ความคิดเห็นที่ 1 กล้วยตะไล  เมนูกล้วยไข่เมืองกำแพงฯ/กุ๊กเล็ก โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2551 16:53 น.       โดย : กุ๊กเล็ก        กุ๊กเล็ก  เพิ่งได้มีโอกาสไปเยือนจังหวัดกำแพงเพชรที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อของ  เมืองกล้วยไข่  เหตุเพราะมีการปลูกกล้วยไข่กันอย่างแพร่หลายและเป็นกล้วยไข่ที่มีรสชาติดี เนื่องจากเป็นแหล่งปลูกกล้วยไข่อันดับต้นๆของประเทศ ชาวกำแพงเพชรจึงมีอาหารหลายอย่างที่ใช้กล้วยไข่มาเป็นส่วนประกอบในอาหาร อย่างเช่น  กล้วยตะไล  ที่  กุ๊กเล็ก  ไปได้สูตรมาจากแม่บ้านเมืองกำแพงเพชรนี่เอง             ส่วนผสม             กล้วยไข่ห่ามๆ 5 ลูก       เนื้อปลากราย 2 ขีด       แครอทหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ       เกลือ 1.5 ช้อนชา       พริกชี้ฟ้าหั่นเป็นแว่นสำหรับโรยหน้า       ผักชีเด็ดเป็นใบๆสำหรับโรยหน้า       จิ๊กโฉ่วสำหรับจิ้มเป็นน้ำจิ้ม             วิธีทำ เริ่มจากเอากล้วยไข่ห่ามๆ ไปลวกในน้ำเดือดสักครู่พอให้กล้วยนิ่ม จากนั้นก็นำมาบดละเอียด แล้วนำมาผสมกับเนื้อปลากรายให้เข้ากันดี อนุญาตให้ใช้มือขยำได้เพื่อเนื้อกล้วยและเนื้อปลาจะได้เป็นเนื้อเดียวกัน ผสมแครอทที่หั่นไว้แล้วลงไปด้วย ส่วนเครื่องปรุงก็ไม่มีอะไรมาก มีเพียงเกลือที่จะช่วยให้รสชาติกลมกล่อม             เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็นำมาใส่ในถ้วยตะไลและนำไปนึ่ง ใช้เวลาไม่นานประมาณ 1 นาทีกล้วยตะไลก็จะสุก ประดับหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าและผักชีให้สวยงาม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่ว เนื้อปลากรายผสมกล้วยไข่จะให้รสชาติออกมันๆ เคี้ยวหนึบๆ ดีเป็นของกินเล่นทำง่ายอีกอย่างหนึ่งที่น่าลองไปทำกันดู จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:23:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อร่อยเพลินลิ้นกับ  ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน  / กุ๊กเล็ก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2552 16:52 น.       โดย : กุ๊กเล็ก       ใกล้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว  กุ๊กเล็ก  เองก็เป็นอีกคนที่ตั้งตาคอยวันหยุดเช่นกัน เพราะจะได้พักผ่อนจากการทำงานมาตลอดอาทิตย์ แต่การได้พักผ่อนสบายๆในวันหยุดคงไม่สมบูรณ์แบบ ถ้าไม่มีอาหารอร่อยๆไว้คอยท่า เพราะฉะนั้นเตรียมเข้าครัวกันดีกว่า วันนี้  กุ๊กเล็ก  เตรียมเมนูของกินเล่นอย่าง  ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน  มาไว้ให้ลองทำกัน             ส่วนผสม             แผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ 10 แผ่น (1 แผ่นได้ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน 1 ชิ้น)       เนื้อหมูสับ 5 ขีด       เห็ดหอม 2 ขีด       แครอท 2 ขีด       ผักกาดหอม 10 ใบ       ผักชี 3 ต้น       โหระพา 2 กิ่ง       ซีอิ้วขาว น้ำตาล สำหรับปรุงรส และน้ำมันพืชเล็กน้อยสำหรับผัด             ส่วนผสมน้ำจิ้ม             พริกขี้หนู 10 เม็ด       กระเทียม 5 เม็ด       น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ       มะนาว 2 ช้อนโต๊ะ       น้ำตาล 1 ช้อนชา             วิธีทำ เริ่มจากนำแผ่นก๋วยเตี๋ยวมานึ่งให้สุกดี อาจทาน้ำมันไว้บางๆ เพื่อไม่ให้แผ่นก๋วยเตี๋ยวติดกัน จากนั้นจึงหันไปจัดการกับไส้ก๋วยเตี๋ยวด้วยการหั่นแครอทและเห็ดหอมให้เป็น ชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปผัดรวมกับหมูสับจนสุก ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และน้ำตาลทรายให้ได้รสชาติที่ถูกใจ เสร็จเรียบร้อยแล้ว มาลงมือห่อก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกันเลยดีกว่า นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่นึ่งสุกเรียบร้อยมาวางคลี่ไว้ ปูทับด้วยผักต่างๆ ที่เตรียมไว้ คือผักกาดหอม ใบโหระพา และผักชี แล้วตักไส้ที่ผัดเตรียมไว้มาใส่เป็นอย่างสุดท้าย เรียบร้อยแล้วค่อยๆพับทีละด้านของแผ่นก๋วยเตี๋ยวเข้าหากัน ก็เป็นอันได้ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหนึ่งชิ้น             ถ้าห่อก๋วยเตี๋ยวเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาทำน้ำจิ้มที่ช่วยเพิ่มรสชาติของก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกันบ้างดีกว่า  กุ๊กเล็ก  เลือกทำน้ำจิ้มรสชาติจัดจ้านมาด้วยการนำพริกขี้หนู และกระเทียมมาตำให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา และมะนาว ชิมรสชาติเปรี้ยวเค็มหวานให้ถูกปาก เสร็จแล้วยกไปเสิร์ฟบนโต๊ะได้เลยทันที จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รสเด็ด อร่อยดี  กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2551 12:18 น.       โดย กุ๊กเล็ก       เมนูของ  กุ๊กเล็ก  ในวันนี้ทำกันง่ายๆ ด้วยส่วนผสมที่หาได้ง่ายอย่าง  กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา  ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า แค่ผักกะหล่ำปลีเอามาผัดกับน้ำปลา น้ำมัน ก็เป็นอาหารที่อร่อยได้ แถมเมื่อไปขึ้นโต๊ะอยู่ตามร้านอาหาร ก็ยังขายกันในราคาแพงเกินต้นทุนไปตั้งหลายเท่าตัว             ที่แพงขนาดนั้นก็คงเป็นเพราะว่า เมนูที่ดูว่าทำง่ายๆ นี้ ทำให้ออกมารสชาติอร่อยนั้นยากไม่ใช่น้อย แต่จะยากเกินความสามารถหรือเปล่านั้น ก็ต้องลองทำดู             ส่วนผสม             กะหล่ำปลี ครึ่ง หัว       น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ       น้ำตาล 1 ช้อนชา       น้ำเปล่าหรือน้ำซุป 1 ช้อนโต๊ะ       น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ             วิธีทำ แกะกะหล่ำปลีออกเป็นใบๆ ล้างน้ำให้สะอาด เสร็จแล้วนำใบกะหล่ำปลีนั้นลงไปลวกในน้ำเดือดให้สลดลงเล็กน้อย แล้วตักขึ้นแช่น้ำเย็นให้กะหล่ำปลียังคงความเขียวและความกรอบอยู่ จากนั้นหันไปตั้งกระทะเทน้ำมันใส่จนร้อน เอาใบกะหล่ำปลีที่สะเด็ดน้ำดีแล้วลงไปทอดให้สุกเกรียมเล็กน้อย เสร็จแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน             คราวนี้จัดการเอาน้ำปลา น้ำตาล และน้ำเปล่าหรือน้ำซุปลงไปปรุงต่อในกระทะใบเดิม จนน้ำเดือดดีแล้ว ก็นำใบกะหล่ำปลีที่รออยู่ลงไปผัดๆๆ คลุกเคล้าเครื่องปรุงให้ทั่วกันดี เสร็จแล้วก็ยกเสิร์ฟร้อนๆ ได้ทันที             ลองทำดูจานแรกรสชาติอาจจะยังไม่ลงตัว จะขาดจะเกินตรงไหนก็ลองลด-เพิ่มส่วนผสมกันดูได้ แต่ที่แน่ๆ  กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา  จานนี้จะกินเปล่าๆ หรือกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องรีบกินทันทีหลังจากทำเสร็จใหม่ๆ เพราะหากรอให้เย็น ความอร่อยจะลดลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:30:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กุ้ง-ชะอมผัดน้ำมันหอย อร่อยอุดมคุณค่า/กุ๊กเล็ก โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2551 14:27 น.       โดย : กุ๊กเล็ก       พูดถึงผักพื้นบ้านอย่าง ชะอม หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชะอมผัดไข่ แต่มื้อนี้  กุ๊กเล็ก  จะมาแนะนำอีกหนึ่งเมนูชะอมที่ทำง่ายๆ ในเวลาอันรวดเร็ว นั่นก็คือ  ชะอมผัดน้ำมันหอยกุ้ง             เมนูนี้นอกจากจะได้โปรตีนสูงและโปรตัสเซียมสูงจากกุ้งแล้ว ผักชะอม ยังจัดว่าเป็นผักพื้นบ้านที่มีปริมาณโปรตีนสูง และมากไปด้วยคุณค่าทั้งเส้นใย พลังงาน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 ไนอะซิน วิตามินซี อีกด้วย             เอาล่ะ เมื่อรู้ถึงคุณค่าทางอาหารของเมนูชะอมผัดน้ำมันหอยกุ้งแล้ว ก็อย่ารีรอลงมือตระเตรียมส่วนผสมและเครื่องปรุงกันเลย             ส่วนผสม       ยอดชะอม  2 กำมือ       กุ้งสด   2 ขีด       กระเทียม  5-6 