ความคิดเห็นที่ 1 เป็นผู้หญิงอายุมากกว่า 21 ปีขึ้นไปค่ะ ไม่เคยคิดที่จะไปตรวจเลยจริงๆ เพราะว่าไม่กล้า กลัว กลัวการตรวจภายใน อายหมอด้วย และไม่มีญาติเคยเป็น เลยคิดว่าน่าจะมีความเสี่ยงน้อย ขอไม่ตรวจนะคะ จากคุณ : EyeContact - [ 22 มิ.ย. 52 15:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขออนุญาตเสริม ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกนะครับ มะเร็งปากมดลูก เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Cervical cancer ครับ สาเหตุ  -  ปัจจุบันเชื่อว่าเกิดจาก Virus HPV ครับ ซึ่งมีอยู่หลายสายพันธุ์               แต่สายพันธุ์ ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด คือ                  สายพันธุ์ 16 และ 18 ครับ ปัจจัยเสี่ยง -  1. มี Sex เมื่ออายุยังน้อย                    2. มี คู่นอน หลายคน                    3. มีบุตรตั้งแต่อายุยังน้อย หรือ มีบุตรหลายคน                    4. สูบบุหรี่                    5. ฝ่ายชายไม่ได้ขลิบ หรือ ฝ่ายชายนอนกับผู้หญิงหลายคน                        โดยเฉพาะหญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูก                                 และ อื่น ๆ ครับ เช่น เชื้อชาติ อายุ อาการ - ระยะแรก ๆ อาจจะไม่พบอาการอะไร อาจมีตกขาวมากขึ้น             หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 52 16:16:30 จากคุณ : Little Brother - [ 22 มิ.ย. 52 15:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Pap smear  คือ  การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก        เป็นการตรวจ ปากมดลูก โดยเอาเนื้อเยื่อไปตรวจดู เซลล์    เป้าหมาย คือเซลล์ที่ผิดปกติ ก่อนจะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ครับ          โดยปกติแล้วจะมีระยะ ที่เซลล์เริ่มผิดปกติ แต่ยังไม่เป็นมะเร็ง     ก็จะทำให้มีเซลล์ผิดปกติหลุดลอกออกมาจากปากมดลุก     ซึ่งจะตรวจพบได้จากการทำ Pap smear นี่เองครับ         ซึ่งถ้าพบความผิดปกติ ก็จะได้ส่งตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม   เพื่อยืนยัน ว่าอยู่ในระยะใด เพื่อทำการรักษาที่ถูกต้องต่อไป         หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ  โอกาสที่จะหายก็จะยิ่งสูงขึ้นครับ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 52 16:18:09 จากคุณ : Little Brother - [ 22 มิ.ย. 52 16:01:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมคิดว่าเหตุผลของทุกคน ก็คงไม่ต่างไปจากคำถามที่ว่า ทำไมไม่ไปตรวจสุขภาพกันทุกปี ในกรณีของคนที่บริษัทไม่ได้มีการจัดตรวจสุขภาพฟรีนะครับ จากคุณ : แอคโชนบริเค - [ 22 มิ.ย. 52 16:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 1. อายค่ะ "ยังไม่เคย มี พสพ. เลยอายมากๆ" 2. กลัวเจ็บเพราะ เหตุผลข้างบน ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่เคยศึกษามาเค้าบอกว่าผู้หญิงที่ยังไม่มี พสพ. มีเปอร์เซนต์น้อยที่จะเป็น "ไม่ชัวร์เท่าไหร่" แต่ถึงยังไงก็ยังไม่อยากไปค่ะ "กลัวมาก" จากคุณ : น้ำค้างปลายข้าว - [ 22 มิ.