Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    หนุ่มY มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับ Fast-5 Diet มาฝากครับโพ้มมม[ตอนที่3-ตัวอย่างการAdjustment+ผลร้ายที่ไม่ได้Adjustment]

    จากตอนที่แล้วเราก็ได้รู้กันแล้วว่าFast5นั้นจริงๆแล้วมี5ขั้นตอน คือ
    1. Learning
    2. Goal Setting
    3. Adjustment
    4. Active Loss
    5. Maintenance

    โดยขั้นตอนที่ผู้เขียนตำราfast5บอกว่าเป็นเรื่องสำคัญคือขั้น Adjustmentครับ !!!
    จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะละเลยขั้นตอนนี้ไป
    แม้ว่าบางท่านอาจเคยได้รับรู้จากประสบการณ์บางคนที่เค้าหักดิบมาว่าเค้าก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่...
    แต่กระพ้มอยากจะบอกว่า.....มันก็แล้วแต่คนครับ
    ร่างกาย และ สุขภาพของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน
    ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่านะครับ



    สำหรับตอนนี้กระพ้มจะนำตัวอย่างการปรับตัวในขั้นตอนAdjustmentมาแนะนำครับ

    (อันนี้เป็นการโพสข้อมูลโดยพี่pisekจากการสรุปข้อมูลของคุณเอในเวบsiamfitnessและถูกนำมาโพสในคลับลดความอ้วนวันที่ 25 เม.ย. 50 โดยคุณ Xoop นะครับ )
    ที่มา http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2007/04/L5346655/L5346655.html
    +
    +
    +
    ช่วงปรับตัวไปสู่วิถีชีวิตแบบ Fast-5

    อันนี้คือวิธีฝึกเพื่ออดอาหาร 19 ชั่วโมงในแบบค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เพื่อปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีชีวิตแบบ Fast-5 ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือ The Fast-5 Diet and the Fast-5 Lifestyle ในบทที่ 3 Adjustment ผมได้พยายามเรียบเรียงเป็นภาษาให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

    วิธีฝึกอดอาหารจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบ A และ แบบ B
    โดยในแบบ A นั้นสำหรับคนที่กินอาหารวันละ 3 มื้อปกติคือ มื้อเช้า กลาง วัน เย็น หรือแบบ 6-8 มื้อย่อย
    ส่วนแบบ B นั้นสำหรับคนที่ไม่ค่อยกินอาหารเช้า หรือไม่กินอาหารเช้าเลย กินแค่วันละ 2 มื้อใหญ่ คือ กลางวัน กับ เย็น

    แบบ A - ถ้าคุณเป็นพวกแบบ B ให้ข้ามบทนี้ไปเลยนะครับ

    วิธีการฝึกอดก็คือ ให้เลื่อนเวลากินอาหารเช้าจากเวลาปกติออกไปประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และแทนที่อาหารเช้าแบบปกติด้วยอาหารที่กินง่าย เบาๆ พกพาง่าย เช่น นมกล่อง กาแฟปกติ แซนด์วิช ขนมปัง

    ตัวอย่างเช่น จากเดิมที่คุณเคยกินอาหารเช้าปกติหนักๆ อย่างพวก ข้าวต้ม ต้มเลือดหมู ข้าวแกง ตอน 7 โมง คุณก็เลื่อนเวลาออกไปเป็น 7.30 หรือ 8.00 แล้ว

    กินของเบาๆ อย่าง นมกล่อง กาแฟปกติ แซนด์วิช ขนมปัง แทนอาการเช้าตามปกติ ทำแบบนี้ 2 วัน ถ้าทำได้ อีก 2 วันต่อมาก็เลื่อนเป็น 8.00 และ 9.00 ตามลำดับ ถ้าทำได้ อีก 2 วันก็เลื่อนเป็น 8.30 และ 10.00 ตามลำดับ จนไปถึงเที่ยง ก็ให้กินอาหารเที่ยงตามปกติ

    ถ้าทำไม่ได้ ก็ทำซ้ำๆ จนกว่าจะได้ แต่อย่าลืมว่า ห้ามกินหรือดื่มอะไรที่มีแคลอรีอย่างเด็ดขาด นับตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาอาหารเช้า


    แบบ B

    เมื่อคุณสามารถฝึกอดจนถึงเวลาอาหารเที่ยงได้แล้ว (จากแบบ A) ถึงตอนนี้จะไม่มีอาหารเช้าอีกต่อไป แต่จะเป็นการเลื่อนเวลาอาหารกลางวันออกไปแทน