กลีบ       พริกขี้หนู  5-6 เม็ด       น้ำมันหอย  3 ช้อนโต๊ะ       เต้าเจี้ยว  2 ช้อนโต๊ะ       น้ำตาลทราย  1  ช้อนชา       น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ             เมื่อ จัดเตรียมส่วนผสมครบมือแล้ว ลงมือล้างชะอมให้สะอาดเด็ดยอดอ่อนและรูดใบ หันมาแกะเปลือกกุ้ง ผ่าหลังเอาเส้นดำออกล้างให้สะอาดพักไว้ นำกระเทียมแกะเปลือก พริกขี้หนูตัดขั้ว แล้วทุบพอแหลก             จากนั้นนำพริกขี้หนูและกระเทียมลงไปผัดกับน้ำมันพอร้อน ใส่กุ้งผัดพอสุกปรุงรสด้วยน้ำมันหอย เต้าเจี้ยว และน้ำตาลทราย แล้วจึงใส่ชะอมลงไปผัดเร็วๆพอสุก ตักขึ้นใส่จาน กินคู่ข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเด็ดไปอีกหนึ่งมื้อ จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กุ้งผัดพริกเกลือ  ถึงใจในความหวาน เผ็ด เค็ม มัน /กุ๊กเล็ก โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2551 15:30 น.       โดย : กุ๊กเล็ก       มื้อนี้  กุ๊กเล็ก  ออกโรงไปเดินจ่ายตลาดสดแถวบ้านมา เราเดินวนเวียนอยู่ในตลาดเป็นนานสองนาน พร้อมกับคิดไปพลางๆ ว่ามื้อนี้จะทำเมนูอะไรกินดี พอดีเดินผ่านไปโซนที่ขายอาหารทะเล เห็นกุ้งแชบ๊วยตัวโตๆ เลยปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที ว่าตกลงมื้อนี้เราจะทำเมนูกุ้งกินกัน และเมนูกุ้งจานเด็ดที่ว่านั้นก็คือ  กุ้งผัดพริกเกลือ  ที่ทำง่ายๆ ไม่ต้องมีส่วนผสมอะไรมากมาย เราก็จะได้อร่อยลิ้นกับกุ้งเนื้อหวาน ที่นำไปผัดกับเครื่องพริกเกลือที่ เผ็ด เค็ม มัน             เอาล่ะตามไปดูกันดีกว่าว่าส่วนผสมของ กุ้งผัดพริกเกลือนั้นมีอะไรบ้าง             กุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ 6 ตัว       กระเทียมสับหยาบๆ 1ส่วน4 ถ้วย       พริกชี้ฟ้าแดงสับหยาบๆ 4 เม็ด       เกลือป่น ครึ่ง ช้อนชา       น้ำปลา 1 ช้อนชา       ซอสปรุงรส ครึ่ง ช้อนชา       พริกไทยป่น 1ส่วน4 ช้อนชา       เหล้าจีน 1 ช้อนชา       น้ำมันพืชสำหรับทอด       น้ำมันพืชสำหรับผัด             เมื่อเตรียมส่วนผสมกันพร้อมแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการทำกัน เริ่มจากนำกุ้งแชบ๊วยมาล้าง แล้วผ่าหลังกุ้งทั้งเปลือก พร้อมกับดึงเส้นดำออก จากนั้นให้นำกุ้งลงทอดในกระทะน้ำมันร้อน เวลาทอดให้ใช้ไฟปานกลาง ทอดจนกุ้งเหลืองกรอบได้ที่ ก็ตักขึ้นใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน             หลังจากนั้นหันมาตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป ใช้ไฟกลางๆ รอให้น้ำมันพอร้อน ก็ให้ใส่กระเทียม และพริกชี้ฟ้าแดง ลงไปผัดให้เข้ากันจนพอมีกลิ่นหอม จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส พริกไทย แล้วก็นำกุ้งที่ทอดไว้แล้วนั้นใส่ตามลงไป พร้อมกับใส่เหล้าจีนตามลงไปด้วย และผัดแบบเร็วๆ ให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน เท่านี้ก็เป็นอันว่าเสร็จตัก  กุ้งผัดพริกเกลือ  ใส่จาน เสิร์ฟร้อนๆ เอร็ดอร่อยกันไปอีกหนึ่งเมนู จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หม่ำเพลิน กับ  กุ้งระบำยำมะม่วงกรอบ / กุ๊กเล็ก โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 มิถุนายน 2551 12:28 น.       ฮัดเช้ยๆๆ หมู่นี้ฟ้าฝนอึมครึมตลอดเวลาในเมืองกรุง  กุ๊กเล็ก  ก็เลยได้เป็นโรคยอดฮิตอย่างไข้หวัดกับเขาด้วย แต่ถึงจะป่วย แล้วจะให้มานั่งกินข้าวต้ม นมถุง  กุ๊กเล็ก คงขอบายเช่นกัน             อยากกินอะไรที่ครบรส เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย เลยดั้นด้นมาที่ คริสตัล กริลล์ ชั้น 82 โรงแรมใบหยกสกาย (ใบหยก2) เพื่อมาขอสูตรอาหารจาก เชฟ ปราณีต สุวรรณทา ซึ่งเชฟก็ได้สอนวิทยายุทธการทำ  กุ้งระบำยำมะม่วงกรอบ  มาให้แบบไม่หวงสูตร การทำเริ่มจาก             ส่วนผสม             มะม่วงแก้วห่าม 1 ลูก       กุ้ง 3 ตัว       งาขาว 1 ช้อนชา       งาดำ 1 ช้อนชา       