ความคิดเห็นที่ 1 อยากฉลาดต้องหมั่นเรียนรู้ค่ะ ความรู้ไม่ได้มีอยู่แค่ในหนังสือ...ทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราคือประสบการณ์ สิ่งเหล่านี้จะสอนให้เราฉลาดขึ้น..ลองหัดสังเกตุสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา และเปิดใจยอมรับมัน ก็จะทำให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้นนะคะ สู้ๆๆค่ะน้องพิม!! แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 21:08:36 จากคุณ : shewant - [ 19 ส.ค. 51 21:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ ลองให้คนอื่นสอนงาน แนะนำงานได้ป่าวคะ ไม่ก็อ่านเฉพาะตรงที่ต้องนำไปใช้ก่อน ถ้าเพิ่งไปอ่านทั้งหมด งานเยอะ งานยุ่ง ไม่มีเวลาอ่าน อาจจะทำให้รนๆ ไป ความฉลาดได้มาจากความเพียรพยายามค่ะ จากคุณ : titun - [ 19 ส.ค. 51 21:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความฉลาดทดแทนได้ด้วยประสบการณ์และความตั้งใจครับ จากคุณ : udom_su - [ 19 ส.ค. 51 21:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สติมา ปัญญาก็จะเกิดจ้ะ จากคุณ : Jamuay - [ 19 ส.ค. 51 21:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เท่าที่อ่านดู  คุณพิมมีปัญหา "การอ่านเพื่อตีความ"น่ะเองครับ แก้ไม่ยากนะครับ  ต้องรู้วิธีเท่านั้นเอง ผมจะลองแยกข้อความที่คุณพิมเขียนถาม ให้ดูทีละส่วนๆนะขอรับ เช่น รอบคอบ พิมจะอ่าน คอบรอบ - -" ^^^ อันนี้อาจมีส่วนเกี่ยวพันกับปัญหา dyslexia ครับ หรือ LD-learning disability การเรียนรู้บกพร่อง ซึ่งมักจะเกิดกับเด็กหรือวัยรุ่น  แต่ผู้ใหญ่ก็เคยมีการวินิจฉัยว่าเป็นเช่นกัน คนที่มีปัญหานี้มักอ่านตัวอักษรกลับหลังไปหน้า  ทำให้มีปัญหากับการอ่านตัวอักษรสูงมาก จนเป็นที่มาของการ "ไม่สามารถเข้าใจข้อความนั้นๆได้"น่ะเองครับ แล้วถ้าผู้มีอาการ lD ไม่เข้าใจปัญหาของตัวเอง ก็มักจะคิดว่า "ตัวเองโง่" จนซ้ำเติมตัวเองเข้าไปใหญ่ โดยไม่รู้ตัวว่าเราเป็น dyslexia นอกจากการอ่านแล้ว ยังมีปัญหาเรื่อง "ความเข้าใจ" ด้วย เป็นคนที่เข้าใจอะไรยากมาก(โดยเฉพาะเรื่องงานหรือเรื่องที่ต้องใช้ความคิด) ^^^ หากคุณพิมมีปัญหาเรื่องการอ่านตัวอักษรแล้วไม่เข้าใจ ให้ใช้ 2 วิธีนี้ดูก่อนนะครับ ว่าดีขึ้นหรือไม่ 1. ใช้ปากกาแบ่งข้อความออกเป็นประโยค ๆ สั้นๆ ไม่อ่านพรืดเดียวทั้งข้อความยาวๆ หรือ ขีดเส้นใต้ key message ของข้อความนั้นแล้วทำความเข้าใจกับมัน วิธีนี้เหมือนการที่เรางงกับการนับจำนวนเม็ดยาที่เทออกมาจากขวดทีละมากๆ แต่เราจะนับได้ดีขึ้นมาก เมื่อเราใช้ไม้คั่นยาออกมาทีละกลุ่มๆแล้วนับน่ะครับ 2. ถ้าไม่ขีดข้อความ ก็ให้พก recorder ติดตัวไว้เสมอเลยครับ แล้วอ่านข้อความที่เราต้องทำความเข้าใจลงเครื่องอัดเสียง แล้วเปิดฟังข้อความนั้นเอา  จะทำให้จำง่ายขึ้น วิธีนี้นักแสดงหรือนักร้องลูกทุ่งสมัยก่อนที่อ่านหนังสือไม่แตกหรืออ่านภาษาไทยไม่ได้ ใช้ท่องเนื้อเพลงและท่องบทครับ อ้าว..