มันเป็นความรู้สึกหดหู่ค่ะ เลยอยากเล่าให้ทุกคนฟัง
เรื่องมีอยู่ว่า
คุณแม่เราเข้านอน รพ. ทำให้เราได้มีโอกาสรู้จักกับคนไข้ข้างเตียง
เค้านอนป่วยด้วยโรคมะเร็ง เท่าที่ทราบคือมันลามเข้ากระดูก
ก้อนเนื้อที่ต้นคอ ก็โตทับเส้นประสาทไปเรื่อยๆ
ตอนที่แม่เราเข้ามานอนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ คนไข้คนนั้น หน้าตายังสดใส
อยู่ ผมก็ยาวสลวย น้ำเสียงก็ยังใส หวาน น่าคุยด้วย
เรากับลูกสาวเค้าก็สนิทกันไปโดยปริยาย เพราะเราอายุเท่ากัน
เค้าต้องมาดูแม่ทุกวัน เพราะแม่เค้าเดินไม่ได้ แขน ขา ยกได้แต่ไม่สูงมาก
ส่วนเราเลิกงานก็ไปดูแม่ทุกวัน ก็ได้เห็นพัฒนาการของคนไข้ คนนั้นเรื่อยๆ
วันแรกๆ เค้ายังคุยเล่นได้ สายตายังดูมีความหวัง ผมเค้ายาวสวย
แล้วทุกอย่างเค้าก็เปลี่ยนแปลงลง เปลี่ยนแปลงลง เค้าไม่ได้ผ่าตัดเพราะ
หมอไม่สามารถรับรองได้ถึงผลของการผ่าตัด เค้าเลยใช้วิธีการฉายแสง
เพื่อความหวังที่ว่า มันจะช่วยลดปริมาณเจ้ามะเร็งลงได้บ้าง
ฉายแสงเรียบร้อย ผ่านมาวัน ถึงสองวัน ผมเค้าร่วงเป็นกระจุก เกือบหมดเลย
ตัวเค้าเองก็ดูอ่อนเพลีย เบลอบ้าง รู้เรื่องบ้าง เค้าโทรมไปเลย แต่ลูกเค้าก็ยัง
มีความหวังว่าแม่เค้าจะกลับมาเดินได้ เราก็เจอกันทุกวัน ทักทายกันเหมือน
ญาติกันไปเลย เค้าหิวน้ำตลอด ฉี่ก็จะออกมาเยอะมาก เค้าต้องถูกให้เลือด
เพื่อช่วยให้สามารถที่จะ ให้คีโมครั้งต่อไปได้
วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา เค้ายังคุยล้อเล่นกับแม่เราอยู่เลย
ว่าตด เสียงดังทะลุไปเลย แล้วเค้าก็หัวเราะแหะ สองแหะตามแรงที่มีอยู่ เรา
ยังแบ่งขนมให้เค้าอธิษฐาน แล้วก็เอาไปใส่บาตรตอนเช้าอยู่เลย
ตอน 2 ทุ่มก่อนเรากลับบ้านเราก็ยังมองเค้า เค้าหลับอยู่ ตาดำลอยขึ้น
ปากขมุบขมิบ ใจเรายังนึกอยู่เลยว่า ไม่ใช่อยู่อีกไม่กี่วันนะ
วันจันทร์ตอนเย็นเราก็มาหาแม่ตามปกติ อ้าว คนนั้นเค้าไปไหนแล้ว
เค้าถูกนำไปอยู่ห้องสังเกตุอาการแล้ว เราเลยเดินไปคุยกับลูกเค้า
คนไข้คนนั้นความดันลดลง ลิ้นแข็ง พูดไม่ได้ แล้วแม่เราก็เล่าให้ฟังว่า
ตอนที่พยาบาลมาเอาเค้าไป เค้าก็ร้องถามแม่เราว่า " เค้าจะเอาหนูไปไหน"
มาถึงตรงนี้แล้วสะเทือนใจจังเลยค่ะ เสียงเค้าจะเพราะและหวาน
อ้อ ก่อนจะถึงวันจันทร์ เค้าบ่นว่าอยากกลับบ้านตลอดเลยค่ะ เอาหน่ะไม่
เป็นไร พูดไม่ได้ไม่เป็นไร เราก็เลยเอานมกล่องหนึ่ง ให้เค้าอธิษฐานอีก
เพื่อที่จะไปใส่บาตร
พอมาถึงวันอังคารที่ 17 เวลา 18.15 เค้าก็เสียชีวิตลงค่ะ
เรามาถึงตอน 18.45
อึ้งเหมือนกัน ไม่รู้จะเอาอะไรให้เค้า เลยเอาพวงมาลัยให้เค้าไปหนึ่งพวง
ในใจก็ครุ่นคิด ว่ามันเร็วมากเลยนะ แม่เราก็ซึมไปเหมือนกัน เพราะเค้าจะคุย
กันทุกคืน หายแล้วต่างคนต่างจะไปเยี่ยมกัน อายุเค้า 50 กว่าเองค่ะ แม่เรา
