ความคิดเห็นที่ 1   รู้แต่ว่าถ้าทำแท้งก็จะเจ็บจะเสี่ยงต่อชีวิตนะค่ะ อันนี้ก็พอเข้าใจว่าไม่อยากให้เกิดมาเพราะยังไม่พร้อม ตอนโดนข่มขืนทำไมไม่ทานยาคุมฉุกเฉินเอ่ย? ทำแท้งมันก็ไม่ดีอะค่ะ เป็นอันตรายด้วย แต่ถ้าต้องทำ ก็ควรทำตั้งแต่อายุครรภ์อ่อนๆค่ะ จากคุณ : obo เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 19:23:55 A:124.122.166.184 X: TicketID:222477

ความคิดเห็นที่ 2 โดนขมขืนหรือท้องแล้วเค้าไม่เอาครับ เพราะถ้าโดนข่มขืนน่าจะแจ้งความ เพราะทาง รพ. เค้าจะให้กินยาคุมหลังพร้อมกันอาจจะตรวจว่าติดเอดส์หรือเปล่าด้วย อันตราย จากคุณ : เด็กขายก๋วยจั๊บ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 20:16:38

ความคิดเห็นที่ 3 ดิชั้นขอเถิดค่ะ อย่าได้พรากชีวิตเด็กคนนั้นไปเลยนะคะ กรรมของการทำอย่างนั้นจะทำให้คุณตกนรกขุมที่ลึกที่สุด ทำอะไรก็ไม่เจริญ รวมทั้งผู้ที่รู้เห็นด้วย บางทีวิญญาณเด็กอาจจะไปเกาะอยู่กับคนที่เป็นตัวต้นเรื่องจัดการให้ ดิชั้นกล้าบอกได้เลยค่ะว่าไม่เจริญแน่นอนถ้าทำอย่างนั้น ดิชั้นขอเถิดนะคะ ทำอย่างนั้นเหมือนกับเป็นการฆ่าคนๆหนึ่งเลยนะคะ คุณอย่าใช้ความเป็นตัวตนของคุณ ไปตัดสินชะตาชีวิตคนอื่นเลยนะคะ ดิชั้นเห็นมาเยอะแล้ว หรือคุณสามารถเปิดไปดูรายการตีสิบช่วงที่มีสัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ 21 ที่ผ่านมา ก็ได้ กว่าเราจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์นะคะ ถึงจะมีอะไรผิดพลาดไปบ้าง อยากให้คุณก้มหน้ายอมรับนะตรงนั้น ดีกว่าคุณยิ่งซ้ำเติมตัวคุณเอง ยิ่งถ้าคุณทำนะคะ รับรองว่าชีวิตคุณไม่เจริญแน่นอน ขอนะคะชีวิตเด็กคนนี้เก็บไว้เถิดค่ะ อย่าทำเค้าเลยนะคะขอร้องจริงๆ จากคุณ : Ms.Browneyes เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 21:54:15

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องแจ้งความก่อนค่ะ แล้วจะสามารถทำแท้งได้อย่างถูกกฏหมาย  แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยวิธีการทำแท้งและผลกระทบเองค่ะ จากคุณ : มิโนรุ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 22:58:38

ความคิดเห็นที่ 5 เราเห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 4 ค่ะ ว่าอย่าทำลายเด็กเลยค่ะ บอกเพื่อนของคุณให้ปรึกษาครอบครัวเถอะค่ะ อย่าคิดแก้ปัญหาแบบนี้เลย จากคุณ : In November เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 23:26:53

ความคิดเห็นที่ 6   ไม่เห็นด้วยกับ คห.3 ควรเอาออกครับ ไม่งั้นเด็กคนนี้เกิดมา ก็จะถูกตีตราว่า เป็นลูกที่เกิดจากการขืนใจ ยิ่งถ้าหน้าเหมือนพ่อ คิดว่าแม่จะทำใจได้ 100% หรอครับ ถ้าจะให้เกิดมาแบบนี้ อย่าดีกว่า สงสารเด็ก จากคุณ : เที่ยวตามใจ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 23:37:19

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเห็นด้วยกับความเห็น 6 นะ จากคุณ : โจ๋งครึ้ม เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 23:46:44

ความคิดเห็นที่ 8 ขำ คห.3 อยากหัวเราะให้อกแตก เสียจริงๆ ตื่นๆ ตื่นได้แล้ว มัวฝันอยู่ป่าวจ่ะ แม่นาง จริงๆนั้นคือความคิดคุณผมไม่ควรหัวเราะ จากคุณ : หนุ่มน้อยซาตาน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 52 23:52:50

ความคิดเห็นที่ 9 แจ้งความ แจ้งหมอ เอาเด็กออก ดีที่สุดครับ กม.รองรับอยู่แล้ว และลากตัว คนผิดมา ลงโทษ ขอขอบคุณ จากคุณ : rfu เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 00:10:07

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านความเห็นของคุณคห.สามที่บอกว่า อย่าใช้ความเป็นตัวตนของคุณ ตัดสินชะตาคนอื่น แล้วอดเกิดคำถามไม่ได้... ว่าแล้วความเลว หรืออาจจะแค่ความใคร่ชั่ววูบของชายสักคน...มันมีสิทธิมาทำให้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งต้องเปลี่ยนไปได้หรือ...หรือจะบอกว่านั่นคือชะตาของผู้หญิงคนนั้น? ในฐานะผู้หญิงหนึ่งคนบนโลกยุคนี้ เราพอจะนึกออกว่าการเลี้ยงเด็กสักคนมันต้องทุ่มเทอะไรขนาดไหน ต้องพร้อมขนาดไหน การจะบอกคนที่โดนข่มขืนให้เก็บไว้...ทั้งที่เจ้าตัวไม่พร้อมเนี่ย... อีกอย่าง เธอก็โชคร้ายมาแล้ว อย่าไปตอกย้ำแช่งชักประณามหยามเหยียดเธอซ้ำอีกเลยค่ะ คุณคห.สามอาจจะไม่ได้เจตนา แต่คำพูดมันฟังเป็นอย่างนั้นเลยในความรู้สึกเรา คิดถึงจิตใจเจ้าทุกข์หน่อย บอกว่าขอเนี่ย...จะช่วยรับเด็กน้อยคนนั้นไปเลี้ยงด้วยไหมล่ะคะ ถามใจคุณตรงนี้เลย อย่าลืมว่า "ผู้เสียหาย" ก็ไม่มีความผิดเหมือนกัน โดยส่วนตัวเราไม่เห็นด้วยกับการทำแท้ง แต่เราไม่เคยโดนอย่างเขาก็อย่าตัดสินเขาดีกว่า ไม่ว่าจะเลือกอย่างไร ขอฝากกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : atihasita เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 00:32:34

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเห็นด้วยกับการไม่ควรเอาเด็กออกครับ ในแง่กฏหมาย การทำแท้งเพราะการข่มขืนอาจจะถูกต้อง ทางจรรยาบรรณการแพทย์อาจจะไม่ผิดมาก แต่การทำร้าย1ชีวิตที่กำลังลืมตามาดูโลก เค้าไม่รู้ว่าตัวเค้าเองเกิดมาจากความรัก หรือ เกิดมาจากความรุนแรง สิ่งที่เค้ารู้คือ เค้ากำลังจะเกิดมาครับ ผมอยากจะให้ลองไปอ่านประวัติ ผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกคนนึงดูครับ เธอชื่อ โอปร่า วินฟรี่ เธอเกิดมาจากการโดนข่มขืนของแม่ และเมื่อเธอโตขึ้น เธอกองก็โดนข่มขืนอีก แล้ววันนี้ เธอเป็นผู้หญิงคนนึงที่ประสบความสำเร็จในชีวิต อย่างมากๆ เธอมีรายการทีวีที่คนดูทั้งโลก เธอมีนิตยสาร เธอมีมูลนิธิ เธอมีบ้านหลังใหญ่โตหลายๆที่ เธอมีเงินมหาศาล และเท่าที่ผมดูที่ดวงตาเธอ "เธอมีความสุข" ครับ ถ้าวันนั้นแม่เธอ เอาเธอออก จะเกิดอะไรขึ้น ผมคิดว่าแม่เธอไม่ได้สนใจว่าคนนี้คือลูกที่เกิดจากการความรัก หรือเกิดจากการข่มขืน แต่เด็กคนนี้คือ ลูกของแม่ ครับ ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ผมเป็นอีกคนนึง ที่ไม่สนับสนุนการทำแท้งครับ จากคุณ : ผู้น้อยน้อมคารวะ (ผู้น้อยน้อมคารวะ) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 01:12:23

ความคิดเห็นที่ 12   เกินไปนะ คห.3 คุณไม่ใช่เค้า ไปตัดสินใจแทนคนอื่นได้ไง ทำสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตตัวเอง ชีวิตเราเราเป็นเจ้าของค่ะ จากคุณ : ดา เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 01:16:15 A:114.128.192.239 X: TicketID:112403

ความคิดเห็นที่ 13 เพื่อนเราหลายคนที่ทำไม่มีคนไหนลำบากตอนนี้ส่วนมากจะแต่งงานแล้ว มีลูกกันบ้างแล้ว ลูกที่ทำไปตอนไม่พร้อมเขาก็ทำบุญให้ ซื้อพระไปถวายตามวัด จากคุณ : jsd_t เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 01:36:40

ความคิดเห็นที่ 14   คห.11 ครับ อยากทราบว่าในหมื่นคนเเสนคนเนี่ยมีกี่คนที่จะประสบความสำเร็จเเบบนั้นได้ครับ แม่ไม่พร้อมทำใจไม่ได้เกิดมาเเล้วเกิดความรู้สึกไม่รักลูก เด็กจะรู้สึกยังไงครับ เเล้วถ้าผู้หญิงอยากเเต่งงานมีครอบครัวผู้ชายจะรับได้ไหมครับว่ามีลูกติด ถูกข่มขืนก็เสียใจเเล้วอย่าให้ต้องมาช้ำไปอีกตลอดเลยครับ ไม่มีใครอยากให้ เอาเด็กออกหรอกครับเเต่ถ้าเกิดมาแล้วเหมือนตายทั้งเป็นเพราะแม่ไม่รัก รึโดน ด่าว่าเกิดจากการโดนขมขืนคุณคิดว่าเด็กเองจะรู้สึกยังไงครับ จากคุณ : evil_woman เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 01:59:29

ความคิดเห็นที่ 15 คุณคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนที่จะรับผู้หญิงที่โดนข่มขืน แล้วมีลูกติดมาเป็นภรรยาครับ จากคุณ : nickvp เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 03:09:47

ความคิดเห็นที่ 16 video.mthai.com/player.php?id=6M1244607569M0 ริวจิตสัมผัส จากรายการตีสิบ รับดูดวงชะตาเพื่อช่วยแก้ปัญหาชีวิตฟรี เปิดเผยจากสถิติว่า มีหญิงจำนวนมากที่ทำแท้ง เห็นวิญญาณตามรังควาญเจ้าตัว เป็นที่น่าสลดใจ ยุคนี้ลูกไม่มีพ่อไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ต่างคนต่างขวนขวายทำมาหากินไม่มีใครสนใจใคร เพียงแค่เราไมได้ปั้นเรื่องไปหลอกสังคม ไม่มีใครเขาสนใจ จับตามอง DNA ของใครก็ช่าง ยังไงเสีย ลูกก็คือลูก .. ทีบางคนไม่มีลูก ยังสรรหาขอลูกคนอื่นมาเลี้ยง เราเลี้ยงเขาให้เติบโตขึ้นมาได้ ตามอัตภาพ ไม่ถึง 20 ปี เขาก็มีหนทางเดินของตัวเองแล้ว ถือว่าเมตตาโปรดคนเอาบุญ ยังดีกว่าฆ่าชีวิตบริสุทธิ์ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 03:24:02

ความคิดเห็นที่ 17 เขาว่า บาปที่สุด ในการไปทำแท้งเอาเด็กออก แต่กรณีนี้ ก็ต้องปรึกษาผู้ใหญ่ เพราะท่านให้คำแนะนำที่ดีต่อเราได้เสมอครับ จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 05:33:42

ความคิดเห็นที่ 18 จะมีเด็กตามมาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับจิตอาฆาตของจิตดวงนั้น และความผูกพันของเขากับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ไม่เหมือนกันทุกราย การทำแท้งมีความเสี่ยง ถ้าอยากทำอย่างปลอดภัย ก็ไปแจ้งความ และต้องมีสถานการณ์ที่ทำให้เชื่อได้ว่า ถูกข่มขืนจริง ไม่ได้สมยอม ไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการข่มขืน แล้วทำแท้งตามกระบวนการ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 08:02:21

