เจอมาอยากให้ลองอ่านกันครับ ^___^
ที่มา : Inside ชีวิต โรคของคนเก่ง คือ ....ฟุ้งซ่าน
โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 26 มกราคม 2552 17:53 น.
http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9520000009205
=============================
มีคนเก่ง ๆ มาปรึกษาด้วยอาการฟุ้งซ่านมากขึ้น
ส่วนมากจะเรียนเก่งหรือทำงานเก่ง หน้าที่การงานดี มีอนาคต
แต่ในชีวิตส่วนตัวไม่ค่อยมีความสุขเลย
เริ่มตั้งแต่นอนไม่หลับติดต่อกัน กังวล คิดมาก คิดซ้ำซากกลัวว่าจะอ่อนเพลีย ก็เลยรู้สึกอ่อนเพลียจริง ๆ ทุกครั้ง
อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย มักโทษหรือโกรธสิ่งรอบตัว เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ลูกน้อง นาย ลูกค้า เพื่อนร่วมงาน แม้แต่คนใกล้ตัว เช่น พ่อแม่ ญาติ หรือแฟน
พวกนี้มีความคิดที่มากมายเกินปกติ คิดตลอดเวลา และขยันหาข้อมูลความคิดมาใส่สมองทั้งจากอินเตอร์เน็ต สิ่งพิมพ์ การสัมมนา ทีวี การสนทนา ฯลฯ
สมองจึงเต็มไปด้วยข้อมูลที่มากจนล้นสมองออกมา
บางคนรู้ว่าควรจะลบ (delete) ข้อมูลออกจากสมองบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะลบอย่างไร แถม...กลับไปได้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมมาเพิ่มเติมใส่สมองเข้าไปอีก เช่น
... คิดว่าตัวเองนอนไม่พอ ต้องพยายามนอนให้พอวันละ 8 ชั่วโมง แต่เมื่อนอนไม่ได้ 8 ชั่วโมงก็หงุดหงิดและเครียดตามความเชื่อที่ได้รับมา
... รู้ว่าการออกกำลังเป็นสิ่งดี แต่ไม่มีเวลา จึงไปออกกำลังตอนเลิกงานตอนเย็น สมองและร่างกายก็ตื่นตัว ทำให้นอนหลับได้ยากขึ้นไปอีก
... ก่อนนอนอยากผ่อนคลายจึงดูทีวี ก็นั่งดูหนังที่สนุกเร้าใจ หรือดูละครทีวีหลังข่าวชนิดเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ เพราะไม่อยากดูโฆษณา ปรากฏว่าจำเนื้อเรื่องละครและหนังได้หมด แต่ทำให้นอนหลับยากขึ้นแถมนอนฝันอีกด้วย
... เมื่อไปทำงานก็วิเคราะห์กิจกรรมของตัวเองในช่วงที่ผ่านมา สมองก็ชอบมากเรื่องการวิเคราะห์ชนิดจับผิดตัวเอง จึงรู้ว่ามีหลายสิ่งที่ไม่ควรทำ จึงโทษ (Projection) ตัวเองว่าทำไมจึงทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ พยายามจะเลิกทำก็ทำไม่ได้ เพราะติดกิจกรรมและความคิดเหล่านั้นแล้ว (ย้ำคิดย้ำทำ Obsessive Compulsive) บางคนแก้ความย้ำคิดย้ำทำด้วยการสำเร็จความใคร่ต้วยตัวเอง หรือมี sex กับคู่ของตน (ในกรณีแต่งงานแล้ว ถ้าทำไม่ได้ก็เครียดอีก) หรือมี sex กับผู้ขายบริการทางเพศ กลายเป็นการติด sex เพิ่มเข้าไปอีก บางคนก็ติดเหล้า ยา บุหรี่ กาแฟด้วย
