ความคิดเห็นที่ 1   รับได้ไหมครับ........ถ้าจะพูดอะไรตรงๆ คุณ"ใช้งาน"แฟนคุณมา 4 ปี มีอะไรให้เขาชื่นใจบ้าง เรื่องแต่งงานนั้น  ผมมั่นใจว่าแฟนคุณไม่ได้เรียกร้องเกินเลยไปกว่าคู่ชีวิตดีๆที่อยู่กินกันมานานจะพึงกระทำ การที่ผู้ชายคนหนึ่ง อ้างว่า"ไม่พร้อม" ที่จะแต่งงาน   แต่พร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ...ถือว่าเป็นคนขี้ขลาด แฟนคุณย่อมรู้จักคุณดีว่า " มีแค่ไหน " หากเธอแค่ขอให้คุณแต่งงานให้ นั่นย่อมหมายความว่าเธอคงไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่านี้แล้ว หรือว่า....คุณยังไม่มั่นใจในตัวเธอว่าดีพอสำหรับคุณ หรือว่า....คุณคิดว่าคุณยังมีโอกาสที่จะหาใหม่ให้ได้ดีกว่านี้ จึงยังไม่พร้อมจะร่วมชีวิตกับเธอให้ปรากฏต่อสังคม ขอโทษทีที่ลืมตอบ หากต้องการบำบัด..โดยปลอดภัย  ก็ต้องช่วยตัวเองไปก่อนครับ เรื่องที่บอกว่า คุณช่วยตัวเองไม่สำเร็จน่ะ   ไม่จริงหรอกครับ ที่มันไม่สำเร็จ  เพราะยังมีแฟนคุณนอนเป็นตัวแปรอยู่ข้างๆ คุณจึงยัง"ไม่พร้อม"ที่จะช่วยตัวเอง แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 22:11:24 จากคุณ : HeadRock เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 21:59:18

ความคิดเห็นที่ 2   "ยังไม่พร้อม"ที่ว่านี่ ยังไงครับ เล่าให้กันฟัง เผื่อจะช่วยทำความเข้าใจกันได้ ผมว่า ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่เค้าไม่ยอมมีอะไรด้วยหรอกครับ มันอยู่ที่ ไอ้ "ยังไม่พร้อม"เนี่ยแหละ จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 22:11:59

ความคิดเห็นที่ 3   โดยส่วนใหญ่แล้ว... สำหรับผู้หญิง รักมาก่อนเซ็กส์ สำหรับผู้ชาย เซ็กส์มาก่อนร้ก จากคุณ : sura.sss เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 22:17:52

ความคิดเห็นที่ 4   ไปนอนเอาไอ้นั่นถูๆกับขอบฟุตบาทข้างถนนก็คงจะดี และก้อเลิกเอาเปรียบแฟนคุณเสียทีเถอะ เห็นแก่ตัวไม่มีที่สิ้นสุดเสียที.. พวกผู้ชายเนี่ย อีตอนจะฟันเค้า.. พ้มพร้อมเสมอคร้าบบบ ทำไมไม่นึกถึงว่าผู้หญิงเค้ากดดันแค่ไหน  ที่เค้าต้องทนให้คุณฟันเค้า ฟรีๆตั้งสี่ปี  แล้วถ้าไม่ขอให้คุณไปแต่งงานกับเค้า  คุณก้อคงจะฟันเค้า ต่อไปเรื่อยๆ  แล้วถ้าเกิดคุณเบื่อเค้าขึ้นมา  ผู้หญิงมีแต่เสียกับเสีย จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 22:20:38

ความคิดเห็นที่ 5   คู่ของเพื่อนเรา อยู่ด้วยกันมา 10 ปีค่ะ ไม่แต่งสักที ผู้ชายบอกแต่ว่า ไม่พร้อม ๆ เพื่อนเราจะเลิกหลายครั้งแล้ว ผู้ชายไม่ยอมให้เลิก ตามล่ากันอยู่นั่นแหละ แล้วก็เลิกกันไม่ได้ซะที จนในที่สุด เพื่อนเราท้องค่ะ ท้องแบบไม่ได้ตั้งใจด้วย ผู้ชายถึงได้ยอมแต่งงานด้วย   อืมมม  ทีงี้ล่ะ ดันพร้อมขึ้นมาเชียว จะต้องให้มีเหตุซะก่อน (แต่ก็ดีที่เค้ายังมีสำนึกรับผิดชอบเหลืออยู่) ถ้าคิดว่า ไม่พร้อม มันก็ไม่พร้อมไปตลอดค่ะ ไม่มีใครที่จะมีพร้อมทุกอย่างในเวลาเดียวกันหรอก ถ้ารักกันจริง ก็ต้องช่วยกันสร้าง ช่วยกันหาค่ะ มันถึงจะเรียกว่า คู่ทุกข์คู่ยาก ไม่ใช่หาความสุขจากผู้หญิงแค่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียว สำหรับเรา เลิกกับแฟนเพราะคำว่า ไม่พร้อม ค่ะ อยู่คนเดียวก็ไม่เดือดร้อนอะไร สบายดีอีกต่างหาก ปล. ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ค่ะ  ลองหาอะไรที่เป็นรูๆ แล้วเอาไปแหย่ดูนะคะ เผื่อจะช่วยได้ จากคุณ : WiZ_Of_The_MooN เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 22:39:23

