ความคิดเห็นที่ 1 เราก็อยากมีลูก แต่ไม่อยากมีปั๋วอ่ะ 555+ ไม่มีข้อมูล รอฟังมั่ง เอิ้กๆ จากคุณ : ยัย..ฉอเล๊าะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 21:24:25

ความคิดเห็นที่ 2 ผมอยากทำลูก แต่ไม่อยากมีลูกอ่ะ เท่าที่ผมรู้แบบงูๆปลาๆ 1,3  ในปัจจุบัน กฎหมายไม่ได้ห้ามครับ แต่ถ้าคนที่อุ้มบุญเกิดจะมาบังคับให้เรารับผิดชอบเขา  เราจะเอาข้อตกลงเกี่ยวกับการฝากท้อง มาอ้างต่อศษลไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นข้อตกลงที่ขัดต่อศีลธรรม 2. น่าจะเป็นอเมริกามั้ง เคยอ่านว่า ไมเคิล แจ็คสันผู้ล่วงลับก็มีลูกด้วยวิธีแบบนี้ จากคุณ : chronos เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 21:31:43

ความคิดเห็นที่ 3 ผมก็อยากมีลูก... แต่ยังหาแม่ของลูกไม่ได้... เลยไม่รู้จะช่วยบอกอะไร... จากคุณ : Evolution III เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:02:19

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้ากฏหมายไทยอนุญาตให้ทำอุ้มบุญได้ แล้วลูกที่เกิดมา ผมไม่อยากให้ระบุชื่อคนที่อุ้มบุญ เป็นแม่ จะได้ไหม เคยได้ยินว่า กฏหมายระบุว่าหญิงคนที่คลอดถือว่าเป็นแม่ อะไรทำนองนี้ จากคุณ : Ken เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:06:31 A:112.143.31.225 X: TicketID:101643

ความคิดเห็นที่ 5 แต่อิชั้นอยากมีปั๋วแต่ไม่อยากมีลูกอ่ะค่ะ อ๊างงงง คริ คริ จากคุณ : FeeL100% เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:07:01

ความคิดเห็นที่ 6 "ผมชอบอยู่ ชอบไปไหน ชอบทำอะไร ที่เป็นอิสระ ไม่อยากผูกมัดกับใคร ประมาณนั้น" อย่ามีเลยครับ เพราะเด็กคนหนึ่ง ไม่ใช่หมาแมวนะครับ จะได้ทิ้งขว้างไปมีอิสระได้อย่างที่คุณเคยเป็น ควรจะเลี้ยงดูลูกให้เติบโต ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ครับ ^^ จากคุณ : robottoto เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:09:34

ความคิดเห็นที่ 7   ^ ^ ผมบอกไว้แล้วครับ ผมจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด ลูกผมไม่ใช่หมาใช่แมว ครับ แต่ผมไม่อยากมีเมีย T_T จากคุณ : Ken เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:13:06 A:112.143.31.225 X: TicketID:101643

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท + คคห 1 จับคู่กัน แล้วให้หมอช่วยมีแฝด คลอดแล้วแบ่ง คนละคน จบ จากคุณ : Miracle Boy เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:23:40

ความคิดเห็นที่ 9 คุณควรคิดให้รอบด้านกว่านี้.... เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะเกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์โดยมีพ่อ แม่ ตามธรรมชาติ....การที่คุณให้เค้าเกิดมาโดยปราศจากแม่เพียงเพื่อสนองความต้องการเพี้ยนๆ ของตนเองเพียงฝ่ายเดียวไม่เป็นการเห็นแก่ตัวไปหรือครับ แค่พื้นฐานความคิด พื้นฐานจิตใจ...คุณก็ยังสอบไม่ผ่านการเป็นพ่อคนแล้ว  อย่าดิ้นรนเอาเด็กมาเลี้ยงเลยครับ...สงสารเด็ก... การที่เราจะเลี้ยงคนหนึ่งคนนี้มันยากกว่าที่คุณคิดนะครับ....ขนาดครอบครัวปกติพ่อแม่สมบูรณ์เค้ายังวางแผนในการเลี้ยงดูและทุ่มเทกับลูกมาก... แล้วคุณหละครับ...ทราบมั้ยว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวอันประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก คืออะไร....ทราบมั้ยว่าความเป็นผู้นำคืออะไร....คราบมั้ยว่าความเป็นสามีที่ดีคืออะไร....ทราบมั้ยครับว่าบทบาทความเป็นสามีที่ดีที่ควรปฎิบัติต่อภริยาคืออะไร......ทราบมั้ยว่าบทบาทของความเป็นแม่คืออะไร.....และทราบมั้ยว่าเด็กจะดูแบบอย่างและซึมซับพฤติกรรมทั้งจากบิดา และมารดา...โดยมารดาจะสามารถแทนบทบาทได้ทั้งพ่อและแม่....ครอบครัวจึงต้องการมารดามากกว่าบิดา คุณทราบความสัมพันธ์กันระหว่าง "สถานะภาพ"  "บทบาท"  และ "หน้าที่" ของแต่ละบุคคลในครอบครัวมั้ยว่ามันคืออะไรและต้องสอดคล้องกันอย่างไร.... อยากจะมีเล่นบทบาทความเป็นพ่อคน....แต่ไม่อยากจะอยากจะมีสถานะภาพเป็นสามีใคร....แค่คิดก็เพี้ยนไปหมดแล้ว แค่ความคิดเพี้ยนๆ ของคุณก็สอบไม่ผ่านความเป็นพ่อแล้ว....คุณจะสอนเด็กให้เป็นหัวหน้าครอบครัวได้อย่างไร...คุณจะสอนเค้าให้เป็นสามีที่ดีที่รักภริยา รักครอบครัวได้อย่างไร  ในเมื่อในวันนี้คุณยังไม่มีความรู้สึกนั้นเลย... เลิกเพ้อฝันได้แล้ว.... (แก้คำผิด) แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 52 22:42:02 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 52 22:39:32 จากคุณ : อินทร์นิล เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:29:35

