ความคิดเห็นที่ 1 จากนั้นสิ่งที่ตามมาคือการพาภรรยาผมไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจพร้อมกับฝากครรภ์ไปด้วย 1 สัปดาห์แห่งความสุขผ่านพ้นไป ผมจำได้ว่ากำลังนั่งประชุมที่ ITMX เวลาประมาณบ่ายแก่ๆ จู่ๆภรรยาผมก็โทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือ เสียงในสายเป็นของภรรยาผมเอง เธอบอกว่าเธอนึกขึ้นได้ว่าก่อนตั้งครรภ์ เธอได้ไปทานยาตัวหนึ่ง เป็นยารักษาสิวในกลุ่มของกรดวิตามินเอ “Roaccutane” และเพิ่งจะหยุดยาไปได้มานานนี้เอง และที่สำคัญคือ ยานี้มีผลกับการตั้งครรภ์โดยตรง! ผมทั้งตกใจ เสียใจ และหัวเสีย ใจผมตอนนั้นไม่ได้อยู่กับการประชุมอีกแล้ว อยากให้เลิกประชุมเร็วๆและรีบไปโรงพยาบาล เย็นวันนั้น ผมและภรรยาไปที่โรงพยาบาลแห่งนึงย่านสีลม คุณหมอที่หลังจากทราบเรื่องแล้วก็ให้ภรรยาของผมไปอุลตร้าซาวน์ คุณหมอท่านแจ้งว่าลูกของผมนั้น มีขนาดเล็กกว่าปกติ และท่านไม่แนะนำให้เอาเด็กไว้เนื่องจากเกรงว่าเด็กจะได้รับผลกระทบจากยาที่ภรรยาทานเข้าไป คืนวันนั้นทั้งผมและภรรยาร้องไห้กันทั้งคู่ ถึงผมจะโกรธภรรยาแค่ไหน แต่ก็ไม่ว่ากล่าวอะไรเธอ เพราะเธอก็เจ็บปวดไม่แพ้ผม 2 – 3 สัปดาห์ถัดมาเป็นช่วงเวลาที่ผมพาภรรยาไปตรวจที่อื่น ซึ่งก็ได้รับคำตอบไม่ต่างกับคุณหมอที่โรงพยาบาลแรกมากนัก ผมตัดสินใจพาภรรยากลับไปที่โรงพยาบาลแรก เพื่อถามถึงการเอาเด็กออก ว่าต้องทำอย่างไร จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 29 ต.ค. 51 15:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณหมอแจ้งว่า ที่โรงพยาบาลนี้ ไม่รับทำให้เนื่องจาก 1) ขัดต่อหลักศาสนาของโรงพยาบาล 2) เด็กยังไม่เสียชีวิต ถ้าเด็กไม่มีชีวิตแล้ว คุณหมอจะพิจารณายุติการตั้งครรภ์ให้ ผมเองก็สงสัย ถ้างั้นจะให้ผมพาภรรยาไปเอาเด็กออกที่ไหนกัน ในที่สุด คุณหมอเองนั่นแหละที่เป็นผู้แนะนำผมและภรรยา มีอยู่ 2 แห่งครับ (ไม่ได้ชี้นำนะครับ) ที่แรกอยู่แถวสุขุมวิท ส่วนอีกที่ อยู่ย่านคลองตัน หลังปีใหม่ ผมและภรรยาได้ตัดสินใจลางาน 1 วันเพื่อไปเอาเด็กออก (เป็นการลางานที่ขมขื่นที่สุดในชีวิต) เราขับรถไปที่ย่านสุขุมวิท ที่คุณหมอแนะนำมา (ที่แห่งนี้ มีบางคนบอกผมและภรรยาว่าเป็นศูนย์แนะนำปัญหาครอบครัว – แต่จริงๆคือไม่ใช่ ซึ่งผมจะกล่าวถึงในลำดับต่อไป) พอไปถึงสถานที่จริงก็รู้สึกแย่ตั้งแต่แรกเห็นเลย ด้านล่างเป็นร้านอาหารครับ ส่วนสถานปรึกษาปัญหาครอบครัวที่ว่านั่นอยู่ชั้นบนของร้านอาหาร จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 29 ต.ค. 51 15:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วันนั้นผมจำได้ว่าถือแผ่นฟิลม์ X-Ray จากโรงพยาบาลไปด้วย ซึ่งโง่มาก เป็นเพราะว่าตอนนั้นผมคิดว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่รับทำเรื่องแบบนี้ที่ถูกต้องและเป็นไปตามหลักวิชาการ ตอนนั้นผมคิดว่า “แพทย์” ที่สถานที่นี้คงจะปฏิบัติงานง่ายขึ้นหรือรู้ที่มาที่ไปของผมและภรรยามากขึ้นหากได้เห็นฟิลม์ X-Ray แผ่นนี้ ซึ่งไม่ใช่เลย ผิดถนัด พอเราขึ้นไปถึงชั้น 2 ผมก็ถูกแยกออกมาจากภรรยา ภรรยาผมถูกพาไปอัลตร้าซาวน์อีกครั้ง โดยถูกพาไปที่ไหนก็ไม่ทราบได้ เค้าไม่ให้ผมตามไป สุดท้าย เค้าก็กันให้ผมไปนั่งที่แถวม้านั่งยาว ซึ่งมีคนนั่งรออยู่บ้างประปราย ห้องโถงใหญ่ที่ผมนั่งมีลักษณะคล้ายครึ่งวงกลมโดยมีห้องแยกเป็นห้องๆอยู่ตามเส้นรอบวง ผมนั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ รอภรรยา ระหว่างที่ผมนั่งรออยู่นั้น ผมสังเกตเห็นมีผู้หญิงหลายคนเดินเรียงแถวกันเป็นชุดๆเข้าตามห้องนี้บ้าง ห้องนั้นบ้าง เข้าทีนึงไม่ต่ำกว่า 7 – 8 คน ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้หรอก ว่าเค้าเดินเรียงแถวเข้าไปทำอะไรในห้องต่างๆเหล่านั้น ในขณะที่ผมนั่งอ่านหนังสือและดูผู้หญิงแต่ละคนเดินแถวเข้าไปในห้องต่างๆเหล่านั้น ภรรยาผมก็วิ่งมาหาผม ดวงตาแดงก่ำ บอกผมว่าไปกันเถอะ ไม่เอาแล้ว ไปที่อื่น ผมก็คว้าข้าวของเดินตามเธอออกมาอย่างงงๆ งงเพราะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนมาถึงที่รถนั่นล่ะ ภรรยาผมถึงได้เอ่ยปาก ผม : เมื่อกี๊เป็นอะไรเหรอ ภรรยา: ชั้นไม่อยากอยู่ที่นั่นแล้ว เค้าพูดจาไม่ดีเอามากๆ เหมือนชั้นเป็นผู้หญิงใจแตก ผม : เค้าพูดอะไรกับเธอ ภรรยา : เค้าพูดกับชั้นประมาณว่าชั้นอยากรักสนุกเอง ไม่ต้องทำหน้าเศร้า ผม : ….. (ถึงตอนนี้ผมรู้สึกโง่มาก จะถือฟิลม์ X-Ray ของหมอมาทำไม ถ้าคนที่นี่มองว่าเราเป็นชาย – หญิงใจแตกรักสนุก) ภรรยา : เธอนั่งอยู่ข้างนอก เห็นที่ผู้หญิงเดินเข้าแถวกันเข้าไปในห้องมั้ย ผม : เห็น ภรรยา : นั่นแหละ ห้องทำแท้งนะ ผม : เหรอ เข้าไปทีละเป็นสิบนั่นน่ะนะ ภรรยา : ใช่ ผม : เฮ่ย แล้วทำ “อย่างนั้น” กันยังไง ? ภรรยา : แยกเป็นเตียงๆ มีฉากกั้น ทำในห้องเดียวกัน คนทำเป็นผู้ชาย ใช้คีมคีบออกมา ถ้าคนไหนเจ็บจะโดนผู้ชายคนนั้นพูดจาไม่ดีด้วยเอามากๆ ชั้นทนไม่ไหว เลยออกมา จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 29 ต.ค. 51 15:58:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมฟังแล้วเจ็บใจ เราไม่ได้อยากจะเอาเด็กออก เราอยากจะมีลูก แต่หมอแนะนำให้เอาออกเนื่องจากเสี่ยงต่อความผิดปกติแล้วหมอก็ไม่รับเอาเด็กออกให้เนื่องจากเด็กยังไม่ตาย แต่คนที่นี่มองเราเป็นพวกใจแตกรักสนุก ผมกับภรรยาตัดสินใจขับรถไปอีกที่ย่านคลองตัน ที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ค่อนข้างซอมซ่อ เมื่อผมและภรรยาแจ้งต่อแผนกทะเบียนว่า “มารับคำปรึกษาปัญหาตั้งครรภ์” พวกเราก็ถูกพาไปยังด้านหลังตึกทันที ที่แห่งนี้ยังพอรับได้มากกว่าที่แรก ยังมีการเรียกผมและภรรยาเข้าไปนั่งคุยด้วย ไม่เหมือนที่แรก ที่ลับๆล่อๆมากและกันผมไปนั่งที่อื่นตั้งแต่ต้น ผมไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนที่อยู่ในห้องแต่ละห้องนั้นเป็นแพทย์หรือเปล่า แต่เค้าก็จะถามผมและภรรยาถึงอาชีพ, ระยะเวลาที่แต่งงานอยู่ด้วยกันมา, ประเภทที่ต้องการจะทำ (แบบขูดออกกับแบบดูดออก) ซึ่งผมและภรรยาเลือกแบบดูดออก นาทีต่อมา ผมพบตัวเองชำระเงินค่าฆ่าลูกตัวเองเป็นจำนวน 7000 บาทแล้วก็ถูกพาไปยังห้องๆหนึ่ง เค้าให้ผมรออยู่หน้าห้อง แล้วให้ภรรยาเข้าไปทำความสะอาดร่างกายในห้องนั้น ระหว่างนั้น มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนึงเดินมาบอกผมว่าให้กลับมาอีกทีในอีก 3 ชั่วโมงให้หลัง ผมก็บอกเจ้าหน้าที่ว่าผมต้องการรอ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ผมรอ ก็ไม่ทราบว่าทำไม สุดท้ายผมก็ต้องออกมาจากที่นั่นโดยบอกกับภรรยาว่า ผมจะมารับ สามชั่วโมงให้หลัง ผมกลับมาที่หน้าห้องดังกล่าว ถามหาชื่อภรรยาว่าอยู่ที่ไหน แต่ไม่มีเจ้าหน้าคนไหนยอมบอก ผมว้าวุ่นใจอย่างแรงและเป็นห่วงภรรยาอย่างมาก เพราะไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมเดินไปทั่วตึก ขึ้นลงทุกชั้นถามหาภรรยาผม ไม่มีใครบอกว่าอยู่ที่ไหน สุดท้าย มีเจ้าหน้าที่ท่านนึงเรียกผมไปนั่งแล้วต่อสายโทรศัพท์ภายใน ให้ผมคุยกับเจ้าหน้าที่อีกคน จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 29 ต.ค. 51 15:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผม : ผม XXX สามีคุณ XXX ที่มาเมื่อตอนเที่ยง ตอนนี้ผมมารับภรรยาผมกลับบ้าน เค้าอยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่ : จัดการเรื่องให้เรียบร้อยแล้ว คนไข้กำลังนอนพัก คุณรอก่อนนะ ผม : ผมอยากพบภรรยาผม เค้าอยู่ที่ห้องไหนครับ เจ้าหน้าที่ : ไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวเค้าก็ฟื้นแล้ว ผม : ทำไมถึงห้ามเข้าพบ ? เจ้าหน้าที่ : คงต้องใช้เวลาอีกหน่อยให้คนไข้ได้พัก คุณกลับไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะติดต่อไปเอง แล้วเจ้าหน้าที่ก็วางหูไป กลับไปก่อน?? ให้ผมกลับไปก่อน???? แล้วภรรยาผมล่ะ???? ระยะเวลาจากนั้นคือการนั่งรอด้วยความทุกข์ทรมานใจอย่างที่สุด ผมไม่รู้ว่าภรรยาของผมอยู่ห้องไหน มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า แต่หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง รวมเบ็ดเสร็จที่รอตอนแรกไป 3 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง ภรรยาผมก็โทรมาเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของผม แต่คนที่พูดปลายสาย ไม่ใช่ภรรยาของผม เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิง เจ้าหน้าที่ : คุณเป็นแฟนคุณ xxx ใช่หรือเปล่า ผม : ครับ เจ้าหน้าที่ : คุณชื่อนามสกุลอะไร ผม : ไม่ทราบจะถามไปทำไมครับ เจ้าหน้าที่ : เราต้องรู้ เพราะเผื่อแฟนคุณหนีออกไปแล้วเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เราจะได้มีหลักฐานว่าคุณเป็นคนพามาเอง ผม : …… ผมก็ให้ชื่อและนามสกุลกับเจ้าหน้าที่ไป แล้วเค้าก็ส่งสายให้ภรรยาผมคุย ภรรยา: ชั้นจะรออยู่ข้างล่างนะ ตรงที่จอดรถ (โรงพยาบาลนี้มีที่จอดรถอยู่ชั้นล่าง ด้านหน้า) เมื่อพบภรรยา ผมค่อนข้างงง เพราะเธอดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย เดินเหินตามปกติ ไม่เหมือนคนที่เพิ่งทำแท้งมา ผม : เค้าทำยังไงบ้าง ภรรยา : ให้ดมยาสลบ แล้วก็ดูดออก ผม : เจ็บมั้ย ภรรยา : ไม่เชิงนะ รู้สึกเหมือนตึงๆมากกว่า จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 29 ต.