ความคิดเห็นที่ 6   ผมคบกับแฟนมา 7 ปี เมื่อก่อนก็มีอะไรกันดีๆ แต่พอมา 2-3 ปีหลังนี่ ต้องแต่งงานกันก่อนถึงจะนอนด้วยกันได้ ผู้หญิงเขาโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะครับ คุณก็ต้องเข้าใจหน่อย ผมยังนั่งทำใจอยู่เลย ก็ทำไงได้มันรักเขาฮะ จากคุณ : ขุนแผนน้อย เมืองสวรรคโลก (somrose99) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 22:47:41

ความคิดเห็นที่ 7   กลัวอะไรกับแค่แต่งงาน กลัวขาดอิสระเหรอไง ได้ฟรีมาสี่ปี ยังไม่พออีก จากคุณ : โดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 22:48:56

ความคิดเห็นที่ 8   ทุเรศจัง ทิ่มฟรีมา4ปี พอต้องลงทุนหน่อย เจือกไม่ยอม เวลาผู้ชายทำตัวแบบนี้ ผู้หญิงเค้าอดนึกไม่ได้หรอกนะว่า อ๋อคือกุเป็นกาหริ่ฟรีให้มีงไปวันๆ ปล.ขอโทษที่แรง จากคุณ : ... (nohaha) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 23:04:37

ความคิดเห็นที่ 9   ถ้าอึดอัดมากก็สั่งแบบกระป๋องมาใช้ก่อนละกัน จากคุณ : 4d56t เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 23:31:51 A:125.25.220.48 X: TicketID:123179

ความคิดเห็นที่ 10   ไม่รู้นะ สังคมไทยคงมองว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียอย่างเดียว จริงๆแล้วเรื่องเซ็กส์มันก็ได้ทั้ง 2 ฝ่ายน่ะแหละ ถ้ามีเซ็กส์แล้วผู้หญิงไม่มีความสุขไม่มีความพึงพอใจเลยแล้วไปยอมเขาทำไมแต่แรก ส่วนตัวมองว่ามันก็ได้และเสียทั้งสองฝ่าย เป็นผู้หญิงต้องหัดคิดถ้าจะมีเซ็กส์เพื่อหวังผูกมัด หวังว่าอนาคตจะได้แต่งงาน ถ้าคิดเท่านี้ก็อย่ามีเลยดีกว่า ไว้ให้ได้แต่งงานซะก่อนค่อยมี เรามองว่าเรื่องแต่งงานควรเป็นเรื่องพร้อมและเต็มใจทั้งสองฝ่าย ยังไงซะมันก็แค่พิธีทางสังคม ไม่ได้มีผลว่ารักจะมั่นคงตลอดไปซะเมื่อไหร่ ถ้าความรักไปไม่รอดขี้คร้านผู้หญิงจะต้องเป็นฝ่ายอดทนและเสียหายมากซะกว่าตอนยังไม่แต่งอีก ก็ไม่เข้าใจนะทำไมถ้าถึงอยากรีบแต่งงานนัก โดยเฉพาะถ้าแฟนผู้ชายไม่ได้เป็นฝ่ายเสนอ คงมั่นใจมากเลยว่าแต่งงานไปแล้วชีวิตรักจะสมบูรณ์แบบ perfect ถ้าคิดอย่างงั้นก็เข้าใจหละ ใช่ การแต่งงานได้ใส่ชุดเจ้าสาวแสนสวยเป็นความฝันของลูกผู้หญิงหลายๆคน แต่คนเรานะถ้ารักกันแท้จริงแล้วเมื่อไหร่ก็ได้! เข้าใจคุณ จขกท นะ เรื่องแบบนี้เป็นความแตกต่างทางทัศนคติ บอกแฟนผู้หญิงไป ว่าโอเคผมแต่งงานก็ได้ เพราะผมอยากมีเซ็กส์อยากให้ชีวิตคู่เราเหมือนเดิม แค่นี้ถ้าเธอยอมรับเหตุผลนี้ได้ก็แต่งๆไปเหอะ แสดงว่าเธอคงอยากแต่งงานจัด ส่วนตัวเรามองว่าถ้าจะแต่งงานมันต้องมาจากใจข้างใน ต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ ไม่ใช่เพราะการตั้งเงื่อนไข หรือเพราะตกกระไดพลอยโจรค่ะ จากคุณ : GetCha เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 23:46:59