หอมเจียว 1 ช้อนชา       พริกขี้หนู 1 ช้อนชา       น้ำมันพืช 2 ถ้วย       มะม่วงหิมพานต์ 4-7 เม็ด       ใบชะพลู 3 ใบ       แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ       แป้งข้าวจ้าว 1 ช้อนโต๊ะ       น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ       น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ       น้ำมะนาว 1 ช้อนชา             วิธีทำ             นำมะม่วงแก้วห่ามมา ปอกเปลือกหั่นเป็นฝอย ก่อนนำมะม่วงไปทอดในน้ำมันพืชให้กรอบแล้วพักไว้ จากนั้นนำแป้งสาลี แป้งข้าวจ้าว งาขาวและงาดำมาผสมกัน แล้วนำกุ้งมาชุบทอดจนเหลืองกรอบ             จากนั้นนำน้ำปลาและน้ำตาลทรายมาเคี่ยวจนเหนียว แล้วเติมน้ำมะนาวเล็กน้อยยกลงพักไว้ นำมะม่วงและกุ้งที่ทอดไว้วางบนใบชะพลูและโรยด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หอมเจียว พริกขี้หนู จะราดน้ำยำลงไปเลยหรือจะแยกน้ำยำไว้ต่างหาก แล้วค่อยตักกินเป็นคำๆก็ได้ จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แกงส้มผักบุ้งกุ้งสด  รสกลมกล่อมแบบไทยๆ/กุ๊กเล็ก โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤษภาคม 2551 14:14 น.       โดย กุ๊กเล็ก       ใกล้ถึงช่วงเวลาเปิดเทอมของเด็กๆ พร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายลงมา  กุ๊กเล็ก ว่าฝนนี่ก็แปลก มักจะชอบตกลงมาเวลาที่คนกำลังจะออกไปโรงเรียนไปทำงานให้ได้เฉอะแฉะกันถ้วน หน้า และพอได้เวลาโรงเรียนเลิกหรือเวลาเลิกงานปุ๊บก็เหมือนกับรู้เวลา ตกลงมาได้ทันทีเหมือนกัน แต่แม้จะเปียกแฉะเพียงใด  กุ๊กเล็ก  ก็ยังชอบความเย็นฉ่ำของสายฝนอยู่ดี             และเวลาอากาศเย็นๆ สบายๆ อย่างนี้ แกงร้อนๆ สักถ้วยคงจะทำให้สบายใจสบายท้องกันมากขึ้น วันนี้  กุ๊กเล็ก  เลือกเมนู  แกงส้มผักบุ้งกุ้งสด  มาเป็นมื้อเด็ดในครั้งนี้             ส่วนผสมน้ำพริกแกงส้ม       พริกขี้หนูสด 10 เม็ด       กระเทียม 5-6 กลีบ       หอมแดง 3-4 หัว       กะปิ ครึ่ง ช้อนโต๊ะ       กุ้ง 4-5 ตัว             ส่วนผสมแกงส้ม       น้ำเปล่า  2.5 ถ้วย       ผักบุ้งไทย 2 กำ       กุ้ง 5-6 ตัว       น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ       น้ำปลา น้ำตาลปีบ ปรุงตามชอบ             วิธีทำ เริ่มจากการทำน้ำพริกแกงส้มก่อน แกงส้มผักบุ้งกุ้งสดชามนี้  กุ๊กเล็ก  ใช้พริกขี้หนูสดแทนพริกแห้ง เพราะจะได้รสเผ็ดร้อนกว่า แต่สีสันน้ำแกงอาจจะไม่สวยงามเท่ากับพริกขี้หนูแห้ง โดยเราเริ่มจากการนำพริกขี้หนู กระเทียม หอมแดง กะปิ มาโขลกให้เข้ากัน แล้วนำกุ้งที่เตรียมไว้ไปลวกในน้ำเดือด แล้วหยิบมาสัก 4-5 ตัว นำลงไปโขลกรวมกันกับน้ำพริกด้วย เพื่อให้น้ำแกงส้มเข้มข้นมีเนื้อกุ้งละลายอยู่             จากนั้นหันมาตั้งน้ำให้เดือด แล้วใส่น้ำพริกแกงส้มที่เราโขลกเอาไว้แล้วลงไป ตามด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปีบลงไปให้น้ำแกงได้รสกลมกล่อม เปรี้ยวนำ และหวาน เค็ม ตามความชอบ             พอน้ำแกงเดือดดีแล้วก็ใส่กุ้งที่เหลือ ตามด้วยผักบุ้งที่ล้างสะอาดและหั่นเป็นท่อนสั้นๆ ปิดผาให้น้ำแกงเดือด ผักบุ้งยุบดีแล้วก็ปิดไฟยกลงได้ จะกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะมีไข่เจียว ปลาทอดกินคู่กันก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยมากขึ้นไปอีก จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ซดร้อนๆบำรุงร่างกาย กับ แกงส้มไหลบัวกุ้งสด /กุ๊กเล็ก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ธันวาคม 2551 18:44 น.       โดย:กุ๊กเล็ก        ลงเรือน้อยลอยวน ในสายชลห้วยละหาน มีทั้งบัวตูมบัวบาน ดอกใบไหวก้านงามตา....             สมัยเด็กๆเวลาช่วยแม่ทำกับข้าวในครัวแล้วร้องเพลง  กุ๊กเล็ก จะต้องถูกแม่ห้ามทุกครั้ง พอเอ่ยถามว่า ทำไมต้องห้ามร้องเพลงในครัว คำตอบที่ได้ก็คือ ...ระวังจะมีผัวแก่...             