สวัสดีครับพี่ๆห้องสุขภาพจิตทุกท่าน
ตอนนี้ เที่ยงกับอีกยี่สิบนาที พึ่งตื่นนอนมาได้สักพักหนึ่ง แต่เรื่องที่ประสบพบเจอมาเมื่อคืน มันเกินกว่าจะเก็บกลั้นเอาไว้ได้ ออกแนว annoy นิดๆ น่าเบื่อหน่อยๆ เพราะไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอเรื่องเปรตๆ พรรค์นี้ด้วย เรื่องมันมีอยู่ว่า....
เมื่อคืนวาน ผมกับแฟนได้ไปดูคอนเสิร์ตของเพื่อนของผมคนหนึ่ง (เพื่อนผมเป็นนักดนตรีครับ) คอนเสิร์ตแบบอินดี้ สนุกใช้ได้ ไม่ได้ฟังอะไรแบบนี้มานาน ก็หรรษาบันเทิงเริงรมย์กันไป พองานเลิกประมาณเที่ยงคืน ก็กะว่าจะไปหาร้านนั่งดื่มอะไรชิลๆ ก่อนกลับบ้าน ผมก็โอเค ขับรถตรงไปยังร้านแถวบ้าน คนพลุกพล่านสมกับเป็นคืนวันเสาร์ ผมกับแฟนก็เบียดๆ เข้าไปที่เคาน์เตอร์ด้านใน เธอสั่ง Barcadi ผมล่อ Heineken ขวดเล็ก กะดื่มขำๆ ฟังเพลงสนุกๆ กัน แต่ในตอนนั้น ข้างๆ แฟนผมมีชายวัยกลางคนคนหนึ่ง แต่งตัวธรรมดาๆ ท่าทางกึ่มๆ ได้ที่ นั่งดวดคนเดียว แต่เขาจ้องแฟนผมตาไม่กะพริบเลย
ถามว่าแฟนผมแต่งตัวยั่วอะไรขนาดนั้นรึเปล่า? เปล่าเลยครับ ก็แค่เสื้อสายเดี่ยวกับผ้าพันคอ กางเกงยีนส์ แค่นั้นจริงๆ ผมก็รู้ แฟนผมก็รู้ อึดอัดจะตายอยู่แล้ว แอลกอฮอล์เริ่มไม่อร่อยซะแล้วตอนนั้น จนในที่สุด เขาก็ขอแฟนผมชนแก้วจนได้ โอเค ไม่ว่าอะไร อยากชนก็ชน แฟนผมก็ชนไปแบบขอไปที (แอบมากระซิบกับผมว่า อีตานี่มองมาตั้งแต่เข้ามาในร้านแล้ว อืม เป็นเอามาก) ก็พยายามทำเป็นไม่สนใจนะครับ แบบโลกใครโลกมัน จนเขามาขอชนแก้วกับผม เอาวะ ชนก็ชน ไม่ว่าอะไร แต่ประโยคถัดจากนี้สิ มันชวนให้ปวดหัว....
"นี่ นาย เราคุยกับเพื่อนนายได้รึเปล่าเนี่ย" ดู...ดูทำเข้า กะกระชากอายุเต็มที่ หน้าตาจะเป็นน้าผมได้เลยนะนั่น ผมก็ดวดเบียร์เข้าไปหนึ่งอึก รำคาญเต็มแก่
"อยากคุยก็คุย ก็ไม่ได้ห้ามนี่ครับ" ผมตอบไปอย่างสุภาพ (จากใจจริง อยากคุยก็คุยไปสิ แต่เขาจะคุยกับแกรึเปล่านั่นอีกเรื่องนะ) แฟนผมก็สนองให้ ด้วยการวางตัวเฉยเงียบ ไม่จ้องหน้า ไม่ทำอะไร ดวด Barcadi ไปเรียบๆ มันเห็นท่าไม่ดี ก็ยังหน้าด้านหน้าทนยื่นแก้วจะมาชนแก้วกับแฟนผมอยู่นั่นล่ะ มากๆ เข้าแฟนผมเริ่มหงุดหงิด ขอย้ายที่มาอีกด้าน ให้ผมกั้นกลางระหว่างเธอกับมัน ทีนี้ล่ะครับ มันก็พูดเลย
"นาย นายไม่ต้องกั้นขนาดนั้นก็ได้ เราอยากคุยกับน้องเค้า น้องเค้าน่ารักดีน่ะ"
มาถึงตรงนี้ ผมเริ่มเข้าใจแล้ว สงสัยว่าจะได้เจอพวก 'ป๋าชอบเด็ก' เข้าให้ เพราะแฟนผม แม้จะอายุ 22 แต่ตัวเล็ก หน้าตาเหมือนเด็ก ม ปลายน่ารักๆ คนหนึ่ง (พิมพ์นิยมป๋าเลย) ก็อยากจะตอบไปนะว่า ไอ้สันขวาน เขารำคาญแกถึงได้ย้ายหนีให้กุมากั้นไง ผมดื่มอีกหนึ่งอึก ยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบไป
"ขอบคุณครับที่ชม นี่ไม่ใช่เพื่อนผมหรอก นี่แฟนผม...."