ย. 52 16:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Pap smear  (ต่อ)        แนะนำให้ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ตรวจ Pap smear ทุกปีครับ หากไม่เคยมีมาก่อน ในหญิงไทยแนะนำว่า อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรไปตรวจทุกปีครับ (ในอเมริกา แนะนำให้ตรวจตั้งแต่อายุ 21 ปีครับ แม้ว่าจะไม่มีเพสสัมพันธ์มาก่อน)        ถ้าหากว่า ตรวจไปสักสามปี แล้วไม่พบว่ามีอะไร ก็อาจจะตรวจห่างขึ้นเป็นทุก 3 ปีครับ ความแม่นยำของ Pap smear          ถ้าหากว่าตรวจพบว่าผล Pap smear ปกติ   ก็ขอให้อย่าเพิ่งมั่นใจว่าไม่เป็นอะไร เพราะบางครั้งผลก็ผิดพลาดได้ครับ ประมาณ 20 %         แต่ถ้าตรวจพบความผิดปกติแล้ว มักจะไม่ค่อยพลาดเลยครับ ต้องได้รับการตรวจยืนยันผลอื่น ๆ เช่น ส่องกล้อง หรือ ตัดปากมดลูกไปตรวจครับ สรุปก็คือ   Pap smear ไม่ได้ช่วยป้องกันการเป็นมะเร็งปากมดลูก แต่จะทำให้ตรวจพบได้ในระยะแรก ๆ ซึ่งทำให้โอกาสในการรักษาหายสูงครับ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 52 16:20:45 จากคุณ : Little Brother - [ 22 มิ.ย. 52 16:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความรู้อื่น ๆ ครับ 1. ประเทศที่ผู้หญิงไปตรวจ Pap smear กันเยอะ ๆ จะช่วยลด การเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกได้ดี อย่างชัดเจนเลยครับ 2. ถุงยางอนามัย ไม่ได้ช่วยป้องกันไวรัส HPV ครับ เพราะฉะนั้น รักเดียว ใจเดียวกันดีกว่า 3. แม้ว่าจะฉีด Vaccine HPV แล้ว ก็ยังต้องไปตรวจ pap smear อยู่ดีครับ เพราะว่า Vaccine ไม่ได้ป้องกัน 100 % จากคุณ : Little Brother - [ 22 มิ.ย. 52 16:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นอะไรที่น่าตรวจมาก ผมยังไล่ให้แฟนไปตรวจเลย จากคุณ : scozember - [ 22 มิ.ย. 52 17:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่มีปัจจัยเสี่ยงค่ะ เลยยังไม่ไปตรวจ แต่ก็คิดว่าจะไปตรวจ เพราะชราแล้ว ^^' จากคุณ : หมีน้อยเทวดา - [ 22 มิ.ย. 52 17:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อก่อนไม่กล้าไปตรวจ เพราะอายหมอ แล้วก็กลัวเจ็บค่ะ แต่ตอนนี้ กลัวตายมากกว่าอายหมอ คะ จากคุณ : มู๋แก้มยุ้ย - [ 22 มิ.ย. 52 18:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คห.7 ข้อสอง ที่ว่าใช้ถุงป้องกัน hpvไม่ได้ แล้วจริงๆติดเชื้อนี้มาจากทางไหนได้บ้างคะ จากคุณ : chobchingchai - [ 22 มิ.ย. 52 21:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยังซิง แต่ไปตรวจแล้วค่ะ เพราะปจดผิดปกติ แรกๆก็อาย แต่กลัวตายมากกว่า ตรวจแล้วสบายใจมากๆ ไม่มีอะไรร้ายแรง คำตอบเรา ไม่เข้าข่ายของจขกท ไม่ตอบนะคะ เราตรวจที่ตปทค่ะ หมอผู้หญิง ใจดี มือนิ่มด้วย จากคุณ : amitambien - [ 22 มิ.ย. 52 21:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอบ คห. 11 ็HPV ก็เป็นไวรัสที่พบได้ทั่วไปตามสิ่งแวดล้อมครับ โดยมักพบตามร่างกายมนุษย์ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ติดไวรัสตัวนี้อยุ่แล้วครับ แต่หายได้เอง เพราะถุงยางอนามัยป้องกันแค่การสัมผัสจากอวัยวะเพศชาย ส่วนที่ใช้งานเท่านั้นครับ ยังมีส่วนอื่น ๆ ที่สัมผัสกับอวัยวะเพศหญิงด้วยจริงไหมครับ อาจารย์แพทย์ ท่านหนึ่งเคยบอกผมว่า หากจะป้องกัน HPV น่าจะต้องใส่ถุงยางแบบครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเลยทีเดียวครับ ถึงจะปลอดภัย เหอ ๆๆ ซึ่งเจ้า HPV มีสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่่มีความเสี่ยงสูงหน่อย หากไปอยู่ตรง อวัยวะเพศของคุณผู้หญิงแล้ว ก็อาจจะมีโอกาสทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ ของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น และมีโอกาสเกิดเป็นมะเร็งได้ แต่ก็ขึ้นกับปัจจัยของแต่ละคนด้วยครับ ระบบภูมิคุ้มกันดี ปริมาณเชื้อไม่ได้มากพอ ไม่ได้รับเชื้อบ่อย ๆ ติดแล้วก็หายได้   แต่ใครจะมั่นใจได้ล่ะครับ ? เพราะฉะนั้น จึงควรไปตรวจ Pap smear กันไงล่ะครับ ** ขอความกรุณาโหวตกระทู้ให้หน่อย จะเป็นพระคุณมาก ๆ ครับ ** จากคุณ : Little Brother - [ 22 มิ.