ความคิดเห็นที่ 1 อาการเริ่มแรกหรือสัญญาณแรกของมะเร็งปอดเป็นอย่างไรอ่ะครับ คือผมก็กลัวเป็นเหมือนกัน อยากให้เล่าเป็นวิทยาทาน เผื่อผมจะได้ระวังไว้ จากคุณ : นนที - [ 17 ก.ย. 51 14:08:33 A:58.9.77.149 X: TicketID:067923 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เท่าที่ดิฉันเคยประสบมานะค่ะ  (ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นอาการเริ่มแรก หรือลุกลามไปแล้วนะค่ะ) อาการต่างๆ ปรากฎดังนี้ค่ะ 1. หายใจติดขัด (หายใจได้ไม่สุด) เหมือนคนหายใจได้ไม่เต็มปอด 2. ไอเยอะ บางครั้งจะมีเสียงวี๊ดๆ ในการหายใจ (เหมือนคนเป็นหอบนะค่ะ) 3. เวลาหายใจบางครั้งจะมีความรู้สึกเจ็บหน้าอก แต่ถ้าจะให้ชัวร์ควรไป x-ray ปอดดูเลยค่ะ เพราะถ้ามีอะไรผิดปกติ มันจะปรากฎให้เห็นในฟิมล์ x-ray เลยค่ะ ซึ่งดิฉันว่าชัวร์กว่าวิเคระห์เอง เพราะบางทีการไอเยอะๆ อาจจะมองได้ว่าเป็นวัณโรคได้ และอาการที่เวลาหายใจจะเจ็บหน้าอก อาจเป็นอาการของโรคหัวใจ ได้ ซึ่งควร x-ray และให้หมอวินิจฉัยดีกว่าค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 51 14:57:31 จากคุณ : walaiws - [ 17 ก.ย. 51 14:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : นนที - [ 17 ก.ย. 51 15:07:23 A:58.9.77.149 X: TicketID:067923 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยาที่ประเทศพัฒนาแล้ว ส่วนใหญ่จะราคาแพงกว่าในไทยครับ ต่างกับพวกวิตามินหรืออาหารเสริมต่างๆ ต้องลองถามราคาอีกครั้งครับ แต่.......... ยากลุ่มนี้ปรกติจะถูกควบคุม ไม่ให้ซื้อขายโดยทั่วไปอยู่แล้วครับ ไม่น่าจะหาซื้อได้นะครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 17 ก.ย. 51 15:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พ่อดิฉันเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เคยตรวจx-rayปอดก็ไป คนเดียว บอกว่าไม่เป็นไร ปล่อยมาจนถึงวันนี้ หงายหลังตึงที่รู้ ว่าหมอเช็คว่าเป็นถึงระยะสุดท้าย..    แต่อาการของพ่อ ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับข้อมูลทางการ แพทย์ ที่บอกคนไข้จะอยู่ได้เต็มที่ 6ด. เพราะพ่อยังออกกำลังกาย เดินตอนเช้า อาบน้ำเย็นโดยที่เราห่วงว่าจะเป็นหวัด เดี๋ยวปอดติดเชื้อ ทานอาหารชีวจิต กินปลาได้อย่างเดียว งดเนื้อสัตว์อื่นทุกชนิด    ขอพรจากพระพรหม ตอนเที่ยงคืนได้ค่ะ จำได้ว่าขอพรจากท่าน ว่าขอให้พ่อหายป่วย ขอให้ยาTarceva ใช้ได้ผล แพงไม่ว่าขอให้หาย พระเจ้ามีจริง ใครไม่เชื่ออย่าลบหลู่ค่ะ ดิฉันบอกให้แม่ทำบุญเผื่อพ่อ ด้วย ให้มากที่สุดเท่าที่เคยทำมา คนเราหมดที่พึ่งทางใจแล้ว ก็มาแนว นี้ดีกว่า ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์บริจาคให้รพ.    