จากกระทู้ก่อนนี้ล่วงมาสองสัปดาห์แล้วค้รา (โดยประมาณใจจริงรู้สึกว่านานมากสงสัยเพราะป่วย)
ออกกำลังกายโดยการเดินเท่าที่ทำได้ ทุกเย็นวันจันทร์ถึงเสาร์
เดินจากพารากอน ถึงสะพานเหลืองประมาณ5-7ป้ายรถเมล์
เนื่องจากการใช้วิธีการเดิน เพราะอาที่เป็นหมอบอกว่าเราได้แค่เดินกับว่ายน้ำ
เนื่องจากมีโรคประจำตัวหลายอย่าง
และนอนฌลี่ยนวันละ10ชั่วโมง


จากอาการเหนื่อยล้า ง่วง นอน ไม่มีแรง ความคิดความอ่านช้าลง
อาการไม่ดีขึ้นเลย
และเริ่มมีอาการเจ็บปลายมือปลายเท้า เจ็บแปลบๆ ทุกครั้งที่ออกแรงแม้ขณะกดแป้นพิมพ์
เดินไม่ค่อยตรงและเวียนหัว พูดตะกุกตะกั้ก นึกคำพูดไม่ออกจนอ่านหนังสือไม่ค่อยออก(ต้องใช้เวลา)


จนคุณย่าทนไม่ได้เลยไปหาหมอ แมะ(หมอจับชีพจร แพทย์แผนจีน)
ใจจริงแล้วเราก็ไม่ค่อยเชื่อใจหมอแบบนี้เท่าไร
ขอโทษไว้ตรงนี้นะคะT^T

หมอเค้าไม่ถามอะไร (ไอ้เราเป็นผู้ป่วยประเภทไม่ถามก็ไม่ตอบซะด้วย)
เค้าก็จับชีพจรเลย

ผลปรากฏว่า
หมอ         : ประจำเดือนมาแล้วปวดไหม?
Azilaz :  ก็ปวดบางที่นะคะแต่เมื่อตอนเด็กๆไม่ปวดเลย

หมอ        : เลือดออกมาสีคล้ำใช่ไหม?
Azilaz : คะ

หมอ       : ไม่ค่อยมีแรง และเวียนหัวใช่ไหม?
Azilaz : คะ แล้วง่วงเพลียไม่มีแรงมานานประมาณ2สองเดือนแล้วนะคะ
                 ส่วนเวียนหัวก็มีแบบทรงตัวไม่ค่อยได้แล้วมึนๆคะ

หมอ        : รู้สึกตึงๆที่หลังคอด้วยใช่หรือเปล่า?

เราเงียบไปพักหนึง เพราะเราเป็นจริงๆแต่ไม่คิดว่ามันเป็นอาการร่วม ไม่หนักหน่าเลยไม่ได้แอะใจ
และคิดว่าเป็นอาการที่ทำงานที่โต๊ะนานๆเลยไม่เคยบอกหมอท่านอื่นเลย  เลยตอบไปว่า
Azilaz :ค่ะ

หมอก็สรุปอาการว่า : “ต้นเหตุเนื่องจากเลือดเสียที่ควรออกจากร่างกายนั้นออกไม่หมด
เลือดที่ออกไม่หมดร่างกาย ก็จะทำการดูดกลับเข้าไป”

พอตรงนี้ทำให้เราคิดได้อย่างหนึ่ง……
ประมาณครึ่งปีที่แล้ว เราปวดท้อง ไม่มีไข้ ปวดท้องเพียงอย่างเดียว คุณอาพาไปอัตราซาวที่โรงพยาบาล
อะ!!! อย่าเข้าใจผิดไม่ได้ท้องนะคะ ยังจิ้นอยู่ แต่ตอนนั้นก็งงกับอาเหมือนกัน
ผลจากการตรวจ คือเจอ ก้อนซีต์ ขนานด 5เซนติเมตรเหนือ รังไข่ด้านขวา
และซิต์ขนาดเล็กจำนวนมากทั้ง มดลูก ช่วงท้อง= =”
หมอที่ตรวจคราวนั้นก็บอกว่า
“เกิดจากเรารอบเดือนมาไม่ปรกติ ขับออกมาไม่หมด เลือดพวกนี้ก็จะย้อนกลับเข้าไปในร่างกาย และตกตะกอนเป็นซีต์”!!!

เอาละกลับมาปัจจุบันกันต่อคร้า
หมอพูดต่อว่า : พอเลือดเสียกลับเข้าสู่ร่างกาย ก็ไปอุตตันตามส่วนต่างๆโดยเฉพาะต้นคอ (ที่ตึงๆ)
                         และสมอง
                         เกิดภาวะ สมองขาดเลือด ทำให้ไม่มีแรง เวียนหัว อ่อนเพลีย จนกระทั่งสมองส่วนปลายถูกทำลาย
                         ปรากฏเป็นอาการเจ็บปวดตามปลายมือปลายเท้า
                         หากปล่อยอีกซักระยะ ทำให้เป็นโรคความจำเสื่อม
                        ( ตอนนี้เราก็เสื่อมนิดๆแล้วเจ้าค้รา= =แต่ไม่ได้บอกหมอ)
                  ขนาดว่า กำปากกาไว้ที่มือ ก็ยังหาปากกาอยู่ทำนองนั้น

การรักษา       : เค้าจะให้ยากำจัดเลือดเสียออกก่อนแล้วค่อยดูอาการต่อไป


เราไม่รู้ว่าจริงไม่จริงอย่างไร ก็คงต้องลองยาหมอก่อน(ยากินทรหดมากเลยง่า)
แต่นับว่าใกล้เคียงสุดแล้วในตอนนี้นะคะ
ที่นำมาโพสไว้เผื่อว่ามีใครเป็นแบบนี้บ้าง
อีกอย่างหมอเค้าย้ำถึงต้นเหตุของโรคเสมอ
เราเข้าใจว่า โรคมีสารพัดโรค มีหลายอาการ แต่ต้นเหตุจริงๆมักเป็นสิ่งพื้นฐานของร่างกายเราเองที่เรามองข้ามไป  
เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปรกติ…
การตรวจแบบนี้อาจเป็นทางเลือกอีกอย่างหนึ่ง  นอกเหนือจากหมอที่รักษาตามอาการ(แพทย์แพนปัจจุบัน)

ขอขอบคุณที่อ่านจนจบนะค้รา
หากดีขึ้นหรืออาการเป็นอย่างไรมีวิธีการรักษายังไงต่อไปจะนำมาโพสให้อ่านนะคะถ้ามีคอมเมนต์หลังไมค์หรือโพสเลยค้รา^^

จากคุณ : azilaztana - [ 24 ก.พ. 52 18:38:03 ]