ค. 51 15:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากนั้นไม่ถึงเดือน ผมก็พาภรรยาไปที่โรงพยาบาลแถวสีลม เพื่อไปบอกคุณหมอว่าได้ไปเอาเด็กออกมาแล้ว และอยากให้ตรวจภายในเพื่อความไม่ประมาท แต่คุณหมอที่ผมพบคราวนี้ เป็นคนละคนกับที่เคยพบในทีแรก คุณหมอตรวจแล้วก็บอกว่า “ทำเรียบร้อยดี” ผมและภรรยาจึงสบายใจ สุดท้ายนี้ มีคุณหมออยู่ท่านนึงที่ผมอยากขอบคุณท่านเป็นพิเศษ ในช่วงที่ผมและภรรยาตระเวนขอคำปรึกษาจากแพทย์นั้น ได้เข้าไปที่โรงพยาบาล BNH และได้พบคุณหมอบุญชัย (ขออภัยที่จำนามสกุลท่านไม่ได้) คุณหมอบุญชัยเป็นท่านเดียวที่อยากให้ชะลอเรื่องการเอาเด็กออกเอาไว้ก่อนในขณะที่แพทย์ท่านอื่นๆยืนยันให้เอาเด็กออกสถานเดียว และคุณหมอบุญชัยอยากให้ผมและภรรยาเข้ารับการตรวจโดยคณะแพทย์ที่คุณหมอจะ form team ขึ้นมา คุณหมอมีจิตวิทยาดีและให้กำลังใจดีมากครับ แต่ตอนนั้นผมและภรรยาคิดว่าหากยิ่งปล่อยนานไป จะยิ่งอันตรายต่อตัวคุณแม่ในการเอาเด็กออก จึงตัดสินใจทำ ยังไงก็ตาม ขอขอบพระคุณคุณหมอเป็นอย่างยิ่งครับ ที่ผมนำเอาเรื่องนี้มาแชร์ เพราะเห็นว่ากระทู้แนะนำในห้องนี้ ตอนนี้มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้ง ก็เลยอยากตีแผ่ประสบการณ์ของผมและภรรยาไว้เป็นอุทธาหรณ์ เพื่อความไม่ประมาทในการทานยาใดๆระหว่างตั้งครรภ์ ผลเสียนั้นจะเป็นเหมือนแผลอยู่ในใจเราตลอดไป ซึ่งตรงนี้ผมยอมรับว่าเป็นเพราะความประมาทของผมและภรรยาเอง บทเรียนครั้งนั้นของเรา ราคาแพงเกินไปครับ และจะไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ทำแท้งให้คุณพูดให้กำลังใจหรือสนใจในสาเหตุที่คุณมาทำแท้งหรอกครับ ทุกคนจะมองคุณโดยตราหน้าคุณอยู่ในใจแล้ว และเหมารวมไปถึงทุกคนที่เข้ามาทำแท้ง คุณจะถูกมองว่า “ใจแตก” ไม่มีประการอื่นครับ ปัจจุบัน ภรรยาของผมกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้ว เป็นเพศหญิง และเพิ่งเริ่มดิ้นเมื่อ 3 วันก่อนนี้เอง ผมดีใจมากที่ทุกวันนี้ได้เริ่มต้นใหม่และภรรยาผมเองก็ตั้งใจไว้ว่าต่อไปนี้จะไม่แตะต้องยาแก้สิวหรือยาใดๆที่มีความเสี่ยงอีกแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอ และเรารู้ดีว่า ประสบการณ์ครั้งนั้น จะหลอกหลอนเราไปจนวันที่เราตาย “จะทานยาใดๆ ระหว่างตั้งครรภ์ หรือก่อนตั้งครรภ์ ปรึกษาแพทย์ก่อนครับ” จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 29 ต.ค. 51 15:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เสียใจกับเหตุการณ์ในอดีตด้วยครับ และดีใจด้วยกันอนาคตใหม่ ที่กำลังจะสดใส อวยพรให้บุตรคนนี้ปลอดภัย แข็งแรงนะครับ จากคุณ : นักสำรวจ - [ 29 ต.ค. 51 16:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นอุธาหรณ์ได้อย่างดีเลยค่ะ ยารักษาสิวกลุ่มนี้ ถ้าจะกิน ก็ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ และคุมกำเนิดควบคู่กันไปด้วย ขอบคุณ จขกท ที่มาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ จากคุณ : KwanGZaar - [ 29 ต.ค. 51 16:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอให้มีความสุขกับปัจจุบันและอนาคตกับลูกสาวแสนน่ารักนะค่ะ จากคุณ : loversgirl - [ 29 ต.ค. 51 16:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านเสร็จแล้ว ก็รู้สึกเห็นใจนะคะ เมื่ออยากจะมีลูก ทุกอย่างต้องพร้อมจริงๆ ประมาทไม่ได้เลยซักเรื่อง ห้ามมองข้าม เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่งั้นตัวเรานั่นแหละที่จะเสียใจที่สุด **ตัวเองก็เคยมีประสบการณ์คล้ายๆอย่างนี้เหมือนกัน แต่ยาที่กินไปไม่อันตรายต่อตัวเด็ก แต่ก็เกือบแท้งลูก** ทุกวันนี้ลูกแข็งแรงดี แต่ซนสุดๆๆ เหนื่อยไปอีกแบบ เนี้ยแหละชีวิตคนเป็นแม่จ้า จากคุณ : jprommy - [ 29 ต.ค. 51 16:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาให้กำลังใจนะคะ จากคุณ : GetCha - [ 29 ต.ค. 51 16:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทีแบ่งกันอ่าน อ่านแล้วสะเทือนใจ ขอให้คุณเอาใจใส่และรักภรรยาและลูกที่กำลังจะเกิดนะคะ จากคุณ : la-la-bell - [ 29 ต.ค. 51 16:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่มาแบ่งปันนะคะ ขอให้คุณแม่กับคุณลูกแข็งแรงทั้งคู่ค่ะ จากคุณ : หมึกปิ้งสีชัง - [ 29 ต.ค. 51 17:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วงง 1) ลูกตัวเล็กกว่าปกติ แล้วต้องทำแท้งแล้วเหรอ 2) กินยารักษาสิว แล้วตรวจพบว่าตั้งครรภ์ ก็หยุด ไม่จำเป็นต้องเอาเด็กออกทุกรายนิครับ ที่ว่ายามีผลต่อเด็กในครรภ์ น่าจะหมายถึงเวลาตั้งครรภ์อย่ากิน แต่ถ้ากินแล้วพบว่าตั้งครรภ์ก็ให้หยุดกิน 3) ทำไมหมอแนะนำอย่างนั้น จากคุณ : หมอก้อนหิน - [ 29 ต.ค. 51 17:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นข้อมูลที่ดีครับ ใครที่กินยา แบบไม่คิดหน้า หลัง จะได้พึงระวังไว้ โดยเฉพาะคนที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ จากคุณ : samr - [ 29 ต.ค. 51 17:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งงเหมือนคคห.14 แต่เอาเถอะครับ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ขอให้ลูกคนนี้ปลอดภัย จากคุณ : natefang - [ 29 ต.ค. 51 17:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อืม เรื่องยาเนี้ย ถ้าเราจำไม่ได้ผิดนะคะ ถ้าเพิ่งจะทานยาไปเนี๊ย ภายใน3เดือนหลังจากนั้น ห้ามตั้งครรภ์คะ เราว่าลูกคุณคนแรกเข้าใจคะ แล้วเค้าก็มาเกิดเป็นลูกคนอีกครั้งไงคะ ^^ ดูแลกันและกันและกัน (3 คน) ดีๆนะคะ ^^ จากคุณ : Mi Lady & Mi Lord - [ 29 ต.ค. 51 17:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เศร้าใจจังค่ะ ในกรณีของคุณยังถือว่าจำเป็นค่ะ เหมือนเด็กที่พ่อแม่มีโรคประจำตัว หากตั้งครรภ์อาจทำให้ต้องเลือกระหว่างแม่หรือลูก หรือเด็กอาจพิการ ก็จำเป็นต้องทำแท้ง จขกท. ทำบุญเยอะๆ นะคะ ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้เค้าด้วยค่ะ จากคุณ : เต้าฮวยคุณยาย (เต้าฮวยคุณยาย) - [ 29 ต.ค. 51 17:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอตอบความเห็นที่ 14 ตัวเล็กแล้วต้องทำ เนื่องจากอายุครรภ์ไม่มาก เพราะถ้าอายุครรภ์มากขึ้นทารกก็ต้องตายอยู่ดี เนื่องจากยาและปัจจัยหลายๆ อย่างที่จะทำให้ทารกไม่เจริญเติบโตตามอายุครรภ์ จึงให้รีบตัดสินใจเผื่อความปลอดภัยของตัวมารดาก่อนค่ะ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ (ไม่แน่ใจว่ามีการเจาะน้ำคร่ำออกมาดูก่อนหรือเปล่า เพราะจะบอกได้เยอะ) เจ้าของกระทู้คิดถูกแล้วค่ะ ที่รอการวินิจฉัยจากแพทย์หลายๆ ท่าน ตอนเราไปทำก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เค้าคิดว่าเราใจแตก ไม่คิดว่ามีเรื่องจำเป็น ขนาดไปทำที่ รพ. (ขอไม่บอกชื่อ เพราะรพ.นี้รักษาโรคตามปกติอยู่) ที่เราไปทำเพราะว่า มีการรักษาเกี่ยวกับเลือด รับเลือด แล้วติดเชื้อในกระแสเลือด เข้าสู่ทารกเต็มๆ ครรภ์เป็นพิษ อายุครรภ์แค่ 3 สัปดาห์เอง ดีใจกับเจ้าของกระทู้นะคะ ที่จะได้เป็นครอบครัวเต็มๆ อีกครั้ง จากคุณ : พิมพ์ไปน้ำตาไหลไป - [ 29 ต.ค. 51 17:55:21 A:124.120.1.232 X: TicketID:190213 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ครอบครัวมีความสุขมากนะคะ จากคุณ : เอริ (Daisuki da yo) - [ 29 ต.ค. 51 19:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ทำบุญให้ลูกคุณบ้างหรือเปล่าคะ เราก็มีเพื่อนคนนึงที่ต้องทำแทงค์เหตุเพราะสุขภาพของลูก (พิการ) พอทำแท้งแล้ว เอาศพลูกที่โดนบีบจนแตกเป็นชิ้นๆ เพื่อดูดออก ไปทำพิธีเล็กๆ แบบไม่บอกใครที่วัด ทุกวันนี้เพื่อนเราก็ยังไปเคารพศพอยู่ จากคุณ : แวนนี่ - [ 29 ต.ค. 51 19:28:25 A:10.0.2.101 X:125.25.252.142 TicketID:109723 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เชื่อว่า หากให้เข้าเกิดมา พิกล พิการ เราจะเจ็บปวดมากกว่านี้ เป็น กำลังใจ ให้ จขกท. จากคุณ : ก้นกบ - [ 29 ต.ค. 51 20:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ ขอแสดงความเสียใจกับเรื่องร้ายๆที่คุณ จขกท และ ภรรยา ได้พบเจอมานะคะ รวมถึงท่านอื่นๆที่เข้ามาเล่าประสบการณ์ให้ชาวสวนลุมฯได้ฟังค่ะ และขอแสดงความยินดีด้วยที่ตอนนี้กำลังจะมีสมาชิกน้อยๆมาเติมเต็มครอบครัวของคุณแล้วนะคะ ขอให้น้องที่กำลังจะเกิดมาเป็นเด็กที่แข็งแรง สมบูรณ์ และเป็นลูกที่ดีของคุณ จขกท และภรรยาด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : Kudjee - [ 29 ต.ค. 51 20:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอให้ได้ลูกสาว ที่น่ารัก แข็งแรง และเป็นเด็กดี ครับ จากคุณ : กระบือ ลำตะคอง - [ 29 ต.ค. 51 21:19:18 A:117.47.175.118 X: TicketID:188013 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ยาชนิดนี้ ก็กำลังคิดจะทานเพื่อรักษาสิวค่ะ แพงด้วย... พี่คนที่แนะนำเค้าก็บอกว่าถ้าคิดจะมีลูกห้ามกิน เพราะจะทำให้มดลูกแห้ง มีผลต่อฮอร์โมน ประมาณนี้ หลังจากกินก็ต้องหยุดเป็นปี ถึงจะวางแผนมีลูกได้ ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวนะคะ แต่ก่อนจะซื้อยาชนิดนี้ เค้าจะเตือนมาก่อน... คิดไปคิดมา รู้สึกว่ายาชนิดนี้จริงๆ แล้วอันตรายยังไงก็ไม่รู้ ทั้งทำให้ผิว แห้ง ปากแห้ง หยุดกินแล้วมีโอกาสสิวขึ้นอีก ไปหาคุณหมอโรคผิวหนังมา ก็แนะนำว่าไม่ควรกินในการรักษาสิว...แต่บางคลีนิกทั้งยุให้ฉีดกลูต้า ทั้งยุให้กินยาตัวนี้ แพงก็แพง ดีนะเนี่ย ที่คิดจะมาหาข้อมูลในพันทิปก่อน เลยรู้ว่ากลูต้าไทโอนชนิดฉีดผิดกฎหมาย แล้วคลีนิกนั้นยังให้บริการได้ยังไงก็ไม่รู้ สรุปว่า...ไม่ควรรับประทานยาตัวนี้เลย... ขอบคุณที่ช่วยบอกเล่าเพื่อเป็นอุทาหารณ์ นะคะ ขอให้...เป็นครอบครัวที่มีความสุขมากๆ นะคะ...รู้สึกเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ยินดีด้วยที่มีน้องอีกคนแล้วค่ะ จากคุณ : หนอนหลังยาว - [ 29 ต.