ทุกวันนี้พ่อมีสุขภาพดีค่ะ อาการไอหมอให้ยามาทาน เหมือนไอ แห้งๆแบบคนสูบบุหรี่     ดิฉันเชื่อในอาหารชีวจิต งดเนื้อสัตว์ ทานปลาอย่างเดียว งดของ ทอด บางคนกินผักปลอดสารพิษ ใช้น้ำมันมะกอกทำอาหาร ซึ่งแพง มาก ที่แน่ๆพ่อไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไร บอกว่าเป็นปอดอักเสบเท่านั้น เพราะ กลัวพ่อรู้ว่าเป็นแบบนี้แล้วจะไม่มีกำลังใจรักษาค่ะ รู้ค่ายากล่องนึงแปด หมื่นกว่าบาท หมดกำลังใจรักษา เสียดายเงิน     อ่านหนังสือมาได้ความรู้ว่าทำใจสบายๆไม่เครียดแล้วดีต่อคนไข้ ไม่งั้นจะไปกระตุ้นเซลส์มะเร็ง ทุกวันนี้ดิฉันจึงเกลียดสายัณห์ สัญญา มากที่ไปให้ทีมแพทย์รพ.พระราม9แถลงว่ายอดรักเป็นมะเร็ง ดิฉันไม่ ได้เป็นโคตรญาติกับยอดรักแต่รู้สึกโกรธเกลียดแทน     ส่วนยาTarceva 150g. ที่จขกท.ถามราคากล่องนึง30เม็ด 82497 บาท รวมvat เป็นยาของเยอรมัน ซื้อที่เยอรมันถูกกว่าไหมคะ ยาตัวนี้ที่ รพ.กรุงเทพขายแสนสองค่ะ คิดว่าราคานี้ไม่ผิดค่ะ     อาการข้างเคียงคือแพ้ยา เป็นผดผื่นแดง หมอให้หยุดยา5วัน แล้วทา ยาเป็นครีม เพราะคันแผล ไม่น่าเกลียดค่ะเหมือนเป็นผด ตอนนี้หมอให้ ลดปริมาณยาเป็น100กรัม ราคาก็ถูกลงตามส่วนเหลือหกหมื่นกว่าบาทค่ะ      เงินซื้อชีวิตพ่อได้ไหม ดิฉันดีใจอยู่อย่างเดียวว่าพ่อได้ใช้เงินตอนแก่ บางคนหัวใจวาย ไปโดยไม่ได้ร่ำลากัน ยังไม่ได้ใช้เงินที่หามาทั้งชีวิต      ดีใจน้ำตาไหลทุกครั้งที่โทร.ไปหาพ่อที่ตจว. พ่อเสียงดัง กินได้ดี เสียงดังแสดงว่าพ่อสบายดี      ทุกวันนี้ขอภาวนาให้หมอวินิจฉัยโรคของพ่อผิดค่ะ จขกท.โชคดีค่ะ ที่เจอระยะแรก ดูแลสุภาพ ระวังเรื่องอาหาร ของทอดอย่ากิน จากคุณ : อ๋อย (อ๋อย เจ้าเก่า) - [ 17 ก.ย. 51 15:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยาคงไม่สามารถหาซื้อได้ง่ายๆมั้งครับ เนื่องจากจะซื้อก็ต้องมีใบสั่งยาของแพทย์ นอกจากนี้ราคายาในต่างประเทศ ที่เป็นราคาขายจะแพงกว่าในบ้านเราครับ ทำให้คนของเค้าจำเป็นต้องมีประกันสุขภาพ เพราะถ้าไม่มีค่ายา ค่ารักษาแพงมากที่เดียว สำหรับเรื่องการออกฤทธิ์ ยาสามารถออกฤทธิ์กับเซลล์มะเร็ง ทั้งที่อยู่ที่ปอดและที่ลามไปที่อื่นด้วยครับ อาการข้างเคียงก็อาจมีท้องเสีย หรือมีผื่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ถ้ามีอาการอะไรก็ให้รีบบอกคุณหมอนะครับ ส่วนเรื่องราคายา ลองปรึกษาหมอที่ทำการรักษาดูก็ได้ ว่าเราสามารถใช้สิทธิอะไรเพิ่มเติม หรือมีวิธียังไงที่จะซื้อยาได้ราคาถูกลง เช่นซื้อจากบริษัทหรือตัวแทนขายยา น่าจะพอช่วยได้มากกว่าซื้อยาจากต่างประเทศครับ ขอให้หายเร็วๆนะครับ นอกจากยาแล้ว กำลังใจ และการดูแลร่างกายก็มีส่วนให้โรคหายเร็วขึ้นครับ จากคุณ : goldbiker - [ 18 ก.