การทำงานในแต่ละวันก็ทำได้ไม่ดี มักรู้สึกอ่อนเพลีย ความคิดไม่แล่น อารมณ์ไม่แจ่มใส และมีความรู้สึกฟุ้ง-ซ่านเพราะคิดมาก นำเรื่องต่าง ๆ มาปะติดปะต่อกันวุ่นวายไปหมด เข้าข่ายมี Flightening of ideation
นี่คือวงจรชีวิตของคนที่เรียนเก่งหรือทำงานเก่ง ที่มักคิดฟุ้งซ่านที่พบได้มากขึ้นในทุกวันนี้
พวกนี้มักมีสมองซีกซ้ายทำงานดี ชอบคิดในแนวหาเหตุผล วิเคราะห์ วิจารณ์ได้เก่ง
และพวกนี้มักใช้สมองซีกขวาเพื่อความสุนทรีย์ การจินตนาการที่ดี ความรัก มิตรภาพ ศิลปะ ความงามได้น้อย
ถ้าไม่รู้จักยับยั้งพฤติกรรมความคิดแบบวิเคราะห์เสียบ้าง จะคิดได้มากขึ้น ฟุ้งซ่านมากขึ้น เข้าข่ายยิ่งคิดยิ่งมัน แต่จะทำให้ฟุ้งซ่าน นอนไม่หลับและเป็นทุกข์
ข้อแนะนำง่าย ๆ สำหรับพวกฟุ้งซ่าน ก็คือ
1. หาเวลาฝึกสติ ทำสมาธิทุกวัน และทำบ่อย ๆ ยิ่งดี แบบไหนก็ได้ ทำสั้น ๆ ในแต่ละวันครั้งละ 5 15 นาทีก็ได้ จะเป็นการกรองความคิดที่ไม่เหมาะสมออกไปและลดการปรุงแต่งอารมณ์ อยู่กับปัจจุบัน เกิดสติ ทำให้คิดฟุ้งซ่านน้อยลง
2. ออกกำลังกายแบบไม่คาดหวังผลให้มากขึ้นทุกวัน เช่นการวิ่ง แต่เลี่ยงการออกกำลังกายก่อนนอน
3. ฝึกการนอนอย่างมีสติและมีความสุข หลีกเลี่ยงการทำให้สมองและร่างกายตื่นตัวก่อนนอน เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือสนุก ดูหนังเร้าใจก่อนนอน ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่คิดเรื่องงาน
- รู้จักการนอนอย่างปล่อยวาง คือทำจิตให้ว่างก่อนนอนโดยการหายใจลึก ๆ ช้า ๆ จดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออกรูจมูก และตั้งจิตบอกกับตัวเองว่าจะนอน หลับ พัก ผ่อนเสียที
- เมื่อนอนหลับได้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่ากังวล ถ้าหลับลึก ๆ 4 5 ชั่วโมงพอแล้ว ตื่นขึ้นมาให้ทำท่ากระฉับกระเฉง บอกกับตัวเองว่าโชคดีที่ตื่นขึ้นมาได้ วันนี้คงพบสิ่งอื่น ๆที่น่าสนใจมากขึ้นบ้าง
4. ลดกิจกรรม วิเคราะห์ ลงบ้าง ปล่อยกาย ใจ และความรู้สึก ให้สบายมากขึ้น บอกตัวเองว่าต้องการความสุข รู้จักการพอ ยอม และไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น
ถ้าวิเคราะห์มากมักจะจับผิดเก่ง ทั้งตัวเองและสิ่งรอบตัว
คนเก่ง ๆ ที่ฟุ้งซ่านมีมากขึ้น ที่มาปรึกษาก็มาก หลาย ๆ คนดีขึ้น บางคนต้องใช้ยาช่วยหรือใช้จิตบำบัด
จงเก็บพลังความคิดที่ดี ๆ ไว้ใช้อย่างสร้างสรรค์เถิด
ถ้ามีความคิดมากไปตลอดเวลาเข้าข่ายฟุ้งซ่าน จะเป็นอุปสรรคในการทำงาน และจะเป็นโรคจิต โรคประสาทได้
================================
จากคุณ :
CARAGIO
- [
5 ก.พ. 52 10:43:22
]