ความคิดเห็นที่ 1 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 51 13:19:22 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 11:43:02 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 11:35:52 จากคุณ : walaiws - [ 26 ก.ย. 51 11:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 51 13:19:46 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 51 17:50:04 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 11:39:41 จากคุณ : walaiws - [ 26 ก.ย. 51 11:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 51 13:19:58 จากคุณ : walaiws - [ 26 ก.ย. 51 11:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ..เข้ามารับฟังครับ... จากคุณ : หมี่สดล้วน - [ 26 ก.ย. 51 11:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นานาจิตตัง   คนไข้เลือกหมอได้ แต่หมอปฏิเสธคนไข้ไม่ได้ ลางเนื้อชอบลางยา จากคุณ : พัดลมเพดาน - [ 26 ก.ย. 51 11:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จขกท.เล่าเรื่องเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวเปล่า เป้นสมาชิกชีวิจิตมาตั้งแต่เล่มแรก  เพิ่งได้ยินด้านนี้ครั้งแรก งง จากคุณ : Nay_nan - [ 26 ก.ย. 51 11:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แฟนผมเป็นมะเร็ง เต้านมระยะ สาม ตอนเป็นใหม่ ๆ  พยายามติดต่อที่จะเข้าเป้นคนไข้ของ ดร.  แต่ติดต่อแล้วไม่ได้โอกาสซักที ..  จึงเริ่มมีแนวคิดที่จะรักษาตามแนวทางชีวจิต  และศูนย์ธรรมชาติบำบัด นั่นแหละ ผ่านไป หนึ่งเดือน  ความเครียดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง เพราะโน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ดี  ความเป็นอยู่ต้องเปลี่ยน ต้องซื้ออุปกรณ์ในบ้านใหม่ ใช้ชีวิตแบบใหม่ ..  สรุป กลับไปหาหมด ให้คีโม ผ่าตัด ฉายแสง ใช้ชีวิตตามธรรมชาติของเธอ  ผ่านมากว่า 4 ปีแล้ว  ก็ยังไม่เห็นเป็นไรเพิ่มขึ้น ท่าทางจะอยู่อีกนาน .. ในขณะที่คนรุ่นเดียวกันที่ไปเจอหมอรุ่นเดียวกัน เป็นระยะน้อยกว่า .. เปลี่ยนชีวิตตามแนวทางชีวจิต .. พึ่งวัด ปฏิบัติธรรม .. แต่ตอนนี้นอนอยู่ในรพ.ด้วยการลามไปที่ตับ .. สรุป .. แนวทางของ ดร. ที่ใช้ได้ คือเรื่อง ใจ ครับ  เพียงคุณมีกำลังใจ และใจคุณดี  มะเร็งในตัว มันก็อยู่ร่วมกันได้ พึ่งพาอาศัยกันและกัน  มันก็ผ่านมาได้ด้วยดี   ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ จากคุณ : สามทับหนึ่ง - [ 26 ก.ย. 51 11:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใจเย็นๆครับ อย่าเครียดเลยครับ ความเครียดไม่ส่งผลดีกับตัวโรคเลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 12:33:49 จากคุณ : BBQ - [ 26 ก.ย. 51 12:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านแล้วน่าโมโหจิง คิดว่าตัวเองเป็นหมอเทวดาเหรอไง ไปหาแล้วการันตีว่าหายทุกรายก็ไม่ใช่ มีการตบหัวอีก รับไม่ได้ ถ้าเป็นผมจะถามไปเลยว่าตบหัวผมทำไม ตบแล้วมะเร็งหายป่าว ถ้าไม่หายอย่าบังอาจมาตบหัวตรูอีก จากคุณ : เต้าหยินไม้แห้ง - [ 26 ก.ย. 51 12:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อืมม ไอ้เรามันพวกไม่ชอบชีวจิตซะด้วยสิ เพราะดูมันออกไปทางพยายามดิ้นรนจนเกินเหตุ - - ใครจะว่าไงก็เหอะ แต่เราไม่อยากอยู่นานนักหรอก ขี้เกียจ ก็เลยไม่ค่อยศรัทธาทางนี้ ส่วน d-tox เราก็ไม่ได้ค้นคว้าเชิงลึกนะ แต่ก็ไม่เห็นทางการแพทย์ออกมายืนยันเลยว่าทำแล้วดี ไม่เหมือนการออกกำลังกาย ที่ไม่ว่าจะรักษาแนวไหน ก็บอกว่าดี มีผลทางการแพทย์ยืนยัน เราก็เลยมองว่ามันแฟชั่นมากกว่า เหมือน กินเจ น่ะะ ออกไปทางตามกระแส แต่เรื่องแบบนี้เราก็ถือว่าเรื่องส่วนตัว เหมือนกับคนบางคนก็ชอบแต่งตัวแบบนี้ ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไปบอกเค้าได้ว่าแต่งแบบเราสิ ดีกว่า เราก็คิดว่างั้นล่ะ ส่วนเรื่อง ของ จขกท เราก็ว่าถ้าคุณจะไม่ไปรักษากับเค้าแล้ว ก็อย่าไปคิดถึงเรื่องนี้เลยค่ะ จิตตกเปล่าๆ แต่เราก็เข้าใจนะว่าคงทำใจได้ยากเหมือนกัน ความแค้นอ่านะ หุๆ แต่ก็รีบลืมๆดีกว่าค่ะ ไม่งั้นนอนไม่หลับ ก็จะพาลยิ่งไม่ดีกับสุขภาพคุณเข้าไปอีก จากคุณ : whatever it is - [ 26 ก.ย. 51 12:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อึ้งค่ะ.... การที่คุณหมอตบหัวคนไข้เนี่ย .. อืมม.. ถ้าเป็นเพื่อนสนิท หรือญาติผู้ใหญ่ที่สนิท ให้ความเคารพกัน รู้จักกันมานาน ก็คงเป็นเพราะเอ็นดู แต่กับคุณหมอที่เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แล้วไม่ได้สนิทสนมอะไรอย่างนี้ เค้าไม่ควรทำอย่างนี้นะคะ ไม่น่าเลย .. จากคุณ : sassygal - [ 26 ก.ย. 51 12:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แพทย์ทางเลือกไม่ศรัทธาก้อเลิกครับ...อย่าเสียใจ...มีแนวทางอีกมาก แต่ไม่ได้บอกนะใครผิด-ถูก??? จากคุณ : ยิ้มพลีชีพ (เล่าโหงว) - [ 26 ก.ย. 51 12:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลายตาเลยครับ ไม่ขอพูดเรื่องดร.ละกัน เป็นกำลังใจให้เอาชนะโรคให้ได้นะครับ จากคุณ : .. - [ 26 ก.ย. 51 13:04:17 A:58.10.198.137 X: TicketID:183304 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นกำลังให้เอาชนะโรคให้ได้เหมือนกัน จากคุณ : ลีโอ (leowood) - [ 26 ก.ย. 51 13:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราติดตามหนังสือชีวจิตมานานแล้วเหมือนกันค่ะ และ ก็เคยติดตามเรื่องของบัลวีทาง True Vision มาบ้าง สำหรับเรื่องนี้ขอไม่ออกความเห็นเรื่อง อ.สา... นะคะ แต่ เท่าที่อ่านมา ดูเหมือน คุณจขกท. มีใจให้กับทางบัลวี ไปทั้งหมดแล้ว เพราะ คุณจขกท. ได้เล่าถึงบัลวี ในเกือบทุกคำถามคำตอบ อยากบอกว่า คนเราถ้ามี bias กับใครขึ้นมาในใจเมื่อไหร่ เราจะยิ่งจดจำแต่สิ่งที่ไม่ดีของคนคนนั้น .. คุณแม่เราก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งค่ะ แนะนำให้ ปล่อยวาง และให้กำลังใจตัวเองมากๆ ค่ะ อันไหนไม่ดี ก็ทิ้งมันไปซะ ถ้าคุณยิ่งเครียดจะยิ่งไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเอง และคนรอบข้างด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : Select Star - [ 26 ก.ย. 51 13:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^^'  เรามองอีกแง่ อย่างน้อยวัตถุประสงค์ที่เค้าเคี่ยวเข็ญคุณ เพราะอยากให้คุณหาย เพราะคุณมาเข้ารับการรักษากับเค้า .. .. คุณรักษากับที่อื่นพร้อมไปกับรักษากับดอกเตอร์ เค้าก็ต้อง งง กับการรักษา  ว่าทำไมน้ำหนักคุณลด .. ส่วนเรื่องตบหัวนี่ ไม่คอมเมนท์ เพราะสถานการณ์นั้น คุณอาจก้มหน้า จนเค้า นึกว่าคุณเหม่อ ไม่ตั้งใจฟัง แล้วการรักษาจะประสบผลได้อย่างไร .. อโหสิดอกเตอร์ไปดีกว่า อย่างที่บอก ท่านแก่แล้ว คิดเสียว่าเป็น คุณพ่อ คุณปู่ แล้วกัน จากคุณ : Archimandrite - [ 26 ก.ย. 51 13:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ด้วยความเคารพนะครับ ถ้ามาทำกับแฟนผมแบบ นี้ โดนอัดแน่นอน ... จากคุณ : RuudVanNis10 - [ 26 ก.ย. 51 13:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เจ้าของกระทู้ครับ บัล... ที่เจ้าของกระทู้กำลังเชื่อในการรักษาอยู่นั้น หาข้อมูลให้มากกว่านี้ครับ...ผมบอกได้แค่ว่า "ไม่ได้ดีไปกว่า ดร. ที่คุณเกลียดตอนนี้แล้วล่ะ" มันคือธุรกิจที่กำไรมหาศาลบนความกลัวความตายของคนครับ จากคุณ : เฮียแมว - [ 26 ก.ย. 51 13:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณคะ ดิฉันไม่ได้เข้าข้างใครนะ ...เข้าใจค่ะว่า ยา ความกังวล ความกลัว ทำให้คุณเครียด และเกิดอาการเซ้นซิทีฟ ใครทำอะไรไม่ดี ไม่ถูกใจก็หงุดหงิด (ดิฉันเคยป่วยเป็นโรคนี้ค่ะ) ขออนุญาตพูดในฐานะคนที่ผ่านจุดนั้นมาแล้วนะคะ 1.คิดถึงความตายวันละ 1,000 ครั้ง แล้วคุณจะไม่มองว่าใครน่าโกรธเลย เพราะโรคนี้ พร้อมเสนอความตายให้คุณได้ตลอดเวลา 2.อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเลว จะไม่ดี จะแย่ เพราะนั่นจะทำให้คุณมองโลกไม่สวยงาม คุณจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข *V* 3.ถ้าคุณไม่ศรัทธาในตัวเขา ศรัทธาในวิถีทางบัลวี ก็รักษากับบัลวี เพราะใจต้องมาก่อน แล้ววิถีแห่งการดำเนินจะตามมา 4.รักษาสุขภาพอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับมะเร็งหลายๆ เล่ม หาทางที่ถูกกับสุขภาพคุณ บางตำราให้กินเห็ดสามอย่าง บางตำราให้กินปลา อะไรก็ได้ค่ะ ทางธรรมเรียกว่าปฏิบัติให้ถูกกับจริตตน แต่อย่าไปกินไก่ กินหมู กินวัวเพราะสามอย่างนี้มีสารเร่งโต ย่อยยาก โปรตีนสูง สรุปฟังเสียงของร่างกายเป็นหลัก สังเกตุดูว่า กินอย่างนี้เราเป็นอย่างไร ประมาณนี้ดีกว่า เพราะแต่ละตำราเขาก็เขียนจากความน่าจะเป็น บลาๆ ๆ ๆ ร่างกายคนเราคล้ายๆ กันแต่ไม่เหมือนกัน   5.ไปยืนหน้ากระจก แล้วบอกตัวเองว่า วันนี้ฉันจะไม่โกรธ ไม่อารมณ์เสีย ถ้ารู้สึกน้ำตาจะไหลจากเรื่องไร้สาระ คุณก็ เขียนๆ ๆ ๆ ๆ แล้วระบายความรู้สึกนั้น ให้จบๆ ไป คิดเสียว่า ไม่มีใครบนโลกนี้อยากทำชั่ว ไม่มีใครบนโลก ใบนี้อยากทำร้ายคุณ รักษาจิตในสว่างไสวดีกว่านะคะจะได้หายไวๆ *V* ไม่สบายใจก็ระบายซะ แต่อย่าลืมรักษาจิตให้นิ่งสงบ เย็น การทำสมาธิช่วยคุณได้ค่ะ   สู้ๆ และเป็นกำลังใจให้เดินต่อ อย่าเสียเวลาไปกับอารมณ์โมโหเลยนะคะ เอาเวลามาดูแลสุขภาพดีกว่าเนอะ สู้ๆ ๆ ๆ ขอให้ร่างกาย แข็งแรง มีสุขภาพกายที่ดี สุขภาพใจที่ยอดเยี่ยมต่อสู้ กับโรคร้ายนะคะ... แล้วคุณจะรู้ว่า ตัวคุณเก่งที่สุดในโลก ในการเอาชนะโรคนี้ได้ สู้ๆ นะคะ (เข้ามาแก้ไขคำผิดค่ะ) แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 14:01:33 จากคุณ : tawanwad - [ 26 ก.ย. 51 13:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 - อืม... (- -") จากคุณ : Dr.ลายเส้น (- License To Kill -) - [ 26 ก.ย. 51 13:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จริงๆๆแล้วคนป่วยทุกคนอ่ะจะอยู่ได้ด้วยกำลังใจมากกว่านะเราว่า พูดอย่างเป็นกลาง ที่เปิดใจรับกับทุกๆๆด้าน เลือกปฎิบัติเองนะค๊ะ ตามที่ใจเราต้องการ อันไหนไม่สบายใจก้ไม่ต้องทำ แต่อย่าท้อแท้ หรือหมดหวังกับชีวิต เพราะว่าชีวิตเราต้องดำเนินต่อไป จากคุณ : ใบไม้เดือนห้า - [ 26 ก.ย. 51 14:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 นิสัย... จากคุณ : Creative-B - [ 26 ก.ย. 51 15:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มันนึกว่าตัวเองเป็นเทวดาหรอ??? ใหญ่มาก ใหญ่จัง จากคุณ : Creative-B - [ 26 ก.ย. 51 15:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อย่าเขียนอะไรเวลาโกรธเลยค่ะ ดิฉันเชื่ออย่างที่คุณ คคห 19 ว่าเลยค่ะ คุณไม่สบาย เลยกังวล เครียด   แต่เดาว่าหมอสาทิส ก็เป็นเหมือนผู้ใหญ่ แล้วเผลอมองคนไข้ที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง คิดว่าเป็นลูกหลาน  ดื้อนักเลยตบกระโหลกซะ แต่คุณก็ยังทำไม่ได้คือเรื่องใจนะคะ   เมื่อคุณเป็นมะเร็ง คุณต้องศึกษาเรื่องอนิจจัง ให้มากกว่านี้ คิดเสียว่า ถ้าไม่รักษาตัวเราคง bye bye ไปแล้ว แต่เมื่อเรารักษาตัวถึงได้ยังมีชีวิตอยู่   แต่ละวันที่มีชีวิตอยู่ นี้คือของแถม แล้วใช้ชีวิตแต่ละวันให้มีความสุข   ดิฉันไม่รู้จักหมอสาทิส ไมคิดเลือกวิธีการของบัลวี  เพราะว่ามารักษาที่แผนปัจจุบันตั้งแต่ต้น และวิธีการมันไปด้วยกันไม่ได้ คุณหมอของดิฉันก็ดุเหมือนกันนะคะ  และในช่วงที่ดิฉันนอนอยู่โรงพยาบาล หมอก็มาดู มาตรวจเรา เหมือนเป็นคุณครูมาตรวจการบ้าน สิ่งที่คุณหมอไม่ชอบคือ คนไข้น้ำหนักลดค่ะ  หมอของดิฉันจะซีเรียสมาก  ทำไมไม่กิน  ถ้าไม่กินจะให้อาหารเสริมทางสายนะ..... ห้ามเป็นไข้นะ.. ถ้าเป็นไข้ครั้งต่อไปผมจะให้ ampho  นะ ..