ความคิดเห็นที่ 1 ขอวิธีการปล่อยวางและไม่เอาตัวเองไปผูกติดกับคำพูดคนอื่นด้วย ^^ ปัญหาของคุณ ผมเข้าใจและเห็นใจมากครับ จึงขออนุญาตตอบอย่างจริงใจ จากประสบการณ์ตรง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์กับเืพื่่อนๆในสวนลุมด้วย เพราะผมรู้สึกว่า...ช่วงนี้มีการกระทบกระทั่งจิตใจกันผ่านกระทู้เยอะเหลือเกิน ผมอ่านแล้วก็เศร้าและปวดใจ..เพราะไม่อยากให้ทุกคนต้องแบกความรู้สึกหนักอึ้งนี้ไว้เลย แต่ผมคงบังคับใจให้ใครรักกันๆไม่ได้..และก็ไม่ควรทำอย่างยิ่งด้วย เพราะถือว่าผมไปก้าวก่ายสิทธิที่จะคิด ที่จะรู้สึก และที่จะแสดงออกของเพื่อนๆทั้งหลาย *********************************************************************** เรื่องที่ผมจะยกตัวอย่างจริงคือเรื่องที่ผมโดนมาเอง จะเขียนที่นี่ทู้ี่เดียว และจะไม่เขียนถึงอีกแล้ว ตัวจริงผมเป็นบุคคลสาธารณะครับและี้เคยโดนพันทิปห้องเฉลิิมไทยตั้งกระทู้ด่ายับหลายหนอยู่   (กระทู้ถึงนี่..หมายถึงชื่อนามสกุลจริงในงานของผมนะครับ) เดี๋ยวนี้ค่อยยังชั่ว เริ่มมีชมขึ้นเยอะ เดี๋ยวจะเฉลยว่าทำไมรูปการณ์เปลี่ยนไป เวลาถูกด่าี่...ผมอ่านแล้วอึ้ง..โอ้โห..เขาอาฆาตเรามาแต่ไหนฟระเนี่ย..เขารู้จักเราหรือ.. ..ด่าแรงขนาดว่าศัตรูผมยังไม่เคยด่าแรงเท่าคนแปลกหน้าด่าในเน็ตเลยอ้ะ 555 แล้วผมหายเคืองได้อย่างไร ธรรมชาติชีวิตสอนผมเองครับ  ดังนี้ เมื่อก่อนตอนยังโง่อยู่ ผมโกรธมาก หน้างี้ร้อนผ่าวเลยตอนเพื่อนปริ๊นท์กระทู้มาให้ดู แล้วเพื่อนก็ยุให้ผมเขียนตอบเพื่อ"ปกป้องตัวเอง" นั่นแหละครับคือจุดเริ่มต้นของ.."หายนะ" การชี้แจงหรือโต้กลับทุกรูปแบบไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ มันยิ่งกระพือเชื้อไฟหนักเข้าไปอีก เพราะต่อให้เราอธิบายยังไงก็ไม่มีใครฟัง ยิ่งเราปกป้องตัวเอง เรายิ่งถูกโจมตีหนักกว่าเดิม เหตการณ์ุนี้หยิบยื่นบทเรียนแรกให้ี่ผมครับว่า... บทเรียนที่ 1 คนเราเลือกเชื่อในสิ่งที่ตัวเิองอยากเชื่อครับ ต่อมาผมเริ่มถูกหลวงพี่หลวงน้าขอให้หัดสวดมนต์ ผมก็เลยได้ความเข้าใจขึ้นมาเ็ป็นบทเรียนที่ 2 บทเรียนที่ 2 เราคือคน ไม่ใช่พระเจ้า เรามีสิทธิ์อะไรไปห้ามไม่ให้คนเขาตำหนิติเตียนเรา จริงครับ ผมไม่ใช่พระเจ้า   แม้แต่พระพุทธเจ้า พระเยซูเจ้า พระศาสดาโมหะหมัดท่านยังโดน แล้วประสาอะไรกับคนเดินดินแบบผม ผมจะเย่อหยิ่งขนาดที่ใครแตะไม่ได้งั้นเชียวหรือ ...หายเลยครับ...