ความคิดเห็นที่ 1 ..จะขอบอกว่า...ไม่ง่ายเลยครับ...แต่ละครอบครัว มีความคิดเรื่องงานแต่งงานต่างกัน เพราะในบางครอบครัว งานแต่งงานเป็นเรื่องของหน้าตา จะต้องมีงานใหญ่ เชิญคนมาก หรือมีญาติเยอะ...ที่ทำได้ก็คงเป็นการลดขนาดงานให้เล็กลงครับ... จากคุณ : หมี่สดล้วน - [ วันมหิดล 20:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลองวิธีนี้นะคะ ได้ครับผมจะจัดสามวันสามคืนประกาศไปทั่ว.. เชิญแขกเหรื่อให้ทั่วทั้งจังหวัดมากินน้ำพริกที่ตำละลายน้ำ แต่...เวลาเลิก แขกที่เคยเชิญมางานแต่ง กรุณามากินเลี้ยงโต๊ะจีนงานหย่าด้วย รับรองค่ะ ... พูดแบบนี้ไม่ได้แต่งแน่ๆ (อาจชวดลูกสาวเขาไปด้วย) ขอโทษนะคะไม่ได้ช่วยแนะนำวิธีที่ดี แต่ก็ช่วยให้หายเครียดได้บ้างแหละน้า เนอะ จากคุณ : tawanwad - [ วันมหิดล 21:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 งานเล็กๆ จัดง่าย ได้บุญ...เท่าที่ทราบก็คือ ที่ รพ.สงฆ์  แถวๆ ถ.ศรีอยุธยา ทำบุญจัดพิธีทางสงฆ์ที่นั้นได้เลยค่ะ ช่วงเช้าแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว ลองติดต่อดูนะคะ .... ็้http://www.centerwedding.com/song_hospital.php จากคุณ : วันนี้มีล็อกอิน - [ วันมหิดล 21:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ได้นาน ๆแต่งที ทำเล็กแต่หรูก้อได้ครับ รักษาหน้าพ่อตาแม่ยาย จัดที่ชลบุรีโรงแรมบางแสนก้อได้ สักห้องเล็ก ๆ 30-40 คน มีดนตรีบรรเลง คนเราก้อต้องืนใจมั่ง  เอาใจพ่อตาแม่ยายไว้  นึกถึงมรดกไว้ จากคุณ : ยิ้มพลีชีพ (เล่าโหงว) - [ วันมหิดล 21:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ คำว่าึ นึกถึง มรดกไว้ เนี้ย ...ทำให้อยากจัดงานดี ๆ เอาใจ พ่อตาแม่ยายขึ้นมาโดยพลัน... 5 55 จากคุณ : HI Golfer - [ วันมหิดล 21:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การจัดงานแต่งงาน ถ้าพูดถึงการสิ้นเปลืองแล้ว ก็คืองานเลี้ยงช่วงเย็นนี่แหละค่ะ และจะพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว แก่นแท้ของการแต่งงาน คือพิธีการในตอนเช้า ส่วนงานเลี้ยงตอนเย็น คือการประกาศให้ชาวบ้านรู้ << ตรงไปป่าวหว่า?? ในฐานะที่เราเพิ่งแต่งงาน  และจัดงานเองทั้งหมด เรามีงานเลี้ยงเย็นด้วยนะคะ เรามาคิดว่า งานเลี้ยงตอนเย็นเนี่ย เป็นอะไรที่สิ้นเปลืองมากๆ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ ก็หมดไปงานเลี้ยงนี่แหละ รวมถึงตัวบ่าวสาวด้วย ที่เหมือนเป็นนักแสดงคนนึง ที่ต้องสร้างสรรค์อะไรให้แขกดู เช่น จะจัดงานรูปแบบไหน presentation จะทำโชว์ยังไง เดินขึ้นเวทีจะเปิดตัวยังไง