ความคิดเห็นที่ 44
ได้อ่านกระทู้นี้ทำให้นึกถึง e-mail ที่เพิ่งได้รับเร็ว ๆ นี้ จึงขออนุญาตนำมาโพสเพื่อเป็นข้อมูลแก่ผู้อ่านด้วยดังนี้
--------------------------------------------------------------------------------------
ผลมาจากการบริจาคโลหิตโดยแท้ !!! รุ่นพี่ของเราคนหนึ่งอายุประมาณ 35 ปี ทำงานอยู่ที่ ทีพีไอ สำนักงานใหญ่ บริษัทมีสวัสดิการให้พนักงานตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ผลการตรวจล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้วปรากฎว่าพี่เค้าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ซึ่งคุณหมอก็งงเหมือนกันเพราะเกือบทั้งหมดของคนที่เป็นโรคนี้มักเป็นมาแต่กำเนิด หลังทราบผลพี่เค้าก็ไปปรึกษาคุณหมอ สรุปว่า ทางเดียวที่จะรอดได้ก็ต้องผ่าตัด เพื่อดูว่าสามารถซ่อมลิ้นหัวใจได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ หลังจากปรึกษาที่รพ.เซ็นหลุยส์ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดประมาณ 3 4 แสนบาท จึงลองไปปรึกษาที่รพ.จุฬาฯ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1 แสน กว่า ๆ จึงตัดสินใจไปผ่าตัดที่รพ.จุฬา ฯ
แต่ก่อนหน้านี้ พี่เค้าบริจาคเลือดทุก ๆ 3 เดือนมาโดยตลอด รวมทั้งหมดที่บริจาคก็ 49 ครั้ง และพี่เค้าก็ได้รับคำแนะนำมาว่า ทางสภากาชาดจะช่วยเหลือในส่วนของค่าห้องในการพักรักษาตัวได้ จึงได้ไปขอจดหมายรับรองจากสภากาชาดไว้ว่าได้บริจาคเลือดจำนวนครั้งเท่านี้จริง อย่างน้อยก็จะได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง พี่เค้าเพิ่งได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 48 นี้เอง วันที่ออกจากรพ. ก็ต้องไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายซึ่งทั้งหมดเป็นเงิน 110,000 บาท แต่พี่เค้าต้องจ่ายจริง คือค่ายาเพียง 9,800 บาทเท่านั้น เพราะสรุปว่าสภากาชาดออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ เจ้าหน้าที่ของรพ.แจ้งว่าได้รับสิทธิ์เหมือนกับข้าราชการคนหนึ่ง ส่วนของค่ายาที่ต้องจ่ายเองนั้นเพราะเป็นยาบัญชีประเภทสองซึ่งถึงจะเป็นข้าราชการก็ต้องจ่ายส่วนนี้เองเหมือนกัน
เจ้าหน้าที่ยังแนะนำอีกว่าเพียงแค่คุณบริจาคเลือดกับสภากาชาดอย่างน้อย 24 ครั้ง คุณก็จะได้รับสิทธิประโยชน์นี้เหมือนที่รุ่นพี่เราได้รับไปแล้ว นี่ถือเป็นโชค 2 ชั้นเลยนะ ได้บุญจากการบริจาคเลือดแล้วยังเหมือนได้ประกันแถมมาอีก ถ้าใครมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีก็พยายามไปบริจาคเลือดไว้นะ แต่ขอย้ำว่า นับเฉพาะที่บริจาคไว้กับสภากาชาดเท่านั้นนะ
-------------------------------------------------------------------------------------- สิทธิพิเศษสำหรับผู้บริจาคโลหิต 1. ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 7 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษได้ไม่เกินร้อยละ 50 2. ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 16 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล + ค่าห้องพิเศษและค่าอหารได้ร้อยละ 50 3. ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 24 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล 100% + ค่าห้องพิเศษและค่าอาหารได้ร้อยละ 50 4. ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 100 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ "ขอพระราชทานเพลิงศพ" ได้เป็นกรณีพิเศษ ** เฉพาะผู้บริจาคโลหิตเท่านั้น ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้
5. ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 9 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ตรวจวิเคราะห์สารเคมีในโลหิตได้ เช่น ตรวตจหาน้ำตาล,ไขมัน, การทำงานของตับ, การทำงานของไต ฯลฯ โดยผู้บริจาคโลหิตสามารถใช้สิทธิ์ได้ ปีละ 1 ครั้ง
เพื่อนๆ คนใดที่น้ำหนักตัวเกิน 45 ก.ก. ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ต้องทานยาเป็นประจำ ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ขอเชิญชวนไปช่วยกันบริจาคเลือดทุกๆ 3 เดือนเป็นประจำ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ มักจะไปบริจาคกันปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งก็คือ " วันเฉลิมฯ "
ทำให้ช่วงวันเฉลิมฯ จะมีเลือดเข้าสภากาชาดเยอะจนล้น แต่ในขณะที่ไม่ใกล้กับวันเฉลิมฯ จะมีปัญหาเรื่องเลือดหมดคลัง
การบริจาคเลือดนอกจากจะได้ทำบุญ ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์แล้ว ยังเป็นการตรวจสุขภาพตัวเราเองไปในตัวด้วย เนื่องจากหากสุขภาพไม่ดีทางสภากาชาดจะไม่รับบริจาค
===========================================
ข้างต้นเป็นข้อมูลที่ได้รับจาก Forwarded mail หากต้องการข้อมูลที่ถูกต้องจริง ๆ คงต้องยืนยันกับทางสภากาชาดอีกครั้งหนึ่ง...
จากคุณ :
ใจของฉันนั้นเป็นของเธอ
- [
28 มิ.ย. 52 21:25:17
A:58.8.21.114 X: TicketID:222028
]
|
|
|