เราเข้ามาอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในพันทิปอยู่ตลอดเวลาและก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมานั่งโพสเรื่องราวต่าง ๆ ในนี้ เราชอบที่จะได้นั่งอ่านเรื่องราวของคนอื่นเป็นวิทยาทานมากกว่า แต่วันนี้เราเจอเข้ากับตัวเองแล้วเลยต้องขอลงบ้างเพื่อหาว่าหน้าที่การรักษาของหมอนั้นอยู่ตรงไหน
ต่อไปนี้คือ e-mail ที่เราส่งไปร้องเรียนมาค่ะ(อาจจะยาวสักหน่อยนะคะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ)
กราบเรียนผู้อำนวยการสำนักการแพทย์
ดิฉันต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูงที่ต้องรบกวนเวลาของท่านเนื่องจากเว็ปไซต์ของโรงพยาบาล...ไม่สามารถที่จะเข้าไปในส่วนของเว็บบอร์ดหรือสมุดเยี่ยมได้ โดยที่ดิฉันมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับหมอของโรงพยาบาลที่ปฏิบัติกับคนไข้ไม่ดีซึ่งโดยปกติแล้วหมอท่านอื่น ๆ ของโรงพยาบาลก็ปฏิบัติกับคนไข้อย่างดีมาตลอดจะมีก็เพียงแต่หมอคนนี้เท่านั้นปฏิบัติตัวไม่ดี กิริยาไม่ดี พูดจาไม่ดีทำเหมือนกับผู้ป่วยและญาติเป็นคนไร้การศึกษาโดยเมื่อประมาณต้นเดือนที่ผ่านมาคุณพ่อของดิฉันได้ไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัดตามปกติซึ่งก่อนหน้านั้นก็เป็นคุณหมอท่านอื่นที่ดูแลอยู่ แต่ในวันนั้นทางโรงพยาบาลได้ส่งไปพบหมอ... ซี่งก็ได้ทำการตรวจเลือด ตรวจอุลตร้าซาวน์ และอื่น ๆ ซึ่งผลการตรวจออกมาว่าไตสองข้างฝ่อลงมีขนาดไม่เท่ากันต่างกันอยู่ที่ 1 เซ็นติเมตรและไตเสื่อมให้ระวังอาการช็อค และบอกว่าผู้ป่วยมั่วยาที่รักษา อีกทั้งยังบอกว่ารักษากับหมอใหม่ ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ แต่เราจะทราบได้อย่างไรคะว่าจะได้รับการรักษากับหมอคนไหนในเมื่อพยาบาลเรียกเข้าห้องตรวจแล้วเจอกับหมอทันทีโดยที่เราไม่สามารถเลือกได้ จากวันนั้นทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวเครียดมากเนื่องจากหมอบอกว่าไตเสื่อม และในการนัดครั้งต่อไปต้องให้ลูกมาเป็นผู้ฟังผลเอง
จนเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 51 (คือเมื่อวานนี้) ได้ไปโรงพยาบาลอีกครั้งตามที่หมอนัด ครั้งนี้ก็ไปเจาะเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจปัสสาวะ และนั่งรอผลจนถึงเวลาประมาณ 10 โมงเช้าจึงได้รับการเรียกเข้าห้องตรวจ พอจะเข้าห้องตรวจก็ปรากฏว่ายังเข้าไม่ได้เนื่องจากผลเลือดยังไม่ออกต้องนั่งรออีกประมาณครึ่งชั่วโมงจึงได้เข้าห้องตรวจ พอเข้าห้องตรวจหมอก็บอกว่าผลตรวจเลือดผิดต้องรอส่งมาใหม่เราก็นั่งฟัง หมอก็บอกว่าอาการอย่างนี้เนี่ยเป็นอาการของโรคไตระยะที่ 4 ต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้แล้วก็พูดๆๆๆๆ แล้วก็ถามว่าฉี่เยอะมั๊ยเราก็บอกว่าผู้ป่วยทานน้ำเยอะหมอก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องทานเยอะขนาดนั้นเราก็พยายามจะอธิบายว่าที่ทานน้ำเยอะมีสาเหตุมาจากอะไร แต่หมอก็ไม่ยอมฟังและพูดว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างไรไม่รู้แต่ตอนนี้เค้าเป็นผู้รักษา ก็ถ้าหมอไม่รับฟังสาเหตุที่เกิดก่อนหน้านั้นแล้วหมอจะประมวลผลการรักษาที่ผ่านมาได้อย่างไรคะ ต่อมาเราก็เลยถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องการรับประทานอาหารซึ่งหมอแสดงอาการรำคาญขึ้นมาทันทีและพูดว่าที่หมอพูดมาคุณไม่เข้าใจเหรอคะ แล้วเธอก็นั่งคีย์คอมพิวเตอร์เราก็ถามไปอีกว่าที่ปวดขาและขาบวมนี่เกิดจากอะไร หมอก็แสดงกิริยารำคาญออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดว่าคุณเห็นมั๊ยคะว่าหมอกำลังคีย์ยาอยู่ หมอก็ต้องตรวจแล้วคีย์ยาก่อนสิคะถึงจะบอกได้ว่าอะไรเป็นอะไรเราเลยบอกว่างั้นเชิญคุณหมอคีย์ก่อนเลยคะ และหมอก็ยังพูดต่อว่าถ้าอยากถามอะไรให้กลับไปคิดมาแล้วครั้งหน้าค่อยมาถาม แต่ท่าน ผอ.