ความคิดเห็นที่ 1 ปี 2540 เคยพาคุณพ่อไปค่ะ  ราคาสูงค่อนข้างมาก  ถ้าคุณพ่อคุณทานง่าย ก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่  แต่อย่าหวังสูง  เพราะตอนไปเค้าจะโฆษณาให้เรามี ความหวัง  และให้เรารักษาเคมีบำบัดคู่ไปด้วย  ซึ่งมันตอบไม่ได้ว่าเวลาที่ อาการทรงๆมันมาจากบัลวีหรือเคมีบำบัด   ลืมบอกไปว่าคุณพ่อหนูเป็นมะเร็งค่อมลูกหมากแล้วแพร่ไปปอดค่ะ  คุณหมอ ที่พญาไท 2 ให้เวลา 6 เดือน  รักษาที่บัลวีคู่กัน  ท่านอยู่ได้ไม่ถึง 5 เดือนก็ เสียค่ะ จากคุณ : bolton fanclub - [ 4 พ.ค. 52 09:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณ คุณ bolton fanclub มากนะค่ะ และขอถามคุณ bolton fanclub นะค่ะว่า และคุณพ่อคุณได้อยู่ครบคอร์ด หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ จากคุณ : offchamp (offchamp) - [ 4 พ.ค. 52 10:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันเป็นการรักษาจิตครับ ไม่ได้รักษาร่างกายตรงๆ ถ้าสุขภาพจิตดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปให้เสียเงินครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 4 พ.ค. 52 11:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรารักษาแบบธรรมชาติที่บ้านก็ได้นะคะ จริงๆที่นั่นเคยไปถาม ก็จะมี เรื่องอาหาร วิตามิน การออกกำลังกาย พร้อมๆ กับทำจิตใจให้สดชื่น ถ้าสามารถทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องไปก็ได้ค่ะ จากคุณ : Tazza - [ 4 พ.ค. 52 11:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บัลวี มันรักษาจิตใจให้เข้มแข็ง อ่ะครับ กินอาหารให้ถูก(ตามที่เขาบอกมา) เหอๆ เพื่อนที่ทำงานเก่าผม เขาทำเว็บให้บัลวีอ่ะครับ เลยได้ดูข้อมูลนิดๆ หน่อยๆ ครับ จากคุณ : ขวดโหลที่ว่างเปล่า - [ 4 พ.ค. 52 11:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลองวิธี Gerson Therapy ดูมั้ยคะ คุณพ่อลองรักษาอยู่ ไม่ทานโปรตีนทุกชนิด ไข่ นม เต้าหู้ ถั่ว กินไม่ได้หมด กินได้แต่ผัก น้ำคั้นผักรวม แครอท แอ๊ปเปิ้ลคั้น ทุกชั่วโมงตั้งแต่ 8 โมงถึง 1 ทุ่ม เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทานซุปผัก มันฝรั่งนิดหน่อย ต้องทำดีท็อกซ์วันละห้าครั้ง ลองดูนะคะ ต้องมีความหวังค่ะ จากคุณ : lafee - [ 4 พ.ค. 52 11:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ถึงกับหลอกลวง แต่ก็ได้ผลน้อยกว่าคำร่ำลือ คำโฆษณา หรือสิ่งที่คาดดว่าจะได้รับมาก ก็พอจะช่วยทางใจได้บ้างนิดหน่อย จากคุณ : อะธีลาส - [ 4 พ.