ค. 51 21:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราอ่านแล้วเข้าใจได้ว่ายานั้นเป็นประเภทโรแอคคิวเทนใช่มั้คะ                         คนที่ไม่เคยกิน ไม่เคยหาข้อมูลคงไม่รู้ค่ะว่ายานี้มีผลกับการตั้งครรภ์มาก     ยากลุ่มนี้ จะทำให้ต่อมไขมันทำงานน้อยลง คนทานหน้าไม่มัน สิวไม่(ค่อย)ขึ้น แต่สำหรับทารกในครรภ์ ซึ่งไขมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต คิดดูสิคะ แม่ต่อมไขมันไม่ทำงาน แล้วจะมีไขมันไปสร้างสมองและส่วนอื่นๆของลูกได้เหรอ ยานี้ ต้องรับประทานภายใต้การควบคุมของแพทย์ค่ะ แพทย์จะต้องซักประวัติก่อนว่าตั้งครรภ์หรือไม่ และถ้าทานยาแล้ว หลังเลิกทานยา ต้องคุมกำเนิดอย่างน้อย 6 เดือนค่ะ แต่เพื่อนเราที่เป็นหมอ บอกว่าชัวร์ๆปีนึงเลยดีกว่า ในช่วงนี้ ผู้ที่รับประทานยานอกจากห้ามตั้งครรภ์ ยังห้ามบริจาคโลหิตด้วย เพราะถ้าสตรีมีครรภ์รับเลือดนี้ไป จะเกิดอันตรายแก่ทารกได้ค่ะ เราก็เคยทานยานี้ค่ะ เจ็บใจหมอคนแรกที่จ่ายยาให้เรามากๆ ไม่ถามซักคำว่าเราท้องรึเปล่า สักแต่ขายยา โชคดีนะคะ ที่เรไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ แต่มันสะท้อนให้เห็นความละหลวมของคนที่ใช้คำว่า"หมอ"จริงๆ เราให้กำลังใจจขกทนะคะ ขอให้ลูกสาวน่ารัก แข็งแรง คุณแม่ก็คลอดอย่างปลอดภัยค่ะ ^______^ ปล.ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น เป็นข้อมูลจากความจำล้วนๆ ซึ่งอาจจะมีผิดพลาดบ้าง ใครเห็นยังไง แก้ไขได้ค่ะ ปล. 2 แต่เคยอ่านเจอกระทู้นึง คุณแม่คนนึงก็กินยานี้เหมือนกัน แต่เธอรับประทานไปเม็ดหรือสองเม็ดนี่แหล่ะค่ะ จึงตัดสินใจเอาน้องไว้ ตอนนี้แข็งแรงดี ^ ^ แต่ต้องดูการเจริญเติบโตทางสมองต่อไปด้วย แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 51 22:08:26 จากคุณ : bienca - [ 29 ต.ค. 51 22:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดีใจกับคุณจขกท.ด้วยนะคะที่จะได้มีเจ้าตัวน้อยแล้ว จากคุณ : fungjai - [ 29 ต.ค. 51 22:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อยากจะบอกว่า Give ที่ให้ไม่ได้เพราะถูกใจครับ แต่ให้กำลังใจและขอบคุณที่เอาเรื่องราวให้เป็นข้อคิดครับ ขอให้ลูกคนใหม่คลอดออกมาปลอดภัยและแข็งแรงครับ ทั้งคุณแม่ด้วย จากคุณ : You know me a little go - [ 29 ต.ค. 51 22:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากครับ ที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง เป็นกำลังใจให้นะครับ อย่าลืมทำบุญให้เขาทุกๆปีนะครับ อุทิสส่วนกุศล และอโหสิกรรมแก่เราด้วยนะครับ จากคุณ : Impetus - [ 29 ต.ค. 51 22:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาให้กำลังใจค่ะ เคยได้ยินชื่อยานี้เหมือนกัน เพื่อนหลายๆ คนกินเพื่อรักษาสิว ไม่คิดว่ามันจะอันตรายขนาดนี้ ทำบุญให้ลูกคนแรกมากๆ นะคะ เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับกรรม เค้าบอกว่าเด็กที่จะมาเกิด ต้องต่อคิวกันนาน เมื่อแท้งไปในเจตนาใดก็ตาม เค้าก็จะยังไปไหนไม่ได้ และเวลาทำบุญกรวดน้ำให้ก็จะไม่ได้รับเพราะไม่มีใครตั้งชื่อให้ จะต้องระบุว่า ลูกของ ชื่อสามีและภรรยาฯลฯ เค้าถึงจะได้รับ ขอให้ลูกสาวที่กำลังจะเกิด เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงนะคะ จากคุณ : iSIs_OsiRis - [ 29 ต.ค. 51 22:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^-^ เจ้าของกระทู้ตั้งชื่อน้องหรือยังครับ ถ้าน้องโผล่หน้ามาทักทายโลก อย่าลืมเอามาอวดกันนะครับ ขอให้แข็งแรงทั้งแม่และลูก คุณพ่อก็ดูแลสองสาวให้ดีด้วยล่ะ ^-^ จากคุณ : สุริยาแก้มป่อง (สุริยาแก้มป่อง) - [ 29 ต.ค. 51 23:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้น้องที่กำลังจะเกิดมาแข็งแรงค่า จากคุณ : อีฟนี่หว่า - [ 30 ต.ค. 51 00:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านแล้วลุ้น ๆๆ นึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นซะแล้ว ตอนที่ จนท. พวกนั้นบอกให้รอ ๆๆ มีการบอกให้ไปที่อื่นอีก -"-  ทำไมทำลับๆ ล่อๆ ไม่บอกตรง ๆ จากคุณ : emilija - [ 30 ต.ค. 51 00:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เศร้าจังเลยค่ะ อ่านแล้วขนลุกเฉยเลย เป็นไรเนี่ย จากคุณ : asita - [ 30 ต.ค. 51 01:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ช่วงเเรกอ่านเเล้วสะเทือนใจ เศร้าตามจะร้องไห้เลย พี่ที่ทำงานเก่าเคยต้องทำแท้งเหมือนกัน เพราะแกเป็นโรคเลือด เกิดมาลูกเสี่ยงพิการมากๆ ตอนนี้เพื่อนเราคนนึงเตรียมจะเเต่งงาน มาปรึกษาว่าจะกินวิตตามินอะไร อยากผิวเด้งๆสวยๆ ก็ไม่เเนะนำให้ทานอะไรเลยค่ะ เพราะเห็นว่าจะปล่อยท้องเลย กลัวมีอะไรตกค้าง ถึงจะเป็นเเค่อาหารเสริมก็เหอะ ขอให้ภรรยาเเละคุณจขกท. เข้มเเข็งต่อไปนะคะ เพื่อเด็กน้อยที่จะลืมตาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ^^ ยินดีกับคุณพ่อคุณเเม่มือใหม่ด้วยค่ะ ขอให้บุญรักษา คุณพระคุ้มครองนะคะ จากคุณ : ซาลาเปา ขาว อวบ เอ็กซ์ - [ 30 ต.ค. 51 07:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านแล้วรู้สึกประหลาด นี่มันเคสที่การทำแท้งเป็นสิ่งจำเป็นนี่นา แต่โรงพยาบาลไม่ทำให้เนี่ยนะ ดันแนะนำให้ไปทำที่เถื่อน - - ถ้าไปทำที่เถื่อนแล้วทำไม่ดี มดลูกทะล้งทะลุมาจะว่ายังงไงฟะ โอ้วแมน อ่านแล้วหงุดหงิดโรงบาล เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้ว ต่อจากนี้ขอให้เจ้าของกระทู้และภรรยาและน้องมีความสุขมากๆนะคะ จากคุณ : PADAPA--DOO - [ 30 ต.ค. 51 08:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณที่นำประสบการณ์ความรู้มาเผยแพร่....เผื่อครอบครัวใหม่ ๆ ที่กำลังวางแผนจะมีลูกได้ระวังกันไว้.....อ่านแล้วคิดว่ายาแก้สิวทำไมมีอานุภาพรายแรงจัง....ดีที่เกิดมาไม่เคยกินยาแก้สิวเลย.....ไม่มีความรู้ด้านนี้มาก่อนเลยนะ.... สุดท้าย...ดีใจกับสมาชิกตัวน้อยคนใหม่....ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ....ทุกคนเลยนะคะ.... จากคุณ : DoDream (DoDream) - [ 30 ต.ค. 51 09:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เสียใจด้วยนะคะกับลูกคนแรก แต่ดีใจด้วยกับน้องที่กำลังจะเกิด ขอให้ปข็งแรงทั้งคุณแม่ แล คุณลูกนะคะ จากคุณ : Pk_Melbourne (pk_koh) - [ 30 ต.ค. 51 09:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เสียใจกับเรื่องที่ผ่านมาและดีใจในตอนนี้ด้วยครับ จากคุณ : ปลาโลมา_:P - [ 30 ต.ค. 51 10:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เสียใจกับเรื่องที่ผ่าน แต่ยินดีดีด้วยสุดๆกับตัวเล็กที่กำลังจะออกมา รักกันแบบนี้ ครอบครัวต้องมีความสุขมากๆแน่เลยคะ จากคุณ : takwa - [ 30 ต.ค. 51 11:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เสียใจด้วยนะคะ และขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 30 ต.ค. 51 11:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรงนะครับ จากคุณ : รักจังเมืองไทย - [ 30 ต.ค. 51 11:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านแล้วเศร้าจัง มันคงเป็นแผลที่อยู่ในใจของ จขกท. และภรรยาไปอีกนานเลย อยากแนะนำให้ จขกท. และภรรยา ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้น้องคนก่อนนะคะ ไปปฏิบัติธรรมตามวัดสัก 3 วัน 7 วัน ช่วงท้องยังไม่ใหญ่มากอย่างนี้กำลังดีเลยค่ะ เดี๋ยวคลอดลูกแล้วจะยุ่งมากไม่มีเวลาไป ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ภรรยาและน้องที่จะออกมาปลอดภัยและแข็งแรง จากคุณ : momochan - [ 30 ต.ค. 51 11:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านแล้วน้ำตาจะไหล เข้าใจ จขกท. และภรรยานะคะ ขอให้ลูกที่กำลังจะเกิด เป็นเด็กที่แข็งแรง ฉลาด เป็นที่รักของทุกคนนะคะ ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ จะได้เป็นข้อเตือนใจ จากคุณ : นภชล - [ 30 ต.ค. 51 12:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณครับที่เอาเรื่องมาแชร์ อ่านแล้วสะเทือนใจครับ ขอเป็นกำลังใจให้อีกแรงนะครับ จากคุณ : black pepper - [ 30 ต.ค. 51 13:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านแล้วร้องไห้เลยค่ะ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ เสียใจกับอตีตที่เจ็บปวดของคุณ แต่เชื่อว่าเป็นประโยชน์กับอีกหลายๆคน และหลายชีวิต และยินดีกับลูกสาวคนใหม่ค่ะ ขอให้แข็งแรง ขอให้มีความสุขทั้งครอบครัวค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : น.ส.แสงแก้ว - [ 30 ต.ค. 51 13:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ยาชนิดไหน ชื่ออะไรครับ จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค - [ 30 ต.ค. 51 13:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้วเศร้าใจ ทำบุญเยอะ ๆ คะ จากคุณ : Lovely_Cute - [ 30 ต.ค. 51 14:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ยินดีด้วยนะคะสำหรับเจ้าตัวน้อยคนใหม่ ขอให้แข็งแรงทั้งคุณแม่และคุณลูกนะคะ ปล. หมั่นทำบุญด้วยนะคะ จากคุณ : ลิเลียน - [ 30 ต.ค. 51 14:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ยาโรแอคคิวเทน เป็นยารักษาสิว(มั้ง) เราก็เคยกิน หมอสั่งว่า ถ้าจะตั้งครรภ์ให้บอกหมอ หมอจะสั่งหยุดยา เป็นยาที่แรงนะคะ กินแล้ว ปากแห้ง ผิวแห้ง เป็นอันตรายกับเด็กในครรภ์แน่นอนค่ะ คอนเฟิร์ม !!! ปล.ยินดีกับคุณและภรรยาด้วยนะคะ ที่ได้เจ้าตัวน้อยคนใหม่ กับเด็กที่เสียไปแล้ว ก็อย่าลืมทำบุญให้เค้านะคะ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* - [ 30 ต.ค. 51 14:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่องมันผ่านไปแล้ว ก็เป็นบทเรียนให้กับคนอื่น ๆ นะคะ เรื่องยาไม่ว่าจะชนิดไหนก็สำคัญมาก ๆ ต้องระวังให้ดี อย่าลืมทำบุญให้น้องคนก่อนด้วยนะคะ และขอให้น้องคนใหม่ แข็งแรงดี สมกับที่คุณพ่อคุณแม่รอคอยค่ะ จากคุณ : deanie - [ 30 ต.ค. 51 16:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : extrajeab - [ 30 ต.ค. 51 16:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ยินดีกับลูกสาวในอนาคตด้วยนะคะ เรื่องนี้อ่านแล้วเป็นอุธาหรณ์อย่างดีให้กับคนที่รักสวยรักงามเลยค่ะ อย่าไปเศร้าไป... จากคุณ : bluebearly - [ 30 ต.ค. 51 16:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตอนผมเรียนม.ปลาย มีอาจารย์ท่านนึง หลังจากที่มีลูกคนแรกแล้ว หมอก็ห้ามเขามีลูกอีกโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นโรคอะไรไม่ทราบ คือเลือดอาจจะไหลไม่หยุดอะไรทำนองเนี้ยครับ ฟังเขามาอีกที แต่อาจารย์คนนี้ไม่แน่ใจว่าดื้อหรือพลาด ท้องจนได้ แต่ด้วยที่หมอประจำตัวห้าม ท่านก็เลยเปลี่ยนไปหาหมอคนอื่น สุดท้ายตอนวันคลอด ลูกรอดปลอดภัย แต่อาจารย์ท่านนั้น เลือดออกทางทวาร ทั้ง 5 เสียชิวิตทันทีในห้องคลอดครับ สงสารครับ รู้สึกจะไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้เลย จากคุณ : SPORTERO (SPORTERO) - [ 30 ต.ค. 51 17:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านแล้วร้องไห้เลยค่ะ เรา sensitive กับเรื่องแม่ๆลูกๆเอามากๆ รู้สึกถึงความน่ากลัวของคลินิคทำแท้งน่ามาก ไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้เลย ขอให้ทั้งครอบครัว"รอยสักไหล่ขวา" แข็งแรงทั้งกายใจ มีความสุขมากๆนะคะ จากคุณ : ลูกพริกไทย - [ 30 ต.ค. 51 19:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ จากคุณ : Ok Computer - [ 30 ต.ค. 51 21:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา และยินดีกับน้องคนใหม่ด้วยนะคะ ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ไว้เป็นข้อคิดให้ใครหลายๆคนค่ะ จากคุณ : KINO - [ 30 ต.ค. 51 21:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ยินดีด้วยกับคุณ จขกท และภรรยาที่มีครรภ์ครั้งใหม่นี้ ขอให้สมบูรณ์ค่ะ เมืองไทยควรจะยอมรับความจริงของสังคมเราที่พวกเราหล่อหลอมกันมาเอง ทำให้มันเป็นแบบนี้ และยอมรับการทำแท้งเสรีเสียที เพื่อสุขภาพร่างกายและใจของผู้หญิงที่จะต้องทำหรือเลือกจะทำแท้ง คนที่ทำเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ใช่คนดีอย่างไร เขาก็ควรมีสิทธิจะได้รับการปฏิบัติและรักษาที่ได้มาตรฐาน จากคุณ : yuy - [ 30 ต.ค. 51 21:46:21 A:124.121.22.180 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เคสที่โรงบาลไม่ทำให้ อันนี้ผมไม่เข้าใจเหตุผลของโรงบาลเหมือนกัน ในเมื่อหมอวินิจฉัยเองว่า หากไม่ทำ จะมีความเสี่ยง กับแม่มาก... ผมว่าโรงพยาบาลควรเปลี่ยนกฏเกณฑ์พวกนี้ได้แล้วหละ จากคุณ : MESMERIC - [ 30 ต.ค. 51 23:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เสียใจ และดีใจด้วยจริงๆค่ะ :') จากคุณ : ปอแอ้ง - [ 30 ต.ค. 51 23:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอแสดงความเสียใจกับน้องคนแรกด้วยนะคะ และก็ขอแสดงความยินดีกับน้องคนที่สองด้วยค่ะ ขอให้คุณแม่และน้องปลอดภัยนะคะ เชื่อว่าน้องคนแรกคงเข้าใจเหตุผล ไม่แน่นะคะอาจจะเป็นคนเดิมก็ได้น๊า ขอบคุณสำหรับอุทาหรณ์นะคะ  เราเองไม่เคยกินยารักษาสิวเลย แต่เมื่อก่อนเคยกินพวกยาลดฯ วิตามินบ้างประปราย เดี๋ยวนี้พยายามไม่กินสิ่งแปลกปลอม  สงสารไตอ่ะ T^T จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 31 ต.ค. 51 03:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอแสดงความเสียใ่จกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอบคุณที่เข้ามา share ประสบการณ์ครับ ขอพระเจ้าคุ้มครองให้น้องแข็งแรง เป็นเด็กเลี้ยงง่าย ขอให้คุณแม่แข็งแรงด้วยครับ จากคุณ : SFP (SFP) - [ 31 ต.ค. 51 10:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มาให้กำลังใจค่ะ มาแสดงความยินดีให้ด้วย --- ขอให้มีแต่วันที่งดงาม ---- จากคุณ : C_heris_H_PopEyE - [ 31 ต.ค. 51 10:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยผม ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากมีลูกเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมหลายๆด้าน ไว้มั่นคงกว่านี้ก่อนจะมีลูกทันที แต่กลัวว่าเวลาอยากมีจริงๆจะมียาก สู้ๆครับ จากคุณ : anakod - [ 31 ต.ค. 51 11:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ^ ^^ ^^^ ชี้ไปที่ คห.14 ( หมอก้อนหิน  )   ลองอ่าน คห 25 และ 26 ดูน่ะเผื่อจะตาสว่างมากขึ้น จากคุณ : หนุ่มน้อยซาตาน - [ 31 ต.ค. 51 11:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เห็นใจ จขกท กับภรรยา ค่ะ ยังไงช่วยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกที่ทำแ้ท้งไปด้วยนะคะ ทำเยอะๆ ค่ะ เ ราอ่านเกี่ยวกับเรื่องทำแท้งในคอลัมน์เกี่ยวกับเรื่องผี ในแพรวสุด ฉบับปกก้อยกับเป้แล้วน่ากลัวมากๆ เค้าบอกว่าเด็กจะเกาะอยู่กับตัวแม่ไปเรื่อยๆ ค่ะ จากคุณ : Rurujung - [ 31 ต.ค. 51 12:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เป็นกำลังใจให้ จขกท. ค่ะ  และยินดีด้วยกับสมาชิกใหม่ของครอบครัว ขอให้สุขภาพดีทั้งคุณแม่ คุณลูก นะคะ เราเองก็เสียเพื่อนคนนึงไปเพราะทานยารักษาสิวเช่นกันค่ะ เพื่อนของเราเป็นไข้เลือดออก ก่อนหน้านั้นก็ทานยารักษาสิวไปด้วย แต่ไม่มีใครทราบเรื่อง ระหว่างรับการรักษา เพื่อนเองก็ไม่ได้แจ้งคุณหมอว่าทานยาอะไรอยู่บ้าง คุณหมอก็รักษาไปตามอาการ ยิ่งรักษาก็ยิ่งทรุด จนเพื่อนเราจากโลกนี้ไป พอไปดูที่ห้องนอน พบยารักษาสิวที่เพื่อนทานเป็นประจำ แต่ก็สายไปเสียแล้วค่ะ เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า ถ้าป่วยต้องแจ้งคุณหมอทุกครั้งด้วยนะคะว่าแพ้ยาอะไร และทานยาตัวไหนเป็นประจำ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดเรื่องร้ายๆ อย่างนี้ จากคุณ : น้ำก้อน - [ 31 ต.ค. 51 12:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ดีใจที่มีน้องใหม่แล้วนะคะ ยาตัวนี้เราก็เคยทาน  เลิกมาได้ 2 ปีแล้วมั้ง แต่ก็ยังกลัวๆเหมือนกันว่าจะตกค้างมีผลอะไรไหม เพราะตอนนี้แต่งงานแล้ว  เผื่อท้องค่ะ แต่หมอสิว  ก็อยากให้ทานนะแต่เราไม่เอาแล้ว   จะให้ทานยาแก้อักเสบด้วยนะ  แต่เราก็ไม่เอาอ่ะ จากคุณ : Kibby - [ 31 ต.ค. 51 15:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เรื่องร้ายๆผ่านพ้นไปแล้วนะคะ ป็นกำลังใจให้ จขกท. และคุณแม่คนใหม่นะคะ จากคุณ : smabbytoon - [ 31 ต.ค. 51 19:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เสียใจด้วยนะคะกับเรื่องที่เกิด ขอให้ทั้งแม่และลูกสาวแข็งแรงทั้งคู่เลยนะคะ อิๆลูกสาวระวังนะ ขี้อ้อน(หนูขี้อ้อนอะ โตแล้วยังอ้อนอยู่เลย) จากคุณ : cactus_demon - [ 31 ต.ค. 51 19:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มีประสบการณ์แบบเดียวกะภรรยาเจ้าของกระทู้เลยคะ จำบรรยากาศในห้องนอนพักคนไข้ได้ชัดเจน จำได้ว่าร้องไห้จนถึงเวลาที่เค้าให้ยาสลบ จำสีหน้าแฟนตอนเค้านั่งรอที่ชั้นล่างได้ จำได้ติดตาเลยหล่ะ ตอนนี้ยังม่ายกล้าท้องเลย.....ถึงจะเลิกกินยาตัวนั้นมาหลายเดือนแล้ว และตอนนี้เรากะแฟนก้อไปทำบุญตลอด ดีใจกะ จขกท ด้วยนะคะ ขอให้น้องและคุณแม่แข็งแรง จากคุณ : T-T - [ 31 ต.ค. 51 19:48:51 A:58.8.174.14 X: TicketID:192613 ]

ความคิดเห็นที่ 73 มาให้กำลังใจด้วยอีกคนคะ จากคุณ : สาวพิษณุโลก** - [ 31 ต.ค. 51 20:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เศร้าจนต้องมาเม้นเลยค่ะ TT___TT ไม่ขอแสดงความเห็นต่อเรื่องเศร้าๆละกันนะคะ แค่ขอให้น้องคนนั้นไปสู่สุขคติ และขอให้เจ้าตัวน้อยที่กำลังจะเกิดมาและคุณแม่สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ด้วยค่ะ ขอให้ครอบครัวคุณมีความสุขมากๆค่ะ ^_____^ จากคุณ : SLC#53 - [ 31 ต.ค. 51 21:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณมากนะคะที่เอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาเตือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เป็นกำลังให้นะคะ และขอให้เจ้าตัวน้อยที่เพิ่งดิ้นได้แข็งแรงสมบูรณ์คะ จากคุณ : InTeR_KikU - [ 31 ต.ค. 51 21:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอเป็นกำลังจให้ค่ะ จากคุณ : หนูเม่น (หนูเม่น) - [ 31 ต.ค. 51 22:40:21 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ตัวน้อยที่จะเกิดมาแข็งแรงมากๆนะคะ เอาใจช่วยคะ จากคุณ : นะมตั๋น (นะมะตั๋น) - [ 31 ต.ค. 51 23:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านแล้วอึ้งค่ะ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : มนเกรซ - [ 31 ต.ค. 51 23:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ดีใจด้วยครับ สำหรับลูกสาวคนใหม่ ^^ ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : อย่าิไปคิดมากกับชีวิต - [ 1 พ.ย. 51 00:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ยินดีกับลูกคนใหม่เช่นกันค่ะ และเสียใจเห็นใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาด้วยค่ะ ทำบุญให้เขาเยอะๆและถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้เขามาเกิดใหม่ในร่างที่สมบูรณ์นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับกระทุ้เตือนสตินี้นะคะ  เราก็อยากมีลูกเหมือนกันจะได้ระมัดระวังในการรับประทานยาและอาหารเสริมต่างๆให้มากๆ จากคุณ : teaa - [ 1 พ.ย. 51 11:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ไม่เข้าใจว่า ในเมื่อหมอแนะนำให้เอาเด็กออกเอง โรงพยาบาลทำไมไม่ทำให้... ของเราหมอแนะนำให้เอาออก โรงพยาบาลก็จัดการทำให้เองเลย รอลายเซ็นหมอ 3 แผนก ตั้ง 3 วัน นี่ให้ไปทำแท้งเถื่อน.....ตกเลือดตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ... อ่านแล้วโมโหหมออ่ะ ถ้าให้คำแนะนำมาแบบนี้ ก็ควรจะดูแลคนไข้ให้ถึงที่สุดสิ จากคุณ : stacynarak - [ 1 พ.ย. 51 11:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 82 // ยากิน โรแอคคิวเทน กับ ยาทา isotrexin Gel // ถามผู้รู้ทีนะคะ จากคุณ : rabbitychan - [ 1 พ.ย. 51 12:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอให้มีแต่ความสุขนะคะ ขอให้เด็กแข็งแรงและสุขภาพดี และขออนุญาตเล่านะคะ  มีเพื่อนบ้านคนนึงตั้งครรภ์แล้วทานยาแก้สิวคงจะคล้ายๆที่ภรรยาจขกท.