Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    --- เรื่องสั้น สำหรับคนอกหักช่วงเวลาแบบนี้ครับ ---

    เรื่องสั้น : คุณยังดื่มน้ำมะเขือเทศอยู่ไหม? # 01

    1. ใบกล้วยและหนังสือต่างประเทศ

    “ดอกไม้ให้เพื่อนพี่ไหมค่ะ?”
    ผมตื่นจากภวังค์ท่ามกลางเสียงเพลงดังที่ขับกล่อมซ้อนทับไปมาจาก
    หลายๆร้านในตรอกข้าวสาร
    มองคนที่อยู่ตรงหน้าผมกำลังคุยกับเด็กขายดอกไม้ คุณคงเคยเจอใช่ไหม?
    เวลาไปนั่งดื่มเหล้า จะมีเด็กๆตัวเล็กๆวัยกำลังเรียนมา
    ขายดอกไม้ในราคาเกินกว่าความเป็นจริง
    ผมไม่เคยซื้อ…ไม่อยากซื้อ

    แต่เธอซื้อ…ซื้อเยอะซะด้วย

    “หนูชื่ออะไรจ๊ะ เรียนอยู่เหรอ? ทำไมเวลาขายของต้องใส่ชุดนักเรียนด้วย?”
    เธอชวนเด็กน้อยตรงหน้าคุยราวกับว่าเป็นลูกของเพื่อน หรือญาติสนิท
    ผมมองอย่างประหลาดใจ
    เด็กน้อยจากไปพร้อมกับเงินค่าดอกไม้ที่ได้จากเธอ
    และตรงไปหาเพื่อนๆคงจะซุบซิบกันว่าพี่คนนี้ช่างใจดีนัก
    “เด็กพวกนี้คงไม่มีใครคุยด้วยเนอะ เราว่าน่าสงสารออก อย่างน้อยเราก็อยากชวนเขาพูดบ้าง”
    “นั่งในร้านดีไหม? ตรงนี้ร้อนออก” ผมเสนอ

    ต้นเดือนมีนา อากาศค่อนข้างร้อนแม้ในยามค่ำคืนแบบนี้
    ร้านที่เรานั่งตกแต่งด้วยใบกล้วยและต้นไม้ต่างๆ
    ดูร่มรื่นแต่ทว่ารกไปหน่อยและไม่เย็นอย่างภาพลักษณ์ที่ทางร้านอยากให้เป็น
    ใบกล้วยที่เหี่ยวเฉาปรกหน้าผมบ่อยครั้งเวลาที่ลมตี
    การเดินเข้าไปนั่งห้องแอร์จึงเป็นทางออกที่ดีในความรู้สึกผม
    โต๊ะที่ขยายเตรียมพร้อมสำหรับรองรับเพื่อนของเธอ
    ใช่…งานวันเกิดเพื่อนของเธอ ซึ่งผมไม่รู้จักสักนิด
    ผมนั่งเหยียดตัวบนโซฟาหนังสีดำ ข้างหลังเป็นชั้นหนังสือต่างประเทศ นิยาย?…หรือสารคดี?
    ผมหยิบมาพลิกดูฆ่าเวลายามที่เธอหันไปคุยกับเพื่อนของเธอ ผมไม่เก่งภาษาอังกฤษนัก
    อ่านไม่เข้าใจเอาซะเลย แต่บางทีเธอที่อยู่ข้างๆผมนี่แหละ
    เธอที่มีดวงตาสวยๆคู่นั้นอาจจะเข้าใจยากยิ่งกว่าซะอีก
    เพียงแต่ว่าตอนนั้นผมไม่ได้อยากจะเข้าใจอะไรมากไปกว่ารู้แค่ว่า…
    ผมไม่อาจคลาดสายตาไปจากเธอได้เลย

    ผมมาทำอะไรที่นี่นะ???

    “เรากำลังจะมีโครงการเปิดบริษัท Organize ล่ะ เราคิดว่าเราคงได้ทำงานร่วมกันนะ
    เลยอยากชวนมาคุยด้วย”
    “บริษัทชื่ออะไรเหรอ?”
    “ไม่บอกหรอก อ่า… เราเขินน่ะ”
    “บอกสิ ไว้เราจะได้ช่วยออกแบบ LOGO ให้ไง”

    ผมไม่แน่ใจว่า ผมยิ้มไปกี่ครั้ง หรือว่ายิ้มนานแค่ไหน? อาจจะนานและบ่อยเท่าๆกับที่ผมยิ้ม
    ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา และสำหรับคนที่ยิ้มไม่บ่อยนักอย่างผม
    หมดคืนนี้ผมอาจจะเมื่อยแก้มไปอีกทั้งอาทิตย์ที่เหลือก็ได้
    การมีที่มีคนสนทนามากมายบนโต๊ะงานวันเกิด
    ไม่ได้ทำให้ผมเสียสมาธิกับการพูดคุยกับเธอเลย
    ผมสามารถแยกเสียงของเธอออกจากความวุ่นวายต่างๆ
    ได้อย่างน่าประหลาดราวกับมีคลื่นอะไรสักอย่างที่ตรงกัน จนร้านปิดเมื่อเวลาตี 1 มาถึง
    “โอ้โห้ เราว่าจะกลับ 4 ทุ่มนะเนี่ย”
    “ดึกกว่าที่คิดมากๆ อือม์ เช็คบิลแล้วไปกันดีกว่า”
    “นี่ๆ เธอสูงกว่าที่เราคิดนะ สูงเท่าไหร่น่ะ”
    “176 ทำไมเหรอ?? เด็กสมัยนี่ก็สูงๆทั้งนั้นแหละ เราธรรมดาออก ว่าแต่เราอ้วนไหมเนี่ย?”
    “ไม่นะ ไม่อ้วนเลยสักนิดเดียว”

    ผมอาจจะถามคำถามโรคจิตแบบนี้บ่อยๆทั้งๆที่ก็มั่นใจว่าตัวเองไม่อ้วน
    ผมแทบจำไม่ได้ว่าเราแยกจากกัน
    ตอนไหน ความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นข้างในช่างประหลาดเหลือเกิน ทันทีที่ผมขึ้นรถ
    ผมโทรไปหาเธอทันที
    ก่อนจะกดวางสายอีกครั้งตอนตีสี่ ผมไม่เคยพูดโทรศัพท์กับผู้หญิงนานแบบนี้เลย
    โดยเฉพาะต้องโทรนอกบ้านเพราะในบ้านไม่มีสัญญาณมือถือ
    ตากยุงและน้ำค้างตอนเช้ามืด ความรู้สึกผมบอกเพียงว่า
    ผมกำลังเริ่มอ่านหนังสือต่างประเทศที่ไม่เข้าใจ

    และไม่รู้ว่าตอนจบจะเป็นยังไงเข้าซะแล้ว…

    จากคุณ : แมวกักขฬะ - [ 15 ก.พ. 52 00:53:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com