ค. 52 15:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าพูดตามตรง ก็ เสียเงินเปล่าค่ะ แม่เราลองมาหมด ทั้งบัลวี ครบคอร์สแล้ว กับอันที่คล้าย ๆ สเตมเซลล์อะค่ะ (เซล์ซ่อมเซลล์หรือไงนี่แหละ) อีก 2 ครั้งครบคอร์ส คอร์สแรกพอรับได้ คอร์สหลังแพงมหาโหด แค่ค่าตรวจเลือด กับผสมยาให้ match กันก็ 2 หมื่น 5 แล้ว ค่ายา ค่าพบหมอต่างหาก เป็นครั้ง ๆ ไป ครั้งละหมื่นกว่า(เฉพาะค่ายาฉีด) ถ้านวดให้ยาเดินดีด้วยไม่เคยต่ำกว่า 2 หมื่น ค่ายาทานอีกหลายหมื่น(ต่อครั้ง) ไปวันเว้นวัน ทั้งหมด 2 เดือน ทั้งหมด ไม่ช่วยทางด้านร่างกายเลยค่ะ อาจช่วยได้ทางใจ แต่ไปทีไรเหนื่อยทุกที มันไกลอะ . แก้ตัวเลขค่ะ พอดีไปเปิดดูบ/ชมา น้องเราทำบ/ช คชจ. ทุกอย่างไว้หมด แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 09:09:27 จากคุณ : เดินโซเซ - [ 4 พ.ค. 52 17:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอถามคุณหมอครับ ถ้าบังเอินเข้ามาอ่าน ผมทราบว่า วิธีการทำ สเตมเซลล์ ของโรคทุกชนิด ปัจจุบันยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง   ไม่ว่าประเทศไหนในโลก ยังอยู่ในระดับ ทดลอง อยู่นี่ครับ แต่ทำไมถึงได้ยินแต่เสียงพูดซุบซิบว่า คนนั้นคนนี้ไปทำ สเตมเซลล์ที่ เมกา ค่าใช้จ่ายเป็นล้าน ๆ จากคุณ : ซ่อนรอยยิ้ม - [ 4 พ.ค. 52 20:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถูกหลอกครับ ตอนนี้สเต็มเซลที่ใช้อยู่มีไม่กี่โรคครับ และแต่ละโรคให้ผลมากบ้าง น้อยบ้าง ผลการรักษาโดยรวม ยังไม่น่าพอใจนัก ไม่ถึงขั้นใช้งานจริง ยังอยู่ในการวิจัยเป็นส่วนมาก ถ้าตังค์เหลือใช้หลายล้าน อยากลองทางเลือกแปลกๆ ที่ยังไม่ได้รับการรับรอง ก็แล้วแต่คนครับ จากคุณ : อะธีลาส - [ 4 พ.ค. 52 20:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รู้จัก บัลวี ค่ะ เพราะเคยพาน้า ที่ป่วย ไปที่นี่ น้าเป็นระยะ ที่ 3 ค่ะ ก่อนที่จะไปบัลวี ก็ ทำการ ฉายแสง  พอมีคนบอกว่าที่ บัลวี ใช้วิธีธรรมชาติบำบัด ก็ เลยคิดว่า น่าจะ ลองไปดู เพื่ออะไรจะดีขึ้นบ้าง น้าซื้อ คอร์ทเหมือนกัน ค่ะ ประมาณ 10 วัน ราคาก็ หลายหมื่น อยู่ และระหว่างคอร์ท ก็จะมีการบอกให้ ทำคอร์ท โน้น คอร์ท นี้ อีกมากมาย ค่ะ ด้วยความที่คนเรามีความหวังนะค่ะว่าจะหาย ก็ ซื้อๆๆๆๆ หมดไป ก็อีก หลายหมื่น แต่ หลังจากทุกคอร์ท เสร็จ ก็เหมือนจะช่วยด้านจิตใจอย่างเดียว    ตอนที่ไปบัลวีกับน้าที่นี่ ดูเหมือนว่าเค้าจะพูดให้เรารีบเปิดคอร์ท โดยที่ไม่ให้เวลาเราไปนั่งคิดก่อนเลย ทั้งๆที่ คอร์ทก็ เปิด ทุกๆๆ เดือน ตอนนี้ น้าดูมีความสุขมากขึ้นค่ะเพราะไม่ต้องคอยคิดว่าจะหาตังค์ที่ไหนมารักษา  เพราะตอนนี้เข้าวัดฝึกสมาธิ ไม่ต้องใช้เงินมากมายแถมสบายใจด้วยค่ะ  ความรุ้สึกเหมือนกับคุณ เดินโซเซ เลยค่ะ เวลาไปที่บัลวี เหนือยมากทั้งระยะทาง และกระเป๋าฉีก กลับบ้านด้วยแต่ละวัน จากคุณ : น้องความหวัง (\\หมาน้อย_แมมมอธ//) - [ วันฉัตรมงคล 19:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เล่าเรื่องจริงจากประสบการณ์ของตัวเองครับ คุณแม่ผมป่วยเป็นมะเร็งลำไส้เมื่อสามปีก่อน หมอที่บำรุงราษฎร์บอกว่า เป็นเนื้อร้ายประเภทที่ 2 จาก 4 ประเภท คือความร้ายแรงของเนื้อร้ายจัดอยู่ในระดับกลาง และเป็นมะเร็งระยะที่ 3 จาก 4 ระยะ คือมาไกลแทบจะสายเกินแล้ว หมอได้ทำการผ่าตัดลำไส้ออกไปส่วนหนึ่ง และก็บอกว่า มีส่วนอื่นๆที่แพร่กระจายออกไปเล็กมา