ย. 52 22:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไปตรวจทุกปีค่ะ และตอนนี้หมอแนะนำให้ฉีดวัคซีนทั้งที่อายุเกิน 40 แล้ว และก็ตัดสินใจฉีดแล้วค่ะ คิดว่าอีก 3 ปีค่อยไปตรวจอีกที ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีภาวะเสี่ยงอะไรเลย จากคุณ : rutesala - [ 22 มิ.ย. 52 22:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 รักเดียวใจเดียว รักษาความสะอาด ฝ่ายชายก็ต้องรักเดียวใจเดียวด้วย น๋า... เราเองก็กลัวอิอิ จากคุณ : บี - [ 22 มิ.ย. 52 23:51:30 A:10.5.50.62 X:192.168.10.100, 124.122.152.112 TicketID:214628 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อายหมอ  อีกอย่าง ยังไม่เคยมี พสพ จากคุณ : SuPerHyPerOverUltraGLUE - [ 23 มิ.ย. 52 00:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราว่าตอบง่ายมาก คือ ญ ส่วนมากอายหมอ ขนาดผู้ชายยังอายหมอเลย จริงๆเราว่าผู้ชายกลัวการหาหมอมากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ! จากคุณ : GetCha - [ 23 มิ.ย. 52 01:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กลัว กลัวการตรวจ กลัวตรวจแล้วเจอ กลัวโฆษณานั้นมาก กลัว กลัว กลัว กลัวไปหมดเลย เจรง ๆ >_< จากคุณ : ริมขอบฟ้า - [ 23 มิ.ย. 52 01:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอลอกคำตอบ คห18 หน่อยเหอะค่ะ คิดเหมือนกันเลย >,< จากคุณ : *คุณวรมัน* - [ 23 มิ.ย. 52 10:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนอายุ 25 เคยปวดท้องมาก แล้วก็ปวดต่ำ ไปตรวจหมอทั่วไปบอกให้ไปลองตรวจภายในดู ก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ก็ไปหาหมออีกร.พ.หนึ่ง ขอตรวจภายใน พยาบาลถามว่า มีแฟนหรือยัง ก็ตอบว่ายัง เขาก็ไม่รับตรวจภายใน กลับมาด้วยความเจ็บใจ ทำไมไม่มีแฟนแล้วตรวจไม่ได้ ก็ไปอีกร.พ.หนึ่งเพื่อตรวจภายใน หมอบอก สาวโสดก็ตรวจได้ ก็ขึ้นเตียง ขึ้นขาหยั่งให้หมอตรวจ หมอเอาเครื่องมือ อะไรไม่รู้ ไม่เห็นขนาดนะ เข้าไปตรวจถึงมดลูกเลย กดข้างซ้ายเจ็บมั๊ย กดข้างขวาเจ็บมั๊ย ตรงที่หมอกดน่ะไม่เจ็บ แต่ว่ามันเจ็บที่เครื่องมือหมอที่สอดเข้ามาต่างหาก ตรวจเสร็จ หมอบอกไม่เป็นอะไร อาจจะติดเชื้อ เลยทำให้ปวดท้อง ก็ให้ยากลับมาทาน แต่ออกจากห้องตรวจมา นั่งไม่ได้เลย เจ็บมาก กลับไปบ้าน ต้องไปนอนเลยพักเลยนะ เจ็บอย่างกับโดนเครื่องมือแพทย์ข่มขืน  มิน่า เขาถึงห้ามคนที่ยังไม่เคยมีอะไรตรวจ นอน3-4 ชม. กว่าจะหายเจ็บ เดินได้ นั่งได้  หลังจากนั้น เข็ดเลย กลัวด้วย ปวดท้องก็ไม่ตรวจแล้ว เพื่อนจะไปตรวจ กลัวมาก มาเล่าให้ฟัง ตอนแรกกลัว แต่ไปตรวจแล้วไม่เจ็บเลย ฟังเพื่อนพูดยังไง ให้ไปตรวจอีกก็ไม่อยากไปตรวจ เจ็บจนเข็ดเลย จนเลย 35 ถึงวัยที่ควรจะไปตรวจแล้ว ถึงมีแฟนแล้ว ก็คิดหนัก คิดแล้วคิดอีก ทำใจอยู่นานกว่าจะกล้าไปตรวจอีกรอบ คราวนี้ตรวจแค่ปากมดลูก ไม่รู้สึกเจ็บ ทำให้สบายใจ หายกลัวแล้ว ผลออกมาก็ไม่เป็นอะไร แต่ประสบการณ์ครั้งแรก มันไม่ประทับใจจริงๆ ทำให้เข็ดและกลัวการตรวจภายใน เป็นสิบปีเลยนะ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. - [ 23 มิ.