ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องต่อไป... มะเร็งปากมดลูกค่ะ สาวๆ (รวมถึงที่ไม่สาว) หลายรายเดินเข้ามาถามฉันว่า “พี่มีเลือดออก จะเป็นมะเร็งรึเปล่า” เรื่องนี้ฉันฟันธงให้ไม่ได้หรอกค่ะ... ต้องซักประวัติกันยาว ให้แน่นอนที่สุด ก็ต้อง Pap Test ค่ะ (เพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็ง) และทำการตรวจภายใน (ส่วนนี้เป็นการตรวจทางกายวิภาค เพื่อดูว่ามีความผิดปกติของมดลูกหรือเปล่า) ผู้หญิงจำนวนมากไม่กล้าไปพบแพทย์... เหตุผลหนึ่งเพราะความอาย อีกส่วนหนึ่งไม่เห็นถึงความสำคัญ... ที่จริงการตรวจมะเร็งปากมดลูกนี่ ควรไปตรวจปีละครั้งค่ะ เมื่อก่อนมีเกณฑ์แนะนำให้ตรวจในหญิงที่มีอายุ 35 ปี แต่ปัจจุบันพบอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งปากมดลูกกับหญิงอายุน้อยลงเรื่อยๆ ผู้ป่วยบางรายมีอายุเพียง 19 ปี... เพราะฉะนั้นจึงแนะนำให้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วไปตรวจค่ะ (ทำไมถึงแนะนำแบบนี้ อ่านต่อด้านล่างนะคะ) ส่วนสาวที่ยังจิ้นก็ไม่ต้องเสียใจ ได้ตรวจเช่นกันค่ะ (ช่วงอายุที่แนะนำก็ยึดเอา 35 เหมือนเดิมค่ะ แต่ความเห็นส่วนตัวของฉัน ยี่สิบกว่าก็ควรไปตรวจได้แล้วนะคะ) ฉันมีลูกค้าวัย 40 และ 50 เศษ มาปรึกษา ลูกค้าบอกว่าหมดประจำเดือนไปนานแล้วหลายปี แต่จู่ๆก็มีเลือดคล้ายประจำเดือนไหลมาอีก ฉันแนะนำให้พบแพทย์ แต่ลูกค้าเห็นว่าไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังไม่เคยตรวจภายในมาก่อนด้วย (ต้องเข้าใจว่าร้านฉันอยู่ไกลปืนเที่ยง ชาวบ้านบางคนไม่ได้มีความรู้เรื่องเหล่านี้เลย) ลูกค้ายังตอบกลับมาอีกว่า “ดีซะอีก เหมือนได้กลับมาเป็นสาว” ปล่อยทิ้งไว้อีกหลายเดือน สุดท้ายจึงพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม มีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าในปัจจุบันสามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้แน่นอน 100% ... ด้วยการฉีดวัคซีน เรามาทำความเข้าใจกันก่อนค่ะ มะเร็งปากมดลูกนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบแน่ชัดค่ะ... กรรมพันธ์ การมีบุตรตั้งแต่อายุน้อย หรือการสูบบุหรี่ ล้วนมีความสัมพันธ์กับมะเร็งปากมดลูกทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม “หนึ่งในปัจจัยเสี่ยง” ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นคือการติดเชื้อ Human papilloma virus (HPV) โดยเฉพาะสายพันธ์ HPV16 และ HPV18  เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกร้อยละ 70 ส่วนสายพันธ์ HPV6 และ HPV11 นั้นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดหูดหงอนไก่ เจ้าเชื้อ HPV  ที่ว่านี้ ติดได้จากการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน ส่วนผู้หญิงที่รักเดียวใจเดียว (คงทราบความหมายที่ซ่อนอยู่นะคะ ฉันหมายถึงคนที่ไม่เค๊ย ไม่เคยมาก่อนนั่นละค่ะ) ก็มีโอกาสติดเช่นกันค่ะ หากว่า... มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่สำส่อน (ไม่ยุติธรรมเลยเนอะ... แงๆๆ) เพราะฉะนั้น การฉีดวัคซีน  HPV ซึ่งเป็นวัคซีนที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ HPV จึงไม่สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ 100% อีกทั้งประสิทธิภาพของวัคซีนจะสูงสุดในสตรีที่ยัง “ไม่เคย” ติดเชื้อ HPV สาวๆจึงควรฉีดวัคซีนก่อนถึงวัยมีเพศสัมพันธ์ (พูดง่ายๆคือ ฉีดตั้งแต่ยังจิ้นว่างั้นเถอะค่ะ) ช่วงอายุที่แนะนำก็ตั้งแต่ 9-26 ปีค่ะ อีกเรื่องที่สำคัญ หากฉีดวัคซีนไปแล้ว ยังมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น มีเพศสัมพันธ์แบบสำส่อน... ที่ฉีดไป ก็เหมือนไร้ค่านะคะ อ้อ ฉันฝากบอกคุณผู้ชายทั้งหลายที่ชอบ “เที่ยว” ให้ทราบตรงนี้เลยค่ะ (โดยเฉพาะคนที่มีภรรยา หรือกำลังจะแต่งงาน) การสำส่อนมีส่วนทำให้ภรรยามีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงขึ้น เพราะฉะนั้น อย่าเปลี่ยนคู่นอนบ่อยเลยค่ะ คุณคงไม่อยากให้คนที่คุณรักต้องทุกข์เพราะโรคพวกนี้ จริงไหมคะ... มีคำกล่าวที่ว่า... ผู้ชายบริสุทธิ์นี่ผิดปกติ ที่แน่ๆฉันคนหนึ่งละไม่อยากได้ผู้ชายผ่านมาหลายมือ... ก็ผู้ชายที่ผ่านศึกมากมาย เชื้อโรคเยอะนี่ค่ะ... ทั้งงูสวัด หูดหงอนไก่ แถมยังช่วยเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกด้วยน่ะสิคะ... อย่าว่าฉันหัวโบราณเลยนะคะ อย่างไรก็ตาม ฉันเห็นว่า การไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ เป็นเรื่องดีทั้งหญิงและชายค่ะ (ส่วนคุณผู้ชายที่เสียหายไปแล้วก็ไม่ต้องเสียใจค่ะ ยังมีผู้หญิงหลายคน พร้อมให้อภัยในอดีตของคุณ คนเรารักกันที่หัวใจ ใช่ร่างกายเนอะ) จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 20 ต.ค. 51 19:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขึ้นไปหาเรื่องเหนือสะดือของสาวๆกันบ้าง... เรื่องนี้เป็นเรื่อง “ใหญ่” สำหรับสาวๆหลายคนค่ะ “หน้าอก” ยังไงล่ะคะ จะเห็นว่าปัจจุบันมีครีม “กระชับ” และครีม “บำรุง” ทรวงอกออกมามากมายหลายยี่ห้อ บางชนิดระบุไว้หน้าฉลากว่าเป็นครีมหรือเจล “เสริม” ทรวงอก ฉันจะพูดถึงครีมประเภทที่สามนี่ละค่ะ สาวๆหลายท่านอ่านฉลากแล้วเข้าใจว่าทำให้ หน้าอก “ดูมดูม” ขึ้นมาได้ ส่วนใหญ่บนฉลากจะระบุไว้ว่า “สารสกัด A B C ทั้งหลาย ซึมผ่านเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแบ่งตัวและขยายใหญ่ขึ้น...” หรือไม่ก็ “สารสกัด X Y Z ทั้งปวง จะช่วยบำรุงต่อมนมให้ทำงานอย่างปกติ และโตเต็มที่” มาดูส่วนประกอบของ “เต้านม” กันก่อนดีกว่า เต้านมประกอบด้วยต่อมน้ำนม ท่อน้ำนม และไขมัน อยู่บนกล้ามเนื้ออก ก่อนครีมที่ว่า จะไปถึงชั้นไขมันหรือต่อมผลิตน้ำนม... ก็ต้องผ่านชั้นผิวหนังก่อน ชั้นผิวหนังนั้นประกอบด้วย epidemis และ dermis ถัดไปเป็นชั้น subcutaneous จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 20 ต.