    วิธีก็ทำแบบเดีียวกันคือ ให้เลื่อนเวลากินอาหารกลางวันจากเวลาปกติออกไปประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง (หากทำได้) แล้วให้แทนที่อาหารกลางวันแบบปกติด้วยอาหารที่กินง่าย เบาๆ พกพาง่าย เช่น นมกล่อง กาแฟปกติ แซนด์วิช ขนมปัง

    ตัวอย่างเช่น จากเดิมที่คุณเคยกินอาหารกลางวันปกติหนักๆ อย่างพวก ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ตอน 12.00 คุณก็เลื่อนเวลาออกไปเป็น 12.30 หรือ 13.00 หรือ 14.00 แล้วกินของเบาๆ อย่าง นมกล่อง กาแฟปกติ แซนด์วิช ขนมปัง แทนอาหารกลางวันตามปกติ ทำแบบนี้ 2 วัน ถ้าทำได้ อีก 2 วันต่อมาก็เลื่อนเป็น 13.00 และ 14.00 และ 16.00 ตามลำดับ จนกระทั่งสามารถอดได้ถึง 5 โมงเย็น

    ถ้าทำไม่ได้ ก็ทำซ้ำๆ จนกว่าจะได้ แต่อย่าลืมว่า ห้ามกินหรือดื่มอะไรที่มีแคลอรีอย่างเด็ดขาด นับตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาอาหารกลางวัน กินได้แค่น้ำเปล่า กาแฟดำ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแคลอรี

    หากใครสามารถอดทีเดียวแบบหักดิบได้ หรือเลื่อนออกไปทีเดียว 5-6 ชั่วโมง ก็ทำได้เลยครับ ถ้าหิวก็กินได้น้ำเปล่า กาแฟดำ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแคลอรีได้มากเท่าที่ต้องการ

    และหลัง 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม คุณก็สามารถกินอะไรก็ได้ กินมากเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ

    ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะพบว่าตัวเอง กินแบบสวาปาม กินแหลก กินมากกว่าอาหาร 3 มื้อรวมกันในคราวเดียว ก็อย่าตกใจ เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมชาติครับ อย่าไปฝืนมัน
    แต่พอนานๆไป เมื่อคุณเริ่มปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบ Fast-5 ได้ คุณจะกินน้อยลงกว่าในตอนแรกเอง
    และอย่าเพิ่งคาดหวังว่าน้ำหนักจะลดแบบฮวบๆ ในช่วง 1 เดือนแรกนะครับ เพราะน้ำหนักจะลดจริงๆ ก็ต่อเมื่อคุณเริ่มปรับตัวได้แล้ว คือสามารถอดได้นาน 19 ชั่วโมงโดยไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ

    อย่าลืมว่า ทุกๆ วันของวิถีชีวิตแบบ Fast-5 จะจบแบบ happy ending ครับ คือเป็นอิสระ ไม่ต้องเก็บกด จะกินอะไรก็ได้ จะกินมากเท่าไหร่ก็ได้ (แต่พยายามเลี่ยงพวกอาหารขยะ) คุณจะได้พักผ่อน ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันอย่างแท้จริง

    +
    +
    +
    จากตัวอย่างนั้นเป็นการปรับตัวจนเข้าสู่ช่วงเวลา5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม
    แต่ถ้าหากว่าอยากจะใช้fast5ในช่วงเวลาอื่นของวัน ก็ลองนำตัวอย่างไปประยุกต์ดูละกันนะครับ

    วิธีการฝึกอดอาหารก็จะได้ประมาณว่า
    ให้เลื่อนเวลาทานจากเวลาปกติออกไปประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง (หากทำได้)
    ถ้ารู้สึกหิวก็หาอะไรเบาๆทานในช่วงเวลาเดิมที่เคยทาน
    ทำแบบนี้ 2 วัน
    ถ้าทำได้ อีก 2 วันต่อมาก็เลื่อนเวลาอีก
    ก็จะกลายเป็นปรับเวลาทีละ2วันไปเรื่อยๆจนถึงเวลาที่เราตั้งใจอ่ะครับ

    **ซึ่งตรงนี้กระพ้มมีความคิดเห็นส่วนตัวว่าสุขภาพคนเราแต่ละคนแตกต่างกันดังนั้นถ้าใครจะปรับเวลานานกว่า2วัน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองก็safetyดีนะครับ**

    จากคุณ : BankkyBoiz - [ วันอาสาฬหบูชา 23:18:38 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com