CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เอดส์ ที่ไม่ใช่โพธิ์ดำ

      ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง (6 คน)
      ใช้ถุงยางอนามัยบ่อยครั้ง (4 คน)
      ใช้ถุงยางอนามัยบางครั้ง (1 คน)
      ไม่ใช้ถุงยางอนามัยเลย (1 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 12 คน

     50.00%
     33.33%
     8.33%
     8.33%


    สำหรับคนที่คุ้นเคยกับการเล่นไพ่ จะรู้ว่าเอดส์โพธิ์ดำเป็นไพ่ใบหนึ่งที่มีความหมายมากทีเดียว ถ้าใครได้ไพ่ใบนี้ไว้ครอบครองก็อาจจะพลิกเกมส์ได้ในพริบตา
    สำหรับ “เอดส์” ที่ไม่ใช่ไพ่ กลับไม่มีใครอยากได้มาเป็นเพื่อนสนิทมิตรคู่กาย เรียกได้ว่า ถ้าเลือกได้ ขออยู่ห่างๆจะดีที่สุด
    ค่ะ เอดส์ที่เรากำลังจะพูดถึงในที่นี้ คือ โรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดจากไวรัสตัวร้าย HIV นั่นเอง
    จะว่าไป ถ้าไม่นับความร้ายกาจของเจ้าเชื้อ HIV ที่เราได้ยินได้ฟังได้อ่านมานักต่อนักแล้ว ต้องนับว่า HIV เป็นเชื้อที่มหัศจรรย์มากๆ เพราะว่า เมื่อเข้าไปสิงสถิตย์อยู่ในร่างกายมนุษย์แล้ว เขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เราผลิตยาเข้าไปทำลายเขาได้ ทำให้จนถึงวันนี้ เราก็ยังผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อ HIV ไม่ได้
    แต่ว่า จะฉลาดสักแค่ไหน ก็ไม่พ้นความต้องการเอาชีวิตรอดของมนุษย์ค่ะ ปัจจุบัน เรามียาต้านไวรัส ที่ใช้ลดจำนวนของเชื้อไวรัสในร่างกาย ทำให้คนที่ติดเชื้อ HIV มีอาการน้อยลง ดำรงชีวิตได้ในสังคมแบบพอสมควร ไม่ติดเชื้อฉวยโอกาสชนิดต่างๆง่ายเท่าเดิม แถมยังทำให้แม่ที่กำลังตั้งท้องแต่มีเชื้อ HIV สามารถมีโอกาสมีลูกที่ไม่ติดเชื้อได้มากขึ้นด้วยค่ะ (จริงไม่รู้จะดีไหม เพราะถ้าพ่อแม่ตาย ก็ไม่มีคนเลี้ยงลูกให้อยู่ดี)
    ในความดีทั้งหมดทั้งมวลที่มนุษย์พยายามสร้างขึ้นมาเอาชนะธรรมชาติของโรคภัยไข้เจ็บอย่างโรคเอดส์ ก็ยังมีด้านที่กลายเป็นเหมือนดาบสองคม หากมนุษย์ไม่เข้าใจเรื่องของการดูแลตัวเองและรับผิดชอบต่อชีวิตคนอื่น
    ความเข้าใจผิดเพี้ยนเกี่ยวกับโรคเอดส์นี้ยังมีอยู่มากนัก แม้ทางผู้ดูแลเรื่องสุขภาพประชาชนโดยตรงอย่างกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามโปรโมทให้โรคนี้เป็นโรคอันตรายระดับโลก ทั้งน่าเกลียด น่ากลัว รักษาไม่หาย ใครติดตายแน่
                   มีข้อแนะนำตัวเกี่ยวกับโรคเอดส์มากมายทั้งในรูปแบบโปสเตอร์ สื่อโฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ หนังสือ เช่น อย่าเที่ยวผู้หญิง(หรือเดี๋ยวนี้อาจจะต้องเติมลงไปอีกว่า อย่าเที่ยวผู้ชาย)โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย ห้ามใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เอดส์ไม่ติดทางสัมผัสหรือกินข้าว ฯลฯ
    ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องค่ะ แต่....................ยังมีความเข้าใจผิดอีกหลายข้อเชียว
                  เรามองแต่ว่า เอดส์พบแต่ในคนติดยา ทั้งที่คนติดยาเสพติดที่ใช้เข็มด้วยกัน น้อยลงไปทุกที เพราะยาเสพติดพัฒนาไปจนถึงขั้นไม่ต้องฉีดก็ไฮได้ เรื่องติดกันผ่านเข็มน้อยลงไปมาก อีกอย่างเข็มก็ราคาถูกลง ซื้อหาง่าย ไม่ต้องหลบซ่อนแล้ว เขาจะใช้ด้วยกันไปทำไม