ทาน แต่แพทย์ไม่ได้ตรวจละเอียด จึงไม่ทราบว่าเด็กมีความผิดปกติ จนคลอดมา น้องเค้าไม่มีนิ้วมือค่ะ ขาก็ลีบขางนึง ดังนั้นใครที่แต่งงานแล้ว แต่ไม่ได้คุมกำเนิดต้องระวังเรื่องยาอันตรายไว้ด้วยนะคะ จากคุณ : ตะเกียบไม้ไผ่ - [ 1 พ.ย. 51 12:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอแสดงความเสียใจกับคุณ จขกท. และ ภรรยาด้วยนะค่ะ ความทรงจำที่โหดร้ายมันไม่อาจลบเลือนได้ก็จริง แต่เราอยากให้คุณมีชีวิต ครอบครัวที่สดใสเพื่อความทรงจำที่ดีในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ค่ะ ขอบตุณสำหรับประสบการณ์ที่เอามาแชร์กันในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้ คุณจขกท. ภรรยา และ ลูกสาวตัวน้อยๆ ที่กำลังจะมาทักทายคุณในอีกไม่กี่ เดือนข้างหน้า เราเชื่อว่าเค้าจะเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของคุณทั้งสองค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 51 12:59:52 จากคุณ : อุลตร้าแมนรอรับพลังแสงอาทิตย์ - [ 1 พ.ย. 51 12:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านแล้วก้อเศร้ามากเลย ก้อขอให้ภรรยาของคุณ ลูกสาวของคุณ รวมทั้งตัวคุณด้วยนะ สุขภาพแข็งแรงนะครับ จากคุณ : nongsab - [ 1 พ.ย. 51 13:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้น้องมีสุขภาพที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ หมั่นทำบุญ สวดมนต์และแผ่เมตตาให้น้องด้วยนะคะ จากคุณ : poch&pream - [ 1 พ.ย. 51 13:28:52 A:58.8.52.97 X: TicketID:192675 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ทำบุญเยอะ ๆ นะครับ จากคุณ : narcissus (maengnoon) - [ 1 พ.ย. 51 14:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เพิ่งหยุดโรแอคไปเมื่อเดือนก่อนเองค่ะ จากคุณ : being last on your list - [ 1 พ.ย. 51 17:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เสียใจด้วยนะคะ อย่าลืมทำบุญให้น้องเค้าเยอะๆนะ ยาตัวนี้คุณหมอเคยจ่ายให้เรากิน เนื่องจากเคยหาหมอเกี่ยวกับสิวหลายที่ คุณหมอคนแรกที่จ่ายให้ ให้เซ็นใบสัญญาเลยค่ะ ว่าเป็นยาอันตราย และบอกรายละเอียดก่อนละเอียดมาก ส่วนคุณหมอท่านอื่นที่ให้ยากลับไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับความอันตรายเลย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทั้งๆที่มันอัตรายขนาดนั้น สุดท้ายก็ดีใจด้วยนะคะ จากคุณ : โกโก้ชุ่มนม - [ 1 พ.ย. 51 17:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เป็นกำลังใจให้นะคะ ทำบุญให้น้องเค้าเยอะๆนะคะ คิดว่าน้องเค้าคงเข้าใจค่ะ จากคุณ : ...hamster... - [ 1 พ.ย. 51 21:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ยินดีด้วยนะคะ ขอให้น้องแข็งแรงปลอดภัย  เติบโตอย่างแข็งแรงนะคะ จขกท เป็นสามีที่ดีมากเลยค่ะ รักภรรยาจังเลย อ่านตอนแรกแล้วจะร้องไห้ เศร้าจังเลย T^T สู้ๆนะคะ้เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : +++KusarE+++ - [ 1 พ.ย. 51 23:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 92 มีใครอ่านแล้วรู้สึก.... เหมือนผมมั้ย ว่า คุณเจอหมอประเภท... นั้น เข้าให้แล้วล่ะ แต่ไม่ขอวิจารณ์อะไรมากเพราะมันผ่านไปแล้ว ก็ให้แล้วไป แต่ที่อยากจะบอกก็คือ การตัดสินใจครั้งนั้นผิดพลาดอย่างมาก ถึงแม้จะเป็นคำแนะนำของหมอก็เถอะ (ก็หมอประเภทนั้น แล้วที่สำคัญมีเยอะด้วย) คุณน่าจะเชื่อ คุณหมอบุญชัย นะครับ คุณโชคดีมากรู้มั้ยครับที่ได้ภรรยากลับมาอย่างปลอดภัย ---------------------------------------------------------------------- อยากจะบอกว่าวงการสาธารณสุขบ้านเรามันไม่ได้พัฒนาไปถึงมาตรฐานที่มันควรจะเป็นนะครับ เชื่อผมมั้ย เพราะเมื่อก่อนผมก็เคยรักษาคนไข้ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 00:21:03 จากคุณ : +Benex+ - [ 2 พ.ย. 51 00:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ยาโรแอคคิวแทน...ยารักษาสิว ห้ามกินก่อนตั้งครรภ์ 6 เดือน-1ปี จริงๆค่ะ ตอนเรียนมหาลัย ...หมอให้เรากิน โดยไม่บอกผลข้างเคียงนี้เลย กินมา 2 ปี เพิ่งรู้ว่ามีผลต่อครรภ์รุนแรงขนาดนี้ (โชคดีที่เราไม่ได้ท้อง) เราถามหมอ หมอบอกใช่ แต่เด็กเรียนอย่างเรา เขาไม่คิดว่าจะท้องตอนเรียน เราเลิกกินยาเลย และค่อยๆห่างหมอไปเลยค่ะ ส่วนเรื่องว่าให้รอต่อไป...เพราะว่า..ที่คลองตัน 7000 น่ะ เขาจะให้กินยานอนหลับแรงมาก...แล้วเข้าไปนอนบนเตียง คราวละ 10 คน คนที่ทำ2-3 คนแรก...จะเพิ่มยานอนหลับฉีดให้ด้วย ซึ่งจะทำให้หลับทันทีคาเข็มเลย ใช้เวลาทำคนละสิบนาที ไม่เกินนี้ ตั้งแต่อุ้มขึ้นขาหยั่ง จนอุ้มลงนอนเตียง ปกตินัดสามชั่วโมง เพราะยากินจะหลับประมาณนั้น แต่หากฉีดยาด้วย จะหลับนานกว่านั้น ไม่สามารถบอกเวลาตื่นได้ แต่ไม่เกินห้าชั่วโมง เมื่อตื่น เจ้าหน้าที่จะให้เดินลงมาหาญาติเอง...สภาพเหมือนปกติ แต่มีเลือดไหลเหมือนมีเมนส์ รู้จากคนสนิทมากๆ....ที่นี่ถือเป็นที่ปลอดภัยและดีที่สุดแล้ว ทุกคนที่ทำ...กลับมาเป็นปกติ...มีลูกสมบูรณ์ทุกคน เล่าเป็นวิทยาทาน จากคุณ : คนรู้มาก - [ 2 พ.ย. 51 05:08:17 A:124.122.140.195 X: TicketID:187490 ]

ความคิดเห็นที่ 94 กลับมาอีกครั้งครับ อยากขอขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกท่าน อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆครับ สำหรับบางท่านที่ยังสงสัย (รวมถึงท่าน คห 92) ว่าทำไมผมและภรรยาถึงตัดสินใจทำ ช่วงนั้นผมและภรรยาหาข้อมูลไปทั่วครับ ไม่ว่าจะเป็นทางอินเตอน์เน็ต บทความ หรือแม้กระทั่งปรึกษาคุณหมอตามโรงพยาบาล ผมไม่ได้ปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลย่านสีลมท่านเดียวครับ ไปปรึกษามาหลายที่กับคุณหมอหลา่ยๆท่าน หลายๆโรงพยาบาล แต่คุณหมอบุญชัยเป็นท่านเดียวที่อยากให้ชะลอเรื่องการเอาเด็กออก แต่ต้องการตรวจเพิ่มเติม ความจริงผมก็อยาำกทำตามที่คุณหมอบุญชัยท่านให้ความเห็น แต่ไม่ใช่ไม่เชื่อท่านนะครับ คือความเห็นของแพทย์อีกหลายๆท่านเป็นไปในทางตรงข้ามกับท่าน อีกอย่าง เวลาในตอนนั้นมันกระชั้นมาก เวลาที่ผมและภรรยาใช้ในการเดินสายตระเวนปรึกษาคุณหมอนั้น รวมเวลาเบ็ดเสร็จจนหมดทุกท่าน ตอนนั้นภรรยาผมก็ตั้งครรภ์เกือบ 3 เดือนแล้วครับจึงต้องรีบตัดสินใจ เพราะหากปล่อยไว้นานจะยิ่งเป็นอันตรายต่อตัวภรรยาผมหากต้องเอาเด็กออก ในนาทีนั้นเราตัดสินใจกันว่าตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่า เพราะคุณหมอบุญชัยท่านแค่อยากให้ "ชะลอ" การเอาเด็กออก ท่านไม่ไ้ด้บอกว่า "ไม่มีผลร้ายกับเด็กแ่น่นอน" หากผมตัดสินใจชะลอการเอาเด็กออก แล้วภายหลังต้องเอาออกจริงๆ ตอนนั้นภรรยาผมจะมีความเสี่ยงสูง เพราะอายุครรภ์มากขึ้นครับ รวมทั้งที่ผมค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ผมเคยแม้แต่ปรึกษากับคุณแม่บางท่านในพันทิป ถ้าผมจำไม่ผิด คุณแม่ท่านนั้นจะชื่อคุณแม่น้องเดียร์ ซึ่งเป็นผู้โพสต์เรื่องของผมในพันทิปเพื่อช่วยหาทางออก รวมทั้งคุณแม่น้องไทไท้ด้วย ซึ่งผมต้องขอบคุณท่านทั้งหมดเหล่านี้ในความช่วยเหลือด้วยครับ ผมไม่เคยลืม ผมใช้ข้อมูลทั้งหมดนี้ประกอบในการตัดสินใจ ใจของคนเป็นพ่อแม่ จะมีใครบ้าง อยากให้ลูกพิการ หรืออยากฆ่าลูกตัวเองครับ พูดจริงๆตอนนั้นผมก็อยากเก็บเด็กไว้เหมืิอนกัน แต่ลูกของผม ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมาเดิมพัน เค้าคือชีวิต 1 ชีัวิต ในเมื่อคุณหมอส่วนใหญ่ที่ผมไปปรึกษาลงความเห็นว่าควรเอาเด็ก ถ้าผมไม่เชื่อแล้วจะให้ผมไปเชื่อใคร ชีวิต 1 ชีวิตของเด็ก ผมไม่กล้าแลกหมัดครับ หากเค้าเกิดมาแล้วไม่สมบูรณ์ เด็กจะน่าสงสารมากๆครับ ผมไม่สามารถทนเห็นลูกตัวเองต้องเป็นแบบนั้นได้ ยังไงก็ตาม ผมขอขอบคุณจริงๆสำหรับกำลังใจจากทุกท่านในกระทู้นี้ รวมทั้งคุณแม่น้องเดียร์และคุณแม่น้ิองไทไท้ด้วยครับ ตอนนี้ลูกสาวในอายุครรภ์ 5 เดือนของภรรยาผม ดิ้นเช้าดิ้นเย็นครับ ล่าสุดเพิ่งไปอัลตราซาวน์มาเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 31 ตุลาฯ เด็กมีสุขภาำพแข็งแรงดีครับ ฝากครรภ์ไ้ว้ที่ศูนย์นวบุตร ซึ่งคุณหมอบุญชัยท่านก็ประจำอยู่ที่นี่ด้วยครับ =) มีคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนซื้อของจำพวกเปล เสื้อผ้าเตรียมไว้ให้ลูกก่อนที่เค้าจะเกิดมาบ้างครับ อยากซื้อเตรียมไว้ให้เค้า ตื่นเต้นที่จะได้เป็นป่ะป๊าหมะม๊าครับ =) ใครมีคำถามก็เชิญเลยนะครับ ผมยินดีตอบครับ =) แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 08:56:26 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 08:53:54 จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 2 พ.ย. 51 08:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ไม่พอใจก็แก้ให้แล้วนะ ขออภัยที่พุดแรงไป แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 51 16:35:51 จากคุณ : คนหัวฟู - [ 2 พ.ย. 51 10:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คุณคนหัวฟูครับ ผมและภรรยาไม่เคยคิดจะลบล้างบาปที่ได้ทำลงไปด้วยการทำบุญทดแทน ไม่ครับ ที่เราทำบุญ เ้ราหวังเพียงเพื่อให้ลูกคนแรกของเราได้ไปสู่สุขคติ สู่ภพที่ดี แต่ผลบาปที่เกิดขึ้นจากตัวเรา บุญอะไรก็มาทดแทนไม่ได้ บุญคือบุญ บาปคือบาป เราไม่คิดนำมาทดแทนกันครับ มันคนละเรื่อง ถึงเค้าจะออกมาพิการ ปัญญาอ่อนก็ไม่ควรทำแท้ง? ถูกครับ ผมและภรรยาก็ไม่อยากทำหรอกครับ ในความรู้สึกส่วนตัวผม ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่พูดง่ายสำหรับคนทั่วไป แต่หัวอกคนเป็นพ่อแม่ จะมีสักกี่คนที่จะทนดูลูกตัวเองเกิดมาพิการแต่กำเนิดได้บ้างครับ ทุกวันนี้ เราหวังเพียงแค่ดูแลลูกคนต่อไปให้ดีที่สุด เรามีประสบการณ์ที่ไม่ดีมา เราก็อยากจะเริ่มต้นใหม่ ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้ครับ ด้วยความเคารพ จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 2 พ.