เคยตอบไปแล้วกระทู้หนึ่ง
ผมก็เคยเป็นครับ แต่ดอนจะเป็น ผมเห็นผู้หญิงใส่ขาสั้นเป็นเลิมที่ขาด้วยแหละ ผมไม่ได้เข้าใกล้เธอนะ น้ำเหลืองก็ไม่น่าจะมาโดนได้ หรือโรคนี้มันติดต่อได้จากการมองเห็นหว่าาา..
แต่สาเหตุที่เป็น ส่วนตัวแล้ว คาดว่า เกิดจากความเครียด และนอนดึก พักผ่อนน้อย ซึ่งตอนนั้นเรียนหนักมาก แทบไม่ค่อยได้นอน ไม่ได้พักผ่อน
อาการตอนนั้นจะเป็นอย่างนี้ครับ ก่อนเป็น มันจะพวดเมื่อย ปวดไปถึงกระดูก และปวดสุดๆ ปวดจนคันบริเวณที่มันจะขึ้นมาก ความปวดเมื่อยเหมือนร่างกายอ่อนล้า ปวดเหมือนกระดูจะหัก ทรมารมาก ซึ่งการเป็นครั้งแรกนั้น เราไม่รู้ว่ามันกำลังจะเป็นโรคอะไร ผมก็นึกว่าร่างกายเราอ่อนเพลียเพราะไม่ได้ค่อยพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้กระทั้งปุ่มน้ำใสๆขึ้น (พอมีตุ่มใสๆขึ้นร่างกายทรุด ผมนอนโทรมเลย) แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเรากำลังเป็นอะไร
แต่ผมโชคดีที่รู้จักคุณหมอที่เก่งมาก แค่เล่าอาการให้ท่านฟังทางโทรศัพท์ ท่านก็ทราบว่าเป็นงูสวัด แล้วคุณหมอก็สั่ง ให้ผมใช้ยาดังนี้ทันทีครับ
-1- Virogon 400 ของสีลมการแพทย์ (ยารับประทานครับ) มันจะกำจัดไวรัส จำพวกงูสวัด และจะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกครับ ถ้าคุณหายก็หยุดทานนะครับ เพราะยาทานแล้วมีผลต่อไตครับ (ซึ่งเหมือนกับยารักษาโรคทั่วไป ที่ทานมากไม่ดีมีผลต่อการทำงานของไต)
-2- Virogon Cream เป็นครีมทาบริเวณที่เป็นแผล ไม่ให้รุกราม มันจะช่วยทำลายDNA ของเชื้อไวรัส ประเภทงูสวัด ไม่ให้มันเกิดการแบ่งตัวได้ หรือลุกลามนั่นเอง
-3- สำลีก้าน (Cotton Buds) + เบตาดีน(betadine) เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ระคายเคืองต่อผิวหนังน้อย ใช้ทาบริเวณที่บวมน้ำใสๆ หรือแผลสดๆ
ทาเบตาดีนก่อน พอมันแห้งๆ ก็ค่อยทาครีม Virogon ทับก็ได้ครับ
ใช้ยาตามนี้ ถ้าไม่หายก็ไปหาหมอนะครับ
แต่ผมน่ะ พอใช้ยาเหล่านี้รักษา นอนผักผ่อน 3-4 วันก็จะหายขาด อาการปวดลดลงมาก และ บริเวณที่มันเตรียมจะลุกลามก็หยุดครับ ส่วนบริเวณที่เป็นน้ำใสๆ ก็ยุบและแห้ง ตอนนี้หายแล้วเหลือแต่แผลเป็นที่ประทับตราเราไว้เป็นจุดๆ
การเป็นครั้งแรก มันทรมารนะ มันไม่รู้อะไรเลย ถ้าผมรู้ตัวว่าจะเป็นงูสวัด ก็คงบอกคุณหมอ จะได้รักษาตั้งแต่แรกทัน ไม่ต้องรอจนเป็นแผลเป็น
แต่ก็ดีได้มีประสบการณ์ ในการรักษา มาเล่าให่คุณๆฟัง
ผมน่ะเป็นคนร่างกายอ่อนแอมากๆ เป็นโรคผื่นคันตั้งแต่เด็ก น้ำเหลืองไม่ค่อยดี โชคดีที่เจอและได้รู้จักคุณหมอเก่งๆ เป็นการส่วนตัว ท่านก็ช่วยเหลือเราไว้
อ๋อ...ระหว่าง ที่เป็นก็ระวังเรื่องน้ำเหลือง เพราะถ้าไปถูกใครในบ้านละก็ คนนั้นก็จะติดเป็นงูสวัดได้ครับ และถ้าน้ำเหลืองเข้าตา ตาก็สามารถบอดได้ครับ เพราะฉะนั้นระวังอย่าไปขยี้ตา ล้างมือให้สะอาด รักษาความสะอาดด้วยครับ
เสื้อผ้าที่ถูกน้ำเหลือง ก็ซักแยกต่างหากนะครับ (อันนี้เวอร์ไปป่ะ) แต่รักษาความสะอาดเป็นสำคัญครับ
ขอให้หายไวๆ เด้อ
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 11:59:31
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 11:52:50
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 11:52:00
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 11:49:26
งูสวัด ใครเคยเป็นบ้าง? ช่วยบอกเล่าอาการให้ทราบหน่อยนะคะ