                 เรามองแต่ภาพว่า เอดส์เป็นโรคของคนเที่ยวผู้หญิง หรือพวกรักเพศเดียวกัน ถ้าเรามีแฟนคนเดียว ไม่เที่ยวที่ไหน เราก็คงไม่ติด หรือ....................
                 เราคิดแต่ว่า การเป็นกิ๊ก(หรือเมียน้อย หรือผัวน้อย) ปลอดภัยกว่าเที่ยว ถ้าเรามีกิ๊กที่คบหาหลายคน แต่เรารู้จักกิ๊กดีทุกคนว่าไม่ใช่พวกผู้หญิงหรือผู้ชายขายตัว เราก็ไม่ติดหรอก เอดส์น่ะ
                   ถ้า แฟนคนเดียวของเรา ที่ดูท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อยดังกุลสตรีที่เป็นผ้าพับไว้ หรือเป็นชายหนุ่มสุภาพ มีเชื้อ HIV มาก่อนแล้ว เราจะติดหรือไม่ ถ้าเราไม่ใช้ถุงยางอนามัย
                   ถ้าเราไม่เที่ยวผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่มีกิ๊กไม่เลือกหน้าโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย แล้วกิ๊กที่เราไปคบดันมีเชื้อ HIV เราจะติดหรือไม่
                   นี่ยังไม่นับรวมถึงการติดเชื้ออื่นๆ ทั้งหนองใน ซิฟิลิส เริม เชื้อรา ไวรัสตับอักเสบบี ซี ฯลฯ และเรื่องการท้อง
                   สิ่งที่เราควรโปรโมทในการป้องกันการติดเชื้อ HIV คือ การใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นนิสัยไม่ว่าจะกับใคร จนกว่าจะแน่ใจว่าเขากับเรามีผัวเดียวเมียเดียว (หรือจะผัวผัว เมียเมีย อะไรก็แล้วแต่)แน่ๆ และไม่มีเชื้อ HIV มาก่อน อย่าอาย อย่าอ้างว่าทำไปเพราะรัก อย่าหน้ามืดจนลืมตัวลืมตาย อย่าเชื่อว่าเขาบอกว่าเขาไม่ติดเชื้อแล้วเขาไม่มีจริงๆ เพราะทุกวันนี้ยาต้านไวรัสทำงานดีมากจนคุณดูไม่ออกค่ะว่าคนๆนั้นติดเชื้อหรือเปล่า
                        อีกอย่างที่ต้องโปรโมทคือ การคบหากันทีละคน ระวังตัวเอง safe sex ให้เป็นนิสัย อย่าสำส่อนทางเพศแม้แต่กับคนที่รู้จักกัน เพราะความสำส่อนก็คือความสำส่อน ไม่จำเป็นต้องผูกติดกับการเที่ยวผู้หญิงแต่อย่างใด อีกอย่างผู้หญิงหรือผู้ชายกลางคืนสมัยนี้เขามีความเข้าใจเรื่องเอดส์ดี เขาพกถุงยาง และก็ตรวจโรคเป็นประจำ
                        สิ่งที่เข้าใจผิดกันอีกอย่าง คือว่า การมีเพศสัมพันธ์ทางพิเศษ เช่น ทางก้น ทางปาก ใช้อุปกรณ์ (sex toy) แทนอวัยวะจริง การทำ masturbation ให้อีกฝ่าย ฯลฯ โดยไม่คิดจะใช้ถุงยาง จะไม่ติดเอดส์และโรคอื่นๆ ไม่จริงค่ะ ทางพิเศษพวกนี้ แค่ไม่กลัวว่าจะท้อง และทำเสมือนหนึ่งว่าเรายัง virgin ไม่มีอะไรมาผ่านร่างกาย ทั้งที่จริงๆแล้ว ก็เรียก sex เหมือนกันน่ะแหละ
                      วัยรุ่น (หรือผู้ใหญ่บางคนก็เหอะ)จำนวนมาก ใช้เพศสัมพันธ์ทางพิเศษเพื่อเอาใจแฟน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แล้วก็ติด HIV หรือโรคอื่นๆมาโดยไม่ตั้งใจ การตั้งท้องกลับกลายจะเป็นปัญหาที่วัยรุ่นกังวลน้อยลงเสียแล้ว เพราะว่ามีทั้งยาฉุกเฉิน ทั้งการทำแท้ง(เถื่อน) เป็นตัวช่วย
                       วันนี้คุณถามตัวเองหรือยังว่า คุณกำลังจั่วไพ่สำรับใหม่ด้วยมือเปล่าแล้วมี “เอดส์” ติดมาด้วยหรือเปล่า

    จากคุณ : อย่างไรก็ดี - [ 24 ต.ค. 51 12:52:20 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com