ลืมตอบข้อไม่เข้าใจเรื่องการใช้ความคิดครับ  แง้... ให้จัด grouping ครับ  คือจัดเรื่องงานที่อยู่ตรงหน้าหรือที่ได้รับบรีฟมา ให้แยกออกเป็นทีละกลุ่มความ  แล้วทำความเข้าใจทีละกลุ่ม เหมือนตอนเด็กเราท่องอาขยาน 1 เรื่อง มีใจความ 12 บท เราก็ต้องแยกท่องจำทีละบท แล้วค่อยนำมาร้อยต่อกันน่ะครับ อันนี้คุณพิมต้องลองยกตัวอย่างงานที่รับบรีฟมาแล้วไม่เข้าใจ ลองเอาของจริงเป็นตัวตั้งในกระทู้นี้ก่อนครับ  ถึงจะเห็นภาพ คนเราเกิดมามีข้อบกพร่องทั้งนั้นครับ แต่มันมีวิธีที่เราจะเอาชนะข้อบกพร่องนั้นได้ ขอเพียงแต่เรารู้วิธีเท่านั้นเองครับ ไม่ต้องกลุ้มใจไปน้า   (แก้ไขพิมพ์ผิดเพียบ  ถ้าไม่พิมพ์ผิด ไม่ใช่ผม..แง้อีกที) ููู แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 21:36:43 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 21:35:33 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 19 ส.ค. 51 21:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากที่อ่านคร่าวๆ เราว่าพิมเป็นคนที่คิดไว แล้วก็คิดแบบข้าวช๊อตอ่าค่ะ เพราะงั้นเวลาอ่านพิมต้องค่อยๆอ่านนะคะ แล้วถ้าจะให้ดี เอาดินสอขีดเส้นใต้ตรงข้อความสำคัญๆด้วยค่ะ เช่นคำสั่ง ขีดเลยเค้าสั่งให้ทำอะไรมั่งนะคะ จริงๆเราก็มีปัญหานะ เราชอบเขียนตัวเลข 3 เป็น c อ่าค่ะ แต่ก่อนเป็นบ่อยๆอ่าสมัยเรียน ม.ปลายเวลาจดโจทย์เลขจากบนกระดาน แต่ตอนนี้เวลารีบๆเขียนก็ระวัง เราก็ไม่เป็นแล้วอ่าค่ะ อิอิอิ จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 19 ส.ค. 51 21:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 บางทีการคิดอะไรซับซ้อนเกินไปก็อาจจะทำให้เราบื้อมากขึ้น เพราะกว่าจะคำนวณเสร็จก็อาจจะเอ๋อกินไปแล้วบ้าง ลองมองปัญหาดูใหม่ให้ง่ายๆและซิมเปิ้ลที่สุดดูเราก็จะเห็นภาพโดยรวม และจะมองเห็นทางออกของปัญหาได้นะครับ ปัญหาของ จขกท ก็เช่นกัน ถ้าอยากฉลาดขึ้นเราก็ต้องโง่น้อยลง  แค่เนี้ย จากคุณ : penn's - [ 19 ส.ค. 51 21:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อยากแนะนำเป็นวิชาการแบบคุณผึ้งน้อยอ่ะ แต่เราก็มะค่อยฉลาดเหมือนกัน...55555.... เอางี้.... กินปลาแซลมอนเยอะๆคงพอช่วยได้เนอะตะเอง จากคุณ : bluemiga - [ 19 ส.ค. 51 21:41:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แหะๆ เอาวิธีนู๋ไหมเจ้าคะ นู๋ก็พวกหัวทึบค่ะ...นู๋ทดแทนความฉลาดด้วยความ อึด ถึก บ้าค่ะ...จริงๆนะคะ อ่านนู๋เคยอ่านรอบนึงสอบตก...ก็อ่านมันสองรอบ อ้าวยังตก (- -") นู๋เลยซัดไปสิบรอบ ยี่สิบรอบ สามสิบรอบ ไม่ผ่าน นู๋กะตายในหน้าที่เลยน่ะค่ะ...สุดท้ายดันเต็มซะงั้น เออ ดีแฮะ แหะๆ...