ความคิดเห็นที่ 10   ^ ^ ^ ผมบอกไว้แล้วครับ ไม่ต้องบอกว่าสงสารเด็ก ผมจะเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด ครับ เข้าใจคำถามด้านบนไหมครับ ผมไม่ได้อ่านของคุณหมดหรอก แต่ผมดำรงชีวิตอยู่ด้วยลำแข้งตัวเองมาถึงทุกวันนี้ ผมมีการมีงาน หาเงินเลี้ยงตัวเอง และพ่อแม่ได้ทุกวันนี้ ผมอยู่มาทุกวันนี้ ผมมีความสุขดีแล้วครับ ผมไม่ได้ต้องการมีเมียยย เข้าใจไหมครับ ผมไม่ใช่เก้งกวาง แต่ผมไม่อยากมีเมีย ผมเชื่อว่าผมอยู่กับเขาได้ไม่นานหรอก จะให้ผมมีลูกกับเขาแล้วเราก็แยกทางกันหรอครับ แล้วลูกล่ะ ทำไง หารสองแบ่งกันเลี้ยง หรือ แบ่งครึ่งหรอครับ ผมเชื่อว่า ผมจะเลี้ยงลูก ให้เติมโดเป็นคนดีได้ครับ เด็กหลายคน มีแม่คนเดียว หรือ มีพ่อคนเดียว หรือไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ เขาก็เติมโตมาได้ หลายคนก็เป็นคนดีได้ แล้วทำไม เด็กคนเดียวที่ผมจะเลี้ยงเขา(ให้ปู่กับย่าเขามาช่วยเลี้ยงด้วย) จะเติมโตมาเป็นคนดีไม่ได้ครับ และผมไมไม่รับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงหรอกครับ ความรู้สึกมันไม่ได้ ครับ ความผูกพันมันไม่มีครับ ผมต้องการลูกของผม ที่มี DNA ของผมผสมอยู่ ครับ มันไม่ใช่แค่เพ้อฝัน ไม่ใช่คิดเพี้ยนๆ ผมคิดไว้นานแล้ว หากเมืองไทยทำไม่ได้ ผมจะไปทำเมืองนอก ครับ ผมวางแผนเรื่องนี้ตั้งแต่ผมอายุ 20แล้วครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากนะครับ หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม โพสต์ต่อได้นะครับ จากคุณ : Ken เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:43:35 A:112.143.31.225 X: TicketID:101643

ความคิดเห็นที่ 11 ผมอยากรู้แต่ไม่อยากถาม จากคุณ : hydrophobia เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:43:48

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ.....อินทร์นิล         สุดยอด   คมยิ่งนัก เดาว่า  แต่งงาน และ มีลูกแล้ว   และตอนที่พิมพ์  เมียนั่งอยู่ข้างๆ จากคุณ : บาวเวอร์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 22:50:40

ความคิดเห็นที่ 13 ^ อ่านความเห็นที่ 9 แล้วอึ้งหน่อยๆ   แต่เราคิดคล้ายๆ จขกท นะ  อยากมีลูกโดยที่ไม่มีฝาระมีมาวุ่นวาย คือผู้ชายสมัยนี้แย่ๆทั้งนั้น (ไม่ได้ว่านะแต่หลายๆคนเป็นแบบนั้น) แบบว่าเกาะผู้หญิง ไม่มีความรับผิดชอบ หลายใจ  ขี้เมา  มีแบบนี้ไม่มีดีกว่า เข้าใจนะว่าคนดีๆนะมี  แต่คนดีๆมันไม่เหลือถึงเรา ก็ไม่ใช่คนสวยที่เลือกผู้ชายดีๆได้  แต่ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากมีลูก จากคุณ : aonton เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:04:54

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าต้องการแบบนั้นจริง ไม่ต้องห่วงเรื่องกฏหมายและศีลธรรมก็ได้ เชื่อว่ามีคนพร้อมให้ความร่วมมือกับคุณ อาจเป็นทำนองนี้... -ประกาศหาผู้บริจาคไข่ คุณอาจเลือกคนที่ถูกใจคุณไม่ได้ หรือไม่ต้องยอมจ่ายค่าไข่(ถ้าอยากเจาะจงไข่ของคนที่ต้องการจริงๆ) -ประกาศหาคนที่จะอุ้มบุญให้คุณ แน่นอนว่างานนี้ไม่ฟรี...ผมประเมินราคาว่าอาจเลขหลัก7ตัว (ถ้าคุณมีเมียมีลูกแล้วหย่ายังถูกกว่านี้ เผลอๆเกิดเมียรวยกว่า มีส่วนแบ่งเพิ่ม...หุหุ อุบาศก์ไม๊นี่ตู) -ต่อไปก็ทำกิฟ เด็กหลอดแก้ว ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณ -ระหว่างเด็กยังเล็กต้องหาแม่นม จ้างคนเลี้ยงเด็กดีๆ จนกว่าเด็กจะโตจนช่วยตัวเองได้ประมาณ 10 ปีกว่า ผมว่าขั้นนี้จะมีปัญหากับคุณและเด็กมากที่สุด ......................................................................................... ตอนอายุเท่าคุณผมยังไม่คิดถึงการมีลูกเลย  แต่ตอนนี้ผมคิดถึงการมีแม่ของลูกเยอะๆ อิอิ....(ช่วยกันเลี้ยงลูกๆ) จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:06:01