(เป็นยาฆ่าเชื้อที่คนไข้กลัวกัน ค่ะ) และในช่วงนั้นก็มีที่เราทะเลาะนิดๆ กับ หมอ  เพราะว่าเรากังวล และก็เครียด เมื่อการรักษาที่โรงพยาบาลผ่านไปแล้วดิฉันมาทำงานก็มาเป็นหวัด ไอหนักมาก หาหมอที่มาประจำที่ทำงาน  เราก็เครียดเรื่องการไอครั้งนี้  กินยาหมอแล้วสัปดาห์หนึ่งก็ยังไม่หาย  หมอถามว่ากินยาแล้วดีขึ้นไหม  ดิฉันก็ว่ายังมีไออยู่ หมอถามอีกว่าแล้วดีขึ้นไหม   ดิฉันก็ตอบว่ามีไออยู่ หมอก็บอกว่าผมถามเป็นครั้งที่สามว่า กินยานี้แล้วดีขึ้นไหม ..ผมอยากจะรู้ว่ายาที่ให้กินมาแล้วนี่ใช้ต่อได้หรือเปล่า... เราคงจะสื่อกันไม่รู้เรื่องน่ะค่ะ  เพราะใจเรามีกังวลอยู่ ที่เล่ามานี่ สุดท้ายแล้วอยากให้คุณทำใจสบายๆ ปล่อยๆ วางๆ  ถ้าเป็นไปได้ ขอเขาแก้ไข คำว่าไอ่  ออกไปซะ หรือลบกระทุ้ซะเลย เห็นคุณถามคำถามอยู่ในหลายๆคำถาม  จะรู้สึกว่าคุณยังมีเครียด มีกังวลอยู่  ทำบุญ มากๆ ใช้ชีวิตให้มีความสุข  กินอาหารผักผลไม้  สุก สะอาดเป็นหลัก  ปฏิบัติตามหมอแผนปัจจุบันที่เรารักษาอยู่เขาบอก OK  แล้วค่ะ จากคุณ : kaijae - [ 26 ก.ย. 51 15:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 15:16:53 จากคุณ : Creative-B - [ 26 ก.ย. 51 15:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นผม  ผมต่อยสวนตั้งแต่โดนตบแล้วครับ แมนโคตร.....เตะเด็ก...ตบหญิง....ตีคนแก่ จากคุณ : cantare - [ 26 ก.ย. 51 15:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณสาทิส เป็นดอกเตอร์  แต่ไม่ได้จบแพทยศาสตร์ การเปิดคลินิกรักษาคนไข้  ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เป็นเรื่องของ อ.ย. ที่จะต้องจัดการต่อไป  ถ้าอ.ย.ทราบเรื่องครับ จากคุณ : ส.มโนมัย - [ 26 ก.ย. 51 15:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ใจเย็นๆ ครับ มีอะไรก็มาระบายที่นี่ได้บ่อยๆ โกรธได้   โมโหได้ แต่อย่าไปถึงกับเครียดแค้น ถ้าเกิดเราใช้เวลา ที่เหลือของเรา เสียเวลาไปกับเรื่องแบบนี้ ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายเวลาสำหรับทุกคน เรื่องร่างกายยังไงก็ห้ามทิ้งการแพทย์ปัจจุบัน เรื่องจิตใจ อยากให้ลองหาธรรมะ(ในแบบที่ถูกใจ) อ่าน ดู ศึกษา หรือไปยังสถานที่นั้นๆ จะช่วยได้เยอะครับ (เลือกไม่ถูกยังไง ปรึกษาห้องศาสนาได้) แต่ดูเหมือนคุยเรื่องอาหารพอสมควร แสดงว่า จขกท อาจจะเป็นคนชอบทานหรือชอบทำพอสมควร หรือเปล่า? ถ้าชอบทำนี่ก็สนุกเลยนะ  เราสามารถ ลองสร้างสสรร ดัดแปลง เมนูได้หลายแบบเลยครับ ถ้าศึกษาลงไปลึกจะสามารถกินได้หลายอย่างเช่น น้ำมันอาจจะเลือกใช้น้ำมันที่มีประโยชน์ผ่านความร้อนน้อยๆ เชนน้ำมันมะพร้าว หรือ เรื่องน้ำตาลอาจจะใช้สารแทนความหวานจากธรรมชาติ เช่นหญ้าหวาน ก็ได้(ถึงจะหวานแปลกๆก็เถอะ -..-" สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : Panda-baker - [ 26 ก.ย. 51 15:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วย คห.27 คำว่า ด๊อกเตอร์สา....ไม่ได้จบหมอ จากคุณ : บลูเรย์ - [ 26 ก.ย. 51 15:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อย่าคิดมากคะ จะเป็นผลร้ายต่อโรคนะคะ ไม่อยากรักษาที่เขาก้อไม่ต้องไป  ทำใจให้สบาย จากคุณ : L'wadee - [ 26 ก.ย. 51 16:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ใจเย็นๆนะคะ คุณรักษาด้วยวิธีการที่ต่างไปจากแผนที่เค้าวางไว้ ก็ย่อมทำให้เค้างงเป็นธรรมดา  คุณน่าจะบอกเค้าไปเลยว่า คุณทำแบบนี้ ไม่ได้ทำอันนั้น เพราะไม่ประสงค์ ไม่สะดวก  จะได้กระจ่างแจ้งกันไป จากคุณ : ยำใหญ่ (aeroflex) - [ 26 ก.ย. 51 17:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ใจเย็นและปล่อยวางค่ะ อย่าไปสนใจเลย ยิ่งเครียดเดี๋ยวมะเร็งมันจได้ใจเอา ส่วนกรณีดร.สา... เราถือว่าทำแบบนั้นหยาคายค่ะ ถ้าเราโดนเราคงไม่อยู่เฉยๆเหมือนกัน จขกท.ถือซะว่าเอาไว้ฝึกจิตใจ ฝึกความอดทนดีกว่าค่ะ จากคุณ : เพนกวินบินได้ - [ 26 ก.ย. 51 17:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอแยกเป็น 2 ส่วนนะคะ 1. เรื่องทำร้ายร่างกาย คนไข้ อันนี้ผิดแน่ๆค่ะ  และเห็นใจ คุณ จขกท. นะคะ ทำใจให้สบาย ให้อภัยเค้านะคะ  เพื่อตัวคุณเองจะได้สบายใจ 2. เรื่องการรักษาในทางชีวจิต  ต้องเชื่อก่อนเลยนะคะ  หลังจากเชื่อแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัดค่ะ   ไม่งั้นรักษาไม่หายแน่ๆค่ะ คุณต้องทำทุกอย่างตาม schedule  เค้าให้ detox กี่ครั้ง  กี่วัน ก็ต้องตามนั้นค่ะ  เพื่อผลการรักษาที่ดี  ซึ่งมีคนเคยลอง และหายมาหลายรายแล้ว กรณีคุณ อาจจะถือได้ว่า คนไข้ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตาม ทำให้ผลที่เกิดขึ้น ไม่ดีเท่าที่ควรอะค่ะ ^^ ถ้าเป็นไปได้ ก็ไปหาแกใหม่เถอะค่ะ  ถือซะว่าวันนั้นเป็นเพียงฝันไป   ไปดูว่าแกจะยังงัยกับคุณต่อ  เผลอๆ  หลังเหตุการณ์ร้ายๆครั้งนั้น  คุณ กะ ดร...อาจเปิดใจเข้าถึงกันมากขึ้น (ด้วยวิธีซาดิสม์ ประหลาดๆ) ก็เป็นได้ค่ะ นานาจิตตัง จากคุณ : paninee - [ 26 ก.ย. 51 19:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 34 นิสัยคนแก่เอาแต่ใจ จากคุณ : คุณนุช - [ 26 ก.ย. 51 20:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่ได้สนใจเรื่องการรักษา แต่ผมสนใจเรื่องโดนตบกบาล . . . มากที่สุด - ทำร้ายร่างกาย? - ช่มขืนบังคับจิตใจ? - ทำให้อับอายต่อสาธารณชน? จากคุณ : Rubik - [ 26 ก.ย. 51 21:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สามี ไม่ลุกขึ้นชกหน้าไอ้แก่นั้นไปเลยหล่ะ ไม่งั้นคราวหน้า มันตบหัวคุณ ให้สามีคุณ ฟาดหัวมันหนักเลย จากคุณ : a - [ 26 ก.ย. 51 22:05:45 A:124.121.153.12 X: TicketID:165913 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เขามีสิทธิอะไรมาตบหัวคุณ   คุณเสียเงินเพื่อรับคำปรึกษาจากเขา..... ไม่ได้เสียเงินเข้าไปให้เขาซ้อมนะครับ เลิกไปเลยครับ ผมเชื่อนะครับ........ เรื่อง " กาย " และ " ใจ " ที่เขาพร่ำและยัดเยียดให้คุณยอมรับ มันไม่ได้มีอยู่จริง ในตัวเขาเลย เป็นกำลังใจให้คุณ walaiws ครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 23:14:55 จากคุณ : Heron - [ 26 ก.ย. 51 23:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ขอ comments ค่ะ แต่สงสัยว่าในเมื่อศรัทธาแบบไหนทำไมไม่ไปรักษาแบบที่ศรัทธาคะ ทำไมต้องทนไปสียเงินรักษาแต่ไม่ปฏิบัติตามที่เขาบอกแล้วจะเสียเงินไปทำไมคะ ไม่เข้าใจ ชอบแบบไหนก็รักษาแบบนั้นก็หมดเรื่อง อีกเรื่อง ไม่พอใจ โกรธน่ะเข้าใจค่ะแต่การที่ถูกกระทำไม่ดีจากใครก็ตาม โกรธใครก็ตามก็ไม่จำเป็นต้องกระทำไม่ดีอยางที่เขาทำค่ะ ทำไมต้องกล่าวถึงคู่กรณีแบบหยาบคายด้วยคะ จะว่าจะวิจารณ์หรือประนามก็ได้แต่ขอเป็นแบบที่สาธารณชนทั่วไปรับได้ เคารพสถานทีที่โพสข้อความ ให้เกียรติคนอ่านไม่ได้หรืออย่างไร ปล่อยวางซะบ้างดีไหมคะ เครียดโรคกับการรักษาก็หนักหนาพอแล้วเอาสติ เวลาไปศึกษาเรื่องดีๆที่มีประโยชน์กับชีวิตดีกว่าค่ะ ป.ล. มีประสบการณ์ดูแลคุณแม่ที่เป็นมะเร็งและต้องให้เคมีบำบัดเหมือกัน และไม่ศรัทธาต่อการรักษาแบบแพทย์ทางเลือกทุกประเภท ไม่ใช่จะไม่ดี แต่ไม่เชื่อที่จะใช้เป็นการรักษาหลัก หรือการรักาาอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 51 01:25:47 จากคุณ : Alone with out lonely - [ 27 ก.ย. 51 01:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เอ่อ คุณโดนผู้ชายคนนึงตบหัว  ต่อหน้าสามี สามีคุณไม่เอาเรื่องเหรอคะ ตายๆ เป็นเราทะเลาะกับสามีตายเลย แต่เป็นเราคงหาอะไรฟาดกลับ หาไม่ได้ก็โทร 191เลยตอนนั้น ไม่ว่าจะสั่งสอน เอ็นดูบ้าบออะไร มีสิทธิ์ตบหัวคนอื่นเหรอ? เรื่องอื่นนี่ไม่รู้ข้อมูลนะคะ แต่เรื่องตบหัวนี่ รับไม่ได้ค่ะ จากคุณ : lekumi - [ 27 ก.ย. 51 01:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องอื่นนี่เฉยๆ แต่มาตบหัว บ้าเปล่าฟะ ฟอ้งรอ้งได้นะครับ ถ้าผมเป็นสามีคุณในตอนนั้น มีเรื่องแล้วอะครับ แค่ให้คำปรึกษาก็ออกมาแนวนั้นละ แล้วนี่มาลงไม้ลงมือ แย่ๆ eq แปรผกผันกับวุฒิแหะพวกนี้ จากคุณ : T-TprincecryT-T - [ 27 ก.ย. 51 02:00:16 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ต้องบอกก่อนว่า...ผมเองเป็นคนไม่ศรัทธาในสายชีวจิต คืออะไรที่เคร่งมากๆ ผมว่าไม่เหมาะกับมะเร็ง   เพราะมะเร็งมักเกิดกับคนที่เครียดและเคร่ง ลองสังเกตดูสิครับ (ยกเว้นมะเร็งปอด กับรังไข่) แต่กระทู้นี้...ผมกำลังฟังความจากด้านคุณจขกท.ด้านเดียว จึงจำต้อง "ยกประโยชน์ให้จำเลย"ก่อน แต่ผมเห็นด้วยกับคุณtawanwad #20 เลยครับ มะเร็งเป็นโรคที่เราต้องมรณานุสติ ระลึกถึงความตายทุกเมื่อ ดังนั้น จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุดครับ ทำใจปลอดโปร่ง มองโลกด้านบวกไว้   พอเรารู้ว่าเวลาเราเหลือไม่มาก  หรือโรคของเรานั้นเสี่ยงมาก ต้องรักษายาวนาน เราจะไม่อยากเสียเวลาโกรธใคร หรือแค้นเคืองใครนานเลยครับ ปล่อยไปเถอะ  ปล่อยไป  ใช้เวลารักษาตัวอย่างร่าเริงดีกว่าครับ เป็นกำลังใจให้เอาชนะโรคนี้ได้อย่างสวยงามนะครับ จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 27 ก.ย. 51 05:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมเคยโดนพ่อด่าเพราะก้มหน้าฟังอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมก็บอกไปว่าผมก้มหน้าฟังแต่ไม่ได้อุดหูอยู่ เพราะที่พูดมาผมรู้เรื่องหมด แต่ถ้ามองหน้าก็จะหาว่าไม่ให้ความเคารพอีก ส่วนเรื่องคุณโดนตบหัว ผมไม่อาจวิจารณ์ได้เนื่องจากไม่ได้อยู่ในสถานะการณ์นั้น แต่ที่ผมสงสัย สามีคุณทนเห็นอย่างนั้นได้ยังงัยครับ จากคุณ : แม่โม - [ 27 ก.ย. 51 08:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ที่ๆคุณเชื่อว่าดีน่ะ คนตายไปก็ไม่น้อยนะครับ พ่อตาผมเป็นมะเร็งรักษาที่นี่จนเงินเก็บหมดก็เครียดกดเงินจากบัตรเครดิตรวมทั้งหยิบยืมเพื่อนฝูง สุดท้ายโรคก็ลามแล้วก็ตาย ก็ตาย ส่วนป้าผมเสียดายเงินเลยใช้เงินที่เหลือไปเพื่อไม่ให้ชีวิตประจำวันเครียด ไปหาหมอ รพ. รัฐ รักษาแบบปัจจุบันซึ่งราคาถูกกว่ามาก อยู่มา 4 ปีแล้วครับ ยังแข็งแรงมากครับ จากคุณ : น้องเบนนี่ - [ 27 ก.ย. 51 09:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 1.  อภัยให้เขาเถอะค่ะ   เพราะถ้าเขาทำจริงอย่างที่คุณเล่า   เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความสุขอะไรนักหรอก 2. แนวคิดของชีวจิตหลายๆอย่างมีประโยชน์ค่ะ แต่เรามองว่ามันเหมือนลัทธิอะไรสักอย่าง ที่สมาชิกพยายามเชิดชูเจ้าลัทธิเกินจริง จากคุณ : น้องพี่อิ้ว - [ 27 ก.ย. 51 09:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตกลง ไม่ได้จบหมอ?แต่ให้การรักษาแบบหมอได้ด้วย?? มีพยาบาลด้วย??? ต่อให้เป็นหมอแก่ จะดุจะโหดยังไงก็ควรแค่ตะคอก เสียงดังใส่ นี่ลงไม้ลงมือ ถ้าผมเป็นสามีคุณ ลุงนั่นได้ใส่แว่นไปแล้ว จากคุณ : นัยตาสองชั้น - [ 27 ก.