เลยใช้วิธีนี้เรื่อยมาและมันก็ได้ผลมาตลอดนะคะ สำหรับคนหัวไม่ค่อยดีแบบนู๋ ไม่ว่าเป็นเรื่องที่ต้องเรียนในระดับใดก็ตาม...แต่ตอนนี้จะสามสิบแร้ว ยังเรียนไม่จบเรยนะเจ้าคะ 5555 ปล. อันไหนที่ยากๆนู๋จะใช้ไม้บรรทัดทาบไล่อ่านทีละบรรทัดน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 22:18:25 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 22:07:23 จากคุณ : Florentyna - [ 19 ส.ค. 51 21:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หาแฟนมาช่วย  แป่ว  ล้อเล่นน่ะครับ ถ้าระยะแรกๆอาจทำแบบคุณผึ้งน้อยไม่ทันก็อาจให้คนอ่านออกเสียงให้ฟังก็ได้นะ เพราะมันคงไม่มีผลกระทบไปถึงการฟัง  มันมีปัญหาแค่การอ่านเท่านั้นนี่ เรื่องความเข้าใจก็อาจต้องหมั่นถามคนที่เข้าใจเอาครับ  จะเรียนรู้ได้เร็วกว่า และไม่ต้องพึ่งทักษะอ่านมากนัก แล้วจดเอาไว้ในแบบที่เราเข้าใจ  พยายามวาดเป็นรูปหรือflowchart ไว้ ส่วนในระยะยาว ก็คงต้องแก้ปัญหาที่การอ่านให้ได้   ก็ลองปรึกษาจิตแพทย์ดูก็ได้นะ น่าจะต้องรักษากันอย่างจริงจังเลยนะ จากคุณ : omeg - [ 19 ส.ค. 51 21:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เปลี่ยนไปอ่านภาษาอังกฤษแทน จากคุณ : Jump.Jr - [ 19 ส.ค. 51 21:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สมาธิคะ อย่าฟุ้งซ่าน เตลิดเปิดเปิงแบบนี้ จากคุณ : akokm - [ 19 ส.ค. 51 21:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ทำอะไรแบบมีสติ มีสมาธิค่ะ แล้วก็พัฒนาตัวเองเสมอๆ จากคุณ : la-la-bell - [ 19 ส.ค. 51 22:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ใช้การฟังสิครับ พวกคู๋มือการสอนแบบ อัดเทป มีภาพและเสียง น่าจะเรียนรู้ได้ง่ายและ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบการอ่าน จากคุณ : อยากหล่อกว่านี้ทำไงดี - [ 19 ส.ค. 51 22:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากฉลาด ต้องกล้าที่จะบอกว่าตัวเองโง่ พอบอกว่าตัวเองโง่ ก็จะพยายามขวนขวาย เคยเห็นหลายคน เวลาครูถามว่ามีอะไรสงสัยมั้ย นิ่ง ทำเอาเราคิดว่าตัวเองไม่รู้อยู่คนเดียว คนอื่นรู้แล้วมั้ง ตอนหลังมารู้ว่า จริงๆพวกมันไม่กล้าถาม และพอเราถาม คนอื่นก็จะมองหน้าแบบ "เมิงไม่รู้เหรอวะ" เมื่อก่อนจะอาย แต่ตอนหลังก็จะบอก กูไม่รู้ กูเลยถาม กูรู้กูจะถามมั้ย? และนั่นทำให้รู้อะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยรู้ พี่พิมน่าจะพิจารณางานแต่ละอย่างว่าต้องใช้ความสามารถอะไรบ้าง ถ้าอันไหนไม่รู้ หอบไปถามคนที่รู้เลยครับ ขอคำแนะนำมา หาหนังสือเพิ่มเติม ผมเชื่อว่าพี่พิมทำได้ครับ จากคุณ : CARAGIO - [ 19 ส.ค. 51 22:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รู้สึกเหมือนคุณพิมจะเป็นคนคิดไว ทำไว (คิดเอาเองจากที่อ่าน) อาจส่งผลกับการตีความหรือจับใจความสำคัญ ลองช้าลงอีกนิด...