ความคิดเห็นที่ 1 อยากได้คนที่เอาผมอยู่นะ รู้ตัวเองหลายอย่างเราไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ ทั้งใจร้อน หุนหัน ฯลฯ คนที่จะแต่งงานด้วยถ้าเออออตามผมหมดมีหวังเจ๊ง หมดตัว จากคุณ : นายแมมมอส - [ 12 ม.ค. 52 10:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้าใจ เชื่อใจ ไม่โกหก จากคุณ : แม็กซิม - [ 12 ม.ค. 52 10:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ถ้ารักกันแสดงว่า เค้าต้องมีอะไรที่เราพอใจและคิดว่าไปกันได้ เราได้เลือกที่จะรักแล้ว ถูกต้องเลยค่ะผู้ชายจะรู้สึกดี ถ้าได้รู้สึกว่าเค้าเก่งกว่า แต่พอได้ใช้ชีวิตแต่งงานจริงๆ อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอค่ะ เหตุการณ์ข้างหน้ายากที่จะคาดเดา ต่อให้เราเลือกอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม.... จากคุณ : Herri - [ 12 ม.ค. 52 10:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความเข้ากันได้ของทั้งสองครอบครัวค่ะ จากคุณ : Bilingual - [ 12 ม.ค. 52 10:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ครอบครัวเสมอกัน-----  ไม่อยากได้ผู้รากมากดีที่ไหนอ่ะค่ะ  เอาคนธรรมดาๆล้อมวงกินข้าวปกติ                                อย่าให้ถึงขั้นนั่งโต๊ะดินเนอร์ทุกเย็น  สยอง รสนิยมเสมอกัน------- กลางๆนะ ไม่ได้หรูเลิศ แต่ก็ไม่ใช่อะไรๆก็จานเมลามีนอ่ะ ชอบทานข้าวด้วยจานกระเบื้อง                                 ศีลธรรมเสมอกัน------  ผิดศีลข้อ 5 เหมือนกันจะดีมาก 5 5  อิชั้นไม่ได้ถือศีลเคร่งครัด แค่ไม่สามารถมองว่า                               การฆ่าสัตว์เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้มีใจนิยมในการโกหกหลอกลวงลักขโมย หรือผิดลูกเมีย ความรู้เสมอกัน------- คุณผู้ชายจะรู้มากกว่าก็ไม่แปลก  น้อยกว่านิดหน่อยก็ยังไหว(แต่ต้องมีข้ออื่นทดแทน)                             แต่ไม่ชอบที่ตามตลอด ถามตลอด ไม่เข้าใจตลอด อันนี้ก็เหนื่อยไปอ่ะ                            อยากได้แบบที่คิดเองเป็น เก็ทเองเป็น และถ้าเข้าใจสิ่งที่เราคิดด้วย จะดีมาก ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน  แต่การแต่งงานเป็นเรื่องของ 2 ครอบครัว ดังนั้นเรื่องใหญ่ที่สุด  น่าจะเป็นครอบครัวทั้งสองคน ต้องเข้ากันได้ด้วยอ่ะนะ จากคุณ : KHIMM - [ 12 ม.ค. 52 10:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ว่าตามประสบการณ์ -- ครอบครัวค่ะ -- พ่อ แม่ พี่ น้อง ของเขา เราเข้าใจรูปแบบของครอบครัวเขาแค่ไหน -- เขาเข้าใจครอบครัวเราแค่ไหน แม้ว่าตอนแต่ง จะแยกบ้าน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และปัญหาได้เช่นกัน -- ส่วนเรื่อง ภาวะผู้นำ -- ปังคิดว่า -- หากผู้ชายคนนึง ขอให้ผู้หญิงคนนึง มาใช้ชีวิตร่วมกัน -- เขาคนนั้น คงได้ไตร่ตรอง และมีแนวทางของชีวิต วางไว้ในใจ -- ซึ่ง -- ความเข้าใจ พอใจ ในกันและกัน เป็นเรื่องสำคัญ ที่คนสองคน ต้องจูนกัน -- ปังว่า -- ไม่มีคู่ไหน เติมกันได้เต็มทั้งหมด -- หากแต่ยอมรับ และเข้าใจกันและกัน -- ชีวิต จะมี 2 คน ตลอดไป (อ่า -- อาจมีตัวเล็กๆ เพิ่มเป็น 3 เป็น 4 ต่อไปอีกด้วย) จากคุณ : ปังจิ้มนม - [ 12 ม.ค. 52 10:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนที่แต่งไม่ได้พิจารณาอะไรเยอะเลย เพราะดิฉัน Low Profile มากมาย..แต่คิดว่าน่าจะเป็นที่ความรู้สึก ว่าคนๆนี้แหละที่รักเรามากกว่าตัวเค้าเองนะคะ จากคุณ : shewant - [ 12 ม.ค. 52 10:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ความรู้ ฐานะ รสนิยม การศึกษา จริยธรรม มโนธรรม จิตสำนึก ครอบครัว และ การงาน ถ้าทุกอย่างประจวบเหมาะกันเป็นอย่างดีแล้วนั้น ก็นะ......ตามนี้ โอเค จากคุณ : smabbytoon - [ 12 ม.