ย. 51 10:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเคยเข้าฟังการบรรยาย ของ ด.ร.สาทส อิทรกำแหง เหมือนกัน ครับดูเหมือนท่าน จะจบทางด้าน Mass และ Experimental Psychology.Orthomolexular. Clincal Nutrition; ผม เชื่อเรื่องชีวจิต แต่ไม่เต็ม ใบครับ คือเลือกปฎิบัติครับ บางอย่างที่รับได้ ก็จะนำไปใช้ บางอย่างที่สุดโต่ง เกินไป ทำร้ายจิตใจทางอ้อม ผลที่ได้คือความเครียด ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่นะ ครับ และ ผมเชื่อในเรื่องการรับทานอาหารที่ถูกต้อง แต่ ไม่ใช่ชีวจิตเต็มๆ แต่ใช้หลัก โภชนาการมากกว่า คือผสมๆกัน ครับอะไรดี มี คุณมากกว่าโทษ จะเลือกใช้ แต่ที่สำคัญ ที่ออกกำลังกาย แถวบ้าน (วงเวียนใหญ่) ยังไม่เสร็จเล้ยยย ผู้ว่าคนไหน สัญญาว่าจะเอาตันไม้มาคืน จึงะเลือกนะหึๆๆๆ จากคุณ : นายดาบ - [ 27 ก.ย. 51 10:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าผมเป็น สามีคุณ นะ ดร. สา... นั้นคงโดนผมต่อย ตั้ง แต่เค้าตบหัวคุณแล้ว .......... จะบ้าเหรอ ไม่ฟัง ก้อตบหัวกันแบบนี้ ตลกที่สุด จากคุณ : vn, man - [ 27 ก.ย. 51 12:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอออกความเห็นกรณีโดนตบหัว ถ้าใครมาทำกิริยาแบบนี้กับคนของเรา  เราก็ไม่เอามันไว้เหมือนกัน สวนทันที แล้วค่อยว่ากัน แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 51 12:11:01 จากคุณ : wealthyman - [ 27 ก.ย. 51 12:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผมว่าในกรณีที่โดนตบหัวเนี่ย  สามีเจ้าของกะทู้คงมีวิจารณญานที่ถูกต้อง แล้วหล่ะครับ  คนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นคนที่รู้ดีที่สุดนะ ผมว่า ถ้ารุนแรงอย่างที่เจ้าของกะทู้ว่าจริง  เค้าคงไม่ยอมหรอกครับ แต่นี่ เค้ายังพูดได้ว่า คนแก่เอ็นดูเด็กน่ะ อย่าคิดมาก   ก็น่าจะจิงนะครับ อีกอย่างที่  ด็อกเตอร์ แกพยายามอธิบายน่ะ คือให้คุณเข้าใจในเรื่อง กายกะใจ   เคยได้ยินไหมครับ   อย่าให้ตัวเป็นนาย ใจเป็นบ่าวอะครับ   ต้องให้ ใจเป็นนาย  กายเป็นบ่าว   ทุกอย่างเริ่มต้นที่จิตใจ  เหมือนศาสนา พุทธของเราไงครับ    จิตใจดี  กายก็จะดีตาม  แบบที่ คห 19 ว่าไว้อะ ถูกต้องแล้วครับ  อย่าไปคิดร่างร่างกายที่กำลังเป็นโรคอยู่  กำลังใจที่ดี และจิตใจที่ดีสำคัญมากนะครับ    คุณยังมีสามีที่รักคุณอยู๋ข้างๆในขณะที่ คนอื่นต้องอยู่อย่างไม่มีใคร  เค้าต้องต่อสู้กับโรคร้ายเพียงลำพัง เค้ายังอยู่ ได้   ต้องสู้นะครับ  คิดดีทำดี  มองโลกให้สวยงาม  ขอให้หายไวไวนะครับ จากคุณ : นานๆจะเข้ามาตอบที (pex9mm) - [ 27 ก.ย. 51 12:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ่านแล้วต้องขอชมเชยว่าคุณและสามีของคุณเป็นคนที่ใจเย็นมากๆๆๆๆๆ คนอื่นๆแสดงความคิดเห็นมามากพอแล้วสำหรับเรื่องที่คุณเขียนเล่ามา อยากจะบอกว่าขอให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิมเร็วๆ จากคุณ : Appreciator - [ 27 ก.ย. 51 12:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อืมม.....ถ้าเป็นเรา ก็โกรธค่ะ โกรธมากด้วย   เค้าเป็นใครล่ะ  ทำไมมาตบหัวเราแบบนี้  ลองให้ญาติผู้ใหญ่เราไปตบหัวลูกเมียเค้าดูสิ  เค้าจะว่ายังไง  ทำอะไรแย่ ๆ เกลียดจัง  คนป่วยเค้าก็เครียดอยู่แล้ว  คุณร้องไห้  เค้ายังไม่รู้สึกรู้สา  อ่านแล้วโมโห  พวกคนแก่ อีโก้สูงมั้ง  ช่างเค้าเถอะ  ลืม ๆ ไปซะจะได้สบายใจ  แล้วก็ไม่ต้องไปหาที่นี่อีก เป็นกำลังใจให้กับการป่วยค่ะ  รักษาตัวดี ๆ  ก็รักษากับทางแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กับ แพทย์ทางเลือก  น่าจะดีนะคะ  ขอให้สุขภาพแข็งแรงค่ะ จากคุณ : ลูกกลอน (ลูกกลอน) - [ 27 ก.ย. 51 13:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ท่านที่สงสัยว่าจขกท.เล่าเรื่องเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวหรือเปล่า? น่าจะลองคิดดูด้วยว่า จขกท. ต้องเข้าข้างตัวเองมากเท่าไรจึงจะทำให้การถูกตบหัวของเธอดูเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง? ลองถึงขนาดตบหัวคนไข้ (หรือใครก็แล้วแต่) แล้ว เรื่องเล่าเรื่องเข้าข้างตัวเองหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น (สำหรับดิฉัน) อีกต่อไป คลิกเข้ามาในกระทู้ครั้งแรกเมื่อคืน(ศุกร์ 26)นี้ค่ะ ขอสารภาพว่าอ่านไม่จบเพราะยาวจัง และคงเพราะดิฉันเหนื่อยและง่วง บ่ายนี้เลยกลับเข้ามาอ่านใหม่เพราะเป็นขาประจำห้องสวนลุมฯ ขอเป็นกำลังใจให้คุณและสามีและครอบครัวผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปให้ได้นะคะ ขอให้เข้มแข็ง ขอให้แข็งแรงทั้งกายและใจ ขอให้ชนะทั้งโรคภัยและคนเลวๆ ดิฉันยอมรับว่ากำลังฟังความอยู่ข้างเดียว แต่เราต้องฟังความกี่ข้างหรือจึงจะทำให้การตบหัวคนไข้ (หรือใครก็แล้วแต่) เป็นเรื่องบังควร? จากคุณ : บักหุ่ง - [ 27 ก.ย. 51 13:46:34 A:124.121.221.182 X: TicketID:126510 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ตอนแรก ผมคิดว่า เค้าคงงง กับน้ำหนักของคุณที่ลดลงไป (ค่อนข้างมากนะครับ จาก 55 เหลือ 47 เนี้ย) ยิ่งพอได้รับคำตอบ (ที่ไม่จริงของคุณ) ว่า บริโภคเท่าเดิม  มันเลยยิ่งทำให้เค้าแปลกใจมากกว่าเดิม บริโภคเท่าเดิม แต่น้ำหนักลดลงถึง 8 กิโล ...   เป็นใครจะไม่สงสัยล่ะครับ ซึ่งมันอาจจะส่งผลต่อการรักษาได้นะครับ  เพราะเป็นได้ว่า เกิดสาเหตุอื่นหรือเปล่า ที่ทำให้น้ำหนักคุณลดลง ผมคิดว่า เค้าคงโมโห อะไรอยู่ตอนนั้น พอเค้าพูดเรื่องเดิม ๆ อีก คุณก็ก้มหน้า เค้าเลยยิ่งคิดว่า คุณไม่ได้ฟัง เลยตบหัวคุณเข้าอย่างจัง แต่จริง ๆ แล้ว มันไม่สมควรทำเลยนะครับ ไม่สมควรอย่างยิ่ง ... ต่อให้เป็นใคร มาทำกับเราอย่างนี้คงไม่ชอบอ่ะครับ จากคุณ : ... กระซิบรัก จากความทรงจำ ... - [ 27 ก.ย. 51 14:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 54 แล้วที่มาของผลเกิดจากอะไรล่ะคะ คุณไม่บอกความจริงกับคนที่คุณไว้ใจให้รักษาแต่แรก คุณจะเปลี่ยนที่รักษาก็คงไม่มีใครว่า เพราะมันเป็นความต้องการของคุณเอง แต่นี่คุณปิดบัง คุณแอบไปรักษาอีกอย่าง ซึ่งวิธีการมันต่างกัน จึงทำให้เห็นความผิดปกติได้ชัดเจน คนที่รักษาคุณอยู่ก็ต้องกังวลเป็นธรรมดาค่ะ แล้วก็ต้องอยากรู้สาเหตุที่แท้จริงด้วย แต่ในเมื่อคุณไม่ยอมบอก คุณก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นค่ะ เราเดาว่า คุณคงไม่ได้ถูกตบหัวรุนแรงอะไรนักหรอก ไม่งั้นสามีคุณจะทนนั่งดูอยู่ได้เหรอคะ แต่ภาวะจิตใจคุณกำลังแย่ คุณก็เลยมองอะไรแย่ๆไปหมดมากกว่าค่ะ คนไข้ที่ดื้อต่อการรักษา ยังไงก็ไม่หายค่ะ แล้วจะไปโทษใคร ต้องโทษตัวเองล้วนๆค่ะ ขอโทษนะคะที่พูดตรงๆ แต่รู้สึกแบบนี้จริงๆ จากคุณ : อยู่ที่ใจจริงๆนะ - [ 27 ก.ย. 51 14:39:13 A:192.168.50.140 X:124.120.161.3 TicketID:154440 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณรู้มั๊ยว่าอาการของคนเป็นมะเร็ง เป็นยังไง แม่ของฉันก็เป็นมะเร็งที่ขั้วปอด มีอาการเบื่ออาหาร พยายามกินเท่าไหร่ก็กินไม่ลง กินอะไรก็ไม่อร่อย บางทีก็ฝืนๆกินเข้าไป กินให้มันเยอะๆขึ้น แต่ร่างกายกลับผอมลง ผอมลง ดูยอดรัก เป็นตัวอย่างก็ได้ ตอนที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง ตัวยังมีเนื้อมีหนังอยู่เลย ยิ่งเป็นยิ่งผอมลงไปมากๆ ก่อนตายหน้ามีแต่กระดูก การที่น้ำหนักตัวลดลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่เป็นผลดีกับร่างกายเลย คุณอย่าคิดว่าตัวเองผอมแล้วดีนะ มันอันตรายมากถ้าน้ำหนักคุณลงมา เกือบ 10 โล ภายในไม่กี่เดือน มันเป็นโรคไม่ใช่คุณเปลี่ยนอาหาร คุณต้องอยู่ขั้นที่ 3-4 แล้วแน่ๆ ถ้าไม่รีบรักษาก็อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถึงคุณจะบอกว่า จะกลับไปพยายามทานมากขึ้น แต่ฉันเชื่อว่าคุณจะไม่รู้สึกหิวมากขึ้น การที่หมอเตือน และถามคุณว่า จะเอายาหิวมั๊ย นั่นคือท่านอยากให้คุณมีน้ำหนักตัวมากกว่านี้ และรู้สึกเจริญอาหารมากขึ้น การกินอาหารและร่างกายรู้สึกอิ่ม มันทำให้จิตใจมีความสุขมากขึ้นนะคะ แล้วก็ควรระวังเรื่องโปรตีน ซึ่งคุณก็ระวังตัวอยู่แล้วเป็นอย่างดี คนผอมจะขี้หงุดหงิดง่ายกว่าคนอ้วน ความทรมารจากโรคนี้จะทำให้อารมณ์เสียบ่อยๆ คุณอย่าชะล่าใจเรื่องน้ำหนักตัวที่ลดลง คิดว่าผอมแล้วดีนะ เป็นฉัน ฉันจะเชื่อหมอ รับยาที่ช่วยให้เราเจริญอาหารมากขึ้น และจะทำให้น้ำหนักตัวเอง กลับคืนสู่สภาพเดิม ยามนี้ไม่ใช่เวลาลดความอ้วนแล้วรู้สึกดี ดีใจที่หุ่นดีไม่ใช่เลย ดูแลจิตใจตนเองให้ดีนะคะ เพราะยิ่งอารมณ์ดี มะเร็งก็จะไม่โตช้า แต่ถ้ายิ่งเครียดแค้น ยิ่งโกรธเคือง ยิ่งหงุดหงิดมะเร็งยิ่งโตไว รักษาทั้งร่างกายแล้ว ดูแลจิตใจตัวเอง ยิ้ม และ หัวเราะเข้าไว้ อย่าเครียด อย่าอารมณ์เสียนะ มันไม่มีกับใจและร่างกายเลย หมออธิบาย 2 รอบแล้ว กลับไปทบทวนดูนะคะ ว่ามันจริงแค่ไหน แค่ตบหัวแล้วร้องไห้เรื่องเล็ก แต่ถ้าไม่เชื่อฟังแล้วตายขึ้นมา เรื่องใหญ่ค่ะ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. - [ 27 ก.ย. 51 14:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เพิ่มเติมอีกนิดนึง ตอนรักษาด้วยการฉายแสง ยิ่งทานอะไรไม่ลงค่ะ คุณจะยิ่งผอมกว่านี้ ตัวจะเหลือแต่กระดูกเลย ถ้าคุณไม่หายจากโรคนี้ คุณจะไม่มีทางอ้วนเลย ส่วนหมอคนไหน ถ้าคุณไม่ศรัทธา ไม่เชื่อก็อย่าไปรับการรักษาเลยค่ะ เพราะการไม่ทำตามที่หมอบอก มันก็ไม่หายหรอกค่ะ ทางเลือกมีเยอะ ก็ไปรักษาที่ๆเราพอใจ มีตังค์จ่ายที่ไหนก็รับค่ะ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. - [ 27 ก.ย. 51 15:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ทำงานบนเส้นด้ายบาง ๆ ก็แบบนี้แหละ จากคุณ : Dr.boyze - [ 27 ก.ย. 51 15:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เอ่อ... ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณจขกท เล่าแบบปน Bias มากน้อยแค่ไหน แต่อ่าน คคห ของห้องสวนลุมฯ แล้วงง เหมือนแต่ละคนอยู่ในเหตุการณ์จริงกันเลยนะครับ - - ตัว Dr. สาทิศ ผมไม่เคยเจอหรอก แต่ก็อ่านหนังสือแกมาบ้างเหมือนกัน ดูแกน่าจะอารมณ์ดีนะ ผมมีอาจารย์คนนึงในสาย Engineer นี่ละ บุคลิกเหมือนแกเป๊ะ ตอนเรียนตอนสอน ชอบเดินมาเอามือฟาดหลัง ฟาดหัว [มือหนักโคตร - -] ใช้สรรพนามคือ พวกแกกับชั้น กับนักศึกษา แต่พอจบมา ผมว่าไม่มีเด็กคนไหนเกลียดแกเลยสักคน ถ้าผมไปเล่าให้พ่อแม่ฟังตอนเรียนสิ บอกว่าเนี่ย แกสอนนะ เดินมาเอามือฟาดหัวเด็กวันละเป็นสิบที สงสัยแกคงโดนฟ้องไล่ออกจากสถาบันไปแล้ว แล้วส่วนตัวผมนะครับ คุณจขกท ไม่แฟร์นิดนึง ตรงที่คุณเริ่มรักษากับที่นี่ แต่ปรากฏว่าไปปฏิบัติแนวอื่น โดยปิดเป็นความลับเหมือนเจ้าของไข้ถามถึง ถ้าไม่ตอบ เขาก็รักษาตามแนวเขาไม่ได้ สมมติ ผมป่วย ไปหาหมอ A แล้วไม่ฟัง ไปรับยาจากหมอ B แบบแอบ ๆ พอกลับไปหาหมอ A ผมก็ได้รับยามาอีกชุด ทานเข้าไปพร้อมกันก็ Overdose สิครับ - -'''' ไม่ได้จะเข้าข้าง Dr. สาทิศหรอกนะครับ อย่างที่บอกว่าไม่ได้เคยจะรู้จักกันเลย แต่แปลกใจกับหลาย ๆ คคห น่ะครับ จากคุณ : cookiecompany - [ 27 ก.ย. 51 15:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคับ ผมเชื่อว่าการรักษาทางธรรมชาติบำบัดช่วยคุณได้แน่คับ.. เพราะพี่ติ๋ว สุธาสินี น้อยอินทร์ แม่ใหญ่แห่งบ้านโฮมฮัก แกเป็นมะเร็งลำไส้ มาหลายปีแล้ว แกก็รักษาด้วยวิธีนี้ ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่คับ จากคุณ : เสือหลุมหลิม - [ 27 ก.ย. 51 16:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 60 แม้ว่าคุณจะเล่าข้างเดียว เราก็เชื่อว่ามันคงมีส่วนจริงอยู่บ้าง จะให้ดร.มาอ่านพันทิป และตอบ คงไม่มีทาง ที่ตบหัวนี่เราก็ไม่ชอบนะ พ่อชั้นยังไม่ทำงี้เลย เอ็งเป็นใคร เอาเงินมาให้นะเว้ย ทำยังกะไปขอมันกินมันใช้ เป็นเราปี๊ดแตกไปแล้ว ป้าเราแท้ๆ เราไม่ชอบ เรายังหันตูดพูดด้วยเลย นับประสาอะไรกับดร.แก่ๆคนนึง ส่วนเรื่องรักษานั้น ขึ้นอยู่กับศรัทธาค่ะ ถ้าคุณคิดว่ารักษาอะไรแล้วดีสบายใจ ก็ทำไปเหอะ ยาหม้อ ยาบ้าน ยาอะไรที่ทำให้คนป่วยสบายใจ มันดีกว่าไปฝืนรักษาอะไรที่เราไม่ชอบ เครียด และทรุดลงเปล่าๆ เป็นกำลังให้หายไวๆนะคะ จากคุณ : Alex on the rock - [ 27 ก.ย. 51 16:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อยู่หลังแป้นพิมพ์คอมในบ้านตัวเองนี่มีแต่คนดุๆทั้งนั้นเลย ถ้าเป็นผมจะทำอย่างนั้นถ้าเป็นผมจะทำอย่างนี้ ไม่รู้ว่าในโลกแห่งความจริงจะกล้าหาญกันแบบนี้หรือเปล่า เพราะเท่าที่เห็นในสังคมไทย มีคนกล้าไม่มาก ในหลายๆเหตุการณ์มีคนเห็นตั้งมากมายแต่ไม่มีใครกล้าพอที่จะช่วยเหยื่อ แต่เวลาเขาจับคนร้ายได้ เข้ามารุมกันใหญ่ สามีเขาก็อยู่ที่นั่นคงจะรู้ดีที่สุด อีกอย่างการทำร้ายคนแก่อายุ 80 มันแมนนักหรือ แม้คนแก่จะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ส่วนเรื่องนี้คงไม่บอกว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ชีวจิตก็มีมาเป็นสิบปีแล้ว ที่เขาอยู่มาได้ก็น่าจะมีคนใช้วิธีนี้แล้วได้ผลก็คงมีเหมือนกัน ส่วนตัวก็สนใจเรื่องสุขภาพตัวเองเหมือนกัน ก็ศึกษาหลายๆอย่าง เลือกเอาว่าอันใหนที่มันน่าจะเป็นประโยชน์และถูกกับจริตเราก็เอามาใช้ บัลวีก็เคยไปใช้บริการแต่ค่อนข้างแพง จากคุณ : เลือกเอาเอง - [ 27 ก.ย. 51 16:31:40 A:124.121.128.167 X: TicketID:124519 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านมาทั้งหมด  คุณเจ้าของกระทู้ก็ไม่ยอมบอกเค้านิ ว่าทำอะไรมา แต่ดูเหมือนพิมพ์ข้ามๆส่วนนี้ไปเลย เข้าใจว่าคงอยู่ในภาวะเครียด ความน่าเชื่อถือเรื่องตบหัว ก้เลยลดลงนะ ดูเหมือนมองอะไรก็แย่ไปหมด แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 51 17:07:06 จากคุณ : xxx (TaizoXXX) - [ 27 ก.ย. 51 17:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แนะนำให้ต่อยกลับ อาจจะหายเครียดนะครับ ปล. สามีคุณไม่แมนเลยว่ะ... จากคุณ : CARAGIO - [ 27 ก.ย. 51 17:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ต่อยคนแก่ ก็ไม่แมนคะ จากคุณ : nadiea - [ 27 ก.ย. 51 18:31:46 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เราว่าเจ้าของกระทู้คงเครียดมากเลยนะคะ เราพูดประเด็นตบหัวละกันนะคะ เพราะอย่างอื่นไม่รู้เรื่อง อันนี้พูดตามที่เราอ่านจากเจ้าของกระทู้นะคะ ถ้าดร.ตบหัวคุณ แล้วสามีคุณยังอยู่เฉยๆได้เนี่ย แสดงว่า - คุณผิดจริง(ในมุมมองของสามี) เพราะถ้ามันเป็นเรื่องร้ายแรงจริง(แบบเกินกว่าเหตุเนี่ย)สามีคุณน่าจะพูดอะไรบ้างนะคะ ไม่ใช่อยู่เฉยๆ - สามีคุณไม่กล้ามีปากมีเสียง หรือเถียงไม่ออกนั่นเอง - คุณผิดที่ไม่รักษาตามแนวที่หมอวางไว้ สามีคุณเลยเถียงไม่ออก - ไม่อาจเรียกว่า "ตบหัว" ได้เต็มปาก เพราะ กริยาในตอนนั้น เจ้าของกระทู้ไม่ได้เล่าให้เคลียร์ แต่เราว่าน่าจะเป็นกรณีแรก กับ 3 ตอนนี้คุณมองตัวเองแบบเป็นผู้ถูกกระทำ ลองถอยออกมาค่ะ มามองในมุมที่หลากหลายดูบ้าง มองในมุมของหมอ ที่คนไข้น้ำหนักหายหลายกิโล (โรคนี้น้ำหนักสำคัญด้วยใช่มั้ยคะ) พอซักถามแล้วก็ไม่ยอมบอกสาเหตุ พออธิบาย ก็ก้มหน้าก้มตา มองในมุมสามี ที่ภรรยาไปรักษาจากที่นึง แต่ก็ใช้วิธีรักษาอีกแบบ พอหมอถามก็โกหก คุณสามีคงกระอักกระอ่วนใจน่าดู จะปกป้องภรรยา ความจริงก็รู้ๆอยู่ จะเข้าข้างหมอ อีกฝ่ายก็ภรรยา ทำใจให้สบายค่ะ ไม่เครียดนะคะ จากคุณ : หนูน้อยสายรุ้ง - [ 27 ก.ย. 51 18:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ก่อนอื่นผมขอคุยกับ จขกท และคนที่กำลังดูแลคนป่วยเป็นมะเร็งด้วย ผมขอให้เข้าใจว่า การที่แพทย์แผนปัจจุบันจำต้องดุแทบทุกครั้งที่่ตรวจ แ้ล้วพบว่า คนไข้ของตนน้ำหนักลดลง นั่นเป็นเพราะความหวังดี สำหรับคนเรียนสายการแพทย์ทั้งหลาย (รวมถึงคนที่จบ Clinical Nutrition) ย่อมรู้ดีว่า ภาวะทางโภชนาการของคนไข้โรคเรื้อรัง (มะเร็ง-เอดส์) มีผลต่อ การรักษา และโอกาสในการหายของคนไข้เป็นที่สุด โดยเฉพาะเวลาที่ ใช้ในการรักษา คนไข้ที่มีสุขภาพแข็งแรงจะหายได้เร็วกว่าปรกติ โดยมี นัยทางสถิติชัดเจน ดังนั้นจะว่าขอร้องก็ได้ ในเมื่อเป็นแล้วอยากหาย ก็ต้องทานอาหารที่จัดให้ สิ่งที่หมอแทบทุกคน อยากจะเห็นในคนไข้กลุ่มนี้คือ เพิ่มน้ำหนักขึ้น (ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้) หรือ ให้น้ำหนักคงที่ (ก็ยากพอแรงแล้ว) ขอให้เข้าใจในความหวังดีตรงนี้ด้วย แม้ในบางครั้งวีธีการของบุคลากร ทางการแพทย์อาจมีความแตกต่างกันในส่วนตัวบุคคล (ตามนิสัยและ สัน..) แต่ก็ขอให้คิดเสียว่า เค้าหวังดีให้เราหายครับ ========================================= ผมคงไม่พูดเรื่อง "ตบหัว" ผิดไม่ผิด เหมือนที่คนในนี้กำัลังตีความ เพราะผมเชื่อว่า ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ คงตัดสินอะไรไม่ได้ แต่ผมก็พอจะบอก จขกท ได้ว่า การรักษาแนวชีวจิต/บัลวี ที่แพทย์ แผนปัจจุบันไม่ยอมรับมันมีเหตผลครับ 1.ไม่มีผลสรุปทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน เช่นให้ Mega dose ของวิตามินปัจจุบัน ผลการทดลองมันค้านกันมาก บางอันได้ผล บางอันก็ไม่ได้ผล หน่ำซ้ำบางอันก็ทำให้แย่ลง เภสัชกร แทบทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน คือ "ไม่รู้ว่าจะได้ผลจริงไหม" 2.ได้ผลแต่ไม่คุ้มค่า การทาน น้ำัมันดอก XXX อาจมีประโยชน์ ช่วยลดนั่นลดนี่ แต่ผลที่ได้คือ ดีขึ้นเพียง 1-2% เป็นต้นในขณะที่ราคามันแพงมหาศาล แถมคนไข้ยัง ทำอะไรที่ได้ผลดีกว่า และประหยัดเงินกว่า นั่นคือ ทำใจให้สบายๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ถ้านอนใน รพ.แล้ว ก็ขอให้ทานอาหารที่ฝ่าย โภชนการ จัดมาให้ให้หมด เลี่ยงการทานอาหารข้างนอกเสีย... เ่ท่านี้ อาการของคุณก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ======================================== ส่วนเรื่องการแพทย์ทางเลือก สำหรับผมที่เรียนมาทาง โภชนบำบัด (Dietetic) (ซึ่งแตกต่างจาก ชีวจิต หรือบัลวี เพราะเราเรียนมาด้วยกระบวน การทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งยอมรับ โดย แพทย์แผนปัจจุบัน) ก็ไม่ค่อยเห็น ด้วยกับแนวการรักษาของ ชีวจิต และ บัลวีครับ แม้ในหลายสิ่งจะเป็นสิ่งดี แต่ก็ำไม่ได้ถูกต้องไปทั้งหมด ต้องพิจารณาเป็นอย่างๆไป จากคุณ : V--Bank--V - [ 27 ก.ย. 51 20:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ที่คุณบอกว่าทานเท่าเดิม แต่น้ำหนักลด มันน่าสงสัยจริงๆค่ะ ควรบอกความจริงกับหมอนะคะ หมอจะได้วินิจฉัยในการตรวจโรคได้ถูก แต่ดร.นั่นก็ทำเกินไปจริงๆค่ะ เราเองก็ไม่ชอบให้ใครตบหัวเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 51 20:30:22 จากคุณ : Miss_Burin - [ 27 ก.ย. 51 20:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ จขกทครับ อะไรที่เค้าหวังดีกัคุณผมก็เห็นด้วย ไม่ว่าอยากให้มีน้ำหนักตัวที่ปกติ หายจากโรคนี้ได้ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว สิ่งที่เค้าเเนะนำ ฟังดูแย้งๆกับการเป็นปกติของสุขภาพ และชีวิตคนอยู่บางประการครับ แต่ไอ้ที่....ตบหัว....คุณนี่ยอมไม่ได้ ถ้าผมเป็นแฟนคุณ ผมง้างมือตบบ้องหูมันเเล้วครับ พยาบาลที่อยู่กะมันอยู่ได้ยังไงครับเนี่ย เห้นทั้งเห้นว่าเค้าไม่เมตตายังงี้ มันใช่เรื่องมั้ย มาทำยังงี้กับคนไข้ ระบบคิดเค้านี่ไม่ผ่านการตรึกตรองเลยรึไงว่า.. อะไรคือจรรยาบรรณ... เซ็งแทน จากคุณ : โน้ต (iruku) - [ 27 ก.ย. 51 21:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นใจ จขกท จัง รักษาสุขภาพนะคะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ดอกโมกสีชมพู - [ 27 ก.ย. 51 21:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ชีวจิต หรือ บัลวี ก็คือ ความเชื่อ หรือ ลัทธิ เดินทางสายกลาง กินอย่างพอดีๆ อย่ามองโลกในแง่ร้าย ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้มีความสุขกับคนที่รักดีกว่าค่ะ ส่วนเรื่องตบหัว ถ้าเป็นเราโดนตบ พ่อก็ไม่ใช่ มาตบกรูทำไมวะ เดี๋ยวมีสวน จากคุณ : joeymydear - [ 27 ก.ย. 51 21:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ดูแลจิตใจของตัวเองให้เข้มแข็ง ศรัทธาวิธีการไหน จงซื่อสัตย์ต่อวิธีการนั้น แต่ถ้าต้องการบำบัดหลายแนวทางจงซื่อสัตย์ต่อผู้บำบัด บอกพวกเขาตามความจริง อย่ากลัวว่าเขาจะไม่พอใจ ทำสมาธิ ทำจิตใจให้นิ่ง แผ่เมตตาให้ผู้คนและสัตว์ เพื่อช่วยลดอารมณ์โกรธลดความเศร้า ลดความไม่สบายใจ จิตใจของคุณจะเข้มแข็งขึ้น ถ้าคุณทำได้ ไม่ใช่แค่คุณจะมีความสุข คนใกล้ตัวของคุณจะมีความสุขด้วย จากคุณ : sikap - [ 27 ก.ย. 51 21:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เรื่องอื่นไม่มีความรู้ แต่สงสัยว่าทำไมต้องตบหัว มีสิทธิ์อะไรมาตบหัวคุณอ่ะ งงจัง จากคุณ : รู้จักพอเพียง ก็มีเพียงพอ - [ 27 ก.ย. 51 21:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขายบัลวี? จากคุณ : อัจฉริยะค้างคืน - [ 27 ก.ย. 51 22:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ? ด้วย บัลวีแม่เพื่อนเราก็ไปรักษา อันนี้เราว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยนะ ไม่ใช่ว่าจะรักษาหาย 100% หรือรักษาหายทุกคน หมอก็ดุไม่แพ้หมอที่ จขกท. เล่ามาหรอกค่ะ เพื่อนเผาแม่ไปได้สองปีแล้วตอนนี้ เราไม่แอนตี้การรักษาทางเลือกนะ เพราะไม่มีประสบการณ์ แต่เราก็ยังเชื่อหมอแผนปัจจุบันมากกว่า จากคุณ : Guga - [ 27 ก.ย. 51 22:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ไม่ทราบว่าเคยฟังเข็มทิศชีวิตที่บรรยายโดยคุณฐิตินาถ ณ. พัทลุงหรือไม่คะ เธอบรรยายธรรมได้ดีมากๆเลย จำได้ตอนนึงที่ประทับใจสุดๆเลยว่า เธอนึกขึ้นมาได้ว่า เธอนี่โง่สุดๆเลย เขาเอามีดปักเธอเพียงครั้งเดียว แต่เธอเองที่เอามีดเล่มนั้นทิ่มตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า http://www.kemtidchewit.com/contents_index.html คนเราทุกคนต้องตายด้วยกันทั้งนั้นค่ะ คุณควรพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ดีเสียอีกที่เรารู้ว่าใกล้จะตาย จะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้อย่างไม่ประมาท อย่างคุ้มค่าเวลาที่เหลืออยู่ ทำดีกับคนรอบข้างเรา ดีกว่าเราประมาทในชีวิตไม่คิดว่าตัวเองต้องตายแล้วเกิดตายขึ้นมาอย่างไม่เตรียมตัว เราเคยอ่านเจอคนนึงเป็นพยาธิฝังอยู่ในสมอง เธออยู่กับมันมาเป็นสิบปี! มีภาพยนต์ญี่ปุ่นหลายเรืองที่เล่าขานถึงจิตใจที่เข้มแข็งในการต่อสู้กับโรคที่เธอเหล่านั้นเป็นอยู่ ขอเป็นกำลังใจให้คุณมีจิตใจที่เข้มแข็งในการต่อสู้กับโรคที่เป็นค่ะ จากคุณ : ตาฟ้า - [ 27 ก.ย. 51 23:54:28 A:124.121.156.9 X: TicketID:188546 ]