ย. 51 10:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เรื่องมันก็จบไปแล้วอ่ะ เป็นใครตอนนั้นก็วุ่นวายใจ การติดสินใจในเรื่องแบบนี้แม้แต่ในระดับโลกก็ยังมีความเห็นแตกต่างกันไป อย่ามัวแต่ไปสงสัยอยู่เลยว่าที่ทำไปถูกหรือผิด เราป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีกก็ดีแล้ว น้องคนใหม่นี้ก็เลี้ยงเขาให้ดี ขอให้แข็งแรงทั้งกายและใจนะ (แก่เชียวเรา) จากคุณ : proudtobethai - [ 2 พ.ย. 51 15:41:08 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ทำแท้งขัดต่อศีลธรรมจึงเป็นเรื่องยากที่จะถูกกฏหมายได้ การทำแท้ง เป็นการฆ่าชีวิตหนึ่งชีวิตที่ไม่รู้เรื่องด้วย บาปมาก การทำแท้ง เนื่องจากถูกข่มขืนถูกกฏหมาย เพราะมันไม่บาปเหรอ การทำแท้ง เนื่องจากเด็กมีความผิดปกติถูกกฏหมาย เพราะมันไม่บาปเหรอ ถ้าจะมองว่าการทำแท้งผิดกฏหมายเพราะมันบาป ผมว่ามันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นะ เรื่องบาปหนะ จริงๆผมมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระหากเราตีความกันผิด บาปคือผลของการกระทำ ผลของการกระทำจะส่งผลดีหรือร้ายมันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และเจตนามากกว่า ทำแท้งถูกกฏหมายสักทีเถอะ จากคุณ : ~Lonely_Fox~ - [ 2 พ.ย. 51 17:37:52 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขอออกคห.แรงๆนิสนึง คุณ : คนหัวฟู #95 ดูท่าทางเคร่งกับเรื่องบาปบุญคุณโทษมากนะคะ มีอะไรอยากจะถามนิดนึุง คุณจะใจบุญพอจะช่วยพ่อแม่เด็กรับภาระเลี้ยงดูเด็กพิการมั้ยล่ะคะ คุณพร้อมจะส่งเสียเด็กพิการที่คุณสนับสนุนให้เกิดมั้ย หากพ่อแม่เด็กเกิดเสียชีวิตไป ถ้าทำไม่ได้ก็รบกวนไปพูดเรื่องบาปบุญในเคสอื่นเถอะค่ะ พูดในเคสนี้ไม่สร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์อันใด เพราะตัวคนทำใจจริงก็ไม่ได้อยากจะทำ คห.ของคุณก็เป็นได้แค่การซ้ำเติมกันเท่านั้น เพราะคุณออกคห.แบบนี้ได้ก็เพราะมันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเท่านั้นเอง "มือถือสาก ปากถือศีล" แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 20:40:14 จากคุณ : Ponyo - [ 2 พ.ย. 51 20:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คุณคนหัวฟู ความดีงามและศีลธรรมที่คุณยึดถือมันจะมีคุณค่ามากกว่านี้ ถ้าการกระทำนั้นมาด้วยเหตุผลที่ดีควบคู่กันไป สิ่งที่จขกท. ทำมิใช่เป็นการเห็นแก่ตัวอย่างที่คุณเข้าใจ หากคุณใช้เหตุผลสักนิด เอาใจเขามาใส่ใจเราคุณจะเข้าใจมากขึ้น จขกท.เค้าทำแบบนี้ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับตัวเองและลูกที่จะเกิดมา เหตุผลในการทำแท้งของจขกท.แตกต่างจากเหตุผลของเด็กใจแตกอย่างสิ้นเชืง หากให้เค้าเกิดมาแล้วอยู่บนโลกบูดเบี้ยวอย่างไม่มีความสุขกับปมด้อยของเค้าเอง  คราวนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาครอบครัวเค้าแต่ยังเป็นปัญหาสังคมอีกต่างหาก เราเชื่อด้วยซ้ำหากวิญญาณมีจริง เด็กคนนั้นคงขอบคุณคุณจขกท.มากกว่าที่ไม่ปล่อยให้เค้าเกิดมาแบกรับปัญหาที่ติดตัวเค้ามาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครสนับสนุนการทำแท้งที่ไม่จำเป็นหรอกค่ะ เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 01:01:21 จากคุณ : เซอร์แมนติก - [ 3 พ.ย. 51 00:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณทุกท่านมากๆจริงๆจากใจครับ จขกท. จากคุณ : รอยสักไหล่ขวา - [ 3 พ.ย. 51 06:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 102 รู้สึกเห็นใจนะคะ คุณ คนหัวฟู คห.95 ค่ะ  คุณไม่ลองคิดดูบ้างเหรอถ้าเด็กพิการนั้นเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว และถ้าพ่อแม่ของเค้าตายไป  เค้าจะดูแลตัวเองอย่างไรในเมื่อไม่มีญาติเหลืออยู่เลย  คงลำบากมากนะ คนแถวบ้านเราคนนึงลูกเค้าเป็นดาวซิมโดม  เค้าอยู่กันแค่แม่ลูก2คน แล้วตอนนี้ป้าเค้าก็เริ่มแก่แล้วด้วย  อายุ70ได้  บางทีเรายังนั่งคิดเลยว่า ถ้าแม่เค้าตายไปลูกเค้าจะทำยังไงนะ จากคุณ : nomadic - [ 3 พ.ย. 51 09:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มาให้กำลังใจนะครับ :) จากคุณ : Mova - [ 3 พ.ย. 51 15:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ขอบคุณที่แชร์ครับ จากคุณ : supertarokung - [ 3 พ.ย. 51 16:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เศร้าจัง สู้ๆนะคะ จากคุณ : ladystrawberry - [ 3 พ.ย. 51 19:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ^ ^^ ^^^ ^^^^ ชี้ไปที่ คห.66 ช่างเถอะครับ ... ยังไงเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว แค่แปลกใจเล็กน้อย เพราะยังไม่มีหลักฐานว่าเด็กพิการหรือยังไงเลย หมอก็แนะนำให้เอาออกเสียแล้ว มันไม่เข้าเกณฑ์อะไรสักอย่าง 1) การตั้งครรภ์ต่อมีอันตรายต่อแม่ไหม --> ไม่มี 2) มีหลักฐานไหมว่าลูกพิการอย่างรุนแรง --> ไม่มี ผมไม่แปลกใจที่หมอ รพ.แนะนำให้ทำข้างนอก เพราะถ้าทำใน รพ. หมอที่ทำและ รพ.ทีรับทำ... ผิด 100% จากคุณ : หมอก้อนหิน - [ 3 พ.ย. 51 21:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เราเป็นคนหนึ่งค่ะที่เคยกินยาตัวนี้ก่อนตั้งครรภ์ เรายังไม่ได้แต่งงาน และกินยาตัวนี้เพื่อรักษาสิวอยู่ ประมาณ 6 เดือน ต่อมามีเพสสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ พอรู้ตัวว่ามี พสพ. เราหยุดกินยาทันที หลังจากนั้น 15 วันก็รู้ว่าตั้งครรภ์ และปรึกษาคลินิคที่จ่ายยา เค้าบอกว่าหยุดกินยาค่อนข้างไว ไม่น่ามีผลกระทบกับเด็กแต่ก็ไม่ได้รับรองผล เราวิตกกังวลมาก ทั้งเรื่องท้องก่อนแต่ง และเด็กจะพิการ แต่เนื่องจากมีความคิดเรื่องบาปบุญคุณโทษมากๆ คิดว่ายังไงก็แล้วแต่ก็จะเก็บเด็กไว้ (และมีความคิดว่า ไม่สามารถจะทนกับสภาพที่ตัวเองต้องไปนั่งรอทำแท้ง ตามคลินิคเหมือนในข่าวได้อย่างแน่นอน) และทำการฝากท้องกับคุณหมอทันที เด็กอายุได้ 14 สัปดาห์ ก็ได้อุลตร้าซาวด์ครั้งแรก โชคดีมากๆที่ไม่เห็นความผิดปกติใดๆ (แต่หมอก็ไม่ได้รับรอง ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะการอุลตร้าซาวด์ ดูได้แค่ความผิดปกติที่ชัดเจนเท่านั้น ) ตลอดเวลาก็กังวลตลอดว่า ลูกจะมีความผิดปกติทางด้านใดหรือไม่ มันเป็นทุกข์ใจมากนะคะ ตอนนี้ลูกสาวอายุได้ 1 ปี 2 เดือนแล้ว เป็นเด็กที่น่ารัก แข็งแรง ที่เล่ามา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้หญิงทั้งหลาย อย่าประมาท อย่าชิงสุกก่อนห่าม เหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้และภรรยานะคะ เราเห็นเป็นกระทู้แนะนำ เลยอยากฝากประสบการณ์ตรงของเรา เพื่อเป็นอุทธาหรณ์แก่คนอื่นด้วยเท่านั้นค่ะ เพิ่มเติมค่ะ -->พอรู้ว่าตั้งครรภ์ได้ 15 วัน เราก็ไปถือศีลแปดที่วัด 7 วัน เพื่อทำใจให้สบาย และอุทิศส่วนกุศลให้ตัวเอง ลูกในท้อง และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย เพราะมีคนแนะนำว่า การนั่งวิปัสสนา และการเดินจงกรม เป็นสร้างกุศลได้อย่างดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 22:14:12 จากคุณ : คนเคยมีประสบการณ์ (Hinghoi Story) - [ 3 พ.ย. 51 21:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ไม่มีความรู้ แต่มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ค่ะ เราเข้าใจว่าคุณและภรรยาต้องเสียใจมากกับเรื่องที่เกิด แต่ว่า ถ้าเด็กเกิดมาพิการ แล้วเขารู้ว่าพ่อแม่ก็รู้ว่าเขาจะเป็นอย่างนี้ เขาคงคิดว่า ให้เขาเกิดมาทำไม เราว่า สิ่งที่คุณเลือกถูกต้องแล้วล่ะค่ะ ปล่อยเขาไป พอคุณพร้อมมีลูกที่แข็งแรงสมบูรณ์ เด็กคนนั้นก็กลับมาใหม่เอง เหมือนอย่างตอนนี้ไงคะ อย่าเสียใจเลยค่ะ การที่ลูกเกิดมาแล้วผิดปกติ อาจจะเป็นปมด้อยของเขา ทำให้เขาใช้ชีวิตไม่สะดวก แบบนี้ดีกว่าแล้ว เขาคงเข้าใจล่ะค่ะ จากคุณ : hoshikuzu - [ 3 พ.ย. 51 22:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เหตุการณ์ร้าย ๆ ผ่านไปแล้ว ยังงัยก็ยินดีกับชีวิตใหม่ที่กำลังจะคลอดน่า ปล.อย่าลืมเอาตัวเล็กมารีวิวที่ห้องชานเรือนด้วยนะคะ จากคุณ : zoom_dhoom - [ 4 พ.ย. 51 11:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ยินดีด้วยนะครับ จากคุณ : PITERA - [ 4 พ.ย. 51 11:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 111 มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ และมาแสดงความยินดีด้วยค่ะ จากคุณ : ต้นข้าวต้นขิง (townthara) - [ 4 พ.ย. 51 15:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์รึป่าวนะคะ แต่ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีด้วยสำหรับลูกสาวนะคะ แต่ว่าหนูเคยอ่านเจอในหนังสือมา(โปรดใช้วิจารณญาณ)ว่าตอนที่ทำบุญให้เด็กที่ทำแท้งไปเค้ายังไม่มีชื่อ-สกุล เค้าจะไม่ได้บุญกุศลที่เราทำไปให้ เพราะฉะนั้นเวลาเราทำบุญไปให้ต้องประมาณว่าลูกของข้าพเจ้าที่เกิดจากชื่อพ่อ-ชื่อแม่ ขอให้ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าทำไปให้ประมาณนี้อ่ะคะ อันนี้เผื่อไว้สำหรับคนที่เชื่อเรื่องแบบนี้ รายละเอียดจำไม่ได้ ถ้าไงหาอ่านที่หนังสือสุดสัปดาห์รู้สึกจะเดือนตุลาที่ผ่านมานี้แหละ เผอิญหนูอ่านเจอมาเลยมาบอกไว้ แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้และขอให้มีความสุขและเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์นะคะ จากคุณ : kerdyu - [ 4 พ.ย. 51 22:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ตอบ Ponyo ทำไมจะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนแทน จขกท.ด้วย เราไม่ได้ซ้ำเติม จขกท.นะ เข้าใจความรู้สึกด้วยว่ารู้สึกเสียใจแค่ไหน ถ้าคุณได้เจอกับตัว ก็คงรู้ ว่าไม่มีใครอยากเจออะไรแบบนี้หรอก ไม่ได้ว่า จขกท.ด้วยนะ อย่าคิดมากเลย ขอให้คุณโชคดีมีครอบครัวที่มีความสุข ทำบุญให้น้องเค้าเยอะๆ จะได้สบายใจนะ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 23:12:08 จากคุณ : คนหัวฟู - [ 4 พ.ย. 51 23:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 114 อ่านแล้วน้ำตาซึมครับ เข้าใจความรู้สึกคนอยากมีลูกมากกกกกก พี่สาวผมเป็นคนท้องยาก อยากมีลูกมาก แล้วพอคลอดน้องออกมา พี่ก็เสีย เพราะเลือดเป็นพิษ ตอนก่อนคลอดพี่ใฝ่ฝันว่าอยากพาลูกมานั่งชิงช้า ป้อนข้าวลูก นั่งอ่านนิทานให้ลูกในท้องฟัง แต่พี่ก็ไม่ได้เห็นแม้แต่หน้าของลูก ฝาแฝดสองคน น่ารักเชียว หน้าตาถอดแบบพี่ผมมายังกะแกะ คุณ จขกท โชคดีมากๆแล้วครับ ที่ภรรยาคุณยังอยู่และมีลูกให้คุณได้^_^ ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคุรแม่และคุณลูกครับ^_^ จากคุณ : Chonsoki - [ 5 พ.ย. 51 15:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 115 มาให้กำลังใจนะคะ ขอให้น้องมีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ จากคุณ : tavy_potter - [ 5 พ.ย. 51 20:23:32 ]