ความคิดเห็นที่ 11   เรือ่งที่ฟังดูน่าโมโหก็คือ คุณบอกว่าไม่พร้อมจะแต่งงาน ถ้าไม่อยากแต่งก็บอกชัดๆว่าไม่อยากแต่งนะ  จริงๆมันน่าจะแยกแยะกันได้ระหว่างการแต่งงานกับความรัก เซ็กส์  เรายังไม่แต่งเลย  ผู้ชายที่อยากแต่งนักเราก็เลิกมาแล้ว -*- ก็เราไม่อยากแต่ง  แต่เราไม่เคยคิดว่าตัวเองไม่พร้อม เราประกาศชัดว่าไม่อยากแต่ง   ถ้ารับไมไ่ด้ก็ต้องจบ   มันไม่ใช่แค่เงื่อนไขเรือ่งเซ็กส์จะมาทำให้เราแต่งงานได้   แล้วเราก็ไม่เคยคิดว่าเซ็กส์เป็นเรือ่งที่เอาเปรียบกันนะ  แต่อาจเพราะผู้หญิงคิดว่าตัวเอง"ยอม"จึงเป็นฝ่ายเสีย  ทั้งที่จริงๆแล้วเราว่าแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย  และก็แปลกดีด้วยซ้ำไปทีสังคมไทยเราสามารถยกเรือ่งเซ็กส์มาเป็นข้อต่อรองในการแต่งงานได้   เราว่า จขกท ต้องทบทวนว่าตัวเองไม่พร้อมแต่งหรือไม่อยากแต่งกันแน่ -*- จากคุณ : ไหมพรมสีชมพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 00:09:08

ความคิดเห็นที่ 12   สะใจ เป็นการแก้แค้นที่ สาสม จริงเลยเชียว จากคุณ : memaymayme เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 00:28:33

ความคิดเห็นที่ 13   เรื่องเงินใช่ไหมค่ะ ที่บอกว่าไม่พร้อม -*- จากคุณ : darkheart29 เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 00:34:54

ความคิดเห็นที่ 14   ไม่พร้อมที่จะแต่งงาน .. แต่พร้อมจะมีเซ็กส์ได้ทุกเมื่อนี่มันยังไงครับ แล้วมีผู้ชายคนไหนช่วยตัวเองไม่สำเร็จด้วยหรือครับเนี่ย เกิดมาพึ่งเคยได้ยิน ผมก็คิดเหมือน #5 คุณคงจะพร้อมก็ตอนที่พลาดทำแฟนท้องนั่นแหละ ใช่มั้ยครับ ไม่งั้นอยู่ไปแบบนี้มันก็ไม่มีวันพร้อมสักที หวังว่าคงไม่บ้าไปหน้ามืดตกลงแต่งงานเพราะแค่อยากมีเซ็กส์กับแฟนแล้วกันครับ จากคุณ : Limelight เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 02:06:48

ความคิดเห็นที่ 15   อืมมม  ชอบ   คห.10  ครับ     คห.อื่นจะมาซ้ำเติมกันเพื่ออะไรครับ   ถ้าทำแล้วไม่มีความสุข  เค้าคงไม่ยอม มาถึง4 ปีหรอกครับ   ช่วงนี้เค้าคงมีอารมอยากแต่งงาน   มากเฉยๆ  ผู้หญิงก็แบบเนี้ยครับ อารมขึ้นๆลงๆ   ผ่านไปซักพักน่าจะดีขึ้นครับ จากคุณ : ลิงกี้ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 02:25:53

ความคิดเห็นที่ 16   ก็แฟร์ดีค่ะ ไม่แต่งก็ไม่ให้  ควรให้เกรียติผู้หญิงที่คุณรักนะคะ  ถ้าไม่รักก็อีกเรื่อง จากคุณ : nu_m เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 09:17:20