ค. 51 19:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ชั้น epidemis ก็คือส่วนที่จะหลุดออกเป็น “ขี้ไคล” นั่นเองค่ะ ชั้นนี้จะมีความหนาแตกต่างกันไปตามตำแหน่ง อย่างบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้าก็จะหนาเป็นพิเศษ ส่วนใบหน้านั้น แล้วแต่คนค่ะ หน้าหนา หน้าบาง ก็ว่ากันไป (ไม่เกี่ยวแล้วล่ะ แหะๆ) เรื่องน่าสนใจมีอยู่ว่า ชั้น epidemis ส่วนที่บางที่สุดก็คือ “เปลือกตา” นั่นเอง หาใช่ใบหน้าไม่... ชั้น dermis เป็นชั้นผิวหนังที่ประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน บอกแบบนี้อาจจะงง แต่ถ้าพูดถึงคำว่า “คอลลาเจน” หลายคนคงจะร้อง “อ๋อ” กัน ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน รากขนทั้งหลายก็จะอยู่ชั้นนี้ละค่ะ subcutaneous เป็นส่วนของชั้นไขมัน (adipose tissue) อ้อ... ไม่ใช่ไขมันในเต้านมนะคะ โปรดอย่าเข้าใจผิด ชั้นนี้เป็นส่วนของไขมันใต้ผิวหนังค่ะ มีไว้ป้องกันแรงกระแทก และรักษาความอบอุ่นของร่างกายค่ะ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า โมเลกุลที่จะซึมผ่านชั้น stratum corneum (เป็นส่วนประกอบหนึ่งในชั้น epidermis) ได้ ต้องมีขนาดเล็กกว่า 0.2 ไมครอน พอผ่านชั้น epidermis ก็ต้องเจอกับชั้น dermis อีก ครีมประเภทผิวขาว และชะลอริ้วรอยทั้งหลาย จะไปออกฤทธิ์ตรงจุดนี้ค่ะ เอ้า โมเลกุลซึมเข้าไปต่อ... พบกับ หลอดเลือดฝอยทั้งหลาย... ที่อยู่กระจัดกระจายตาม dermis และ subcutaneous พอเจอหลอดเลือดปุ๊บ... นี่เลยค่ะ ก็จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ยกตัวอย่างเช่น ยาคุมกำเนิดแบบแผ่นแปะค่ะ... ฮอร์โมนในแผ่นแปะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดโดยวิธีนี้ (คุยไปคุยมาก็วนไปหาเรื่องยาคุมทุกที เฮ้อ... ฉันก็ไม่รู้ว่าชาติก่อนไปทำอะไรกับยาคุมนะ ตั้งแต่สมัยเรียนก็ทำรายงานเรื่องยาคุมสองวิชา ตั้งกระทู้ในพันทิพก็ดั๊น ตั้งเรื่องยาคุมอีก... พลาดอยู่อย่างเดียว ไม่ได้ใช้เองสักที) จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 20 ต.ค. 51 19:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความรู้...ความรู้.....ว๊าวววววว จากคุณ : Getti (Getti) - [ 20 ต.ค. 51 19:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะฉะนั้น... คิดว่าครีม “เสริม” ทรวงอก พวกนี้จะซึมเข้าไปถึงเซลล์ไขมันหรือต่อมน้ำนมด้านล่างโน่นหรือเปล่าคะ ผิวหนังคนนะคะ... ไม่ใช่ถุงกรองกาแฟ อะไรจะซึมได้ซึมดีปานนั้นวุ้ย ต่อให้นวดๆๆ จนยานก็เถอะ... แล้วมันช่วยกระชับหน้าอกจริงไหม... แหม หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือวิชาการค่ะ... เราจะไม่ถกกันประเด็นนั้น ที่สำคัญที่สุดคือฉันยังไม่อยากโดนฟ้องด้วยค่ะ จะกระชับได้ขนาดไหน จะเสริมได้ขนาดไหน ฉันให้คุณๆคิดกันเองดีกว่า ว่า ทำไม๊ ทำไม ศัลยแพทย์ จึงยังมีงานล้นมือถึง ณ บัดนี้... สรุปคือ ถ้ามีวิธีไหนทำให้ “ดูมดูม” ง่ายๆโดยไม่ต้องเจ็บตัว หรือกระชับ “ย้วยๆ” โดยไม่ต้องลงมีด “ที่ได้ผลอย่างมีนัยยะสำคัญ” รุ่นน้องฉันคงไม่ต้องกลุ้มอกกลุ้มใจกับเรื่องนี้หรอกค่ะ (ขายเพื่อนอีกแล้ว) รุ่นน้องฉันเป็นเภสัชกรเช่นกันค่ะ รายนี้คุณเธอเป็นเพื่อนห่างๆกับลูกเกดแปะไม้กระดาน (ยังไม่ถึงกับเป็นญาติสนิท เพราะแบบนั้นฟังแล้วดูโหดร้ายเกินไป) พอมีข่าวว่า ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ รับสมัครคนช่วย “เย็บเต้า” ให้กับผู้ป่วยที่ผ่าตัดมะเร็งเต้านม เธอก็รีบบึ่งรถไปจากต่างจังหวัดแทบจะทันที “เต้า” ที่ว่านี้ทำจากใยสังเคราะห์และลูกปัดค่ะ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เสริมในยกทรงแทนหน้าอกข้างที่ถูกตัดไป เพื่อที่ว่าผู้ป่วยจะได้รู้สึกมีความมั่นใจเวลาสวมใส่เสื้อผ้า หากไม่มี “เต้า” นี้แล้ว ยกทรงก็จะบุบบิบบู้บี้ค่ะ เพื่อนฉันหวังว่าผลบุญกุศลจากการเย็บเต้าจะหนุนนำให้พานพบกับเนื้อคู่ และส่งผลดีย้อนกลับมาสู่ตัวเองบ้าง แต่อนิจจา... เธอไปสายค่ะ จึงอดเย็บ “เต้า” ไปโดยปริยาย เป็นอันว่าคนมันจะอดได้บุญน่ะนะ เนื่องจากเพื่อนฉันกลัวการลง “มีด” จึงเหลือวิธีสุดท้ายวิธีเดียวค่ะ อยาก “ดูมดูม” ก็ตั้ง... “ตั้งครรภ์” กว่าจะ “ดูมดูม” ฉันคิดว่าคงอีกนานค่ะ เพราะเธอยังโสด... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 20 ต.