ความคิดเห็นที่ 19 ผมเชื่อทุกความเห็นมีความปราถนาดีกับผู้ถาม แน่นอนการตัดสินใจเป็นของผู้ถาม ตอนนี้มีทางเลือก ๒ทาง ๑.เสี่ยงกับบาปที่ต้องฆ่าชีวิตของเด็กที่เกิดมาแล้ว(เพียงแต่ยังไม่คลอด  ในทางศาสนาถือว่าเขาเป็นชีวิตแล้ว) และบาปของการฆ่าชีวิตคนหนักแน่นอน อาจเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต และเสี่ยงต่อกระบวนการทำแท้งด้วย ๒.หากศึกษาเรื่องจิตปัญญา และแม้แต่วิทยศาสตร์ยุคใหม่ เช่น NeoPhysics ก็ยอมรับว่า ไม่ว่าสิ่งใดๆที่เกิดขึ้น ไม่มีบังเอิญ มันต้องมีเหตุปัจจัยมาก่อน เพียงแต่เราไม่รู้ทั้งหมด หากยอมรับว่าเราต้องมีเหตุ(วิบากกรรม)ที่เราอาจทำไว้ในอดีตชาติ จึงต้องมาเป็นเรา แต่ไม่ใช่การยอมจำนนกับกรรมเก่า แต่หน้าที่เราคือสร้างกรรมใหม่ที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพิ่มกรรมใหม่ที่เลวร้ายอีก ทางสังคมจะดำเนินคดีก็ว่ากันไป แต่หากประเมินว่า พอมีความเป็นไปได้ ที่เราจะรักษา เลี้ยงดูลูกของเราต่อไปได้ โดยไม่สนใจว่าใครคือ พ่อเด็ก ทำให้ดีที่สุด และไม่แน่ว่าเด็กคนนี้อาจเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณค่าในสังคมก็เป็นไปได้ ด้วยความรัก เมตตา กรุณาของคุณ จากคุณ : เห็นใจ เข้าใจ (kaan) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 08:31:51

ความคิดเห็นที่ 20 ลองสมมุติ หากเป็นตัวเราเอง ที่ถูกกระทำ และ ตั้งท้อง เราคงรับไม่ได้นะ ไม่ว่าเราจะพร้อม ไม่พร้อมก็ตาม แม้จะรู้สึกเมตตาเด็กแต่เราคงทนไม่ได้ที่จะเลี้ยงเค้า อุ้มท้องเค้า โดนที่เราไม่ต้องการ ไหนจะสังคมตราหน้า มันมีแน่ปฏิเสธไม่ได้แม้เราไม่ผิด ไหนจะอนาคตทั้งการงาน ทั้งความรัก จะมีผู้ชายคนไหนยอมรับผู้หญิงที่ถูกข่มขืนซ้ำยังมีลูกติดมา คงมีค่ะ แต่เราจะได้เจอเค้ารึเปล่า ผู้หญิงต้องการความมั่นคงในชีวิต เรื่องเพ้อฝันจะมีเจ้าชายมายอมรับเธอ แน่นอนคงฝัน แต่เอาเค้าจริงเธอคงไม่รอ ชีวิตที่ต้องอยู่ด้วยตัวเอง ไม่มีคู่ประคับประคอง แถมต้องเป็นไม้หลักแก่เด็ก 1คน มันหนักเกินสำหรับเรา แจ้งความ และ ปรึกษาแพทย์ค่ะ   คนผิดไม่ใช่เรา แต่เป็นไอ่คนชั่วที่กระทำเราต่างหาก ฝาก จขกท ไปให้กำลังใจเพื่อนด้วยนะคะ ต้องเข้มแข็ง เรารู้ ครอบครัวเรารู้ คนที่รักเรารู้ อย่าไปแคร์เสียงพวกคนไม่รักเราเลยค่ะ แคร์คนที่เราควรแคร์ดีกว่า เราผ่านมันได้ พรุ่งนี้มันก็แค่อดีต เราจะลืมมันเพราะมันไม่มีอะไรให้น่าจดจำ จากคุณ : เข้มแข็งไว้นะ ก้าวผ่านมันไป (unDerground_fAiry) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 08:54:18

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง  ก็ขอเอาใจช่วยนะคะ  ขอให้ก้าวข้ามปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยดี  และขอให้เพื่อนคุณใช้ชีวิตด้วยความเข้มแข็งต่อไป  สู้ๆค่ะ จากคุณ : ใจตัวเองห้ามยากที่สุด เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 08:54:34

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกะ คห.4 ค่ะ อย่าให้เค้าเกิดมาเลย ถ้าไม่พร้อม มันจะบาปก่านะ จากคุณ : MeaoNoi เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 09:01:16

ความคิดเห็นที่ 23 คือเราก็ไม่เห็นด้วยกับการเอาเด็กออก แต่ใครจะรู้เท่าคนเป็นแม่ ว่า พร้อมหรือไม่ ทั้งร่างกาย-จิตใจ-ทุนทรัพย์ที่จะเลี้ยงดู  เพื่อนคุณต้องเป็นคนตัดสินใจ เท่าที่ทราบกรณีนี้ แจ้งความ - ปรึกษาแพทย์ เค้าก็ทำให้นะคะ (ในทางลับ) ขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนคุณด้วยนะคะ และขอเป็นกำลังใจ ให้เดินหน้าสู้ชีวิตต่อไปนะคะ ตราบใดที่ กม.ยังคำนึงถึงแต่ สิทธิมนุษยชน ของไอ้พวกชั่วพวกนี้ คนดีดี ก็อยู่ท่ามกลางอันตราย แบบนี้ตลอดไป แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 52 10:13:24 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 52 10:12:39 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 52 10:09:56 จากคุณ : poo-k เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 09:58:20

ความคิดเห็นที่ 24 ติดต่อมูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้หญิง แม่และเด็กกำพร้า เขาจะดูแลแม่จนถึงวันคลอด เซ็นชื่อยกให้มูลนิธิไป มีคนต้องการรับบุตรบุญธรรมอีกมาก ไม่ทราบชื่อ ถามมาจะหลังไมค์ไปให้ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 52 10:40:44 จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 10:40:18

ความคิดเห็นที่ 25   ตอบยากคะ ถ้าใครไม่โดน ก็คงไม่รู้...   ทำแล้ว คุณก็เหมือนมีชะงัก อยู่เบื้องหลัง ทั้งชีวิต คุณก็จะรู้สึกผิด ไปตลอด  แต่ถ้าไม่ทำ  ลูกที่เกิดมา และตัวคุณบอกว่าไม่มีปัญญาเลี้ยง ก็อาจจะ กลายเป็นปัญหาสังคม... แต่ก็ไม่แน่นอนคะ เคยอ่านเจอ กรณีคล้ายๆกัน เค้าเก็บเด็กไว้ และหลังจากวันนั้น ลูกคนนี้ คือทุกสิ่ง ทุกอย่างของ ชีวิต ที่ทำให้เค้าต่อสู้ในโลกใบนี้ต่อได้ ปล. ควรบอกผู้ใหญ่ เพื่อหาทางแก้ไข นะคะ เพราะการเอาเด็กออก บางรายก็ไม่รอด ทุกปัญหา แก้ได้.. อย่าคิดว่า คุณอยู่คนเดียว จากคุณ : วันฉันยังยิ้มได้ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 11:27:40

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นใจ  เข้าใจ  แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร การทำแท้ง...เป็นบาป  ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากอะไร เราก็คงหนีไม่พ้นว่า  บาปมาก  และเป็นบาปที่มากที่สุดของชาวพุทธ และไม่ว่าคุณจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถลบล้างได้  อย่าได้ไปหลงผิด หลงเชื่อพวกตัดกรรม  ทำแท้ง  เพราะบุญและบาปมันคนละส่วนกัน สิ่งใดที่คุณทำไปแล้ว  คุณย่อมย้อนเวลาไปแก้ไขไม่ได้ฉันท์ใด บาปก็เป็นฉันท์นั้นแหละค่ะ แต่การปล่อยให้เด็กเกิดมาท่ามกลางความไม่พร้อม ก็น่าหนักใจไม่น้อย  เพราะอนาคตเด็กอาจไม่ได้สวยงาม  ประสบความสำเร็จ อย่างที่หลาย คห.ยกตัวอย่าง  เพราะนั่นมัน 1 ในหมื่นหล่ะมั๊ง ส่วนแม่  การถูกข่มขืนก็เป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตเค้าอยู่แล้ว  ยังมีเด็กออกมายืนยันความเจ็บปวดนั้นอีก   มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้า  คายไม่ออก เพราะเด็กก็คือ ลูก  ซึ่งปกติมนุษย์จะรักและหวงแหนลูก แต่ไม่รู้ว่าแม่จะทำใจยอมรับเด็กได้หรือไม่ . จากคุณ : Makit เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 13:40:51

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่เจอกับตัวเองตอบยาก แต่จะเลือกยังไง ก็เป็นกำลังใจให้ละกันค่ะ จากคุณ : Luna is da Moon เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 14:39:31

ความคิดเห็นที่ 28   อืม ตอบยากมากคะ เราแนะนำให้ไปแจ้งความและทำตามขั้นตอน ทางกฎหมายดีที่สุดคะ แต่เราไม่เคยเห็นด้วยเลยกับการทำลายชีวิตเด็ก แต่ในกรณีนี้เราขอ ไม่ออกความเห็น เราเองก็มีลูก เพิ่งจะ 3 เดือนเอง เราสงสารเด็กคะ เพราะเด็กแต่ละคนปฎิสนธิมาแค่ 3 สัปดาห์ก็มีหัวใจเต้นแล้ว เมื่อเค้า ปฎิสนธิแล้ว เท่ากับว่าเค้ามีชีวิตแล้ว คิดดูให้ดีก็แล้วกันนะคะ จากคุณ : Lilly เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 14:55:35 A:203.147.45.116 X: TicketID:146866

ความคิดเห็นที่ 29 ผมคิดว่าความรักของแม่ทุกคน เลี้ยงลูกได้ 100% ต่อให้ยากจนไม่มีอันจะกินก็ตาม ถ้าหากมันเป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับแม่ท่านนี้ ถ้าเด็กออกมาแล้ว ตั้งกระทู้หาคนอุปการะ คุณคิดว่าสมาชิก pantip จะช่วยไหม ? ผมเชื่อว่ามีคนช่วยนะ ถึงตอนนั้น ความรู้สึกมันจะแยกออกจากกันเป็นสองส่วน ระหว่าง .. 1.  เรื่องแม่ถูกข่มขืน เป็นเรื่องเก่าที่ผ่านไปแล้ว ไม่กลับคืนมา และไม่ควรนำมาฉายซ้ำ 2.  เด็กน่ารักน่าเอ็นดู (ปัจจุบัน) เป็นของขวัญวิเศษ ชิ้นใหม่ถอดด้าม ในอ้อมกอดของผู้มีจิตเมตตา และพร้อมที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต อย่าให้มีความความคิดซ้ำเติมใจตัวเองแบบ #25 ครับ มันไม่สร้างสรรค์กับตัวเองเลย เรื่องราวเก่าๆ ก็คือคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว แต่ลูกก็คือลูก เขามาแบบผ้าขาวบริสุทธิ์ ไม่แน่ว่าสักวัน เด็กคนนี้อาจจะกลายเป็นคนสำคัญ ที่มีบทบาทในสังคมก็เป็นได้ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 16:24:24

ความคิดเห็นที่ 30   การเอาเด็กออก  ถึงเป็นบาป มหัน เลยละค่ะ ขอเถอะค่ะ  แค่คิดก็บาปแล้วค่ะ จากคุณ : MCO เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 16:24:40

ความคิดเห็นที่ 31 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้เล่าถึง หญิงที่ทำแท้งแต่ไม่ต้องตกนรกว่า ในนรก ระหว่างไตร่สวนวิญญารหลวงพ่อก็อยู่ด้วย นายนิรบาลนำวิญญาณหญิงรายนึงที่ทำแท้งมา เธอได้ท้องกับพี่เขย เพราะพี่สาวตั้งท้องอยู่เลยให้พี่เขยมุดมุ้ง พอท้องก็เลยไปทำแท้ง ปกติเธอเป็นคนดีอยู่แล้ว พอไปทำแท้งก็สำนึกผิด บวชพระ บวชเณร ให้เด็กทุกปี พอตายวิญาณมานรก พญายม ก็เรียกวิยญาณเด็กมาถามว่าโกรธไหม เด็กบอกไม่เอาความ วิญญาณหญิงคนนั้นเลยได้ไปสวรรค์แทน จากคุณ : fairport เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 18:17:40