ความคิดเห็นที่ 17   ดีจังที่ยังมีผุ้ชายที่คิดแบบนี้...คือไม่อยากไปเอานอกบ้าน ชื่นชมสุดๆ ก้เห็นใจคุณเน๊อะ ของมันเคยๆ อยู่ดีๆไม่ให้ซะงั้น แต่......4ปี มันก็นานอยู่นะ คำว่าไม่พร้อมของคุณคืออะไรอ่ะ.... ตอนที่พ่อกะแม่เราแต่งงานกันเค้าก็ไม่พร้อมหรอก ตอนนั้นเงินเดือนพ่อไม่กี่พัน แม่ก็เพิ่งเข้าทำงาน รถก็ไม่มีขับ แต่คนเค้ารักกัน มั่นใจในตัวกันและกัน ก้เลยแต่งแล้วก็ช่วยกันทำมาหากิน สร้างตัวจนมี่ทุกๆอย่างอย่างทุกๆวันนี้ อาจโชคดีหน่อย ที่ปุ่กะย่าซื้อบ้านให้เป็นของขวัญแต่งงาน ไม่งั้นตอนนั้นเค้าคงต้องเช่าบ้านอยู่ หรือที่ว่าไม่พร้อมคือ ยังไม่แน่ใจในตัวแฟน????? จากคุณ : happy n luckly เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 09:19:59 A:115.131.211.40 X: TicketID:076993

ความคิดเห็นที่ 18   ขอตอบเรื่องไม่พร้อมครับ คือ 1.เปลี่ยนศาสนา(เป็นเรื่องใหญ่มาก) 2.สินสอด ส่วนเรื่องคิดมีคนอื่นเผื่อเลือกไม่มีแน่นอน ไม่งั้นผมคงไป X กับคนอื่นอย่างสบายใจแล้วหละ จากคุณ : Mission X เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 09:31:14

ความคิดเห็นที่ 19   เราว่าเราเข้าใจ จขกท. นะ เราคนหนึ่งที่เป็นผู้หญิงที่อยู่กินกับสามีมานาน 5 ปี ไม่มีงานแต่งด้วย เพียงแต่ว่าเราเข้าใจเค้า แล้วเค้าก็เข้าใจเรา คนมันไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม ไม่พร้อมนี้อาจจะหมายถึงว่า กำลังเก็บตังค์อยู่นะ ค่อยๆ นะ ช่วยๆ กันนะ ของอย่างนี้มันต้องช่วยกันน่ะ ในเมื่อฝ่ายหญิงอยากแต่งก็ต้องช่วยกันเก็บเงินด้วย ที่สำคัญเราอยู่กินด้วยกันแล้ว ไม่ใช่ว่าเอะอะก็จะโยนความรับผิดชอบให้ฝ่ายชาย แกต้องมาขอ แกต้องมาแต่งนะ ไม่งั้น ฉันเลิก .... มันไม่ถูกน่ะ เจตนาของ จขกท. อาจจะประมาณว่า ถ้าจะแต่งก็อยากให้แต่งแบบมีหน้ามีตา ให้ภรรยากับทางพ่อตาแม่ยายภูมิใจไปเลยว่า เออ...ลูกเขยกรูใช้ได้นะ แต่งเพื่อให้เกียรติ ไม่ใช่แต่งๆ เพื่อให้จบๆ ไป ไม่ใช่ว่าอยากแต่งแต่ไม่มีเงิน สุดท้ายก็ขอพ่อ ขอแม่ เผลอๆ สินสอดทองหมั่นก็เป็นเพียงแค่งานปาหี่ เอามาวางโชว์เฉยๆ แล้วเรื่องศาสนาอีก ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสลามก็เรื่องใหญ่เลยหล่ะ จขกท. ก็คงมีเหตุผลของเค้าหล่ะ ฟังหูไว้หูแล้วกันนะ อย่าเพิ่งไปต่อว่าเค้าเลยค่ะ จากคุณ : ลดไข้ บรรเทาอาการปวด เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 10:11:30

ความคิดเห็นที่ 20   เห็นใจแฟนคุณนะ เธอคงอึดอัดมากกว่าคุณ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้แต่งงาน แล้วคุณวางแผนไว้หรือเปล่าว่า อีกกี่ปีถึงจะพร้อม จากคุณ : Bluechat เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 10:52:05

ความคิดเห็นที่ 21   อ่างคือคำตอบ จากคุณ : เอ๊กอ่าง (LWP) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 10:59:36

ความคิดเห็นที่ 22   เห็นตาม คห.10 คุณGetCha ครับ เรื่องsex มันไม่มีฝ่ายไหนได้หรือเสีย  ถ้าได้ก็ได้ทั้งคู่ หรือคิดว่าเสียก็เสียทั้งคู่นะแหละครับ พอมาอ่าน คห.18 ที่ จขกท มาเพิ่มเติมแล้ว ก็เข้าใจว่า เป็นเรื่องใหญ่พอสมควร ในเรื่องของการเปลี่ยนศาสนา เพื่อจะแต่งงาน สำหรับเรื่องนี้ โดยส่วนผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่นักนะครับ ต่างคนต่างนับถือต่างศานาไป ก็สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้ (ยกเว้นว่าแฟนคุณเป็นอิสลาม แล้วคุณต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาเดียวกับแฟน) สำหรับผมคิดว่าพระเจ้าไม่มีจริง สิ่งที่มีจริงคือคำสอนของศาสดา ถ้าศาสดารู้ว่าคุณต้องเป็นทุกข์ชั่วชีวิต ศาสดาก็คงให้อภัยคุณ ถ้าคุณจะเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิต แล้วใช้ชีวิตให้มีความสุข ผมว่าศาสดาทุกศาสนาคงให้อภัยได้ เพื่อให้คนในโลกทุกคนอยู่อย่างมีความสุข * ส่วนเรื่องเงินนั้นคำว่าพร้อม คำว่าพอ เป็นเรื่องเฉพาะตัวครับ อย่าเอาไปเปรียบเทียบคนอื่นๆที่เขามีมากกว่าเราซิครับ ผมเคยเห็นคนเก็บขยะขาย สองคนผัวเมีย มีลูกเล็กๆ 3-4 คนนั่งอยู่บนรถเข็นขนขยะตากแดดตากฝนไปกับพ่อแม่  ครอบครัวเขาก็ฝ่าฟัน ไป ก็คงทุกข์บ้างสุขบ้าง แต่ก็เห็นเขาใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้นี่ครับ จากคุณ : ทองนพคุณ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 11:07:43

ความคิดเห็นที่ 23   โดนสอนสั่งไปเลย บางทีก็คิดถึงใจผู้หญิงเค้าบ้างนะ จากคุณ : จักราวุธ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 11:28:24

ความคิดเห็นที่ 24   เราเข้าใจนะเรื่องที่ผู้หญิงอยากแต่งงานน่ะ พอเพื่อนแต่งก็รู้สึกว่าแล้วชั้นล่ะ อารมณ์ไม่อยากขึ้นคานมาแล้ว ลองคุยกันดูค่ะเพราะคุณทั้งคู่รู้จักตัวตน นิสัยและฐานะอีกฝ่ายมากกว่า คนอื่นไม่รู้หรอกว่า จขกทและแฟน อายุเท่าไหร่ ทำงานอะไร รายได้เท่าไหร่ สำหรับเธอน่ะพร้อมแล้วที่จะแต่ง ส่วนคุณไม่พร้อมเพราะอะไร เคยคุยเหตุผลให้เธอฟังรึยังคะ ลองหันหน้าคุยกันว่าเหตุคืออะไรจะแก้กันยังไง คิดจะคบกันมันต้องหันหน้าคุยกันค่ะแต่งงานก็เรื่องใหญ่นะ เราว่าเรื่องสินสอดสำหรับเธอไม่สำคัญเท่าได้แต่งหรอก บางคนนับถือคนละศาสนาก็อยู่กันได้นี่คะ ศาสนาสอนให้คนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จะศาสนาอะไรไม่สำคัญขอให้เข้าใจกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสำคัญกว่า แต่อย่าลืมค่ะว่าคุณก็อยู่ด้วยกันแล้วนะมีอะไรกันแล้วด้วย เหลือแค่แต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว มาขนาดนี้สินสอดไม่สำคัญเท่าไหร่แล้ว ขอแค่คุณแต่งกับเธอได้ก็เท่ากับคุณให้เกียรติเธอให้หน้าให้ตาเธอในสังคมอย่างที่สุดแล้วจริงๆ จากคุณ : PinkCappuccino เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 11:50:01