ผมเลิกคิดมากแล้ว   DON'T TAKE IT PERSONALLY ครับ หลังจากที่ผม"คิดได้" ใครอยากด่าผม ผมยินดีเลยครับ ถ้า้คนด่าผมแล้วทำให้เขามีความสุข แปลกมาก โลกเปลี่ยนไปเลย คนเลิกด่าผมแล้วเริ่มหันมาเข้าใจมากขึ้นๆเรื่อยๆ ในห้องสวนลุมนี้ยังมีคนเขียนถึงตัวตนจริงผมในทางดีอยู่ประปราย (โดยไม่รู้ว่านั่นคือล็อกอินนี้) บทเรียนที่ 3 คำพูดที่ทิ่มแทงเราได้ แสดงว่าเรายอมรับว่ามันจริง อันนี้ได้จากการอ่านไบเบิ้ลครับ พระเยซูตรัสว่า The truth will set you free "ความจริงจะปลดปล่อยเราเป็นอิสระ" แล้วผมก็ลองสำรวจตัวเองดู..พบว่า..จริง ผมจะไม่หวั่นไหวเลยถ้าใครเขียนด่าผมว่าผมหลอกผู้หญิง..เพราะผมรู้ดีว่าผมไม่มีวันทำใครแบบนั้น แต่คำพูดไหนที่ผม"ร้อน"หรือ"สะเทือน"ทันที แสดงว่า..ผมยัง"อ่อนไหวกับเรื่องนั้น" ผมไม่แน่ใจตัวเอง ฉะนั้น..ถ้าเราไหวกับคำคน มันคือปัญหาเราต่้างหากครับ ไม่ใช่ปัญหาของคนที่ว่าหรือนินทาเราเลย การใช้ชีวิตอยู่อย่างเข้าใจว่าคนเรานั้นผิดแผกแตกต่างกัน และเข้าใจว่าโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา ..ยากจริงๆครับ.. แต่ถ้าเราทำได้มากเท่าไหร่ ชีวิตก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ผมเองก็ยังทำไม่ไ่ด้ 100% หรอกครับ แต่ดีขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก และคนที่มีความสุขขึ้นก็คือตัวผมเอง ไม่ใช่ใคร เอาใจช่วยนะครับ (ยาวอีกแล้วครับท่าน  เขียนสั้นๆไม่เป็น  แง้...) แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 51 04:51:26 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 51 03:57:45 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 6 ก.ย. 51 03:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอวิธีการปล่อยวางและไม่เอาตัวเองไปผูกติดกับคำพูดคนอื่นด้วยู ^ ^ นี่ไงคะคำตอบของคุณ จขกท. ที่เหลือก็เพียงแค่ลงมือทำเท่านั้นเองค่ะ ปล่อยวางและไม่เอาตัวเองไปผูดติดกับใคร **************** ส่วนตัวแล้วใช้วิธีแบบทำตัวเป็นตะแกรงค่ะ .. จะมีเฉพาะความรู้ สาระ และความสุขเท่านั้น ที่จะรอดผ่านรูเล็กๆ ของตะแกรงได้ แล้วไหลไปสู่สมองกลั่นกรองไปสู่หัวใจ ที่ค้างๆ อยู่ด้านบนเททิ้งไปค่ะ ไม่นำมาใส่ใจ จากคุณ : titun - [ 6 ก.ย. 51 03:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ของเราใช้วิธีปล่อยวางคะ ถ้าเราไม่คิดไร เค้าก้อทำไรเราไม่ได้ แต่ถ้าเราไปเต้นตามเค้า อันนี้แระเข้าทางเค้าคะ การที่นิ่งและใช้เหตุผลในการจัดการดีก่าเยอะๆ บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องพูดไร แต่คนอื่นจัดการให้เราก้อมีคะ จากคุณ : แค่แวะมาทักทาย (makod3) - [ 6 ก.ย. 51 08:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แอบเข้ามาอ่านด้วย เป็นคนไม่รู้จักปลดปล่อยความโกรธ...