ความคิดเห็นที่ 1 ออกกำลังให้มากกว่าเดิม งดของที่หวานๆทุกชนิด กาแฟเย็นนะตัวดีเลย น้ำตาลไม่รู้จะกี่ช้อน ผมออกกำลังมากกว่าคุณยังไม่ค่อยจะยุบเลยครับ อย่าคิดว่าเหนื่อยและเสียเวลาเกินไปครับ จะลดมันต้องให้เหนื่อยสุดๆต้องฝืน ถ้าคิดว่าเสียเวลาเปล่าๆยังไงก็ไม่มีทางลดครับ ทำให้อ้วนมันง่ายๆแต่ตอนลดยากมากๆ อย่าใช้ยาช่วยครับไม่ได้ประโยชน์มีแต่โทษ จากคุณ : soonchai - [ 6 ม.ค. 52 18:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับ ผมมีปัญหาเรื่องเวลาจริงๆครับ ทั้งประชุมสัมมนา คอยเซ็นเอกสาร ซึ่งต้องเช็กซ้ำตลอด ออกงานบ่อยมาก กลับบ้าน ช่วยเรื่องธุรกิจที่บ้านดูเอกสารให้ วันๆนอน ไม่กี่ ชม. นอน5ทุ่มตื่นตีห้าครึ่ง ยังทำอะไรไม่ค่อยทันเลยครับผม หุหุ เล่นเนตตอนรอเมล์ลูกค้าเช็กตอบเมล์ลูกค้าอย่างตอนนี้ ซึ่งบางทีต้องการคำตอบ URGENT บ้างบางครั้ง บางวันอยู่บนรถอย่างเดียว6ชม. บางวันห้องขายนั่งอย่างเดียว8ชม. ยังสงสัยทำไมน้ำหนักไม่ลด  สงสัยจะแก่เเล้ว ผมมี45นาที นี่เต็มที่ครับ มากกว่านี้ ไม่มีแรงและเวลาทำอย่างอื่นให้ครบแต่ละวันแน่นอน เหนื่อยไม่เคยกลัวครับแต่อย่างที่บอก มีวันอาทิตย์ครับ กี่ ชม.ก็ได้ จากคุณ : Mr.Jewyee - [ 6 ม.ค. 52 18:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาให้กำลังใจ เราก็กำลังลดอยู่เหมือนกันกิจวัตรประจำวันคล้ายๆ กัน อย่าใช้ยาเลยนะคะ เน้นอาหารกับออกกำลังดีกว่า^_^ จากคุณ : wansugar - [ 6 ม.ค. 52 18:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมพยายาม อยู่ เหมือนกัน จากคุณ : bornkung - [ 6 ม.ค. 52 20:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อื่ม...มาบอกเฉยๆค่ะ ว่าถ้าซื้อยาพวกนั้นแล้วเสีเงินเปล่า ถ้าน้ำหนักลงยังไงไม่นา่นก็เพิ่มกลับมาแน่นอน -เช้า กาแฟดำ ไข่สารพัดแบบ และขนมปังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ 2ชิ้น ##กาแฟดำ-ใส่น้ำตาลหรือเปล่าคะ ลองลดน้ำตาลให้น้อยลงค่ะ หรือเปลี่ยนเป็นสารให้ความหวาน ##ไข่สารพัดแบบ - ระวังพวกน้ำมันทำอาหารไม่ให้มากเกินไป ##ขนมปัง-เป็นขนมปังแบบไหนคะ เลือกพวกโฮลวีทจะดีกว่าค่ะ แต่จากประสบกรณ์เรา เมนูแบบนี้น้ำหนักเราไม่ลงค่ะ T^T ส่วนแยมถึง low fat ไม่มีไขมัน แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีน้ำตาลนะคะ ##จะมีเนื้อสัตว์เพิ่มอีกก็ได้นะคะ แต่เน้นที่ไขมันน้อย -กลางวัน ส่วนใหญ่ ข้าวตามสั่ง1จานกาแฟเย็น1แก้วไม่กินขนม ##เปลี่ยนจากกาแฟเย็นเป็นกาแฟร้อนจะดีกว่าค่ะ เพราะมีนมข้นหวานและน้ำตาลเยอะ(ถึงได้หอม หวาน มัน) -บ่าย ผลไม้ทุกประเภท ส่วนใหญ่ข้าวโพดต้มหรือมันต้ม ##ข้าวโพด กับมันต้ม -ไม่ใช่ผลไม้ค่ะ ถึงจะอยู่ในหมวดผัก แต่พลังงานที่ได้จะมาจากแป้ง ลองหาพวกผลไม้หวานน้อยทานเป็นของว่างดูค่ะ -เย็น กินแต่ปลากระป๋องกับซุบผัก ไปเลี้ยงก็กินแต่ผัก เนื้อ10คำ ไม่แป้งไม่แอลกอฮอล์ ##ปลากระป๋อง-อ่านแล้่วนึกถึงตัวเองเลยค่ะ เมื่อประมาณตุลาปีที่แล้วเริ่มลดน้ำหนักด้วยการเน้นสร้างกล้ามเนื้อ พี่ปลาทองฯ แนะนำให้ทานทูน่าในน้ำเกลือครึ่งกระป๋องหลังออกกำลังกาย และ อีกครึ่งกระป๋องช่วงบ่าย ว่าแต่ที่คุณจขกท ทานเป็นปลากระป๋องแบบไหนคะ ลองอ่านข้างกระป๋องว่า Nutrition Fact มีอะไรบ้าง ให้ระวังไขมัน กับแป้งค่ะ ##ซุปผักก็ช่นกันค่ะ แต่ถ้่าเป็นพวกแกงจืด ต้มจืดก็โอเคค่ะ ##กินเลี้ยงทานแต่ผัก-ระวังแคลอรี่ซ่อนจากน้ำสลัดค่ะ ด้านบนที่เขียนไว้ แค่ลองถามดูเฉยๆ ค่ะ เพราะอาหารหลายๆอย่างมีแคลอรี่ซ่อนไว้มากมาย อย่างช่วงแรกๆเราลดน้ำหนัก ช่วงเช้าเข้าฟิตเนส ทานผัก แฮม ขนมปัง แต่น้ำหนักดันไม่ลด แถมรู้สึกอยากอาหารมากมาย หลังๆ จะพยายามทานของที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีน่ะค่ะ (งดขนมปัง) น้ำตาลในเลือดก็จะไม่ขึ้นพรวดพราด มาถึงการออกกำลังกายกันดีกว่า ##เวลาการออกกำลังกาย กับ การเล่นเวท พอๆกับเราเลย - อันนี้ถ้าพูดอีกคงยาวมาก ส่งข้อมูลให้่อ่านดีกว่า http://www.theryo.com/2007/05/the_guide_to_cardio/ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plathong&month=09-2008&date=26&group=1&gblog=1 พี่ปลาทองฯ ก็ตั้งใจลดเอวเหมือนกันแหละค่ะ ลองอ่านแล้วทำตามที่พี่เค้าเขียน น่าจะเป็นแนวทางที่เห็นได้ชัดเจนค่ะ ปล. lifestyle อย่างคุณน่าจะต้องเน้นสร้างกล้ามเนื้อค่ะ เพราะกิจกรรมที่ทำไม่ค่อยใช้แรงเท่าไหร่ พยายามเข้านะคะ จากคุณ : superbox3 - [ 6 ม.ค. 52 22:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ง่า...คห. 5 แนะนำไปหมดแล้วอะ เหลือเรื่องการออกกำลังกาย ถ้ามีเวลาน้อย แนะนำให้เพิ่มความเข้มข้นค่ะ เล่นให้เหนื่อย ให้เหงื่อออกค่ะ อยากลดพุงให้ Sit up หรือเล่นเวทที่ท้องด้วยเครื่อง Crunch Machine ก่อน แล้วค่อยวิ่งค่ะ อย่าลืม! ต้องวิ่งให้เหนื่อยค่ะ ถ้าคุมอาหาร + เปลี่ยนชนิดอาหารที่ทานได้ พุงยุบชัวร์ค่ะ จากคุณ : . ("ยอมบ้า!..ไม่ยอมโง่") - [ 6 ม.