ความคิดเห็นที่ 15 ใช่ครับ....เด็กหลายคนเกิดมาโดยมีพ่อคนเดียว  หรือแม่คนเดียว....แต่ไม่ว่าจะมีพ่อคนเดียวหรือแม่คนเดียวนั้นมันก็เป็นพ่อแม่ที่มีความปกติทางความคิด....เป็นพ่อแม่ตามธรรมชาติ.....คือเป็นผู้ชายที่มีความเป็นสามี....เมื่อมีความเป็นสามีมันจึงพัฒนามาเป็นพ่อคน...บทบาท และ หน้าที่ มันจึงตามมา แต่ดูจากอุดมคติทางความคิดของคุณแล้วมันผิดเพี้ยนมาก.....มันไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงบางคนที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการมีคู่ครองแต่ต้องการมีบุตร....ซึ่งสมัยก่อนในต่างประเทศตอนที่เทคโนโลยีทำกิ๊ฟออกมาใหม่ๆ ยังไม่มีใครตระหนักถึงปัญหาในข้อนี้...จึงปล่อยให้มีการทำกิฟเสรี....ผู้หญิงที่ไม่ต้องการสามีแต่อยากมีบุตรจึงแห่มาทำกิ๊ฟกัน ผลคือเด็กที่ออกมาส่วนใหญ่กลายเป็นเด็กมีปัญหา....ไม่สามารถเข้าสังคมได้.....มีพฤติกรรมที่ต่อต้านสังคม...มีความก้าวร้าว....เพราะมันเกิดมาผิดธรรมชาติ....ขาดความอบอุ่นอย่างรุนแรง....ไม่มีพ่อตามธรรมชาติ....เพราะผู้หญิงเหล่านี้คิดว่าตัวเองมีเงินก็น่าจะเลี้ยงลูกคนได้...ไม่น่าต่างอะไรก็ลูกหมา....แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่....สายใยความผูกพันในครอบครัวมันมีมากกว่านั้น....ซึ่งคนที่ไม่มีครอบครัวไม่มีวันทราบได้เลย....เมื่อมันไม่รู้มันก็เลี้ยงลูกไม่เป็น.... ธรรมชาติสร้างครอบครัวให้ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ แล้วจึงมีลูก....ชายและหญิงจึงต้องเรียนรู้ถึงบทบาทและหน้าที่ของความเป็นสามีและภริยาก่อนจึงจะเป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์ได้ เมื่อปัญหามันเริ่มส่งผลต่อพลเมืองในอนาคตของเค้า.....ภายหลังต่างประเทศจึงออกกฎหมายมาควบคุมการทำกิ๊ฟให้กระทำได้เฉพาะในกรณีครอบครัวปกติที่มีบุตรยาก.....ประเภทตั้งใจเป็นซิงเกิ๊ลมัมเค้าไม่ให้ทำแล้ว  เพราะเด็กออกมามีปัญหาหมด.....ถ้าขืนให้มีลูกแบบนี้ต่อไปเด็กมีปัญหาเต็มเมืองแน่.....เป็นภาระของรัฐที่จะต้องเข้ามาดูแลเด็กเหล่านี้....เพื่อให้เค้าเป็นปกติแล้วกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อีกครั้ง....จะได้ไม่เป็นภาระของสังคม ปัญหามันจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าจะทำให้เด็กเกิดมาอย่างไร...จะเอาอะไรเลี้ยงเค้า....มีเงินหรือเปล่า.....แต่มันอยู่ที่จะเลี้ยงเค้าให้เป็นคนที่สมบูรณ์ได้อย่างไร....ในเมื่อคนที่เลี้ยงมันยังมีความผิดปกติทางความคิด.....ไม่เข้าใจในสัมพันธภาพในครอบครัวที่ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก   คุณลองอธิบายสิ่งต่างๆ ที่ผมถามมาในความเห็นที่ 9  สิว่ามันคืออะไร...สิ่งต่างๆ พวกนี้คุณยังไม่รู้เลยแล้วจะเลี้ยงเด็กผู้ชายให้เค้าไปเป็นสามีคนอื่นได้อย่างไร....เมื่อความเป็นสามียังไม่รู้ต่อไปจะเป็นพ่อคนได้อย่างไร....แล้วเด็กมันจะไม่เป็นปัญหาสังคมเหรอ.... ความรับผิดชอบต่อชีวิตผู้อื่นของคุณอยู่ที่ตรงไหน....ความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่ที่ตรงไหน... ผมว่าคุณควรพบจิตแพทย์มากกว่านะครับ (แก้คำผิด) แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 20:02:53 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 52 23:19:32 จากคุณ : อินทร์นิล เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:07:47