แต่ครั้งนี้ พอได้เข้าครัวลงมือทำเมนู  แกงส้มไหลบัวกุ้งสด มันก็อดไม่ได้ที่จะครวญเพลง  บัวตูม บัวบาน  ของ พร ภิรมย์ เพราะขณะที่กำลังหั่นไหลบัวอยู่ เพลงนี้ก็บรรเจิดขึ้นมาจนห้ามใจไม่ไหว             พูดถึง เมนูวันนี้ นอกจากทำไม่ยากแล้ว ตัวของไหลบัว(หลดบัว)ยังมีสรรพคุณ รสเย็นจืด ประกอบด้วยเส้นใยอาหาร แก้ท้องผูก บำรุงร่างกาย ได้ดีอีกด้วย ว่าแล้วมาเริ่มทำ แกงส้มไหลบัวกุ้งสด กันเลยดีกว่า             เครื่องปรุง             ไหลบัวล้างสะอาดหั่นเป็นท่อนๆพอคำ 1 ถ้วย       กุ้งสด 1 ขีด       พริกแห้ง 8-10 เม็ด       หอมแดง 5 หัว       กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ       กระเทียม 10 กลีบ       เกลือเล็กน้อย       น้ำส้มมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ       น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ       น้ำสะอาดพอประมาณ             วิธีทำ             ขั้นตอนแรกเริ่มจากโขลกพริกแห้ง หอมหัวแดง กระเทียม กะปิ เข้าด้วยกัน จนละเอียดเป็นเนื้อเดียว จากนั้นตั้งน้ำให้เดือด ก่อนใส่เครื่องแกงที่โขลกแล้วลงไป ตามด้วยกุ้งสดล้างสะอาดผ่าหลังเรียบร้อย        จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ น้ำส้มมะขาม และน้ำตาลทราย ให้มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน ตามด้วยไหลบัวที่หั่นเป็นท่อน ทิ้งไว้สักครู่พอเดือด ชิมรสตามใจชอบ ตักใส่ชามพร้อมเสิร์ฟกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แกงหอยแครงใส่ใบชะพลู เคี้ยวหนึบเผ็ดมัน/กุ๊กเล็ก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2552 14:21 น.       โดย: กุ๊กเล็ก แกงหอยแครงใส่ใบชะพลู        กุ๊กเล็ก  เพิ่งได้รับข้อความทางฟอร์เวิร์ดเมล์จากเพื่อนสาวนางหนึ่ง ในนั้นเขากล่าวถึงเรื่อง อาหารบอกอารมณ์ มีอยู่หลายข้อด้วยกัน เช่น หากเลือกกิน สุกี้ เทมปุระ ซูชิ หมายความว่าเป็นคนมีอารมณ์สุนทรีย์ ชอบกินเนื้อหมู เป็นคนอารมณ์ดี อาจจะมีจุกจิกจู้จี้ บ้าง แต่เขาว่าถ้าเลือกกิน เค้ก แปลว่าขณะนั้นกำลังสับสนทางเพศ             แต่ถ้าเป็นคนสวาปามกินอะไรก็ชอบไปเสียหมดทุกอย่างแบบ  กุ๊กเล็ก เขา จะตีความหมายว่าอย่างไรหนอ ดูอย่างมื้อนี้ที่อยากกินอะไรครบรส เผ็ด หวาน มัน คิดอยู่นานว่าจะทำเมนูอะไร จนมาลงตัวที่  แกงหอยแครงใส่ใบชะพลู เมนูปักษ์ใต้บ้านเรา ว่าแล้วมาเปิดดูสูตรไม่ลับกันเลยดีกว่า             ส่วนผสม       หอยแครง 1 กิโลกรัม       หัวกะทิ 3 ขีด       หางกะทิ ครึ่งกิโลกรัม       ใบชะพลูหั่น 1 ถ้วย       น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ             *เครื่องแกง       พริกขี้หนูสด 20 เม็ด       พริกไทย 1 ช้อน       หอมแดง 3-4 หัว       ข่าหั่น 2-3 แว่น       กระเทียม 2 หัว       ตะไคร้หั่นฝอย 2-3 ต้น       ขมิ้นหั่น 1 หัว       กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ       เกลือ ครึ่ง ช้อนชา             วิธีทำ             นำหอยแครงไปล้างให้สะอาดแช่น้ำทิ้งไว้ นำเครื่องแกงทั้งหมดมาโขลกรวมกันให้ละเอียดแล้วพักไว้ แล้วนำหอยแครงไปลวกพอสุก แกะเอาแต่เนื้อ             จากนั้นนำหางกะทิใส่หม้อขึ้นตั้งไฟจนเดือด แล้วจึงใส่เครื่องแกงที่โขลกเอาไว้ลงไปคนในหม้อให้เข้ากัน ใส่หอยแครงลงไปจนน้ำเดือด จึงใส่ใบชะพลูที่เตรียมเอาไว้ ลงไปต้ม จน ใบชะพลูสุก ปิดท้ายด้วยการนำหัวกะทิลงไป ใส่น้ำปลา ชิมรส เป็นอันแล้วเสร็จพร้อมเสิร์ฟได้ หมดหมวด ก.ไก่ ในโฟลเดอร์นี้ของป้าน้องแล้วค่ะ ถ้ายังมีคนสนใจอีก ป้าน้องก็จะไล่โพสต์ไปได้อีกนะคะ เมนู ข.ไข่ ...ไปเรื่อยๆค่ะ สนใจบอกได้นะคะ เบื่อ..ก็บอกได้อีกแหละค่ะ ก็จะหาอย่างอื่นที่เก็บๆไว้มาแบ่งกันอ่านอีกได้ค่ะ จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 15:47:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โหน่ากินทุกอย่างเลยเดี๋ยวผมจะเซฟเอาไว้ไปทำให้ที่บ้านกินครับ ขอบคุณมากครับป้าน้อง จากคุณ : ZiaZa - [ 25 ก.