ค. 52 23:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ ลิงค์มีประโยชน์กับผมมากเลย แต่คุณปลาทองพุงย้อย อายุ38ลดเอวให้เหลือ28 มันไม่ผอมไปหรือครับ มันจะดุผอมไปไม่เหมือนผู้บริหารหรือเปล่า ผมว่าผู้ชายสัก 30-32 น่าจะกำลังดี เพราะส่วนสูงเฉลี่ย170-175กันส่วนใหญ่ ว่าแล้ววันนี้ เริ่มเมนูใหม่และ L-canitine เช้าแกแฟดำ ไข่ต้มและ แฮม3ชิ้น กลางวันเหมือนเดิม ลดแป้ง และดื่มกาแฟดำ บ่าย ฝรั่งหรือแอปเปิ้ล2ลูก เย็น ปลาแซลมอนหรือซาบะย่าง1ชิ้น กับ แกงจืดผัก นอน นมlowfat ครึ่งแก้ว ทั้งหมดรวมกับออกกำลังและL-canitine อย่างนี้น่าจะลดได้2นิ้ว ใน1เดือน หรือไม่ครับ ขอบคุณทุกคำตอบครับ จากคุณ : Mr.Jewyee - [ 7 ม.ค. 52 06:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มื้อเช้า เปลี่ยนจากไข่ต้มเป็นทูน่ากระป๋อง สลัดผัก ก็ไม่เลวนะคะ มื้อดึก เป็นน้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล สลับนม แจ่มไปเลย จากคุณ : หนูป่าน - [ 7 ม.ค. 52 09:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านกระทู้นี้แล้ว ต้องขอบัตรผ่านเข้ามาตอบทันที (เพราะดิฉันไม่ได้เป็นสมาชิก) เจ้าของกระทู้อายุเท่าดิฉันค่ะ ดิฉันลดน้ำหนักไป 20 ก.ก. ภายในเวลา 11 เดือน โดนการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตประจำวีนค่ะ ตอนที่เริ่มลดดิฉันอายุ 35 ปี สูง 152 ซ.ม. น้ำหนักลดจาก 59 ก.ก. ไปเป็น 39 ก.ก. ตอนนี้กลับขึ้นมาบ้างแล้วเพราะกลับมาเมืองไทย กินข้าวดึกๆ บ่อย กับไม่ได้ซิทอัพกับยกดัมเบลล์ หรือเดินออกกำลังกายอย่างที่เคยทำตอนเรียนอยู่ต่างประเทศ เดิมดิฉันชอบทำกับข้าว ชอบกินบุฟเฟต์ กินไอศกรีม ชีส เลยเป็นคนหุ่นท้วมและอ้วน สลับไปมาอยู่ตลอด ตอนอ้วนน่ะ สุขภาพไม่แข็งแรง ป่วยเล็กๆ น้อยๆ บ่อย เวลามีประจำเดือนจะปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง ตลอด เป็นไมเกรนก็บ่อยค่ะ จนมาถึงจุดที่ว่า เราอายุมากแล้วนะ ถ้าไม่ลดตอนนี้จะลดยาก แล้วก็กำลังจะกลับเมืองไทย ถ้ายังอ้วนอยู่อย่างนี้จะไม่ดีกับสุขภาพตัวเอง ขาดความมั่นใจ แต่งตัวยาก ก็เลยหาข้อมูลเยอะมาก ก็เลยเริ่มลดอย่างจริงจัง การลดของดิฉันคือ ดิฉันแทบไม่กินข้าวหรืออาหารที่เป็นแป้งเลยเป็นเวลาประมาณครึ่งปี แต่ก็ไม่ใช่แอทท์กินส์เสียทีเดียวนะคะ ไม่กินขนม ไม่กินน้ำตาล น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ มื้อเช้ากาแฟดำแก้วเดียว ระหว่างวันดื่มน้ำตลอด แล้วก็เคลื่อนไหวร่างกายเยอะมากเพราะทำงานที่โรงเรียนด้วย