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้นะครับ ปัจจุบันมีหลาย ๆ คนที่ไม่อยากมีคู่แต่อยากมีลูก แต่การที่เด็กคนหนึ่งเติบโตมาโดยขาด พ่อ หรือ แม่ ที่ไม่ใช่ขาดแบบมีหตุผลที่ชัดเจน เช่น พ่อแม่เลิกกัน หรือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายไป ผมว่าเด็กน่าสงสารนะครับ ผมเองก็เติบโตมาโดยที่ไม่รู้จักพ่อ แม่ไม่เคยปริปากบอกเรื่องพ่อเลย แต่โชคดีที่ไม่เคยโดนใครล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ ผมก็เคยคิดอยากจะมีลูก โดยที่คิดว่าเราจะเลี้ยงเขาคนเดียว แต่ถามว่า ผมพร้อมจะเป็นพ่อไหม ผมไม่พร้อม ถึงทุกวันนี้ผมจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน นาน ๆ ออกไปเที่ยวทานข้าว ดูหนัง กับเพื่อนสักครั้ง ผมก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี เพราะผมไม่อยากเห็นหน้าลูก ตอนที่ลูกถามว่า ทำไมหนูถึงไม่มีแม่ ผมนึกถึงตอนที่ตัวเองถามแม่ว่า พ่อผมคือใคร แม่มองหน้าผมอึ้ง ๆ น้ำตารื้น ๆ แล้วตอบผมว่ามีแม่คนเดียวไม่พอหรือ ผมกลัวแม่เสียใจ จึงไม่เซ้าซี้ต่อ แต่มันเป็นเรื่องที่ฝังอยู่ในใจมาตลอด แต่ต้องทำเป็นเหมือนไม่อยากรู้ แล้วเคยรู้ไหมครับ เวลาที่เห็นเพื่อน ๆ อยู่กันพร้อมทั้งครอบครัว ถึงจะทะเลาะกันบ้างอะไรบ้าง อย่างน้อยเขาก็อยู่พร้อมหน้ากัน เวลาเห็นแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกขาด ทั้ง ๆ ที่แม่ของผมไม่เคยให้ผมต้องขาดแคลนอะไรเลย คิดยาว ๆ ไกล ๆ ครับ แต่ถ้าเจ้าของกระทู้มองว่า ทุกอย่างไม่มีปัญหา เพราะพร้อมทุกอย่างในการเลี้ยงดูเด็กหนึ่งคน ผมขออวยพรให้สมหวังโดยเร็ว ๆ วันครับ จากคุณ : robottoto เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:13:55

ความคิดเห็นที่ 17   ^ ^ ^ การเป็นสามีคน มันวิเศษมากหรอครับ การที่ผมไม่ต้องการมีเมีย นี่ถือว่าเป็นโรคจิต หรอครับ การที่ผมอยากเลี้ยงลูก อยากมีลูก มันโรคจิต หรอครับ การเป็นสามี มีเมีย มันคงเหมือนได้ขึ้นสวรรค์หรอครับ (ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเซ็กส์) การที่คนไม่ต้องการเมีย คงเป็นคนเลวมากๆ ในสังคมล่ะสินะครับ บอกตามตรง ผมปลงกับเรื่องผู้หญิง แล้ว ผมจึงไม่อยากมีเมีย หากคุณรักเมีย มาก ก็ไม่ต้องมาดูถูกดูแคนผมหรอกครับ ผมไม่ใช่สามีผู้วิเศษเหมือนคุณ ผมมันเลวเองครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Ken เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:20:46 A:112.143.31.225 X: TicketID:101643

ความคิดเห็นที่ 18   เอาละครับ ปิดกระทู้ไปเหอะ หากที่นี่คิดถึงแต่ว่า เด็กจะมีปัญหา สงสารเด็ก ผมบอกไว้แล้วตั้งแต่หัวกระทู้ ว่าไม่ต้องมาบอกว่า "สงสารเด็ก" ไม่ต้องมาแนะนำว่า "ให้มีเมีย" อ่านคำถามใหม่นะครับ หากมันผิดศีลธรรมอะไร ก็ช่างมันเหอะครับ ผมเลวเอง อาจจะทำลายอนาคตของเด็กคนหนึ่ง ผมมันผิดโรคจิต ที่คิดไม่อยากมีเมีย แต่อยากมีลูก ปิดกระทู้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Ken เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:28:40 A:112.143.31.225 X: TicketID:101643

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ ^ คุณยังไม่เลวเหรอครับ....แต่คุณมันเพี้ยน....แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณไปหาเด็กมาเลี้ยงไม่ว่าด้วยวิธีใด....ด้วยความคิดอันบิดเบี้ยงของคุณในวันนี้....นั้นแหละครับผมจะถือว่าคุณเลวมาก.....เพราะคุณกำลังทำร้ายชีวิตของคนหนึ่งคน....ทำร้ายสังคมส่วนร่วม คุณไม่เข้าใจเรื่องความละเอียดอ่อนของจิตใจ....คุณไม่ควรเลี้ยงเด็ก....คุณไม่เข้าใจว่ามนุษย์ต้องการสายใยของความเป็นครอบครัว....แม้แต่สัตว์ซึ่งเป็นสัยว์สังคมก็ต้องมีสายใยตรงนี้....แต่นั้นมันจะออกมาในรูปแบบของสัญชาตญาณ.....แต่สายใยความผูกพันในครอบครัวของมนุษย์มันละเอียดและมีมากกว่านั้น....มันจึงต้องการพ่อแม่ที่แท้จริงในการถ่ายทอดและปลูกฝังให้แก่ทายาทรุ่นต่อไป....เพื่อดำรงเผ่าพันธ์ของมนุษย์ แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้คุณไม่มี....คุณไม่รู้....แต่คุณอยากจะทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ในการเลี้ยงมนุษย์ให้เป็นคนที่สมบูรณ์.....คุณมันเพี้ยนแล้วครับ จากคุณ : อินทร์นิล เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:30:52

