ความคิดเห็นที่ 1 ข้อมูลข้างล่าง คัดลอกมาจาก http://www.bangkokhealth.com/consult_htdoc/Question.asp?GID=21761 ซึ่ง link มันตายไปนานแล้วครับ การหลั่งเหงื่อ ถือว่าเป็นภาวะปกติของร่างกายที่จำเป็นเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย โดยกลไกการหลั่งเหงื่อจะส่งผ่านปลายประสาท ของระบบประสาทอัตโนมัติ ที่เรียกว่า Sympathetic nervous system แต่ในบางคนประมาณ 1 % จะพบว่าระบบการหลั่งเหงื่อดังกล่าว ทำงานมากกว่าปกติ และเกินความจำเป็นในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ภาวะนี้เราจะเรียกว่า Hyperhidrosis ซึ่งบริเวณที่พบเหงื่อออกมากกว่าปกติ ได้บ่อยๆ คือ บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ (พบบ่อยสุด) ใบหน้า ลำตัว สาเหตุของภาวะ hyperhidrosis แบ่งได้เป็น 1. Primary cause มักไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง และพบได้บ่อย แต่มักเกิดเพียงไม่กี่แห่งในร่างกาย เช่น ที่ฝ่ามือ รักแร้ ฝ่าเท้า โดยจะเริ่มมีอาการตั้งแต่วัยรุ่น และมักไม่หายขาดจนเข้าสู่วัยชรา และพบว่าเมื่อมีภาวะวิตกกังวล หรือ ตื่นเต้น เหงื่อจะยิ่งออกมากขึ้น 2. Secondary cause มักเกิดจากการมีสาเหตุของโรคอยู่ เช่น โรคทางต่อมไร้ท่อ ( endocrine disease) เช่น ภาวะทัยรอยด์เป็นพิษ โรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า หรือ โรควิตกกังวล ภาวะใกล้หมดประจำเดือน การรักษา 1. กรณีที่ทราบสาเหตุ ( secondary cause) แก้ไขที่สาเหตุค่ะ 2. กรณีที่ไม่ทราบสาเหตุ( primary cause) มักทำการรักษาได้ยาก แต่พอมีแนวทางแก้ไขได้ดีขึ้น ดังนี้ - การใช้สารป้องกันเหงื่อ ( antiperspirants) ที่ใช้ได้ดี คือ 20-25 % Aluminium chloride in 70 % alcohol แต่มักได้ผลในกรณีที่เป็นไม่มาก และต้องใช้บ่อยๆ - การทำ ไอออนโตโฟรเรซิส มักทำบริเวณฝ่ามือ แต่ต้องทำบ่อยๆ แต่ไม่เป็นที่นิยม เพราะไม่สะดวกในการต้องไปทำอยู่เรื่อยๆ - การใช้ยาจำพวก ยากล่อมประสาท แก้วิตกกังวล อาจได้ผลบ้าง แต่ไม่ดีนัก หรือ การใช้ยากลุ่ม Atropine ก็มักเกิดผลข้างเคียง ทำให้ปาก คอแห้ง จึงไม่เป็นที่นิยมเช่นกัน - ในปัจจุบัน ได้มีการนำ สาร botox ( ที่ใช้รักษารอยย่น ริ้วรอย ที่ได้นำเสนอไปก่อนแล้ว) มาทำการแก้ไขและรักษาภาวะ hyperhidrosis เพราะเชื่อว่า ผลของการที่สารbotox สามารถยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท Acethylcholine นอกจากจะทำให้กล้ามเนื้อคล้ายเป็นอัมพาตชั่วคราวแล้ว ยังทำให้ต่อมเหงื่อบริเวณดังกล่าวทำงานได้ช้าลงด้วย เหงื่อจึงลดลง มักได้ผล ในการฉีดสารนี้ที่บริเวณ รักแร้ ฝ่ามือ และลดปัญหาดังกล่าวได้นาน 6-12 เดือน และต้องมาฉีดซ้ำค่ะ การป้องกัน 1. การที่เหงื่อออกมากและมีกลิ่นตัวง่าย น่าจะลองใช้ลูกกลิ้งช่วย เลือกใส่เสื้อผ้าที่บาง เบา พกพัดเล็กๆไว้ใช้ ควรใช้แป้งฝุ่นโรยเท้าที่มีตัวยาฆ่าเชื้อเพื่อให้ดูดซับความชื้น การใช้แป้งโรยทุกวันสามารถควบคุมกลิ่นอับ และความชื้นที่เกิดจากเหงื่ออกกมากเกินไป 2. ใช้รองเท้าหนัง หรือรองเท้าผ้าใบ ถ้าเป็นไปได้ควรใช้รองเท้าสาน 3. ใช้ถุงเท้าผ้าฝ้ายสีขาวและเปลี่ยน บ่อยๆเมื่อถึงเวลา 4. สำหรับการรักษาในกรณีที่เป็นมากๆ อาจมีการ แนะนำเรื่องการผ่าตัด แต่การที่สมควรจะทำการผ่าตัดที่คุณถามนั้นควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากการผ่าตัดอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อและทำให้ผิวหนังขาดความรู้สึกได้ ในรายที่พบแพทย์แล้วได้ยาแล้วยังไม่ดีขึ้น และจำเป็นมากๆ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะต้องรักษาโดยวิธีใดต่อค่ะ จากคุณ : [win] - [ 19 มิ.ย. 52 18:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แหะๆ ของผมนะ ออฟฟิศเปิดแอร์ พื้นเป็นแกรนิต อีกออฟฟิศเป็นหินอ่อน พอร้อนผมก็ถอดเสื้อนอนนาบกะพื้นเลย พักเดียวพื้นตรงที่นอนร้อนซะงั้น ไม่รู้มันจะร้อนอะไรนักหนา จากคุณ : ขยะสังคม - [ 19 มิ.ย. 52 23:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอาลิ้งค์ที่หมอจรัสพล เขียนในเวบไซต์มาให้อ่านกัน เรื่องนี้นะคะ      http://www.clinicneo.co.th/2007/detailcolumn.php?grp=9&sdata=hyperhidrosis&col_id=7 จากคุณ : grand339 - [ 20 มิ.ย. 52 11:21:27 ]