ความคิดเห็นที่ 76 แพทย์ทางเลือกในความเข้าใจของคนไทยเรา ยังไม่ถูกต้อง แนวทางแบบชีวจิตหรือบัลวี เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ปัจจุบันแพทย์ทางเลือก หรือแพทย์แผนใหม่ที่ยอมรับเป็นทางการ มีหลายแบบ ของจีน คือ การเอาแผนปัจจุบัน (การใช้ยาและสารเคมี) + แผนโนราณจีน (สมุนไพร ฝังเข็ม กดจุด) ของออสเตเรีย คือ การใช้สารชีวเคมีแบบตัวเดี่ยวๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ ที่มีการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าช่วยมะเร็งหรือโรคนั้นได้  + การออกกำลังกายแบบต่างทั้งแบบโยคะ (อินเดีย) แบบชี่กง (จีน) ผสมผสาน ของไทย ที่เห็นมีคล้ายๆ ก็คือ รพ จอมทอง ที่เชียงใหม่ เป็น รพ ของรัฐบาล แต่เขายังไม่เรียกว่าเป็นแพทยแผนใหม่  แต่เขาทำเป็นคอร์ส 'การตรวจสุขภาพ' ต้องอยู่ที่ รพ 1 อาทิตย์ ถ้าสนใจโทรถามได้  0-5334-1015 , 0-5334-1016 จากประสบการณ์ เห็นด้วยกับ คห 18 ผู้นำ ของสถานบำบัดทั้งสอง (ไม่นับเป็นโรงพยาบาล ไม่ต้องมีแพทย์) จบทางด้านโภชนาการในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาแบบแผนปัจจุบัน) ถ้ามีการร้องเรียนว่า 'ผู้เข้ารับคำปรึกษา' เป็นอันตรายมากขึ้น หรือเสียชีวิตเพราะคำแนะนำและวิธีของเขา ก็สามารถร้องเรียนได้ แต่คาดว่าปัจจุบันยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าเกิดความเสียหายจากสถาบันเขาจริงๆ และโภชนบำบัด (nutrition treatment) มีอย่างอื่นๆอีกมาก วิธีที่เขาแนะนำส่วนใหญ่ จะเหมาะสำหรับคนทั่วไป เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งหรือโรคร้ายอื่นๆ หรือ การห้ามกินน้ำมัน ก็ไม่ใช่  การให้วิตามินเข้าเส้นเลือดก็แปลกๆ  หรือห้ามทานเห็ด ??  เพราะเห็ดมีสารที่ดีหลายอย่างต่อมะเร็ง เช่น เห็ดหอมมีสารต้านมะเร็งตับ คุณ walaiws ทำถูกแล้ว ที่เข้ารักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งทำเพื่อกำจัดมะเร็งที่กำลังลุกลาม อย่างปัจจุบันทันด่วน อย่างไงก็ตาม การรักษามะเร็ง ต้องช่วยกันหลายทาง สมุนไพรไทยหรือจีน พวกกลุ่มล้างพิษจะช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่ การทานอาหารที่ดี ไม่มีสารเคมี อันนี้อาจจะคล้ายๆ ของแมคโครไบโอติกที่มีต้นตำหรับจากญี่ปุ่น (ซึ่งก็มาจากจีนอีกทีหนึ่ง) วิธีที่ดีที่สุด คือดูแลตัวเอง เรื่อง สุขภาพ ซึ่งคุณ walaiws สามารถหาซื้อหนังสือวิธีปฏิบัติของคนเป็นมะเร็งได้ตามแผงหนังสือ เลือกเอาที่เราชอบ ควรทานอาหารพวกอินทรีย์ (organic) เช่น ไก่บ้าน ผักปลอดสาร ปลาจับ ห้ามทานอะไรที่มาจากการเลี้ยงปรือปลูกด้วยสารเคมี ห้ามทานอะไรที่ผ่านขบวนการและใช้สารเคมีแยะๆ เช่น น้ำตาลทรายขาว  เพราะมีสารเคมีตกค้างอยู่ไม่น้อย ห้ามใช้ไมโครเวฟ เพราะทำให้อาหารมีอนุมูลอิสระสูง เหล่านี้ในหนังสือส่วนใหญ่มีบอกหมด แนะนำ รางจืด เห็ดหลินจือ เป็นสมุนไพรล้างพิษ  (ดื่มเป็นชาชง ปรับปริมาณตามสภาพร่างกายที่รับไหว) เจียวกู่หลาน โสม ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบเลือด น้ำเหลือง และภูมิคุ้มกัน ที่สุดกำลังทั้งของตัวเราเอง และจากคนรอบข้าง จะเป็นยาที่ดีเลิศ ขอเป็นกำลังใจ ให้ดูแลตัวเอง และหายได้โดยปลอดภัย แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 51 00:04:51 จากคุณ : Dr.J.Ro - [ 27 ก.ย. 51 23:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อ่านแล้วงงๆ ออกตัวว่าไม่ได้รู้จักดร.สา...เป็นการส่วนตัว แต่ที่บ้านเราก็ทานชีวจิตและเป็นลูกศิษย์ดร.สา...เป็นเวลายาวนาน(เคยขึ้นปกชีวจิตสักเล่ม ตั้งแต่ตอนต้นๆปีแรกๆเลยด้วยซ้ำ) และได้ฟังเรื่องราวดร.มานานแล้ว ก็รู้สึกว่าแกเป็นคนแก่อารมณ์ดีและเป็นห่วงคนไข้มากคนนึง พ่อเราก็เป็นมะเร็งเสียชีวิต เสียชีวิตไปก่อนจะได้ทำการรักษาใดๆ เราอยากบอกเจ้าของกระทู้ว่า เราเข้าใจว่าคุณคงต้องการจะลองหาทางออกให้กับชีวิตว่าการรักษาแบบไหนจะช่วยคุณได้ แต่เราคิดว่าคุณคงต้องเลือกสักทาง ไม่ใช่มาปิดบังข้อมูลอย่างนี้ หมอก็คงงง สับสน ไหงคนไข้น้ำหนักลด อย่างที่หลาย คคห.บอกไป ดร.สาเป็นคนห้าวๆ พูดจาปากร้ายหน่อยจากที่เคยคุยกันเมื่อานมาแล้วหลายปี ไม่ทราบว่าตอนนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ขอออกตัวเลยว่า แม้จะพูดจาปากร้าย แต่หากลองใช้ใชคิดถึงสักนิด จะทราบว่าเพราะอะไร เพราะเป็นห่วง จึงเข้มงวด มิใช่หรือ? เรื่องตบหัว เราเชื่อคุณนะ เพราะจากนิสัยดร.คงเป็นไปได้แหล่ะ เพราะแกก็โฉงฉาง เอ็นดู ตอนเข้ารักษาหมอก็ย่อมอยากให้คนไข้เชื่อฟังตนอย่างเตร่งตรัด เราว่าดร.เป็นก็เหมือนกัน แกไม่ได้อัตตาสูงอย่างที่คุณคิดหรอกนะ พยายามรักษาเข้านะคะ อย่าเครียดมาก ไม่ศรัทธาหมอคนไหนอย่างไร ก็เลือกการรักษาที่ตนศรัทธาดีกว่าคะ อย่าไปรักษาหลายๆแนวทางเลย จากคุณ : cheatoneself - [ 28 ก.ย. 51 00:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สำหรับเรา...ต่อให้คุณ จขกท. เล่าตามความเป็นจริงทุกอย่าง หรือเล่าแบบเข้าข้างตัวเองมากแค่ไหนก็ไม่สำคัญค่ะ เพราะประเด็นมันอยู่ที่เธอถูกคุณหมอที่รักษาตบศีรษะ!!!! ตบหนักตบเบา  ตบเพราะหวังดีหรือเอ็นดู  มันก็คือการตบน่ะนะ อันนี้แหละ...เจ็บปวดกระดองใจ  ซ้ำซ้อนจากที่เจ็บป่วยทางร่างกายอยู่แล้ว ใครจะไปลืมได้ง่ายๆ เราว่า...ดีแล้วที่คุณ จขกท. มาตั้งกระทู้นี้ การได้ระบายออกซะบ้าง  เป็นตัวช่วยให้ความรู้สึกแย่ๆ ที่อัดอั้นอยู่จางลงได้ไม่มากก็น้อย ลองถามตัวเองดูว่าความโกรธตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ กับหลังจากได้ระบายในกระทู้นี้แล้วรู้สึกแย่น้อยลงกว่าเดิมไหม? ถ้าคำตอบคือ...ใช่  ขอแนะนำให้คุณ จขกท.  ระบายออกมาเยอะๆ เลยค่ะ ถ้าเกรงใจคุณสามีหรือคนรอบกายที่ต้องฟังมาเยอะแล้ว  ลองเขียนใส่กระดาษดูมั้ยคะ? รู้สึกยังไง  เขียนออกมาเลย  ไม่ต้องเกรงใจใคร  ระบายความรู้สึกในใจให้เต็มที่ แต่คุณต้อง "จำกัดเวลา" ด้วยนะคะ  ไม่ใช่หมกมุ่นครุ่นคิดอยู่เรื่อยไป กำหนดไปเลยว่าเราจะเครียดอยู่กะมันกี่วัน  ถ้าคิดว่านี่เรื่องใหญ่นะเฟ้ย ลองใครมาโดนตบดูมั่งดิ แล้วจะรู้ว่ามันแทบกระอักแค่ไหน...ก็ให้วันเยอะหน่อย   หากพอจะคิดในแง่ดีอย่างที่หลายคนบอกว่าหมอเค้าคงเป็นห่วงอยากให้เราหายดีเร็วๆ จริงอยู่ที่เขาแสดงความหวังดีผิดวิธีไป(ไม่)หน่อย  ก็คิดซะว่า...เรื่องมันผ่านไปแล้ว หายโมโหให้ได้เร็วๆ ดีกว่า  เพื่อตัวของคุณเอง ก็จะเป็นเรื่องดีไม่น้อยเลยค่ะ แต่ที่สำัคัญ...พอพ้นกำหนดเวลาแล้ว  คุณต้องซื่อสัตย์...และตัดใจเลิกคิดให้ได้นะคะ อาจมีแว่บขึ้นมาบ้าง  หยวนๆ ค่ะ ก็คนนี่นะไม่ใช่ปลาทองสมองกลวงจะได้ลืมได้หมดจดหมดใจ แต่ก็ต้องเตือนตัวเองว่าเศร้าไปพอแล้ว...ต้องรีบเปลี่ยนไปคิดเรื่องดีๆ เรื่องอื่นนะคะ   เอาใจช่วยให้คุณ จขกท. ลืมความรู้สึกแย่ๆ นี้ได้ในเร็ววัน...เพื่อสุขภาพใจที่ดี   สุขภาพกายจะได้แข็งแรงขึ้นเร็วๆ ----> สู้ๆ ค่ะ จากคุณ : หวานและเย็นเช่นไอติม - [ 28 ก.ย. 51 02:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เราเข้าใจคุณ จขกท ค่ะ   ส่วนตัวแล้วเคยเสียคุณลุงไปด้วยโรคมะเร็ง โดยที่ก่อนเสียคุณลุงก็ไปพึ่ง คุณสา... นี่เหมือนกัน   แล้วมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่สนใจมองหนังสือชีวจิตไปตลอดชีวิตเลยค่ะ ต่อให้มีมาให้อ่านฟรีเราก็ไม่มอง ถ้าคุณ จขกท อยากรู้ก็หลังไมค์มานะคะ จะเล่าให้ฟัง   ไม่อยากเล่าผ่านที่สาธารณะแบบนี้ค่ะ  เพราะว่าเราไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมาจากไหน  พูดไปก็ไม่มีคนเชื่อ  จะไปเทียบกับเจ้าของสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงอันยาวนานได้อย่างไร แค่อยากให้รู้ไว้ ว่า You are not alone นะคะ ขอให้เข้มแข็งเอาไว้นะคะ  สู้ๆ   บนโลกใบนี้ไม่ได้มีทฤษฏีของคุณสา.. ทฤษฏีเดียวเอาไว้แก้โรคมะเร็ง   ลองเสริชดูจาก google เอาก็ได้ค่ะ   ส่วนตัวแล้วให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องโรคนี้ไม่ได้มาก เพราะว่าไม่ได้เป็นหมอ   จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าวนะคะ จากคุณ : กระพรวนน้อยเสียงใส - [ 28 ก.ย. 51 03:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 80 โตขนาดมีสามีแล้ว ไม่ว่าดร.จะอายุมากขนาดไหนก็ไม่ควรตบหัวนะคะ ยิ่งในฐานะที่เรียนสูง รักษาคนอีกต่างหาก ถือว่ามีวุฒิภาวะมากกว่าคนปกติ มันละเมิดสิทธิบุคลภาพอย่างชัดเจน อีกอย่าง แม่ดิฉันก็เสียเพราะมะเร็งมดลูก ฉายแสง ฝังแร่ หายไป 5 ปี กลับมาใหม่ในรูป มะเร็งปอด ลามต่อ สมอง ต่อมน้ำเหลือง ตามลำดับ ระหว่างนั้นทานทุกอย่างที่แนะนำ ทั้งดร ที่คุณไป ทั้งบัลวี ที่ห้ามกินเกลือที่มีโซเดียม + วิตามิน c วันละ หลายเม็ด  วิตามินอื่นอีก รวมๆแล้ววันละ 20 กว่าเม็ด ดีท็อกซ์ 2-3 วันครั้ง หลังๆหนักเข้าก็ทำไม่ไหว ซื้อเครื่องอบตัวมาอบทุกเย็น ตามแนวๆนั้นแหละค่ะ บอกว่าหลอกร่างกายให้นึกว่าเป็นไข้ จะได้สร้างภูมิคุ้มกัน ร่วมกับทำคีโม น้ำหนักท่านลดลงเร็ว ผอมกว่าเด็กเอธิโอเปีย แถมไอ้ภูมิคุ้มกันที่บอกจะมี จะมี ดั๊น ลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะขาดสารอาหาร ทรุดหนักเข้าไปใหญ่ สุดท้ายก็จบในเวลา 1 ปีครึ่ง ส่วนตัวดิฉันคิดว่าไม่ได้ผลค่ะ ทั้งหมดที่ทำ โดยเฉพาะคีโมนี่ตัวทรุดเลย ทรมาณตัวเองเปล่าๆ ระหว่างนี้ศึกษาพระธรรมดีกว่า จขกท คงได้คำแนะนำมากกระแส แต่พิจารณาให้ถ่องแท้ก่อนจะทำอะไร น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : malefix (malefix) - [ 28 ก.ย. 51 07:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เคยตบหัวเด็กแบบเล่น ๆ เอ็นดูไหมอ่ะ มันต่างกันนะกับ"ตบผลั่วะ" คิดว่าตบแบบแรกมากกว่าอ่ะ ใครจะกล้าตบผลั่วะ เดี๋ยวโดนสามีเขาสวน จากคุณ : คุณแหวะ - [ 28 ก.ย. 51 12:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สรุป ไม่พอใจที่โดนหมอตบหัวเอา... อ่านหัวกระทู้แล้วนึกว่า หมอแกรักษาใครตายซะอีก ... อาร์ตตัวแม่จริงๆ จากคุณ : sk-sint - [ 28 ก.ย. 51 12:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เรากำลังคิดอยู่ว่าโดนไล่ กับโดนตบหัวอันไหนหนักกว่ากันค่ะ เราจะเอาเรื่องของจขกท.มาเป็นกำลังใจให้กับตัวเองนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : quilt - [ 28 ก.ย. 51 15:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เขาไม่ได้เป็นหมอนะคะ มีสิทธิอะไรมารักษาผู้ป่วยเนี่ย เคยได้ยินข่าวติดต่อให้น้องหมอคนหนึ่งเปิดคลินิคโดยใช้ใบประกอบโรคศิลป์ของน้อง แล้วตัวเขาดำเนินการอีกครั้ง ยังดีที่น้องคนนั้นไม่ทำตาม ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้น คุณพ่อของน้องเขาก็เป็นมะเร็ง และน้องก็พยายามทำทุกอย่าง ทุกแนวทางทั้งแผนปัจจุบันและแนวชีวจิต แต่น้องก็เห็นความไม่แท้ของดร.ตั้งแต่ตอนนั้นเลยไม่เชื่อถือค่ะ อันนี้เป็นเหตุการณ์เกือบสิบปีแล้วนะคะ เพิ่งได้ข่าวว่าตอนนี้ใช้ รพ.บางปะกอก แพทยสภาทำอะไรได้มั่งเนี่ย อ้อ หลักการของเขา เกี่ยวกับ จิตใจ น่ะ ถูกนะคะ เพราะอันนี้มันก็หลักสากลอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าใครจะพูดมากพูดน้อย นับว่าเขาก็มีคุณที่ช่วยกระตุ้นเรื่องจิตใจและอาหาร แต่แนวการรักษาแบบ megadose minidoz หรือพวกที่ใช้วิตามินตะพึดตะพือเนี่ย เราทำงานในวงการนี้อยู่ ไม่น่าจะใช่การรักษาที่ถูกต้องหรอกค่ะ แต่ส่วนใหญ่คนไข้ที่ไปหาเป็นพวกมะเร็งหรือระยะสุดท้ายแล้ว ถือว่าลองไปก็ไม่เสียหายมังคะ จากคุณ : araika - [ 28 ก.