ค. 52 10:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความเข้ากันได้ของทั้ง สองครอบครัวอย่างที่ คุณ Bilingual ว่าไว้ ข้อทะเยอทะยาน ขอให้มีเหมือนกัน เพราะว่าส่วนตัวแล้วเป็นคนไม่หยุดอยู่เฉยๆ หาโน่นหานี่ทำไปเรื่อย ไอ้ความรู้สึกประเภท "แค่นี้ก็ดีอยู่แล้ว" นี่ไม่เอาเลย สุดท้ายคงเป็น เวลาที่เราแย่ เค้าต้องประคอง หรือ เป็นหลักช่วยเราได้ ถ้าไม่รู้สึกว่าได้แบบนี้ ไม่แต่งดีกว่า จากคุณ : Beeee(Beeee) - [ 12 ม.ค. 52 10:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Oh Oh Oh No No No Yes Yes Yes อ้าว ไม่ใช่เหรอ 5 5 5 เดี๋ยวมาตอบแบบมีสาระ นะครับ จากคุณ : PrettyBoy+++มีเขี้ยวด้วย - [ 12 ม.ค. 52 10:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รักอย่างเดียวไม่พอ จ้า ต้องดูปัจจัยรอบข้างด้วย เคยมีแฟนแบบประมาณคุณหนูไฮโซ ตอนไปทานข้าวที่บ้านเธอ เกร็งโคตร ช้อนส้อม มีดไม่รู้กี่อัน วางเรียงรายไปหมด เจอหน้าคุณพ่อคุณแม่เธอปุ๊ป โดนซักประวัติยิ่งกว่า สัมภาษณ์งานอีก ชีวิตวันๆ ต้องไปงานเลี้ยง งานสังคมกับเธอตลอด เหนื่อยสุดๆ ถามว่ารักมั้ย (รัก) เธอนิสัยดีมั้ย (ดีถึงดีมาก) จากคุณ : PrettyBoy+++มีเขี้ยวด้วย - [ 12 ม.ค. 52 10:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนนั้นชีวิตแต่ละวัน ทำงานเสร็จปุ๊ปต้องเตรียมหล่ะ ไปงานเลี้ยง งานแต่ง งานจิบน้ำชา แทนคุณพ่อคุณแม่ของเธอ วันๆเจอแต่อาหารจีน อาหารอิตาเลี่ยน อาหารฝรั่งเศส วันหยุดยาวเตรียมตัวหล่ะ ฮ่องกง สิงคโปร์ ชีวิตตอนนั้นไฮโซโคตร แต่จุดแตกหักก็มาถึง แฟนเราดีพร้อมทุกอย่าง แต่ข้อเสียก็คือ ขี้หึง ขี้โมโห สุดๆ ยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี ลูกพี่ลูกน้อง(ผู้หญิงนัดทานข้าว เธอจะเปิดบัญชีซื้อ-ขายหุ้น) ก็นั่งทานข้าวด้วยกัน ทานไปได้จนจะเช็คบิลหล่ะ แฟนเราตอนนั้นเดินเข้ามาในร้านไม่พูดพร่ำทำเพลง หยิบมีดอีโต้ขึ้นมาสับไปที่กลางโต๊ะ (พระเจ้า) เหตุการณ์วันนั้นวุ่นวายไปหมด โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ จากคุณ : PrettyBoy+++มีเขี้ยวด้วย - [ 12 ม.ค. 52 10:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หนวดเคราก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้ชายมีหนวดเคราเท่ห์ดี อุ๊ฟส์ แซวเล่นนะ อิอิ จากคุณ : หลงทางเป็นงานอดิเรก - [ 12 ม.ค. 52 10:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากเจอคุณหนูไฮโซคราวนี้ก็มาถึง สาวติดดิน แฟนเราคนนี้ติดดินมาก ดูหนัง ไม่ต้องชวนเลย เธอบอกรอแผ่นออกค่อยเช่ามาดู (แก่ตายพอดี) ทานข้าว ในห้าง หรือร้านอาหาร ก็ไม่ต้องชวน เหมือนกัน ชอบข้างทางสถานเดียว บางครั้งอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ไม่ยอม บอกเปลือง ตอนนั้นคบกับคนนี้ ปัญหาคือ แม่ของเธอ คบกันได้ 3 เดือน อยู่ๆ แม่เธอก็ถามว่า คบกับลูกสาวเค้าในฐานะอะไร เราก็บอกกำลังศึกษานิสัยใจคอ กันอยู่ แม่เธอบอกว่า ถ้าไม่แต่งงานก็ไม่ต้องมาคบกับลูกสาวเค้า เราบอกว่าเร็วไป เพิ่งคบกันได้ 3 เดือน แม่เธอก็บอก คบกันอย่างนี้ ลูกสาวเค้าเสียหาย (สาบานได้ ไม่เคยล่วงเกินอะไรเค้าเลย ตรูจาบ้าตาย) มารู้ตอนหลังว่า มีคนมาจีบเธอแล้วก็สนิทกับแม่ของเธอ แม่เธอเลยพยายามกีดกันเราทุกอย่าง เฮ้อ จากคุณ : PrettyBoy+++มีเขี้ยวด้วย - [ 12 ม.ค. 52 11:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เจ้าของกระทู้มาถามอย่างนี้ จาแต่งงาน เหรอ ว้าว จากคุณ : PrettyBoy+++มีเขี้ยวด้วย - [ 12 ม.ค. 52 11:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นอกจากรักกันแล้ว ก็น่าจะมี .... การใช้ชีวิต + นิสัยที่ใช้ร่วมกันได้ ...   รวมไปถึงการยอมรับข้อดีและข้อเสียของอีกฝ่าย ... จากคุณ : ... กระซิบรัก จากความทรงจำ ... - [ 12 ม.ค. 52 11:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนนี้ถ้าจะแต่งงานกับใครสักคน ขอแค่ นิสัยดี ขี้หึงได้ แต่อย่าให้ง้อนานๆ ที่บ้านเรากับที่บ้านเค้าเข้ากันได้ แล้วก็ อย่าสะกิดบ่อย มานเหนื่อยอ่ะ จากคุณ : PrettyBoy+++มีเขี้ยวด้วย - [ 12 ม.