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่ามีความเห็นที่แตกต่างจากความตั้งใจของเจ้าของกระทู้บ้างก็ดีนะครับ เผื่อจะได้หยุดและคิดอะไรนิดนึง แต่ผมคิดว่าเจ้าของกระทู้กลับมองเฉพาะมุมของตัวเอง วุฒิภาวะอย่างนี้ ก็ยังไม่พร้อมจะเป็นพ่อคนนะครับ ลองใจเย็น ๆ และคิดถึงผลได้ผลเสียก่อนทำอะไรลงไป จะได้ไม่ต้องเสียใจในอนาคต และต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ถ้าสิ่งที่ผมตอบอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ท่านขุ่นเคือง จากคุณ : robottoto เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:36:05

ความคิดเห็นที่ 21 ขอให้กำลังใจ จขกท. ค่ะ แล้วสาวกุมภ์คิดว่า  คุณไม่เพี้ยน ในสังคมสมัยนี้  ความคิดแบบนี้มีมากค่ะ จากคุณ : สาวกุมภ์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:43:00

ความคิดเห็นที่ 22   ผมไม่ได้เคืองคุณ robottoto หรอครับ แค่ใครบางคน ที่รักครอบครัวมาก แล้วมาป่วนผมเอง ผมตอบแบบโผงผาง ไปเอง ผมไม่ได้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ผมไม่ได้หงุดหงิดอะไร และไม่ได้โกรธใคร คิดอะไรก็พูดตรงๆ มันอาจดูว่าผมกำลังโกรธละมัง เหอๆ ผมคงพูดตรงๆ ตามที่คิด มากไปละมัง ผมสตอไม่ค่อยเก่ง แค่นี้แหละ ไปนอนละครับ จากคุณ : Ken เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:46:14 A:112.143.31.225 X: TicketID:101643

ความคิดเห็นที่ 23 "การเป็นสามีคน มันวิเศษมากหรอครับ" ^ ^ ^ มันไม่ได้วิเศษมากหรอกครับ....แต่มันทำให้ผู้ชายคนหนึ่งรู้จักที่จะเสียสละเพื่อครอบครัว....รู้จักที่จะเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง....รู้จักที่จะมีความอ่อนโยนให้แก่ผู้หญิง....และที่สำคัญรู้ว่าความรักนี้คืออะไร "การที่ผมไม่ต้องการมีเมีย นี่ถือว่าเป็นโรคจิต หรอครับ" ^ ^ ^ ไม่ถือว่าโรคจิตเหรอครับ...... "การที่ผมอยากเลี้ยงลูก อยากมีลูก มันโรคจิต หรอครับ" ^ ^ ^ ในเมื่อคุณไม่อยากมีเมีย....มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการมีครอบครัว....ไม่มีความเข้าใจในความผูกพันที่คนในครอบครัวมีให้ต่อกัน....แต่ดันอยากมีลูก....อยากเป็นพ่อคน....อย่างนี้ผิดปกติทางความคิดแล้วครับ ผมถามคุณจริงเหอะว่า.....คุณเกิดและเติบโตมาอย่างไร....ทำไมทัศนะคติของคุณต่อการมีครอบครัวถึงแย่มากๆ....แล้วในเมื่อทัศคติต่อครอบครัวคุณแย่ขนาดนั้นคุณจะมีลูกไปเพื่ออะไรครับ.....ดูจากอารมณ์คุณแล้วแม้แต่ลูกหมาผมยังไม่แนะนำให้คุณเลี้ยงเลย..... แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 52 23:53:05 จากคุณ : อินทร์นิล เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:50:05

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ อินทร์นิล  ใช้คำแรงเกินไปนะค่ะ การที่คุณตัดสินคนหนึ่งคนว่า  เขาเพี้ยน  ทัศนิคติแย่ ต่างๆๆ นานาๆๆ นั้น สักนิดเถอะค่ะ.....คุณเป็นใครหรือค่ะที่ตัดสินคนหนึ่งคนว่าเขาแย่แบบนั้น คุณเอาความคิดของตัวเองเป็นบรรทัดวัดคนอื่น ขนาดศาลจะพิพากษาคนหนึ่งคน  ท่านก็ต้องตัดสินคนจากหลักฐาน นักวิชาการเฉพาะทาง ฯลฯ แต่คุณกลับตัดสินคนหนึ่งคนโดยความคิดของตัวเอง บอร์ด นั้นเปิดกว้างทางความคิด  เป็นเสรีในการแสดงความคิดเห็น แต่คุณกลับปิดกั้นความคิดของจขกท.  และตัดสินเขาว่าแย่ เพี้ยน ฯลฯ คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้างก็ดีนะค่ะ อย่ายึดความคิดของตัวเองคนเดียวเลย แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 00:02:52 จากคุณ : สาวกุมภ์ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 00:01:11