ย. 52 10:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อายหมอค่ะ ไม่รู้ทำไม ชอบคิดว่าถ้าเปิดผ้ามาแล้วของเราผิดปกติแบบว่าไม่เหมือนชาวบ้านนี่หมอคงฮากันครื้นเครง '- - แล้วก็ไม่มีอาการผิดปกติและ/หรือปัจจัยเสี่ยงด้วย เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปค่ะ จากคุณ : atihasita - [ 23 มิ.ย. 52 16:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอถามนิดนะคะ ว่าโรคนี้ ระยะเวลาของโรค.. (เอ.. เค้าเรียกว่าอะไรหว่า) คือ ระยะ 1 2 3 4 นี่มันเร็วแค่ไหนค่ะ ถ้าเป็นระยะ 1 แล้วอีกนานไหม ที่จะพัฒนาเป็นระยะสุดท้าย ..   คือเคยแอบคิดว่า ถ้าเราตรวจแล้วไม่เป็น ปรากฏว่าอีก 1 เดือนได้รับเชื้อมา ที่นี้กว่าจะตรวจอีกทีก็ 1 ปี .. มันจะทันไหมนะ..  T^T จากคุณ : Regulas - [ 23 มิ.ย. 52 17:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คุณ Regulas นะครับ ระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก จะเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งได้ ใช้เวลา ประมาณ 5 - 15 ปี ครับ ซึ่งในระยะก่อนเป็นมะเร็งนี้ สามารถตรวจพบด้วยวิธี Pap smear โดยให้คุณหมอตรวจภายในนั่นเอง   แต่อาจจะตรวจไม่พบก็ได้นะครับ ยิ่งตรวจถี่ โอกาสพบก็มากขึ้น จริง ๆ แล้วอยากแนะนำให้ตรวจทุก 6 เดือนครับ เพราะบางคนที่โชคร้ายหน่อย ตรวจในระยะก่อนเป็นมะเร็งไม่เจอเลย เนื่องจากตรวจไม่ถี่ มาตรวจเจออีกทีเป็นมะเร็งซะแล้ว ก็จะต้องรักษายากขึ้นไปเอง ไหนจะฉายแสง ให้เคมีบำบัด สำหรับมะเร็งเอง มี 4 ระยะ ครับ ยิ่งเป็นระยะท้าย ๆ โอกาสรอดก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าตรวจเจอตั้งแต่ระยะก่อนเป็นมะเร็งจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดครับ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 00:02:48 จากคุณ : Little Brother - [ 24 มิ.ย. 52 00:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณคุณหมอสำหรับข้อมูลค่ะ ^_^ จากคุณ : Regulas - [ 24 มิ.ย. 52 10:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณ จขกท ที่ทำให้ได้รับความรู้อย่างมากมาย ว่าแล้วก็  หาเวลาไปตรวจบ้างดีกว่าเรา แต่เชื่อมั้ยคะว่า เคยมี 2 เดือนที่ เรารู้สึกว่า ประจำเดือนเรามาน้อยแบบที่ไม่เคยเป็นในชีวิตนี้ คือ มา2วันแล้วก็เป็นสีน้ำตาลทั้ง2วัน หลังจาก ปจด.หายไปจนครบ 7 วัน เราไปหาหมอเพื่อขอตรวจภายใน คุณหมอพูดว่า  จะขอตรวจทำไมคะ ปจด.ก็ยังมาปกตินี่นาแค่น้อยกว่าเดือนอื่นๆเท่านั้นเอง แล้วก็ ปจด.ไม่จำเป็นต้องเป็นสีแดงเสมอไป รอให้มาๆหายๆแบบกระปริบกระปอย แล้วค่อยมาดูว่า ควรจะตรวจมั้ย? เราได้ยินคำตอบของคุณหมอแล้ว ถึงกับ ใบ้กิน อึ้งกิมกี่ นี่เราทำผิดหรือที่กังวลและห่วงตัวเอง *** ลืมบอกอีกอย่าง ครั้งนั้นเป็นการไปหาหมอเพื่อใช้สิทธิ์ ประกันสังคม นะคะ จะยอมไปเสียตังค์ตรวจดีกว่า เพื่อตัวของเราเอง เพราะอายุก็เลข 3 ตอนปลายแล้วด้วยสิ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 13:58:33 จากคุณ : แอบมาเล่น (โรตีแกงไก่) - [ 24 มิ.ย. 52 13:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้ เรามีนัดตรวจทุก 6 เดือน แต่เลยที่รพ.นัดมาเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าหยุดยาวจะไปตามนัดค่ะ จากคุณ : nupangjee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 23:33:34 ]