มีสติกับสมาธิครับ จากคุณ : MuHN - [ 19 ส.ค. 51 22:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 การไม่เป็นน้ำเต็มแก้วครับ คนฉลาดมั้งจะเปิดรับสิ่งใหม่ ยอมรับความเห็นของผู้อื่นแม้ว่าเค้าคนนั้นจะเป็นผู้น้อยครับ แต่บางอย่างก็เกิดจากความผิดพลาด แต่คนฉลาดเท่านั้นครับที่จะรู้ว่านั้นละคือประสบการณ์ที่จะทำให้เราฉลาดยิ่งขึ้น คนโดยมากมักคิดว่าคำว่า "ถ้า" ถ้าเราทำอย่างงี้ เราทำอย่างงั้น ไม่มีประโยชน์เลย ส่วนคุณพิมพ์ควรจะดีใจนะครับที่ได้ทำงานหลายๆตำแหน่งพร้อมกัน มันเป็นสิ่งที่จะทำให้เราค้นพบว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร การทำงานหน้าเดียวหลายๆปีไม่ใช่ผลดีครับ สุดท้ายก็สู้ๆๆๆๆๆๆครับ งานหนักไม่ทำให้เราตาย แค่ทำให้เราเหนื่อย แต่เหนื่อยก็นอนพักเท่านั้นครับ จากคุณ : I am fine thank you - [ 19 ส.ค. 51 23:02:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องวิธีทำให้ฉลาดขึ้นมันอยู่ที่เทคนิคแต่ละคนนะพิม มีหลายคนให้คำแนะนำดีๆทั้งนั้นเลย พี่จะก๊อปไปใช้มั่ง สำหรับเรื่องการอ่าน พี่เป็นคนอ่านรัวเร็ว พูดรัวเร็วมาก่อน มีปัญหามากๆ เพราะไม่มีใครสามารถฟังแล้วรู้เรื่องได้ พี่เลยมาหัดเอากับประโยคยากๆ เช่น เช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด หมูหมึกกุ้ง ทหารถือปืนแบกปูนไปโบกตึก ชามเขียวคว่ำเช้า ชามขาวคว่ำค่ำ เมื่อพูดคำเหล่านี้ได้รวดเดียวจบ ครบ 5-10 รอบ ก็ให้พัฒนาไปถึงประโยคที่ท้าทายสุดๆ คือ หมึกหกเปรอะมุ้ง แพะขวิดแกะ แกะขวิดแพะ เชื่อมะพี่หัดซะจนพี่ชนะแข่งขันพูดประโยคยากพวกนี้ด้วยละ แล้วพี่ก็เริ่มมั่นใจ อ่านนั่นอ่านนี่ ร เรือ ล ลิง อ่านไปเลย ช้าแต่ชัวร์ ฟังดูแล้วไอเดียพี่น่าขำนะ แต่พี่เอามาหัดจริงๆอะพิม จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 19 ส.ค. 51 23:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 งานที่ต้องใช้ความคิดเนี่ย เวลาทำ นอกจากต้องมีสมาธิแล้ว ต้องมีอารมณ์อยากทำด้วยนะ ถ้าหมดอารมณ์ทำงาน นึกให้ตายก็นึกไม่ออก จากคุณ : หลงทางเป็นงานอดิเรก - [ 20 ส.ค. 51 00:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อย่าหาว่าสอนเลยนะคะ  เรื่องที่บอกมาเนี่ยเรื่องเล็กค่ะ  เราว่าปัญหาอยู่ที่ตัวคุณไม่ตั้งใจอ่านและไม่ตั้งใจเรียนรู้เองค่ะ  อาการคุณเนี่ยยังน้อยกว่าเรามากเลยนะคะ  แต่ก่อนเรามีปัญหาด้านการสื่อสารหนักพอควร  ไม่ใช่แค่การอ่านค่ะ  การพูดหรือการฟังก็มีปัญหาด้วย  แถมสมาธิยังสั้นอีกต่างหากแม้แต่ดูหนังยังไม่เคยดูรวดเดียวจบเรื่องเลยค่ะ  ดูแล้วต้องพักเป็นระยะไปทำอย่างอื่นแล้วกลับมาทำใหม่  หนังสืออ่านได้แค่5-10หน้าก็ต้องหยุดค่ะ  ทุกวันนี้อาการเหล่านั้นก็ยังไม่หายค่ะ  เราใช้ปากกาหรือไม้บรรทัดเวลาอ่านเสมอ  ถ้าอ่านผ่านคอมก็จะใช้เม้าส์ชี้ตามตัวอักษรไปเรื่อยๆค่ะ แต่เราอ่านหนังสือเป็นพันๆหน้าได้จบ  เพราะเราค่อยๆเอาไม้บรรทัดวางทาบแล้วอ่านไปเรื่อยๆทีละบรรทัด  พอหมดสมาธิก็หยุดทำอย่างอื่นแล้วกลับมาอ่านใหม่เรื่อยๆ  ผ่านไปปีกว่าก็จบค่ะ  ถ้าเราหยุดเพราะคิดว่าสมองเรามีปัญหา  เราป่วย  เราเป็นโรคนั่นโรคนี่  เราคงไม่สามารถอ่านหนังสือได้จนจบค่ะ  หลับคาหนังสือก็บ่อย  หลับได้หลับไป  ตื่นมาก็ลุกไปทำอย่างอื่น  อยากอ่านเมื่อไหร่ก็อ่านใหม่  บางเล่มเนื้อหาน่าเบื่ออ่านแล้วหลับเป็นสิบรอบก็มีค่ะ  เคยแม้กระทั่งอ่านหนังสือเล่มเดิมไปเกือบจบเล่มเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเคยอ่านมาก่อนแล้ว -_-' คุณพิมมีสมองมากกว่าเรา  ไม่มีโรค  ไม่มีปัญหาด้านการสื่อสาร  ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงยอมแพ้ซะละคะ  เราไม่ได้บอกว่าคุณทำดูแล้วจะดีภายใน7วัน  เราเองใช้เวลาหลายปีกว่าจะอ่านหนังสือรู้เรื่องเหมือนคนอื่น  กว่าจะสื่อสารกับคนอื่นรู้เรื่องโดยไม่พูดวนซ้ำไปมาถึง3รอบ เป็นกำลังใจให้นะคะ  เราเชื่อว่าสักวันถ้าคุณฝึกฝนและพยายาม  คุณจะทำได้ค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 20 ส.ค. 51 01:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อย่าไปฟังคนอื่นครับ อ่าน #4 อย่างเดียว แล้วไปตั้งที่หว้ากออีกรอบซะ อาการอย่างนี้ LD แล้วครับ จากคุณ : Spirit of Darkness - [ 20 ส.ค. 51 02:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ต้องถามว่า ฉลาดด้านไหนครับ ไม่มีใครฉลาดไปทุกเรื่อง ผมว่า ให้หาด้านที่ตัวเองถนัด แล้วทำมันให้เชี่ยวชาญดีกว่า แบบนี้น่าจะจับต้องได้มากกว่าคำว่า ฉลาด จากคุณ : LamoonMan - [ 20 ส.ค. 51 02:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาพับเพียบอ่าน จด..จำ... และที่สุด พริ้นท์เก็บติดตัวท่าจะดี -_-' เชื่อเถอะค่ะว่า ความฉลาด ไม่เกี่ยวกับวุฒิต่างๆที่มีในมือ ไม่ว่าแค่ไหน และ กี่ใบก็ตาม เห้อออออออออออออออออ ขอบคุณ คคห.บนๆ และ ขอบคุณ จขกท.ที่ตั้งกท. ปล. เป็นโรค สมาธิสั้นมาแต่เกิดค่ะ ได้รับการ treatment ด้วยดนตรีบำบัด และ ทานยามาพักใหญ่ (จนทำให้เกร็ดเลือดต่ำ) แต่พบว่า..ยังคงฟุ้งกระจาย จับใจความอะไรด้วยเวลานานกว่าคนอื่นเสมอ สมาธิสั้น เป็น หนึ่ง ใน LD นะคะ จะมีผลกับภาวะอารมณ์ด้วยแล้วแต่กรณี.. ขนาดว่า ที่บ้านทราบดี และ ให้ความสนใจมาตลอด ยังไม่สามารถแก้ไขได้มาก ต้องปฏิบัติด้วยตัวเองเมื่อโตขึ้นค่ะ แล้วพบว่า การนั่งสมาธิ... คือวิธีการที่ช่วยได้แทบทุกเรื่องของการเรียนที่ ผ่านมาเลยค่ะ  ให้กำลังใจทั้ง จขกท. และ..เอ่อ ตัวเองค่ะ แหะๆ จากคุณ : รอยคำ - [ 20 ส.ค. 51 02:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ฝึกสมาธินะครับ ผมว่าช่วยได้เยอะเลย จากคุณ : ~Eternity Memories of Life~ - [ 20 ส.