68 มันเป็นความผูกพันที่เกิดขึ้นในที่ ที่เราคิดว่าไม่น่าจะมี เราไม่ได้ไปงาน
เค้าหรอกค่ะ เพราะแม่เรายังไม่ออกจาก รพ เลย แล้วงานเค้าก็จัดที่ต่าง
จังหวัดค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านจนจบนะค๊ะ
อยากจะบอกค่ะว่า ไอ้ที่เราคิดว่ายังมีเวลา ยังรอได้ พรุ่งนี้ก็ทัน
มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ซะทุกอย่างนะค๊ะ
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะมีประโยชน์บ้างรึเปล่า
ถือซะว่ามาเล่าประสบการณ์ให้ฟังก็ได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
--------------------------------------------------------------------
วันนี้เป็นวันที่ 20 มีนาคม 2552
เราได้โทรหาลูกของคนไข้คนนั้น เค้ายังร้องไห้อยู่เลย
เราก็เกือบจะร้องไห้ตามเหมือนกัน พรุ่งนี้เค้าจะเผาแม่เค้าแล้ว
เค้าบอกว่า เค้าคิดถึงว่า
เค้าต้องไปป้อนข้าวแม่ทุกวัน ยืนคุยกับแม่ทุกวัน เช็ดตัว ทำกายภาพให้แม่
มันทรมานใจเหลือเกิน เค้าไม่ค่อยได้มีโอกาสที่จะอยู่กับแม่
ตั้งแต่เด็กๆแล้ว ปิดเทอมทีถึงจะมาอยู่กับแม่ที่กรุงเทพที
เรียนจบ แต่งงาน ก็ไปอยู่กับครอบครัวฝ่ายชาย
แม่เค้าก็มาจากไปเร็วเหลือเกิน มันเร็วจนเค้าไม่รู้ว่า
เค้าจะอยู่อย่างไร เมื่อขาดที่พึ่งทางใจอย่างแม่ไป
เราหันกลับมามองแม่ตัวเอง รู้สึกได้ถึงการที่คนเราขาด
ที่พึ่ง ขาดคนรออยู่ข้างหลัง ทรมานจังเลยค่ะ
เท่านี้แหละค่ะที่จะอัพเดทให้ทราบกับ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค๊ะ
( สนใจคนที่เราเกือบจะลืมเค้าบ้างนะค๊ะ เค้าก็เหงาเป็นเหมือนกัน )
-------------------------------------------------------------------
ณ. เวลา 15.30 ของวันที่ 20 มีนาคม
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแชร์นะค๊ะ รู้สึกดีใจค่ะที่ มีคนเข้าใจ
เชื่อมั้ยค๊ะ ว่าการไปเฝ้าแม่ที่ รพ. ได้เห็นอะไร หลายๆอย่าง
เห็นคนที่กลัวการผ่าตัด / เห็นคนที่เค้าไม่มีใครมาเยี่ยม
ตามจริงแล้วแม่เราก็เข้า รพ. มาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันโดนใจค่ะ
เพราะคนไข้ข้างเตียงจากกันแบบไม่ได้ ร่ำลา ไม่ได้พูดคำว่าโชคดีนะ
หรือแม้แต่คำว่า หายเร็วๆนะ หรือคำว่า โอ้โห ได้กลับบ้านแล้วโชคดีจังเลย
แล้วคุณคนอ่านหล่ะค๊ะ เคยมีเพื่อนใหม่ที่ รพ. บ้างมั้ยค๊ะ
-------------------------------------------------------------------
แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 15:45:12
แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 11:43:38
แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 11:28:16
จากคุณ :
น้องหนูน้อยน่ารัก
- [
19 มี.ค. 52 23:31:11
]