จะพูดยังไง ทุกอย่างมันต้องมีสคริปต์หมด แต่เราต้องจัดงานเย็น เพราะพ่อเป็นคนมีหน้ามีตาพอสมควร เลยต้องทำเพื่อพ่อค่ะ... เรามาคิดว่า ถ้ามีลูกสาว  จะบอกลูกว่า ถ้าจะแต่งงาน จัดแค่พิธีให้ถูกต้องตามประเพณีพอแล้ว แล้วพอเสร็จพิธีก็กินเลี้ยงกันในหมู่คนรู้จัก พิธีตอนเช้า ใช้เงินน้อยมากค่ะ เทียบไม่ได้กับงานตอนเย็นเลยจริงๆ ส่วนกรณีของคุณ จขกท ถ้าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงไม่เห็นด้วย อย่าไปขัดท่านเลยนะคะ.. ไหนๆจะพาลูกสาวเค้ามาเลี้ยงดูแล้ว ถ้าท่านยืนยันว่าต้องจัดงานเลี้ยง ก็แสดงความรับผิดชอบให้ท่านเห็นว่าคุณทำให้ท่านได้ อย่าไปขัดใจว่าที่พ่อตาแม่ยายด้วยเรื่องแค่นี้เลยค่ะ ชีวิตคู่กำลังจะเริ่มต้น นั่นหมายถึง ไม่ใช่แค่คุณสองคนแล้วนะคะ หมายถึงครอบครัวของทั้งสองฝ่ายที่ต้องเกี่ยวดองกันด้วย อย่าทำให้เรื่องแค่นี้ ต้องเป็นเหตุให้หมางใจ หรือทำให้ไม่สบายใจกันเลย ทุกอย่าง มีข้อดีอยู่ในตัวของมันเสมอแหละค่ะ อย่างของเรา ถ้าไม่จัดงานเย็น ก็คงไม่มีความทรงจำที่ดีเกิดขึ้นเหมือนกัน เพราะทำให้เรามีเหตุการณ์ประทับใจตั้งหลายอย่าง มีภาพสวยๆ มีเพื่อนมามากมาย โดยที่ไม่มีใครบ่นเรื่องเดินทาง เรื่องชุดเลย ทำให้ได้เห็นน้ำใจเพื่อนมากๆ และที่สำคัญ ... ได้ฟังเจ้าบ่าวของเราร้องเพลงเพี้ยนๆให้ฟังด้วย แขกก็ปลื้มมาก ^^ เป็นกำลังใจให้นะคะ และยินดีกับคุณว่าที่เจ้าบ่าวด้วยค่ะ ปล.ยาวหน่อยนะ แต่อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์จ้ะ จากคุณ : apple of one's eye - [ วันมหิดล 21:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนตัวส่งตัว 1 วัน ไปจดทะเบียนสมรส(ไม่จดก็ได้) พอตอนดึก จัดพิธี ส่งตัวเจ้าสาว ถึงบ้านเจ้าบ่าวทำตามประเพณี แล้วเลี้ยงพี่น้องเพื่อนฝูงที่สนิท (คงมีไม่มาก) ตอนเที่ยง พอบ่ายก็จัดกระเป๋าไปฮันนีมูน (มีเวลามากก็ 1 สัป ดาห์/เวลาน้อยก็ 3-4 วัน) แค่นี้คงพอไหวนะครับ ปล.ที่รู้เพราะเคยทำงานสมาคม จากคุณ : บลูเรย์ - [ วันมหิดล 21:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยคิดแบบนี้เหมือนกันคะ แต่ไปมาๆ ที่จะเชิญแต่ญาติ กลายเป็นบานคะบาน มีคนช่วยคิดมากๆ คนที่ตอนแรกบอกว่า จัดเงียบๆ ก้ดี ไม่ต้องจัดหรอกเปลืองนั่นแหละ จะเชิญใคร บอกคนนี้ไม่บอกคนนี้ได้เหรอ ไหนๆ เค้าก็ต้องกินข้าวนะ โต๊ะจีนดีกว่า เราไม่ต้องเตรียม สารพัด สรุป เราต้อง  ออเออคะ เพราะท้ายที่สุด หาตังค์ วางแผน จัดงานแต่ง ปวดหัวน้อยกว่าคิดจะแต่งแบบเงียบๆ เพราะ คุณต้องเจอคำถาม แต่งแล้วเหรอ แต่งไปเมื่อไหร่ ไม่เห็นบอก วนๆ เวียน ๆ ไปอีกนานคะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 21:57:16 จากคุณ : กาดุ๊กกาดุม - [ วันมหิดล 21:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เช้าทำบุญตักบาตร .. บายศรีสู่ขวัญ เจ้าสาว-เจ้าบ่าว .. ให้ญาติผู้ใหญ่มาอวยพร ตอนเย็นปาร์ตี้เล็ก ๆ เฉพาะเพื่อน .. จากคุณ : apple_meppo - [ วันมหิดล 22:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้ก็ต้องเห็นใจทางฝ่ายหญิงด้วยนะคะ แต่งงานทั้งที ไม่ได้บอกกล่าวใครเลย เหมือนงุบงิบแต่ง เดี๋ยวมันก็จะตามมาด้วยเสียงนินทารอบด้าน มีอะไรหรือเปล่า เสียท่าผู้ชายไปแล้ว ท้อง พ่อแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม ฯลฯ ซึ่งอะไรแบบนี้ฝ่ายหญิงโดนเต็มๆ ค่ะ เราว่าคุณลองนั่ง list รายชื่อคนที่คุณคิดจะเชิญก่อนดีกว่าค่ะ เอาประเภทที่ว่า "ถ้าแต่งแล้วไม่บอก มีเคือง" เช่น ญาติผู้ใหญ่ และเพื่อนสนิทมากๆ ก็ลองดูค่ะ ว่าจะได้ซักกี่คน เรื่องแต่งงาน พ่อแม่สำคัญที่สุด จากคุณ : Im onair - [ วันมหิดล 22:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พ่อแม่ ที่มีลูกผู้ ญ ก็แบบนี้แหล่ะค่ะ คือลูกสาวจะมีครอบครัวเสียที ก็อยากจะจัดให้เป็นหน้าเป็นตา จากคุณ : เจ้าหญิงขี้เซา - [ วันมหิดล 22:34:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากให้ผู้หญิงคิดแบบ 6 แทบทุกคนจังเลย มีแต่ร้องหา งานใหญ่ สไลด์หรู คนดูโปรดปราน อาหารเต็มที่ ภาพโชว์ดูดี มีถ่ายริมทะเล ชำร่วยต้องเดิ้น การ์ดเชิญต้องเก๋ สิ้นทรัพย์ แต่ไม่กล้าพูด จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 ก.ย. 51 01:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คงแนะนำจขกท.ได้แค่ในฐานะที่ผ่านงานแต่งของพี่ๆเรามาสี่งานแล้ว เรื่องพิธีแต่ง ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย อย่างพี่ชายเรา คนนึงทางบ้านผู้หญิงไม่ได้ใส่ใจเรื่องพิธีอะไรมากมาย ก็เลยเลี้ยงโต๊ะจีนตอนกลางวัน เล็กๆแค่ในหมู่ญาติสนิท ที่จัดก็เป็นเหลา ไม่ใช่โรงแรมใหญ่โต แต่ก่อนพิธีเลี้ยงก็มียกน้ำชากัน เพราะเป็นคนจีน พิธีนี้จะทำให้บ่าวสาวได้เงินไปชนิดตั้งตัวได้กันเลย เลยต้องมี ข้ามไม่ได้ อันนี้เคสนึง ส่วนอีกเคส พี่ชายอีกคน แต่งกันกับพี่สะใภ้ที่เป็นลูกสาวนายทหาร อันนี้เรียกร้องสุดๆ เนื่องจาก แต่งหลังพี่สาวอีกคนของเรา เค้าเลยมีข้อมูลว่า สินสอดของพี่สาวเราเท่าไหร่ แต่งโต๊ะจีนกี่โต๊ะ ใช้เงินเท่าไหร่ ได้ซองเท่าไหร่ อันนี้ ฝ่ายผู้หญิงเรียกร้องสินสอดพอๆกับที่พี่สาวเราได้ ต้องได้แต่งโรงแรมระดับเดียวกัน โต๊ะจีนห้าสิบโต๊ะ บลา บลา พ่อแม่ผู้หญิงเรียกมาเลย