ค. 52 11:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คิดว่าเป็น ความเข้าใจ ค่ะ เข้าใจในตัวเอง เข้าใจในตัวคนรัก เข้าใจในครอบครัวของตัวเอง เข้าใจในครอบครัวของคนรัก แต่บางทีชีวิตคนเราก็เข้าใจยากชะมัด ^ ^V จากคุณ : ลูกเกาลัด - [ 12 ม.ค. 52 12:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนนั้น พี่แทบจะไม่ได้คิดอะไรเลย รู้ว่าเราอยู่กับเค้าแล้วมีความสุข มั่นใจว่าเค้าดูแลปกป้องเราได้ ดูว่าเค้าไม่จุกจิกเรื่อง ครอบครัวเรา เค้าไม่ได้เป็นลูกแหง่ในครอบครัวเค้า เค้าเป็นลูกที่ดีของครอบครัวเค้า และเป็นผู้นำที่ดีของเรา แค่นั้นค่ะ   ที่สำคัญ ต้องรู้สึกว่าขาดเค้าไม่ได้ และเค้าก็ขาดเราไม่ได้เช่นกัน มันเหมือนจิ๊กซอว์ ที่ต่อกันลงตัวของคนสองคนค่ะน้องตาล เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญเท่าแล้วค่ะ ในชีวิตพี่คิดเสมอว่า ทุกอย่างแก้ไขได้ ถ้าไม่ได้เราก็ปล่อยวางได้ ไม่รู้ซิคะ พี่เป็นคนที่ไม่ชอบเก็บปัญหาหนักๆไว้กับตัวหรือครอบครัว หรือกับตัวเอง แต่บอกน้องตาลได้เลยค่ะ ที่เค้าบอกว่าการแต่งงาน การมีคู่ครอง เหมือนซื้อหวย ไม่ผิดแน่ๆ เพราะใจคนเรา เวลา ความรู้สึก มันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ บางคนพยายามประครองให้ดีสุดชีวิตก็ยังต้องจบกัน บางคนไม่ต้องทำอะไรเลยชีวิตก้ยิ่งรักกันมากกว่าเดิม  หรือบางคนดูแลเอาใจใส่แล้วทำให้ชีวิตดีขึ้นก็มี บางคนปล่อยปล่ะละเลยแล้วทำให้ครอบครัวล่มสลายเยอะไป อยู่ที่เราครึ่ง อยู่ที่เค้าครึ่งค่ะ ว่าจะหนักแน่นและรักกันมากแค่ไหน บางคนอุปสรรค์เล็กๆน้อยๆ ก็จะเอาชนะกัน ชีวิตคู่มันก็จบ แต่ถ้า พร้อมจะเข้าใจ ให้อภัยกันได้ ถนอมน้ำใจกัน ให้เกรียติกันชีวิตคู่มันก็มั่นคงและยืนยาว นี่แค่เรื่องของคนสองคนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกันนะคะ วันข้างหน้าถ้ามี ลูก ทุกอย่าต้องเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่าเลยค่ะ เพราะเราต้องรับผิดชอบชีวิตที่เราทำให้เค้าเกิดขึ้นมาอีก คราวนี้ไม่ใช่แค่ เรา กับ  เค้า แล้วค่ะ จากคุณ : +:+SoMEonE ExacTlY likE yoU+:+ - [ 12 ม.ค. 52 12:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ในฐานะผู้ชาย ถ้าจะแต่งงานกับใครซักคน ก็อยากจะเป็นผู้ชายที่ดีที่สุด เท่าที่จะดีได้ พร้อมให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ ถ้ารู้สึกว่ายังไม่พร้อม ยังไม่ดีพอ ก็ไม่คิดเรื่องแต่งงาน ถ้าพร้อมแล้ว รู้สึกว่าน่าจะดีพอแล้ว ก็แล้วแต่อีกฝ่าย ว่าจะดีพอหรือยัง จากคุณ : monology - [ 12 ม.ค. 52 12:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ฐานะปานกลาง  ครอบครัวอบอุ่น ความรู้ ปานกลาง ทะเยอทะยาน พอสมควร พี่รักเค้า และ เค้ารักพี่ แม่พี่รักเค้า  และพ่อ-แม่เค้า ก็รักพี่ พอแล้วล่ะ เห็นด้วยว่าเหนื่อยจริงๆนะ ถ้าจะต้องคอยบอกแฟนให้ทำนั่นนู่นนี่เนี่ย ต้องคิดได้เองบ้างสิ จากคุณ : ++SMILE LOGIN++ - [ 12 ม.ค. 52 12:11:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลอกการบ้านคุณ KHIMM ค่ะ เคยอ่านหนังสือธรรมะเจอแบบเดียวกับที่คุณ KHIMM ว่าไว้ ว่าจะต้องหาคนที่เสมอกันในด้านต่างๆ ตามนั้นค่ะ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง เหมือนกับว่าจะดูถูกอีกคนรึเปล่า ไอ้ที่บอกว่า ต้องเสมอกับเรา แต่พอมานั่งคิดดู ไม่ใช่ว่าจะต้องหาคนที่ดีเสมอเรา เพียงแต่ว่า ถ้าเราเราดี 20% แต่ดันไปมีแฟนดี 90%  มีหวังกลายเป็นคนไม่ได้เรื่องในสายตาแฟนแหงๆ ไม่ต้องเท่ากันพอดิบพอดี แต่ประมาณเดียวกัน จะช่วยลดปัญหาไปได้มากเลยทีเดียว คุณผู้หญิงทั้งหลายที่ไม่ชอบคอยบอกแฟนให้ทำนู่นทำนี่ ก็คงเหมือนกันกับคุณผู้ชายทั้งหลายที่ไม่ชอบให้แฟนมาบอกว่าต้องทำอะไรเช่นเดียวกัน คนคบกัน แต่งงานกันมองอะไรไม่ต้องเหมือนกันทั้งหมดหรอก แต่เมื่อไหร่ที่มองต่างกัน ให้รู้สึกว่ามองต่างเพื่อแลกเปลี่ยน ไม่ใช่มองต่างแล้วต้องหาฝ่ายถูก-ผิด ป.ล. แต่ตอนตัดสินใจเป็นแฟน หรือแต่งงานแล้วคิดว่าทุกอย่างพอๆ กัน  แต่พอคบกันไปแล้ว  อ้าว...ไม่เหมือนกันนี่หว่า นี่อีกเรื่องนะคะ  ^^ จากคุณ : ~~For Sentimental Reasons~~ - [ 12 ม.