ค. 51 19:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นอกจากจะลำบากเรื่องอกเรื่องใจ อีกเรื่องที่สาวๆกังวลก็คือ เรื่องความสวยความงามนั่นเอง ที่ฉันอยากเล่าให้ฟังก็คือ เรื่องของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งหลายแหล่... เวลามีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกมาตัวหนึ่ง จะระบาดเป็นแฟชั่นอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักก็เงียบหายไปกับสายลม ฉันมีหน้าที่ต้องรีบอัพเดต ว่าตัวไหนอิน ตัวไหนเอาท์ หลังๆเลิกขายไปหลายตัวค่ะ เพราะตามไม่ค่อยทัน 555 มีทั้งที่ใช้ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ส่วนใหญ่ฉันจะไม่ฟันธงเหมือนหมอดูบางรายว่า “ใช้แล้วสวย สุดๆ” เพราะสินค้าเหล่านี้ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” (สมัยก่อนใช้คำว่าอาหารเสริมค่ะ) มีเงินก็ซื้อทาน ถ้าไม่มี... ก็อย่าเดือดร้อนดิ้นรนหาเงินหาทองไปซื้อเลยค่ะ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ นั่นละค่ะ สวยแน่ (แต่ทำยาก ว่าไหมคะ) ฉันเคยปวดหัวอย่างหนักกับลูกค้าท่านหนึ่ง ตอนนั้นฉันยังไม่ได้เปิดร้านเป็นของตัวเองค่ะ อย่างที่บอกว่าฉันเป็นลูกจ้าง เพราะฉะนั้นหน้าที่สำคัญหน้าที่หนึ่ง คือ ฉันต้องทำยอดขายให้ถึงเป้าให้ได้ อ๊ะๆ... ร้านยาก็มีเป้าเช่นกันค่ะ กระซิบให้นิดหนึ่งว่า รพ.ก็ไม่ต่างกันมากหรอกนะคะ โรงพยาบาลเอกชนบางแห่งตั้งเป้าไว้เลยว่า ต้องจ่ายยาให้ผู้ป่วยโดยเฉลี่ย.....บาท ต่อราย สมัยนี้ทุกอย่างเป็นธุรกิจหมดค่ะ ฉันได้แต่หวังว่า ขอให้เป็นธุรกิจ ที่ยังตั้งอยู่บนจรรยาบรรณ...เท่านั้นเอง นอกเรื่องซะแล้ว กลับเข้าเรื่องเดิมต่อค่ะ แล้วยอดขายจะสูงขึ้นได้อย่างไร... ก็พวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งหลายนั่นไงคะ กล่องหนึ่งก็หลายร้อย บางอย่างก็หลักพัน... ขายง่ายกำไรดีกว่ายาตั้งเยอะ... ลูกค้าที่ฉันว่ารายนี้ เธอมีอาชีพเป็นสาวกลางคืนค่ะ เมื่อนอนไม่พอ พอกเครื่องสำอางค์หนาเตอะ แถมยังต้องดื่มแอลกอฮฮล์ขนาดหนักอีก ในยามกลางวันผิวพรรณเธอจึงดูแย่เป็นพิเศษ พูดง่ายๆ เธอจัดอยู่ในประเภท “สวยกลางคืน” ว่างั้นเถอะค่ะ เธออยากจะให้ใบหน้าขาวอมชมพูเหมือนในโฆษณา จึงมาถามหาผลิตภัณฑ์ประเภท ขาวปิ๊ง... บริ๊งไบรท์ทั้งหลาย ฉันทำได้แค่เพียงแนะนำให้ทานพวกวิตามินคู่กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นอนให้มากขึ้น ดื่มให้น้อยลง และถ้าเป็นไปได้ อยากให้หยุดยาลดความอ้วนด้วย เพราะเท่าที่สอบถาม ฉันทราบมาว่าเธอใช้ยาลดความอ้วนที่ได้จากคลินิคแห่งหนึ่งอยู่ ผ่านไปประมาณหกเดือน เธอก็กลับมาโวยวายว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น... ฉันเองก็หนักใจค่ะ เพราะฉันพยายามบอกกับเธอแล้ว เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเธอ คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในเมื่อสิ่ง “ขั้นพื้นฐาน” เรายังทำไม่ได้ แต่งเติมพวก “ปัจจัยเสริมเล็กๆ” เข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่มีวันทดแทนกันได้ค่ะ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 20 ต.ค. 51 19:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดี๋ยวๆ ยังไม่หมดค่ะ เรื่องอดีตเมื่อครั้งยังเป็นบัณฑิตหมาดๆของฉันยังไม่จบ (ถึงตอนนี้โปรดอย่าลืมว่าฉันทำงานที่ร้านอื่นมาก่อนเป็นเวลาหนึ่งปี) มีลูกค้าอยู่ท่านหนึ่ง เวลาที่เธอเดินเข้าร้านมา พี่ผู้จัดการ ผู้ช่วยเภสัชอีกสองคน ต้องรีบหลบหน้า แล้วผลักไสให้ฉันให้ไปรับหน้าแทน... (ผลักไสจริงๆค่ะ เพราะต่างช่วยกันรุนหลังฉันออกนอกที่หลบภัยหลังตู้ยา) อย่างว่าค่ะ เกิดเป็นหญิง ใครก็อยากสวย ลูกค้ารายนี้เธอเป็นเจ้าแม่แฟชั่นผลิตภัณฑ์ออกใหม่ค่ะ แต่เฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภท “ลดน้ำหนัก” เท่านั้นนะคะ ไม่ว่ามีอะไรออกมา เธอ... ต้องลอง แล้วสินค้าแต่ละรายการ ใช่ราคาต่ำเสียที่ไหนล่ะคะ ยิ่งอะไรที่ออกมาใหม่ด้วยแล้ว... สนนราคาค่าใช้จ่ายต่อวัน ไม่ต่ำกว่าวันละสิบบาท ยิ่งคนที่น้ำหนักตัวมาก ก็ต้องรับประทานมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เงินจำนวนนี้อาจจะดูไม่มากสำหรับคนฐานเงินเดือนสูงระดับหมื่นค่ะ แต่โปรดอย่าลืม สำหรับคนฐานเงินเดือนสี่พัน... เงินจำนวนห้าร้อยบาทเป็นเงินมากโขอยู่ค่ะ จากแบบฟอร์มเครื่องแต่งกายของเธอ ทำให้ฉันทราบว่าเธอเป็นพนักงานขายในร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งฉันเองพอจะทราบฐานเงินเดือนของเธอค่ะ มันไม่สมดุลย์กับค่าใช้จ่ายของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเลย เพราะฉะนั้นเธอจึงขอ... ผ่อน แน่นอนค่ะ ว่า “ไม่ได้” ตรงนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการร้าน ไม่ใช่อำนาจของฉัน ทางร้านไม่มีนโยบาย “ผ่อน” สินค้า อย่างไรก็ตาม ฉันดีใจอย่างหนึ่งที่เธอไม่คิดจะพึ่ง “ยาลดความอ้วน” ค่ะ เอาไว้ฉันจะอธิบายให้ฟังอีกครั้งนะคะ ว่าพวกยา “ชุด” ลดความอ้วนตามคลินิคทั้งหลายประกอบด้วยอะไรบ้าง... และมีผลข้างเคียงอย่างไร เมื่อผ่อนไม่ได้ เธอจึงพยายามเก็บเงินค่ะ และขอให้เก็บสินค้าใหม่ไว้ให้จนถึงวันเงินเดือนออก ปัญหาใหญ่คือว่า เธอมักจะไม่ทานตามขนาดที่แนะนำ อย่างเช่น คนน้ำหนักตัวแปดสิบกิโลกรัมขึ้นไป ต้องทานผลิตภัณฑ์ ตอนเช้า 2 เม็ด และตอนเย็นอีก 2 เม็ด เธอก็จะทานเพียงแค่ “ครั้งละเม็ดเดียว” ตอนเย็น เพื่อจะได้ประหยัด... แล้วยังมา “คาดคั้น” เอาคำตอบกับฉันอีกว่า “ทานแค่เม็ดเดียวได้ไหม” ฉันก็ต้องตอบไปตามตรงละค่ะ ว่า “ต้องทานตามขนาดที่แนะนำค่ะ” ไม่อย่างนั้นจะ “ไม่เห็นผล” (เพราะปกติผลิตภัณฑ์พวกนี้ก็ให้ผลไม่ค่อยชัดอยู่แล้วค่ะ ต้องออกกำลังกายร่วมด้วยจึงจะดี) นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทุกคนในร้านพยายามหลบเลี่ยงเธอค่ะ เพราะกว่าจะจบบทสนทนาได้ก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 20 ต.ค. 51 19:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 .. โหวตอีกแล้ว .. จากคุณ : apple_meppo - [ 20 ต.