คะเราจะทราบหรือคะว่าการที่หมอนั่งคีย์คอมพิวเตอร์เงียบ ๆ นั่นคือหมอคีย์ยาอยู่และห้ามถามอะไรทั้งสิ้น ซึ่งพอเราถามไปหมอกลับบอกว่าหมอเข้าใจนะคะว่าเป็นสิทธิ์ของคนไข้ที่จะถามได้ แต่ที่นี่ไม่ใช่คลีนิคเฉพาะทางนะคะจะได้อะไรก็ได้ข้างนอกยังมีคนรออีกตั้งเยอะตั้งแยะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะกับการที่เราถามถึงอาการของโรค สาเหตุของโรคหมอกลับพูดแบบนี้หรือว่าการที่คนไข้ถามอะไรมาก ๆ กลายเป็นสร้างความรำคาญให้กับหมอ แต่หมอมีหน้าที่อะไรคะถึงแม้จะไม่อยากพูดไม่อยากตอบแต่ก็ต้องอธิบายถึงสาเหตุของโรคใช่หรือไม่คะผู้ป่วยจะได้ทราบและเข้าใจแต่นี่หมอคนนี้ทำเหมือนไม่มีจิตใจที่เอื้ออาทรหรือมีก็อาจจะน้อย อีกทั้งกิริยาท่าทางการพูดจาของหมอใช้ไม่ได้เลยนะคะ หมอคงคิดเอาเองว่าผู้ป่วยที่ไปพบนั้นคงเป็นชาวบ้านธรรมดาที่ไม่มีความรู้เสมือนตัวเองหรือมีก็อาจจะน้อยกว่าตัวเองจึงแสดงกิริยาท่าทางอย่างไรก็ได้ แต่นี่เราเป็นคนมีการศึกษานะคะไม่ใช่เฉพาะหมอคนเดียวเท่านั้นที่มีการศึกษาและมีความรู้สึกพอใจหรือไม่พอใจสิ่งใด การบริการนั้นจะต้องทำด้วยใจค่ะไม่ใช่ทำแบบต้องทำและถึงแม้ว่าต้องทำจริง ๆ สิ่งใดที่เราไม่พอใจก็ต้องเก็บไว้ข้างในไม่ใช่แสดงออกมาแบบหมอคนนี้
สุดท้ายนี้ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อร้องเรียนของดิฉันคงได้รับการดำเนินการต่อ ดิฉันไม่ได้ต้องการให้ลงโทษหมอคนนี้แต่ต้องการให้ตักเตือนถึงการให้บริการแก่ผู้รับบริการ หรือไม่ก็ลองส่งเธอเข้าอบรมเกี่ยวกับการบริการที่ดี(Service Mind)ก็ได้ค่ะเธอจะได้รู้ว่าการให้บริการที่ดีแก่ผู้อื่นเป็นอย่างไร ดิฉันต้องกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงนะคะที่กรุณาอ่านและรับฟังข้อร้องเรียนของดิฉัน
ขอแสดงความนับถือ
ทั้งหมดเป็นเหตุการที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาค่ะ ทำให้เรารู้สึกว่าในภาวะสังคมปัจจุบันยังมีหมอแบบนี้อยู่อีกหรือสังคมที่มีการแข่งขันกันด้านบริการ สังคมที่มีความเอื้ออาทร เพราะตลอดเวลาเราก็ได้รับการปฏิบัติที่ดีจากหมอท่านอื่น ๆ มาโดยตลอด แต่พอมาเจอกับหมอคนนี้ทำให้เรารู้สึกว่าคนแบบนี้ไม่น่าที่จะมีอาชีพเป็นหมอแต่อย่างใด จะเป็นเพราะคำพูด กิริยาท่าทาง การแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์ ไม่น่าจะเป็นหมออย่างยิ่ง เราคิดมาตลอดว่าหมอจะต้องเอื้ออาทรต่อผู้ป่วยและต้องให้ข้อมูลกับผู้ป่วยมากที่สุดเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยเอง
เราไม่ได้หวังว่าจะให้ทำโทษหมอแต่อย่างใด เพียงแต่เราอยากบอกว่าหน้าที่ของหมอนั้นจะต้องมีความเอื้ออาทร มีน้ำใจบริการ มีความสุภาพอ่อนโยน สิ่งใดไม่ควรแสดงก็ต้องเก็บไว้ แต่เราก็คิดว่าหมอจะต้องรู้อยู่แล้วว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างอย่างไรกับผู้ป่วย
ท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 51 11:36:47
จากคุณ :
ผู้หญิงจากดาวอังคาร 
- [
19 พ.ย. 51 11:25:34
]
หน้าที่ของหมอคืออะไร?