ย. 51 01:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปาดก่อน เด๋วกลับมาเล่าเรื่องของแม่เราให้ จขกท.ฟังค่ะ ไปทานข้าวก่อน เด๋วมานะค่ะ จากคุณ : orjita - [ 18 ก.ย. 51 13:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ Orjita หายไปไหนแล้วค่ะ บอกว่าจะมาเล่าเรื่องของแม่ให้เราฟัง นั่งรอก็แล้ว ยืนรอก็แล้ว นอนรอก็แล้ว หายไปไหนค่ะ โอม จงมา จงมา จงมา.... จากคุณ : walaiws - [ 19 ก.ย. 51 09:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอให้หายป่วยไว้ๆนะครับ กำลังใจดีมะเร็งก็สู้เราไม่ได้หรอกค้าฟ จากคุณ : arakball - [ 20 ก.ย. 51 13:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาแล้ว มาแล้ว จขกท. อย่าเพิ่งงอนนะค่ะ ลืมไปเลยจริงๆๆ ขอโทษทีค่ะ ~~~~~~~~~~~~~~~ติดตามได้ ณ บัดนี้ค่ะ~~~~~~~~~~~~~~~ บอกก่อนว่าเมื่อก่อนเราไม่เคยคิดเลยว่าคนในครอบครัวจะเป็นโรคร้ายแรงแบบนี้ และก็ไม่เคยสนใจหาความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ด้วย จนเมื่อปลายปี 2548 คุณแม่ได้มีโอกาสตรวจสุขภาพและได้เอ็กเรย์ปอด (จากที่ทำงาน) ผลตรวจออกมา คุณหมอบอกว่าปอดของแม่ผิดปกติ ให้นำฟิล์มไปที่โรงพยาบาลเพื่อขอให้คุณหมอตรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง นำฟิล์มไปพิจารณาร่วมด้วย จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 16:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หลังจากนั้น แม่ก็มาเล่าให้ฟัง เราเป็นลูกก็ยังเฉยๆๆ ไม่คิดถึงเรื่องมะเร็งเลย คิดว่าอาจจะเป็นโรคอื่นๆๆ ที่ไม่ใช่โรคนี้ เพราะว่าแม่ไม่มีอาการใดๆๆ เลย แค่สงสัยว่าแม่อาจจะเป็นวัณโรคเท่านั้น เพราะว่าแม่แค่มีอาการไอแห้งๆๆ บ่อยๆๆ และบ่นๆ ว่าเจ็บหน้าอกกับแน่นอึดอัดท้องเท่านั้น แต่สักพักอาการมันก็จะหายไปเอง ต่อมาเราก็ได้พาแม่ไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาล คุณหมอก็เอาฟิล์มไปดู และขอให้แม่เอ็กเรยซ์อีกครั้ง....เราก็รอผล รอวันนัดจากคุณหมอ เมื่อวันนัดมาถึง แม่ก็ไปโรงพยาบาลคนเดียว เราไม่ได้ไปด้วย แม่โทรมาหาเราที่ทำงาน บอกว่าหมอจะให้แม่ผ่าตัดทันที แม่เป็นมะเร็งที่ปอด โอ้ววว....