ค. 51 19:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฉันเคยพูดกับเธอตรงๆว่า ให้ออกกำลังกาย... และควบคุมอาหารด้วย ฉันรู้ค่ะ ว่าทำ “ยาก” แต่มันไม่ได้ “ยาก” จนเกินไปหรอกค่ะ ถ้าเราตั้งใจจริง อยาก “สวย” ต้อง “อดทน” และ “สม่ำเสมอ” ค่ะ ไม่มีใครเกิดมา เติบโตขึ้นมา แล้วก็สวยได้ง่ายๆ สวยเรี่ยราด สวยหน้าเด้ง โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม (ถึงมีก็น้อยมากล่ะคะ คุณ...) เคยเห็นใครตามใจปาก อยากกินอะไร ยัด... ผมเหรอ ตื่นมาก็เอามือสางๆ สามวันสระ... หน้าหนาวโลชั่นไม่เคยทา เล็บเท้าไม่เคยขัด ออกกำลังกายเรอะ เมินซะเถอะ แล้วหน้าเด้ง ผมสวย หุ่นดี บ้างล่ะคะ... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 20 ต.ค. 51 19:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทุกวันนี้ฉันจึงพยายามบอกลูกค้าทั้งหลายอย่างกลางๆ เมื่อมาหาซื้อผลิตภัณฑ์ตามโฆษณาว่า... ถ้ามีเงิน ไม่เดือดร้อน “ซื้อ” ทานได้ค่ะ (ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่ว่าต้องผ่าน อย. นะคะ แต่สินค้าบางชนิด แม้จะผ่านแล้ว โดนเก็บกลับทีหลังก็มีค่ะ 5555) กระซิบว่ากระทู้ล่างๆนี่ก็มีตัวหนึ่งแล้ว... แต่ได้โปรด อย่า “คาดหวัง” ว่าจะเหมือนในโฆษณาเป๊ะ ถ้าหากท่านยังไม่ได้ดูแลตัวเองดีพอ และโปรดมีวิจารณญาณทุกครั้งในการชมโฆษณา...อย่าให้สติหลุดลอยไปค่ะ เพราะเงินในกระเป๋าท่านจะหลุดตาม ฉันไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรหรอกค่ะ กลับกัน ถ้าฉันขายสินค้าได้ จะเป็นผลดีกับ “กระเป๋า” ของฉันเองมากกว่า ที่ฉันพูดปากเปียกปากแฉะ ฉันก็แค่พูดในฐานะ “เภสัชกร” ตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ ฉันไม่ได้ต่อต้านผลิตภัณฑ์เหล่านี้นะคะ แน่นอนว่ามีทั้งที่ “สมกับราคา” และ “ไม่สมกับราคา ไร้สาระมั่กๆ” หน้าที่ของฉันคือ “ให้ข้อมูล” ส่วนการ “ตัดสินใจ” เป็นหน้าที่ของพวกคุณค่ะ ปล. เรื่องเกี่ยวกับสาวๆ ยังมีอีกมากค่ะ แต่ฉันขอยกไปคุยในบทอื่นค่ะ โดยเฉพาะเรื่อง “เวชสำอางค์” และพวก whitening ทั้งหลาย ไหนจะเรื่องสิวกับฝ้าอีก... อ้อ ที่สำคัญ “ยาลดความอ้วน” ด้วยค่ะ จบบทแต่เพียงแค่นี้นะคะ บทใหม่ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L7155235/L7155235.html#11 แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 51 15:33:30 จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 20 ต.ค. 51 19:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 1 โหวตคร้าบ~ เดี๋ยวรออ่านบทหน้าต่อ อิอิ ^^ จากคุณ : หนูน้อยปี๋ปู - [ 20 ต.ค. 51 19:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มันไม่มีนามแฝงเลยวุ้ย --' จากคุณ : Epinephrine - [ 20 ต.ค. 51 20:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โหวตค่ะ อ่านเพลินมากๆ จากคุณ : bangjang - [ 20 ต.ค. 51 20:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แวะมาอ่านค่ะ :D รออ่านบทไวท์เทนนิ่งน้า  จะำได้ส่งไปให้เพื่อนอ่านมั่งค่ะ ^^ จากคุณ : =เด็กเอ๋ยเด็กดี= - [ 20 ต.ค. 51 20:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านกระทู้เดียว   ได้ความรู้จากหัวจรดเท้าเลยนะเนี่ย จากคุณ : samr - [ 20 ต.ค. 51 20:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วได้ความรู้มากๆเรยค่ะ จากคุณ : wawah12 - [ 20 ต.ค. 51 20:32:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตให้เลย จากคุณ : e20 - [ 20 ต.ค. 51 20:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โหวตอีกรอบค่า ^^" จากคุณ : *~Lollipoppins~* - [ 20 ต.ค. 51 21:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผู้หญิงนี่ลำบากจริงๆเนอะ จากคุณ : นี่มันอะไรกันซะงั้นน่ะ - [ 20 ต.ค. 51 22:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โหวตจ้าาา.. จากคุณ : รักแรกฝังใจ - [ 20 ต.ค. 51 22:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โหวตค่ะ และขอนำ Link ไปไว้ในห้องแป้งด้วยนะค่ะ  พอดีอ่านแล้วโดน เลยนึกถึงเพื่อน ๆ ค่ะ จากคุณ : gegena - [ 20 ต.ค. 51 22:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค่ะ  อ่านง่าย อ่านสนุก  แถมได้ความรู้อีก  ติดตามอ่านต่อหน่ะค่ะ จากคุณ : eissee - [ 20 ต.ค. 51 22:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตามมาจากห้องแป้ง อ่านแล้วชอบค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ ขอบคุณนะค่ะที่มาให้ความรู้ และเตือนสติ จากคุณ : กล่องของขวัญ - [ 20 ต.ค. 51 23:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จริงๆด้วยยย เห็นด้วยเลยค่ะ จากคุณ : อ้วนซาอุ - [ 20 ต.ค. 51 23:40:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านสนุกดี มีประโยชน์ด้วย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : rosella - [ 20 ต.ค. 51 23:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สุดยอดกระทู้เลยค่ะ ... ความรู้อัดแน่น อย่างนี้ต้องโหวต  + แจกGive จากคุณ : No - Bell - [ 21 ต.ค. 51 00:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เฮ้อ เราว่า เกิดเป็นหญิง แท้จริงแสนลำเค็ญ ตังหาก ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ และขอรอบทต่อไปค่ะ จากคุณ : Bannorker - [ 21 ต.