เที่ยงกินเป็นเกาเหลา แกงจืด สลัดที่ใช้เพลนโยเกิร์ตแทนน้ำสลัด กินกับแซลมอนหรืออกไก่ มื้อเย็นในช่วงแรกๆ ดิฉันกินผลไม้สด เช่น พีช แพร์ แอปเปิ้ลราดโยเกิร์ตและลูกเกด ช่วงหลังไม่กินมื้อเย็นเอาเลย ออกกำลังโดยการเดินตอนเย็นวันละประมาณ 45 นาที เดินไปซื้อของบ้าง เดินเล่นรอบๆ อพาร์ทเม้นท์บ้าง ไม่ใช้ลิฟต์ แต่เดินขึ้นลงบันไดตลอดเลย กี่ชั้นก็เดิน แล้วก็ยกดัมเบลล์กับซิทอัพเช้า-เย็น โดยใช้ท่าครันช์ ซ้าย-ขวา-ตรง ข้างละ 75-100 ครั้ง ช่วงครึ่งปีแรกลดเร็วมาก ต่อมาก็ค่อยๆ ลง เพราะน้ำหนักเหลือน้อยมากแล้ว ทราบค่ะว่า น้ำหนัก 39 ก.ก. น้อยไปหน่อย ผอมจนคนรอบข้างตกใจ บังเอิญว่าดิฉันป่วยเสียหลายวันด้วย หายป่วยแล้วก็ยังหนักประมาณ 39-40 ก.ก. อยู่นาน ผ่านไปครึ่งปี กลับมากินแป้งมากขึ้นเพราะร่างกายเริ่มเตือนว่าขาดวิตามิน B2 แต่ก็ยังเคร่งครัดในการกินเหมือนเดิม คนที่รู้จักดิฉันเห็นรูปตอนอ้วนกับตอนนี้แล้ว บอกว่าเหมือนกับเป็นคนละคน อาจารย์ดิฉันถึงกับจำไม่ได้ แต่มีหลายคนบอกว่า ผอมเกินไปๆ ไม่มีน้ำมีนวล แต่ก็สวยขึ้น เอาใจช่วยคุณค่ะ จากคุณ : Prim - [ 7 ม.ค. 52 11:10:02 A:10.0.4.63 X:203.146.227.254 TicketID:200127 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กลับมาอ่านที่ตัวเองเขียนไว้ คิดว่าจะต้องมีคนทักว่า ระหว่างลดนั้น ดิฉันกินน้อยเกินไป จริงๆ แล้วกินพวกเนื้อสัตว์ด้วยนะคะ เช่น ซื้อปลา หมู ไก่ เนื้อ ไม่ติดหนังมาอบหรือต้ม หรือปรุงโดยใช้ไมโครเวฟ แต่จะเน้นว่า ถ้าใช้น้ำมันต้องเป็นน้ำมันมะกอก ไม่ใช้ซอสมะเขือเทศ หรือน้ำตาลในการปรุงรสเลย เลี่ยงการไปกินอาหารนอกบ้านด้วยนะคะ เพราะเขาเสิร์ฟมาจานใหญ่มาก ถ้ากินบุฟเฟต์ก็จะควบคุมการกินได้ยาก ในตู้เย็นก็จะมีแต่ผัก ผลไม้ น้ำเปล่า ก่อนกินอาหารแต่ละมื้อ ดื่มน้ำสองแก้ว จะทำให้อิ่มเร็วขึ้นด้วยค่ะ ดิฉันคิดว่า สิ่งสำคัญคือต้องบังคับจิตใจตัวเองให้ได้ มีทัศนคติที่ดีต่อการลดความอ้วน คืออย่ากดดันตัวเอง เข้าใจว่าที่ลดเพราะต้องการสุขภาพที่ดี แล้วจะมีความสุขค่ะ เชื่อดิฉันเถิดค่ะว่า ผลที่ได้รับ คุ้มค่ากับความพยายามจริงๆ จากคุณ : พริม - [ 7 ม.ค. 52 11:25:41 A:192.168.0.17 X:10.0.4.63, 203.146.227.254 TicketID:200127 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดื่มน้ำเยอะๆ แทนกาแฟดีมั้ยคะ? จากคุณ : ziinnuf - [ 7 ม.