น่าจะมีในส่วนต่อมน้ำเหลืองบ้างแล้ว หมอขอคุยกับครอบครัวเรา ขอบอกตรงๆกับเราว่า คุณแม่เหลือเวลาได้อีกประมาณ 6 เดือน ถ้าแข็งแรงก็น่าจะได้ถึง 1 ปี จากนั้นเราก็ตั้งสติปรึกษากันว่า จะสู้ให้ถึงที่สุด สุดความสามารถเพื่อให้แม่ชนะมันให้ได้ แล้วก็หาทางค่อยๆบอกแม่ให้ไม่ตกใจ แต่กระตุ้นกำลังใจให้แม่ฮึดขึ้นมาสู้ด้วยกัน แม่บอกว่า.... ให้ฉันสู้ ฉันสู้เต็มที่ แต่ขออย่างเดียว ฉันไม่ใช้คีโม..... ถ้าฉันจะต้องตาย ขอให้ฉันได้ตายอย่างสงบ ไม่ใช่ทรมานด้วยฤทธิ์ หรือผลข้างเคียงของคีโม เพราะเพื่อนและญาติของแม่เป็นมะเร็งรวม 12 คน ตายซะ 11 เพราะคีโม และทุกคนทรมานมากตอนตาย แม่เลยไม่ขอเป็นอีกคนหนึ่ง ไปเป็นแบบนั้นกับเขาด้วย.... ส่วนหมอก็บอกว่าไม่ได้นะ ถ้าไม่เริ่มคอร์สคีโม มันยิ่งจะแย่ลงไปอย่างรวดเร็ว เราก็บอกว่า แม่กับเราเลือกแล้ว ที่จะขอเดินในทางการแพทย์ทางเลือกอื่นๆ โดยไม่ใช้วิธีคีโม จากนั้นเราศึกษาสารพัดข้อมูลและตัดสินใจว่า เราจะเริ่มต้นที่คอร์สของบัลวี แล้วเราก็พาแม่ไปเลือกวิธีธรรมชาติบำบัด และใช้วิตามิน C Hidose ประกอบ ผ่านไปสักระยะ ผลการตรวจเลือดของแม่ทุก 15 และ 30 วัน ค่าบ่งชี้มะเร็งต่างๆลดลง จนเกือบเท่าคนอื่นๆที่ปกติ เหมือนบุญและพระช่วย แม่มีโอกาสได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ให้ติดต่อคุณหมอท่านหนึ่ง ที่ท่านไม่ใช้วิธีคีโมเช่นกัน ท่าน retire อยู่บ้านแล้ว และไม่รับคนไข้อีก แต่ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็พาแม่ไปถึงบ้าน ขอให้ช่วยแม่สักคนเถิด แต่ท่านก็กำชับว่า ถ้ารักษาจนหายแล้ว อย่าไปบอกใครอีกเลยนะ ท่านเหนื่อยมามากแล้ว ขอพักในบั้นปลายชีวิตเถิด ถ้าบอกต่อๆกันไปอีก ท่านก็จะยิ่งต้องทำงานหนักกว่าเดิม ท่านไม่มีกำลังแล้ว แล้วท่านก็รับที่จะช่วย จัดยา และ ใช้วิธีหลักการ Vit C Hidose ประกอบ แม่ก็เลิกคอร์สบัลวี มารักษากับคุณหมอท่านเดียว ฝากชีวิตและความหวังทั้งหมดไว้กับท่าน ใช้เวลารักษาต่อเนื่องอยุ่ 3 เดือน ตรวจเลือดแล้ว ค่าบ่งชี้ทางมะเร็งต่างๆ เข้าสู่ระดับคนปกติทั่วไป และหลังจากนั้นก็เป็นปกติต่อเนื่องมาจนบัดนี้ ผ่านมา 3 ปีแล้ว แต่สิ่งที่แม่ต้องทำคือเปลี่ยนชีวิตใหม่หมด คุมอาหารการกิน กินน้ำผัก และผลไม้ต่างๆตามที่คุณหมอแนะนำ และกินทุกวัน อะไรที่หมอบอกให้กินได้แต่น้อย เช่นเนื้อสัตว์บางประเภท กินได้ถ้าอยากกินจริงๆ แต่แค่นิดเดียว ก็ต้องเชื่อฟัง แต่ก็กินอะไรได้ไม่มากอยู่ดี เพราะลำไส้สั้นลง กระเพาะเล็กลง จากการที่ผ่านการผ่าตัดมาตอนนั้น จากวันนั้น ที่แม่เหลือเวลาอีกแค่ 6 เดือนตามที่หมอบอก จนวันนี้แม่ของเรากลับมาเป็นปกติแล้ว และยังจะอยู่เป็นพระของเราอีกนานจนกว่าจะถึงอายุขัยของท่าน อยากเล่าเพียงว่า บัลวีเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของแม่ แต่ต้องขออภัยจริงๆ ที่เราผิดสัญญากับคุณหมอท่านนี้ไม่ได้ ที่รับปากท่านไว้ว่า จะไม่บอกใครต่อไป ทั้งๆที่อยากจะบอกเพื่อช่วยเหลือคนอื่นต่อไปอีก คงบอกได้แค่แนวทางว่า