ฟ้าถล่มดินทะลายค่ะ งงมาก เกิดได้ยังไง และแม่เป็นขั้นไหน ทำไมต้องผ่าตัด แล้วผ่าตัดจะหายไหม สับสนไปหมดค่ะ ลางานทันทีบึ่งรถไปหาแม่ที่โรงพยาบาล ตลอดทางนั่งร้องไห้ตลอดเวลา คิดว่าไม่ใช่แน่นอนคุณหมอต้องตรวจผิด ผลตรวจผิดพลาด พอไปถึงคุณแม่ก็ได้แอทมิทไปแล้ว หมอก็ขอตรวจนั้นตรวจนี่หลายอย่าง ซักประวัติ และจะขอผ่าตัด เราก็กลับมาปรึกษากับครอบครัว แล้วเห็นตรงกันว่าจะไม่ยอมผ่าตัดที่นี่เด็ดขาด ผลตรวจอาจจะผิดพลาดก็ได้ แม่อยู่รพ.ได้ 2 วันก็กลับบ้าน หลังจากกลับบ้านนี่แหล่ะ...งานใหญ่ของเรารออยู่ข้างหน้า จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 16:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจากนั้น แม่ก็มาเล่าให้ฟัง เราเป็นลูกก็ยังเฉยๆๆ ไม่คิดถึงเรื่องมะเร็งเลย คิดว่าอาจจะเป็นโรคอื่นๆๆ ที่ไม่ใช่โรคนี้ เพราะว่าแม่ไม่มีอาการใดๆๆ เลย แค่สงสัยว่าแม่อาจจะเป็นวัณโรคเท่านั้น เพราะว่าแม่แค่มีอาการไอแห้งๆๆ บ่อยๆๆ และบ่นๆ ว่าเจ็บหน้าอกกับแน่นอึดอัดท้องเท่านั้น แต่สักพักอาการมันก็จะหายไปเอง ต่อมาเราก็ได้พาแม่ไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาล คุณหมอก็เอาฟิล์มไปดู และขอให้แม่เอ็กเรยซ์อีกครั้ง....เราก็รอผล รอวันนัดจากคุณหมอ เมื่อวันนัดมาถึง แม่ก็ไปโรงพยาบาลคนเดียว เราไม่ได้ไปด้วย แม่โทรมาหาเราที่ทำงาน บอกว่าหมอจะให้แม่ผ่าตัดทันที แม่เป็นมะเร็งที่ปอด โอ้ววว....ฟ้าถล่มดินทะลายค่ะ งงมาก เกิดได้ยังไง และแม่เป็นขั้นไหน ทำไมต้องผ่าตัด แล้วผ่าตัดจะหายไหม สับสนไปหมดค่ะ ลางานทันทีบึ่งรถไปหาแม่ที่โรงพยาบาล ตลอดทางนั่งร้องไห้ตลอดเวลา คิดว่าไม่ใช่แน่นอนคุณหมอต้องตรวจผิด ผลตรวจผิดพลาด พอไปถึงคุณแม่ก็ได้แอทมิทไปแล้ว หมอก็ขอตรวจนั้นตรวจนี่หลายอย่าง ซักประวัติ และจะขอผ่าตัด เราก็กลับมาปรึกษากับครอบครัว แล้วเห็นตรงกันว่าจะไม่ยอมผ่าตัดที่นี่เด็ดขาด ผลตรวจอาจจะผิดพลาดก็ได้ แม่อยู่รพ.ได้ 2 วันก็กลับบ้าน หลังจากกลับบ้านนี่แหล่ะ...งานใหญ่ของเรารออยู่ข้างหน้า จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 16:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พอกลับคุณแม่กลับมาบ้าน เราก็เริ่มหาข้อมูลทันที พี่ที่ทำงาน ทุกๆๆ คนเจ้านายเรา ให้กำลังใจมากมาย เจ้านายเราแนะนำให้เราไปที่คลีนิกพิเศษที่ศิริราช ให้ชื่อคุณหมอ ให้เบอร์โทรนัดหมาย เราก็ทำตามนั้นค่ะ เพื่อแม่สู้ๆๆ ย้อนกลับไปที่โรงพยาบาลเดิมก่อนนะค่ะ เป็นโรงพยาบาลเอกชน