะไรหรอกครับ เนื่องจากว่ายังมีฤทธ์ของยาชาระงับไว้อยู่ บางคนถึงกับบอกว่าชิล ๆ ไม่เจ็บอย่างที่คิด ซึ่งก็ดีใจด้วยนะครับ จากนั้นหมอเค้าก็จะให้ยาแก้ปวดมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็น paracetamal ครับ หรือบางคนกินแล้วยังปวดมาก ก็อาจจะใช้ยาพวก brufen ครับ (มีขายตามร้านขายยานะ ซึ่งเป็นยาแก้ปวดอย่างแรง กินมากกัดกระเพาะ) และยาฆ่าเชื้อครับ จากนั้นเราก็จ่ายตังค์ค่าผ่าตัด + ค่ายาซะ แล้วถามวันนัดให้ดี ว่าจะต้องมาให้คุณหมอดูไหม ขอเบอร์สอบถามไว้เผื่อมีปัญหาไรงี้ครับ แล้วก็กลับบ้าน (อันนี้มีทริคนิดนึงนะครับ ว่าไม่ควรขับรถไปขลิบครับ เพราะหลังทำใหม่ ๆ อาจจะขับรถไม่สะดวก ทั้งเจ็บ ทั้งไม่ปลอดภัย แนะนำให้หาคนขับรถไปด้วย หรือใช้บริการ taxi จะสะดวกกว่าเยอะครับ

จากนั้นพอเรากลับมาถึงบ้าน หลายคนก็คงอยากรู้อยากเห็นแล้วครับ ว่าเค้าทำอะไรกับจูเนียร์เราบ้าง บางคนอาจจะเปิดแผลดูเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ควรนะครับ เพราะวันแรก ๆ เลือดอาจจะยังซึมอยู่ คุณหมอเค้าจะพันผ้าก๊อซมาแน่นหนาเพื่อห้ามเลือดแล้วครับ รอวันรุ่งขึ้นก็ได้ครับ

ขึ้นวันใหม่ครับ คราวนี้แหละยาชาหมดฤทธ์แล้วครับ บางคนจะเจ็บแปล๊บเลย บางคนขาถ่าง อันนี้ก็แล้วแต่ความอดทนของแต่ละคนนะครับ เอาหละมาเปิดผ้าพันแผลกันเลยดีกว่า ผมเชื่อว่าภาพแรกที่หลายคนเห็นอาจจะเป็นลมได้นะครับ นั่นคือสภาพของจูเนียร์ที่มีรอยเย็บ บวมๆ ช้ำๆ เยิน ๆ บางคนมีเลือดทะลักอีกต่างหาก และส่วนใหญ่จะมีคล้าย ๆ ตาข่ายพันรอบแผลไว้ อันนี้เรียก sofratole นะครับ เป็นวัสดุทางการแพทย์เอาไว้ไม่ให้แผลมันติดกับผ้าก๊อซครับ พอถึงตอนนี้เชื่อว่าหลายคนคงคิดแล้วครับ ว่าไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยตู อยุ่เฉย ๆ ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมไม่สวยเหมือนในหนังฝรั่งฟะ แถมมีรอยเย็บตะปุ่มตะป่ำอีก ซึ่งแผลตรงนี้ส่วนใหญ่หมอเค้าจะใช้ไหมละลายเย็บนะครับ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องมาตัดไหม ซึ่งก็อยากให้เพื่อน ๆ ใจเย็น ๆ นะครับ แล้วรอ ๆ ครับ คือจะบอกว่าสภาพแบบนี้เป็นกันทุกคนที่มีแผลผ่าตัดครับ และแผลมันจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามวันเวลาที่ผ่านไปครับ อย่าเพิ่งถอดใจกันก่อนนะครับ เดี่ยวงามแน่ครับ

ทีนี้ก็ถึงช่วงเวลาที่ทำแผล สำหรับคนที่ทำแผลเองนะครับ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีดังนี้ครับ

1.น้ำเกลือล้างแผล
2.เบตาดีน (betadine)ใส่แผล
3.ผ้าก๊อซพันแผลและพลาสเตอร์ปิดแผล
4.สำลีก้อนหรือไม้พันสำลี

ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถหาได้ตามร้านขายยานะครับ ไม่เกิน 100 บาทครับ อ้อลืมบอกไปอีกอย่างที่ต้องเตรียมคือ ใจ ครับ