ความคิดเห็นที่ 25   อืม....ไม่พร้อมเรื่อง ศาสนา.....ก็เรื่องใหญ่พอควร เข้าใจล่ะ........ถ้าเป็นเราก็คงคิดหนักพอควร เพราะเราก็....ชอบกินหมูปิ้งแกล้มเหล้า และเลี้ยงหมาซะด้วยซิ ทำไงดีล่ะ...ก็อ้อนๆต่อไป แฟนคงยอมในอีกไม่นาน....ผู้ชายอ่อนเก่งๆ น่ารักน่าขยํ้า อีกอย่างของมันเคยๆอยู่อ่ะ แฟนคุณอาจแอบอึดอัดตัวเหมือนกันแต่ไม่แสดงออกอ่ะป่าว???????? แบบเวลาเราโมโหแฟน แล้วไม่ยอมลั่นล่าด้วย เจอแฟนอ้อนๆ พูดหวานๆ ทำตาซึ้งปนทะเล้นนิดๆ ใจอ่อนทุกที หรือเพราะเราแพ้ผุ้ชายขี้อ้อนไม่รู้นิ ^_^ จากคุณ : happy n luckly เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 11:56:32 A:115.131.211.40 X: TicketID:076993

ความคิดเห็นที่ 26   ทีแรกก็เห็นด้วยกับหลายๆ ความเห็นข้างบน แต่เมื่อทราบเหตุผลของคุณแล้วเห็นใจมากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเปลี่ยนศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเป็นสิ่งที่คุณจะต้องเผชิญไปตลอดชีวิต คงต้องตรองดูให้ดี  เรื่องนี้หากตกลงกันได้โดยส่วนตัว ซึ่งต้องให้ชัดเจน น่าจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน จะฝืนต้องฝ่ายหนึ่งทำตามฝ่ายหนึ่งไม่น่าจะแฟร์ค่ะ  หลายคู่ที่แต่งงานกันต่างก็มีศาสนา ความเชื่อ หลักคิด วัฒนธรรมประเพณีที่ต่างกัน แต่ก็อยู่กันได้โดยต่างให้เกียรติและยอมรับในสิ่งที่ต่างฝ่ายเป็นค่ะ จากคุณ : คำฝอย เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 12:06:44

ความคิดเห็นที่ 27   พอดีผมมีเพื่อนที่เป็นพุทธแต่เมียเป็นอิสลาม  แรกๆก็กลัวจะมีปัญหาแต่เพื่อนผมเขาลุยครับเข้าไปปคุยกับฝ่ายหญิงตกลงเจอกันครึ่งทางคือ ๑. ฝ่ายชายยอมที่จะขลิบตามธรรมเนียมอิสลาม ๒. ไม่กินหมู ( ในกรณีเพื่อนๆชวนกินขาหมูก็ทำให้มิดชิดหน่อย) ๓. งานแต่งจัดแบบอิสลามเพื่อนแต่งตัวแบบอิสลามและมีชื่อเรียกตามธรรมเนียมอิสลาม  (ขณะที่ตัวเพื่อนเองก็นับถือพุทธอยู่ แต่ไม่แสดงออกเวลาอยู่ท่ามกลางครอบครัวเมีย) นี่ก็อยู่กันมายี่สิบกว่าปีแล้วครับ จากคุณ : wilson_sam เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 12:07:21

ความคิดเห็นที่ 28   คห.17 "ดีจังที่ยังมีผุ้ชายที่คิดแบบนี้...คือไม่อยากไปเอานอกบ้าน ชื่นชมสุดๆ"   มันมีเหตุผลครับ ที่ไม่ไปเอานอกบ้าน   1. ของตายง่ายๆ นอนรออยู่ที่บ้าน ไปหานอกบ้านทำไมให้วุ่ยวาย   2. นอกบ้าน มันเปลื้องเงินครับ   3. นอกบ้าน มีโรคเยอะครับ เผลอๆได้เอดส์กลับมา แต่ของในบ้าน นอนรออยู่นี่ เงินก็ไม่ต้องเสีย ไม่ต้องกลัวโรค เล่นสดได้ และที่สำคัญ ไม่ต้องแต่งงานรับผิดชอบอะไรมาก มีข้าวให้กินก็พอ (หรือบางทีให้หากินเอง) แค่นี้ครับเหตุผล ไม่มีไรมาก  อย่างนี้แล้ว คุณ คห.17 ยังจะชื่นชมสุดๆอีกหรอกครับ.... คิดได้ไง จากคุณ : ได้ฟรี ไม่ต้องรับผิดชอบ (phch) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 13:13:37