ความคิดเห็นที่ 25   พอดีกำลังจะปิดเครื่อง คุณไม่ต้องมาทำตัวเป็นหมดดูหมอเดาหรอกครับ (กลายเป็นกระทู้สาดดเสียเทเสียย ละ) ผมจะเติมโดมายังไงก็ช่าง แต่ผมก็รักพ่อรักแม่ รักปู่รักย่า รักตารักยาย พี่ป้าน้าอา ผมรักทุกคน และทุกคนก็รักผม ผมไม่ได้มีอคติอะไรอย่างที่คุณทำตัวเป็นหมอดูหมอเดาหรอก ผมบอกแล้วว่า "ผมไม่ต้องการมีเมีย" เข้าใจคำนี้ไหม ถ้าไม่เข้าใจ อินกับเมียมาก ก็ไปซบอกเมียเถอะครับ เอาเป็นว่าผมไม่ใช่ผู้วิเศษอย่างคุณ ขอบคุณครับ ไปนอนละ ขี้เกียด ขอบคุณครับ จากคุณ : Ken เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 00:05:39 A:112.143.31.225 X: TicketID:101643

ความคิดเห็นที่ 26   ขอบคุณมากนะครับ คุณสาวกุมภ์ ที่เข้าใจผม คุณอินทร์นิล ผมเข้าใจว่าคุณคงเป็นผู้อวุโส หากล่วงเกินไปก็ขออภัย นะครับ จากคุณ : Ken เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 00:10:02 A:112.143.31.225 X: TicketID:101643

ความคิดเห็นที่ 27 เราเกิดมาคล้ายๆ แบบที่คุณ จขกท. บอกแหละ แม่เลี้ยงคนเดียว พ่อแยกทางกับแม่ ตอนนี้โตมา เป็นคนที่คนอื่นบอกว่าเป็นคนดี คนอื่นบอกว่าแม่เก่งมากที่เลี้ยงเรามาได้ขนาดนี้ เราไม่มีปัญหากับเพื่อน เป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์(หลายคน) รัก เป็นเพื่อนที่ดีของคนอื่นหลายคน เป็นคนที่มีอนาคตอย่างที่หลายคนเคยมาสารภาพว่าอิจฉา มีงานเงินเดือนเรือนแสนรอรับ ฯลฯ แต่ทุกวันนี้เราก็ยังคิดถึงพ่อ เราก็ยังคิดถึงครอบครัวที่อบอุ่น เราก็อยากให้พ่อกับแม่มาอยู่ด้วยกัน เราก็เหมือนคุณ robottoto เราอิจฉาเพื่อนทุกครั้งที่พ่อกับแม่เขามาเยี่ยมพร้อมกัน เขามีทั้งพ่อแล้วก็แม่ มีครอบครัวที่มีความสุข แต่เราไม่เคยบอกแม่เพราะว่าเรารู้ว่าแม่จะเสียใจ เราบอกใครๆ ว่าเราไม่มีปัญหาอะไร แต่สุดท้าย ในใจเราก็แหว่งๆ วิ่นๆ อยู่ดี มันเหมือนไม่เต็ม เหมือนมีอะไรบางอย่างที่มันหายไป แต่เราก็ต้องพยายามไม่นึกถึง แล้วก็อยู่ให้ได้ แต่ในความเป็นจริง มันก็ลำบากพอตัว เราเคยคิดเหมือนกันว่า เราไม่น่าเกิดมาด้วยชะตาแบบนี้เลย แต่เราก็ต้องเก็บไว้เพราะ 'ไม่อยากให้แม่รู้' แม่จะเสียใจ แม่ดีกับเรามาก เพราะแม่สัญญากับตัวเองว่า แม่จะดูแลเราให้ดีที่สุด (และแม่ก็ทำได้ตามนั้น) แต่ก็อยากให้พ่อมาอยู่ด้วย อยากมีความรู้สึกอบอุ่นแบบนั้นบ้าง พิมพ์ไปน้ำตาก็ไหล (ซะงั้น) ตอนนี้เราคิดว่า ถ้าเรามีลูก จะไม่ให้ลูกต้องมารู้สึกเหมือนที่เราเคยรู้สึก ก็เท่านั้น จากคุณ : พิณณ์อวี เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 00:36:01

