ความคิดเห็นที่ 1 พี่ชายเราก็เป็นออทิสติกนะคะ ก็มีซื้อประกันทั้งไทยประกัน ทั้งAIAนะคะ จริงๆแล้วจะว่าไป เราว่า เด็กพิเศษเค้าก็น่าจะมีความเสี่ยงมากกว่าเด็กทั่วไปนะคะ อาจจะไม่ใช่ไม่เรื่องสุจภาพ แต่เป็นเรื่องอุบัติเหตุน่ะค่ะ เราคิดว่า ถ้าแฟร์ๆกัน ก็น่าจะรับประกัน แต่อาจจะคิดค่าเบี้ยประกันสูงกว่ากันนิดหน่อยน่ะค่ะ จากคุณ : JingleJ - [ 1 เม.ย. 52 13:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาฟังความเห็นด้วยคน.... แต่ที่แน่ ๆ ชอบชื่อ log in จขกท.จัง.....โดนใจ.... จากคุณ : tourmaline - [ 1 เม.ย. 52 13:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องนี้ตัดรัฐบาลออกไปเลยครับ ผมว่ารัฐบาลไม่ควรมาเกี่ยวอะไรด้วยเลย หรือถ้าจะมีก็ควรไปเป็นพวก สาธารณสุขพื้้นฐาน ไม่ใช่การมาบังคับให้ต้องทำประกัน -------------------------------------------------------------------------------- คราวนี้มาดูการทำธุรกิจ ผมมองแบบแฟร์ๆ สองฝ่ายทั้งบริษัทประกันและคนทำประกัน ทั้งสองฝ่ายย่อมต้องการผลประโยชน์ที่สูงสุดให้ตัวเองเท่านั้น (มองแบบทำธุรกิจ) แต่ถ้า optimize ทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน ก็คงเป็น น่าจะให้ทำแต่เบี้ยประกันคงจะต้องสูงกว่าปกติครับ ปล. เรื่องนี้ผมว่าไม่เข้าข่าย Discrimination ครับ เป็นเรื่อง High Risk มากกว่าครับ เหมือกับ ทำใบเบี้ยประกันของคนที่ขับรถชนบ่อยๆ ในอเมริกาถึงสูงกว่าคนที่ประวัติการขับรถดีๆ เพราะว่า probability ของคนสองกลุ่มต่างกันครับ ผมเข้าใจครับคุณมองจากมุมมองของคนเป็นแม่ แต่อีกฝ่ายไม่ได้คิดแบบคุณ เท่านั้นเอง ไม่มีใครผิดหรือถูกครับ บริษัทนี้ไม่รับทำ ไม่ใช่หมายความว่าบริษัทอื่นไม่รับ  ของอย่างนี้เป็นธุรกิจ  มีบริษัทประกันเยอะแยะที่ปฏิเสธการรับทำประกัน ในกรณีที่ประเมิณแล้วว่าความเสี่ยงสูงเกินไปที่บริษัทจะรับได้ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 18:37:11 จากคุณ : kanoomtan - [ 1 เม.ย. 52 18:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยนะครับว่าควรให้มี แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับคุณแม่ในทางที่ว่าเป็นความผิดของเอกชนในประเด็น Discrimination ครับ รวมถึงไม่เห็นด้วยว่าความสามารถในการเข้าถึงบริการด้านการประกันนั้นเป็นสิทธิ์ ผมมองว่าเป็นโอกาสมากกว่า เรื่องของเด็กพิเศษ ปัจจัยเสี่ยงไม่ได้เกี่ยวพันกับตัวเด็กอย่างเดียวครับ แต่เกี่ยวกับผู้ดูแลด้วย บ้างก็ดูกันไปอย่างตามมีตามเกิด บ้างก็ดูแลกันอย่างดี ผมว่าปัจจัยเสี่ยงนี้แหละที่บริษัทประกันเขาไม่สามารถประเมินได้อย่างเต็มที่ จึงตัดสินใจที่จะไม่เสนอบริการในส่วนนี้ ผมมองไปถึงรัฐมากกว่า ว่าควรจะเป็นผู้ให้บริการในส่วนนี้ครับ จากคุณ : Capo - [ 1 เม.