ความคิดเห็นที่ 29   ผมว่าเป็นสิทธิของผู้หญิงครับ.. สำหรับเรื่องศาสนา ก็ถ้าคบกันมาตั้งหลายปีแล้วไม่ได้คิดไว้มั่งเลยหรือครับ ผมว่าเขาก็น่าจะถือศาสนานี้มาก่อนจะคบกันนี่ครับ.. เรื่องไม่มีsexไม่อึดอัดถึงขั้นตายหรอกครับ ถเารักจริงผมว่าเป็นเวลาที่ควรคิดเรื่องครอบครัวและการมีคู่มากกว่าครับ.. จากคุณ : Metroman เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 15:32:41

ความคิดเห็นที่ 30   เพิ่งแต่งมาไมนานครับ อึกอัดเหมือนกันกว่าจะหาเงินมาแต่งได้ เค้าเรียกสินสอดแพงมาก(เกือบครึ่งล้าน) ซึ่งกว่าจะหาเงินมาจนครบก็แทบแย่ ไหนจะจัดงานอีกก็เงินเรา ด้วยความที่หาเงินเอง เหนื่อยมากครับ จากคุณ : อ๊อด เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 15:47:17 A:124.120.133.184 X: TicketID:222549

ความคิดเห็นที่ 31   มีเส้นบาง ๆ ระหว่าง ความไม่พร้อม และ ความไม่กล้า(รับผิดชอบ) จากคุณ : สตรีดีหนึ่ง ประเภทหนึ่ง เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 16:40:43

ความคิดเห็นที่ 32   งั้นก็ทำความเข้าใจกับเธอสิค่ะ  เธอไม่คงใจร้ายที่ไม่ฟังทั้งเหตุและผลที่คุณไม่พร้อมแต่งงาน เธออาจจะมองเหมือนหลากความเห็นข้างบนที่ว่าคุณน่ะ จากคุณ : กระเป๋าโดเรมอน เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 18:34:43

ความคิดเห็นที่ 33   แต่ 4 ปี แล้วนะ ยังไม่คิดวิธีแก้ปัญหาอีกหรอค่ะ มันเหมือนคุณไม่อยากแต่งงานเลย พอมีเหตุการณ์มาบังคับ คุณก็เลย อึกอัด - -  - ถ้า รัก จริง คิด + ปรึกษาหาทางออกได้เเล้วค่ะ - - - จะได้ไม่เป็นปัญหาอีก จากคุณ : odear_yui เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 21:50:28

ความคิดเห็นที่ 34   อยากบอกว่า สมน้ำหน้า ค่ะ เคิ๊กๆๆๆ จากคุณ : เพลงรักในสายลมหนาว เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 04:41:24

ความคิดเห็นที่ 35   เรื่องแต่งงาน เป็นเรื่องของความพร้อมทั้งสองฝ่าย.. แต่ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดไม่พร้อมขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ก็ไม่ควรจะบังคับจิตใจกันน่ะ คนสองคนน่าจะหันหน้าคุยกันด้วยเหตุผลว่าทำไม พร้อมกับช่วยกันแก้ปัญหา และหาทางออก ไม่ใช่ว่าเอาแต่ยื่นคำขาด ทำให้อีกฝ่ายหาทางออกไม่ได้ แบบนี้แต่งไปแล้ว มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ ในเมื่อคุณยังไม่คิดจะเข้าใจ ไม่คิดจะแก้ปัญหาร่วมกัน แล้วชีวิตคู่ก็จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความจำใจหรือเปล่า ?? จากคุณ : รักแรกฝังใจ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:55:55

ความคิดเห็นที่ 36   ขอถามต่อนะ 1.เปลี่ยนศาสนา(เป็นเรื่องใหญ่มาก) แล้วจะทำยังไง  จะพร้อมเมื่อไหร่  ปีหน้า 5ปี 10ปี 20ปี 2.สินสอด แล้วจะทำยังไง  จะพร้อมเมื่อไหร่  ปีหน้า 5ปี 10ปี 20ปี ผมว่าจะแต่งไม่แต่งไม่สำคัญเท่า คุณคุย คุณวางแผนอนาคต กับแฟนไว้ว่ายังไง หรือว่าตอบได้แค่ไม่พร้อม ???? จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 11:30:13

ความคิดเห็นที่ 37   ตอนคบกันไม่รู้เหรอว่าคนละศาสนา... สินสอด... ต่อรองสิ ถ้ารักกันจริง เค้าไม่เคี่ยวหรอก อ้างไม่พร้อม ไม่พร้อมๆๆๆ ก็ไม่พร้อมไปตลอดน่ะแหละ... 4 ปีแล้วนะ จากคุณ : ปลาทองตุบๆ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 14:10:37