ค. 52 12:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอให้เท่าเทียม ทัดเทียม แล้วก็เสมอกัน ฐานะดีกว่าจะดีมาก เพราะการแต่งงานไม่ใช่มีแค่ความรักเป็นองค์ประกอบ แต่มีปัจจัยของชีวิตและการดำเนินชีวิตร่วมกัน ความรักอย่างเดียวอาจจะพอถูไถได้ในช่วงแรก พอไปซักระยะแล้วก็จะมีด้านอื่นๆเข้ามาด้วย แฟนเก่าเราฐานะและการศึกษาอยู่ในระดับที่ต่างกันมาก แรกๆเราก็รับได้ แต่พ่อแม่ ญาติพี่น้องไม่เห็นด้วยเพราะคิดไม่เหมือนกัน ความทะเยอทะยานก็ต่างกัน คบกันแป๊บเดียว แต่ทำไมรู้สึกเหนื่อยค่อดๆ น้ำหนักลดเกือบ 10 กิโล เพราะเราเครียดแล้วก็เหนื่อยมากๆ เคยคิดไกลไปถึงจะแต่งงานกัน แต่สุดท้ายเราคัดสินใจเลิกเพราะคบแล้วไม่เห็นอนาคตเลย ทั้งเหนื่อยทั้งเครียด ต้องกัดก้อนเกลือกินก็ไม่ไหว คงตายก่อนแก่แหง๋ๆ ตอนนี้เราเลือกคนที่ฐานะใกล้เคียงกัน พื้นฐานครอบครัว การศึกษาในระดับเดียวกัน มีความทะเยอทะยานพอๆกันไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจกัน ที่สำคัญไม่ต้องคอยบอกให้ทำนั่นนี่โน่นด้วย โตๆกันแล้ว จากคุณ : A Princess - [ 12 ม.ค. 52 13:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่รุ้เหมือนกันว่ามองที่ตรงไหน แต่ที่แน่ๆๆๆจะมองที่หัวใจ สมองและความรับผิดชอบ ฐานะเราไม่ค่อยมองเท่าไหร่ เพราะคนเรามีหนึ่งสมอง สองมือ สองเท้า ขยัน อดทน แค่นี้ก็พาชีวิตไปรอดแล้ว จากคุณ : ใบไม้เดือนห้า - [ 12 ม.ค. 52 13:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 *ไม่ผิดศีล   แค่ศีล 5 ก็พอ   *มีความเป็นผู้นำสูง *มีทัศนคติและมุมมอง ในเรื่องต่าง ๆ คล้าย ๆ กัน *เป็นคนที่เอาเราอยู่  เพราะเราร้ายมาก แค่นี้ก็พอค่ะ  เพราะแค่นี้ก็หายากแล้วค่ะ ^^ จากคุณ : LeeLin Actually~* - [ 12 ม.ค. 52 13:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เงิน...เอ้ย ความเป็นผู้ใหญ่ค่ะ 555 สำหรับแหวนแล้ว ความเป็นผู้ใหญ่ และ ที่ว่าง เท่านั้นที่ขออนุญาตเรียกร้อง จากคุณ : SICKHEART - [ 12 ม.ค. 52 13:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 27 "การแต่งงาน" เป็นสิ่งที่คิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้สัมผัส จากคุณ : งามครอบคลุมจักรวาล - [ 12 ม.ค. 52 13:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 พี่แมมมอส - คนที่เอาอยู่เนี่ยะ หายากนะคะ ยิ่งเอาอยู่เราก็ยิ่งดื้อขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้พี่ไผ่เป็นรึเปล่า แต่ตาลเป็นแฮะ 5555+ คุณแม็กซิม - มาแบบสั้นๆง่ายๆเหมือนคำขวัญวันเด็ก แต่ครบทุกความต้องการเลยค่ะ ^^ คุณ Herri - คิดเหมือนเราเป๊ะเลยค่ะ เราก็ไม่อยากเก่งกว่าแฟนเรา อยากให้เค้ารู้สึกเป็นผู้นำ เนอะ^__^ คุณ Bilingual - โอ้..อันนี้ปัญหาสำคัญเลยค่ะ จะบอกว่าเคยเจอปัญหานี้นะ แทบกระอักเลือดเลยล่ะค่ะ พี่KHIMM - ชีวิตคู่สรุปทุกอย่างในข้อความของพี่เลยค่ะ ขอกอปปี้ไว้ในสมองเลย เมมๆๆๆๆๆ จากคุณ : พี-ไลน์ - [ 12 ม.ค. 52 13:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอแว๊บไปทำงานแป๊บนะคะ เดี๋ยวตาลมาตอบใหม่คับ ^^ จากคุณ : พี-ไลน์ - [ 12 ม.ค. 52 13:43:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หมวยเองไม่ใช่คนดีอะไรนัก ถ้าถามว่าจะต้องพิจารณาอะไรบ้าง ถ้าคิดจะแต่งกับใครซักคนหรอ...... เค้าจะต้องเป็นได้ทุกอย่าง เป็นคนรัก เป็นเพื่อน และที่สำคัญ ต้องรักในสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราทำทุกอย่าง เมื่อนั้น หมวยก็พร้อมที่จะเปลี่ยนให้ตัวเองดีขึ้น ดีพอที่จะเป็นคนรักที่เค้าและครอบครัวของเค้าภูมิใจค่ะ จากคุณ : Jamuay - [ 12 ม.ค. 52 13:57:15 ]