ย. 51 20:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อย่าฟังความข้างเดียว ลองอ่านช้าๆค่อยๆพิจารณาดูว่า จขกท.ปฏิบัติตัวปิดบังอย่างไร ความหวังดีของผู้ที่รักษามีหรือไม่ ตายกันทุกคนนะ ไม่เคยเห็นคนไหนที่เกิดมาแล้วไม่ตายเลยสักคน จริงไหม จากคุณ : มีเกิดก็มีดับ - [ 28 ก.ย. 51 21:31:18 A:125.25.35.124 X: TicketID:148362 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เอ่อ ไม่คอมเม้นก็แล้วกันค่ะ แต่อยากให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ค่ะ ขอให้หายเร็วๆนะคะ ที่สำคัญคือ อยากให้ทำใจให้สบายค่ะ โลกนี้เป็นอนิจจังค่ะ ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรเที่ยง อยากแนะนำให้ศึกษาพระธรรม นั่งสมาธิ ค่ะ คิดว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นจริงๆ จากคุณ : หม้อแกงเมืองเพชร - [ 28 ก.ย. 51 22:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าตบหัวจริง ก็ถือว่าแย่มากนะคะ แต่อยากบอกว่าไปที่บัลวีอาจเป็นการหนีเสือปะจระเข้ก็ได้ค่ะ ได้แต่เป็นกำลังใจให้ ขอให้หายไว ๆ หรือขอให้มีความสุขอยู่กับสิ่งที่เป็นให้ได้มากที่สุดค่ะ เข้าวัดปฏิบัติธรรมบ้างก็น่าจะดีนะคะ แก้ไขข้อความเพราะลืมไปว่าเค้าไม่ได้เป็นหมอ เลยมาลบคำว่าหมอออกค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 00:32:56 จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 28 ก.ย. 51 23:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 88 คคห.นี้ Bias แน่นอน และหลายคนที่เล่นห้องนี้มานานคงรู้ดี "แนวทางชีวจิตนี้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันไม่ค่อยยอมรับ เพราะเค้าไม่เข้าใจ Concept ของชีวจิต พวกแพทย์ฟังภาษาพูดไม่ค่อยเข้าใจ" เป็นคำอธิบายที่ใช้หลอกให้คนหลงเชื่อ พอๆกับคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" น่ะแหละครับ ที่เขาต้องอธิบายแบบนี้ ไม่ใช่ว่าแพทย์แผนปัจจุบันไม่เข้าใจเขาหรอก แต่เป็นเพราะเขาไม่สามารถพิสูจน์ได้ไงครับ เลยไม่มีทางออก ก็ต้องออกมาในรูปแบบนี้ พวกเขาเองก็ไม่สามารถอธิบายในเรื่องหลายๆอย่างได้ชัดเจน เช่น ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนที่มารักษาจะมีโอกาสรอดเท่าไร จะมีอาการอื่นๆหรือไม่ มีจำนวนคนกี่คนที่มารักษาแล้วไม่ได้ผล ค่าใช้จ่ายทำไมถึงแพงมหาศาล(ทั้งๆที่อ้างว่ามาจากธรรมชาติ) ฯลฯ ไม่เคยมีการเก็บสถิติอะไรไว้เลย ว่าการรักษาแบบนี้ จะทำให้คนไข้มีอัตราการรอดชีวิตมากหรือน้อยไปกว่าแบบอื่นๆแต่อย่างใด ทั้งๆที่ถ้ามันรักษาได้จริง จะเป็นทางเลือกในการรักษาที่สามารถช่วยชีวิตคนได้อีกมหาศาล ถ้าดร.คนนี้ มันแน่จริงทำไมไม่กล้าทำการทดลองพิสูจน์ให้เป็นเรื่องเป็นราวล่ะ ว่าที่มันหลอกเงินคนอื่นๆนี้ มันได้ผลจริงหรือไม่ หรือว่าเก่งแต่การใช้คำว่า แพทย์แผนปัจจุบันไม่เข้าใจครับ จากคุณ : Marquez - [ 29 ก.ย. 51 00:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คุณคนนี้ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่เภสัช ทำไมถึงมีสิทธิมารักษาเกี่ยวกับชีวิตคนหรอ  ปกติอย่างคนที่ทำงานร่วมกับแพทย์เนี่ย  เขาไม่มีสิทธิจ่ายยานี่ มีก็แค่บำบัด ดูแล ให้คำแนะนำนี่น่า อย่างเราถ้าเป็นนักจิตวิทยา แต่ก็ไม่ใช่จิตแพทย์อยู่ดี  จะไปถือวิสาสะจ่ายยามันก็คงไม่ใช่ที่ล่ะมั้ง ถ้าร่วมกลุ่มบำบัด ทำวิจัย หรือ ทำข้อมูลต่างๆอาจจะใช่  ก็เลยงงว่า ทำไมคนๆนี้ถึงจ่ายยาได้ล่ะ  ชีวิตคนเชียวนะ ที่กำลังรับผิดชอบอยู่ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 29 ก.ย. 51 03:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เครียดไปก็ยิ่งทำให้โรคพัฒนาอาการไป จากคุณ : satitp - [ 29 ก.ย. 51 07:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เรื่องแนวทางการรักษาแนวไหนผมก้ไม่รุ้เรื่องหรอกนะครับ  ทุกวันนี้ก็กินเหมือนปกติทั่วไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ ส่วนที่คุณโดนเบิร์ดกะบาลนั้น   เป็นแฟนผมโดนแบบนี้  ลุกมาถีบหน้ามันแล้ว ตอนนี้ทำใจให้สบาย  พักผ่อน  ดูแลตัวเองดีดี จากคุณ : โรแบโต้ง - [ 29 ก.ย. 51 08:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 92 กลับมาอ่านอีกที ไม่ได้คาใจเรื่องตบหัว แต่คาใจเรื่องรักษาหรือไม่ เท่าที่อ่านดร.สาทิศ ไม่ได้จ่ายยาให้คนไข้ แต่ให้คำแนะนำในการทานอาหารและปฎิบัติตัวทั้งร่างกาย และจิตใจ อยากจะถามผู้รู้ว่า อย่างนี้คนที่ไม่ใช่แพทย์ทำได้หรือไม่ และอยากจะถามผู้ป่วยที่เคยใช้บริการจาก ดร.สาทิศ ว่าเค้าได้จ่ายยาให้คุณหรือไม่ สงสัยน่ะครับ จากคุณ : apotheker - [ 29 ก.ย. 51 10:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คคห ที่ 78 ตรงใจเลยค่ะ ..ที่บอกว่า "สำหรับเรา...ต่อให้คุณ จขกท. เล่าตามความเป็นจริงทุกอย่าง หรือเล่าแบบเข้าข้างตัวเองมากแค่ไหนก็ไม่สำคัญค่ะ เพราะประเด็นมันอยู่ที่เธอถูกคุณหมอที่รักษาตบศีรษะ!!!! ตบหนักตบเบา  ตบเพราะหวังดีหรือเอ็นดู  มันก็คือการตบน่ะนะ" ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็ไม่มีสิทธิมาตบหัวคนอื่นค่ะ แต่ยังไงว่าตามขอให้คุณ จขกท. ยกโทษให้เค้า เพื่อนคุณเองจะได้สบายใจ ไม่เครียดนะคะ ขอให้โรคที่เป็นอยู่รักษาหายได้เร็วๆค่ะ จากคุณ : k_puiky - [ 29 ก.ย. 51 10:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ไม่เป็นไรแล้วน่ะ เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ทำใจให้สบาย อโหสิกรรมกันเถอะ รักษาตามแนวทางที่คุณศรัทธาดีกว่า คุณหมอเขาจริงจังกับการรักษาแต่ผลน้ำหนักคุณกลับลดลง แสดงว่าไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอ ท่านรู้ทัน ท่านรักษาคนป่วยมาเยอะ อย่าโกรธท่านเลย คนเรามีทั้งด้านดีและไม่ดี ขอเป็นอีกหนึ่กำลังใจให้คุณหายป่วยเร็วๆ สุขภาพดีทั้งกายและใจน่ะ จากคุณ : aa - [ 29 ก.ย. 51 10:43:45 A:124.120.109.103 X: TicketID:180563 ]

ความคิดเห็นที่ 95 สู้ๆ จากคุณ : หมาร่า V2 - [ 29 ก.ย. 51 12:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอแจมทีละประเด็นดีกว่าค่ะ เรื่องตบหัวนี่ คุณก็ใจเย็นดีนะ ขอชมเชย ถ้า..เป็นเรา เราตบกลับแน่นอน ไม่กลัวหรอก ความอดทนของเรามีขีดจำกัด เรื่องการรักษา เป็นเราเราเลือกไปทางใดทางหนึ่งดีกว่า เช่น รักษากับหมอเอ ก็ทำให้ตลอด ถ้ารักษากับหมอบี ก็เช่นเดียวกัน เอาสักทางดีกว่าค่ะ เห็นด้วยกับบางคคห.ที่บอกว่าทั้งสองศูนย์อาจจะทำธุรกิจอยู่บนความกลัวตายของคน แต่แหม..เป็นธรรมดา เพราะทุกอย่าง(อาจ)อยู่และเติบโตได้ด้วยเงินนี่คะ ของดีและฟรีไม่มีในโลก(มั้ง) ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับชีวจิต หรือ บัลวีนั้น เราก็ศึกษาไว้บ้าง ก็ดีกว่าอ่านการ์ตูนนะ 555 แต่ทุกอย่างก็ต้องอาศัยวิจารณญาณของตัวเองด้วยแหละค่ะ อย่างไรก็ตาม เราว่าความเครียด ความกลัวภายในใจเนี่ย บ่อนทำลายสุขภาพนะ ชีวิตคนเรามันก็แค่นี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จะกลัวอะไรกับความตาย เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าท่านยังต้องละสังขาร แล้วเราเป็นใคร ดังนั้นเราทำทุกวันให้เป็นวันที่ดีที่สุดดีกว่า ด้วยการหมั่นทำบุญ ทำกุศล รักษาศีล ภาวนา นั่งกัมมัฎฐาน ทำจิตให้สะอาดอยู่เสมอ ตอนนี้เราเองก็ยังไม่ป่วยไข้อะไร แต่เราก็พยายามทำอย่างที่บอกจขกท.เหมือนกันค่ะ อย่าคิดมาก เรื่องไหนผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป ชีวิตเราต้องเดินต่อไป อย่าไปใส่ใจกับคนที่ไม่ได้รักเรา..นะคะ... แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 15:09:29 จากคุณ : My heart is in SF! - [ 29 ก.ย. 51 15:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 97 จะยังไงก็แล้วแต่ มาตบหัวเราเป็นได้มีมวยแน่ๆ คนอื่นเค้าก็มารักษากับคุณ ไม่ใช่ลูกคุณ ทำอะไรให้เกียรติกันบ้าง จากคุณ : มาดามกีกี้ - [ 29 ก.ย. 51 17:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อ่านจบ ... อึ้งค่ะ แสดงกริยาแบบนั้นกับคนไข้ได้ไง ไม่มี comment แรงๆ ออกมาเป็นตัวอักษร แต่สารพัดความรู้สึกที่ ลบ ลบ มากๆ มีอยู่เต็มหัวใจค่ะ ...ขอเป็นกำลังใจให้คุณ และครอบครัวนะคะ จากคุณ : คุณน้ำตาล - [ 29 ก.ย. 51 17:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 29 ก.ย. 51 17:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ถ้าเค้าทำแบบนั้นจริง แสดงว่ายังไม่เข้าใจคำว่า "ใจ" ของคนอื่นครับ จากคุณ : ชาย - [ 29 ก.ย. 51 18:26:50 A:192.168.4.35 X:58.8.62.20 TicketID:150126 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ...จะตบเพราะอะไร ...จะตบเบา หรือ แรงแค่ไหน ...แต่มันก็ตบไปแล้ว บนอวัยวะที่คนส่วนใหญ่ถือ คือ ศรีษะ ...ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับคนอื่นแน่นอน... เกรียวกราดเอาแต่ใจ อีโก้จัด ... ก็เป็นอาการของคนแก่ที่เริ่มเป็นอัลไซเมอร์เหมือนกัน จากคุณ : DeE dEe - [ 29 ก.ย. 51 20:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ติดตาม  ชีวจิตรมาตั้งแต่มีหนังสือ เริ่มออก เดี้ยวนี้ยังอ่านอยู่ อ่านหนังสือ อาจาจย์ สาธิต เกือบทุกเล่ม มีประโยชน์ดี แต่ไม่ทำตามทุกอย่าง มีภาพในใจว่า  อาจารย์เป็นคนแก่ใจดี อ่านเรื่องราวของคุณแล้วตกใจ มันเป็นไปได้หรือนี่ จะอย่างไรก็ช่าง ขอเป็นกำลังใจให้คุณสู้กับโรคต่อไป   แต่!!!!!!!!!! มีเรื่องสำคัญจะบอกว่า  บัลวี !!!!! ก็ร้ายกาจ หาประโยชน์บน ความเจ็บป่วย ของคนไข้ สร้างรายได้มหาศาล มันเป็นธุระกิจ ที่ขูดรีดอย่างไร้ความปราณี ไม่ได้ใส่ความ เป็นความจริง พี่สาวเป็นมะเร็งที่ขา ไปเข้าครอส รักษาบัลวี ค่าใช้จ่าย ที่ 40000 บาท ตอนไปเดินได้สบาย ตอนกลับต้องหามกลับ เข้าโรงพยาบาลต่อ อาการทรุดหนัก ช็อกค คาวมดันตก ขาดอาหารอย่างรุนแรง มันเป็นไปได้ไง แถมมีทีเด็ดอีก บัลวีมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมมากมาย หมดเงินไป 100000 บาท!!! ผมไม่ไปติดตามบัลวี คิดว่าเป็นเคราะห์กรรม พาพี่สาวมารักษาที่  รพ รามา หมอถามไปรักษาที่ไหนมา บอกว่าบัลวี หมอหัวเราะ  บอกว่า   มีมาบ่อย น่าสงสาร อีกสามเดือนต่อมาพี่สาว ผม ก็จากไปอย่างสงบ  ผมพบคนเป็นมะเร็งหลายคน เพื่อน พ่อ ป้า พี่ ไม่มีใคร หาย  สักคน  คีโม คือ  ตัวเร่งให้โรคกำเริบเร็ว และทรมารมาก  ไม่เกิดผลดีเลย  ขอให้เพื่อนสมาชิก ได้ตัดสินใจในเหตุผลที่สมควร จากคุณ : เพื่อน มะเร็ง (c3333) - [ 29 ก.ย. 51 22:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มีหลายคนถามเกี่ยวกับยาช่วยอ้วน เลยเข้ามาตอบคำถามให้ ต้องดูว่า ยาช่วยอ้วนที่ดร.สา...จะจ่ายจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตรายที่ต้องจ่ายโดยแพทย์และเภสัชกรหรือไม่ ถ้ามีการจ่ายยาอันตรายโดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือใบประกอบโรคศิลป์ ถือว่าเข้าข่ายผิด พรบ.ยา ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ สามารถแจ้งได้ที่เวบไซท์ อย. สมัยที่เรียน เคยทำโปรเจคก่อนจบเรื่องมังสวิรัติ ขอสรุปสั้นๆว่า อาหารมังสวิรัติประเภทเส้นใยช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนมะเร็งชนิดอื่น ข้อมูลยังไม่ชัดเจน คำว่าลดอัตราการเกิด หมายถึงด้านป้องกันนะคะ ไม่ใช่รักษา จากคุณ : แวะมาตอบ - [ 29 ก.