ย. 52 20:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีค่ะ ขออภัยที่ตั้งกระทู้เเล้วไม่ได้เข้ามาซะเกือบสองวัน ช่วงนี้ไม่รู้อะไรนักหนา ยุ๊งยุ่งทุกวันเหมือนคนมีงานทำเลยค่ะ ฮ่า ฮ่า ที่เจโลคิดว่า รัฐบาลน่าจะช่วยเหลือออกระเบียบมาว่า บริษัทประกันชีวิตไม่สามารถปฏิเสธคนพิการทางสมองไม่ให้ทำประกันชีวิตได้ เนื่องจากว่า หากทุกบริษัททำตามๆกันไปหมด คนพิการเหล่านี้ก็จะไม่มีทางมีประกันชีวิตหรือสุขภาพได้เลย เจ็บป่วยหนักเบาแคไหนก็ไม่มีอะไรมารองรับ หรือหากมีแค่ 1-2 บริษัทที่รับ ก็เข้าทางกฏซับพลายดีมานด์ บริษัทนั้นจะตั้งค่าเบี้ยประกันภัยสูงเลือดกระฉูดอย่างไร ลูกค้าก็ไม่มีทางเลือก ข้อที่ว่าอยู่ที่ผู้ปกครองดูเเลดีแค่ไหน มันก็ลำบากค่ะ เด็กพิเศษไม่ได้อยู่เเต่บ้านนี่คะ เด็กเหล่านี้มากกว่าครึ่งต้องไปโรงเรียนเหมือนเด็กอื่นๆ เด็กต้องนั่งรถโรงเรียน หรือไปทัศนศึกษากับเพื่อนๆ ต้องเดินทางโดยพาหนะสาธารณะต่างๆ ต้องออกไปใช้ชีวิตในสังคมเหมือนเด็กอื่นๆ บางครั้งเขาก็เอาชีวิตไปวางไว้ในกำมือคนอื่นเหมือนกัน (เช่นการนั่งรถเมล์หรือรถ รร) ตรงนี้พ่อเเม่ก็อยากให้เด็กมีหลักประกันเท่าเด็กอื่นๆเป็นธรรมดา หากบ.ประกันเห็นว่าคนพิการทางสมองมีความเสี่ยงสูง ก็คิดอัตราค่าเบี้ยประกันตามที่คิดว่าสมควรไปก็ได้นี่คะ แต่ปฏิเสธปิดทางกันเลยนี่ก็ใจดำไป ที่เจโลเห็นว่ารัฐบาลควรช่วยควบคุม เพราะประชาชนจะได้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เช่น หากมีแค่ 1-2 บริษัทที่รับจึงตั้งค่าเบี้ยเเพงอย่างที่ว่าไว้ข้างต้น ดูอย่างแท๊กซี่ไงคะ ยังปฏิเสธลูกค้าไม่ได้เลย หากติดป้ายว่ารับผู้โดยสารแล้ว คนโบกจ้างไปไหนก็ต้องไป หากไม่ไปผู้โดยสารสามารถร้องเรียนได้ ยังไงก็ขอขอบคุณทุก คห ข้างบนที่เข้ามาเเชร์กันนะคะ ยินดีรับฟังทุกกรณีค่ะ  :-) จากคุณ : Jennifer Lowclass - [ 3 เม.ย. 52 08:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 1. ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุที่ไม่มีบริการนี้เป็นเพราะ ผลตอบแทน 2. ความเสี่ยงสูงยังพอทำเนาครับ เพราะว่าคิดเบี้ยได้ แต่...การประเมินความเสี่ยงไม่ได้นี่ล่ะครับ ที่ทำให้คิดเบี้ยไม่ได้ มาตรฐานต่อการปฏิบัติต่อบุคคลกลุ่มนี้เรายังไม่มีครับ ทั้งมาตรฐานทางกฎหมาย และมาตรฐานทางสังคม 3. การแข่งขันหลายราย เกิดยากครับ บริษัทประกันบ้านเราขนาดใหญ่จริง ๆ มีไม่กี่เจ้า ในขณะที่การลงทุนเพื่อสร้างโปรแกรมการประกันใหม่ใช้เงินลงทุนหลายสิบล้านครับ จากคุณ : Capo - [ 3 เม.ย. 52 12:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ประกันชีวิต จะคำนวณเบี้ยประกันจากความเสี่ยงปกติ ของคนปกติ ถ้าคนไม่ปกติแล้วคำนวณยากหรือคำนวณไม่ได้ เขาไม่รับทำดีกว่า ก็เหมือนธุรกิจทั่วไปครับ อะไรที่ทำแล้วเขาควบคุมไม่ได้หรือคิดราคาไม่ได้ เขาไม่ทำดีกว่า ส่วนข้อเสนอของคุณนั้น ผมคิดว่า รัฐบาลควรบังคับไปเลยดีกว่าครับว่าทุกคนต้องทำประกันชีวิต จากคุณ : sirnitfi - [ 3 เม.ย. 52 15:34:13 ]