พ. 52 15:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โห.....คุณน้อง แกล้งกันชัดๆ ใกล้เวลาอาหารเย็นแบบนี้ น้ำลายจะไหล..... เอาสูตรแบบนี้มาลงบ่อยๆนะคะ จะได้เอาไปให้ลูกสาวทำให้ทาน ((แม่ที่ดีก็แบบนี้ละค่ะ)) จากคุณ : Batgirl 2001 - [ 25 ก.พ. 52 17:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีค่ะคุณเซี๊ยะ พี่ไก่ ดีใจค่ะ ที่สูตรพวกนี้ที่เก็บไว้ จะได้เกิดประโยชน์บ้าง ไปเช็คอีกทีแล้ว มีทั้งหมดราว 200 สูตรค่ะ ส่วนเมนูที่ขึ้นด้วย ก ไก่ ก็ยังมีอีกเพียบค่ะ แล้วจะค่อยๆโพสต์ไปทีละสัก 10 สูตรนะคะ จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 18:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กระหลำปลีผัดน้ำปลาเคยไปทานที่ร้านอาหารที่ราชบุรีครับป้าน้อง มองว่าทำไม่ยาก เคยทำให้คุณแม่และหลานๆทานแล้วติดใจกันยกใหญ่ โดยเฉพาะต้องมีพริกน้ำปลาด้วยนะครับ อย่างที่ป้าน้องบอกนะครับ ต้องทานตอนร้อนๆ จึงจะอร่อยพอเย็นแล้วไม่ได้รสชาด ...ส่วนแกงใบชะพลูผมก็ทำเป็นนะครับ ตอนที่ทำให้คุณแม่ทานผมใช้หมูสามชั้นแทน รอบนี้กลับบ้านที่โคราช มีสองสามเมนู ที่จะไปทำให้ที่บ้านทานกัน ก็มี ข้าวผัดเขียวหวาน / ข้าวผัดปลาสลิด / สปาเก๊ตตี้ผัดกระเพา แล้วที่มองๆ เมนูที่ป้าน้องเอามาลง กุ้งผัดชะอมน้ำมันหอยน่าสน กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวน จะลองดูนะครับ ว่าแต่ว่างๆเราไปทำอะไรทานกันที่บ้านพี่ไก่ ดีมั๊ยครับพี่เซี๊ยะ ป้าน้องสนมะ5555 จากคุณ : mcman - [ 25 ก.พ. 52 19:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 555 คุณโจคะ ไม่ใช่ป้าน้องว่าค่ะ กุ๊กเล็กตะหาก ทั้งหมดเป็นผลงานของกุ๊กเล็กแห่งครัผู้จัดการทั้งหมดค่ะ ป้าน้องก็อปมาวางโดยไม่ตัดอะไรออกเลย เพื่อให้เกีรติผู้เขียนค่ะ ขอสารภาพอีกอย่างนะคะ ว่ายังไม่เคยลองทำเลยสักสูตรเดียวค่ะ เรื่องว่างๆ ไปทำทานกันที่บ้านพี่ไก่ ถ้าพี่ไก่อนุญาตก็ยินดีเลยค่ะ ตัวอย่างรายชื่อสูตรอาหาร มีใครสนใจเมนูไหน บอกได้นะคะ จะได้นำมาโพสต์ให้ค่ะ จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 20:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 //อุ๊ยตาย ตาลายกะเมนูจังเลยครับ อ่านคร่าวๆน่าสนใจทั้งหมดเลย เดี๋ยวรอฉก จากคนที่เลือกอีกที ของผมเห็นแว่บๆ นี่สนใจไข่เยี่ยวม้ากระเพากรอบครับ ก็น่าเชื่อว่าป้าน้องน่าจะยังไม่ได้ลองทำ เพราะยังไม่มีคนชิม ต้องขอให้พี่ไก่ เปิดบ้านให้ป้าน้องลองทำให้พวกเราทานแล้วล่ะครับใช่มั๊ยพี่ไก่วู้ๆๆๆๆๆ จากคุณ : mcman - [ 25 ก.พ. 52 20:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 555 คุณโจ ป้าน้องไม่หลงกลหรอกน้า 555 ความคิดเห็นที่ 13 ...จะลองดูนะครับ ว่าแต่ว่างๆเราไปทำอะไรทานกันที่บ้านพี่ไก่ ดีมั๊ยครับพี่เซี๊ยะ ป้าน้องสนมะ5555... ความคิดเห็นที่ 15 ...ก็น่าเชื่อว่าป้าน้องน่าจะยังไม่ได้ลองทำ เพราะยังไม่มีคนชิม ต้องขอให้พี่ไก่ เปิดบ้านให้ป้าน้องลองทำให้พวกเราทานแล้วล่ะครับใช่มั๊ยพี่ไก่วู้ๆๆๆๆๆ 555 เราค่ะ ไม่ใช่ ป้าน้องลองทำ 555 เพราะถ้าฝีมือป้าน้องละก็ อาจคาดเดาลำบากว่าจะได้อะไรออกมา 555 อิ อิ ตามคำขอค่ะ ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ ทำง่าย กินง่าย กับ ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ /กุ๊กเล็ก โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2548 18:22 น.       