ท่านใช้แนวทางใดในการรักษาแม่จนหายขาดครับ อย่างน้อยก็น่าจะเป็นแนวทางได้ ว่าคุณอยากจะเลือกเดินในแนวทางไหนต่อไปนะครับ ขอให้คุณพ่อหายจากโรคร้ายนี้โดยเร็ว และได้พ่อพระกลับมาสู่ครอบครัวคุณ เหมือนที่ครอบครัวเรา ได้แม่พระของเรากลับมาครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 20:06:25 จากคุณ : XOOMER - [ วันฉัตรมงคล 20:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กระทู้ลุง XOOMER อันนี้ ประทับใจจริงจริงครับ แม้จะต้องรักษาความลับของคุณหมอที่รักษาคุณแม่ไว้ แต่ก็เป็นกระทู้ที่ให้กำลังใจคนเป็นมะเร็ง และคนที่อาจจะเป็นมะเร็ง ได้ทราบอะไรดีดีไว้ล่วงหน้า ขออนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : xebec - [ วันฉัตรมงคล 22:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ............... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 6 พ.ค. 52 00:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มีเพื่อนรักมาก เป็นมะเร็งที่หน้าอก คุณหมอให้ผ่าทันที ด้วยความตกใจและไม่มีเวลาคิด เพื่อนเข้าผ่าวันรุ่งขึ้น ผ่านมาหลายปี แผลในใจยังไม่หาย จากแผลในใจเพื่อนรักเลยศึกษาการรักษาตัว ทางธรรมชาติอย่างเอาจริงเอาจัง แนวทาง Macro Biotic (ไม่ใช่ชีวจิตของคุณหมอสาธิตนะคะ) ถึงวันนี้ผ่านมากว่า 5 ปีแล้ว กลับไปตรวจร่างกาย ก็ไม่พบมะเร็งค่ะ จากความรู้ที่ศึกษามา เพื่อนจัด course เล็ก ๆ แนะแนวการปฏิบัติตัว กับผู้ป่วยและญาติที่ดูแลผู้ป่วย เพราะนึกถึงตัวเอง ตอนที่วนเวียนอยู่กับการหาความรู้ และทางออกให้ชีวิต เหมือนที่ลุง XOOMER บอกค่ะ เพื่อนรักเปลี่บนวิถีการดำรงชีวิต ทั้งอาหารการกิน การออกกำลัง การนอนและเครื่องแต่งตัว เพื่อน ๆ ก็โดนหางเลขไปด้วย แต่ชอบนะ เกือบลืม เพื่อนหันมาศึกษาทางนี้ เพราะไม่้ต้องการให้คีโมเหมือนกัน ไม่ได้แปลว่า ถ้ารักษาทางนี้แล้ว จะดีแบบนี้ทุกคนนะคะ แต่อย่างน้อย ในช่วงที่ดำเนินชีวิตต่อไป ก็เป็นชีวิตที่มีคุณภาพค่ะ กำลังใจก็เป็นของสำคัญค่ะ ทั้ตัวคนป่วยและู้ผู้ใกล้ชิด จากคุณ : scuba734 - [ 6 พ.ค. 52 05:59:56 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โดยส่วนตัวเท่าที่อ่านๆมา ค่อยข้างนิยม ดร.สาธิต นะ เพราะแนวทางแก เรียบง่ายดูเป็นธรรมชาติดี และก็ไม่แพงจนเวอร์ เหมือนเจ้าอื่นเขา ความจริงจะเป็นโรคอะไรก็แล้วแต่ หากผุ้ป่วยครองสติได้ดี มีจิตใจเข้มแข็ง แค่นี้โรคอะไรๆ ก็พอจะมีทางรักษาได้ พลังแห่งจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการต่อสู้โรคร้าย แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 18:15:37 จากคุณ : ผ่านมา (เดินดงพงไพร) - [ 6 พ.ค. 52 18:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แนะนำหาอาหารเสริมตามธรรมชาติทานเองให้เป็นประจำดีกว่าครับ แม่เพื่อนเคยไป แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ค่าใช้จ่ายแพงมาก จากคุณ : ฮิคารุจูจุ๊ - [ 7 พ.