ความคิดเห็นที่ 31 - รูปแบบการใช้ชีวิต(life style) - ทัศนคติในเรื่องต่างๆ - นิสัยใจคอ ถ้าเหมือนนกัน หรือคล้ายๆกัน ก็คงจะไปกันได้ แต่ถ้าต่างกันสุดขั้ว แล้วต้องมานั่งปรับตัวกันมาก ก็คงไม่ไหวนะคะ จากคุณ : กระต่ายลงพุง - [ 12 ม.ค. 52 14:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นอกจากความรักแล้ว เค้าควรต้องทำให้เรารู้สึกศรัทธาและภูมิใจได้ด้วยค่ะ ครอบครัวของอีกฝ่ายก็สำคัญ ถ้าแม่ไม่ปลื้ม อาจต้องรอเป็น 10 ปี ถึงจะได้แต่ง   แต่งงานแล้วชีวิตควรจะต้องดีขึ้นทั้งสองฝ่ายค่ะ ^__^ จากคุณ : Why-Not-T-Shirt - [ 12 ม.ค. 52 14:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ จิ้มไป 30 แหม๋ๆๆๆๆ คนเรามีความรักตอยอะไรก็ดี ไปหมด เอิ้ก เอิ้ก จากคุณ : smabbytoon - [ 12 ม.ค. 52 14:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 บางทีก็ไม่ต้องพยายามหาเหตุสมดุลอะไรเลยนะ แค่รู้ว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด ก็ถือว่าเข้าอกเข้าใจกันในหลายเรื่องๆอัตโนมัติอยู่แล้ว จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 12 ม.ค. 52 14:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถูกทุกข้อครับ เห็นด้วยกับทุกความเห็น (มาทีหลัง ตอบง่ายดีแฮะ ) จากคุณ : Necessary - [ 12 ม.ค. 52 15:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ทุกสิ่งทุกอ่างอยู่บนหลักของความสมน้ำสมเนื้อกันค่ะ เราว่าความรักไม่ใช่การกัดก้อนเกลือกิน - -* ถ้าอยู่กับใครแล้วเหนื่อยหรือเบื่อเราว่าแบบนั้นเป็นโสดอยู่บนคานมันนี่ละดีที่สุดแล้ว การเป็นคนรักกันจะต้องมีทัศนคติต่างๆที่ไปในแนวทางเดียวกันนะคะ ระดับการศึกษา สภาพครอบครัวของทั้ง 2 คน พื้นฐานสังคมของทั้งคู่ คือดูแล้วคุณเป็นคนที่ขยัน มีความอยากได้ อยากมี เอาง่ายๆมีความทะเยอทะยานแล้วคุณก็เป็นคนที่คว้าในสิ่งที่ต้องการมาไว้ในมือได้มาตลอดถูกไหม แบบนี้เราว่าถ้าต้องอยู่กับคนที่เฉื่อยแฉะ เฉื่อยชา มันน่าเบื่ออ่ะ คุณอาจจะทนได้ในช่วงแรกๆ แต่ถ้าแต่งงานไปเจองี้ตลอดชีวิต ตายห่านกันพอดีค่ะ - -* คนบางคนเหมาะสมแค่เป็นเพื่อนที่ดี แต่ไม่เหมาะสมกับการเป็นคู่ชีวิตที่ดีค่ะ ปูลู1.แก้ไขพิมพ์ผิด พิมพ์ขาด ความหมายผิดค๊าาาาา ปูลู2.แต่สรุปแล้วการแต่งงานก็เป็นเรื่องของคน 2 คน ถ้าคุณตกลงปลงใจ พร้อมจะฝ่าฟันไปกับเขา ก็แต่งโลดดดดดด เชื่อในการตัดสินใจของตัวเองดีที่สุดคร้าบบบบบ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 17:29:11 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 15:33:38 จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 12 ม.ค. 52 15:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความเป็นผู้นำ ไม่ใช่เผด็จการ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน และที่สำคัญสุด คือ ความเข้าใจค่ะ ป.ล. ช่วงนี้พิมก็ถามวนๆแต่เรื่องแต่งงานเหมือนกัน ว่าจะตั้งทู้พอดีเลยค่ะ จากคุณ : พิมมาดา~The Seductress~ - [ 12 ม.ค. 52 17:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ของผมเอาแค่มีความซื่อสัตย์สุจริตก็พอแล้ว จากคุณ : ความสุขเล็กๆ - [ 12 ม.ค. 52 17:11:22 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านดูแล้ว ชีวิตนี้จะได้แต่งมั้ยเนี่ยะ ตอนนี้ขอแค่คนที่ "พอดี"สำหรับเรา ไม่ต้อง "ดีพอ" ก็พอแล้ว สรุปว่า ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า ฮ่าๆๆ ชีวิตนี้จะได้แต่งรึเปล่าก็ไม่รู้ T_T จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 12 ม.ค. 52 17:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถามว่า ตัดสินใจจากอะไร          นอกจากภายนอกที่คุยกันถูกคอ ถูกอัธยาศัยแล้ว ภายในก้อมองว่าคุณน่ารักแค่ไหน คนบางคนที่ดูร้ายๆ วีนๆ เนื้อแท้เขาอาจจะเปนคนมีเมตตาและใจอ่อนมาก บางคนดูดีแต่ปากหวานก้นเปรี้ยวมาก บางคนสวยแต่สวยแต่รูปจริงๆนะ ต้องพิจารณาว่าคุณเป็นคนน่ารักโดยเนื้อแท้หรือเปล่า ความน่ารักนี้มันครอบคลุมหมดทั้งเรื่องของชีวิต การกระทำ คำพูดและความจริงใจ คนที่จะร่วมชีวิต ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน น่าจะมีบางอย่างที่เปิดใจมองเห็นกันและกันในแง่มุมที่มากกว่าสายตาคนอื่นมองบ้างนะเราว่า        ในแง่อาชีพการงานถ้ามันไม่แตกต่างกันมากก้อดีนะ แต่ถ้าแตกต่าง มันก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไร ของพวกนี้ปรับแก้ไขได้        ในแง่ความคิด ความอ่าน มีใกล้ๆกันก็ถือว่าดี แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าบางครั้งผู้ชายที่ไม่ได้แสดงออกมากนัก ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง หรือต้องโดนชี้นำไปตลอด ไม่ใช่หรอก เบื้องหลังของผู้ชายดีๆ มักจะมีสตรีที่ดีอยู่เคียงข้างนะ        เรื่องความพร้อมของชีวิต อันนี้แน่นอนถ้าไม่มีเลยก้อแย่  ถ้ามองในมุมของ ผญ นะ แต่ถ้ามองจาก ผช คงไม่จำเป็นที่แต่งงานกับ ผญ เพราะเรื่องนี้หรอกของ นอกกายทำมาหาได้อยู่แล้วครับ อย่าลืมว่าทรัพย์หมดได้ถ้าอยู่ในมือคนโง่        ที่สำคัญคือความรักและความซื่อสัตย์ จริงใจและเข้าใจกันและกัน        เยอะไปมั๊ยนั่น จากคุณ : เหมียวออก้า (orcahappy) - [ 12 ม.ค. 52 17:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าเรื่องคบกัน อาจดูแค่สนุกเฮไหนเฮกัน เข้าใจกันได้ เรียนรู้กันได้ แต่ถ้าแต่งงานละก็ ขอแค่เขาและเราต่างเข้ากันกับที่บ้านได้ จากคุณ : Kura Kuri - [ 12 ม.ค. 52 19:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นเพื่อนที่ดีได้หรือเปล่า เพราะแก่ เฒ่าไป เราว่าความรักอย่างชู้สาว  คงเบาบางลง คนที่แต่งงานด้วย เป็นคนที่พร้อมจะอยู่เป็นเพื่อน  ยามเราชราหรือเปล่า ข้อนี้สำคัญ จากคุณ : แฟนนายแบบ - [ 12 ม.ค. 52 19:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าจะแต่งงาน  นอกจากรักแล้ว ต้องดูอีกว่า ----มองจากความคิดเป็นหลักเลย  แก่ตัวไป ถ้าไม่สบาย เค้าคนนี้จะดูแลเราได้ไหม  ต้องรับเราให้ได้ทุกสภาวะการณ์ ----มีความเป็นผู้นำครอบครัวไหม  ไม่ชอบผู้ชายที่คิดไม่เป็น และตัดสินใจอะไรก็ไม่ได้ ----เป็นคนดีพอประมาณ อย่างน้อยก็ดีกับเรา และครอบครัวเรา มันยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่บอกไม่ได้ แต่เซ้นท์ในตัวเองมันจะบอกอ่ะว่า คนนี้แหล่ะใช่แล้ว  เคยมีแว่บๆ เข้ามา  แต่ก็โดนคนอื่นสอยไปทุกทีเลย  T   T จากคุณ : ไม้ร่ม - [ 12 ม.ค. 52 20:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ทยอยมาตอบค่ะ . . . เท่าที่อ่านมาทั้งหมด เพื่อนๆห้องนอกเรื่องที่มีครอบครัวแล้ว อย่างพี่แต พี่จูน คุณปังฯ จะเน้นเรื่องความเข้ากันได้ของ ที่บ้าน ทั้งสองฝ่ายเป็นหลักเลยนะคะ อืมม...คงสำคัญจริงๆ แหล่ะ ตาลก็คิดว่าสำคัญ ต่างกันมากไป ปัญหาจะเกิดหลังแต่งงาน คิดแล้วเครียดเลยค่ะ >< บิบี้ นั่นแฟนรึสูตรทำอาหารน่ะ - -" พี่บีเลิฟ,บีพริตตี้บอย, พี่เก่ง, คุณ Why-Not-T-Shirt ตาลก็ไม่ชอบหยุดนิ่งแบบว่า แค่นี้ก็ดีแล้ว เหมือนกันนะ เราไม่ได้มักมาก อยากได้อยากมีอยากเป็นไปซะทุกอย่างหรอก แต่เราก็ไม่อยากมีชีวิตคู่ที่ลำบาก ใช่มั้ยคะ อยู่กันแล้ว ชีวิตมันควรจะดีขึ้นจริงๆอ่ะ ไม่ใช่ชวนกันแย่ลง..แย่ลง สำหรับเรา ถ้าเค้ามีความรับผิดชอบหรือทำอะไรที่เราคิดว่าเค้าเก่งกว่า ศรัทธา และความเชื่อใจ มันก็จะตามมาเองค่ะ แห่ะๆๆ ^^ จากคุณ : พี-ไลน์ - [ 12 ม.ค. 52 22:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 พี่กระซิบฯ, คุณเกาลัด, พี่แดง, พี่คิมท่านเทพ ความเข้าใจมาก่อน  จริงๆแค่รับและทนข้อเสียได้ก็พอใจแล้ว เนอะ ^^ คุณ ~~For Sentimental Reasons~~ อาจารย์เอ๋ A Princess เจ้าจ๊ะ AnCk-Su-NaMuN คุณไม้ร่ม คำเดียวสั้นๆเลย ขอบอกว่าพูดตรงใจมากค่ะ อย่างกับมานั่งกลางใจเลยทีเดียว บางทีที่เราคิดแบบนี้ ก็รู้สึกเหมือนเห็นแก่ตัว แต่เราว่ามันคิอการมองโลกปัจจุบันมากกว่า จะว่าหาเหตุผลเข้าตัวก็ได้มั้งคะ  ถ้าจะแต่งงาน เราขอใช้สมองครึ่งๆกับหัวใจ ใช้หัวใจอย่างเดียวเรากลัวอดตายค่ะ เหอๆๆๆ >"< จากคุณ : พี-ไลน์ - [ 12 ม.