ความคิดเห็นที่ 116 #113 แล้วคุณโกรธแค้นจขกท.มาแต่ไหนถึงได้พูดกะเขาอย่างใน#95ละคะ จขกท.เขาไปทำอะไรให้คุณ ลองย้อนกลับไปอ่านดูคห.ของตัวเองดูใหม่ดีๆอีกทีนะ แล้วคิดเองว่าได้พูดอะไรที่มันไม่เหมาะหรือเปล่า คุณคิดว่าคำพูดอย่าง ["แต่ให้ระวัง บาปกรรม อาจจะตกที่ลูกที่กำลังจะเกิดคนต่อไป"] มันควรจะพูดตั้งแต่เด็กยังไม่คลอดหรือเปล่า? ไหนๆตอบเราแล้ว ช่วยตอบอีกคห.เถอะค่ะ ว่าคำพูดคุณเองเหมาะสมแล้วหรือยัง ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Ponyo - [ 5 พ.ย. 51 21:27:12 ]

ความคิดเห็นที่ 117 แตกๆๆ จากคุณ : high_voltage_x - [ 5 พ.ย. 51 23:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 118 แอบเล่าเรื่องนึงให้ฟัง ชายหญิงคู่นึง เป็นแฟนกันมาสิบปี เขาทั้งสองกำลังก้าวหน้าในการงาน ฝ่ายชายถูกส่งไปต่างประเทศ ฝ่ายหญิงเพิ่งทราบว่าตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์ ฝ่ายหญิงไม่ได้บอกฝ่ายชาย แต่ไปทำแท้งเอง เพราะไม่พร้อม แน่นอน เธอยอมรับว่า ตนคิดผิด และยังฝันร้าย ร้องไห้เป็นประจำ คิดถึงลูกคนนั้น น้อง first เธอทำบุญให้ลูกเสมอ และอดอาหารในวันนั้นทุกปี เธอมีลูกคนใหม่แล้ว กับชายคนเดิม วันนึง เธอบอกสามีเธอ.....ร้องไห้....สามีเธอปลอบใจว่า... "อย่าเสียใจไปเลย หากวันนี้เธอเปลี่ยนอดีตได้...เธอจะยอมแลกน้อง first กับ ลูกคนนี้เหรอ เพราะถ้ามีน้อง first ,ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปสิ้นเชิง, และไม่ใช่ลูกคนนี้ (อาจไม่มีลูกต่อ หรือมีลูกที่สเปิร์มตัวอื่น) เธอจะเลือกน้องเฟิร์ส มากกว่า ลูกคนนี้เหรอ" จากคุณ : ไม่อยากเอ่ยนาม - [ 6 พ.ย. 51 02:35:13 A:124.120.114.227 X: TicketID:187490 ]

ความคิดเห็นที่ 119 พออ่านมาถึง คห.5 น้ำตาคลอเลยค่ะ  เข้าใจคุณนะคะ  แล้วทุกอย่างมันก็ผ่านไปแล้ว นับจากนี้ไป  ขอให้มีแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต  รวมทั้งลูกที่น่ารักในท้องด้วยค่ะ ขอบคุณที่เอาประสบการณ์มาแบ่งปันกัน  คิดว่าคงมีน้อยคนที่จะกล้าเล่าแบบนี้ จากคุณ : pufpuf - [ 6 พ.ย. 51 13:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ แล้วขอให้ได้ลูกสมใจนะคะ สู้ ๆ คะ... จากคุณ : นส.สวยใสไร้สติแต่ไม่ไร้สมอง (gaykrit) - [ 6 พ.ย. 51 14:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 121 Ponyo คิดมากไปแล้วล่ะคุณ ช่างเหอะ คำตอบเราเหมาะสมแล้ว แต่ไม่ได้เจตนาว่า จขกท. ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ ไม่ได้โกรธแค้นอะไรด้วย จากคุณ : คนหัวฟู - [ 6 พ.ย. 51 16:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 122 อ่านแล้วต้องทำใจกับ คห 95  คนหัวฟู ทำไมถึงมีความคิดแบบนี้นะ ไม่เข้าใจ ถ้าเวรกรรมมีจริง ก็อย่าให้เกิดกับคนใจแคบๆ เลย จากคุณ : spirit mountain - [ 6 พ.ย. 51 16:21:19 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ไม่มีไรหรอก แค่อยากเตือนแรงๆ พวกทำแท้งไม่คิด(ไม่ได้หมายถึงจขกท) ถ้าบอกแรงไป ก็ขออภัยด้วย แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 51 16:40:24 จากคุณ : คนหัวฟู - [ 6 พ.ย. 51 19:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 124 คนหัวฟู ความเห็น 95 แรงไปจริงๆนะ ถ้าอยากเตือนสติคนอื่นทำไมตอบ จขกท เค้าแบบนี้ล่ะ จากคุณ : ไปอยู่ไหนมา - [ 7 พ.ย. 51 04:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 125 อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ ฝันร้ายผ่านพ้นไปแล้ว ฝันดีกำลังร่วมเดินทางไปกับคุณ ขอให้มีความสุขมากนะคะ ^___^ จากคุณ : น.ส.พังพอน - [ 7 พ.ย. 51 07:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 126 อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ ได้แต่เตือนคนใกล้ตัว  อย่าให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจแบบนี้อีกเลย เซนซิทีฟกะเรื่องแบบนี้  T^T ปล. แต่ก็ยินดีกับเจ้าของกระทู้นะคะ  ขอให้น้องที่จะเกิดมามีสุขภาพแข็งแรง  โตขึ้นมาเป็นเด็กดี แล้วก็เป็นกำลังใจของคุณพ่อคุณแม่นะ ปล.2 สำหรับน้องที่เสียไปแล้ว  ขอให้ไปสู่สุขคตินะคะ  พูดอะไรไม่ออก   ปล.3 เคยคิดจะกินโรแอค จะไม่กินแล้วค่ะ ไม่เกี่ยวกับท้องไม่ท้อง แต่มันน่ากลัว จากคุณ : =เด็กเอ๋ยเด็กดี= - [ 7 พ.ย. 51 11:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 127 อ่านแล้วน้ำตาซึม... ขอขอบคุณคุณเจ้าของกระทู้นะคะ ที่มาแบ่งปันเรื่องราว ขอให้ครอบครัวคุณมีความสุขมากมายนะคะ จากคุณ : thangthai_ladypink - [ 7 พ.ย. 51 12:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 128 คห. 95 ทำไมพูดแบบนี้อะ ? มารยาทส่อสันดานชาติเชื้อนะคะ จากคุณ : E-mergency !! - [ 7 พ.ย. 51 15:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ดีใจด้วยคะ เจ้าของกระทู้ อ่านแล้วน้ำตาซึม เข้าใจหัวอกทั้งคู่ดีเลยคะ เพราะกำลังเป้นพ่อแม่คนอยู่เหมือนกัน คิดว่าการตั้งกระทู้เล่าประสบการ์ณแบบนี้ดีมากๆ คะ เหมาะสำหรับ คนที่แต่งงาน หรือ คนที่อยู่ด้วยกันแล้ว เพราะบางที บางคู่ก้อปล่อย ตามสบายไม่ได้ระวังอะไรมาก บางทีผู้หญิงก็อาจจะต้องกินยา ประจำอะไรบางอย่างอยู่ ถ้าจะให้ตัดสินใจในเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้ ขอรับรู้ไว้เป็นบทเรียน ป้องกันก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นจะดีที่สุด ไม่ทราบว่าใครจะคิดอะไร หรือ พูดยังไง แต่ว่าถ้าไม่เคยประสบ พบพานเหตุการณ์ทรมานใจแบบนี้ ถ้าไม่เคยรู้สึก ไม่เคยต้องตัดสินใจ อย่าอาจหาญมาตัดสินแทนกันคะ จากคุณ : นู๋ปิ๋มมี่ - [ 7 พ.ย. 51 19:00:16 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เกลียดหมอที่ดูเเลคนคนเเรก  มากๆ   เพราะมีหลายคนที่กินโรเเอค เเล้วไม่เป็นไรเเค่โอกาสสูง  ย้ำว่ามีหลายคนเลย ถ้าคุณท้องไม่เกิน3เดือนทำแท้งง่ายมากๆค่ะ  เเละส่วนใหญ่หัวใจจะหยุดเเละไม่พัฒนาต่อภายใน3เดือนเองเเหละคะจากยาตัวนี้  ไม่ต้องกังวลจนเครียด ดังนั้นควรเเนะนำให้รอก่อน  ตรวจโดยละเอียดอีกครั้ง   ขอชื่นชมเเละบอกเลยว่า ชอบหมอที่BNHมากๆ จากคุณ : doong - [ 8 พ.ย. 51 00:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ถึงเกินสามเดือนไปสามารถตรวจละเอียด หรืออัลตราซาวน์ได้ ก็ไม่ได้รับรองได้หรอกค่ะ ว่าเด็กจะปลอดภัย  ลองคิดดูว่าการตั้งครรภ์ปกติ ยังมีความเสี่ยง คลอดออกมาเป็นเคสให้ฟ้องร้อง กันอยู่ก็มีให้เห็น ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แล้วหัวอกพ่อแม่ รู้ทั้งรู้ว่ามีความเสี่ยงจากฤทธิ์ยา ตกค้างเพิ่มมาอีก จะทนได้อย่างไร บาง คห แนะนำตามหลักวิชาการ แต่ก็อย่าลืมว่ามันไม่มีอะไร เลยที่จะรับประกันว่าจะเป็นไปตามหลักนั้นอย่างแน่นอน อย่าลืมคิดถึงความอ่อนไหวของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่กำลัง ประสบปัญหาซึ่งเป็นมุมมองอีกมิติหนึ่งซึ่งอยากฝากไว้ ให้คิดกันด้วยค่ะ จากคุณ : Syrup On Ice - [ 8 พ.ย. 51 01:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 132 เป็นกำลังใจให้ค่ะ เรื่องในอดีตให้ผ่านไป แล้วตั้งต้นใหม่นะคะ จากคุณ : เด็กหญิงสีเหลือง - [ 8 พ.ย. 51 10:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 133 อะไรที่ผ่านไปแล้วแก้ไม่ได้ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดคะ ยินดีกะลูกคนนี้ด้วยนะคะ และอย่าจมอยู่กับอดีตมากเกินไป เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : คุณยายริสซี่ - [ 10 พ.ย. 51 09:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เสียในด้วยกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาและขอความยินดีด้วยกับชีวิตใหม่นะคะ จากคุณ : สุดท้ายด้วยรัก - [ 10 พ.ย. 51 15:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 135 มาให้กำลังใจ + ยินดีกับชีวิตใหม่ด้วยนะคะ อย่าลืมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกคนแรกด้วยนะคะ แต่ตอนนี้ลูกคนแรกของคุณคงมาเกิดใหม่อยู่ในท้องภรรยาคุณแล้วล่ะ ^^ จากคุณ : ชานมน้ำผึ้งอุ่น - [ 11 พ.ย. 51 00:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 136 สิ่งที่เรากลัวมาก คือ การที่ลูกพิการ เป็นคนธรรมดา ก็ใช้ชีวิตยากแล้ว เป็นคนพิการ ใช้ชีวิตยากยิ่งกว่า รัฐให้เงินสวัสดิการ เดือนละ 500 บาท สำหรับคนพิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ในฐานะที่เราเป็นคนพิการ (มีปัญหาการได้ยินแต่เกิดค่ะ แต่สื่อสารได้ตามปกติ) อยากบอกว่าเราทุกข์ใจมาก  เราร้องไห้เป็นสิบปี  ทำไมต้องเกิดมาเป็นแบบนี้ จะดีก้อไม่ดี  จะหนวกก้อไม่หนวก ครึ่ง ๆ กลาง ๆ  หางานก็ยากเย็น  อยากทำงานที่ชอบ แต่ร่างกายก็มีปัญหา สรุปว่า เราเข้าใจจขกท. ชีวิตนี้ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากเกิดมาเป็นแบบนี้หรอก และส่งเสริมให้ทำแท้ง เราไม่รู้หรอกว่า ทำแท้งจะบาปมากน้อยแค่ไหน  แต่การที่เราเกิดมาเป็นแบบนี้มันทรมานมากเลย   ถ้าบ้านรวยก็ดีไป แต่ถ้าบ้านจนละค่ะ  มันเป็นภาระนะคะ  เป็นค่าใช้จ่าย ๆ เป็นอะไรอีกมากมาย  ที่บางครั้งเอาบาปบุญมาค้ำหัว  แต่มันเครียด ทุกข์ นอนตายตาไม่หลับเนี่ย จากคุณ : น้องหนูสะดิ้งน้อย - [ 11 พ.