โดย : กุ๊กเล็ก         ช่วงนี้  กุ๊กเล็ก  ให้งงกับข่าวคราวของไข่ที่ออกมาเหลือเกินบ้างก็ว่าสามารถกินดีมีประโยชน์ได้ทุกวัน บ้างก็ว่ากินทุกวันยังไงก็ไม่ดีแน่นอน และที่สำคัญเป็นข้อมูลของนักวิชาการไทยที่ขัดแย้งกันเอง             เมื่องงๆก็เลยไปนั่งมองไข่เยี่ยวม้าเปลือกสีชมพูสดใส พร้อมๆ กับคิดเล่นๆว่า ไอ้เจ้าไข่เยี่ยวม้าเนี่ย แน่นอนว่าถ้ากินทุกวันไม่ดีแน่ๆ แต่หากนานๆกินทีก็เข้าท่าไม่หยอก โดยเฉพาะกินแกล้มเหล้าเบียร์นั้นยอดทีเดียว             แต่หากจะทำเป็นกับข้าวแล้วคิดไม่ออกว่าจะนำไข่เยี่ยวม้าไปทำอะไรกินดี  กุ๊กเล็ก  ขอแนะนำเมนูง่ายๆ อย่าง  ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ ที่วิธีทำไม่ยากจนเกินไป แถมรสชาติก็ยังน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนอีกด้วย             สำหรับส่วนผสมไข่เยี่ยวม้ากระเพรากรอบก็มี             ไข่เยี่ยวม้า 1 ลูก       หมูสับ ครึ่ง ขีด       พริกสด 2-3 เม็ด       กระเทียม 3-4 กลีบ       น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ       ใบกะเพราเด็ดเป็นใบๆ ใส่ตามที่ต้องการ (ใช้ผัดและทอดกรอบ)       เห็ดฟาง ถั่วฝักยาว ดอกกะหล่ำ แครอท ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นชิ้นๆ ปริมาณตามชอบใจ       น้ำปลา น้ำตาล ซอสปรุงรส ปริมาณตามความชอบ             เมื่อเตรียมส่วนผสมครบครัน ก็ให้นำไข่เยี่ยวม้ามาผ่าเป็น 4 ซีก ไปทอดจนกรอบแล้วพักเอาไว้ก่อน จากนั้นเอาหมูสับมาผัดกับเครื่องกะเพราอันได้แก่ใบกะเพรา (อย่าลืมแบ่งไว้ทำกะเพรากรอบด้วยล่ะ) พริกสด และกระเทียมสับ เพิ่มความสีสันความอร่อยและคุณค่าอาหารด้วยแครอท ข้าวโพดอ่อน กะหล่ำดอก ถั่วฝักยาวและเห็ดฟาง ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงจนอร่อยถูกใจ             ครั้นเสร็จสรรพนำมาราดบนไข่เยี่ยวม้าทอด แต่ยังไม่เสร็จแค่นั้น อย่าลืมเอาใบกะเพราะที่แบ่งไว้มาทอดกับน้ำมันร้อนๆ จนได้กะเพรากรอบน่ากินมาโรยหน้ากะเพราไข่เยี่ยวม้าจานอร่อยนี้ด้วย             ความอร่อยของผัดกะเพราที่ทุกคนคุ้นเคย ผสมกับรสชาติมันๆ ของไข่เยี่ยวม้าทอด ในเมนูไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ ช่วยทำให้มื้ออาหารของ  กุ๊กเล็ก  ในวันนี้ได้รสชาติอร่อยอย่าบอกใคร ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองไปทำดูเองแล้วล่ะถึงจะรู้ จากคุณ : notno - [ 25 ก.พ. 52 20:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น่าทานทุกอย่างเลย มีหรือจะพลาดเซฟๆๆๆๆๆค่ะ. เกดชอบทำกับข้าวและต้องทำทุกๆวัน(คุณๆไม่ชอบทานอาหารฝรั่งค่ะ)แต่ไม่มีสูตรที่เป็นลายลักษ์อักษรแบบนี้. อยากทานผักอะไรก็ใส่ๆลงเครื่องปรุงกะๆเอาๆ บางทีหน้าตาออกมามองไม่ทราบหรอกค่ะว่ามันคือกับข้าว(หรือเปล่า)ชนิดใหน? ตอนอยู่คนเดียวก็จะทำแล้วไปลากเพื่อนคนนั้นคนนี้มาเป็นหนูดทดลองกับข้าวจนเพื่อนๆๆที่ไม่ยอากคบเปลี่ยนใจมาคบหลายคน แน่นอนเจตนาชัดเจนขนาดนั้นคบกับข้าวไม่ใช่คบคนทำ ฮ่ะๆๆๆ. ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ จากคุณ : ทับทิมยึดล๊อกอินผิฬา (**ผิฬา+ทับทิม**) - [ 25 ก.พ. 52 21:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตกลงว่าจะมาทำอะไรทานกันที่บ้านพี่เมื่อไหร่จ๊ะ หาเมนูเด็ดๆกันมาเลยนะ จากคุณ : Batgirl 2001 - [ 25 ก.พ. 52 23:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กรี๊ดดดดดดดด ป้าน้องขา ทำร้ายจิตใจหนูอย่างแรงเลยค่ะ มาโพสต์อาหารที่อยากทานทั้งนั้นเลย จากคุณ : นางฟ้าของมารี - [ 26 ก.พ. 52 03:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับสูตรไข่เยี่ยวม้ากระเพากรอบจากกุ๊กเล็กที่โพสโดยป้าน้อง ขอบคุณนะครับ ว่าแต่พี่ไก่ มาลงชื่ออนุญาตแล้วนะครับ555 จะว่าไป ถ้าให้ป้าน้องทำแล้วคาดเดาไม่ได้ว่าเป็นอะไร เราก็อาจจะได้เมนูเด็ดจานใหม่ ที่กินแล้วตาย เอ๊ย ที่กินแล้วสบายอิ่มในความอร่อยแปลกใหม่ก็ได้นะครับป้าน้อง จากคุณ : mcman - [ 26 ก.พ. 52 07:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : คุณแม่pp (anwan) - [ 26 ก.พ. 52 07:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ยอดเลยครับป้าน้อง วันหน้าถ้าอยากทำอะไร รบกวนขอสูตรด้วยครับ เพราะชอบทำกินเองครับ จากคุณ : แดง สุขุมวิท - [ 26 ก.