ย. 51 23:34:06 A:124.121.152.231 X: TicketID:188546 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ไม่เชื่อเรื่องการตบหัวค่ะ ถ้าจริง สามีคุณไม่ปล่อยไว้หรอก เห็นด้วยกับคห.77 "แต่เราคิดว่าคุณคงต้องเลือกสักทาง ไม่ใช่มาปิดบังข้อมูลอย่างนี้ หมอก็คงงง สับสน ไหงคนไข้น้ำหนักลด" "ไม่ศรัทธาหมอคนไหนอย่างไร ก็เลือกการรักษาที่ตนศรัทธาดีกว่าคะ อย่าไปรักษาหลายๆแนวทางเลย" เราไม่ใช่หมอ แต่เราก็รักษาคนที่ไปรักษากับหมอมาแล้วแต่ไม่หาย เราก้ไม่ชอบที่ลูกค้า(คนไข้) ทำหลายๆวิธีพร้อมกัน เพราะมันทำให้การรักษารวนไปหมด คุณควรเลือกเอาสักอย่าง เพราะการรักษาแบบรวมมิตรที่คุณเลือกสูตรเอาเอง ไม่ได้ผลหรอกค่ะ จากคุณ : ตาน - [ 30 ก.ย. 51 00:04:49 A:78.20.221.246 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ไม่มีความเห็น เพราะไม่รู้จักทั้ง ชีวจิต และ บัลวี แต่ยึดถือ "ทางสายกลาง" แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 51 14:08:21 จากคุณ : tackey - [ 30 ก.ย. 51 14:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เรื่องตบหัว ไม่ขอออกความเห็น .. แต่อยากบอกว่า โรคแบบที่คุณเป็น ถ้าน้ำหนักลด 8 กิโลแล้วคนที่รักษาคุณทำท่าชิวๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่ .. เหอๆๆๆ .. -____-" คุณแน่ใจได้ยังไงว่า ที่คุณแข็งแรง เพราะทานอาหารแบบบัลวี กับ รับวิตามินเสริม ?? ต่อไปนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวในฐานะที่เคยดูแลคนป่วยโรคนี้มาแล้ว .. คุณแข็งแรงขึ้นเพราะคีโมค่ะ ทั่วๆ ไปแล้ว ถ้าคนป่วยกำลังใจดี .. เข็มแรกๆ จะอาการดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ทุกคนแหละ .. เพราะเซลล์มะเร็งถูกทำลายและร่างกายคุณยังรับไหว .. คุณก็เลยรู้สึกว่าแข็งแรงขึ้น .. ทานเยอะๆ นะคะ .. ทำยังไงก็ได้บำรุงตัวเองให้แข็งแรง อย่าให้น้ำหนักลดลงไปอีก .. ไม่อย่างนั้น ร่างกายคุณจะไม่แข็งแรงพอจะรับการรักษาในขั้นต่อๆ ไปค่ะ จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 30 ก.ย. 51 16:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ไม่มีหลักฐานอะไรเลย เรื่องตบหัว ถ้านี่เป็นเรื่องโกหก ดร.สา... ก็เสียหายนะครับ แล้วทำไมไม่ไปฟ้องเอาล่ะ แทนที่จะมานั่งบอกในเนท จากคุณ : g (GRANDO) - [ 30 ก.ย. 51 17:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ประเด็นตบหัวตามที่เล่านั้น   หากเป็นจริง  ในวงการแพทย์ถือว่าผิดหลักจริยธรรมในวิชาชีพแน่นอนครับ    ไม่มีตำราแพทย์เล่มไหนสอนให้จงใจปฏิบัติในลักษณะนี้   ตามปกติหมอจะถูกสอนให้ใช้ empathy คือการเข้าถึงความรู้สึกผู้ป่วย  คิดถึงใจเขาใจเรา  และเข้าใจบริบทแวดล้อมของผู้ป่วย   ซึ่งจะช่วยหมอให้เข้าใจปัญหาคือความทุกข์ได้ตรงจุดและสามารถโน้มน้าวผู้ป่วยให้ปรับตัวเองเข้าหากระบวนการรักษาได้ง่ายๆ    ไม่ใช่การบังคับขู่เข็ญหรือการสั่งให้เชื่อแต่เพียงอย่างเดียวซึ่งจะให้ผลตรงกันข้าม   ความสุภาพอ่อนน้อมจึงถือเป็นหลักอันแรกที่ต้องถือปฏิบัติทุกที่ ทุกเมื่อ เป็นสากล    เพราะไม่มีใครจะคิดว่าผู้อื่นจะพอใจและเกิด empathy ได้เมื่อถูกปฏิบัติอย่างป่าเถื่อน  ยกเว้นพวก sadism   แม้แต่คนไข้หลายๆคนที่ปิดบังความจริงบางอย่างของตนเองไว้   ก็จะเต็มใจเปิดเผยข้อมูลออกมาเอง   หากหมอสามารถสร้างความสัมพันธ์ในลักษณะ empathy ให้เกิดขึ้นได้   เช่นกรณีคุณ จขกท ก็ตาม สำหรับเรื่องความรู้ความสามารถของ ดร. ท่านนั้น   ก็เหมือนกับที่ตัวท่านเองบอกครับ  ว่าในวงวิชาการแพทย์แผนปัจจุบันมีน้อยคนที่จะยอมรับท่าน    แถมมีบางคนให้บทสรุปแรงๆไว้ด้วยว่าการกระทำลักษณะนี้เป็น"บาปกรรม"   หากนำสิ่งที่ตนเองรู้ไม่จริง   ไปเผยแพร่โฆษณาให้คนอื่นประพฤติปฏิบัติตามแบบผิดๆ     การเขียนหนังสืออธิบายความรู้ที่ยากๆลึกๆ ความรู้ใหม่ที่เพิ่งคิดค้น ความรู้ที่กำลังมีการถกเถียงกัน เพื่อให้คนระดับทั่วไปเข้าใจได้ง่ายๆนั้น   ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครๆจะหยิบมาเขียนได้    ผู้เขียนเองจำเป็นต้องมีความรู้ในแขนงที่เกี่ยวข้องนั้นอย่างลึกซึ้งที่สุด   คือเป็น expert ใน field นั้นๆ   เพราะประเด็นแต่ละอย่างมีแง่ มีมุม มีเงื่อนไขเฉพาะ    จะจับแพะมาชนแกะเรื่องราวมาปะติดปะต่อกันเองไม่ได้    คำแต่ละคำ ประโยคแต่ละประโยค  บางครั้งดูเหมือนจะเกี่ยวข้องเป็นเหตุเป็นผลกัน  แต่เราไม่สามารถเขียนสรุปโยงกันเองได้  จนกว่าจะมีหลักฐานทางวิชาการที่หนักแน่นมายืนยันในประเด็นนั้นโดยเฉพาะ   คนที่อ่าน textbook หรือตำราแพทย์ฉบับมาตรฐานจะรู้ดีว่าประโยคทุกประโยคที่เขียนต้องมีการอ้างอิงไปถึงงานวิจัยต้นฉบับ   และผู้เขียนจะไม่พยายามสรุปความเห็นตัวเองใส่ลงไป   ดังนั้นเนื้อหาของ textbook จึงค่อนข้างกระท่อนกระแท่นและอ่านยาก    การที่จะหยิบเอาเนื้อหาเหล่านี้มาเรียบเรียงใหม่โดยใช้สำนวนง่ายๆแต่สอดคล้องเนื้อหารัดกุม    จึงถือว่ายากมากๆหากไม่ต้องการให้เนื้อหาผิดจากความจริงหรือเกินจากความจริงไป ในการให้คำจำกัดความ  หรือแบ่งว่าอะไรคือการแพทย์ทางเลือก  อะไรคือการแพทย์แผนปัจจุบันนั้นถือว่ายากครับ  คนที่ไม่ใช่หมอก็เข้ามาศึกษาแพทย์แผนปัจจุบันเยอะแยะ  คนที่เป็นหมอก็เข้าไปเล่นในสาขาแพทย์ทางเลือก   ถ้าแบ่งให้เข้าใจง่ายๆจะเป็นสองกลุ่มนี้ 1) กลุ่มแรกเป็นวิชาการการแพทย์ที่มีหลักฐานอ้างอิง   มีการใช้กระบวนการวิจัยที่เป็นระบบ  ได้รับการยอมรับ  เข้ามาศึกษาความรู้นั้นๆจนได้ข้อสรุปออกมา   ซึ่งงานวิจัยแต่ละชิ้นจะมาหักล้างหรือต่อยอดกันไปเรื่อยๆ   ในที่สุดก็จะออกมาเป็น"มาตรฐานการรักษา"   ที่ทุกคนจะต้องยอมรับตรงกัน   2) อีกกลุ่มนึงจะเป็นวิชาการแพทย์ที่ยังอิงอยู่กับความเชื่อ   คือใครเชื่ออะไรก็ปฏิบัติอย่างนั้น   ยังไม่มีหลักฐาน  หลักฐานไม่ชัดเจน  หรือเป็นหลักฐานที่ไม่มีระบบ  ชี้วัดไม่ได้  เปรียบเทียบไม่ได้  และอ้างอิงไม่ได้   แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความรู้แบบนี้จะต้องผิดพลาดเสมอไป   บางครั้งเป็นความรู้ที่รอการวิจัย  หรือทำวิจัยได้ยาก   ตัวอย่างเช่นยาแผนโบราณซึ่งแม้ไม่มีคำอธิบายแต่ก็มีสรรพคุณจริง  คนที่เชื่อใช้แล้วก็หายจริง  เมื่อมีการเข้าไปวิจัยจนรู้สรรพคุณที่แน่ชัดแล้วในที่สุดก็จะกลายมาเป็นยาแผนปัจจุบัน ปัจจุบันจึงไม่แปลกอะไรที่การรักษาแบบแพทย์ทางเลือกหลายๆอย่างจะถูกศึกษาวิจัยจนกลายมาเป็นมาตรฐานการรักษาที่สามาถใช้ได้ทุกที่   แม้แต่ในคลินิกแผนปัจจุบัน    เรื่อง Diet&Immunology, การทำสมาธิ, การใช้สมุนไพร, เรื่องการแพทย์องค์รวม ฯลฯ ปัจจุบันมีการศึกษาอย่างเป็นระบบโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งแพทย์และไม่ใช่แพทย์  ทั่วโลกรวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง   จนสามารถเขียนเป็น textbook ได้เป็นเล่มๆแล้ว    แต่ก็ยังควรทราบว่าการรักษาหลายอย่างยังให้ผลไม่ชัดเจน   จึงเอามาใช้เป็นมาตรฐานยังไม่ได้    การรักษามะเร็งเกือบทุกอย่างยังจำเป็นต้องใช้การผ่าตัด  ใช้ยาคีโมกันต่อไป เพราะยังถือเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้มากที่สุดในตอนนี้ ผู้ป่วยจะต้องศึกษารายละเอียดของโรคที่ตัวเองเป็น   ข้อดีข้อเสียและความน่าเชื่อถือของวิธีการรักษาแต่ละอย่างให้เข้าใจด้วยตัวเอง   จะใช้อาศัยแค่คำบอกเล่าหรือโฆษณาไม่ได้    ซึ่งคงต้องใช้ความเพียรพยายามพอสมควร จากคุณ : Exampli gratia - [ 30 ก.ย. 51 17:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ผมโมโหสามีคุณมากก่วาที่ยืนเฉยอยู่ได้ เป็นผมดร.ก็ดร.เถอะเจอคนจบม.6อย่างผมได้รู้กันไปเลย เราไม่ใช่ทาส จากคุณ : คนหน้าใหม่2000 (คนหน้าใหม่2000) - [ 30 ก.ย. 51 20:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 110 #102 หมอ "หัวเราะ" หรือครับ จากคุณ : Zkizzik - [ 1 ต.ค. 51 00:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ไม่พอใจทำไมไม่แจ้งความเลยละครับ ส่วนเรื่องชีวจิต ผมไม่ใคร่เชื่อเรื่องพวกนี้ เพราะเห็นมาหลายรายแล้ว กินชีวจิตไม่กินเนื้อ ตายก่อนเพื่อน คนเราถ้ามันจะตาย นอนอยู่ในบ้านก็มีก้อนหินปลิวมาหล่นใส่กระบาลตายได้เหมือนกัน อย่าไปคิดอะไรมากมาย ปล่อยวางและมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขดีกว่า ผมก็บอกทางบ้านแล้วว่า ถ้าผมเป็นมะเร็ง ผมไม่รักษา คนจะตาย ยังไงก็ตายอยู่วันยังค่ำ ยืดเยื้อเวลาไปก็เท่านั้น เก็บเงินไว้ให้ครอบครัวในภายภาคหน้าดีกว่า จากคุณ : platalay - [ 1 ต.ค. 51 03:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ^ ^ คห.111 ครับ อยากจะบอกให้ทราบว่า  มะเร็งบางอย่าง  สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น แชมป์จักรยานทางไกลที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก   แต่มะเร็งบางอย่าง  ทันทีที่วินิจฉัยโรคได้  ก็เตรียมทำพินัยกรรมกับจองวัดไว้ได้เลย ฉะนั้น  การ Fixed idea ว่า  เป็นมะเร็งแล้วจะไม่รักษา  จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องครับ ต้องดูว่า  เป็นมะเร็งอะไร  ระยะไหน  แล้วถามผู้รู้หลายๆคน  หรือหาความรู้จาก internet ให้มากๆก่อน  แล้วค่อยตัดสินใจว่า  จะรักษาหรือไม่ครับ จากคุณ : ส.มโนมัย - [ 1 ต.ค. 51 06:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ตาม คห 112 ค่ะ  ตอนเราเป็นนักเรียน เราเคยไปเป็นลองฝึกดูแลผู้ป่วยที่ศิริราช  แผนกที่เราอยู่จะเกี่ยวกับศัลยกรรม มีคนป่วยที่ต้องผ่าตัดเต้านมเพราะมะเร็ง  ตัดออกไปแล้ว เรายังดูแผลที่เธอเปิดให้ดูเลย แล้วก็นั่งคุยกัน รักษาหายค่ะ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 1 ต.ค. 51 06:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เป็นผมหน่อยไม่ได้??? คุณหมอคุณจะเก่งมาจากไหนไม่ทราบ  ต่อให้เป็นหมอเทวดาผมก็ไม่สน ถ้ามาทำแบบนี้กับคนในครอบครัวของผม ต่อหน้าต่อตา คุณหมอเละคาเท้าผมแน่ๆครับ  จะจัดให้แบบแจ่มๆเลย....... แฟน จขกท.ก็ชั่งใจเย็นดีจริงๆ...พ่อคุณ จากคุณ : delta- force - [ 1 ต.ค. 51 10:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ถ้าผมเป็นสามีคุณ คุณหมอ คนนั้น โดนไปแล้วครับ 555+ ไม่ได้ไปเอาคืน แบบ ลงไม้ลงมือนะ ผมจาฟ้องร้องงงงงงง เรียกค่าเสียหายยยย ปล.เป็นกำลังใจให้อีกหนึ่ง ครับผม ขอให้มีความสุข พระพุทธเจ้าคุ้มครอง ครับ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 51 11:36:18 จากคุณ : ขวดโหลที่ว่างเปล่า - [ 1 ต.ค. 51 11:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 116 จากคุณ : เพื่อน มะเร็ง (c3333) ความเห็น 102 "คีโม คือ  ตัวเร่งให้โรคกำเริบเร็ว และทรมารมาก  ไม่เกิดผลดีเลย  ขอให้เพื่อนสมาชิก ได้ตัดสินใจในเหตุผลที่สมควร " พิมพ์ผิดหรือเปล่า เนื้อหาใจความก็โจมตีแนวทางชีวจิต/บัลวี แต่ตบท้ายบอกคีโมไม่เกิดผลดี หวังว่าคุณคงพิมพ์ผิดอ่ะ แต่ถ้าตั้งใจพิมพ์แบบนี้ เราขอเถียงขาดใจ คีโมทรมานก็จริง แต่ไม่ใช่ตัวเร่งโรค และยังไงก็มีผลดีมากกว่าผลเสีย หากรักษาถูกทาง ถูกวิธี จากคุณ : คุณแหวะ - [ 1 ต.ค. 51 11:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 117 มาอ่านไม่ทัน จากคุณ : BabeEyeView - [ 1 ต.