ย. 51 00:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 137 อ่านแล้วรู้สึกใจหายค่ะ ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ให้ฟัง แม้จะเจ็บปวดแต่ จขกท ก็เข้มแข็งมากๆ ขอชูนิ้วให้เลย ขอให้ จขกท และภรรยา และเจ้าตัวเล็ก มีความสุข และสุขภาพแข็งแรงนะคะ จากคุณ : kaewbkk - [ 11 พ.ย. 51 11:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ครับ จากคุณ : [Radio Edit] - [ วันลอยกระทง 21:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ยินดีด้วยกับชีวิตใหม่นะคะ ขอให้ลูกสาวของคุณ แข็งแรง น่ารัก เลี้ยงง่ายนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวค่ะ จากคุณ : MiSs pOsH - [ 15 พ.ย. 51 12:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์.. ขอให้ได้ลูกสาวน่ารักสมบูรณ์แข็งแรงเลี้ยงง่ายๆนะคะ จากคุณ : เอื้อมดาว - [ 17 พ.ย. 51 11:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 141 เห็นด้วยกับจขกท.มากๆในคคห.ที่ 94 เป็นเราๆก็ไม่กล้าเสี่ยงหรอก คงกลัวมั่กๆ เห็นใจภรรยาของคุณจขกท.เลยแหละ คงไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองหรอก...... จากความเห็นนั้นทำให้เรานึกถึงรายการหนึ่งจากเคเบิลเกี่ยวกับโรคประหลาด สามีภรรยาชาวอังกฤษคู่หนึ่ง มีลูกคนแรกเกิดมามีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังที่มันหลุดลอกออกมาตลอด ตอนเด็กแรกเกิด เรามองดูเหมือนเด็กดักแด้เลย ไม่รู้ว่าใช่หรือปล่าว เด็กต้องนอนบนที่นอนพิเศษ โปะครีมทาผิวตลอด สู้แสงไม่ได้ อากาศหนาวๆคิดดู ต้องอาบน้ำทุกวัน ลอกเอาครีม/ผิวหนังที่หลุดเป็นแผ่นๆออกมา แล้วก็ต้องโปะครีมไปใหม่ ผมก็แทบไม่มี... คุณหมอเตือนแล้วว่า โอกาสที่ลูกคนต่อไปจะเป็นเหมือนคนแรก มีความเสี่ยงสูง แต่สามีภรรยาคู่นี้ อยากลองเสี่ยงดู สุดท้าย...ก็เหมือนคนแรก ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งคู่ เราดูไป เราสงสารเด็กมากๆ ตอนที่ดู คนแรกเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว คนเล็กน่าจะไม่ถึง 10 ขวบ เห็นกิจวัตรประจำวันแล้ว เราสงสารทั้งแม่ ทั้งลูกมากก... ยังดีที่มีรัฐช่วยเหลือ เรื่องผ้าปู ซึ่งต้องซักและเปลี่ยนทุกวันทีละหลายๆผืน(มีการส่งผ้าปูมาให้) สำลี ครีม ฯลฯ ดีใจกับจขกท.ที่ผ่านเรื่องนี้มาได้ และขอให้มีความสุขกับครอบครัวยิ่งๆขึ้นค่ะ.... จากคุณ : ไอ้แล่ด - [ 17 พ.ย. 51 12:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ขอโทษนะคะ คุณรักภรรยาคุณมากแค่ไหนคะ ^^ รักเธอจริงๆ หรือแค่อยากมีลูกเฉยๆ หวังว่าคงไม่เห็นว่าเป็นแค่คนอุ้มท้องนะคะ (เพิ่งอ่านอีกกระทู้ มา โดนผู้ชายบอกว่าแค่คนอุ้มท้อง เลยสะเทือนใจ) ถ้ารักเธอจริงๆ อยากใช้ชีวิตกับเธอตลอดไป ก็ขอให้ต่อจากนี้ ชีวิตมีความสุขมากๆนะคะ ลูกเกิดมาหน้าตาน่ารัก เป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่ จากคุณ : เบลล์ (Itsabellela) - [ 19 พ.ย. 51 19:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 143 เสียใจด้วยค่ะกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อะไรผ่านมาแล้วก้อให้ผ่านไปค่ะ ขอแสดงความดีใจ กับน้องที่กำลังจะลืมตาดูโลกค่ะ แล้วอย่าลืมหมั่นไปทำบุญเยอะๆนะค่ะ จากคุณ : Navawee - [ 22 พ.ย. 51 01:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 144 อย่าลืมไปทำบุญอุทิศให้ลูกที่ทำแท้งไปนะครับ ทางที่ดีควรบวชให้ด้วยเลยจะดีกว่าครับ กรรมจะได้จางลงไปบ้าง ซึ่งดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จากคุณ : ทัชชี่ - [ 22 พ.ย. 51 16:44:47 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ขอบคุณมากค่ะ ขอให้คุณภรรยาแข็งแรง และ คุณลูกแข็งแรงนะคะ จากคุณ : ปังจิ้มนม - [ 23 พ.ย. 51 11:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ขอแสดงความยินดีด้วย และ ... ขออวยพรให้ได้ลูกที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจนะคะ ขอเล่าเรื่องให้ฟังบ้างว่า.... นานมาสิบกว่าปีแล้วววว.... หญิงคนหนึ่ง ที่กินยารักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ... ต่อมารู้ว่าตนเองท้อง  เกิดกังวลว่า ลูกจะผิดปกติ เพราะ ... อ่านดูแล้วพบว่า ยาที่กินไปนั้น ห้ามกินในหญิงตั้งครรภ์ จึงไป พบคุณหมอ เพื่อปรึกษา หมอบอกว่า...ไม่เป็นไรหรอก.. สบายใจได้ ท้องต่อเถิด เธอคนนั้น ถามต่อว่า แล้วเกิดลูกพิการล่ะคะ คุณหมอ: ไม่แน่ใจเหรอ งั้น ลูกออกมา ยกให้หมอเลยไหม... ............................................................................. คุณแม่คนนั้น จึงตัดความกังวล เมื่อครบกำหนดคลอด.... ลูกของเธอ ปกติ แข็งแรง เฉลียวฉลาด เรียนเก่ง และ เป็นเด็กดี ไม่มีความพิการใดๆเลย...ตอนนี้ โตเป็นหนุ่ม หล่อเชียวค่ะ @@@@@-----------------------------------------@@@@@ ส่วนอีกราย มีลูกมาก5-6 คนแล้ว ต่อมาท้องตอนอายุมาก ด้วยความที่ยากจน  ไม่อยากมีลูกแล้ว จึงพยายามซื้อยาขับเลือดต่างๆมากินมากมาย สุดท้าย ก็ไม่แท้ง ไม่มีเงินไปหาหมอด้วย ท้องต่อด้วยความกังวลใจ แต่สุดท้าย คลอดออกมา เด็กแข็งแรง เช่นกัน ที่เล่ามา  ....ก็แค่ จะบอกว่า " บางที อะไรๆ ก็ไม่แน่..". อะไร จะไม่เกิด...มันก็...ไม่เกิด อะไร...ไม่เป็น มันก็จะ... ไม่เป็น และ อะไร หากมัน...จะเกิด...มันก็ต้องเกิดค่ะ ท้ายสุด   ขอให้ คุณโชคดี มีครอบครัวที่มีความสุข นะคะ จากคุณ : มด2002 - [ 29 พ.ย. 51 01:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ขอฝากด้วยนะคะ 200 เครือข่ายชวนเดินรณรงค์ต้านสงครามกลางเมือง เครือข่ายประชาชนต้านสงครามกลางเมืองไม่น้อยกว่า 200 องค์กร ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเดินรณรงค์ "หยุดสงครามกลางเมือง และความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย" เพื่อแสดงความปราถนาที่จะหยุดสงครามกลางเมืองและความรุนแรง โดยขอให้มารวมตัวกันบริเวณ ถนนหน้าอาคารศศนิเวศน์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย วันที่ 30 พ.ย. 2551 เวลา 10.30 น. จากคุณ : รักไทยเชื่อไทย - [ 29 พ.ย. 51 23:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 148 เพิ่งได้อ่านค่ะ ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์ อิจฉาภรรยาคุณที่มีสามีที่ดีอย่างคุณค่ะ จากคุณ : Krapook-_-' - [ 30 พ.ย. 51 11:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 149 สู้ๆ นะคะ ^^ จากคุณ : Pls Girl - [ วันเอดส์โลก 13:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 150 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 51 10:52:03 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 51 03:30:59 จากคุณ : มล (Monako) - [ 6 ธ.ค. 51 03:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวจากชีวิตจริง ที่แทรกประโยชน์ในเนื้อเรื่องมาให้เป็นอุทธาหรณ์ค่ะ จากคุณ : Come2Z - [ 6 ธ.ค. 51 17:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 8 ธ.ค. 51 00:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 153 ดิฉันก็ เพิ่งตั้งท้องได้ประมาณ 2 เดือน ตอนที่ตรวจพบครั้งแรก ดิฉันมีอาการ ปวดท้องอย่างรุนแรง จึงได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.เอกชน แห่งหนึ่งโดยใช้สิทธิ์ ประกันสังคมกว่าจะได้รับการตรวจรักษา ดิฉันต้องทนปวดอยู่ประมาณ 2 ชม. ไหนจะรอเรียกชื่อ 1 ชม. และรอตรวจปัสสาวะอีก 45 นาที รอฟังผลตรวจ รอพบคุณหมอเพื่ออุนตร้าซาว อีก 50 นาที ผลตรวจออกมาว่า มีถุงน้ำในปีกมดลูกด้านขวา และมีเลือดออก ในมดลูก และ ตรวจพบอีกว่า ท้องนอกมดลูก จำเป็นต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน คุณหมอถามดิฉันว่าเป็นลูกคนที่เท่าไรแล้ว ดิฉันตอบไปว่าเป็นคนที่ 2 คุณหมอจึงถามอีกว่า แล้วลูกคนแรก ครอดปกติมั๊ย ดิฉันตอบว่าปกติดี เพราะดิฉันครอดโดยวิธี ธรรมชาติ คุณหมอก็ถามต่อไปอีกว่า อยากได้ลูกอีกคนเหรอ...หมอคิดว่าคนนี้คงจะไม่ได้ นะเพราะเป็นท้องนอกมดลูก.....หลังจากนั้นคุณหมอก็ส่งดิฉันเข้าห้องผ่าตัด โดยวางยาสลบ (ไม่ทราบว่าบล็อคหลังอีกรึเปล่า) เพราะว่าพอรู้สึกตัวขึ้นมา ก็รู้สึกว่า ตั้งแต่ช่วง เอวลงไปไม่รู้สึกอะไรเลย วันนั้นก็ได้นอนพักฟื้นที่ รพ. พอถึงวันที่ 2 ตอนช่วงบ่ายโมง คุณหมอเจ้าของไข้ได้มาเยี่ยมดิฉัน แล้วบอกกับดิฉันว่า เมื่อวานนี้ หมอได้ตัดเอาถุงน้ำที่ตรวจพบออกจากปีกมดลูก และได้ดูดเอาเลือดออก มาประมาณ 400 ซีซี แต่เด็กยังอยู่ ( ตอนนั้นดีใจมาก แต่ก็ยังกังวลอยู่บ้าง ) สรุปแล้วดิฉันไม่ได้ท้องนอกมดลูก พยาบาลได้ฉีดยา แก้ปวดให้ดิฉัน ประมาณ 2 เข็ม และให้เลือดไป 1 ถุง ตอนนี้อายุครรภ์ได้ 2 เดือนแล้ว เป็นกังวลมากๆ กลัวว่าลูกจะออกมาไม่สมบูรณ์ เพราะว่าตอนที่ดิฉันรับการผ่าตัดนั้น อายุครรภ์ น่าจะได้แค่ 2 สัปดาห์ และก่อนหน้านั้นดิฉันก็ เคยทานยา รักษาอาการมดลูกอักเสบ ได้ ประมาณ 3 เดือน และอีกก่อนหน้า 1 เดือน ดิฉันก็ทานยา แก้กระเพาะปัสสาวะอักเสบไป ดิฉันกังวลสุดๆ...อยากถามผู้รู้ซักคนว่า ทั้งการบล็อคหลัง และวางยาสลบจะทำให้เด็กพิการหรือไม่ และยาต่างๆ ที่ดิฉันทานเข้าไป จะมีผลต่อเด็กรึเปล่า ดิฉันไม่กล้าที่จะถามคุณหมอ เพราะว่าครั้งแรกที่วินิจฉัยโรค คุณหมอตั้งใจว่าจะเอาเด็กออก ไม่แน่ใจว่าคุณหมอได้เตรียมการเผื่อไว้บ้างรึเปล่า เป็นกังวลจริงๆคะ..... จากคุณ : poonim25 - [ 9 ธ.ค. 51 11:57:47 A:115.67.124.78 X: TicketID:190488 ]