ความคิดเห็นที่ 38   ตลอด4ปี ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลยใช่ไหม ถ้าเคยคิดคงจะมีอะไรพร้อมแล้วบางวันนี้ จากคุณ : วัยรุ่นเซ็ง วัยทองไม่เข้าใจ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 20:59:39

ความคิดเห็นที่ 39   เข้าใจ จขกท ค่ะ เราก็คบกับแฟนมาหลายปีดีดัก เค้าก็รบเร้าให้แต่งงานอยู่นั่นแหละ แต่ดิฉันไม่พร้อมค่ะ ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่อยากจะทำ ที่สำคัญกลัวการมีพันธะ เพราะแฟนขี้หึงค่ะ ไปๆมาๆเลยต้องเลิกกัน แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ส่วนอนาคตก็อีกเรื่องนึง จากคุณ : มานีมีตา เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 11:06:09 A:110.169.32.242 X: TicketID:171208

ความคิดเห็นที่ 40   เปลี่ยนศาสนา สำหรับผมมันเรื่องใหญ่จริง ๆ นะเนี่ย กลัวโดนขลิบละสิ ล้อเล่นนะครับ แต่สำหรับผมให้ตายยังไงผมก็ไม่เป็นศาสนาครับ จากคุณ : เขาว่าผมหน้าเหมือน จาพนม เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 16:30:03

ความคิดเห็นที่ 41   ทำไม่ต้องบังคับให้เปลี่ยนศาสนาตามเค้าด้วยก็ไม่รู้นะ เพื่อนก็แต่งกับคนอิสลามเหมือนกัน เค้าก็ยอมเปลี่ยน ตามแฟนนะ  แต่ก็ไม่เห็นเคร่งอะไรมาก  อาจจะเป็นคน สมัยใหม่ คืออาจจะเคร่งตอนอยู่ต่อหน้าครอบครัวภรรยา แต่ชีวิตประจำวันก็ตามปกติ  เห็นหมูก็กินนิ  แต่ก็ไม่รู้เรื่อง การนับถือของเค้าหรอก เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องที่ละเอียด อ่อนลงไปอีก  ส่วนเรื่องสินสอด  ก็คิดว่าน่าจะคุยกันได้นิคะ ในเมื่อรักกันจริง ก็เรียกกันตามฐานะ ตามที่มี  ไม่ต้องทำไร ให้เกินกำลัง   ตอนแต่งงานสามีถามว่าแม่เรียกสินสอดเท่าไร แม่ไม่เรียก  แล้วแต่จัดมาตามฐานะที่มี แต่ให้จัดการตามประ เพณีให้เรียบร้อย  ก็ได้มาเจ็ดหลักคะ  (เราไม่ได้อยู่กันก่อนนะคะ) คิดว่าถ้าคุณไม่มี แฟนคุณคงไม่ใจร้ายหรอกจะ  ถ้าจะต้องเลิก กันเพราะเรื่องสินสอดก็คงอีกเรื่องนึง จากคุณ : เลน่า เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 22:54:30

ความคิดเห็นที่ 42   คห 28 มองโลกในแง้ร้่ายเกินไปป่ะ จขกท เค้าก็บอกอยู่ทนโท่ ว่าเค้ายังไม่พร้อมที่จะแต่งเพราะมีสาเหตุอ่ะ อ่านซะซิ ไม่ใช่เค้าเห็นคนที่บ้านเป็นของตาย ให้ฟันฟรีซะที่ไหน เป็นคุณถ้าต้องเปลี่ยนศาสนาเปลี่ยนการใช้ชีวิตหลายๆอย่างในเวลา้ามคืนเนี่ย คุณจะไม่คิดล่วงหน้าเลยเหรอห๊า????? คุณนั่นแหละ คิดได้ไง มองโลกแคบจัง แต่อย่างว่า ข้ออ้างเฉิ่มๆ เพื่อจะเที่ยวEตัวอ่ะนะ....ก็ว่ากันไป จากคุณ : happy n luckly เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 22:27:38 A:115.131.197.56 X: TicketID:076993

ความคิดเห็นที่ 43   คิดซิครับ ผมคิดมา 4 ปีแล้ว  ช่วงที่คิด 4 ปี ก็ฟันฟรีไปเรื่อยๆ และมีข้ออ้าง  ก็ข้ออ้างอย่างที่    happy n luckly  ว่าแหละครับ     "ข้ออ้างเฉิ่มๆ เพื่อจะเที่ยว(ฟัน)Eตัว(ฟรี)อ่ะนะ....ก็ว่ากันไป" จากคุณ : ได้ฟรี ไม่ต้องรับผิดชอบ (phch) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:43:58