ข้อมูลแน่นมาก... ส่วนสุดท้าย พี่ชายคนโต แต่งรอบสอง หมดไปมหาศาล เพราะพี่ชายเราหน้าที่การงานดี พูดง่ายๆ ฝ่ายผู้หญิงรู้ว่ามีเงิน เลยเรียกเต็มสตีม โต๊ะจีนร้อยโต๊ะ แต่งโรงแรมรามาการ์เด้น ... เฮ้ออ  ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมั่กๆ   เราว่าควรดูว่าฝ่ายผู้หญิง บ้านเค้าทำธุรกิจมีหน้ามีตาขนาดไหน ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณคงมางุบงิบๆแต่งไม่ได้หรอก ก็ต้องให้สมน้ำสมเนื้อ เพราะมันคือหน้าตาของครอบครัวเค้า แต่สามารถประหยัดได้ถ้าเปลี่ยนไปเลี้ยงตอนกลางวัน จะได้ไม่ต้องเสิร์ฟเหล้าเยอะ แล้วบางที่ค่าจัดเลี้ยงตอนกลางวัน ถูกกว่าตอนกลางคืน เพราะคนส่วนใหญ่จะจองกลางคืนกัน ขอให้โชคดีนะคะ ยินดีด้วยค่ะ จากคุณ : other places - [ 25 ก.ย. 51 07:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อย่างที่ข้างบนหลาย ๆ คนบอก.....ที่แพงคือค่าสถานที่และอาหารที่จะจัดงานเลี้ยงตอนกลางคืน..... ลองพูดแบบเอาใจฝ่ายเจ้าสาวว่า...เพื่อความสะดวกของฝ่ายเจ้าสาว...จัดงานเลี้ยงอาหารตอนกลางวันตามภัตตาคารที่เมืองชลเลือกสถานที่พอเหมาะกับจำนวนแขกที่จะเชิญ.....ก็น่าจะประหยัดกว่ามาจัดตามโรงแรมในกรุงเทพนะ....เพื่อความพอใจของฝ่ายเจ้าสาว....ไหน ๆ จะขอลูกสาวเขามา ก็ให้คุณพ่อคุณแม่เขามีความสุขในงานนี้  เขาก็จะได้เชิญแขกฝ่ายเจ้าสาวได้เต็มที่.....เพราะถ้าฝ่ายคุณไม่ต้องการงานใหญ่โต...ก็เปิดโอกาสให้ฝ่ายที่เขาต้องการมีงานก็แล้วกันนะ....ก็ลดจำนวนแขกฝ่ายเจ้าบ่าวลงได้เยอะเลย...เพราะถือว่าจัดงานไกลหน่อย เลยเกรงใจไม่กล้าเชิญมาก จากคุณ : DoDream (DoDream) - [ 25 ก.ย. 51 09:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แถวบ้านเรามีงานตอนเช้าให้ผู้หลักผู้ใหญ่ทำพิธี ทำบุญตักบาตร เลี้ยงพระ รดน้ำสังข์ เสร็จแล้วก็เลี้ยงโต๊ะจีนเลย ไม่ต้องมีงานเย็นค่ะ  ทำไปเถอะนะคะ ลูกผู้หญิงเกิดมาทั้งทีก็คิดว่าเป็นครั้งเดียวในชีวิต เป็นหน้าเป็นตาพ่อแม่ด้วย เพียงแต่ทำวิธีไหนให้เซฟค่าใช้จ่ายเราที่สุดก็พอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : คนโคราชผ่านมา (onefreeday) - [ 25 ก.ย. 51 09:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เข้าใจผู้ใหญ่นะคะ  โดยเฉพาะฝ่ายหญิง เป็นเรื่องปกติที่ท่านอยากจะให้มีงานแต่งค่ะ จริง ๆ การจัดงานแต่งเนี่ยเหมือนเป็นการรวมรุ่นเพื่อนพ่อเพื่อนแม่นะคะ สังเกตดูว่าแขกส่วนใหญ่  หรืออย่างน้อยครึ่งนึงจะเป็นแขกของพ่อแม่ค่ะ แต่เท่าที่หาข้อมูลกับคนที่เรารู้จักที่จัดงานแต่งมาแล้ว เกือบทุกเคส  เท่าทุนค่ะ  ได้ซองมาก็จ่ายค่าโรงแรมไป  แทบจะไม่ขาดทุนอ่ะ เราว่าถ้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงเค้าอยากให้จัดก็จัดเถอะค่ะ เป็นการให้เกียรติท่านนะคะ จากคุณ : cotton_ud - [ 25 ก.