ค. 51 15:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ไม่ทราบรู้ความจริงกันรึเปล่า เห็นด่ากันจัง ไม่ก็จะต่อยเขาคืน ด่าไอ้แก่บ้าง หัวเบากันจังเลยนะครับ แค่ข้อความไม่กี่ประโยคก็ตัดสินคนๆนึงได้แล้ว บางพวกหนักเข้าไปใหญ่ เผลอๆยังไม่รู้จัก ดร.สาธิต เสียด้วยซ้ำ ถ้าเกิดเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่จริงล่ะครับ มีหน้าไหนจะกล้าออกมาขอโทษกันบ้าง คุณอาจจะแค่นั่งอยู่หน้าคอมของคุณ ก็สามารถด่าว่าใครก็ได้งั้นหรือ ใครว่าอะไร ด่าอะไร ก็โดนจูงจมูกตามน้ำไปได้ง่ายๆแบบนี้ ชีวิตจริงก็คงไม่ต่างกันหรอก เพื่อนแม่ผม และ แฟนของพี่สาว เป็นมะเร็งที่คอ(ผมไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี) รักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันยังไงก็ไม่หาย แต่เมื่อไปเข้าค่ายชีวจิตแล้วกลับมาก็รู้สึกดีขึ้น ผมก็เข้าใจว่าหายแล้ว แต่จริงๆแล้วนั้น เขาไม่ได้หายจากโรคมะเร็งที่เป็นอยู่ แต่กลับใช้วิธีที่อยู่ร่วมกับมะเร็งได้ โดยที่อาจทรมานน้อยกว่า และปล่อยวางกับเรื่องที่จะต้องตาย วันนี้เพื่อนของแม่ตายไปแล้วหลังจากที่รู้ว่าเป็นมะเร็งมาเกือบ10ปี และก็เสียไปแบบหลับไปเลย.........ส่วนแฟนพี่สาวนั้นตอนนี้ก็แข็งแรงดีแต่ก็ยังตรวจพบมะเร็งอยู่ซึ่งเขาบอกว่ามันเล็กลงกว่าเดิมหน่อยๆและไม่โตขึ้น............ ผมไม่ทราบหรอกที่ จขกท เล่ามานั้นเป็นเรื่องจริงหรือแต่งเติมขึ้นมาบ้างหรือเปล่า แต่ก็เชื่อไม่ลงที่ ดร.สาธิต ตบหัวคุณ แต่ผมเชื่อเรื่องที่ จขกท เป็น มะเร็ง เสียอย่างไรก็ให้กำลังใจนะครับ.... จิตข้างในดี กายก็ดีตาม การปล่อยวางก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับ.... จากคุณ : g (GRANDO) - [ 1 ต.ค. 51 17:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เห็นด้วยกับ คุณ g (GRANDO จากคุณ : พลอยแหวนแสนสวย - [ 1 ต.ค. 51 18:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เห็นด้วยกะ คุณ g (GRANDO) จากคุณ : ผ่านมา (เดินดงพงไพร) - [ 1 ต.ค. 51 19:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ไหนๆเจ้าของกระทู้ก็เข้ามาลบกระทู้ไปแล้วขอโพสให้ทราบส่งท้ายไว้ก็แล้วกัน เมื่อวันเสาร์ที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี่้ก็เกิดความสงสัยและต้องการรู้ความจริง จึงได้โทรไปที่โรงพยาบาลได้คุยกับพยาบาลแผนกที่เกิดเหตุ สอบถามว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะคิดว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆมันต้องรู้กันทั้งโรงพยาบาลแน่เลย พยาบาลเขาค่อนข้างตกใจเลยแจ้งให้เขาทราบว่ามีคนมาโพสเรื่องไว้ที่นี่บอกเลขที่กระทู้ไป วันอาทิตย์โทรไปอีกทีแต่ผู้รับสายคนละคน สอบถามว่าได้ทราบเรื่องหรือยัง เขาแจ้งว่ามีคนแจ้งให้ทราบและได้เข้าไปดูแล้วแจ้งผู้บริหารไปแล้ว ได้ถามต่อว่า เรื่องเป็นอย่างไร ผู้รับสายแจ้งว่าอาจเป็นการเข้าใจผิดของผู้ป่วยเอง ถามวาคู่กรณีทราบเรื่องหรือยัง ผู้รับสายแจ้งว่าน่าจะไม่ทราบเพราะอยู่ต่างจังหวัด จะเข้ามาที่โรงพยาบาลประมาณอาทิตย์ละสองครั้งโดยให้คำปรึกษาผู้ป่วยร่วมกับแพทย์ ได้สอบถามว่าโรงพยาบาลจะมีการดำเนินการใดๆหรือเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงหรือไม่ ผู้รับสายตอบว่า คงเป็นดุลพินิจและการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร จากการที่เข้ามาอ่านเห็นได้ว่าผู้ที่เข้ามาตอบกระทู้ส่วนใหญ่มีวิจารณญาณที่จะพิจารณาว่าเท็จจริงอย่างไรได้ อีกทั้งเข้าใจว่าผู้ป่วยมีภาวะเครียดจากโรคที่เป็นอยู่ การจะมาตอบโต้ผู้ป่วยในกระทู้นี้น่าจะไม่สมควรและไม่เกิดประโยชน์ใดๆ จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 51 20:02:32 จากคุณ : Alone with out lonely - [ 1 ต.ค. 51 20:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 122 คุณ Alone with out lonely  โทรไปถามมาเหรอ ข้าพเจ้าก็โทรนะ เพราะเป็น รพ. แถวบ้าน เคยรักษาบ้าง คุณพยาบาลเธอตอบได้น่ารัก ว่า "ไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้นะคะ" "แล้วตกลงมีไหมอ่ะฮะ" "ส่วนมากไม่มีนะคะ" "แล้วตกลงส่วนน้อยก็มีบ้างเหรอฮะ" "!!!!" จากคุณ : คุณแหวะ - [ 1 ต.ค. 51 20:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ไม่เข้าใจว่าคุณจขกท.ลบข้อความทำไมครับ? หากว่าเป็นเรื่องจริง ก็เป็นสิทธิ์ของคุณที่จะต่อสู้นะครับ (แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับการฟังความข้างเดียวก็ตาม แต่คุณไม่ควรลบข้อความตัวเองที่ได้เขียนออกไปแล้ว) จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 1 ต.ค. 51 22:30:40 ]

ความคิดเห็นที่ 124 มาไม่ทัน ลบไปหมดแล้วอ่า อ่านแล้วพอเดาได้ โดยส่วนตัว คิดว่าการล้างพิษ หรือชีวจิตอะไรต่างๆ ก็น่าจะมีประโยชน์อยู่ แต่ที่งงคือราคาที่แพงมหาโหด แพงมาก แพงจนงงน่ะค่ะ จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 1 ต.ค. 51 23:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 125 กลับมาอ่านอีกรอบ จากคุณ : cookiecompany - [ 2 ต.ค. 51 00:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 126 สวัสดีค่ะ...มารับฟังความเห็นจากหลายคนเรื่อง "แพทย์ทางเลือก" และ "เคมีบำบัด" ถ้าไม่เจอการเป็นโรคมะเร็งกับตัวเอง และได้ทดลองบำบัดวิธีต่างๆ กับตัวเอง ทั้งเรื่องใจ เรื่องกาย มันเป็นเรื่องที่พูดยากนะคะ... ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ทำหน้าทีของตนต่อไปค่ะ จากคุณ : Minie' - [ 2 ต.ค. 51 16:12:37 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ก็แค่อยากจะบอกเพื่อเตือนกันว่า ใครก็ตาม (ไม่ได้เจาะจงเจ้าของกระทู้นะครับ) ก่อนโพสต์อะไรในบอร์ดสาธารณะ ให้คิด คิดมากๆ อย่าคิดว่าลบเนื้อหาออกแล้วมันจะหายไปเลยทันที เพราะว่า Google เก็บความเดิมไว้ครบถ้วน(ระยะหนึ่ง) แค่เอาเลขกระทู้ใส่ใน Google แล้วกด "หน้าที่ถูกเก็บไว้" ก็จะเจอหน้าเก่าที่ความเห็นเดิมยังอยู่ครับ สำหรับเจ้าของกระทู้ ไม่ว่าเรื่องจริงหรือไม่จริง ผ่านแล้วก็ผ่านไป ให้อภัยได้ก็ให้อภัย และขอให้รักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะครับ ขอเอาใจช่วย จากคุณ : wealthyman - [ 2 ต.ค. 51 18:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เรื่อง..ดร.สา.... อินทร  ที่ไม่สนผู้ป่วยโรคมะเร็งเลย  เคยมีคนเล่าให้ฟ้งค่ะ ไม่ได้ประสบกันตนเองจริง   คือสามีของเพื่อนเขาเป็นมะเร็ง  และเขาได้อ่านหนังสือของ  ดร.สา.... อินทร   เขาป่วยอยู่ต่างประเทศรีบเดินทางมาพบ   ดร.สา.... อินทร  เขามีความหวังกับ ดร..  นี้มาก  แต่เมื่อมาเจอ ปฎิกิริยาของดร..คงดังกล่าว  ทำให้เขาเสียใจมาก  ทุกวันนี้เขาเสียไปแล้วค่ะ  เสียไปพร้องกับความรู้สึกต่อ ดร..ผู้นี้ไม่ต่างกับ จขกท.เลยค่ะ จากคุณ : รักนิด ๆ คิดนานๆ - [ 4 ต.ค. 51 12:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ธรรมชาติบำบัดทั้ง 2แห่ง ขูดเลือดขูดเนื้อคนไข้มากๆ แพงบรรลัย ลองไปถามสถิติดูว่า การรักษาแบบนี้ กับการรักษาแบบแผนปัจจุบัน ใครรอดตายและอยู่ได้นานกว่ากัน แล้วจะรู้ว่าเสียเงินโดยไม่ได้อะไรเลย จากคุณ : สิงหล - [ 4 ต.ค. 51 20:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 131 เคยอ่านบทความของอ.สาทิส เกี่ยวกับคนไข้ที่เป็นมะเร็งมาขอให้รักษา แกบอกว่าคนไข้มักคาดหวังว่ามาหาแกแล้วต้องหายอย่างเดียว แนะนำให้ทำอะไรก็ไม่ทำ อะไรที่ไม่ให้ทำก็แอบทำ แถมยังเคยโดนด่าว่ามีเงินมาให้รักษามะเร็งทำไมไม่รักษาให้หาย ไม่เข้าใจว่าแนวทางชีวิต ประกอบด้วยอะไรบ้าง คิดแต่ว่าชีวจิตคือรักษามะเร็งได้ ชีวจิตไม่ได้มีไว้รักษามะเร็ง แต่มีไว้เพื่อดูแลเราไม่ให้เป็นโรคค่ะ จากคุณ : ปริศนาไขกระจ่างแล้ว - [ 4 ต.ค. 51 22:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 132 คอนเฟิร์ม คห 127 ค่ะ เรื่องตบศีรษะ ขอไม่ออกความเห็นค่ะ ด้วยไม่ทราบว่าเหตุการณ์จริงแท้เป็นอย่างไร แต่สามีคุณช่างใจเย็นดีจังค่ะ คุณคะ.. -  พอเราทราบดังนั้นเราก็เลยเริ่มทานอาหารตามแนวบัลวีแทน - มีความรู้สึกว่าแข็งแรงขึ้น เลยไม่ได้ซีเรียสกับน้ำหนักที่ลดลงไป เท่าไหร่ และอีกอย่างก็มองว่าสูง 158 น้ำหนัก 47 กิโลก็ไม่ได้ผอมเกินไป - ทั้งๆ ที่ใจอยากจะบอกว่ากินตามบัลวี กินแต่ข้าวกล้อง กับผักต้ม ใครจะไม่ผอม แปลว่า คุณก็ทราบว่าทานแล้วจะผอม? ขออภัยนะคะที่ต้องพูดเหมือนจะย้ำ คนเป็นมะเร็งนะคะ ทำไมตัดสินใจอะไรดูง่ายนัก? และทำไมคุณถึงได้ "ไม่ซีเรียส" กับน้ำหนักที่หายไปขนาดนั้น เราเคยอ้วนขึ้นมาก ก็ทานผักต้มและทานอาหารแคลอรี่ต่ำราวๆ 4-5 เดือน เราสูง 155 น้ำหนักจาก 55 หายไปเหลือเท่าเดิม ก็คือเท่าคุณ คือ 47 คนที่บ้านยังนึกว่าป่วยเป็นอะไร คุณเองรู้ตัวว่าป่วย แต่ "ไม่ซีเรียส" กับการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง..มันน่ากลัวนะคะ ในเมื่อคุณกล้าตัดสินใจที่จะ "ลอง" วิธีอื่นด้วยแล้ว ทำไมคุณไม่แจ้งผู้ที่ดูแลอยู่ไปล่ะคะ ว่าคุณทานอะไร วิธีไหน แบบไหน ชีวิตนะคะ..นั่นคือชีวิต คุณจะอมพะนำเอาไว้แล้วให้การรักษามันตีกันเองงั้นหรือคะ? เราไม่ได้ติดตามชีวจิต เคยอ่านเล่มสองเล่มเพราะเห็นพูดถึงอาการไมเกรน และไม่ทราบว่าแนวทางนั้นยากง่ายแค่ไหน รู้จักก็แต่น้ำอาร์ซี ที่เขาพูดถึง ซึ่งเราเองยังเคยพูดเล่นอย่างที่เขาเล่นกันในช่วงที่เครื่องดื่มนี้เริ่มเป็นที่รู้จัก ว่า น้ำ RCA รวมถึงเราไม่รู้จักบัลวี ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ ญาติผู้ใหญ่ของเราเป็นมะเร็ง เราไม่ทราบแน่ว่าเริ่มจากตรงไหน แต่มันลามไปทั่วช่องท้อง  ผ่าตัดไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เราได้ไปเยี่ยมท่านไม่กี่ครั้ง แต่ละครั้งจะเห็นท่านผอมลง ทีละนิดบ้าง ผอมลงมากบ้าง ทั้งๆที่ดูแลตัวเองอย่างดี กำลังใจสูงมาก ท่านทราบนะคะว่ามันจะไม่หาย  ท่านก็ยังสู้ ยังยิ้ม ยังมั่นใจในการรักษาที่ท่าน "เชื่อ" ว่ามันดีกับท่านแล้ว ท่านวางใจในคุณหมอคนเดียว ให้ดูแลกันมาตลอดสิบกว่าปี แม้อาการจะมีแต่ทรง และ ทรุด ในวันที่คุณหมอพูดกับท่านว่า "คุณทำใจสบายๆนะ มีอะไรก็พูดกับลูกซะ" ท่านก็ยังยิ้ม ที่เราได้มาทราบที่หลังแล้วถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่คือ ท่านไม่รับมอร์ฟีนบรรเทาปวดเลย เพราะท่านกลัวจะคุยกับลูกไม่รู้เรื่อง ท่านกลัวเบลอ กลัวจะลอย ท่านหายเจ็บปวด พ้นทุกข์ไปแล้วเมื่อต้นปีค่ะ ที่เล่ามาทั้งหมด อาจไม่เกี่ยวอะไรกันนัก แต่เพราะอยากให้คุณเข้าใจว่า สิบกว่าปีที่ผ่านมานี้สำหรับท่าน "กาย" และ "ใจ"  สำคัญจริงๆนั่นแหละค่ะ เลือกรักษาเป็นวิธีๆไปนะคะ จะได้หาเหตุหาผลถูก ว่าอาการดีขึ้นจากอะไร และหรือมีปัญหา ปัญหามาจากไหน ทำใจให้เข้มแข็ง การเป็นทุกข์เป็นเดือดเป็นแค้นไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไปค่ะ ปล.ขออนุญาตถามนะคะ ทำไมลบข้อความล่ะคะ? จากคุณ : ShongkoryO - [ 5 ต.ค. 51 03:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 133 อย่าซ้ำเติมเจ้าของกระทู้เลยค่ะ   เท่านี้เธอก็ทุกข์ด้วยความเจ็บไข้แล้วนะคะ คนป่วยทุกคนมีความเครียดสูง    ไม่ให้กำลังใจโปรดอย่าซ้ำเติม จากคุณ : LiLLa_JoY - [ 5 ต.ค. 51 23:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ถ้าไม่ถ่องแท้เรื่อง ชีวจิต ก็ไปหาอ่านดูก่อนค่อยมาว่าจะดีกว่านะครับ หลายๆความเห็นทั้งหลาย จากคุณ : g (GRANDO) - [ 6 ต.ค. 51 11:00:42 ]