ความคิดเห็นที่ 28 ใจเย็นๆ กันนะคร๊าบบบ ไม่สนับสนุนความคิดนี้นะคะ ส่วนคำถาม ทำได้ แต่ไม่มีกฏหมายรองรับค่ะ การทำไรอะไรที่ "ดีที่สุด" สำหรับคนๆ หนึ่ง ไม่ใช่สิ่งๆ หนึ่ง นะคะ คนเราคิดไม่เหมือนกัน เด็กที่โตขึ้นมา ดีที่สุดของเราที่ให้เค้าไป อาจจะเติมเต็มชิวิตเค้าไม่ได้นะคะ เด็ก ที่มีแม่เพียงคนเดียวหรือพ่อเพียงคนเดียว แน่นอนหลายคนไม่มีปัญหา นิสัยดี มีความสามารถ แต่ ส่วนลึกๆ ในจิตใจที่เค้าไม่ได้แสดงออกมาล่ะ ส่วนหนึ่งของจิตใจร่ำร้องหาสิ่งที่ธรรมชาติ พึงมีให้ ทั้งนั้นล่ะค่ะ คุณบอก "ผมชอบอยู่ ชอบไปไหน ชอบทำอะไร ที่เป็นอิสระ ไม่อยากผูกมัดกับใคร " แต่การที่คุณมีลูก คุณจะขาดอิสระทันที ยิ่งกว่ามีอะไรมาผูกมัดอีก ถ้าคุณมีนิสัยดังนี้จริง อย่าเพิ่งมีลูกเลยค่ะ ยิ่งคุณไม่ต้องการเมียด้วยแล้ว ยิ่งแล้วใหญ่ (หรือเวลาเที่ยวก็ฝากปูย่า ไว้เหรอ ไม่เอานะ ) เราว่า ตอนนี้ คุณ เที่ยวให้พอ สนุกให้พอ ใช้ชีวิตอิสระให้เต็มที่ดีกว่า อย่าเพิ่งหาห่วงอะไรมาผูกคอเลยค่ะ เพราะเราคิดว่า ลูกนั่นแหละ ยิ่งถ้าคุณคิดจะเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุดด้วยแล้ว  ห่วงเบ้อเลิ่มเทิ่มเลยล่ะ กว่าเค้าจะโต แบบสองคนพ่อลูกไปไหนไปกัน ก็อีกเกือบ 20 ปีแน่ะ จากคุณ : TheMillerTime เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 00:37:51

ความคิดเห็นที่ 29   เข้าใจความคิด ความรู้สึกของเจ้าของกระทู้ค่ะ และไม่คิดว่าคุณเพี้ยน หรือทัศนคติแย่ะนะคะ แต่เราเห็นด้วยกับ #ความเห็นที่ 16 นะ คุณKen ได้ลองอ่านแล้วตอบคำถามในความเห็นนั้นในใจได้รึเปล่าเอ่ย -ถ้าเด็กถามว่าแล้วแม่หนูอยู่ไหน ทำไมหนูไม่มีแม่ คุณจะตอบเด็กอย่างไรคะ 1ไม่ตอบ หรือบอกว่ามีพ่อคนเดียวไม่พอหรือลูก? เราว่านั่นทำให้เค้ามีปมในใจ สงสัยไปตลอดชีวิต อยากรู้แต่ไม่กล้าถามอีกแล้ว 2 บอกว่าแม่เสียไปแล้ว? 3 บอกตรงๆว่าเค้าเกิดมาได้อย่างไร บอกว่าเค้าเกิดมาจากการอุ้มบุญ หรือวิธีอื่นๆที่คุณสร้างเค้าขึ้นมา? คุณคิดว่าเค้าจะมีปมในใจมั๊ยคะ เค้าจะอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเด็กคนอื่นๆมั๊ย เค้าจะโดนเด็กคนอื่นล้อว่าไม่มีกำพร้าไม่มีแม่มั๊ย? เราเชือค่ะว่าคุณสามารถให้ความรัก ดูแลเค้าได้อย่างเต็มที่อย่างที่คนๆนึงจะทำได้ แต่ว่าเราไม่สามารถปกป้องเค้าจากความคิดของคนอื่น จากการนินทาว่าร้านของมนุษย์ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเค้าอาจจะเข้มแข็งหรืออ่อนแอจากสภาวะแวดล้อมได้ด้วยปิจจัยหลายอย่าง ถ้าเด็กคนนั้นไม่หวั่นไหวต่อปัยจัยรอบข้างได้ ก็ถือว่าเป็นบุณของเด็กคนนั้นค่ะ แต่เราก็เชื่อนะคะว่าเค้าเราให้ความรัก สอนเค้าด้วยเหตุผล อย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ว่าเค้าจะมีแค่พ่อ หรือแม่แค่ฝ่ายใดฝ่ายเดียว เค้าจะเกิดมาได้อย่างมีความสุขค่ะ ปล.ไม่ได้มาให้คำตอบจขกท. แต่แค่มาให้แง่คิดอีกมุมนึกเพื่อการตัดสินใจก่อนปฎิบัติจริงค่ะ ^^ รวมทั้งมาหาความรู้สำหรับตัวเองด้วย จากคุณ : บาบู เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 00:42:17 A:130.88.99.232 X: TicketID:174839

ความคิดเห็นที่ 30 อยากรู้เพิ่มเติม ทำไมคุณ Ken ถึงอยากมีลูกล่ะคะ เราก็ชอบเด็กนะ เด็กเล็กๆ สองสามขวบ น่ารัก มากกกกก เห็นแล้วอดใจไม่ไหวทุกที ต้องเข้าไปกอด ฮ่าๆ แต่เรายังไม่อยากมีลูก มีครอบครัว นะ เหมือนยังใช้ชีวิตอิสระได้ไม่เต็มที่ (ตอนนี้ 25 เกือบ 26) ยิ่งเด็กๆ นะ กว่าเค้าจะโตมาน่ารักอย่างที่เห็น พ่อแม่ต้องเหนื่อยเยอะเลย  แล้วชิวิตเค้าหลังจากนั้นอีกล่ะ ไม่อยากจะคิด ไปเล่นก่าลูกชาวบ้านดีกว่า จากคุณ : TheMillerTime เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 00:48:17

ความคิดเห็นที่ 31 http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L8126975/L8126975.html รับอุปการะเด็กสิครับ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 01:12:39