ค. 52 22:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ^ ^ ^ เฮ้ยพี่ตาลลลลล เวลาจ๊ะมองโลกจ๊ะมองบนพื้นฐานความเป็นจริงวะพี่ คนเราสมัยนี้ถ้าแค่มีใจรักกันแล้วมันจะอยู่กันรอดอ่ะยากกกก สมัยก่อนอาจจะเป็นได้เพราะว่ามีไร่ มีนา ก็ช่วยกันปลูผัก ปลูกข้าว ทำนา ทำไร่กินได้ใช่ป่ะ แต่สมัยนี้มันไม่ใช่แล้วไง สมัยนี้มันต้องดูพื้นฐานของครอบครัว ดูเรื่องการศึกษาว่าเท่าเทียมกันไหม จ๊ะจะบอกว่าการศึกษามันก็เป็นอีกพื้นฐานหนึ่งของสังคมของแต่ละคนนะคะ เช่นคนจบ ม.6 ก็จะรู้จักแต่เพื่อนระดับนึง ถ้าเราเรียนในระดับมหาวิทยาลัยเราจะรู้จักกับเพื่อนในอีกระดับนึง คนจบตรี แต่งกับคนจบโท อันนี้ยังไหวอยู่ ยังพอเอื้ออำนวยในเรื่องการงานกันได้ แต่ถ้าคนจบเอก แต่งกับ คนจบตรี หากคนจบเอกมีปัญหาเรื่องงาน คนที่จบตรีจะช่วยอะไรได้ละคะ คำปรึกษา คำแนะนำนี่ตัดทิ้งได้เลย อย่างมากก็มานั่งข้างๆยิ้มให้กำลังใจ เอามือมากอบมากุมไว้เท่านั้นเอง สำหรับจ๊ะ จ๊ะอยากได้คนที่เสมอกันกับจ๊ะ ทั้งด้านการศึกษา สภาพสังคมที่อยู่ ชาติตระกูล และทรัพย์สมบัติ อาจจะมองว่าจ๊ะเวอร์ อาจจะมองว่าจ๊ะเรื่องมาก อาจจะมองว่าจ๊ะเห็นแก่ตัว แต่จะบอกว่า ตระกูลจ๊ะถึงจะไม่ใช่ตระกูลเด่น ตระกูลดัง แต่คนในสกุลนี้มีแต่คนดี ไม่เคยทำผิดกฎหมาย การที่เราจะเลือกคนที่มาใช้ชีวิตด้วยเราก็ต้องเลือกคนที่มาจากตระกูลที่ดี ไม่มีด่างพล้อย เรื่องทรัพย์สมบัติ ที่จ๊ะบอกต้องการคนที่มีเท่าๆกัน เพราะบ้านจ๊ะไม่ได้กินบุญเก่า ไม่ได้กินทรัพย์สมบัติของเก่านี่คะ พ่อแม่จ๊ะสร้างมาแทบตาย ถ้าจ๊ะจะหาใครมาแชร์กับสิ่งที่บรรพบุรุษจ๊ะสร้าง จ๊ะก็ต้องเลือกคนที่เค้ามีดีพอๆกับที่จ๊ะมี มีมากกว่าจ๊ะเล็กน้อยก็ดี แต่ถ้าเค้ามีมากกว่าจ๊ะมากๆ จ๊ะก็ไม่เอาค่ะ ไม่อยากไปเป็นตัวให้เค้ามองข่ม ด้านการศึกษา ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ ขอให้จบตรีแบบจ๊ะ ไม่ก็ จบโทก็ดี จะได้ดึงๆจ๊ะให้เรียนต่อด้วย แต่ถ้าจ๊ะเจอคนที่จบเอกแล้วจ๊ะรักเค้ามากๆ จ๊ะจะขยันเรียน จะทำตัวให้ดีเหมาะสมกับเค้าค่ะ อาจจะไม่จบเอก แต่ก็จะต้องจบขั้นต่ำคือปริญญาโทค่ะ สถาพสังคมของเค้ากับจ๊ะจะต้องเป็นกลุ่มสังคมเดียวกัน จ๊ะไม่ชอบปรับตัวมาก จ๊ะเคยคบกับผู้ชายคนนึง เค้าเรียนที่เดียวกับจ๊ะ ครอบครัวทำธุรกิจอสังหาแบบบ้านจ๊ะ แต่จ๊ะคบกับเค้าได้ 3 เดือน เพราะสภาพสังคมมันต่างกัน สังคมของคนทีร่จ๊ะคบค่อนข้างจะต่ำกว่ามาตรฐานจ๊ะ มารยาทต่างๆเลยต่างกันมาก ของจ๊ะเวลาทานอาหารจะเคี้ยวข้าวกันไม่มีเสียง แต่อีตาคนนี้เคี้ยวดังแจ๊บๆ ทนไม่ไหวค่ะ ลองคบๆทนๆได้แค่ 2 จะ 3 เดือนข้าเจ้าขอชิ่งดีกว่า เกลียดมากกกกกก มารยาททรามสิ้นดี ที่เรื่องมาก เลือกมากก็เพราะว่าเราเป็นผู้หญิง แต่งงานไปแล้วจะเลิกกันมันก็ไม่ดีถูกไหม เลิกกันเป็นหม้าย คนก็บอกกันว่า ม่ายผัวทิ้ง จะมีสามีใหม่ก็ว่ากระดังงาลนไฟ ไม่ดีทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะฉะนั้นจ๊ะจะขอเลือกให้ดีที่สุดสำหรับจ๊ะ ให้เราเหมาะสมกันที่สุด แมทช์กันทั้งการศึกษา หน้าตา ชาติตระกูล ทรัพย์สมบัติ โอยเหนื่อย พิมพ์ยาวมักๆเลยวุ้ย จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN - [ 12 ม.ค. 52 23:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณพีไลน์ - ผมไม่เป็นนะ ถ้าผมรักมากๆ จะดื้อน้อยลง ฟังมากขึ้น แต่ถ้าไม่รักไม่สนใจ ดื้อเหมือนวัวเลย จากคุณ : นายแมมมอส - [ 13 ม.ค. 52 10:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อืมมมมม ..... อ่านแล้วก็มึนๆนิดหน่อย แต่ผมชอบคิดเรื่องอะไรพวกนี้นะ ผมมองด้วยซ้ำว่า"ความรัก"<<< พวกคุณให้นิยามของมันว่ายังไงกันบ้าง แต่ละคนให้ความหมายของมันกันอย่างไรบ้าง ผมคิดว่าคน 2 คนจะรักกันอย่างยั่งยืนรักกันจริงๆ นิยาม"ความรัก" ของคน2คนนั้น ควรจะไปในทางเดียวกันด้วย ตัว จขกท. ท่าทางจะเป็นคนมีแรงผลักดันในตัวสูงทีเดียว แต่มาบ่นๆแบบนี้ก็ไม่ดีนะครับ อ่านดูเข้าใจว่าเหนื่อย แต่ก็ไม่ควรคิดที่จะหยุดในตอนนี้ เพราะถ้าตัวคุณเองหมดความทะเยอทะยาน หมดแรงผลักดันตัวเอง คนที่คุณคบอยู่เค้าก็อาจจะหมดความทะเยอทะยานไปกับคุณด้วย รักกันมันต้องประคับประคองไปด้วยกัน ขออนุญาตตอบคำถามของ จขกท.