ความคิดเห็นที่ 1 แจ้งกระทรวงเลยค่ะ  อย่าให้เหมือนกรณี 2 รายที่เสียชีวิต  ที่ รพ.กับญาติปกปิดไว้ไม่ยอมแจ้ง  ก็เลยเกิดปัญหา จากคุณ : ลูกนกหลงทาง - [ 28 มิ.ย. 52 12:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามที่มีประกาศไว้ ... ถ้าสงสัย ไม่แน่ใจ ก็ลองแจ้งตามนี้ละกัน 7. แหล่งข้อมูลการติดต่อ เพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ 1. กรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่ กองควบคุมโรค สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0 2245 8106, 0 2246 0358 และ 0 2354 1836 2. ต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง ท่านสามารถติดตามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข http://www.moph.go.th และหากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค หมายเลขโทรศัพท์ 0 2590 3333 และศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 0 2590 1994 ตลอด 24 ชั่วโมง http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=21-05-2009&group=4&gblog=76 คำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ(เอช1เอ็น1) ฉบับที่ 6 สถานการณ์ ค (C) : พบว่ามีนักเรียนหรือนิสิต นักศึกษา เป็นผู้ป่วยยืนยันว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ (เอช1 เอ็น 1) เป็นกลุ่มใหญ่ และผู้ป่วยไม่มีประวัติเดินทางมาจากต่างประเทศที่เป็นพื้นที่การระบาด ซึ่งแสดงว่ามีการระบาดอย่างกว้างขวางในสถานศึกษาแล้ว หรือในชุมชนอาจมีการระบาดด้วยในเวลาเดียวกัน แนวทางการดำเนินการ : • แนะนำให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยเนื้อตัว เป็นต้น หยุดเรียนและพักรักษาตัวที่บ้านหรือหอพัก (ควรให้ผู้ป่วยนอนแยกห้อง) หรือหากมีอาการป่วยมาก ควรรีบไปรับการตรวจรักษาจากแพทย์ • ควรพิจารณาปิดสถานศึกษาที่ผู้ป่วยศึกษาอยู่ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน โดยปิดเฉพาะห้องเรียนที่มีผู้ป่วย ปิดทั้งชั้นเรียน หรือทั้งโรงเรียน ตามความจำเป็น จากคุณ : หมอหมู - [ 28 มิ.ย. 52 15:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คิดว่าการปิดสถานศึกษาจะแก้ปัญหาได้ตรงจุดเหรอ ถึงปิดสถานศึกษา นักศึกษาก็อาจติดจากชุมชน หรือติดจากห้างก็ได้ การปิดสถานศึกษาก็คือ การป้องกันไม่ให้สถานศึกษาโดนด่าจากผู้ปกครองก็แค่นั้น ถ้าปิดจะปิดนานแค่ไหน แล้วแน่ใจพอกลับมาเปิดใหม่ จะไม่มีคนติดเชื้อเพิ่ม แค่ให้นักศึกษาที่ป่วยหยุดเรียนจนหายขาด ส่วนนักศึกษาคนไหนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง เช่น มีโรคประจำตัว ก็ให้หาหน้ากากป้องกันการติดเชื้อ ก็เพียงพอแล้ว จริงๆไข้หวัดใหญ่ก็เปลี่ยนแปลงเกือบทุกปี ปีนี้อาจจะเปลี่ยนไปมากหน่อย จึงเกิดการระบาดใหญ โรคติดเชื้อทางการหายใจ แทบจะไม่มีทางป้องกันให้เกิดการระบาดใหญ่ได้เลย โชคดีที่อัตราการตายต่ำ คงต้องรอให้ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน (herd immunity) โรคมันถึงจะหยุดระบาด ส่วน SARS หรือ ไข้หวัดนก พวกนั้น ที่ไม่เกิดการระบาดใหญ่ อาจเป็นเพราะเชื้อเหล่านั้น ทำการติดเชื้อในเซลล์ของคนได้ไม่ดี จากคุณ : แจ๊คกี้ - [ 29 มิ.ย. 52 10:35:06 A:86.74.73.86 X: TicketID:221104 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กรณี ร.ร.แห่งนึง พบนักเรียนป่วย สั่งปิดทันที 2 สัปดาห์ นักเรียนก็เลยกลับบ้านกันหมด หลังจากนั้น นักเรียนเหล่านั้นก็นำเชื้อกลับบ้านที่ ตจว. และแพร่ต่อไป มีเหตุผลทางระบาดฯสนับสนุนข้อมูลนี้มากทีเดียวครับ ดังนั้นการปิดโรงเรียนแต่ไม่ได้กักกัน ไม่ได้ช่วยอะไร ในทำนองเดียวกัน การกักกันก็ทำไม่ได้ และเหตุผลแห่งความร้ายแรง ก็ไม่มากพอที่จะต้องกักกันครับ ณ เวลานี้ เลยจุดที่จะต้องป้องกันกันแล้วครับ ณ เวลานี้คือระยะของการรู้เร็ว รักษาเร็ว และอย่าให้ตายครับผม จากคุณ : Fly boy - [ 29 มิ.ย. 52 15:21:56 A:222.123.96.168 X: TicketID:149505 ]