ค. 51 03:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 การฟัง มั้งคับ (ฝึกสมาธิไปในตัวด้วย) จากคุณ : Family Portrait - [ 20 ส.ค. 51 06:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สมาธิค่ะ จากคุณ : ขนมปังปิ้งจิ้มนม - [ 20 ส.ค. 51 08:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พี่กลับคิดว่าจำเก่ง  ก็ไม่ได้หมายความว่าฉลาดไปซะทุกคน แต่คนจำเก่งได้เปรียบตรงที่ข้อมูลเยอะ ถ้ารู้จักเอาข้อมูลที่มีมาปรับใช้กับเหตุการณ์  มันก็จะแก้ปัญหาได้ง่าย-ตรงจุด แต่ถ้าไม่รู้จักปรับใช้มันก็กลายเป็นคำว่า "ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด" ไงล่ะ เด็กนิติฯ รู้ดี อิ อิ  เพราะอ่านตำรากันเป็นตั้งๆ  ถามว่าจำได้ทั้งหมดมั๊ย  ตอบเลยว่า  ไม่ได้ เมื่อก่อนพี่เลือกจำแต่หลักกฎหมาย  พออาจารย์ถามเรื่องข้อยกเว้น(ของหลักนั้นๆ) ตายอีก เลยต้องปรับปรุงวิธีการอ่าน-จำของตัวเองใหม่หมด ด้วยการสร้างภาพขึ้นมาในสมองเพื่อช่วยในการจำ รู้สึกว่าภาษาของพวกอบรมเค้าเรียก Mind Maping ถ้าเขียนผิดขออภัยนะ พี่ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนอ่ะ  เวลาอ่านหนังสือก็จะเขียนสิ่งที่อ่านไปพร้อมๆกันด้วย ทำให้มันเป็นต้นไม้   อันนี้เป็นกิ่งใหญ่  อันนี้เป็นกิ่งเล็ก(หัวข้อย่อย และย่อย ของเรื่องนี้) เวลาสอบ  พี่จะคิดถึงภาพต้นไม้ได้ทั้งต้นเลย  ว่ามีรูปร่างยังไงบ้างมีกี่กิ่ง กี่แขนง   แล้วสิ่งที่อาจารย์ถาม  มันคือติ่งไหนของต้นไม้ต้นนี้ เพื่อนคนอื่นเค้าก็มีวิธีการจำในแบบของเค้า  บางคนชอบขีดเส้นใต้ก็ขีดมัน 500 เส้น พิมก็คงต้องหาวิธีการที่เหมาะสมสำหรับตัวเองเหมือนกันน่ะ จากคุณ : KHIMM - [ 20 ส.ค. 51 08:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ^ แล้วเวลาพี่เมาไปสอบ... ต้นไม้ของพี่ กิ่งมันครบรึเปล่าครับ จากคุณ : หาเรื่องแต่เช้า... (MuHN) - [ 20 ส.ค. 51 09:15:09 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ^ ในกรณีแฮงค์มาก----พายุฝนฟ้าคะนองพัดต้นไม้หักโค่นว่ะค่ะ แต่ถ้าแค่กึ่มๆ--------ก็เป็นต้นไม้ของ  กทม.  ด้วนจุ๊ดจู๋ 5 5 5 5 5  5 5 5 5 5 จากคุณ : KHIMM - [ 20 ส.ค. 51 09:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอาโปรแกรมพวก mind map ไปหัดใช้ก็จะช่วยได้เยอะนะครับเวลาเรียบเรียงปัญหา จากคุณ : the'tect (the_architect) - [ 20 ส.ค. 51 11:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเองก็ ไม่ฉลาดนะครับ ขอบังอาจให้ความเห็นนะครับ ^^' ถ้าไม่พูดถึง ขอบเขตด้านกายภาพ เช่น สมอง หรือ ความจำ ผมคิดว่า คนฉลาด คือ คนที่ยอมเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเรา หรือคนอื่นเคยโง่/ไม่รู้ มาก่อน และปรับปรุงแก้ไขมัน สำหรับวิธีการ หรือ กระบวนการนั้น เป็นเรื่องความถนัดหรือความชอบส่วนบุคคล