ย. 51 12:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าเป็นจิ้งจอกนะ.. ตอนเช้าก็ รพ.สงฆ์ [ไม่ถึง 1 หมื่นก็จัดได้]....จบแล้วละ.. แต่ถ้าอยากได้งานเลี้ยงตอนกลางคืน...ถ้าเขาอยากให้หรูหน่อยก็คง.. ถามตัวเองก่อนดีที่สุดว่างบที่พอจะเจียดมาจัดได้อยู่ที่เท่าไหร่... ถ้างานกลางคืนตอนนี้จิ้งจอกคิดเล่น ๆ เป็นบุปเฟ่ที่ตึกช้างนะ.. หัวละ 290 รวมทั้งเซอร์วิสชาร์ตและก็ภาษีแล้ว...รับจำนวนขั้นต่ำ 100 คน ค่าอาหารก็ 29,000 บาท   ค่าห้อง 4,000 บาท ค่าเช่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่รู้เท่าไหร่ตีให้ 10,000 บาท ค่าแต่งหน้าทำผมให้เท่าไหร่ดีไม่รู้ 5,000 บาท(อยู่ไหม๊) ค่าถ่ายรูปให้เพื่อนถ่ายให้...งก... ค่าดอกไม้ตกแต่งสถานที่ไม่แน่ใจเหมือนทางตึกช้างแถมให้เลย.. ค่าการ์ดใบละ 3 บาท 100 ใบ 300 บาท ของชำร่วยเอาชิ้นเท่าไหร่ดีที่สำเพ็ง 10 บาท 100 ชิ้น 1,000 บาท รวมคราว ๆ 49,300 บาท...แบบคิดเล่น ๆ นะ...อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ชีวิตหนึ่งจะได้แต่งงานสักกี่ทีเชียว... เอาให้ถูกใจทั้งคู่และถูกใจผู้ใหญ่ไปเถอะต้องอยู่กันอีกยาว แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 12:35:52 จากคุณ : จิ้งจอกสาวฝึกหัด - [ 25 ก.ย. 51 12:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยังงัย พิธีการตอนเช้าก็ต้องมีครับ ส่วนเรื่องงานตอนเย็น ต้องคุยกับที่บ้านของฝ่ายหญิงก่อนครับ จากคุณ : ซูชิหน้าปลาไหล - [ 25 ก.ย. 51 14:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าฝ่าย ญ  เห็นด้วยกับความคิดคุณ ก็ไม่น่าจะยาก  ที่จะให้ฝ่าย  ญ  เป็นคนพูดให้ทางบ้านเข้าใจในวัตถุประสงค์ของคุณ จากคุณ : My name is Dumilk!!! - [ 25 ก.ย. 51 14:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมกำลังจะแต่งงาน กับลูกสาวนักการเมืองท่านหนึ่ง งานเข้าเลยครับ แต่เชื่อไหมว่า โบราณว่าไว้ ซองสามารถทำให้ท่านตั้งตัวได้นะครับ ที่อยากบอกคือ ทุกๆงานแต่งที่ผมเข้าร่วมมา ทั้งของญาติ และของเพื่อน ซองหลังหักค่าใช่จ่ายทั้งหมด(ไม่หักสินสอดทองหมั้นนะครับ) เหลือครับ เอาไปใช้เป็นทุนได้เลย (คุยกับฝ่ายหญิงก่อนนะครับ ว่าเงินในซอง เอาไว้ใช้ในการจัดงานนะครับ) เคยมีแบบเหลือร่วมแสนด้วย ดังนั้น ใจเย็นไว้ก่อน จัดงานไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เขาเลี้ยงของเขามาอย่างดี คุณจะไปพรากลูกสาวเขามา ก็ต้องให้เกียรติกันเป็นธรรมดาครับ จากคุณ : ปลงไม่ตกซะที - [ 25 ก.ย. 51 16:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอาแค่สมฐานะก็พอครับ เราก็เคยกลัวพวกพิธีการ แต่ ถ้าเจอคนที่ใช่ บุกน้ำลุยไฟ ก็ยอม (พิธีแต่งกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย) ผู้หลักผู้ใหญ่อยากให้ญาติๆ รับรู้ กันทั่วมากกว่าครับโดยเฉพาะลูกคนโต ขอให้รักกัน ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะครับ จากคุณ : คนเคยล้ม - [ 25 ก.ย. 51 17:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ สำหรับทุกคำแนะนำ ลืมบอกไปว่าผมเป็นคริสต์ ไม่ต้องมีพิธีตอนเช้าด้วยครับ จริง ๆ แอบมีคิดว่า จัดงานง่าย ๆ ในหมู่ญาติตามที่พ่อแม่อยากให้เชิญ ส่วนเพื่อน ๆ เดี๋ยวจะพิมพ์การ์ดแจก อารมณ์ประมาณว่า ผมนาย... และนางสาว.... ได้ทำการสมรส เป็นสามีและภรรยาถูกต้องกฎหมายแล้ว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการจราจรในปัจจุบัน พวกเราได้ตระหนักว่าคงจะเป็นการรบกวนท่านมาเป็นสักขีพยานในงานมงคลสมรสของเราสองคน เราสองคนขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการร่วมยินดีมา ณ ที่นี้ด้วย อะไรประมาณนี้นะครับ เรื่องเงินในซอง หรือมรดก มันก็ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรอ่ะครับ จากคุณ : ขอบัตรมาตอบ - [ 25 ก.ย. 51 20:15:22 A:124.120.170.15 X: TicketID:188312 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เราก็เป็นคนไม่ชอบพิธีรีตองคะ  ตอนที่ตกลงใจจะแต่งงานกับสามี  ก็บอกกับเค้าว่า  จัดเลี้ยงเล็ก ๆ ในเฉพาะหมู่ญาติก็พอ  ทางพ่อแม่ฝ่ายเราก็ง่ายๆ ไม่ได้ว่าอะไร  เค้าบอกว่าแล้วแต่เรา แต่พ่อแม่ว่าที่สามีไม่ยอม  เค้าบอกว่าอยากจัดงานเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาเป็นเกียรติ   ทำไปทำมาก็ต้องจัด  เพราะขัดพ่อและแม่ทางสามีไม่ได้  จากที่เราคิดว่าจะจัดโต๊ะจีนประมาณ 3- 4 โต๊ะ  สำหรับญาติทั้งสองฝ่าย   กลายเป็นจัดโต๊ะจีนประมาณ 35 โต๊ะ  ที่โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า (มีโต๊ะงอกเกิน 35 โต๊ะค่ะ  เพราะแขกล้นต้องเปิดโต๊ะเพิ่ม) เวลาผ่านมาหลายปี  มันก็กลายเป็นความทรงจำที่ดีๆ เหมือนกันนะคะ  เวลาที่คิดถึงจุดที่่ผ่านมา  บางครั้งเราก็เคยคุยกับสามีว่า  พิธีการไม่สำคัญ  แต่มันก็ทำให้มีคุณค่าในความรู้สึก  และความทรงจำดีๆ  ทุกครั้งที่คิดถึงค่ะ จากคุณ : coffeenut - [ 26 ก.