คห. 22 คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ
เราไม่ได้ว่าแม่ว่าแม่เราไม่อดทน เรากลับเห็นด้วยด้วยซ้ำที่แม่เราตัดสินใจเลิกกับพ่อ
อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากที่คุณยังไม่ได้สัมผัสค่ะ
สิ่งที่เราพูดถึงนั้น เราบอกว่า เราเข้าใจเลยว่า ทำไมบางคนถึงเลือกที่จะนึกถึงความรู้สึกของลูกก่อน
เราไม่ได้น้อยอกน้อยใจว่าทำไมแม่เราถึงไม่นึกถึงความรู้สึกของเราค่ะ
เพราะแม่เรานึกถึงความรู้สึกของเรามาตลอด 2 ปี ก่อนที่เลิกกับพ่อ
เพียงแต่ ถ้าคุณไม่เคยสะเทือนใจเรื่องนี้ คุณก็จะไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมผู้หญิงคนหนึ่งถึงเลือกที่จะอยู่ เพราะกลัวว่าลูกจะมีปัญหา
เราไม่ได้โตมาอย่างมีปัญหาค่ะ แม่เราทำหน้าที่ได้ดี แม้ว่าจะบอกว่าแม่เป็นได้ทั้งพ่อและแม่ แต่ยังไงแม่ก็คือแม่ ไม่ใช่พ่อค่ะ
เราไม่เคยภาวนาขอย้อนเวลากลับไปเพื่อให้แม่ยังอยู่กับพ่อ
แต่เข้าใจคำว่าสะเทือนใจไหมคะ..
เมื่อก่อน ตอนเด็กๆ เราก็คิดเหมือนคุณนั่นแหละค่ะ พอ ไม่รักกันก็เลิกๆซะ จะทนไปทำไม ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงต้องทน
แต่พอกลายมาเป็นลูกที่ครอบครัวแตกแยก แล้วมันถึงทราบค่ะ ว่าทำไมบางคนถึงเลือกที่จะทน...และทำไมบางคนถึงเลือกจะไม่ทน เพราะเราสัมผัสมาแล้วทั้งสองอย่าง
และคิดว่า ในแต่ละการตัดสินใจ มีข้อดีที่แตกต่างกัน
เพราะฉะนั้น บอกไม่ได้ค่ะ ว่าการตัดสินใจแบบไหน ผิดหรือถูกเพราะต้องมองหลายๆมุม...
ปัจจุบัน แม่เราไม่สบายค่ะ ป่วยเป็นมะเร็ง ในขณะที่เมียน้อยพ่อ ก็เป็นมะเร็งเช่นกัน
คุณคิดว่าเราน้อยใจแม่หรือคะ ที่แม่เลิกกับพ่อ
เปล่าค่ะ เรากลับน้อยใจพ่อ ที่พ่อมีเมียน้อย ที่แทนที่พ่อจะมีเวลาให้แม่ในตอนที่แม่ป่วย พ่อกลับต้องไปดูแลผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆที่คนที่พ่อควรจะอยู่ข้างๆคือแม่เราค่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นที่ทั้งๆที่ทราบว่า พ่อมีครอบครัว มีลูกแล้ว แต่ก็ยังเอา (เค้าเริ่มกิ๊กกันตอนเราอายุ 4-5 ปีค่ะ)
คุณคิดหรือคะว่า เราน้อยใจแม่ ทั้งๆที่แม่เลี้ยงเรามาด้วยมือของแม่เองคนเดียว ในขณะนั้นที่เป็นข้าราชการจนๆ แถมไม่ใช่แค่เรา แม่ยังเลี้ยงดูหลานๆคนอื่นรวมกันห้าหกคน ทั้งๆที่เงินทองแทบจะไม่มี
คุณคิดหรือคะ ว่า เราน้อยใจแม่ ทั้งๆที่แม่ไม่เคยใส่อารมณ์ ไม่เคยพาลใส่เรา แม้ว่าแม่จะเหนื่อยจากงาน แม้ว่าแม่จะเครียดจากพ่อแค่ไหน แม่ก็ไม่เคยใช้อารมณ์ในการเลี้ยงดูเราเลย
คุณคิดหรือคะว่าเราน้อยใจแม่ ที่แม่เลิกกับพ่อ แต่แม่ยังมีเวลาให้เรา ให้ความรู้ ให้การศึกษาเราจนเราจบ ปริญญาโท และแต่งงาน มีครอบครัวที่อบอุ่น ทุกอย่าง แม่สนับสนุนทั้งนั้น
คุณคิดหรือคะ ว่าเราน้อยใจแม่ ที่แม่เลิกกับพ่อ เปล่าค่ะ เรากลับรู้สึกเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากขึ้นไปอีก ทั้งๆที่ตอนเด็กเราไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
คุณคิดหรือคะว่าเราน้อยใจแม่ ที่แม่เลิกกับพ่อ ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่ไม่เคยสอนให้เราโกรธหรือเกลียดผู้หญิงคนนั้น แม่พูดกับเราเสมอว่า อย่าไปเกลียดเค้า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เราเกลียดเค้า เราก็ทุกข์เอง ทั้งๆที่แม่เองก็ทำใจไม่ได้หรอก แต่แม่ก็เห็นแก่เราไม่อยากให้เราจมอยู่กับความเกลียดชัง
คุณคิดว่าแม่ที่ประเสริฐแบบนี้ เรายังจะน้อยใจได้อีกเหรอคะ...
ที่เล่ามานี่ คุณอ่านแล้วพอจับใจความได้ไหมคะ ว่าคนที่เราแอบน้อยใจลึกๆ คือใคร...
เราว่า ในคห.22 คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ
(แก้ไขคำผิดและเพิ่มเติมจ้า)
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 08:07:42
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 08:06:01
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 07:52:35
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 07:50:34