ถ้าถามผม ส่วนตัวผมชอบกระบวนการ Mind Mapping ครับ (ลองหาอ่านจาก ร้านหนังสือ หรือเน็ทก็ได้ครับ) อีกส่วนหนึ่งที่ น่าจะเป็นปัญหา (จากที่อ่านกระทู้ข้างต้น) คิดว่า น่าจะมีส่วนจากสมาธินะครับ พยายามจดจ่อกับเนื้อหาที่อ่าน อย่าคิดข้ามไปข้ามมาเรื่องนั้นเรื่องนี้ เช่น อ่านข้ามไปข้ามมา จากหลังไปหน้า ไปกลาง ไปเรื่องอื่น มันจะเข้าใจไม่ปะติดปะต่อ ไม่เป็นกระบวนการที่ควรเข้าใจอย่างถูกต้อง หรือ รีบอ่าน รีบทำให้เสร็จๆไป อะไรแบบนี้ ยังไงก็เอาใจช่วยละกันนะครับ สู้ๆครับ จากคุณ : แสนฤทธา - [ 20 ส.ค. 51 11:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พิมขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆมากๆค่ะ ที่สละเวลามาตอบกระทู้ของพิม แถมให้ข้อคิดดีๆมากด้วย พิมตื้นตันใจมากค่ะ และ ขอขอบคุณมากๆค่ะสำหรับกำลังใจที่ดี ที่มีให้แก่กันเสมอมา ^^ หลังจากที่วิเคราะห์แล้ว พิมว่าปัญหาพิมมันเกิดจากตรงนี้ค่ะ (สรุปมาจากของเพื่อนๆพี่ๆด้านบน) -สติมา ปัญญาก็จะเกิดจ้ะ -เท่าที่อ่านดู  คุณพิมมีปัญหา "การอ่านเพื่อตีความ"น่ะเองครับ -อันนี้อาจมีส่วนเกี่ยวพันกับปัญหา dyslexia ครับ หรือ LD-learning disability การเรียนรู้บกพร่อง -งานที่ต้องใช้ความคิดเนี่ย เวลาทำ นอกจากต้องมีสมาธิแล้ว ต้องมีอารมณ์อยากทำด้วยนะ ถ้าหมดอารมณ์ทำงาน นึกให้ตายก็นึกไม่ออก -เราว่าปัญหาอยู่ที่ตัวคุณไม่ตั้งใจอ่านและไม่ตั้งใจเรียนรู้เองค่ะ   ป.ล. สงสัยต้องไปศึกษาเพิ่มเรื่อง mind mapping เพราะไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร จากคุณ : พิมมาดา (พิมมาดา@trustnoone) - [ 20 ส.ค. 51 11:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เธอรัก(ชั้น) .. หรือ (ชั้น)รักเธอ .. อ่านได้แบบไหนจ๊ะ .. คุณน้องพิม จากคุณ : Art of Illusion - [ 20 ส.ค. 51 13:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แนะนำว่า ให้ลองหัดอ่าน ช้า ๆ ดูก่อนดีมั้ยครับ อย่าพึ่งรีบ ^^" ตำแหน่งใหญ่ขึ้น เวลาคิดอะไร ต้องคิดแบบมีระบบ แบบแผน มีตรรกะ แนะนำให้ลองค้นหาคำว่า Systematic Thinking ใน google ดูครับ ถ้าบริษัทมีงบฝึกอบรม ลองเสนอขอฝึกหลักสูตรนี้ดูก็ได้ครับ จากคุณ : Denon - [ 20 ส.ค. 51 13:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 วิธีการเพิ่งพลังสมอง มีอยู่หลายวิธีด้วยกันครับผม... แต่อยากจะบอกว่า วิธีที่คนอื่นใช้... บางครั้งอาจจะไม่ได้ผลกับเราเลยก็ได้.... สุดท้ายแล้วเราจึงต้องค้นหาด้วยตัวเอง... อย่าง Mind Mapping ที่พี่คิ้มบอกว่าจำได้เป๊ะ... ผมชอบใช้เวลาเรียบเรียงข้อมูลมากมายครับ... แต่ไม่เคยจำมันได้ซักที T_T ถ้าจะให้จำกิ่งๆ แยกๆ ผมต้องใส่ตัวเลขให้มันด้วย แล้วถึงจะจำตัวเลขย่อยๆ ได้น่ะครับ... เรามาเริ่มต้นกันดีกว่า... เริ่มแรก ต้องรู้ถึง "จริต" ของตัวเองก่อนครับว่า