จะให้เราพาแม่เข้าทำการผ่าตัดอย่างเดียว ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดแน่แท้ที่จะบังคับให้เราเซ็นยินยอมเข้าทำการผ่าตัด เหมือนมีอะไรมาสะกิดใจหรือเป็นบุญไม่รู้ เราปฎิเสธการรักษาที่นั้น และพาคุณแม่มาที่ศิริราชแทน ได้เวลาแล้วค่ะ ได้กำหนดนัดจากศิริราช คุณหมอก็มาฟังอาการคุณแม่ มาตรวจอาการ สอบถามประวัติและอ่านผลจากฟิล์มเดิมๆๆ ที่ถือมา คุณหมอก็นัดแม่ตรวจใหม่ทั้งหมดเลยค่ะ เริ่มจาก ตรวจชิ้นเนื้อส่องกล้องค่ะ ตัดเอาชิ้นเนื้อมาตรวจ (ขั้นตอนนี้แม่ก็ทรมานมากๆๆ แม่บอก แต่แม่บอกว่าแม่จะสู้เพื่อเรา เพื่อหลาน ตอนนั้นเรากำลังตั้งท้องได้ 2 เดือนเศษๆๆ ) ผ่านการตรวจชิ้นเนื้อไปแล้ว นัดต่อไปก็สแกนกระดูกทั้งร่างกายเลยค่ะ อันนี้แม่บอกว่าสบายมาก หลับได้ (โฮ๊ะๆๆ แม่แอบมีอารมณ์ขำค่ะ) หลังจากนั้นอีก อาทิตย์แม่มาฟังผล สรุปได้ว่าแม่ก็เป็นมะเร็งในปอดขั้นที่ 3 แล้วค่ะ แต่สภาพร่างกายแม่ยังดีอยู่มากๆๆ ตอนที่ตรวจเจอคุณแม่เราอายุแค่ 46 ปีเท่านั้นเองค่ะ คุณหมอก็ให้กำลังใจบอกว่าแม่อายุยังน้อย มีโอกาสอีกมาก รักษาร่างกายดีๆๆจะทำให้อยู่ได้อีกนาน อ้อ..จะบอกว่าไปโรงพยาบาลรัฐบาลแต่ละครั้ง ท้อใจมากค่ะ แต่ต้องอดทน หมอก็น้อย คนไข้ก็เยอะ งานเอกสารก็ช้ามากๆๆ แต่ต้องทน หลังจากนั้นเราก็กลับมาบ้านมาลองผิดลองถูกกันค่ะ ทั้งยาสมุนไพร พืชผักสมุนไพรต่างๆๆ ที่ใครว่าดี หมอที่ไหนเก่งเสาะหากันหมด ไปหาหมอพระหมอดูไปหมดค่ะ หาทางรักษาทุกทาง แต่ทุกอย่างไม่เป็นผลค่ะ ปล...เพิ่มเติมนะค่ะ...คราวนั้นหากตัดสินใจให้ที่โรงพยาบาลเอกชนผ่าตัดให้ ป่านนี้เราอาจจะไม่มีโอกาสได้เรียกใครว่าแม่อีก เพราะคุณหมอที่ศิริราชบอกว่า เคสของแม่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เพราะว่าแม่เป็นที่ขั้วปอด ไม่ได้เป็นที่ปอดข้างใดข้างหนึ่ง ดูซิ..ถ้าเราใจร้อน ป่านนี้เราอาจจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 17:09:19 จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 16:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่บอกว่าได้ไปทดลองลองผิดลองถูกเอง เพราะว่าหมอนัดด้วยนะค่ะ กว่าหมอจะนัดให้ไปตรวจอีกครั้งก็นานเหมือนกัน แต่สุดท้ายเราก็ได้กลับไปตรวจที่ศิริราชอีกครั้ง คราวนี้คุณหมอได้บอกเราว่า คุณหมอกำลังทำโครงการวิจัยและศึกษาเกี่ยวกับโรคมะเร็งอยู่ และผลการตรวจร่างกาย ตรวจวินิจฉัยต่างๆๆ ของคุณแม่ สภาพร่างกาย และระยะของโรคที่เป็นอยู่ ทำให้คุณหมอคิดว่าคุณแม่น่าจะลองเข้ารับการรักษาในโครงการวิจัยฯของคุณหมอดู เอาละซิค่ะ ทำไงดี ถ้าเราให้แม่เข้ารับการรักษาในโครงการวิจัยของคุณหมอ ก็เท่ากับให้แม่เราเป็นหนูทดลองยา แต่ถ้าหากไม่ให้แม่เข้ารับการรักษา ก็ยังไม่ยาตัวไหนที่จะสามารถรักษามะเร็งร้ายนี้ได้ และอีกอย่างก็ไม่ใช่ว่าคนไข้ที่เป็นทุกคนจะได้เข้าร่วมโครงการนี้ อืม...