"แฟนนายเหรอ เชื่อได้เหรอเนี่ย ถามจริง?"
"ครับ....แฟนผม แล้วพี่ล่ะ ทำไมมาคนเดียวล่ะครับ?" ผมถามกลับไป กะเอาให้หน้าม้านไปเลย หนุ่มวัยกลางคนอารมณ์เปลี่ยว มาคนเดียว คงไม่ต้องขยายความ มันก็ยังหน้าหนาว่าไปเรื่องงดเหล้าเข้าพรรษามา อย่างงู้นอย่างงี้ เออ กุไม่ได้อยากรู้หรอก แค่อยากจะตัดบทให้มันหมดๆ ไปซะเท่านั้น
"แต่น้องเค้าน่ารักจริงๆ.."
โว้ย!!!ไอ้หอกหัก นี่มันตรรกะชนิดไหนกันแน่วะ ปกติตามผับตามบาร์ ถ้ารู้ว่าฝ่ายหญิงมากับแฟนก็คงต้องถอยหรือไม่ยุ่งแล้ว (มันไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะถ้าอีกฝ่ายตีนหนักปืนหนัก ชีวิตอาจจะสั้นได้) เริ่มรู้สึกรำคาญไอ้เวรตัวนี้เต็มทน ผมกระซิบกับแฟนว่า ถ้า Barcadi หมดเมื่อไหร่ก็ไปกันดีกว่า ดูเหมือนมันเห็นท่าไม่ดี เลยชิงพูดประโยคปิดท้ายเอาไว้
"เออ นี่ เรามีของอยากให้น้องเค้าน่ะ นาฬิกาข้อมือเนี่ย เราอยากถอดให้น้องเค้าได้มั้ย?"
ผมจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือที่พ่อเจ้าประคุณอยากจะถอดให้ แล้วอยากจะถามตอกกลับใส่หน้าว่า ถ้าเมิงมีแค่นาฬิกาข้อมือแบบที่หาได้จากตลาดนัด (สายเหลืองๆ ตุ่นๆ ดูไร้ราศีพิกล) แล้วล่ะก็ อย่าโชว์ป๋าเลย เด็กมันจะครหาซะเปล่าๆ ที่แฟนผมใส่มันยังแพงกว่าซะอีก (350 จากยูเนี่ยนมอลล์ กลางๆ ไม่ได้หรูเริ่ดห่ะเหวอะไร)
ตอนนั้นล่ะครับ ที่ความอดทนของผมกับแฟนถึงขั้นขาดสะบั้น เราทั้งคู่ดวดเครื่องดื่มในมือจนหมด วางขวดไว้กับโต๊ะ ผมหันกลับไปยังคุณป๋าที่เคารพ และตอบคำถามสุดท้ายของค่ำคืน
"ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร ของแค่นี้แฟนผมเค้าซื้อได้ เก็บไว้เถอะ..." แล้วก็เดินแบบไม่สนใจใยดีอะไร ตอนนั้นวงดนตรีกำลังเล่นเพลง 'เพียงกระซิบบอก' ของแบล็คเฮด ในจังหวะท่อนหยุดกะทันหันนั้นเอง ที่ทั้งร้าน พร้อมใจกันพูดประโยคยอดฮิตที่แทนความรู้สึกของผมกับแฟนในวินาทีนั้นได้ทันทีแบบพร้อมเพรียงกัน นั่นคือ...
"ไอ้ยะเอี้ย!!! (ไม่สามารถพิมพ์ข้อความตรงๆ ได้ แต่คิดว่าพี่ๆ น่าจะเข้าใจ)"
เล่นเอาผมกับแฟนต้องกลั้นหัวเราะ แล้วกลับมาขำกันตัวกลิ้งตัวงอกันในรถนี่ล่ะ
เฮ้ออ ก็ เท่านี้ล่ะครับที่อยากจะระบาย มันเกินจะทน เกินจะรับจริงๆ กับพวกป๋าๆ แบบนี้ ก็ขอฝากให้พี่ๆผู้สาวระวังตัวกันให้มากๆ นะครับ กับพวกมลภาวะทางสังคมแบบนี้ ยังไงก็ ขอบคุณมากนะครับ สวัสดีครับ
จากคุณ :
บ้าเกม
- [
19 ต.ค. 51 12:55:30
]