ตอนบ่ายของวันศุกร์ที่30 ได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวของเพื่อนเรา บอกว่า เพื่อนเราเสียชีวิตแล้ว ของเช้าวันที่ 30 ด้วยโรคเบาหวาน .....
เราฟังแล้ว อึ้ง ขนลุก เลย เพื่อนเราเป็นหญิง ไม่เคยมีอาการใดๆๆ มาก่อน น้องบอกว่า พี่สาวมีอาการ ช๊อค พอส่ง รพ. มีการตรวจเลือด แล้วพบว่า น้ำตาลขึ้นไปถึง 500 ซึ่งนับว่า สูงมากๆๆๆๆๆ....
วันนี้เลยออกจากกรุงเทพ ไปฟังสวดเพื่อนที่กาญ....
จากการสอบถามพูดคุย กับน้องสาวของเพื่อนเรา บอกว่า ตอนนี้พี่สาว น.น. 80 kg ซึ่งถือว่าอ้วนมาก เพราะสมัยที่เราเพิ่งจบใหม่ๆๆ กับเพื่อน เช่าห้องอยู่ด้วยกัน เพื่อนเราสูงประมาณ 155 หนัก 48 ล่าสุดที่เจอกัน เมื่อ ประมาณ4ปีที่แล้ว เพื่อนเราก็เริ่มอ้วนหนักประมาณ 58 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีก มีการโทรคุยกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็พอรู้อาการอยู่ว่า มีปัญหาทางจิต กินบ่อยๆๆ มากๆๆ กินตลอดเวลา พาไปรักษาทางจิตเวช ก็ไม่ค่อยกินยา แม่ของเพื่อนเราต้องคอยแอบผสมในอาหาร ให้กิน
จนถึงวันเกิดเหตุ เห็นน้องสาวบอกว่า เพื่อนเราทานอะไรเข้าไป ก็อาเจียนออกหมด จนเป็นลม แล้วก็เลยพาส่ง รพ. ตรวจร่างกายจึงพบว่าน้ำตาลขึ้นสูงถึง 500 ซึ่งถือว่า อันตรายมากๆๆๆ หลังจากนั้นหมอก็ทำการรักษา น้องสาวเพื่อนเล่าให้ฟังว่า ตอนดึกของวันที่ 29 ระดับน้ำตาลควบคุมได้แล้ว แต่พอรุ่งเช้าของวันที่ 30 พี่สาว ก็ช็อค แล้วบอกว่าไม่ไหว มีการดิ้นอย่างรุนแรง แล้วก็ไปเลย...
น้องสาวเพื่อนบอกว่า ญาติทั้งฝ่ายพ่อ และ แม่ของเพื่อนเรา มีคนที่ป่วยโรคเบาหวาน ทั้งสองฝ่าย ซึ่งหมอก็สงสัยว่าส่วนหนึ่งอาจจะมาจากกรรมพันธุ์
เพื่อนเราหลังจากจบ แล้วทำงานอยู่ กทม ได้ 2 ปี ก็กลับไปอยู่บ้าน แล้วก็ไม่เคยมีการตรวจสุขภาพเลย ก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองเป็น......
วันนี้ที่งานศพ ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ทุกคนก็คิดตรงกันว่า จริงๆๆ เหตุการณ์ที่ทำให้เรามาเจอกัน มันไม่น่าจะเป็นงานศพของเพื่อนเราเลย ..... ทั้งๆ ที่วัยขนาดเรา งานที่จะชุมนุมกัน ได้เจอหน้าเพื่อนเก่าๆๆ น่าจะเป็นงานแต่งงานมากกว่า.......
ทุกคนก็ได้แต่คิดว่า เพื่อนเราไปสบายแล้ว ไม่ต้องทนทุกข์บนโลกใบนี้อีก ....
เรานำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง เพื่อให้เพื่อนๆๆ ลองหมั่นสังเกตคนใกล้ตัว แล้วก็ หมั่นตรวจสุขภาพ เป็นประจำ เวลามีอะไรจะได้แก้ไขทัน....ไม่ใช่ด่วนจากไปปุ๊บปั๊บ เหมือนเพื่อนเรา .......
จากคุณ :
เขียด ลิงบ้า คางคกน้อย
- [
1 ก.พ. 52 00:14:31
]