ค. 52 11:30:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โหวด คห 9 &10 ค่ะ เป็นแบบอย่างที่ดีเลย ถึงคุณจขกท. เราไม่สามารถระบุได้เป็นตัวเลขค่ะว่า นน หรือ รอบเอวจะลดลงในระยะเวลาที่กำหนด แต่เราเรียนรู้จากร่างกายเราว่า ถ้ายิ่งกดดัน ตั้งเป้า คาดหวัง ว่าจะต้องทำให้ได้ในระยะเวลาเท่านี้ นน เราจะไม่ลงค่ะ แต่ถ้าเราวางแผนที่จะทาน ออกกำลัง โดยทำเคร่งครัดตามแผนที่วางไว้ นน เราจะลงไปเรื่อยๆค่ะ ##ที่กล้าฟันธงคือ ถ้าคุณออกกำลังถึงจุดที่เหมาะสมกับร่างกาย คุณจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง เช่น กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นค่ะ ถ้าออกกำลังแล้วรู้สึกเพลีย ให้ลองหาโปรตีนทานเพิ่มค่ะ เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง อกไก่นึ่ง(ต้ม-ย่าง ทำให้โปรตีนเสียไปค่ะ) หรือ Whey โปรตีน ตัวรอบเอว...ไม่สามารถตอบได้เหมือนกันว่าขนาดไหนถึงจะดี อันนี้ลองคุยกับคนใกล้ตัวจะดีกว่าค่ะ เพราะต้องประเมินจากบุคลิกและรูปร่าง ถ้าจะหาแอลคานิทีนมาทาน จะต้องทานก่อนออกกำลัง 30นาที(แบบเม็ด) โดยที่ออกกำลังไม่ต่ำกว่า 20นาที ที่อัตราการเต้นของหัวใจ 60% ขึ้นไปนะคะถึงจะไ้ด้ผลดี แนะนำหนังสืออีกเล่มนะคะ "Burn fat feed the muscle" ถ้าพอมีเวลาอ่านลองหามาดูนะคะ จากคุณ : superbox3 - [ 7 ม.ค. 52 14:16:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ทำงาน ตี 5 ถึง 5 ทุ่ม เค้าไม่เรียกว่าทำงานแล้ว เค้าเรียกว่าขายชีวิต เห็นคนที่แบบนี้ส่วนใหญ่มาสำนึกได้ตอนเส้นเลือกในสมองแตก ไปนอนโรงพยาบาล พี่ทำงานผมก็เคยเป็นตอนทำงานที่เก่าล้มทั้งยืนในที่ทำงานเลย จนต้องลาออกจากที่ทำงานเดิม เพราะกลัวตาย อีกอย่างโรคทำงานหนักจนตายมีเยอะมากที่ญี่ปุ่น หาเวลาพักผ่อน กับออกกำลังกายมั๊งครับ พักผ่อนน้อยก็อ้วนง่าย จากคุณ : master_zo - [ 7 ม.ค. 52 15:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ใช่คนทำงานหนักเป็นคนไม่ดีนะครับ แต่พ่อผมก็ทำงานหนักจนหัวใจวายตายเหมือนกัน เลยไม่ค่อยชอบคนที่ทำงานแบบนี้เท่าไหร่ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 52 15:42:08 จากคุณ : master_zo - [ 7 ม.ค. 52 15:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ^^ ส่วนคุณมาสเตอร์โซ เสียใจด้วยที่เสียคุณพ่อไป แต่คุณต้องมองโลกให้หลายๆมุมครับ คนที่สนุกและรักในงานนั้นๆ งานมันจะหายเครียดไปส่วนหนึ่งและถ้างานนั้นสนุกไม่ต้องเครียดมาก งานนั้น ยิ่งทำยิ่งมัน แก้อัลไซเมอร์ได้เลย แต่ว่าผมไม่เคยเห็นคนเหนื่อยตายเพราะทำงานนะครับ พ่อผมเจ็กผมจะ70อยู่แล้วยังขับรถสปอร์ตตีกอล์ฟได้กันอยู่เลยทำงานหนักมาตั้งแต่เด็กๆด้วยทั้งรับราชการและทำธุรกิจส่นตัว เด็กๆเห็นชินตา พ่อนั่งคำนวนแบบดึกๆดื่นๆตี1ตี2ตื่น6โมงไปส่งผม จนมามีบริษัทมีโรงงานก็ยังรับราชการไปด้วย งานทั้งหนักทั้งเยอะ แต่หน้าแกมีรอยยิ้มเสมอ ไม่เห็นแกบ่นนะครับ ปัจจุบันนอกจากไม่ตายแล้วยังเเข็งแรงมาก ไปตรวจบริษัทและโรงงานด้วยตัวเองทุกวัน ^^ หลักคือ ผมหมั่นทำสมาธิสั้นๆตอนตื่นและก่อนจะนอน สมองปลอดโปร่ง มีโอกาสหยุดก็ไปวัดหลวงพ่อจรัญ ถือศีลบ้าง เช็กร่างกายทุกปี ไม่มีปัญหา ไม่เคยปวดหัว ปัญหาที่เจอเเค่อย่างเดียว คือ เวลาทำให้กระทบความสุขคนในครอบครัว ซึ่งเป็นปัญหาเดียวที่หนักหนาสาหัส ทางแก้คือเมื่อว่างหรือสัญญารับปากอะไรไว้ ถ้าไม่ตายต้องรักษาสัญญาให้ได้ นอกนั้นชีวิตผมมีความสุข สุดๆครับ ไม่นับเรื่องเงินซึ่งยิ่งทำมากก็ได้มากตามกลไก ว่าไปมันก็เปลี่ยนมาเป็นผลพลอยได้แห่งความสุขได้อีก ทั้งรถ ทั้งบ้าน ทั้งของบันดาลสุขประดามี อยากได้รถวันนี้พรุ่งนี้ซื้อได้เลย มันเป็นผลพลอยได้ที่ไม่เคยคาดมาก่อนเหมือนกันครับ ต้องสนุกกับงาน ต้องรู้จักควบคุมสมาธิ รับรองไม่ตายครับ แค่เหนื่อยนิดหน่อย ชิลๆ โชคดีครับ มาแก้ไขเพิ่มว่า พวกที่ใช้ชีวิตทิ้งๆขว้างๆเสี่ยงตายมากกว่าคนทำงาน คือพวกอยากใช้ชีวิตให้คุ้มแบบผิดๆและไม่มีวินัย ทั้งเหล้า ทั้งบุหรี่เที่ยวผู้หญิง มีเมียน้อย กินฟาสฟู๊ด ขับรถซิ่ง บลาๆๆ กลุ่มพวกคนไร้วินัยนี่ต่างหากครับที่สุขภาพเสี่ยงตาย จริงๆนะ ^^ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 52 06:05:47 จากคุณ : Mr.Jewyee - [ 8 ม.ค. 52 05:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ ชอบประโยคนี้จังครับ "ต้องสนุกกับงาน ต้องรู้จักควบคุมสมาธิ รับรองไม่ตายครับ แค่เหนื่อยนิดหน่อย ชิลๆ" ไม่ใช่ไม่เหนื่อย แต่ ชิลๆ ^^ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 11:51:54 จากคุณ : แมวมีคิ้ว (แมวมีคิ้ว) - [ 10 ม.ค. 52 13:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แบ่งเวลาไว้นอนให้เต็มอิ่ม แบ่งเวลาไว้พักผ่อน แบ่งเวลาใว้ออกกำลังกายน่าจะดีนะครับ เราอาจจะสนุกกับงาน แต่ร่างกายเราคงไม่สนุกด้วยซักเท่าไหร่ มันคงจะประท้วงไม่ช้าก็เร็ว ในที่สุดแล้วด้วยสุขภาพของเรา เราอาจจะไม่สามารถทำงานที่ตัวเองรักได้เหมือนเดิมนะครับ รักษาสุขภาพนะครับ สู้ ๆ เอาใจช่วย จากคุณ : karnclue - [ 12 ม.ค. 52 00:12:02 ]