เวลาโดนใครว่า นินทา จะซึมเศร้า แต่ก่อนก็ร้องไห้มากมาย ทั้งเครียด ทั้งระแวง ทำให้กลายเป็นคนไม่สนิทกับใครง่ายๆ สุดท้าย ระลึกได้ว่า สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราเป็น ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราไม่ก้าวก่ายใคร เราไม่ได้เบียดเบียนใคร มันทำให้เรานิ่งขึ้น แล้วไม่ไปเต้นตามคำพูดที่คนเค้าพูดกัน ทุกวันนี้ มีแอบเซ็งบ้างเวลาได้ยินคำนินทา ยังมีนิสัยระแวงคน ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ แต่อย่างน้อย เราไม่ร้องไห้อีกแล้วเวลาได้ยินคำนินทา รู้ด้วยซ้ำว่า เขาจะพูดอะไรบ้าง เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเป็น ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ตัวเองหนักแน่นเข้าไว้ แล้วความโกรธจากการถูกนินทาจะเจือจางไปเอง พยายามด้วยกันนะ~ จากคุณ : Sentra de Sephirot - [ 6 ก.ย. 51 08:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาอ่านและขอบคุณจขกท.ที่ทำให้ได้อ่านอะไรดีดี จากคุณ : ฃ.ฃวด - [ 6 ก.ย. 51 09:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราโดนคำพูดแฟนเก่าทำร้ายจิตใจค่อนข้างเยอะตอนเค้าไปมีใหม่ ได้แต่สงสัยว่าเราทำผิดอะไรเค้าถึงได้พยายามทำร้ายจิตใจเราขนาดนี้  และคำพูดเหล่านั้นก็ทำเราเสียใจไม่นาน ไม่กี่นาที ไม่กี่ชั่วโมง เพราะเรารู้ว่าทัศนคติของคนพูดเป็นยังไง เราไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติใครได้ตราบที่เค้าไม่อยากเปลี่ยนและเค้าก็จะมองโลกผิดๆไปอย่างนั้น เราเชื่อว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาตัวเองได้ทำดีที่สุดแล้ว ดังนั้นคำพูดใดๆก็ไม่สามารถทำให้เราหวั่นไหวได้  สิ่งที่ยำ้เตือนว่าเราได้ทำดีคือ บุคคลรอบๆตัวทั้งใกล้ไกล ทั้งไกล้ชิดและเพียงรู้จักมักจี่ ล้วนพูดถึงเราในทางที่ดี แก้ตัวแทน แอนตี้แฟนใหม่เค้าที่พูดจาถึงเราในทางไม่ดี ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะการกระทำในอดีต เมื่อมีเรื่องเราก็ไม่ด่า โวยวายแต่ควบคุมสติอารมณ์ ขอบคุณคนที่ดีกับเราโดยที่ไม่ต้องไปเอ่ยถึงคู่กรณี   มันไม่เกี่ยวว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไงเพราะเราไม่ได้ไหลไปตามที่เค้าคิด แต่มันอยู่ที่ว่าเรามองตัวเองอย่างไรและดำเนินชีวิตไปยังไงมีความนับถือตัวเองแค่ไหน ทั้งหมดทั้งปวงบุคคลโดยรอบจะเป็นเสมือนกระจกส่องให้เราเอง  ตราบใดที่เชื่อว่าเราทำดี คิดดี โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ภายใน เราก็มั่นใจได้ว่า ไม่มีคำพูดใดๆจะทำร้ายเราได้ หรือหากทำได้ก็เพียงชั่วไม่นาน เพราะตัวเรานี่แหละที่รู้แก่ใจดีที่สุดว่าที่ทำมาน่ะมันดีแล้ว คำพูดนั้นเป็นเพียงแค่ลม ออกมาชั่วแวบแล้วก็หายไป และเราต่างก็เอามาทิ่มแทงจิตใจตัวเอง ใครจะทำเราหรือก็เปล่า มีแต่ตัวเราเท่านั้นแหละค่ะที่เก็บคำพูดนั้นมาทำร้ายตัวเอง จากคุณ : Little Roz - [ 6 ก.