ค. 51 00:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 นายอีปิ๊.. อรึมมมมมมมมมมมมมม จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 21 ต.ค. 51 01:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทุกวันนี้แนทเป็นคนมี ปจด น้อยนะนิ บ้างก็บอกว่าระวัง ร่างกายผผิดปรกติมั่ง เลือดเสียไม่ออกจากตัวมั่ง บลาบลาบลาเยอะแยะไปหมด บ้างก็บอกว่าดีออกสบาย ไม่มีอะไรหรอกคิดมาก จนแนทต้องถ่อไปถามหมอ หมอตอบกลับว่า " มีน้อยสบายดีไม่ดีรึไง " .... ดีค่ะหมอหนูแค่เห็นคนรอบข้างพูดเยอะๆเลยมาเสียเงินหาหมอนี่แหละ -*- จากนั้นมาเลิกกังวลเลย ว่าแล้วก็โหวต จากคุณ : Cheezii - [ 21 ต.ค. 51 01:52:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากค่ะ ...ได้ความรู้เยอะเลย และอ่านสนุกด้วย.....โหวตเลย จากคุณ : wanttobepretty - [ 21 ต.ค. 51 02:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตามมาโหวตอีกกระทู้ค่ะ จากคุณ : asita - [ 21 ต.ค. 51 02:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ทั้งโหวตทั้งแจกกิฟท์ อิอิ จากคุณ : YuRaGi - [ 21 ต.ค. 51 06:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โหวตด้วยคนค่ะ กระทู้มีสาระ และอ่านสนุกอย่างนี้ ^^ จากคุณ : Clever Katz - [ 21 ต.ค. 51 08:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านเพลินเลย รออ่านต่อค่ะ ^^ จากคุณ : A Princess - [ 21 ต.ค. 51 08:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 โหวตจ้า.. จากคุณ : หมูน้อยอ้วนพี - [ 21 ต.ค. 51 09:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาร่วมด้วยช่วยกดโหวตอีก 1 เสียงค่ะ เจอบทแรกเรื่อง "น้ำคาวปลา" เหมือนได้ดั่งใจยิ่งนัก เพราะกำลังสงสัยอยู่เชียว.. จากคุณ : Babesi - [ 21 ต.ค. 51 09:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เขียนได้น่าอ่าน เข้าใจง่าย มีประโยชน์ แฝงความรู้ และสนุก เก่งมากครับ แบบนี้ออกพ๊อกเก๊ตบุ๊คได้เลย ขอชมเชยครับ จากคุณ : ตาแว่น (chanyout) - [ 21 ต.ค. 51 10:53:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 นอกจากใช้ถุงผ้าแล้ว....ยังมีผ้าอนามัยช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย     จากคุณ : mrs.mini - [ 21 ต.ค. 51 11:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เนื้อหาเยี่ยมไปเลยค่ะ จากคุณ : LeoCool - [ 21 ต.ค. 51 11:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตามมาจากห้องแป้งค่ะ กระทู้โดนใจ.. โหวตให้ + แถมgive ให้ด้วยเลย จะรออ่านภาคต่อนะคะ ^ ^ จากคุณ : สวยเลือกมาก - [ 21 ต.ค. 51 11:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 รออ่านอยู่นะค่ะ จากคุณ : dogdogshop - [ 21 ต.ค. 51 11:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จากคุณ : Plakud04 - [ 21 ต.ค. 51 12:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มีประโยชน์จริงเลยค่ะ ขออนุญาตโหวต รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ จากคุณ : ไม่มีเหตุผลยากๆ ให้หนักใจ - [ 21 ต.ค. 51 13:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆนะคะ จากคุณ : เด็กอยากสวย - [ 21 ต.ค. 51 13:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตามมาบท 2 ขอบคุณเช่นเคยสำหรับความรู้ค่ะ ขอถามเรื่อง HPV หน่อยค่ะ ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง คือมีคู่นอนคนเดียว จะมีโอกาสเป็นมะเร็งมากน้อยแค่ไหนคะ จากคุณ : แมวน้อยสีน้ำตาล - [ 21 ต.ค. 51 13:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เข้ามาลงชื่อ GIFT & VOTE ชอบมาก เข้ามาเล่าเรื่องอีก ได้สาระดี จากคุณ : ONLY STRONGEST - [ 21 ต.ค. 51 13:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โหวตโลด ให้กิ๊บเก๋ไปด้วย ^ ^ จากคุณ : จันทร์กลางหาว - [ 21 ต.ค. 51 14:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณสำหรับกระทู้ความรู้ดี ๆ มีประโยชน์ค่ะ จากคุณ : hit on me - [ 21 ต.ค. 51 14:17:44 ]

ความคิดเห็นที่ 49 จากคุณ : แสงสว่างที่ปลายทาง - [ 21 ต.ค. 51 14:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณแมวน้อยสีน้ำตาล ตอบไม่ได้หรอกค่ะ ว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งแค่ไหน อย่างที่เขียนว่า 70% ของการเกิดมะเร็งปากมดลูก มาจากเชื้อ HPV การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สำส่อน จึงช่วยลด "ปัจจัยเสี่ยง" ได้ แต่ทั้งนี้ไม่ได้แปลว่า คุณจะไม่เป็นมะเร็ง เพราะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่างค่ะ อย่างไรก็ตาม ตรวจมะเร็งปากมดลูกปีละครั้งดีที่สุดค่ะ เพราะมะเร็งปากมดลูกรักษาไม่ยาก และมีระยะเวลาในการดำเนินของโรคนาน (หากพบในระยะแรก) เพิ่มเติมค่ะ ที่มา http://www.audiclubthailand.com/board/index.php?action=printpage;topic=5440.0 กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรค เชื้อ HPV ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูก ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยที่ทำให้การติดเชื้อไวรัส HPV คืบหน้าหรือดำเนินโรคต่อไปจนเป็นมะเร็งปากมดลูก ปัจจัยร่วมเหล่านี้กล่าวได้ว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสตรีที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ดังต่อไปนี้ ปัจจัยเสี่ยงทางนรีเวชวิทยา (gynecologic risk factors) -การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย ถ้าอายุน้อยกว่า 18 ปี จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น 1.3 เท่า -การมีคู่นอนหลายคน ความเสี่ยงจะสูงขึ้น 2.5 เท่า และ 7 เท่า ถ้ามีคู่นอน 2 และ 3 คน ตามลำดับ -การตั้งครรภ์หรือมีลูกหลายคน -มีประวัติเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ -ไม่เคยได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมาก่อนเลย -การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานาน ๆความเสี่ยงสูงขึ้น 1.5 เท่าและ 2 เท่า ถ้าใช้ยาคุมกำเนิดนานกว่า 5 ปี และ 10 ปี ปัจจัยเสี่ยงทางฝ่ายชาย (male factors หรือ high-risk husband) -สตรีที่มีสามีเป็นมะเร็งอวัยวะเพศ (penile cancer) -สตรีที่แต่งงานกับชายที่เคยมีภรรยาเป็นมะเร็งปากมดลูก -ผู้ชายที่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ -ผู้ชายที่มีประสบการณ์ทางเพศตั้งแต่อายุน้อย -ผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ (nongynecologic risk factors) -สตรีที่มีเศรษฐฐานะทางสังคมต่ำมีความเสี่ยงสูงขึ้นประมาณ 5 เท่า -การสูบบุหรี่ มีความเสี่ยงสูงขึ้น 2 เท่า ขึ้นกับปริมาณและระยะเวลาที่สูบ -ภาวะภูมิต้านทานต่ำ ในประเทศไทยปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่สำคัญ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 21 ต.ค. 51 15:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านเพลินแถมมีประโยชน์มากเลย ชอบการเขียนของคุณลูกเป็ดมากๆ ค่ะ จะติดตามต่อน้า...... จากคุณ : ladielizz - [ 21 ต.ค. 51 15:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ ^^& จากคุณ : โซลอิลด์ - [ 21 ต.ค. 51 15:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ร่วมด้วยช่วยกันโหวต กระทู้ดีๆ แบบนี้ค่ะ จากคุณ : ^^น้องฟ้า^^ - [ 21 ต.ค. 51 16:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โหวตค่ะ โหวต เป็ฌนประโยชน์มากๆ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่เขียนมาให้อ่านกัน จากคุณ : KikabYte - [ 21 ต.ค. 51 16:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โหวตค่ะ อยากอ่านบทต่อไปเร็วๆ จัง จากคุณ : Mr.Cosmetics - [ 21 ต.ค. 51 16:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ยอดเยี่ยมอ่ะ มิเสียแรงที่ตามมาจากห้องแป้ง ฮี่ ๆ ๆ จากคุณ : ตำปูปลาร้า - [ 21 ต.ค. 51 16:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โหวตค่ะ ^^ จากคุณ : พังพอนน้อย - [ 21 ต.ค. 51 20:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ดีค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้ในส่่วนที่กำลังเจออยูพอดี โดยเฉพาะเรื่อง ปจด. มาแบบไม่ต่อเนื่อง 1 2 3 เดือน เว้นแบบไม่แน่นอน จนไม่จำแล้วว่าเป็นครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ มาอ่านแล้วค่อยสบายใจขึ้นมา ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว โหวต และแจกกิ๊ฟด้วยคนค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 21:54:13 จากคุณ : ผ้ากันเปื้อน - [ 21 ต.ค. 51 21:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ปกติเห็นกระทู้ยาวๆ อ่านชื่อกระทู้ก็เผ่นแล้วค่ะ มีกระทู้นี้อีกกระทู้นึงที่อ่านจนจบ รีบมาต่อนะค้าา จากคุณ : หนอนหลังยาว - [ 21 ต.ค. 51 22:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ดีมากๆ เลย ชอบจัง อ่านสนุกได้ความรุ้อีก ^^ จากคุณ : 1234 (ajayjay) - [ 21 ต.ค. 51 23:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาอ่าน ดีจังค่ะที่มาให้ความรู้สาวๆ แต่ว่าขอแทรกนิดนึง คือเท่าที่เรียนมาเนี่ย HPV วัคซีนนั้นป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้แค่70%เองนะคะ เพราะเชื้อก่อมะเร็งปากมดลูกนั้น จริงอยู่ว่าเป็นสายพันธ์ 16และ18 แต่มันก็แค่70% ที่เหลืออีก30%เป็นสายพันธ์อื่นที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันค่ะ ดังนั้นถึงฉีดไปก็คือไปป้องกัน สองสายพันธ์นั้น แต่ไม่ป้องกันสายพันธ์อื่นที่เหลืออีก30%นะคะ โดยปกติแล้ว เชื้อเอชพีวีมีมากกว่า100สายพันธ์ มีการติดต่อทำให้เกิดโรคได้ตั้งแต่ หูดที่ผิวหนัง(ที่มักพบได้ตามมือและเท้า) หูดที่อวัยวะเพศเช่นที่องคชาติ ช่องคลอดหรือแม้กระทั่งทวารหนักซึ่งทางการแพทย์จะเรียกรวมๆว่า CONDYLOMA โดยสายพันธ์ที่ก่อโรคตามอวัยวะเพศนั้น จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ส่วนมาก มักจะไม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่ปากมดลูก (การเปลี่ยนแปลงของเซลล์นี้สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก) ส่วนมากการติดเชื้อนี้มักจะหายได้เอง แต่มีแค่ไม่กี่สายพันธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธ์16และ18 ที่ตอนแรกจะยังไม่มีอาการแต่ยังคงมีเชื้อไวรัสอยู่ในตัว เป็นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่ปากมดลูกอย่างช้าๆ จากเซลล์ปกติเป็นเซลล์ที่ใกล้จะเป็นมะเร็งแล้วกลายเป็นมะเร็งในที่สุด โดยในบางครั้งกว่าจะแสดงอาการนั้นก็อาจเกิดจากการติดเชื้อมาแล้วถึง20ปี เอชพีวีตอนนี้จัดเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งปากมดลูกก็ถูกพิจารณาให้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่งแล้ว ดังนั้นใครก็ตามที่อยู่ในวัยเจริญพันธ์ ถือว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชพีวิ โดยเชื้อนี้ติดได้จากการสัมผัสของผิวหนังและเยื่อบุ ไม่ได้ติดจากสารคัดหลั่งของร่างกาย ในสหรัฐอเมริกา มีประมาณ20ล้านคนทั้งชายและหญิงที่มีการติดเชื้อเอชพีวี และเกือบ3ใน4ของประชากรกลุ่มอายุ15-49เคยติดเชื้อเอชพีวีที่อวัยวะเพศ และพบผู้ป่วยใหม่14000รายในทุกปี จากผศ.ดร.ชัยยศ หัวหน้าหน่วยมะเร็งสตรี รพ.ศิริราช มะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นมะเร็งชนิดที่พบได้มากที่สุดในผู้หญิงไทย โดยพบมากกว่าในภาคเหนือ ที่ศิริราชพบว่ามีเคสผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกใหม่ 500เคสต่อปี อัตราการรักษาแล้วหายขาดขึ้นอยู่กับระยะของโรคขณะที่ได้รับการวินิจฉัย ในระยะที่1อัตราการรอดชีวิตใน5ปีแรกนั้นสูง80-90% ในระยะที่2และ3สูง40-60% ในระยะแรก เซลล์มะเร็งจะอยู่แค่ในมดลูกไม่มีการแพร่กระจายสู่อวัยวะอื่นๆรอบนอก ถ้าตรวจพบระยะนี้อัตราการหายขาดของโรคจะดีที่สุด แต่ปกติแล้วในระยะนี้มักจะไม่แสดงอาการ แต่โชคร้ายที่ว่าน้อยกว่า20%ของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกเท่านั้นที่ได้รับการวินิจฉัยที่ระยะนี้ เนื่องจากปัจจุบันการรณรงค์เพื่อตรวจคัดกรองยังคงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยการติดเชื้อชนิดนี้ ผู้ชายคือพาหะนำโรคดีๆนั่นเอง ปัจจุบันนอกจากการตรวจpap smearยังมีการตรวจอื่นอีก ในบางรพ.มีการตรวจHPV test และสามารถทำควบคู่ไปกับการตรวจpap smearในผู้หญิงที่จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง (คือ 1. มีเพศสัมพันธ์ตอนอายุน้อย 2.มีลูกมาก 3.หญิงที่มีคู่นอนหลายคน 4.หญิงที่แต่งงานกับชายที่มีคู่นอนหลายคน) หรือทำเอชพีวีเทสในรายที่ผลตรวจคัดกรองนั้นไม่ชัดเจน ถ้าผลของการตรวจทั้ง2เป็นลบทั้งคู่ทางAmerican Cancer Society จัดว่า โอกาสการเกิดมะเร็งปากมดลูกในรายนั้นนั้นถือว่าต่ำ และทางAmerican Cancer Society ให้ตรวจครั้งต่อไปเมื่ออีก3ปีข้างหน้า ผศ.ดร.สุรศักดิ์ จากหน่วยวางแผนครอบครัว ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยารพ.ศิริราชได้ทำการศึกษาเรื่องวัคซีนเอชพีวีในผู้หญิงไทยกล่าวว่า วัคซีนที่ป้องกันเชื้อสายพันธ์16และ18นั้นก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ ซึ่งช่วยป้องกันการติดเชื้อใหม่หรือการติดเชื้อแบบถาวร(คือยังคงมีเชื้อก่อมะเร็งอยู่) แต่ยังคงไม่มีข้อสนับสนุนเพียงพอว่าวัคซีนนี้จะมีฤทธิ์ป้องกันได้นานกี่ปี และเมื่อไหร่ที่ต้องฉีดกระตุ้น ที่มา Siriraj E-Public library http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=563 แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 51 01:45:42 จากคุณ : ชื่อนี้ไม่มีในสารบบ - [ 22 ต.ค. 51 01:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 62 นายอีปิ๊.. อรึมมมมมมมมมมมมมม จากคุณ : Adore - [ 22 ต.ค. 51 12:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มารอติดตามเหมือนกันค้าา ^O^ จากคุณ : white_valentine - [ 22 ต.ค. 51 13:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์ ปล. โหวตให้แล้วนะคะ จากคุณ : ลิเลียน - [ 22 ต.ค. 51 13:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณมากๆๆค่า จากคุณ : Blendy_an - [ 22 ต.ค. 51 13:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เป็นประโยชน์มากๆ เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : extrajeab - [ 22 ต.ค. 51 15:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 67 แอบอ่านตั้งแต่ภาคแรก มาติดตามต่อ ขอบคุณคุณลูกเป็ดขี้เกียจมากๆเลยค่ะที่เอาความรู้มาแบ่งปัน ทำให้แอบรู้ว่าเข้าใจอะไรผิดๆ เยอะอยู่นะเนี่ย รออ่านต่อนะคะ เทคแคร์ค่า จากคุณ : แก่นเซี้ยว (แก่นเซี้ยว) - [ 22 ต.ค. 51 15:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอรบกวนด้วยนะค่ะ อายุ 25 ปัจจุบันไม่มีแฟนนะค่ะ 25 ปีที่ผ่านมาประจำเดือนมาปรกติทุกเดือน ค่ะ จนมามี ประมาณ 5 เดือนที่แล้ว มันไม่มาอ่ะค่ะ แต่มีอาการเหมือน มี ประจำเดือนคือ เจ็บหน้าอก และบางครั้งก็มีกลิ่นเหมือนประจำเดือนอ่ะค่ะ บางครั้งก็ปวดท้องเหมือนประจำเดือนมา ไม่กล้าไปหาหมออ่ะค่ะ บอกตรงๆกลัวขึ้นขาหยั่ง - - ไม่เคยจิงๆค่ะ เลยไม่ ทราบว่า มีวิธีการตรวจที่ไม่ต้องใช้ขาหยั่งม่ะค่ะ แล้วอาการอย่างนี้ออันตรายหรือเปล่าค่ะ? อยากทราบสาเหตุว่าประจำเดือน อยู่ดีๆมาไม่ปรกติเพราะอะไร? คงต้องรบกวนผู้รู้นะค่ะ..................... จากคุณ : howdyjune - [ 22 ต.ค. 51 16:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ตามโหวตให้ครับ อ่านเข้าใจง่าย ได้ความรู้ดีครับ จากคุณ : supertarokung - [ 22 ต.ค. 51 17:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ตอบคุณ howdyjune นะคะ ก่อนอื่นตรวจง่ายเลย ว่าตั้งท้องหรือเปล่า ถ้าไม่ก็ไปพบหมอนรีเวชเลยนะคะ เป็นได้หลายอย่างมาก ตั้งแต่ ไม่มีอะไร จากความเครียด  นน ลดมากๆ ออกกำลังกายหนั ก จน โรคที่ร้ายแรงอื่นๆ อาการที่คุณบอกมาไม่เฉพาะเจอะจง และต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบกับการตรวจร่างกายด้วยค่ะ อยากให้กิฟ จขกท แต่หมดแล้วอ่ะ ดีใจที่มีคนช่วย educate คนในสังคม โดยไม่หวังผล อย่างนี้ เรียกว่าให้ธรรมทาน ขออนุโมทนาด้วยค่ะ จากคุณ : cardiogenic - [ 22 ต.