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ผมจะช่วยแต่งเรื่องต่อ พล็อตเรื่องอีกแนวหนึ่ง ................ หญิงคนนั้นแรกๆ ก็รู้สึกผิด อยากจะทำบุญแต่ติดที่ลางานไม่ได้ ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ  เนื่องจากหน้าตาสวย มีหนุ่มมาจีบเยอะ ก็เลยตกลงปลงใจแต่งงานกับชายคนหนึ่ง นานเข้า ก็เลยลืมเรื่องการทำบุญให้ลูกไป หญิงคนนั้นมีความสุขกับชีวิตคู่ แต่วิญญาณเด็กที่ทำแท้ง เห็นว่าตัวเองเหงาอยู่คนเดียว ไปเกิดใหม่ก็ไม่ได้ เพราะยังไม่หมดอายุขัย ที่ถูกกำหนดไว้ก่อนจะเกิดไว้ถึง 45 ปี แต่แม่ของเขา กลับอยู่กับแฟนอย่างมีความสุข  ก็เลยน้อยใจ + แค้น เขาตามจองเวรแม่ ที่ไม่ได้สนใจทำบุญให้เขา ต้องอยู่อย่างอดอยาก นับจากนั้น สองสามีภรรยาก็เริ่มมีปากเสียงกัน ร้อนบ้าน อยู่ไม่เป็นสุข แปลกอีกอย่างคือ แต่งงานกันไปแล้วไม่มีลูกสักที ไปหาหมอก็ทราบว่ามดลูกมีปัญหาจากการทำแท้งครั้งนั้น สามีรู้ก็ยิ่งไม่พอใจ หมางเมินกัน แต่ในที่สุดก็มีลูกจนได้ วิญญาณเด็กคนแรก รู้สึกอิจฉาน้อง ที่ได้มีโอกาสเกิดเป็นคน เลยตามแกล้งให้เด็กทารกป่วยออดๆ แอดๆ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น กลางคืนก็ร้องไม่หยุด คุณหมอเรียกอาการนี้ว่า "โคลิก" เรื่องราวที่สับสน อาจจะยังคงดำเนินไป จนครบช่วงเวลาอายุขัยของเด็กที่ถูกทำแท้ง ตราบใดที่เขายังไม่ปล่อยวางแรงอาฆาต และได้รับบุญกุศลเพียงพอ ที่จะใช้เป็นทุนให้ไปเกิดชาติใหม่ได้ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 19:05:23

ความคิดเห็นที่ 33   ขอคิดแบบดิบๆละกัน ไม่เอาเรื่องสมมติ ไม่เอาสิ่งที่มองไม่เห็น ชาติก่อน ชาติหน้า บาป บุญ สวรรค์ นรก เอาเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆในตัวเธอ ในใจเธอ ถูกใครข่มขืน โจร คนแปลกหน้า เพื่อน แฟน ญาติ ความรู้สึกที่จะติดลึกในใจเธอ จะอยู่ตลอดไป จริงมั้ย? ใครคนอื่นรับรู้ความรู้สึกนี้ด้วยมั้ย? แม้แต่คนที่บอกว่าเข้าใจ เธอจะเลี้ยง จะป้อนนม จะห่วยใย จะอบรม จะดูแล ทนุทนอมเด็กคนนี้โดยไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดในหัวใจอีกด้านที่เกิดขึ้นทุกครั้งพร้อมๆกันได้มั้ย? ตอนนี้อายุครรภ์เท่าไหร่ เด็กมีความรู้สึกนึกคิดเป็นคนหรือยัง ถ้าทำแท้งจะอันตรายกับแม่มั้ย? ชีวิตเรา ต้องตัดสินใจเอง สำคัญอยู่ที่ตอนตัดสินใจต้องมีสติ ไม่ใช่ตัดสินใจด้วยความเศร้าหรือความกลัวหรือความเชื่อหรือความเกรงใจหรือความไม่รู้... ทำใจนิ่งๆ ทำบ่อยๆ แล้วจะได้คำตอบเอง แต่อย่างช้ามากเพราะเด็กโตทุกวัน ขอให้เพื่อนคุณโชคดี และเสียใจด้วยจริงๆกับความทุกข์ครั้งนี้ จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 19:58:59 A:58.64.71.247 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 34   ตามกมไทย. คนมีชีวิต เมือคลอดออกมาแล้วอยู่รอดเป็นทารก ดังนั้น ยังไม่คลอด ยังไม่มีชีวิตค่ะ ถ้าคิดมาก สเปริม ก็มีชีวิตแล้วคุณ ถ้าไม่อยากเห็นเค้าของคนที่ข่มขืนคุณ ก็อย่าเก็บตัวอ่อนไว้ค่ะ จากคุณ : ตาน เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 20:13:27 A:94.225.25.167 X: TicketID:019698

ความคิดเห็นที่ 35 จากคห.ที่สาม ใครจะด่าจะว่า หรือ หัวเราะเยาะเรา เราก็ยินดีน้อมรับและไม่โกรธค่ะ และเราก็มีเจตนาดี ไม่ได้คิดที่จะตอกย้ำกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่จขกท.เล่ามาเลย ขอผู้ที่อ่านแล้วเกิดอารมณ์โมโหหรืออะไรเราต้องขอโทษด้วยนะคะ บางทีเราควรกรองคำพูดให้ดีกว่านี้ แต่เจตนาจริงๆ เราสงสารอีกหนึ่งชีวิตอ้ะค่ะ และเราก็เห็นใจเคสของ จขกท.เช่นกันค่ะ แต่เราว่ามันน่าจะมีทางออกอื่นที่ดีกว่านี้อ่ะค่ะ และเราแค่ไม่อยากให้คนสมัยนี้คิดว่าเรื่องทำแท้งเป็นเรื่องที่ควรจะเอามาเป็นช้อยเวลาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเพราะ มันคือการฆ่าผู้บริสุทธิ์ ฆ่าคนๆนึง.. สุดท้ายนี้ใครจะหาว่าดิชั้นตกอยู่ในภวังหรืออะไรก็แล้วแต่ .. ถ้าคำพูดที่พูดไปมันจะทำให้ชีวิตของคนๆนึงได้ลืมตาขึ้นมา ดิชั้นก็ยอมโดนด่าโดนประนาม หรือ แม้แต่ถอดถอนชื่อดิชั้นออกไป ดิชั้นก็พูด กล้าทำ กล้ารับ เชื่อมั่นในสิ่งที่ดีค่ะ ดิชั้นขอภาวนาให้คุณจขกท.เลือกทางที่ดีที่สุดที่เป็นทางที่ถูกต้องตามศีลธรรมนะคะ และดิชั้นขออโหสิกรรมจากทุกๆท่านด้วยนะคะ (-/\-) จากคุณ : Ms.Browneyes เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 22:45:18

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าเลี้ยงเค้าไม่ได้ดี ก็อย่ามีเลยค่ะ มันจะเป็นปัญหาสังคม และตัวเด็กตามมาอีกค่ะ จากคุณ : yaisom เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 22:53:19

ความคิดเห็นที่ 37 สงสัยว่าทำไมวิญญาณเด็กต้องตามแต่แม่ล่ะ ถ้าทำแท้งมันจะต้องล่มจม ก็ต้องล่มจมกันทั้ง พ่อ ทั้งแม่ นั่นแหละ ไม่ใช่จะมาโกรธแต่แม่คนเดียว เราสนับสนุนให้ทำแท้งนะ ถ้าไม่พร้อมก็ทำแท้งไปเถอะ แต่ว่าปรึกษาหลายๆฝ่ายให้ดีๆก่อนนะคะ อย่าตัดสินใจผลีผลาม บางทีผู้ใหญ่อาจจะมีทางออกที่ดีให้กับเราก็ได้ แต่ถ้าเราเป็นผีเด็ก เราก็คงอยากเกิดเป็นเด็กที่มีครอบครัวอบอุ่น มากกว่าเกิดเป็นเด็กที่ถูกทิ้งขว้าง บางทีอาจต้องเป็นเด็กกำพร้า ฯลฯ ถ้าต้องเป็นอย่างนั้นขอเกิดเป็นหมาทีเจ้าของรักเหมือนลูกเหมือนหลานดีกว่า จากคุณ : Fah4fuN เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 23:42:35

ความคิดเห็นที่ 38 สัตว์โลกทุกชนิดรักชีวิตเหมือนกันหมด รู้จักเอาตัวรอด มีแต่คนสิ้นคิดเท่านั้น ที่คิดฆ่าตัวตายทั้งๆ ที่การต่อสู้ยังไม่เริ่ม การทำแท้ง ฝ่ายผู้หญิงจะบาปกว่าผู้ชายครับ เพราะลูกตัวเองอยู่ในท้อง ห่อหุ้มด้วยถุงน้ำคร่ำ กันกระแทกอย่างดี คนเป็นแม่ ก็ยังเอาไปให้เขาฆ่าได้ลงคอ ถือว่ารู้เห็น สมยอม และเจตนากับการฆ่าครั้งนั้น บาปกรรมที่เกิด ยังส่งผลไปถึงคนที่สนับสนุน ทั้งคำปรึกษา และคนช่วยออกเงิน/ให้ยืมเงินด้วยเช่นกัน เมื่อเขาถูกริดรอนสิทธิในการมีชีวิตอยู่ จากการตัดสินของศาลเตี้ยของแม่คนนี้ แน่นอนว่าการอุทธรณ์ คิดบัญชี เรียกร้องความเป็นธรรม ก็ไม่พ้นคนเป็นแม่ และคณะผู้ร่วมพิพากษาทั้งคณะ เด็กเกิดมาแล้ว ถ้าไม่คิดจะเลี้ยง ยังพอมีผู้มีจิตเมตตาจะช่วยเหลือ แบ่งเบาได้ แต่ถ้าเป็นบาปกรรมที่เกิดจากการฆ่า มันสุดวิสัยที่ใครจะมาช่วยแบ่งปัน ใครทำก็ต้องรับเอาเอง ========================================== .. ถ้าตอนนั้นแม่ของเขาทำแท้ง ณ วันนี้ เราอาจจะไม่มีโอกาสได้สวดพระคาถาชินบัญชรก็เป็นได้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ... ลูกไม่มีพ่อ ... จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:33:49

ความคิดเห็นที่ 39 VDO ตัดเนื้อหาจาก #16 รายการตีสิบ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:35:09

ความคิดเห็นที่ 40 อ่า เราไม่ได้โมโหคุณคห.สามนะคะ แค่เรารู้สึกว่า คุณพูดแรงชะมัดเลยเว้ย คุณทั้งกล้าบอก ทั้งรับรองว่าถ้าเขาทำแท้ง ไม่เจริญแน่ คิดถึงใจคนโดนข่มขืนแล้ว บอกตรง ๆ ไม่อยากให้เขาได้มาอ่านความเห็นคุณเลย ... ถึงจะเจตนาดีแค่ไหน แต่วิธีการ ไม่สื่อค่ะ คุณพูดแรงขนาดนั้น รังแต่จะกดดันให้เขาจำยอมรับตราบาปนี้สุด ๆ เราอยากให้เขาเก็บเด็กไว้นะ แต่ก็อยากให้เก็บด้วยความรู้สึกที่ดี มากกว่าเก็บเพราะกลัวบาปกลัวชีวิตจะตกอับค่ะ มันต่างกันมากนะคะทั้งสำหรับตัวเขาและตัวเด็กด้วย บอกตรง ๆ เราคิดว่าถ้าเขาเก็บเด็กไว้เพราะคำพูดของคุณ สักวันเด็กคงคิดว่า แม่ไม่น่าให้หนูเกิดมาเลย...มันจะเป็นปมทั้งกับเขาทั้งกับเด็ก เก้าเดือนที่ต้องอุ้มชีวิตหนึ่งไว้ในพุง อีกอย่างน้อยสิบแปดปีที่ต้องเลี้ยงดูหนึ่งชีวิต-ปากท้อง การศึกษา ความเป็นอยู่ ฯลฯ รูปร่างที่ต้องเปลี่ยนไปจากการคลอดลูก วิถีชีวิตที่ต้องเปลี่ยนไปจากการเลี้ยงลูก อิสระที่หมดไปเพราะความซวยชั่ววูบ โอกาสในชีวิตตลอดจนหน้าที่การงานที่อาจได้รับผลกระทบ หากคนรอบข้างไม่เข้าใจ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล-สภาพจิตใจที่อาจเสียหายจากขี้ปากและความอยากรู้อยากเห็นของ "ชาวบ้าน" และหลายสิ่งหลายอย่างที่อาจเกิด ขนาดคนแต่งงานแล้วจะมีลูกยังต้องวางแผนให้ดี นี่อยู่ ๆ โดนเสกเด็กเข้าท้องแบบ... อยากให้ลองคิดถึงแง่มุมต่าง ๆ เหล่านี้บ้าง และถามใจกันตรง ๆ ว่าถ้าอยู่ดี ๆ โดนข่มขืนและอีกหนึ่งเดือนให้หลังประจำเดือนคุณขาด...ทั้งที่ไม่พร้อมเลี้ยงเด็กหนึ่งคนแน่นอน ...เราไม่ตำหนิเขากับสิ่งที่เขาจะเลือกทำ เพราะต่าง ๆ เหล่านี้แหละ... เราอยากให้เขาเข้มแข็งให้มากแล้วเก็บเด็กเอาไว้ แต่จะไปกดดันเขาก็ใช่ที่ เราเห็นว่าคุณเจตนาดีนะคะ แต่อยากให้คุณพูดอะไรด้วยความ "เห็นอกเห็นใจ" คนอื่นกว่านี้นี๊ดส์นึง เพื่อให้เจตนาที่ดีนั้นส่งผลในทางสร้างสรรค์ค่ะ จากคุณ : atihasita เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:41:31

ความคิดเห็นที่ 41 ปล. หวังใจว่าความเห็นในคห.๒๔ จากคุณแม่น้องหยง จะเป็นทางเลือกที่เพื่อนคุณจขกท.พิจารณาค่ะ จากคุณ : atihasita เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:44:56

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าแม่คนไหนคิดจะทำแท้ง ผมอยากให้เก็บรักษาไว้ก่อน เลี้ยงเขาจนถึงเวลาหย่านม แล้ววันนั้นค่อยถามตัวเองว่า ... ถ้ามีคนมาขอซื้อ เด็กคนนี้ คุณจะขายเท่าไหร่ ? แล้วลองไปถามคนเป็นแม่ อีกหลายๆ คน "เขาจะขายกันราคาเท่าไหร่" คำตอบก็คงประเมินมูลค่าไม่ได้ .. เพราะมันเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดของคนเป็นแม่ มันแพงถึงขั้นที่คนเป็นแม่ ยอมเอาชีวิตเข้าแลกเลยทีเดียว จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:45:12

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ ถ้าเป็นเด็กจากความรักความตั้งใจ แน่นอน เรารักเราหวง ประเมินเป็นมูลค่าเพื่อขายไม่ได้หรอกค่ะ ชีวิตของเรายกให้เค้าได้ แต่ กรณี นี้ ผู้หญิง คนหนึ่ง ถูกข่มขื่น เธอไม่ได้ยินยอม เธอไม่ได้รัก เธอไม่สมัครใจ เธอถูกยัดเยียด!!!   แล้วเกิดเรื่อง คือ ท้องจากการข่มขื่น .. .. .. เห็นแก่เด็ก แล้ว ลอง เห็นแก่ผู้หญิงที่โดนกระทำหน่อยสิค่ะ จากคุณ : unDerground_fAiry เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 04:54:01

ความคิดเห็นที่ 44 เด็กคนนั้นเขามีความผิดอะไร ??  เขาก็ถูกยัดเยียดความตายเหมือนกัน เขาไม่ใช่อาชญากรร้ายแรง เขามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ ถ้าแม่เขาไม่คิดจะเลี้ยง ก็ติดต่อมูลนิธิตาม #24 ขอให้นึกว่าทำบุญ 9 เดือน มอบชีวิตให้เด็ก จากนี้ไป ทั้งชาติจะไม่ไปให้เด็กเห็นหน้า ก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่ผมเชื่อว่าเด็กกำพร้าทุกคน อยากเห็นหน้าคนเป็นพ่อแม่ เรื่องข่มขืนที่เป็นอดีต มันผ่านไปแล้ว ไม่ควรเอามาฉายซ้ำ ทำร้ายใจตัวเอง ส่วนเด็กเขาก็มีชะตาชีวิต มีอนาคตของเขา พ่อแม่ ไม่อยากเลี้ยง ก็มีคนยินดีที่จะเลี้ยง ให้เขากลายเป็นคนดีในสังคมได้ ตามตัวอย่าง ในความคิดเห็นที่ 11, 38 จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 09:01:45

ความคิดเห็นที่ 45 ดิชั้นไม่เห็นด้วย   ว่าการทำแท้งผู้เป็นแม่บาปกว่าผู้เป็นพ่อ มันเป็นตรรกะที่ดู... พิลึก ... มาก ยิ่งหญิงท้องจากการข่มขืนด้วย จะบอกได้อย่างไรว่าพ่อเด็กผิดน้อยกว่า มันผิดมากเหรอที่มดลูกมันดันมาเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของผู้หญิง ถ้าอย่างนั้นคนเราก็ต้องกตัญญูต่อแม่  มากกว่าพ่อหน่ะซิ แต่ถึงอย่างไร  ดิชั้นก็ไม่อาจตัดสินได้ว่า  ทางไหนที่หญิงคนนี้ควรเลือก แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 12:54:53 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 12:53:43 จากคุณ : Makit เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 12:49:11

ความคิดเห็นที่ 46 ดิชั้นไม่เห็นด้วย   ว่าการทำแท้งผู้เป็นแม่บาปกว่าผู้เป็นพ่อ มันเป็นตรรกะที่ดู... พิลึก ... มาก ไม่พิลึกครับ ... เพราะทุกอย่างอยู่ในดุลพินิจของฝ่ายผู้หญิง และต้องให้ฝ่ายหญิงยินยอมถึงทำได้ การทำแท้ง ใช่ว่าจะมีคนใจบาปหน้าไหน มาใช้กำลังเข้าจับมัดพันธนาการแล้ว ก็ฆ่าลูกในท้อง ล้วนแล้วแต่แม่เด็กเป็นผู้สมยอมทั้งสิ้น วิญญาณเด็ก จะติดตามแม่เขาไปตลอด จนกว่าจะอโหสิกรรมต่อกันได้ ซึ่งก็ไม่ง่ายนัก ส่วนกรรมของฝ่ายผู้ชาย เขาก็ต้องรับเหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นฝ่ายเสนอให้ทำแท้ง หรือสนับสนุนด้วยเงินทอง ไปส่งทำแท้ง ก็รับไปมากหน่อย จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 13:42:44

ความคิดเห็นที่ 47 จะลองแยกแยะเป็นคู่กรณี 2 ส่วนนะครับ แบบแรกฝ่ายพ่อ-แม่ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 13:54:21 จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 13:53:29

ความคิดเห็นที่ 48 ภาพประกอบ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 13:56:14

ความคิดเห็นที่ 49 ส่วนที่สอง ระหว่างเด็กกับแม่ของเขา ถ้าแม่ของเขายอมเลี้ยงลูกต่อ ก็จะเกิดเป็นบุญคุณต่อกัน วันข้างหน้า เด็กคนนี้อาจจะกลับมากตัญญูต่อผู้เป็นแม่ หรือถ้าเลี้ยงไปแล้ว เด็กเขาไม่เป็นคนดี จะตัดหางปล่อยวัดก็ยังไม่สาย ถ้าคิดว่าทำแท้งแล้วสบายใจ คิดผิดครับ มันจะเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต ในใจก็จะระแวงตลอด กลัวจะอับอายถ้าใครรู้ วิญญาณเด็กก็จะตามอาฆาตไปตลอดชีวิต และจะส่งผลช่วงกลางๆ ของชีวิต ทางออกที่เหมาะสมคือ ต้องยอมรับกับมัน แล้วต่อสู้ไปข้างหน้า อย่างน้อย ถ้ามีคนมาชอบ เขารับได้กับตรงนี้ ก็ถือว่าเราได้คบกับคนดี ไม่ต้องคอยระแวงว่าเขาจะตีจากภายหลัง จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 14:07:48

ความคิดเห็นที่ 50 ทำแท้งลงไป จะกลายเป็นประวัติเลวร้ายติดตัวไปตลอดชีวิต เลี้ยงเอาบุญไปสักพัก แล้วถวายให้กับพระศาสนา ได้บุญสองต่อเลยนะครับ ถ้าไม่รังเกียจจะแสดงตัว ผมก็ยินดีช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 14:13:00

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ atihasita คะ เราไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าเจ้าของเคส แต่เราพูดเรื่องจริง .. เราไม่ได้ตั้งใจที่จะด่าเค้า เราพูดตามหลักของศาสนา ที่ไม่ว่าใครต่อใครท่านก็ได้พูดออกมาอย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม หรือ ใครก็แล้วแต่ ว่าการทำอย่างนั้นจะนำพาไปสู่ความไม่เจริญ .. เราไม่ได้แช่งเขานะคะ   ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้จขกท.เค้าหดหู่ หรือรู้สึกกดดันแต่ประการใด และอีกอย่างดิชั้นได้กล่าวคำขอโทษไปแล้ว ดิชั้นว่าจขกท.หรือใครน่าจะเข้าใจได้แล้วนะคะว่าดิชั้นไม่มีเจตนาที่จะซ้ำเติม แต่อยากบอกถึงผลที่จะตามมาจริงๆ ต้องขอโทษอีกครั้งถ้าคำพูดของดิชั้นยังดูแรงอยู่ แต่ดิชั้นคิดว่ายังดีกว่าให้ดิชั้นพูดเพื่อนฆ่าคน อันนั้นดิชั้นคิดว่าสมควรที่จะกลับไปคิดใหม่มากกว่า แต่ถ้าคุณอยากจะพูดอะไรต่อจากนี้ดิชั้นก็คงจะไม่พูดกล่าวเติมต่อท้ายไปอีกแล้วนะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากความหวังดี เพื่ออยากรักษาชีวิตๆหนึ่งไว้เท่านั้น ขออโหสิกรรมด้วยนะคะ ปล.นอกจากคุณ อั๋น ทรงวุฒิ , ดิชั้นขอช่วยเหลือด้วยคน ขอเพียงคุณติดต่อมาเท่านั้นค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะให้เด็กคนนั้นเกิดมา หรือ ขอคำแนะนำปรึกษา ดิชั้นเต็มใจช่วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 15:32:01 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 15:24:30 จากคุณ : Ms.Browneyes เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 15:17:04

ความคิดเห็นที่ 52 คิดว่าสิ่งที่อยากบอก ได้บอกไปเคลียร์แล้วนะคะ '- - เราเข้าใจว่าคุณเจตนาดี แต่นิดนึง-คำพูดของคุณ "รุนแรง" เกินไปสำหรับจิตใจผู้เสียหายหรือเปล่า? อยากให้ย้อนกลับไปอ่านคห.สี่สิบอีกครั้งนะคะ คือชักรู้สึกว่าคุณเก็บคำพูดของเราเป็นอารมณ์มากกว่าที่เราคิดน่ะเนี่ย อาจจะเข้าใจเจตนาของเราผิด เราอยากติเพื่อก่อ เพื่อให้คุณคิดถึงจิตใจของผู้หญิงคนหนึ่งบ้างเท่านั้นค่ะ อย่างน้อยก็ใจเขาใจเรานิดน่ะค่ะ ขออภัยถ้าทำให้แค้นเคือง และขออโหสิกรรมให้ถ้าคุณคิดว่าเราโกรธแค้นหรือโมโหอะไรคุณมาก (แต่ขอบอกว่าเราแค่รู้สึกว่าคุณพูดแรงเกินไปและน่าจะคิดถึงจิตใจของผู้เสียหายบ้าง เท่านั้นจริง ๆ ย้ำอีกครั้งตรงนี้หากคุณติดใจ) ด้วยความเคารพค่ะ '- - จากคุณ : เราสื่อสารไม่ดีหรือนี่... (atihasita) เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 17:19:42

ความคิดเห็นที่ 53   ขอถามอีกด้าน.. ถ้าบอกว่า อย่าทำแท้ง เพราะเป็นบาป ถามว่า ได้พิจารณาถึงเรื่องสาเหตุที่เด็กเกิดมาด้วยหรือเปล่า ทำแท้งเพราะรักสนุก กับทำแท้งเพราะถูกข่มขืน ไม่มีความต่างกันหรือ ถ้าอย่างนั้นก็ควรกินแต่ผัก และบวชเป็นบรรพชิต ไม่ควรกินเนื้อกินไข่ เพราะนั่นคือต้องฆ่าชีวิตสัตว์ ถ้าบอกให้เด็กเกิด แล้วเลี้ยงให้โต อาจจะเป็นคนเก่ง ถามว่า แล้วถ้าเขากลายเป็นคนเลวล่ะ ขนาดเด็กที่โตในครอบครัวที่พ่อแม่แต่งงานกัน ยังเลวได้เยอะแยะ แล้วเด็กที่เหมือนถูกบังคับให้เกิดแบบนี้ล่ะ โชคดีที่สุดคือแม่ปรงตกและทำใจได้ ก็อาจได้ความรักจากแม่ แต่ถ้าความทรงจำที่เลวร้ายนั้นไม่เคยจางหายไปแล้วความเกลียดชังนั้นไปตกกับลูกล่ะ แล้วถ้าลูกโตขึ้นรู้ว่าตัวเองเกิดขึ้นมาเพราะการข่มขืน คิดว่าเขาจะรู้สึกยังไง ใครจะรับผิดชอบชีวิตของสองคนนี่ แล้วถ้าเขาโตขึ้นด้วยความโกรธแค้น จนกลายเป็นคนเลวของสังคม ไปทำร้ายคนอื่นต่อ ใครจะรับผิดชอบต่อคนทั้งหมด บุญเป็นสิ่งดี แต่การดันทุรังทำสิ่งที่คิดว่าเป็นบุญ อาจกลายเป็นการทำบาปก็ได้ จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 17:45:32 A:58.64.79.30 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 54 มนุษย์เราจะเป็นคนดีหรือไม่ดี ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมด้วยครับ   ผ้าขาวถูกย้อมสีมาแบบไหน ก็จะได้สีนั้น คนเราในเมื่อยังรู้เลยว่าเขาเป็นคนยังไง ก็ควรจะให้โอกาสกัน อย่างน้อย ก็โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ คลอดแล้วยกให้มูลนิธิเลย ก็ยังดีกว่าฆ่าเขาทิ้งเป็นตราบาปติดตัว การทำแท้ง ไม่ใช่เรื่องมงคลของชีวิตนะครับ ถูกข่มขืนก็เครียดอยู่แล้ว ยังเพิ่มบาปเรื่องการทำแท้งเข้าไปอีกกระทง จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 19:01:10