ย. 51 09:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พูดจริงๆเราก็เป็นอยู่หน่อยๆเหมือนกันนะคะ แต่ก็้น้อยลงกว่าเดิมมาก เดี๋ยวนี้คงโตขึ้น(ทางใจ)ด้วยแล้วแหละ อย่างเมื่อก่อน บางทีเข้าพันทิปใหม่ๆนี่ปรี๊ดง่ายมาก ไม่เข้าใจ ทำไมคนต้องพูดจารุนแรงใส่กันทั้งที่เราไม่ได้ไปทำอะไรเค้าก่อน ไม่เข้าใจ ทำไมคนอื่นต้องพูดลับหลังเรา นินทา ว่าร้าย เรื่องมีอยุ่ 5 ขยายไปเป็น 15 กล้าพูดใส่ไฟได้ง่ายๆเหมือนกับตัวร้ายในละครทีวี...ทำไมคนเราทำอะไรไม่ละอายปากตัวเองแบบนี้ ฯลฯ เราอยากจะอธิบาย อยากแก้ความเข้าใจผิด อยากคุยกับคนที่พูดกับเราแรงๆดีๆด้วยซ้ำ อยากคุยกับเค้า ถามกับเค้าว่า ทำไมต้องทำอย่างนี้ จนแทบไม่อยากไว้ใจใครเลยล่ะค่ะ ไม่รู้เลยว่าทันทีที่หันหลังให้เค้า เค้าจะพูดถึงเรายังไง มันเป็นช่วงที่เสียสติมากค่ะ ไม่อยากจะออกจากบ้านไม่อยากพูดคุยกับเพื่อนใหม่ไว้ใจแต่คนเก่าๆ แต่พอเวลาผ่านไปเราก็คิดอะไรออกเหมือนที่ หลายๆความเห็นบนๆพูดเอาไว้แหละค่ะ คือ คนบางคนก็มองเห็นเฉพาะสิ่งที่เค้าอยากจะมองเห็น เค้าเข้าใจเราอย่างนั้นและอยากจะเข้าใจแบบนัน้ ไม่ว่าเราจะอธิบาย จะพยายามแค่ไหน ถ้าเค้าเป็นคนอย่างนั้นเอง เค้าก็ไม่ยอมรับรู้อะไรกับเราหรอกค่ะ แต่ถ้าเค้าเป็นคนที่เปิดใจ เราไม่ต้องไปพูดกับเค้าเลย ปล่อยเค้าไป เดี๋ยวเค้าก็เห็นเองว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิด แล้วเค้าก็จะเปลี่ยนความคิดใหม่ต่อเราเอง คนเข้าใจไม่อธิบายก็ไม่เข้าใจได้ คนไม่ยอมเข้าใจ อธิบายยังไงก็ไม่ยอมเข้าใจ ถ้าทำใจเรื่องนีไ้ด้แล้วคงไ่ม่ต้องหาวิธีควบคุมอะไรเลยล่ะค่ะ แต่ถ้าเกิดเซ็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แนะนำให้ไปร้องเกะ สครีมใส่ไมค์ดังๆแทนค่ะ ชอบคำพูดของ พี่ Little Roz นะคะ "มันไม่เกี่ยวว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไงเพราะเราไม่ได้ไหลไปตามที่เค้าคิด" จากคุณ : pankee - [ 6 ก.ย. 51 09:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาดูวิธีควบคุมอารมณ์ค่ะ ^^ จากคุณ : oldword - [ 6 ก.ย. 51 11:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำเย็นเป็นคนที่ชอบ "เลี่ยงปัญหา" มาโดยตลอดค่ะ ไม่ว่าจะมีอะไร จะเลือกใช้วิธี "นิ่ง" เสมอๆค่ะ จากคุณ : ล่ามสาวพราวเสน่ห์ - [ 6 ก.ย. 51 11:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ารู้ตัวว่าโกรธ ก็จะเงียบ ไปพักนึง แล้วค่อยทำอย่างอื่นต่อ...