นะครับ(โดยความคิดส่วนตัว) 1. เรื่องความทะเยอทะยาน เป็นสิ่งดีครับ ถ้าไม่มีก็น่าคิดอ่ะนะว่าจะไปฝากชีวิตไว้กับคนๆนั้นดีไม๊ มีมากไม่มากไม่เป็นไรแต่ขอให้มีเพียงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายมีความมั่นใจในตัวคุณเองได้ และควรที่จะทำให้ได้บ้าง เพื่อความมั่นคงในชีวิตคู่ในอนาคต จะเก่งกว่าไม่เก่งกว่าไม่สำคัญมาก เพราะถ้าอาชีพมันคนละอย่างกันจะเอาเกณฑ์ความสำเร็จในหน้าาที่การงานมาวัดกันมันก็คงทำไม่ได้ 2.ถ้าฝ่ายหญิงมีมากกว่าหาได้มากกว่ามันจะดูไม่ดีรึปล่าว... อันนี้ต้องลองถามตัวคุณเองด้วยครับ ว่าคุณจะรังเกียจหรือไม่ หากคนที่คุณคิดจะใช้ชีวิตด้วยเค้าจะอ่อนด้อยกว่าคุณไปบ้าง (แต่เค้าอาจจะมีอะไรดีๆอย่างอื่นมาทดแทนตรงจุดนี้รึปล่าว) คุณรักเค้าที่ตรงไหนบ้าง นอกจากหน้าที่การงานเค้ามีอะไรอย่างอื่นที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณรักเค้าอีกไม๊ ทีนี้.... มาถามตัวเองก่อนไม๊ว่า เรา "รัก" กันจริงๆหรือ?? แล้ว...."อะไรทำให้คุณรักกัน" ฝ่าย จขกท. ถ้ารักก็ต้องยอมรับ ต้องเชื่อมั่น ต้องไว้ใจ ต้องให้กำลังใจกัน ส่วนอีกฝ่าย ถ้ารัก ก็ต้องทำแบบเดียวกัน แต่อาจจะต้องทำมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเป็นผู้ชายจิตสำนึกทางสังคมบ้านเราคือผู้ชายควรจะเป็นผู้นำที่ดี ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า(ทางกายภาพ) เราก็ควรจะทำให้เค้าเชื่อใจมั่นใจได้ว่าเราก็สามารถดูแลปกป้องเค้าได้ ให้ความเชื่อมั่นเค้าก่อนที่จะให้เค้ามามั่นใจในตัวเรา ผมเชื่อว่าสิ่งทีทำให้ผู้หญิงซักคนจะตัดสินใจคบใครรักใครได้นั้น เค้าต้องได้รับความรู้สึกดี อบอุ่น ได้รับการปกป้อง และสบายใจ จากคนๆนั้นก่อน.... แต่สุดท้ายยังไงแล้ว ความรักอาจจะไม่เป็นอย่างที่หวังเสมอไป หากไปกันไม่ได้จริงๆมันก็คงต้องจบเรื่องของอนาคตที่คิดจะใช้ชีวิตคู่ แต่... "รักไม่ได้แปลว่าต้องได้เป็นเจ้าของนะครับ" ถ้าคิดว่ารักต้องได้มาซึ่งสิ่งที่เราคิดเสมอไปผมว่านั่นมันเป็นความเห็นแก่ตัวครับไม่ใช่ความรัก ถึงไม่ได้เป็นเจ้าของแต่เราก็ยังให้ความรักต่อกันได้เสมอ ลองถามความรักในหัวใจของคุณดูครับ ^^ จากคุณ : ใจเย็นๆและยิ้มเข้าไว้ - [ 13 ม.ค. 52 11:38:34 A:125.24.131.187 X: TicketID:200785 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ่ะ... ผมหลงประเด็นรึปล่าวเนี่ย ชักคันปากคันมืออยากพิมพ์อีก ส่วนตัวผมเอง ถ้าถามว่านอกจากรักแล้วต้องพิจารณาอะไรอีกไม๊.... ผมคนเรื่องมากซะด้วย ผมจะพิจารณาคนๆนั้นก่อนที่จะรัก ว่าผู้หญิงคนนี้ผมควรจะให้ความรักเค้าขนาดไหนผมควรจะทุ่มเทยอมทำในหลายๆสิ่งเพื่อเค้าไม๊ แล้วจะพิจารณาอะไรบ้างล่ะ... ก็คงมองเหมือนๆกันครับ รูปร่างหน้าตา หน้าที่การงาน แต่สิ่งที่ผมต้องการที่จะเรียนรู้ในตัวคนๆนั้น คือความคิดอ่านต่างๆ นิสัยใจคอ ผมไม่ชอบคนที่มีความคิดอ่านแบบเด็กๆ ในที่นี้หมายถึงเรื่องของเหตุผลครับ ถ้าเป็นคนไม่ค่อยมีเหตุผลนี่ผมขอบายเลย คุยด้วยอารมณ์ไม่เอา ขอคุยด้วยเหตุผล เพราะผมเชื่อว่าหลายๆสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุมีผลในตัวมันเอง ผมรู้จุดอ่อนด้วยในตัวเองบ้าง อยากได้คนที่เค้าจะมาช่วยควบคุมตัวผมในจุดที่ผมขาดหรือบกพร่องไป อย่างเช่นผมรู้ตัวว่าผมเก็บเงินไม่เก่งการได้คุยกับใครซักคนที่เค้ามีการวางแผนที่การใช้ชีวิตของตัวเองที่ดี นั่นทำให้ผมประทับใจและรู้สึกว่า... เออ.. ถ้าได้คนแบบนี้มาเป็นแฟนเราคงจะดีขึ้นมีคนคอยห้ามปรามคอยเตือนสติเราบ้าง และผมยินดีที่จะทำตามคำแนะนำของเธอคนนั้น อีกเรื่องที่สำคัญหากผมจะแต่งงานกับใคร นอกจากความคิดอ่านต่างๆที่เค้าจะแสดงออกมาแล้วสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ผมคิดต่อเนื่องไปถึงเรื่องของ "ความเป็นแม่ของคน" แน่นอน...รักกันแต่งงาน มีครอบครัว ผมอยากมีลูก ^^ ผมเลยต้องดูเรื่องความคิดอ่านในการใช้ชีวิตของเจ้าหล่อนซะก่อนว่าเออ... ถ้ามีความคิดแบบนี้ๆๆๆๆ ลูกผมต้องโตมาต้องมีความสุขแน่ๆ อิอิ... จากคุณ : ใจเย็นๆและยิ้มเข้าไว้ - [ 13 ม.ค. 52 12:14:00 A:125.24.131.187 X: TicketID:200785 ]