ความคิดเห็นที่ 55 อิอิ คุณอั๋น ทรงวุฒิ นี่มีความพยายามดีจัง ขออนุโมทนาด้วยคนค่ะ :) จากคุณ : Ms.Browneyes เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 19:53:06

ความคิดเห็นที่ 56   ทั้งสองท่าน จะไม่กรุณาตอบคำถามข้อสงสัยของผมหน่อยหรือครับ ผมเลยขอถามเพิ่มอีกคำถามแล้วกัน ถ้าการทำแท้ง(ในทุกกรณี) ท่านว่าเป็นบาป เป็นการฆ่า(คำที่ท่านใช้ในกระทู้)แม้แต่ยังเป็นตัวอ่อน ก็คงหมายความว่า การให้กำเนิด(ในทุกกรณี) เป็นกุศล ใช่ไหมครับ แล้วถ้าในการตั้งครรภ์ตามปกติ แล้วตรวจพบแน่ชัดว่าเด็กมีความพิการอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้เขาต้องใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ไปตลอดชีวิต การให้เขาเกิดมาใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานตั้งแต่เกิดจนตายจะเป็นกุศลอย่างไรครับ จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 21:24:20 A:58.64.79.30 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 57 ความรู้ทางธรรมะของผม อาจจะยังน้อยนิด เมื่อเทียบกับปัญหาชีวิตของคนทั้งหลาย ยังช่วยดับทุกข์ได้ไม่ดีนัก แต่ก็พอมั่นใจได้ว่า เป็นทางออกที่ดีกว่าการสร้างอกุศลกรรม ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว - การให้กำเนิดถือว่าเป็นการกระทำแบบกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่ว เป็นไปตามกลไกของธรรมชาติ แต่ในเคสที่ ขจกท. ยกมา .. ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย การให้โอกาสเด็กคนนี้ได้เกิดมา และเลี้ยงดูเขาด้วยความเมตตา จึงเป็นบุญกุศล ธรรมดาของสัตว์โลกทั้งหลาย มีกรรมเป็นของตัวเอง ภพชาติของเขาจึงมีทั้ง วิกฤต ที่ต้องกอบกู้ (ชดใช้กรรมเก่า)  และ โอกาส ที่จะพัฒนา (สร้างบุญบารมีเพิ่ม) วัฏฏะสงสารแห่งนี้ จึงเป็นเหมือนเวทีสร้างโอกาส ให้สัตว์โลกทั้งหลาย ได้เกิดมาชดใช้กรรมเก่า และสร้างกุศลกรรมใหม่  เพื่อยกระดับตัวเองให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไป ธรรมชาติมีความสมดุลและยุติธรรมเสมอ สิ่งใดขาดไป ก็จะมีสิ่งทดแทนชดเชย (พรสวรรค์) อย่าได้ดูแคลนภพชาติของใคร เขาเกิดมาใช้กรรมชาตินี้หมด ชาติหน้าเขาก็จะดีขึ้น และที่สำคัญ ท่านก็อย่าได้ชะล่าใจ ว่าตัวเองเกิดมา มีชีวิตสุขสบายเพียบพร้อม ถ้าประมาท เผลอสร้างอกุศลกรรมขึ้นมา ในอนาคตท่านก็ต้องรับผลนั้น ทำให้ชีวิตตกต่ำเช่นกัน จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 21:57:16

ความคิดเห็นที่ 58 แล้วถ้าในการตั้งครรภ์ตามปกติ แล้วตรวจพบแน่ชัดว่าเด็กมีความพิการอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้เขาต้องใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ไปตลอดชีวิต การให้เขาเกิดมาใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานตั้งแต่เกิดจนตายจะเป็นกุศลอย่างไรครับ วัฏฏะสงสารแห่งนี้ มีความยุติธรรมเสมอ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เขามีเหตุต้องรับภพชาติที่ต้องเกิดมาพิการ นั่นก็คือแรงกรรมเก่าของเขา ที่ต้องเกิดมาชดใช้ และส่วนหนึ่งก็เป็นผลกรรมในอดีตของผู้เลี้ยงด้วย ชาตินี้จึงต้องมีภาระในการเลี้ยงดูลูกหนักกว่าคนปกติ ถ้าเราคิดว่าจะจบมันลง แบบฝืนธรรมชาติ คิดว่าทำเพื่อเมตตา ให้เด็กคนนั้นจะได้ไม่ต้องรับกรรมในชาตินี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการหลบหนีหนี้สิน กรรมเก่ามันไม่ได้หายไปไหน ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด และมันอาจจะเพิ่มขึ้น และยักย้ายถ่ายโอนไปหาผู้รับผิดชอบรายใหม่ครับ เหมือนกับการจ่ายหนี้ให้คนอื่นนั่นแหละ ตัวเราจะเป็นผู้รับภาระนั้นแทน แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่า การสร้างบุญกุศลอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ มันก็ไม่ง่ายเหมือนกันในสภาพสังคมยุคนี้ ที่มีแต่การแข่งขันทางเศรษฐกิจ สังคม นิยมวัตถุ จะหาคนที่สละทางโลก ไปบำเพ็ญธรรมะอย่างจริงจัง มันยากเหลือเกิน แรกๆ ก็มุ่งมั่นเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายเลิกล้มกลางคัน มีเยอะแยะ ดีที่สุด อย่าสร้างอกุศลกรรม จะดีกว่า ส่งท้ายด้วยเว็บของคุณ Nick ครับ ลูกชายบาทหลวง ผู้พลิกผันตัวเอง จากคนพิการที่ต้องรับกำลังใจจากคนอื่น กลายเป็นวิทยากร เดินสายให้กำลังคนทั่วโลก ในการต่อสู้ชีวิต จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 22:17:50

ความคิดเห็นที่ 59   ใน vdo เป็นบุคคลที่น่าชื่นชม กว่าที่เขาจะเดินสายเป็นวิทยากรไปทั่วโลกได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านไปได้ จะฆ่าตัวตายก็หลายครับ แต่โชคดีที่ไม่สำเร็จ และก็คงเป็นหนึ่งในล้านที่พระเจ้าหรืออะไรก็ตามทำให้เขาสร้างกุศลให้คนทั่วโลกได้อย่างวันนี้ คำตอบเชิงปรัชญาล้วนๆที่คุณอั๋นอธิบายมา ก็น่าฟังครับ แต่ด้วยสติปัญญาพื้นๆของผม ผมก็รู้สึกยังไม่ได้คำตอบที่ตรงกับข้อสงสัยเท่าไรนัก การได้กุศล แต่ตัวเองต้องทนกับความทุกข์ในใจทุกครั้งที่ทำในสิ่งที่ คนบอกว่าเป็นกุศล เป็นเรื่องที่ถูกต้องจริงๆ หรือเป็นแค่คำปลอบ ให้สบายใจ บางที่ชาวบ้านอย่างผมก็อยากรู้แค่ว่า ทำไมห้ามทำโน่นห้ามทำนี่ด้วยคำตอบธรรมดาในชีวิตจริง มากกว่าคำตอบเชิญสมมติปรัชญาเรื่องบุญทำกรรมแต่งหรือชาตินี้ชาติหน้า จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 22:22:12 A:58.64.79.30 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 60   ใน vdo เป็นบุคคลที่น่าชื่นชม กว่าที่เขาจะเดินสายเป็นวิทยากรไปทั่วโลกได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านไปได้ จะฆ่าตัวตายก็หลายครับ แต่โชคดีที่ไม่สำเร็จ และก็คงเป็นหนึ่งในล้านที่พระเจ้าหรืออะไรก็ตามทำให้เขาสร้างกุศลให้คนทั่วโลกได้อย่างวันนี้ คำตอบเชิงปรัชญาล้วนๆที่คุณอั๋นอธิบายมา ก็น่าฟังครับ แต่ด้วยสติปัญญาพื้นๆของผม ผมก็รู้สึกยังไม่ได้คำตอบที่ตรงกับข้อสงสัยเท่าไรนัก การได้กุศล แต่ตัวเองต้องทนกับความทุกข์ในใจทุกครั้งที่ทำในสิ่งที่ คนบอกว่าเป็นกุศล เป็นเรื่องที่ถูกต้องจริงๆ หรือเป็นแค่คำปลอบ ให้สบายใจ บางที่ชาวบ้านอย่างผมก็อยากรู้แค่ว่า ทำไมห้ามทำโน่นห้ามทำนี่ด้วยคำตอบธรรมดาในชีวิตจริง มากกว่าคำตอบเชิงสมมติปรัชญาเรื่องบุญทำกรรมแต่งหรือชาตินี้ชาติหน้า จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 22:22:47 A:58.64.79.30 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 61   เป็นอย่างนี้เพราะชาติก่อน... ทำอย่างนี้เพื่อชาติหน้า... มันเข้าใจยากเกินไปสำหรับผม ผมเข้าใจได้เพียงเรื่องของกรรมในชาตินี้ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และที่จะส่งผลในอนาคต ของชาตินี้ ผมมีสติปัญญาที่จะเข้าใจเพียงเท่านี้ ไม่สามารถมีจิตหยั่งรู้หรือเข้าใจในชาติอื่นได้ ผมจึงเห็นว่าทั้งหมดเป็นเรื่องสมมติขึ้นเท่านั้น ผมสามารถเข้าใจได้เท่านี้จริงๆ ถ้าจะกรุณาอธิบายด้วยเหตุผลธรรมดาให้ผมหายสงสัย จะขอบคุณมากครับ ปล. ผมคงหยุดแค่คำถามสามข้อ ไม่ไปไกลกว่านี้แล้ว เกรงใจ จขกท. จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 22:36:02 A:58.64.79.30 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 62 http://www.pantip.com/cgi-bin/cafe/hits3.cgi?action=vote&id=8126975 เป็นธรรมดาของโลกครับ บัวมีหลายเหล่า ระดับปัญญาคนเราก็มีหลายระดับ พระพุทธองค์ก็เคยท้อแท้กับการโปรดสัตว์ แต่ด้วยจิตมหาเมตตา วันนี้จึงมีศาสนาพุทธ สำหรับผมแล้ว เรื่องภพชาติ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล มีประจักษ์หลักฐานมากมาย คอยยืนยันอยู่ทุกยุคสมัย มิฉะนั้นก็คงเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา 2552 ปี ถ้าปิดหูปิดตาตัวเอง บ่นคนเดียวว่าอย่าคิดมาก แล้วก็กรอกเหล้าเข้าปาก ทำเป็นกลบเกลื่อนมันก็พอผ่านไปได้ สภาวะจิตเดิมแท้ ปัญญาญาณตามธรรมชาติ ก็จะค่อยๆ เสื่อมไปเอง หนักเข้า ก็จะแยกแยะดีชั่วไม่ออก สร้างกรรมไปมากมายแบบไม่รู้ตัว การดับทุกข์ในใจ ก็ไม่สำเร็จอยู่ดี  ทำได้แค่การหลอกตัวเองว่าทุกวันนี้มีความสุข ความลับของฟ้า เขาแง้มไว้ให้เยอะแล้วครับ อยู่ที่เราจะเข้าไปรับรู้หรือเปล่าแค่นั้นเอง จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 22:48:05

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่องบุญบาป  นรกสวรรค์ ภพชาติ  การเวียนว่ายตายเกิด มันเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนยุคนี้ครับ ผมเข้าใจ ทั้งๆ ที่ความจริงมันอยู่ใกล้เรามาก ใกล้แค่ลมหายใจเข้า แล้วไม่หายใจออกไปตลอดกาล ความจริงก็ปรากฏ แต่ถึงเวลานั้น โอกาสที่จะแก้ตัว มันก็ดับไปด้วย ผมยินดีที่จะร่วมแสดงความคิดเห็น อย่างไม่เบื่อหน่าย ไม่เหน็ดเหนื่อยที่จะต้องพูดซ้ำๆ ผมเข้าใจถึงความยาก ในการรับรู้ของคนหลายๆ คน ปลาย่อมไม่เข้าใจเรื่องราวบนบกฉันใด  คนทั้งหลายย่อมไม่เข้าใจเรื่องนิพพานฉันนั้น เต่าขึ้นบกไปเห็นเรื่องราวบนบก มีท้องฟ้า มีต้นไม้ มีสัตว์ป่า กลับลงไปเล่าให้ปลาฟัง ปลาก็ย่อมไม่เข้าใจ หนำซ้ำ ยังบอกว่า เต่าโกหก เล่าเรื่องปั้นน้ำให้เป็นตัว จะไปว่าปลาผิดก็ไม่ได้ เพราะเขามองเห็นแค่ในน้ำ ถ้าปลาจะยอมเชื่อเต่าสักหน่อย คงไม่เสียหาย อย่างน้อยก็รู้จักระวังนกบินมาโฉบปลาไปกิน หรือระวังเหยื่อจากเบ็ดตกปลา ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 23:04:06