เป็นโอกาสที่ดีที่เดียว เรากับคุณแม่เลยคุยกัน และคุณแม่ก็อยากเข้าร่วมโครงการวิจัยนี่ด้วยค่ะ คุณแม่เราเลยได้เป็นคนไข้ของคุณหมอ  ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆๆ ทั้งสิ้น จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 16:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยาที่ได้รับจากโครงการจะเป็นยาที่สุ่มได้นะค่ะ หมอจะไม่มีสิทธิ์ให้เอง จะได้รับยาจากการประมวลผลเลือด อาการของโรค ระยะของโรคและมีข้อระบุบ่งใช้อย่างชัดเจนค่ะ คุณแม่เราได้ยาชื่อ Gifinip กินวันละ 1 ครั้งและควรเป็นเวลาเดียวกันเดิมๆๆ ทุกวันค่ะ ห้ามลืมเด็ดขาด กินแล้วต้องบันทึกผลให้พยาบาลรับทราบทุกวัน เห็นคุณพยาบาลบอกแม่ว่า ยาตัวนี้เป็นยาที่นำเข้า ราคาต่อเม็ดอยู่ราวๆๆ 3 พันบาท เอิ๊กจะเป็นลมค่ะ ถ้าต้องซื้อกินเอง อาการผลข้างเคียงของยา คุณแม่เรามีผิวที่แห้งและคล้ำลงมาก เหี่ยวๆๆ เหมือนไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงผิว แสบปากเวลาทานของที่มีรสเผ็ดเพียงเล็กน้อย ผมฟูไม่มีน้ำหนัก เป็นแผลแล้วแผลลุกลามหายยาก ระยะเวลาในการกินยาทั้งหมด 11 เดือน ระหว่างนั้นแม่ก็ทานยาไปเรื่อยๆๆ และทำการตรวจก้อนเนื้อที่ปอดตามที่หมอนัด ผลตรวจแรกๆๆ ก็ดีขึ้นมากๆๆ แม่มีกำลังใจมากเลย แต่หลังจากผ่านไปหลายๆๆ เดือนเข้า เหมือนแม่มีการดื้อยา ยาเอาไม่อยู่ ก้อนเนื้อที่ปอดเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆๆ แม่เริ่มเหนื่อยมากขึ้น และไอมาก มากที่สุดเลย เวลาไอสงสารแม่มาก อาการไอมันก็จะมาพร้อมกับอาการปวด ปวดมากมายยิ่งหนาวๆๆ แม่บอกว่ายิ่งปวดทวีคูณมากขึ้น หลังจากที่แม่เริ่มดื้อยา คุณหมอก็ให้แม่หยุดยาตัวนี้ไป และทำการตรวจใหม่อีกครั้ง คราวนี้แม่ต้องเข้ารับการทำคีโมค่ะ แม่ผ่านการทำคีโมทั้งหมด 6 ครั้ง เรียกว่าเต็มคอร์สเลยทีเดียว ผมร่วงหมด ไม่มีเหลือแม้แต่เส้นเดียว ระหว่างนี้เราก็ช่วยกันดูแลแม่ต่อไป อาหารการกิน เปลี่ยนนิสัยการกินใหม่หมด เน้นผัก เน้นปลามากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารทอดๆๆ ย่างๆ ค่ะ เน้นเป็นต้ม เป็นนึ่งแทนค่ะ หลังจากทำคีโมผ่านพ้นไปแล้ว ร่างกายแม่ก็ดีขึ้นมากค่ะ จนเราคิดว่าแม่ไม่เป็นไรแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่หาย 100% แต่ไม่ลุกลามไปทีอื่นก็ดีถมไป จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 17:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แต่ผลไม่ได้เป็นอย่างที่เราแอบหวังค่ะ แม่อาการดีขึ้นได้ไม่ถึง 6 เดือนดี แม่ก็มีอาการแน่น เจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก ซึ่งเป็นภาวะน้ำท่วมปอดค่ะ คนที่เป็นโรคนี้จะต้องเจออาการนี้ค่ะ อันนี้คุณหมอบอกเองนะค่ะ ภาวะปอดบวมน้ำ (Pulmonary Edema) ที่มา : http://www.bcnnv.ac.th/webadult/adult3/content/heart/crisis/pul%20edema/pul%20edema.htm ภาวะปอดบวมน้ำหมายถึงภาวะที่มีสารน้ำซึมออกจากหลอดเลือดในปอดเข้าไปคั่งในถุงลมปอด และช่องว่างระหว่างเชลล์ของปอดทำให้หน้าที่ของปอดเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลงอย่างกะทันหันจนอาจเสียชีวิตได้โดยเร็ว ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วง ให้เครดิตเจ้าของ blog ท่านหนึ่งด้วยนะค่ะ (ขอบคุณมากๆๆ เลยค่ะ) จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 17:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หลังจากที่ผ่านช่วงภาวะปอดบวมน้ำแล้ว เรากับแม่ก็ได้ตัดสินใจไปพบคุณหมออีกครั้ง หลังจากที่คุณหมอไม่ได้นัดแม่ แต่คุณหมอกับพยาบาลที่ดูแลแม่บอกว่า หากมีอาการอะไรที่เร่งด่วนให้กลับมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้และค่ะ..ที่เราคิดมาตลอดว่า อาการของแม่ไม่ทรุดลง แต่ทรงตัวอยู่ได้ แต่เราคิดผิดค่ะ จริงๆๆ แล้วเรากับคุณแม่เพิ่งจะทราบว่า มะเร็งปอดมันไม่ยอมหยุดค่ะ มันได้ลามเข้าต่อมน้ำเหลืองไปแล้วด้วยเหมือนกัน คราวนี้แม่เราได้รับยาเคมีอีกครั้งแล้วค่ะ เป็นครั้งที่ 3 แล้วนะค่ะ แต่ละครั้งตัวยาแตกต่างกันมากมาย เราไม่อยากบอกเลยว่าสงสารแม่จับใจ พูดเรื่องนี้กลับแม่ทีไหร่ น้ำตาไหลทุกครั้ง แต่แม่เราง่ะเข้มแข็งมากๆๆ ไม่เคยร้องไห้ให้เราเห็นเลย จริงๆๆ แม่ปฎิเสธการรักษาครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำ บอกเราว่าไม่ต้องกังวล ถ้าแม่จะตายแม่ก็ยอมตาย แต่เรายอมไม่ได้ง่ะ ขอร้องให้แม่มาพบคุณหมออีกครั้ง คุณหมอก็ดีมากๆ ให้แม่เราเข้าร่วมโครงการวิจัยอีกครั้ง และรับยาตัวใหม่มาทานด้วย ยาตัวนี้เราจำชื่อไม่ได้จริงๆๆ แต่เป็นยาที่แพงมากๆ เหมือนกันค่ะ ราคาอยู่ที่เม็ดละ 4 พันบาท ทานวันละ 1 ครั้ง ทุกๆๆ เช้าค่ะ เป็นเวลาเหมือนกัน ตอนนี้แม่เราเริ่มทานมาได้ 3 อาทิตย์แล้วค่ะ ผลการรักษาเป็นยังไงต้องคอยติดตามค่ะ ตอนนี้หมอนัดคุณแม่ตรวจเลือด ตรวจร่างกาย ตรวจผลการรักษา ทุกๆๆ 2 อาทิตย์ค่ะ เราอยากให้ จขกท. สู้ๆๆ นะค่ะ โรคนี้ต้องการกำลังใจมากๆๆ สังเกตุดูซิค่ะ เมื่อไหร่เราท้อแท้ มันจะมาหาเราทันทีเลยค่ะ อันนี้แม่ดิฉันบอกนะค่ะ แต่ถ้าเราเข้มแข็งมันก็จะหายไปค่ะ ยังไงโทรมาคุยกับแม่เราได้นะค่ะ หลังไมค์มาค่ะ แม่เราชอบคุย ชอบแลกเปลี่ยนความรู้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 51 17:25:33 จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 17:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 และหากไปรับการรักษาในรพ.ที่มีประกันสังคมอยู่ ยาตัวนี้จะจัดอยู่ในบัญชียาของประกันสังคมไม๊ค่ะ อ้อ...บอกนิดนะค่ะ ว่ากลุ่มยานำเข้าพวกนี้จะไม่อยู่ในบัญชียาของประกันสังคม หรือว่าบัตรทองด้วยค่ะ ไม่รู้ว่าที่เล่ามาทั้งหมดจะเป็นข้อมูลให้ จขกท ได้ตัดสินใจหรือเปล่านะคะ และขอโทษด้วย หากเขียนไม่รู้เรื่อง ไม่เก่งเรื่องบรรยายง่ะค่ะ จากคุณ : orjita - [ 21 ก.ย. 51 17:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณแม่อายุ50จริงๆคุณแม่มีอาการมาตั้งแต่เดือน พ.ค.ปี50 แต่ตรวจชิ้นเนื้อแล้วไม่พบ จึงเปลี่ยนร.พ.เพื่อหาความเห็นที่2 วินิฉัยผิดอยู่ 7 เดือนบอกหลอดลมฝอยอักเสบ จึงเปลี่ยนไปตรวจที่ ศิริราช พอพบแล้วก็ดำเนินการรักษาทันที ตอนนี้ทาน Tarceva อยู่ครับ เป็นมะเร็งปอดระยะ 3 ผ่าตัดไม่ได้ มีการกระจายในปอดด้านหนึ่ง แต่ยังไม่กระจายไปที่อื่น ตรวจพบมาประมาณมีนาคมปี51 ทานยามาร่วม7เดือน มีผลข้างเคียงตาม จขกท. ครับ ผลดีคือ ไม่มีการกระจายต่อ ค่า CEA ลดลงเหลือ 2.2 ก้อนเนื้อที่ใหญ่สุดลดลงจาก 3.3cm เหลือ 1.6cm คุณหมอพอใจผลการักษา วันนี้คุณแม่ไปทำ Bone scan เพิ่มหลังจากพบว่ามีกระดูกกร่อน ภาวนาให้ไม่มีการลุกลามครับ ระหว่างทานยาคุณแม่ก็รักษาด้วย Alternative medicine ไปด้วยครับส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกัน เพื่อให้มันไปสู้กับ cell มะเร็ง ที่ยังเป็นห่วงก็เรื่องสภาพจิตใจ คุณแม่เครียดง่าย ขี้กังวล พยายามชวนไปแนวธรรมะ ก็ไม่รับเลย มีใครแนะนำวิธี หรือกุศโลบายดีๆให้ จิตใจสงบ มีสมาธิ ไม่ เครียดมั้ยครับ ถ้าใครจะสอบถามเรื่อง Alternative medicine ได้นะครับช่วยเต้มที่ แต่ไม่ค่อยได้ post ในpantip ไม่รู้หลังไมค์เค้าทำยังไงครับ เป็นกำลังใจให้ จขกท และผู้ที่กำลังต่อสู้กับโรคร้ายนี้อยู่ จากคุณ : Pond - [ 20 ต.ค. 51 11:00:40 A:125.25.22.211 X: TicketID:034325 ]