ค. 51 18:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มีสาระ .. อ่านง่าย .. แถมยังทำคนอ่านอมยิ้มได้ ถูกใจให้ 1 โหวตเลยค่ะ ..^^ จากคุณ : yuuraya - [ 22 ต.ค. 51 20:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 22 ต.ค. 51 21:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 73 "พวกนี้ไม่ช่วยกันประหยัดผ้าอนามัยเลย ลดโลกร้อน" 555 จากคุณ : Wizard. - [ วันปิยมหาราช 01:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ติดตามอ่านจากตอนที่แล้วค่ะ ชอบจังเลย อ่านสนุก มีสาระ ขำๆอีกต่างหาก เสียดายว่าล็อคอินไม่สามารถ ให้กิ๊ฟ กับโหวตได้ แต่เข้ามาโพสตอบ อยากให้คุณหมอยาเขียนมาให้อ่านอีกค่ะ ส่วนตัว ได้เคยทำเลเซอร์ตัดเซลล์ที่จะกลายเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก ตอนนั้น ลูกอายุ 3 ขวบได้ค่ะ เพิ่งจะตรวจเจอ ^_^!! เพราะไม่ได้ไปตรวจภายใน เกือบ 2ปี ( มัวแต่เลี้ยงลูกอ่ะค่ะ) จากคุณ : แววตะวัน วาดฟ้า - [ วันปิยมหาราช 16:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ชอบค่ะ อ่านง่าย มีความรู้ด้วย โหวตโล้ดดดดด จากคุณ : yanglob - [ วันปิยมหาราช 17:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มาให้อีก 1 โหวตค่ะ จากคุณ : noknok - [ วันปิยมหาราช 19:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ให้ใจอีก  1 โหวตค่ะ ขอบคุณมากเลย ต้องไปนัดหมอ ตรวจบ้างแล้วถึงแม้อายุไม่ถึงก็กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ หุหุ จากคุณ : สาวน้อยทีด้า - [ 24 ต.ค. 51 13:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อยากให้มีการตอบคำถามมาเพิ่มค่ะ จากคุณ : ไข่ปลา - [ 25 ต.ค. 51 16:33:33 A:125.26.242.24 X: TicketID:191806 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านสนุกได้ความรู้มากมาย ขอบคุณจขกท. ค่ะ  สำหรับความรู้เรื่องหญิง ๆ ขออนุญาตนำไปบอกต่อที่ห้องชานเรือนนะคะ จากคุณ : ป้าหยด - [ 25 ต.ค. 51 18:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 80 โดนมากลูกค้าเป็นเหมือนกันหมดเลยค่ะ มาซื้อยาสตรี แต่ถามว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากัน ก็เข้าใจความหมายอ่ะนะ ว่ายี่ห้อไหนทำให้เด็กหลุด หรือว่า รสชาดไง ยี่ห้อไหนอร่อยกว่ากัน....แล้วตรูจะรู้ป่าวเนี๊ยะ ไม่เคยกินโว้ย....แล้วก็ไม่เคยคิดทำแท้งด้วยจ้าน้อง จากคุณ : yeelha_yajai - [ 25 ต.ค. 51 21:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อ่านสนุกพร้อมได้ความรู้ดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จะติดตามชมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : Close To Heaven - [ 25 ต.ค. 51 21:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เขียนสนุกดีค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : BeeVee' - [ 25 ต.ค. 51 21:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อ่านสนุกได้ความรู้ รอตอนต่อไปด้วยคน แปะ give ไว้ก่อนนะคะ เดือนนี้หมดตัวไปแล้ว อิ อิ จากคุณ : IcyRose - [ 25 ต.ค. 51 22:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ตามมาโหวตให้ค่ะ -*- จากคุณ : ลูกเต่าน้อย - [ 26 ต.ค. 51 15:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อยากอ่านตอน "ชุด" ยาลดน้ำหนัก ตามคลีนิคที่อาทิตย์ละ 200 อ่ะครับ จะ print ให้แฟนอ่านกันเลยทีเดียว และหากไม่รบกวนมากนัก หากมีตอนใหม่ หลังบ้านไปตามบ้างนะครับ ไม่อยากพลาดของดีๆ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : saengchot - [ 26 ต.ค. 51 16:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณลูกเป็ด รีบเอาตอนต่อไปมาลงนะครับ จากคุณ : รอยยิ้ม ณ ริมเล - [ 27 ต.ค. 51 09:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 87 รออ่านตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : kaajibjib - [ 27 ต.ค. 51 20:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เจ้าของกระทู้เขียนได้น่าอ่านมากเลยค่ะ ได้ความรู้อีกด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : townthara - [ 28 ต.ค. 51 09:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เขียนสนุกมากเลยคะ  ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย มารอติดตามตอนต่อไปเช่นเดียวกันค้า จากคุณ : sunny_dreamland - [ 28 ต.ค. 51 12:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เขียนได้น่าอ่านมากๆ... จากคุณ : wbj - [ 28 ต.ค. 51 13:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 91 โหวตค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ ^^ จากคุณ : หนมปังช็อกโก้ - [ 1 พ.ย. 51 22:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เป็นกระทู้ที่ดีมากๆเรยค่ะ แม่เราเคยไปตรวจภายในแล้วเจอเจ้า HPV ร้องไห้กันบ้านเกือบแตก...กล้วแม่เราเป็นมะเร็งมากเรย ก้อเรยกลับไปตรวจอีกทีแล้วก้อกินยา ตอนนี้ก้อไม่เป็นอะรัยแล้วค่ะ ^^ จากคุณ : little miss summer - [ 2 พ.ย. 51 14:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 93 โหวตค่ะ ^^ จากคุณ : นู๋กุ๊ก... - [ 6 พ.ย. 51 15:43:20 ]