ความคิดเห็นที่ 64 เรียนคุณ : มรกตแดง  ดิชั้นต้องขอโทษด้วยค่ะ ดิชั้นเป็นคนอธิบายอะไรไม่ค่อยเก่ง ขอยกหน้าที่ให้คุณ อั๋น ทรงวุฒิแล้วกันนะคะ ดิชั้นเลื่อมใสคนๆนี้ค่ะ จากคุณ : Ms.Browneyes เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 08:29:54

ความคิดเห็นที่ 65 กลับมาอีกรอบ เป็นประเด็นที่น่าคิด ถ้าลูกพิการ แม่ควรทำแท้ง หรือปล่อยให้เกิดมา ถ้าเชื่อทางพุทธ มนุษย์เกิดมาชดใช้กรรม กรรมมีสองรูปแบบ หนึ่งเรียกว่า กรรมชรูป คือ กรรมที่ส่งผลต่อรูป เช่น เกิดมาสวย พิการ ฉลาด โง่ ฯลฯ สอง คือ วิปากกรรม คือ กรรมที่ส่งผลต่อจิตใจ เช่น ลูกเกิดมามีกรรมชรูปพิการ ส่วนแม่มีวิปากกรรมคือเสียใจไปตลอดชีวิต สองคนนี้มีกรรมร่วมกัน จึงโคจรมาเจอกัน เพื่อต่างคนต่างชดใช้กรรม สำหรับลูก การที่จะเกิดมาเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับจิตสุดท้ายก่อนตายเมื่อภพที่แล้ว ส่งผลให้นำเกิดในรูปมนุษย์พิการ ถ้าแม่ทำแท้ง เด็กก็ใช้กรรมของตนเองแล้ว ไปเกิดใหม่ ส่วนจะอยู่เกิดในภพภูมิใดขึ้นอยู่กับกรรมอื่น อาจไปเกิดในภพภูมิที่ต่ำกว่ามนุษย์ โอกาสที่จะยกระดับจิด เพื่อสู่ภพภูมิที่สูงกว่า ก็ไม่มี ส่วนแม่วิปากรรมเก่ายังไม่ชดใช้ ทำกรรมใหม่ซ้ำเข้าอีก เอาง่าย ๆ ทำแท้งแล้วจิตใจย่อมตกต่ำ แต่ถ้าระลึกได้ว่าทำกรรม ก็ควรหมั่นทำกุศลในทางที่ถูกต้อง เพื่อบรรเทาผลของกรรมให้เบาบางลง ทำกุศลที่ถูกต้อง แน่นอนย่อมไม่ใช่ การบูชากุมาร แต่เป็นการทำจิตให้เป็นกุศล จิดที่เป็นกุศล ย่อมส่งผลให้กระทำในสิ่งที่ดี ความดีย่อมจะรักษาตัวผู้กระทำได้ พอดีสนใจเรียนธรรมะ ในแนววิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ไสยศาสตร์ เรียนสนุกมา ไม่เบื่อเลย จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 10:05:44

ความคิดเห็นที่ 66   น่าสนใจครับคุณแม่น้องหยง พอจะแนะนำแนวทางเริ่มต้นในการศึกษาธรรมะในแนววิทยาศาสตร์บ้างได้ไหมครับ ถ้าผมสรุปที่คุณแม่น้องหยงพูดแบบนี้ถูกไหมครับ ถ้าทำแท้ง.. เด็กก็หมดกรรมที่ต้องชดใช้ในชาตินี้ แล้วไปเกิดใหม่ตามกรรมที่ยังเหลืออยู่ แม่มีกรรมเพิ่มจากการทำแท้ง อาจเป็นทุกข์ในใจ สามารถทำกรรมดีบรรเทาลงได้ในชาตินี้ ถ้าคิดดีทำดีมาก ก็ชดใช้กรรมไปได้ ขาดเกินยังไงก็ไปรับผลกรรมต่อในชาติหน้า ถ้าไม่ทำแท้ง.. ทั้งสองคนก็ต้องเผชิญหน้า ร่วมกันรับผลกรรมตลอดไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ ถ้าอย่างนี้ ก็ยังเป็นปริศนาในเรื่องปริมาณบุญ-บาป ทั้งที่สะสมและที่ชดใช้ เราคิดว่ามันมีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่หลักฐานหรือประจักษ์พยานทางวิทยาศาสตร์มันอยู่ตรงไหน ถ้ามันวัดไม่ได้ มันก็เป็นการอธิบายในแนวปรัชญาอยู่ดี ไม่ใช่หรือครับ (เรื่องคนระลึกชาติได้ ถ้าเป็นจริง ก็อาจพิสูจน์แค่การข้ามภพข้ามชาติ ไม่ได้เป็นตัวพิสูจน์เรื่องการสร้างกรรมและการใช้กรรมนั้นข้ามชาติ) จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 11:22:38 A:58.64.79.12 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 67 ยินดีค่ะ คุณมรกตแดง ออกตัวก่อนว่า ยังศึกษาไม่ลึกซึ้ง พอดีได้เรียนกับอาจารย์ที่สอนธรรมะจากพระไตรปิฏกเท่านั้น ตัวท่านจบโททางวิทยาศาสตร์มา จึงวิเคราะหาเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ ท่านว่า ในพระไตรปิฏก มีปัญญา 10 ประการที่ถ้าจะเป็นพุทธ ต้องเชื่อ หนึ่งในนั้น คือ เชื่อว่ามีสมณพราหมณ์ ที่รู้จริงเห็นจริง ปฏิบัติและนำมาเผยแพร่ นั่นคือ เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง และเมื่อเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริงแล้ว ก็ต้องเชื่อตามคำสอนที่ว่า สัตว์ในอดีตมีจริง มีสัตว์ในอดีตที่เกิดในชาตินี้จริง และมีสัตว์ในอนาคตจริง  นั่นคือ เชื่อเรื่องภพชาติ (ชาติภพ อาจพิสูจน์ได้ จากการระลึกชาติ อย่างที่คุณว่า) ส่วนเรื่องหลัก ๆ ที่เรียน คือ เรื่องรูปกับนาม หรือจะเรียกว่า กายกับจิต ก็ได้ กรรมคือผลของการกระทำ การกระทำเกิดจากจิต จิตแต่ละดวง(ในแต่ละขณะจิต) เกิดจากส่วนประกอบที่เรียกว่าเจตสิก ต่าง ๆ กัน เช่น เจตสิกที่เป็นโลภะ โทสะ โมหะ ประสมกันในรูปแบบต่าง ๆ ได้เป็นจิตของมนุษย์ธรรมดาและของพระอรหันต์ 121 ดวง จิตสุดท้ายก่อนตายจะเป็นตัวนำเกิดในภพภูมิต่าง ๆ กัน เพื่อรับกรรมชรูปและวิปากกรรมต่าง ๆ กัน ส่วนเรื่องปริมาณกรรม  น่าคิดนะ แต่ขอติดไว้ก่อน จะไปถามอาจารย์ จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 15:25:33

ความคิดเห็นที่ 68 วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีปัจจุบัน ยังล้าหลังเกินไป สำหรับการอธิบายในเรื่องวิญญาณ ภพ-ชาติ การเวียนว่ายตายเกิดครับ ความเชื่อทางศาสนา จึงเป็นแนวทางในการปฏิบัติ และรู้ผลด้วยตัวเองภายหลัง ถ้าได้ดู VDO ตาม #62 จนจบ จะรู้ได้ว่า การระลึกชาติของผู้ชายคนนั้น  บอกได้แม่นแม้กระทั่งเลขทะเบียนปืนที่เขาใช้ในชาติก่อน ซึ่งแม้แต่ลูกเขาผู้รักษาปืนไว้ยังไม่รู้   ต้องยกปืนมาพิสูจน์ดูกันต่อหน้า หลักสัจธรรม คือ ความจริง  ไม่กลัวการพิสูจน์ กลัวแต่คนไม่พิสูจน์ แล้วเมินเฉยเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 16:33:31

ความคิดเห็นที่ 69   ขอบคุณคุณแม่น้องหยงครับ เรื่องที่ให้เชื่อว่ามีพระพุทธเจ้า ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมยังสงสัยเรื่อง ชาติก่อนชาติหน้า ผมยังไม่แน่ใจครับ อย่ากระนั้นเลย รีบไปเปิดตำราดู มีว่าอย่างนี้ครับ มีลัทธิมิจฉาทิฐิอย่างหนึ่งที่เรียกว่า ปุพเพกตเหตุวาท คือ การถือว่าสุขทุกข์ทั้งปวง เป็นเพราะกรรมเก่า (past-action determinism) ในอดีตชาติ ท่านว่า เมื่อเชื่ออย่างนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาหาต้นเหตุของทุกข์ เพราะเชื่อว่าต้นเหตุมาจากการกระทำในชาติก่อนไปแล้ว ซึ่งย้อนไปเปลี่ยนไม่ได้ ก็ต้องยอมรับกรรมในชาตินี้ แก้ไขอะไรไม่ได้ เมื่อไม่หาเหตุ(ในชาตินี้) ไม่รู้เหตุแห่งทุกข์ ก็ไม่รู้ทางแก้ไข และไม่พ้นทุกข์ และอาจทำกรรมซ้ำแบบเดิมอีกได้ อีกเรื่องคือ ภพ-ชาติ เท่าที่ผมทราบจากเรื่องปฏิจจสมุปบาท ก็ไม่ได้อธิบายเรื่อง ภพ-ชาติ ว่าเป็นเรื่องของชาติก่อนหรือชาติหน้า แต่เป็นเรื่องของตัวตน(ในชาตินี้) แลผลกรรมที่จะเกิดในอนาคต(ของชาตินี้) ผมจึงยังไม่เชื่อในเรื่องนี้ครับ ส่วนวิดีโอนั้น ผมก็เคยดูในทีวี ยังมีข้อโต้แย้งสงสัยได้อยู่ ก็ไม่ได้สนใจมากนัก หรืออาจจะเป็นจริงก็ได้เรื่องกลับชาติมาเกิด แต่เรื่องเวรกรรมข้ามชาติก็ไม่มีใครยืนยันได้ โดยส่วนตัว ผมเชื่อในคำสอนเรื่อง ภพ-ชาติ ตามวงจรของปฏิจจสมุปบาทมากกว่า ผมยินดีที่ได้สนทนาธรรมด้วยครับ แต่เกรงใน จขกท ว่าอาจทำให้ประเด็นเขวไป เลยคิดว่าจะเหมาสมกว่าถ้าจะไปตั้งกระทู้ใหม่ แต่ไม่ทราบว่าที่ไหนจึงจะเหมาะ เพราะไม่เคยคุยเรื่องพวกนี้ในพันธุ์ทิพย์เลย จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 17:41:15 A:58.64.71.109 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ ^ http://www.pantip.com/cafe/religious ห้องนี้นะคะ จากคุณ : เข้ามาบอกทาง (atihasita) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 17:50:45

ความคิดเห็นที่ 71   ขอบคุณครับ เมื่อกี้เข้าไปตอบกระทู้แล้ว แต่ไม่สามารถตอบได้ เพราะจำกัดสิทธิเฉพาะสมาชิก ผมคงเข้าไปสนธนาด้วยไม่ได้แล้ว (เคยสมัครสมาชิกนานแล้ว หายเงียบไปเลย ตามเรื่องอยู่หลายครั้ง จนผมต้องเลิกตาม เลยไม่เป็นดีกว่า) จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 18:05:32 A:58.64.71.109 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 72 ขอต่อ เรื่องทุกข์สุข และมิจฉาทิฐิที่ว่า ทุกอย่างเกิดจากรรมเก่า นึกได้เรื่องเดียวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ รูปหรือกายที่ได้ในชาติปัจจุบัน เกิดจากฐานสี่หรือปัจจัยสี่ประการ ได้แก่ กรรม (กรรมชรูป) อาหาร อุตุ จิต กรรมชรูปคือกรรมเก่าหนึ่ง แปรไปตามอาหารที่ได้ในชาตินี้สอง แปรไปตามอุตุคือสิ่งแวดล้อมในชาตินี้ สาม และแปรไปตามจิตในชาตินี้ เป็นปัจจัยที่สี่   ถ้าทุกข์สุขที่ได้เกิดจากรูป เช่น มีโรคภัยไข้เจ็บ ก็ให้พิจารณา ฐานทั้งสี่นี้  แก้ไขฐานทั้งสี่เท่าที่จะทำได้ พิจารณาในแบบนี้ กรรมชรูปหรือกรรมจากอดีตชาติเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในสี่เท่านั้น แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 52 18:41:43 จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 18:32:26

ความคิดเห็นที่ 73   ที่จริงเรื่องรูปหรือกาย ถ้าจะแปลด้วยหลักวิทยาศาสตร์ สุขภาพกายรวมถึงอวัยวะและโครงสร้างร่างกาย ก็น่าจะมาจาก กิจกรรม อาหาร สภาวะแวดล้อม และสุขภาพจิต เหมือนกัน ผมคิดว่า บางที่ กรรมเก่า อาจจะหมายความถึง การกระทำก่อนๆในชาตินี้ก็ได้ เช่น ไปหกล้มหรือรถชนจนแขนขาขาด ก็คือเป็นเพราะกรรมในชาตินี้ อาจจะประมาทหรืออุบัติเหตุ แต่ถ้าคิดว่า กรรมเก่า เป็นเรื่องของชาติก่อน ปัจจัยของการมีรูปหรือกาย ก็จะไม่มีเรื่องของการกระทำในชาตินี้มาเป็นสาเหตุด้วย ซึ่งไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 20:22:27 A:58.64.79.22 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 74   เอ่อ  แยกไปอีกกระทู้ดีมั้ยครับ เรื่องกรรม ส่วนเรื่องจขกท. ตอนนี้จะเลือกทางไหนดี ผมช่วยสรุปให้สั้น ๆ ตามที่อ่านมา 1. ถ้าครอบครัว คนรอบข้าง ยอมรับได้ว่ามันเป็นกรรม ช่วยปลอบประโลม หญิงคนนั้น ให้เอาเด็กไว้ แล้วทางครอบครัวจะช่วยกันดูแล ไม่ดูถูกเหยีดหยามให้ชำใจ เอาเด็กไว้เถอะครับ ต่อไปหญิงคนนั้นก็จะลืมเลือนความทุกข์ตรงนั้นลงไปได้บ้าง และอาจจะมีความสุขขึ้นเมื่อเด็กนั้นโตขึ้น น่ารัก 2. ถ้าครอบครัวรับไม่ได้ คนรอบข้างรังเกลียด ดูถูกเหยียดหยาม สมน้ำหน้า อย่าเอาไว้เลย ไปแจ้งความ ให้หมอเอาออกแบบถูกกฎหมาย ชีวิตยังต้องเดินต่อไป จากคุณ : พ่อเอิร์ธ เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 20:39:30

ความคิดเห็นที่ 75   ก็ว่าจะแยกเหมือนกันครับ แต่ที่จริงเรื่อง กรรม ที่ผมเห็นต่าง ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่หลายคนที่แนะนำ จขกท ได้พูดถึง ซึ่งจริงๆก็น่าจะเป็นประโยชน์กับ จขกท ด้วย จะได้ใช้ถ่วงน้ำหนักในการตัดสินใจ ว่าจะยึดถือผลกรรมในชาตินี้ หรือบุญกรรมในชาติหน้า จากคุณ : มรกตแดง เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 23:45:11 A:58.64.79.22 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่ได้มาโต้เรื่องกรรม ต่อ และไม่อยากยกไปห้อง ศาสนา มีหนาว !!! แต่ขอย้ำ ทางเลือกที่ 3 สำหรับ จขกท คือ นอกจาก หนึ่ง เก็บเด็กไว้และเลี้ยงเอง หรือ สอง ทำแท้ง ยังมีทางเลือกที่สาม คือ ไปติดต่อมูลนิธิให้เขาดูแล จนคลอด และเซ็นยกเด็กให้เขาไป เด็กที่อยู่กับมูลนิธิ จะมีทางเลือกสามอย่าง 1 คนไทยรับ 2. ต่างชาติรับ (สำหรับบางมูลมิธิเป็นข้อนี้ 100 % 3.ถ้าเด็กพิกลพิการ มีปัญหาจนไม่มีใครรับ ก็ยังอยู่ในความดูแลของมูลนิธิ ที่เกี่ยวข้อง ไปจนกว่าจะโต ในกรณีข้อ 1 ข้อ 2 ทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการของรํฐ ในการคัดสรรคนที่มีความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจและฐานะ มารับเด็ก วางใจได้ระดับหนึ่ง ในกรณีที่ 3 เด็กก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีในระดับหนึ่ง ภายใต้ความดูแลของกลไกรัฐ ทุกอย่างมีทางออก  เอาใจช่วย แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 52 14:38:00 จากคุณ : แม่น้องหยง (แม่น้องหยง) เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 09:36:28

ความคิดเห็นที่ 77 คิดให้ดีนะคะ ถ้าคิดว่าการมีลูกคนนี้ ทำให้อนาคตดับวูบไปเลย ขอให้ตั้งสติและคิดใหม่นะคะ อนาคตไม่แน่นอนหรอกค่ะ ถ้าคุณไม่มีเด็กคนนี้ แปลว่าคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอนหรือเปล่าคะ ทุกคนต้องเจอกับปัญหาค่ะ ไม่ใช่เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องอื่น แล้วก็อีกอย่าง ถ้าตอนนี้คุณเจ็บปวดกับการถูกข่มขืน แล้วคุณคิดว่าการทำแท้งทำให้คุณรู้สึกว่าคุณหายเจ็บปวดจากการถูกข่มขืน ก็คงต้องแล้วแต่คุณค่ะ แต่ถ้าการทำแท้งมันทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น คุณยังจะทำหรือเปล่าคะ ดิฉันจะบอกว่า การเลี้ยงเด็กคนนึง ไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอกค่ะ ถ้าคุณอยากรู้ คุณเข้าไปอ่านห้องชานเรือนก็ได้นะคะ มีน้องคนนึง ท้องในระหว่างเรียน ผู้ชายไม่รับเป็นพ่อ พ่อแม่ไม่ยอมรับหลาน เรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ แต่เค้าก็ยังเก็บลูกไว้ ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง ขอให้คิดอย่างมีสตินะคะ จากคุณ : Buebee เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 16:24:32

ความคิดเห็นที่ 78   คุณอั๋น "คลอดแล้วยกให้มูลนิธิเลย ก็ยังดีกว่าฆ่าเขาทิ้งเป็นตราบาปติดตัว" ...ทุเรศค่ะ ถ้าไม่อยากเลี้ยงหรือเลี้ยงไม่ได้ก็จัดการซะแต่แรก ไม่ใช่รอคลอดแล้วยกให้มูลนิธิ มันทำให้คนอื่นต้องลำบากอีก จากคุณ : ตลิ่งชัน เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 02:37:03 A:94.225.25.10 X: TicketID:019698

ความคิดเห็นที่ 79 ก่อนจะเกิดการก่อตั้งเป็นมูลนิธิเด็ก จุดเริ่มต้นก็มาจากอุดมการณ์ของผู้มีจิตเมตตา ที่เข้าใจปัญหาสังคมครับ เดิมทีอาจจะเป็นแบบ หลวงตาเลี้ยงเด็กวัด (ปู่ผมมีลูกหลายคน ส่งพ่อไปอยู่วัด เด็กวัดรุ่นนั้น ปัจจุบันกลายเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ซะมาก) พอคนเยอะเข้า ก็ต้องทำให้มีมาตรฐาน จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ มีการวางแบบแผนที่ดี จึงก่อตั้งเป็นรูปแบบมูลนิธิขึ้นมา ตอนนี้น้องชายผมทำงานอยู่โรงเรียนสอนคนตาบอด จ.ลำปาง อยู่ฝ่าย IT ชีวิตประจำวันอยู่กับเด็กที่นั่น เขาอยู่ร่วมกัน ได้ทำกิจวัตรที่เป็นประโยชน์ตลอด เทียบกับเด็กที่ติดเกมส์อยู่บ้าน เห็นพ่อแม่ติดเหล้า ทะเลาะกับแม่วันเว้นวัน เด็กที่โรงเรียนนั้นยังมีสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าเยอะ ผมเข้าใจครับ  ความรู้สึกอยากทำแท้ง มาจากความเกลียดในใจ  อยากทำลายทิ้งเพื่อความสะใจ ถ้าอยากเผาบ้าน ทำลายข้าวของแล้วสบายใจก็ทำไป  บ้านเราเอง สิ่งของเราเองไม่มีใครเดือดร้อน หรือจะหางานอะไรทำให้ผ่อนคลาย เหนื่อยแล้วโล่งสมองก็ยิ่งดีใหญ่ ของแบบนี้ ถ้ามีที่กำจัด ที่ระบาย ก็ช่วยได้เยอะ ขออย่างเดียว อย่าลงกับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ เขามีความรับรู้เจ็บปวด  มันกลายเป็นบาปกรรมติดตัวไปตลอดชีวิตจนถึงภพหน้า ถ้ามาในรูปแบบนี้ ถึงเขาจะไม่ทำแท้ง หากมะเร็งร้ายในใจยังไม่หายไปไหน ก็รับประกันไม่ได้ว่า สักวันหนึ่ง เขาอาจจะระบายอารมณ์ลงที่เด็กก็ได้ เพราะฉะนั้น ให้เด็กอยู่กับมูลนิธิจะดีกว่า สักวันหนึ่ง ถ้าสภาพจิตใจแม่กลับมาเป็นปกติ เกิดจิตสำนึกที่ดีงาม จะรับเด็กมาอุปการะดังเดิม ทางมูลนิธิก็ยินดี เพียงแต่ให้มั่นใจว่า เด็กกลับไปอยู่กับครอบครัวแล้วมีความสุข ทางมูลนิธิก็วางใจ แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 11:11:22 จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 11:08:28

ความคิดเห็นที่ 80 การแสดงของคณะเด็กฯ โชว์เป็นงานอดิเรกอย่างเดียว ไม่รับเงินบริจาค จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 11:12:42

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้าแม่ของเด็ก ยินดีที่จะยกลูกให้มูลนิธิดูแล แล้วประสานให้ทราบตัวตนได้ ผมก็ยินดีจะช่วยอุปการะเด็กคนนี้ผ่านมูลนิธิเองครับ ทิ้งข้อความให้มูลนิธิว่า จะมีคุณอั๋น ทรงวุฒิ จากเว็บ pantip.com ติดต่อมาทีหลัง ถ้าเป็นไปตามนั้น ก็จะเปิดกระทู้รายงานเป็นช่วงๆ ยินดีให้ทุกท่านเป็นส่วนร่วม ด้วยความยินดีครับ (ผมติดต่อทีมงานเว็บ ลากคุณวันฉัตร Mr.Fusion ให้รับเป็นหลานบุญธรรมด้วย ) จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 13:20:42

ความคิดเห็นที่ 82   เพลง เรียงความเรื่องแม่ โดยรวมศิลปินRS คุณครูสั่งให้เขียนเรียงความเรื่องแม่ฉัน บอกให้ส่งให้ทันวันพรุ่งนี้ มันยากจังทำไม่ใหวหนูแม่ไม่มี แล้วจะเขียนให้ดียังไง เป็นห่วงก็ไม่รู้ ดูแลก็ไม่คุ้น กอดแม่อุ่นจริงๆ มันจริงไหม พร้อมหน้ากันทานอาหารเคยมีแค่ฝันไป ไม่มีเพลงกล่อมใดไม่มี ห่มผ้าไม่เคยอุ่นเลย กอดหมอนไม่เคยอุ่นใจ นอนหลับไปอย่างเดียวดายทุกที ไม่มีอะไรจะเขียนให้ครูได้อ่านพรุ่งนี้ บนหน้ากระดาษก็เลอะน้ำตา ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี เป็นห่วงก็ไม่รู้ ดูแลก็ไม่คุ้น กอดแม่อุ่นจริงๆ มันจริงไหม พร้อมหน้ากันทานอาหารเคยมีแค่ฝันไป ไม่มีเพลงกล่อมใดไม่มี ห่มผ้าไม่เคยอุ่นเลย กอดหมอนไม่เคยอุ่นใจ นอนหลับไปอย่างเดียวดายทุกที ไม่มีอะไรจะเขียนให้ครูได้อ่านพรุ่งนี้ บนหน้ากระดาษก็เลอะน้ำตา ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี จากคุณ : Ice Dragon เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 13:29:52

ความคิดเห็นที่ 83   ผมมาร่วมลงชื่อ ยินดีช่วยเหลือเรื่องเงินอุปการะเลี้ยงดูเด็กน้อยที่จะลืมตามาดูโลกคนนี้ครับ จะให้ช่วยอย่างไรก็ยินดี ขออย่างเดียว อย่าทำร้ายเด็กเลยครับ จากคุณ : Ice Dragon เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 13:31:35

ความคิดเห็นที่ 84 เกือบลืมไป นี่ใกล้วันแม่แล้ว เป็นนิมิตหมายที่ดีเลยครับ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 13:36:08