พ. 52 07:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 บอกแต่ว่า ... ทำอาหารไม่เป็น ... แต่ชอบเก็บตำรากับข้าวไว้ ฮ่า ... ฮ่า   บอกด้วยค่ะ ว่าพี่น้อง เก็บไว้  ให้ใคร ? อาหารน่ากินจริงๆ พิมพ์ไป กลืนน้ำลายไป น่าเวทนาคนเข้าทู้นี้จริ๊งๆ จากคุณ : หยาดฟ้ามาสู่ดิน - [ 26 ก.พ. 52 07:53:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทานเป็นอย่างเดียว  ไม่ถนัดทำกับข้าวเลยค่ะ จากคุณ : บุหงาตานี - [ 26 ก.พ. 52 11:19:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แม่เป็ดคะ ยินดีค่ะถ้าสูตรพวกนี้จะเกิดประโยชน์บ้าง คนที่ทำกับข้าวเป็นอยู่แล้ว การดูสูตรกับข้าวคนอื่น ก็น่าจะช่วยให้เกิดความคิดใหม่ๆขึ้นได้นะคะ อาจได้อาหารจานใหม่ที่เฉพาะตัวน่าทานและอร่อยกว่าเดิมได้นะคะ พี่ไก่ อนุญาตให้ไปบ้านได้ ทีนี้ก็ต้องหาเวลาและเลือกเมนูที่จะทำกินกันแล้วหละค่ะ น้องแคทจ๋า ป้าน้องเคยเห็นภาพกับข้าวฝีมือน้องแคทมาแล้ว การประยุกต์ใช้สิ่งที่หาได้เพื่อมาทำอาหารไทย น้องแคทมีฝีมืออยู่แล้ว ว่าแต่สนใจสูตรไหนบ้างไหมคะจะได้โพสต์ให้ คุณโจ อย่าแซวป้าน้องเฉยๆนะ หาเวลามาเลย แล้วนัดกันหลายๆคนไปบ้านพี่ไก่กัน สวัสดีค่ะน้องเจี๊ยบ ดีใจค่ะที่น้องเจี๊ยบเริ่มกลับเข้ามาในคลับแล้ว คิดถึงค่ะ ยินดีค่ะคุณแดง ต้องการสูตรไหน บอกได้นะคะ แต่ถึงไม่บอก ก็จะทะยอยโพสต์ไปเรื่อยๆแหละค่ะ คุยไม่เก่ง ก็ส่งผ่านตำรากับข้าวไปแทนค่ะ คุณเกลนคะ เรื่องเก็บสูตรอาหารเนี่ย ไม่มีวัตถุประสงค์ว่าเก็บให้ใครหรอกค่ะ มันเป็นความบ้าส่วนตัวน่ะค่ะ ชอบเก็บ เก็บไปหมด ยังมีหัวข้ออื่นอีกนะคะที่เก็บๆไว้ อย่างเช่น 108เคล็ดกิน นี่ก็เก็บไว้ ตัวอย่างเช่น แก้เครียดด้วยอาหาร แก้เครียดด้วยอาหาร   โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2550 17:36 น.        ใกล้จะสิ้นปีอย่างนี้หลายๆ คนคงจะดีใจที่จะได้หยุดยาวเพื่อพักผ่อนอยู่บ้านหรือไปเที่ยวที่ไหนตามใจ แต่ก็ช่วงสิ้นปีนี่แหละที่เป็นช่วงเวลาของการสะสางงานที่สะสมมาเรื่อยๆ ทำให้บางคนเกิดอาการเครียดขึ้นมาได้             "108 เคล็ดกิน" จึงอยากจะมาแนะนำเกี่ยวกับการเลือกกินอาหารในเวลาเครียด เพราะร่างกายของเรานั้นจะต้องการสารอาหารบางอย่างเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดอาการเครียดขึ้นมา โดยสารอาหารที่ว่านั้นก็คือ "วิตามินบี" มีหน้าที่โดยตรงต่อการคลายความเครียด เพราะจะช่วยบำรุงประสาท พบมากในผักใบเขียว ข้าวกล้อง จมูกข้าวสาลี ธัญพืช นม ไข่ และอาหารทะเล "วิตามินซี" ก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายและสมองสดชื่น พบมากในผลไม้ต่างๆ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ "วิตามินอี" ก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน พบมากในถั่วเปลือกแข็ง งา จมูกข้าวสาลี             "โปแตสเซียม" ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นสม่ำเสมอ ควบคุมความดันโลหิต และจำเป็นต่อระบบประสาททุกชนิด พบมากในอาหารจากพืช เช่น ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเมล็ดแห้ง ผลไม้ โดยเฉพาะกล้วยและส้ม "แมกนีเซียม" ช่วยบำรุงประสาทเช่นกัน พบมากในข้าวกล้อง ถั่วเมล็ดแห้ง และผักใบเขียว ส่วน "สังกะสี" มีหน้าที่ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พบมากในเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ตับ ไข่แดง นม ธัญพืช และอาหารทะเล             ไหนๆ ก็จะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมาบำรุงร่างกายตัวเองให้เเข็งแรงเพื่อสู้กับชีวิตในปีหน้ากันดีกว่า! ป้าน้องก็ทำกับข้าวไม่เป็นค่ะครูบุหงาฯ แต่ชอบดูชอบอ่านค่ะ จากคุณ : notno - [ 26 ก.พ. 52 12:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อไรจะหัดทำครับ จะตามไปหัดกิน จากคุณ : นายพราน - [ 26 ก.พ. 52 12:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 รอทั่นทั้งหลายๆข้างบนหัดทำให้อร่อยๆ  แล้วน้องเลฯจะพาทั้งครอบและครัวไปกิน อิ่มจัง  ตังค์อยู่ครบ  ฮี่ๆๆๆ จากคุณ : น้องเลฯ - [ 26 ก.พ. 52 15:43:52 ]