เราเป็นคนที่ "เรียนรู้" จากอะไร... ตามตำราฝรั่ง ท่านว่า channel ของการเรียนรู้ มีอยู่สามทาง คือ ทาง การมองเห็น (Visual) การได้ยิน (Audition) และ การลงมือทำ (Kinestetic) อย่างผม ... ครึ่ง Visual ครึ่ง Kinestetic ถ้าไปพยายามฟังเลกเชอร์แบบไม่จด ไม่มีภาพประกอบ ไม่ทำโจทย์ ... ... จบเห่ทุกครั้งครับ... ไม่เคยได้อะไรกลับมาเลย ดีไม่ดีหลับคาเลกเชอร์ ประจำ หาจริตของตัวเองให้เจอครับ... แล้วเอาตรงนั้นมาใช้ให้ถูกทาง ลองผิดลองถูกดูครับ... อย่างที่สอง... ถามตัวเองครับว่า ตัวเองเป็นคน คิดแบบ "ภาพรวม" (Concept) หรือ "รายละเอียด" (Detail) ถ้าเป็นคนคิดแบบภาพรวมเหมือนผม... เวลาอ่านหนังสือ ต้องกวาดตามอง scan เรื่องราวให้ครบก่อน ให้มีแผนที่ในหัว เดาทางคร่าวๆ ว่า เรากำลังจะอ่านอะไร อ่านไปทำไม เราอยู่ตรงไหน ฯลฯ แล้วเวลาลงมืออ่านจริงๆ จะสร้างภาพในหัวได้ง่ายดายครับ... ถ้าเป็นคนคิดแบบละเอียด... ต้องไล่ไปทีละบรรทัด ทีละบท ทีละขั้นตอน ห้ามข้าม.... ... แล้วชีวิตจะเข้าใจง่ายขึ้นครับ... ผมเคยอ่าน text แบบไม่่อ่านสารบัญก่อน... อยากจะบอกว่า แทบเขวี้ยงทิ้ง ... ... เอาแค่สารบัญมาให้อ่านยังรู้เรื่องมากกว่าเลยครับ T_T ต่อมา... ต้องปรับ Attitude ตัวเองครับ... ไอ้ที่บอกว่า... เราโง่ IQ ต่ำ ฯลฯ เนี่ย.... เลิกคิดซะนะครับ... เลิกมองที่ปัญหา... แต่มองว่า ทำยังไงให้เราทำงานแต่ละวันให้ดีขึ้น.. ดีกว่านะ ^^ เดี๋ยวไว้คิดอะไรออกจะมาแชร์ด้วยใหม่นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : รายทาง โหมดจริงจัง (Waterman) - [ 20 ส.ค. 51 17:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คิดเยอะ สมาธิเยอะ กินเยอะ อิอิ จากคุณ : คนหัวฟู - [ 20 ส.ค. 51 19:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โห..กระทู้นี้ เพื่อนๆมาช่วยให้ความรู้มากมาย ผมอ่านแล้วได้อะไรเยอะมากๆๆเลยละครับ ทึ่ง จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 20 ส.ค. 51 20:56:14 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไอ้ที่บอกว่า... เราโง่ IQ ต่ำ ฯลฯ เนี่ย.... เลิกคิดซะนะครับ... เลิกมองที่ปัญหา... แต่มองว่า ทำยังไงให้เราทำงานแต่ละวันให้ดีขึ้น.. ดีกว่านะ ^^ ^ ^ พี่รายทางคะ พิมอ่านแล้วน้ำตาจะไหล(ดีใจนะไม่ได้เสียใจ) อ่านแล้วตื้นตันใจปนจุก T_T จากคุณ : พิมมาดา (พิมมาดา@trustnoone) - [ 20 ส.ค. 51 21:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณทุกๆความเห็นอีกครั้งนะคะ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ จากคุณ : พิมมาดา (พิมมาดา@trustnoone) - [ 20 ส.ค. 51 21:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ทักษะในการความรู้มีหลายวิธีครับ ไปถนัดการอ่าน ก็ยังมีการฟังและดู จากคุณ : mamao - [ 21 ส.ค. 51 00:06:04 ]