ย. 51 02:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ของเราก้ออยากจัดแบบดีๆ  เอาแบบถ่ายรูปออกมาสวยๆ(แต่ไม่กล้าบอกแฟนอะ) แต่แฟนอยากจัดเล็กๆ  -*- โชคดีที่คุณแม่แฟนเป็นคนจัดให้   แขกไม่เยอะ ประมาณ200-300 แต่จัดในโรงแรม  ของชำร่วย  กับการ์ด  แม่ก้อเลือกให้น่ารักมาก เลือกแต่คนที่สนิทๆ จัดแล้วหักลบไม่ขาดทุนหรอก  แถมได้งานสวยๆประทับใจอีก เห็นใจหน่อยนะ งานนี้จัดได้ไม่บ่อยนะคะ   ^^ จากคุณ : หน้าตาไม่ดี ไม่มีเวลาให้ - [ 26 ก.ย. 51 07:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สำหรับเราแล้ว ... งานแต่งงาน เป็นเหมือนความฝันของผู้หญิง  ว่าสักวันนึงเราจะได้สวมชุดเจ้าสาว   เรายังโสด ไม่เคยมีแฟน จะมาให้ความเห็นอะไรแบบนี้ก็ไม่ค่อยจะดีนัก แต่ในฐานะลูกแล้ว   เรารู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้เห็นรูปแต่งงานของพ่อแม่เรา    ดีใจที่ได้เห็นพ่อแม่เรา สวยหล่อในชุดแต่งงาน จัดงานแต่งเถอะค่ะ   แล้วถ่ายรูปไว้ประมาณนึง เอาไว้ให้ลูกๆคุณได้ภูมิใจ และได้เห็นที่มาที่ไปของพ่อแม่ของพวกเขา    แล้วคุณเองก็จะได้เก็บไว้ดูด้วย   อีก 40-50 ปี คุณอาจจะเกษียณนั่งเลี้ยงหลานอยู่กับบ้าน จะได้เอารูปวันงานนี้มาดูอีกครั้งนึง  แล้วมานั่งชี้รูปกันว่า ดูสิ คนนี้คนนั้นมางาน   ตอนนี้คนนี้หน้าตาเป็นอย่างนี้ คนโน้นตัดผมทรงนั้น  ช่วงนั้นฮิตแฟชั่นออกงานแบบนี้ ไหนๆก็จะสละโสดแล้ว ก็จัดงานเถอะค่ะ  ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้แต่งงานเหมือนคุณ (เรายังหนาวๆร้อนๆ ว่าจะได้ ย้ายไปอยู่หมู่บ้านคานทองนิเวศน์ เลยค่ะ) จากคุณ : กระพรวนน้อยเสียงใส - [ 28 ก.ย. 51 03:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราว่าจัดพิธีเช้าที่บ้านเจ้าสาวก็ได้ค่ะ... แล้วเลี้ยงต่อกลางวันไปเลย จากคุณ : sweet_mu - [ 29 ก.ย. 51 12:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อย่าเอาแบบผมนะ ขอสมา ลูกเดียว ไม่มีการแต่งหรือพิธีใดๆ ให้วุ่นวาย สิ้นเปลือง ผมถามแฟนว่ารับได้ไหมที่จะอยู่กะผม เธอบอกโอเค ผมเลยพาไปตีทะเบียนซะ แล้วก็พาไปตีอย่างอื่นต่อ คนเรานี่ก็แปลกนะ ตอนจะเอาเสาลงหลุม ต้องมาประกาศก้องให้ชาวบ้านรับทราบ แต่พอตอนหย่า ดันแอบไปหย่ากันเงียบๆ ไม่เห็นมาแจกการ์ดกันมั่งเลย 555+++ จากคุณ : ผ่านมา (เดินดงพงไพร) - [ 1 ต.ค. 51 19:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 งานผมจัดเฉพาะเช้าเป็นพิธีแถมจัดขึ้นบ้านใหม่ด้วยเลย งานเย็นไม่จัด อิ อิ อิ จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค - [ 3 ต.ค. 51 11:34:27 ]