ทีนี้เราก็จะมาเริ่มทำแผลกัน ก็เริ่มจากค่อย ๆ แกะผ้าก๊อซของเก่าออกนะครับ อันนี้บางคนคราบเลือดที่แห้งทำให้ผ้าก๊อซมันจะแกะยากครับ วิธีที่จะทำให้ผ้าก๊อซหลุดง่ายคือค่อย ๆ ใช้น้ำเกลือที่เตรียมมาราดไปบนผ้าก๊อซที่พันไว้ครับ มือนึงราดอีกมือนึงก็ลอกผ้าก๊อซ อันนี้จะทำให้ผ้าก๊อซหลุดออกมาอย่างง่ายดายครับ

ถัดจากนั้นพอเราเห็นจูเนียร์ที่บวม ๆ เยิน ๆ ของเราแล้วก็เริ่มทำแผลโดยการใช้ไม้พันสำลีหรือสำลีก้อนนะครับ ชุบน้ำเกลือล้างแผลแล้วเช็ดไปรอบ ๆ แผลผ่าตัดครับ เอาพวกคราบเลือด คราบน้ำเหลืองออกให้หมด เช็ดจนเห็นว่าสะอาดก็พอครับ อ้อระวังอย่าเช็ดแรงนะครับ เดี๋ยวเลือดออกอีก เพราะแผลผ่าตัดวันแรกๆ อาจยังไม่สมานดีครับ

ต่อจากนั้นเราก้เอาไม้พันสำลีหรือสำลีก้อน จุ่มน้ำยา betadine ครับ ซึ่งเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ ทาบริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัด ซึงอาจจะแสบเล็กน้อยนะครับ จากนั้นก็ค่อยเอาผ้าก๊อซพันรอบแผลและปิดด้วยพลาสเตอร์ ก้เป็นอันเสร็จพิธีครับ ทำแผลเช่นนี้เช้า – เย็นนะครับ ทำติดต่อกันซัก 1- 2 สัปดาห์จนมั่นใจว่าแผลแห้งแล้ว ก็ค่อยเลิกทำครับ

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนะครับจะเห็นว่าการทำแผลด้วยตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลย สามารถทำเองได้ครับ เพียงแต่ที่ผมย้ำแล้วย้ำอีกก็คือ เวลาที่เห็นแผลวันแรก ๆ อย่าพึ่งถอดใจครับเพราะมันจะดูบวม ๆ เยิน ๆ ซึ่งเป็นปกติครับ พอผ่านไปมันก็จะดีวันดีคืนครับ ครบ 2 เดือนก็งามหมดจดครับ อ้อ ลืมบอกไปว่างดใช้งานจูเนียร์ซักเดือนนะครับ ไม่งั้นแผลที่เย็บไว้อาจจะฉีกออกได้ อดเปรี้ยวไว้กินหวานครับ

สำหรับหลายคนมักจะถามว่าโดนน้ำได้หรือไม่ อันนี้ในทางการแพทย์มี 2 แนวคิดนะครับ คือบางคนบอกว่าโดนน้ำได้เลยไม่ทำให้ติดเชื้อ ซึ่งคุณหมอที่มีแนวคิดแบบนี้ก็จะให้คนไข้อาบน้ำได้เลยในวันรุ่งขึ้นครับ เพียงแต่อย่าไปโดนมันแรงแล้วจากนั้นก็ซับให้แห้งครับ ส่วนอีกแนวคิดนึงคือพยายามให้ถูกน้ำน้อย ๆ ครับถ้าจะอาบน้ำก็ให้เอาถุงพลาสติคมาครอบไว้ ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ไม่มีใครถูกหรือผิดนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่เพื่อน ๆ ว่าอยากทำแบบไหนครับ ส่วนอีกอันนึงที่จะบอกไว้นะครับ ว่าแผลผ่าตัดวันแรก ๆ นั่นมีโอกาสเยอะนะครับที่จะมีเลือดออกซ้ำได้ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการแข็งตัวของจูเนียร์ครับ ทำให้แผลที่ยังไม่ติดกันดีเกิดมีเลือดซึมได้ อันนี้ไม่ต้องตกใจนะครับ ให้เอาผ้าก๊อซกดแน่น ๆ บริเวณที่เลือดซึมออกมาซัก 5 – 10 นาที แค่นี้เลือดก็หยุดไหลแล้วครับ อย่าเป็นลมไปก่อนหละ คิดซะว่ายอมเจ็บตอนนี้เพื่อสุขอนามัยที่ดีขึ้นของจูเนียร์ครับ

ลองไปดูวิธีการทำแผลได้นะครับที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&group=3

ปล.อาจมีภาพไม่เหมาะสมบ้าง แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ

จากคุณ : สาลิกาโบยบิน - [ 9 ส.ค. 51 18:34:13 ]