ค. 52 14:45:37 A:203.154.146.7 X: TicketID:215118 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ XOOMER ครับถ้าจะกรุณาช่วยบอกที่อยู่คุณหมอที่รักษาหน่อยได้ไหมครับ เพราะตอนนี้แม่ผมก็เป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้ายอยู่เหมือนกัน จากคุณ : B - [ 7 พ.ค. 52 16:22:17 A:203.155.40.6 X: TicketID:215142 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ู^ ^ ทิ้งอิเมวไว้นะครับ ไม่มีอมยิ้มผมติดต่อคุณไม่ได้ ต้องขอไปถามท่านก่อนว่าท่านรับคนไข้เพิ่มอีกไหม ตามที่เราได้สัญญากับท่านไว้ว่าจะไม่บอกใครอีก ถ้ามีอิเมวผมกลับไป แสดงว่าท่านรับให้ครับ ถ้าไม่มีก็ขอให้เข้าใจกันว่า ท่านขอพักจริงๆแล้วล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 52 06:30:46 จากคุณ : XOOMER - [ วันวิสาขบูชา 06:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พอดีตามคุณ xoomer มา ก็เลยขอแจมนิดหนึ่ง จากประสบการณ์ที่เคยช่วยเฝ้าไข้ดูแลคนป่วยมะเร็งที่เป็นเพื่อนคุณนายแม่มา 2 - 3 คน ได้ข้อสรุปมาว่า ถ้าจะรักษาทางใดแล้ว ให้มุ่งมั่นกับเส้นทางที่เลือกแล้ว อย่าล้มเลิกกลางคัน เพื่อนคุณนายแม่บางคนเลือกรักษาด้วยวิถีธรรมชาติ บางคนเลือกใช้คีโม แต่คนที่อยู่รอดจนถึงทุกวันนี้ มีทั้งทีใช้คีโมและวิถีธรรมชาติ แต่ที่สำคัญคือ เป็นคนที่ยืนหยัดกับเส้นทางที่เลือกแล้ว ไม่ใช่วันนี้ฉันทำคีโม พอ 2-3 หนเริ่มไม่ไหวแล้วไม่เอาแล้วเปลี่ยนใจ ผลคือ คีโมทำให้ร่างกายอ่อนแอลงไปมากจนวิถีธรรมชาติพลิกฟื้นให้ไม่ไหว มะเร็งก็เลยกลับมาแข็งแรงยึดครองร่างกายได้สำเร็จ หรือบางคนเลือกวิถีธรรมชาติแต่มั่นใจบ้างไม่มั่นใจบ้าง เบื่อๆอยากๆ แต่เรื่องอาหารการกินสำคัญมากนะ อาหารแบบวิถีธรรมชาติช่วยได้เยอะ คนที่รักษาด้วยคีโมก็ควรบำรุงร่างกายด้วยอาหารวิถีนี้เช่นกัน อย่างน้อยมันก็ทำให้ตัวเบา ไม่อึดอัด ไม่มีปัญหาในการย่อยการขับถ่าย อารมณ์ก็จะดีขึ้น สุขภาพจิตดีร่างกายก็ดีด้วย ความมุ่งมั่นและจริงจังเป็นสิ่งสำคัญมาก กำลังใจผู้ป่วยต้องเต็มเปี่ยม คนรอบข้างต้องจับมือไว้พร้อมเผชิญร่วมกันทุกสถานการณ์ สู้ๆ นะ คุณต้องไม่ท้อ ถ้าคุณล้มคนป่วยล้มด้วย จำไว้ สู้ๆ หน้ากากเสือ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 52 23:48:22 จากคุณ : เสียงลมหนาว - [ 9 พ.ค. 52 23:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอรบกวน คุณ xoomer เรื่องการดูแลผู้ป่วยมะเร็งครับ ตอนนี้แม่ผมเป็นมะเร็งตับ หมอบอกให้ทำใจ รบกวนด้วยนะครับ จากคุณ : tumiya_k@hotmail.com - [ 22 พ.ค. 52 13:08:01 A:118.172.61.113 X: TicketID:217185 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แม่ผมก็ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ เพิ่งผ่าตัดเสร็จ แต่หมอบอกว่าลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้ว ขอรบกวน คุณ xoomer ด้วยครับ wule@hotmail.com จากคุณ : Oud - [ 27 พ.ค. 52 14:31:30 A:58.64.90.106 X: TicketID:155514 ]