โกรธแล้วก็วางลง ไม่เคยโกรธอะไรได้ยาวนาน ว่า 1 คืนเลย เช้ามาก็หายยยยย จากคุณ : นายโรบิ้น - [ 6 ก.ย. 51 11:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เคยมีพราหมณ์คนหนึ่งด่าว่าพระพุทธเจ้าอย่างหยาบคาย รุนแรง พระพุทธเจ้ารับฟังด้วยอาการสงบ ไม่โต้ตอบเลยแม้สักคำเดียว จนพราหมณ์ด่าว่าจบ(ไม่รู้ว่าเพราะหมดแรงซะก่อนหรือเปล่า) พระพุทธเจ้าจึงกล่าวถามพราหมณ์ว่า "พราหมณ์ ถ้ามีแขกมาบ้านท่าน ท่านก็ต้อนรับด้วยอาหารคาว-หวาน แต่แขกที่มานั้นไม่กินอาหารที่ท่านนำมาต้อนรับเลย แล้วกลับไป อาหารนั้นจะเป็นของใคร" พราหมณ์ตอบว่า "ก็เป็นของข้าผู้เป็นเจ้าของบ้านน่ะซิ" พระพุทธเจ้าจึงบอกแก่พราหมณ์ว่า "ก็เหมือนกันพราหมณ์ สิ่งที่ท่านต้อนรับเราด้วยคำด่าว่าทั้งหลายนี้ เราไม่ขอรับ" พราหมณ์เกิดสำนึกผิด ที่กล่าวด่าว่าต่อผู้ที่มีคุณธรรมสูง ควรที่จะให้ความเคารพนับถือ จึงก้มลงกราบพระพุทธเจ้าอย่างนอบน้อม ใครชอบใครชัง ช่างเถิด ใครเชิดใครชู ช่างเขา ใครเบื่อใครบ่น ก็ทนเอา ใจเราร่มเย็นเป็นพอ.. งานหลายชิ้นสำเร็จได้ด้วยใจเย็น ฉันใด งานหลายชิ้นก็ล้มเหลวลงได้ด้วยใจร้อน ฉันนั้น เรายังเคยเข้าใจผิดผู้อื่น ถ้าคนอื่นเข้าใจเราผิดบ้าง ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร ทำไมต้องเศร้าหมอง ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเข้าใจ เราห้ามคนคิดไม่ดีกับเราไม่ได้ แต่เราทำให้เขาคิดกับเราดีขึ้นได้ บุญเกียรติ โชควัฒนา เราไม่สามารถบังคับทิศทางลมได้ แต่เราสามารถปรับใบเรือของเราได้ "Knowing others is intelligence; knowing yourself is true wisdom. Mastering others is strength, mastering yourself is true power." Lao-Tze "รู้จักผู้อื่นคือความฉลาด รู้จักตนเองคือความเชาวน์ปัญญาที่แท้จริง ควบคุมคนอื่นได้คือพลัง ควบคุมตัวเองคืออํานาจที่แท้จริง " "He who smiles rather than rages is always the stronger." - Japanese Proverb "คนที่ยิ้มแทนที่จะโกรธ คือคนที่เข้มแข็งกว่าเสมอ " "ถ้าอดใจโกรธได้ชั่วขณะหนึ่ง ก็จะพ้นความเสียใจได้ถึงร้อยวัน " ความอดทนมีรสขม แต่ผลของความอดทนมีรสหวาน จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า - [ 6 ก.ย. 51 13:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นานาจิตตังค่ะ.. คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ ในเมื่อเราไม่สามารถไปบังคับและควบคุมความคิดและความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบของคนอื่นได้ แต่เราจงควบคุมความคิดและความรู้สึกของเราให้ได้ ถ้าเราเป็น(ทางที่ไม่ดี)อย่างที่เขาว่าจริง