ความคิดเห็นที่ 85 อยากมีลูก แต่ไม่อยากมีเมีย http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L8145008/L8145008.html ได้ว่าที่ "แนวร่วม" อีกท่านแล้วครับ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 13:39:48

ความคิดเห็นที่ 86   อยากให้คนที่สนับสนุนการทำแทงค์คิดดูให้ดีๆครับ ผมเชื่อว่าพวกคุณก็มีลูกมีหลาน เวลาคุณเจอลูกหลานพวกคุณยังรู้สึกชื่นอกชื่นใจในความน่ารัก น่าเอ็นดูของพวกเขา แต่วันนี้พวกคุณกลับใจเหี้ยมโหด แนะนำให้เพื่อนจขกท.ฆ่าลูก เพียงเพราะกลัวจะไม่มีหน้ามีตา กลัวเลี้ยงไม่ไหว ฯลฯ ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวและแสดงออกซึ่งความเห็นแก่ตัวทั้งสิ้น จิตใจของพวกคุณนับว่าโหดร้ายมากที่แนะนำให้แม่เด็กฆ่าลูกเขาได้ลงคอ ถ้าวันนี้ มีคนพยายามจะมาฆ่าลูกหลานคุณ ถามว่าพวกคุณจะยอมหรือไม่ หรือจะเอาชีวิตทั้งชีวิตเข้าปกป้องลูกหลานคุณ ผมถามจริงๆเถอะ มูลนิธิที่ไหนไม่รับเลี้ยงก็บอกมาได้ครับ ผมยินดีช่วยเหลือเต็มที่ครับ จากคุณ : Ice Dragon เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 13:39:48

ความคิดเห็นที่ 87 ... เรื่องพวกนี้ผมว่าตัวคนที่ตั้งครรภ์จะตอบได้ดีที่สุดครับ และตามกฎหมาย ทำแท้งเนื่องจากโดนข่มขืนทำได้แน่นอน ( แต่ต้องแจ้งความ ) เจ้าตัวต้องชั่งใจเอาเองว่าจะเลือกแบบไหน แต่ละทางเลือกย่อมมีผลของมันแตกต่างกัน และตัวเขาเอง ที่จะต้องอยู่กับผลนั้น ผมเคยให้แนวไว้ในห้องหว้ากอว่า ประเทศเราน่าจะมีการเก็บ DNA ของประชากรไว้ ในฐานข้อมูล เวลามีเรื่อง คนตาย, คนหาย, พบศพนิรนาม, ข่มขืน จะสามารถระบุตัวบุคคลได้ง่ายมากครับ จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 14:06:30

ความคิดเห็นที่ 88   อย่าทำเลยนะ ยังไงก็เอาเค้าไว้นะ เราขอร้อง มันบาปมากเลย การที่คนอยากเกิดแล้วไม่ได้เกิด จากคุณ : porter_port เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 14:24:18

ความคิดเห็นที่ 89 เห็นด้วยกับคุณ Mr. Fusion ค่ะว่าคนตั้งครรภ์น่าจะตัดสินใจเองดีที่สุด แน่นอนว่าเราก็ไม่อยากให้ใครต้องทำลายชีวิตเด็ก แต่เรื่องนี้หลายๆคนรวมถึงเราไม่ได้เจอเอง จึงสามารถตอบแบบนี้ได้ง่ายๆ เราก็พอจะเข้าใจว่าเพื่อนคุณคงรู้สึกแย่มากแน่ๆกับเรื่องนี้ตอนนี้ ดังนั้นที่จะบอกและแนะนำได้คือ ถ้าทำแท้ง ทำบุญไปให้เขาได้ไหม ได้ค่ะแต่ เราไม่ใช่เด็กคนนั้น จึงไม่รู้ว่าแล้วเขาจะยกโทษให้คุณรึเปล่า การทำลายชีวิตยังไงก็บาปแน่ๆ การฆ่าชีวิตแม้ทำบุญก็ไม่อาจลบล้าง บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ซึ่งอาจจะเป็นตราบาปและความรู้สึกผิดในจิตใจของเพื่อนคุณตลอดไปก็ได้ ส่วนการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งนั้นแน่นอนไม่ง่าย ถ้าไม่พร้อมแน่นอนว่าต้องลำบากแน่ๆ แต่เด็กก็ยังมีโอกาสได้มีชีวิต มีโอกาสที่จะเป็นอนาคตของสังคม ตัวเพื่อนของ จขกท เท่านั้นนั้นรู้ดีที่สุด ถึงเหตุผลและปัจจัยต่างๆรอบตัว ว่าควรทำอย่างไร แต่ไม่ว่าตัดสินใจอย่างไหนก็จำต้องมีผลที่ตามมาทั้งสิ้น ดังนั้นขอให้ชั่งใจให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ ลองคุยปรึกษาพ่อ แม่ พี่ น้อง คนรอบข้างดูดีกว่า บางทีทางออกดีๆอาจะมาจากคนเหล่านั้น แล้วคิดดูว่าจะเลือกแบบไหน เพราะที่สุดแล้วไม่ว่าเพื่อนคุณจะตัดสินใจยังไงคนที่อยู่กับผลของมันทั้งชีวิตคือเพื่อนคุณเอง ขอให้โชคดี เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : PinkCappuccino เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 14:35:01

ความคิดเห็นที่ 90 ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ซึ้ง เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินทางไหนก็ตาม ชีวิตต้องดำเนินต่อไปค่ะ จากคุณ : ~ ตาบ๊อง กะ ยัยบ๊อง ~ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:20:26

ความคิดเห็นที่ 91 ผมว่าตั้งครรภ์แล้วนี่ต้องดูว่ากี่เดือน อย่างน้อยก็คงประมาณ 4 สัปดาห์ขึ้น จึงจะตรวจปัสสาวะเจอ เราไม่พูดถึงการป้องกันเพราะมันผ่านมาแล้ว ไม่มี ประโยชน์ ตรวจร่างกายก็คงไม่เจอร่องรอยอะไรแล้วครับ แจ้งความแล้ว  แพทย์คง พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นการข่มขืนหรือสมยอม ต้องดูพฤติกรรมแวดล้อมมา ประกอบ ทำให้มีความลำบากให้การตัดสินใจทำแท้งให้ ไม่ได้เชียร์ทำแท้ง ในกรณีนี้ทำแท้งก็ไม่น่าจะบาป  แต่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าจะทำหรือไม่ทำ   ไม่มีใครตัดสินใจแทนได้ ผมว่าลองปรึกษาพ่อแม่ เพื่อช่วยกันหาทางออก แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 15:27:48 จากคุณ : big head เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:25:25

ความคิดเห็นที่ 92 ผมก็เห็นด้วยนะครับ 1 ชีวิตที่จะเกิดมานี้ เขาจะอยู่กับเราไปตลอด อยู่ที่ว่า คุณจะมองเขาในแง่ลบ หรือ ด้วยความทรงจำที่ไม่ดี ต่อที่มาขอเขา 1 ชีวิตนั้น ไม่ได้เป็นต้นเหตุ ของความทรงจำที่ไม่ดีของคุณ สาเหตุในที่นี้ คือความพร้อม ในการเลี้ยงดู ทุกคน ต่างมีเหตุและผลของตนเอง เรื่องความพร้อมนี้ ผมอยากให้คุณตัดสินใจด้วยตนเอง ในที่นี่ อาจจะบอก อาจจะแนะนำคุณได้ แต่สุดท้าย ทุกสิ่ง ทุกอย่าง คุณต้องรับเต็ม ๆ คนเดียว ... ขอเอาใจช่วยนะครับ ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:25:52

ความคิดเห็นที่ 93 ส้มเห็นด้วยกับคคหที่4  ค่ะ แจ้งความแล้วไปปรึกษาแพทย์จะดีกว่านะคะ คิดว่าจะได้ทางออกที่ดี ไม่ว่าจะเก็บเด็กไว้หรือไม่นะคะ คนอื่นตัดสินแทนไม่ได้หรอกค่ะ เพื่อนคุณจขกทผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมา และต้องมีอีกไม่ว่าจะทำแท้ง หรือจะเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง ขอให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : พริกน้ำส้ม เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:32:07

ความคิดเห็นที่ 94   มองโลกตามความเป็นจริงเถอะครับ ถ้าโดนข่มขืน = ไม่พร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์ = ไม่พร้อมจะมีเด็ก ให้เด็กโตมาพร้อมกับ "ตราบาป" ติดตัวเหรอครับ เด็ก ๆ แบบนี้ในประเทศไทยมีเป็นแสนเป็นล้านคนแล้ว แล้วพวกคุณ ๆ ที่บอกว่าให้เอาเด็กไว้เนี่ย สามารถ "รับผิดชอบ" อะไรใน "ชีวิต" ของเธอและเด็กคนนั้นได้รึเปล่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่เจ้าตัวละกันครับ ซึ่งผมว่าเค้ามีคำตอบอยู่ในใจแล้วล่ะ เพียงแต่อยากฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วยเท่านั้น จากคุณ : billion_mls เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:34:44

ความคิดเห็นที่ 95   ขอเพิ่มเติมเรื่องกรรม ไม่ว่าจะไม่ให้เค้าเกิด หรือเกิดแล้วไม่เลี้ยงดู หรือเกิดแล้วเลี้ยงดูได้ไม่ดีพอ มันก็เป็นกรรมทั้งนั้น แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 15:43:27 จากคุณ : billion_mls เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:38:59

ความคิดเห็นที่ 96   งานเข้า เลย เสียใจกับเพื่อน จขกท ด้วยครับ ขอสนับสนุน คห ที่ให้เอาเด็กออก เพราะ ถ้าเด็กเกิดมา เราต้องเอาใจใส่เค้า เป็นอย่างมากในภาวะปัจจุบัน เพื่อนคุณต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด จะเอาออก หรือจะเลี้ยงดูอย่างสุดความสามารถแต่ถ้าคุณคิดว่าเลี้ยงได้ไม่ดีหรือ         ไม่พร้อม หรือเป็นแผลในใจ ก็อย่าปล่อยออกมาให้เป็นภาระของสังคมเลยครับ ปล ผมคิดในแง่ของความเป็นจริง ไม่ได้เอาเรื่องเวรกรรมมาตัดสินใจ จากคุณ : โหดเร็วแรง (โหดเร็วแรง) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:47:56

ความคิดเห็นที่ 97 เสียใจด้วยนะคะ ตัดสินลำบากจริงๆเรื่องแบบนี้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้มีทางออกที่ดีนะคะ จากคุณ : หมูชมพูออนไลน์ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:39:10

ความคิดเห็นที่ 98 http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y8116024/Y8116024.html ไปเจอกระทู้นี้มาค่ะ มีคำตอบเกี่ยวกับบาป-กรรมจากการทำแท้งประมาณนึง โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับทางออกของคุณแม่น้องหยงค่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 16:45:34 จากคุณ : atihasita เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:44:08

ความคิดเห็นที่ 99 เห็นใจนะคะ สู้ๆแล้วกัน ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน เราเข้าใจนะ จากคุณ : แพนด้าท้องแก่ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:54:58

ความคิดเห็นที่ 100 เอาออกเถิดครับ ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม จากคุณ : agios เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:56:27

ความคิดเห็นที่ 101 ในกรณีนี้ ผู้เสียหาย มีสิทธิ์ค่ะ  มีสิทธิ์ที่จะคิดทำตามที่ตัวเองต้องการ และคิดว่ามันเหมาะสมกับชีวิตของตัวเอง เรื่องอื่นไม่ต้องคิดค่ะ จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:07:46

ความคิดเห็นที่ 102 ผมก็ว่าคนท้องน่าจะเป็นคนตัดสินใจได้ดีที่สุดนะครับ แต่อย่างนี้คนนอกอย่างผมก็เลือกที่จะเอาออกครับ... อีกใจหนึ่งก็รู้สึกสงสารเด็กเหมือนกัน...แต่แหม.... มันเลือกไม่ได้นี่ครับ...เอาหล่ะลงอีกหนึ่งเสียง....... เอาออกเลยครับถ้าไม่พร้อม... จากคุณ : Mr.Quiet เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:13:04

ความคิดเห็นที่ 103 อ่านจบ เกิดคำถาม ทำไมปล่อยให้ล่วงเลยขนาดนี้  น่าจะแจ้งความแต่แรก เข้าใจค่ะว่ากระบวนการยุติธรรมบางอย่างไม่เหมาะ  ไม่เอื้อให้ผู้หญิงเราบากหน้า แต่มันก็ต้องตัดใจอ่ะ ลองปรึกษาสมาคมทนายความสตรีดูนะคะ  ถึงช่องทางการแก้ปัญหา เราว่าบางอย่างแก้ไขได้  โดยไม่ต้องทำร้ายชีวิตด้วย คนอยากมีลูกเยอะนะ อาจคลอดแล้วยกให้ญาติ   หรือพ่อแม่บุญธรรมไปก็ได้ ใจเย็น ๆ อย่าคิดสั้น  ทางออกยังมีค่ะ จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:29:17