เราก็ควรเอามาพิจารณาและทำการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ถือซะว่าพวกเขาให้ความรู้(ตัว)เป็นทานแก่เรา แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นจริงอย่างที่เขาว่า เพราะเรารู้ตัวดีอยู่แก่ใจ ก็จงทำใจวางเฉย แล้วก็จงคิดซะว่า.... ตัวเรานี้จะดีได้หรือไม่ได้มันไม่ใช่อยู่ที่คำพูดของคนอื่น แต่มันขึ้นอยู่กับการกระทำดี(ไม่ดี)ของตัวเราเอง.... จงเรียนรู้กับจิตใจของคน เพราะทุกคนจิตใจไม่เหมือนกัน นานาจิตตัง!! เช่นนั้นแล.... จากคุณ : โจลี่ - [ 6 ก.ย. 51 13:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อาร์ตฯ ก็ทำตัว ตามืดตามัวไป .. ก็อ่านผ่านๆ ไปเลยค่ะ อยากด่า ก็ด่าไปค่ะ เรามั่นใจในตัวตนของเราก็พอนะคะ จากคุณ : Art of Illusion - [ 6 ก.ย. 51 13:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 "ขอวิธีการปล่อยวางและไม่เอาตัวเองไปผูกติดกับคำพูดคนอื่นด้วย" ^^^ ขั้นแรกที่คุณต้องฝึกคือฝึก "สติ" ครับ... ... ถ้าเรารู้เท่าทันตัวเองว่า... เรากำลังคิดอะไร.. รู้ึสึกอะไรอยู่... เราจะควบคุมมันได้ง่ายขึ้นนะ ง่ายๆ แค่นี้เองครับ รู้ไหม... ปกติเราจะปล่อยตัวไปตามอารมณ์โกรธ... เพราะเราไม่รู้ตัวว่าเรากำลังโกรธ... แต่้ถ้าเรารู้ตัวเมื่อไหร่... เราจะเบรคตัวเองได้... จริงๆ... ฝึกนั่งสมาธิ แล้วตามความรู้สึกตัวเองนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : รายทาง (Waterman) - [ 6 ก.ย. 51 16:17:44 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โดยทั่วไปแล้ว อารมณ์จะมาจากการถูกกระทบจากปัจจัยภายนอก (เหตุ) เช่น คำนินทาว่าร้าย ความคิดเอาชนะคะคานกัน ผลก็คือการเกิดความโกรธขึ้น หลักการทางพุทธ จะเน้นไปทางการฝึก สติ ให้มีความรู้ตัวทั่วพร้อม สำหรับการป้องกันการกระทบ หากสามารถฝึกให้ ตัวเองมีสติ มีความรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดต่อ การกระทบต่างๆ อารมณ์ขุ่นมัวต่างๆก็จะลดน้อยลงไปด้วย วิธีการของการฝึกนั้นจะประกอบด้วยสองอย่าง อย่างแรก คือ การเพิ่มกำลังในการตรวจจับการกระทบ วิธีการนี้ ง่ายๆ ก็นั่งสมาธิไปเรื่อยๆ  ภาษาเทคนิค เรียกว่า สมถะ อย่างที่สอง คือ การปล่อยสิ่งที่กระทบลง เหมือนที่ คห.1 ว่าไว้ ภาษาเทคนิค เรียกว่า วิปัสนา ผมรู้ แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ฝึกหรอก ลองได้ในขั้นต้น ส่วนขั้น advance ไปถามห้องศาสนาเถอะครับ ปล. ในขั้นต้น เชื่อกันว่า ยิ่งฝึกจะยิ่งโกรธง่าย (อ้าว) เพราะว่า การฝึกจะทำให้อารมณ์อื่นๆ ที่มีอยู่นั้น ลดลง เหมือนน้ำที่ใสขึ้นนั้น เมื่อมีอะไรเจือปนลงไป มันก็จะสกปรกมากขึ้น เมื่อเทียบกับ น้ำที่ขุ่น ซึ่งไม่เห็นความต่างเท่าไหร่ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 51 17:44:52 จากคุณ : the_architect - [ 6 ก.ย. 51 16:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กระทู้นี้ดีจังเลยครับ ได้อ่านความเห็นดีๆของเพื่อนๆเยอะเลย น่าจะช่วยกันเก็บเข้าคลังกระทู้นะครับเนี่ย จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 6 ก.ย. 51 21:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มองด้วยสายตาว่างเปล่า ฟังแบบ เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา เมือ่ไร ตบมือข้างเดียว มันก็ไม่ดัง เดี๋ยวก็เงียบไปเอง ... นิ่งสงบความเคลื่อนไหว การบอกที่มาที่ไป หรือ ชี้แจงใดๆ แก่ใคร เป็นสิทธิขาด ของเรา บางที มากคนก็มากความ ... เกี่ยวข้อง กับคนให้น้อยที่สุด เป็นดี ปวดหัวน้อยลง ... จากคุณ : kuddle - [ 7 ก.ย. 51 03:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ดูความโกรธของตัวเอง โกรธ ก็ให้รู้ว่าโกรธ อย่าไปปรุงแต่งความโกรธ จากคุณ : a r i t s u m e m o o n - [ 7 ก.ย. 51 19:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณผึ้งน้อยพเนจร เป็นดาราเปล่าค๊ะ ฮ่าๆๆ แอบคิดเล่นๆ จากคุณ : ทะเลาะคือชอบ โต้ตอบคือรัก - [ 8 ก.ย. 51 00:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลองดูนะ (เพราะทำมาแล้วได้ผลเลยอยากให้ทำดู) ตอนโกรธ โอ้ยโกรธ โก๊รธ โกรธ หน้ามืดตามัว...จะตอบโต้มันไงดีฟ่ะ.. หายใจเข้าลึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วถอนหายใจออกมา จะสั้นๆก็ได้ จะยาวๆก็ได้.. เฮ้ออออออออออออออ.... ช่างมัน พระปฏิมายังมีราคิน นับประสาอะไรกับคนเดินดินเช่นเราเล่า เคยฟังเพลง ก้อนหินก้อนนั้น ไหมคะ ใช่เลย รับมาก็แผดเผาตัวเราเอง อยากได้ไฟเข้าตัวเหรอคะ มันร้อนน้า จากคุณ : หมาฉันมันเป็นตุ๊ด - [ 8 ก.ย. 51 21:03:11 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอวิธีการปล่อยวางและไม่เอาตัวเองไปผูกติดกับคำพูดคนอื่นด้วย ^^^ ต้องมองว่าเค้าติเพื่อก่อหรือเปล่า อ้นนั้นเรารับฟัง และชอบฟังเสียด้วย แต่ถ้าเป็นประเภท ติเพื่อทำลาย หรือ..กวนบาทา ก็ไม่ค่อยสนใจอ่ะค่ะ ในๆกระทู้ต่างๆ ก็มีเห็นประปราย อ่านแล้วก็เฉยๆ เพราะเค้าไม่ได้มีความสำคัญต่อชีวิตเรา เคยอ่านพระบรมราโชวาทของในหลวง ท่านเปรียบคนเราเหมือนกับดาบที่แข็งแกร่งสวยงาม เพราะกว่าจะสวยอย่างที่เห็น ก็ต้องผ่านความร้อน ผ่านการตี จึงจะออกเป็นดาบที่สวยงาม แข็งแกร่ง ดังนั้น คำพูด คำด่า คำว่า ของคนอื่นๆ จะทำให้เราเข้มแข็งค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 51 13:31:10 จากคุณ : My heart is in SF! - [ 9 ก.ย. 51 13:30:05 ]