ความคิดเห็นที่ 32 ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่าไหมคะ??? คุณ จขกท. อายุยังน้อยอย่าเพิ่งไปฟันธงความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้เลยค่ะ คนเราต้องมีความรัก ความผูกพันธ์กับใครซักคนนึงก่อน..แล้วจากนั้นถึงจะเป็นขั้นตอนของธรรมชาติ ที่จะผลิตเลือดเนื้อเชื้อไขออกมา ซึ่งถ้าหากข้ามขั้นตอนนั้นไป ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่เป็นผู้เป็นคนกับเค้าไม่ได้เลย...เพียงแต่การใช้ชีวิตต่อจากนั้น มันจะต้องเหนื่อยและวุ่นวายเอามากๆๆๆๆ ข้อสำคัญคือมันไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณเพียงคนเดียว แต่ลูกของคุณก็จะต้องได้รับผลกระทบนั้นไปด้วย ( ไม่มากก็น้อย ) เช่นกัน... ใจเย็นๆเถอะนะคะ คุณยังมีเวลาให้กับเรื่องนี้อีกถมเถไป ไม่จำเป็นต้องรีบมาหาข้อสรุปกันภายในวันนี้หรอกค่ะ..โชคดีนะคะ!! จากคุณ : shewant เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 02:27:55

ความคิดเห็นที่ 33   แล้วไม่คิดมั่งเหรอว่าเด็กก็อยากมีแม่เหมือนคนอื่นๆเค้าอะ แค่นี้ไม่เข้าใจก็ไม่สมควรเป็นพ่อคนแล้ว ต่อให้เลี้ยงดีแค่ไหน กินอย่สุขสบายยังไง ก็ไม่เท่าได้อยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูกหรอก คิดแบบนี้เห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ คุณคิดเหรอว่าสิ่งที่คุณว่าดี ที่จะยัดเยียดให้ลูกน่ะ จะทำให้เค้ามีความสุขเสมอไป คุณนึกถึงใจเค้ามั้ยล่ะว่าเค้าต้องการสิ่งที่คุณคิดเอาเองว่าดี หรือเค้าต้องการชีวิตที่สมบูรณ์ จากคุณ : เพี้ยน เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 02:47:26 A:124.121.52.52 X: TicketID:195970

ความคิดเห็นที่ 34 คจขกท.ลองอุปการะเด็กกำพร้าที่มูลนิธิดูสิคะ คือหลายๆคนจะถามหากันว่า เด็กๆจะรู้สึกอย่างไรหากขาดพ่อหรือแม่ อาจเป็นปมด้อย แต่คุณลืมกันไปรึเปล่าว่า แล้วเด็กๆที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ล่ะ เค้าอยากได้พ่อหรือแม่กันรึเปล่า? ถ้าเค้าได้มีเพียงพ่อหรือใครซักคนมาอุปการะ ยังเป็นปมด้อยมากขึ้นอีกหรือเปล่า? แค่เราเข้าไปเลี้ยงอาหารเด็กๆที่มูลนิธิ เอาของเล่นและน้ำไปให้น่ะค่ะ เค้าก็รู้สึกดีมากๆ แววตาเด็กที่นั่นน่ะ บางคนมองเหมือนกับอยากกลับมาอยู่บ้านกับเราด้วยซ้ำ อีกอย่าง เราว่าการอุปการะยังเป็นการช่วยเหลือสังคมด้วยอ่ะ อ่อ .... เพิ่งออกสอบมิดเทอมวิชากฏหมายอาทิตย์ก่อนนี้เอง เห็นว่าผู้รับบุตรบุญธรรมต้องมีอายุอย่างต่ำ25ปี และมีอายุมากกว่าบุตรบุญธรรม15ปีค่ะ... ปล. เราว่าคุณไม่เพี้ยนหรอก คนที่ว่าคุณเพี้ยนตะหาก.... --------------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเพิ่ม เพิ่งวกกลับไปอ่านที่คจขกท.ถามอีกที ต้องทำเด็กหลอดแก้วเพิ่มด้วยนี่หว่า ถ้าแบบนั้นก็อย่าเลย ขออภัยคุณคนที่ว่าว่าเพี้ยนด้วยค่ะ เราอ่านทั้งคห.จนลืมประเด็นเด็กหลอดแก้วที่คจขกท.เค้าถามเองแหละ แต่อยากบอกว่าอย่าเพิ่งไปเหมาว่าคจขกท.เพี้ยนเลย แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 09:03:46 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 04:21:15 จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 04:06:15

ความคิดเห็นที่ 35 ผมก็รู้สึกว่าคุณอินทร์นิลตัดสินคนอื่นโดยใช้บรรทัดฐานตนเองวัด ทำไมต้องคิดว่าเด็กที่มีพ่อหรือแม่เพียงคนเดียวจะไม่มีความสุขละครับ ผมมีพ่อแม่ครบ โอเค ครอบครัวเป็นสุข ผมอยู่กับเด็กๆมาเยอะ เจอหลายๆเคส สำหรับเด็กบางคน พ่อแม่อยู่ด้วยกันจริง แต่ครอบครัวไม่เป็นสุขเลย  เด็กบางคนพอใจและมีความสุขกับการที่มีพ่อหรือแม่เพียงคนเดียว แต่เติมเต็มชีวิตเขาได้ ที่พูดมาแบบนี้ก็แค่อยากจะบอกว่า ใช่ว่ามีพ่อแม่ครบ แล้วเด็กจะเติบโตมาดีนะครับ มันก็แล้วแต่ครอบครัวและพื้นฐานทางจิตใจของคนๆนั้น จากคุณ : รัตนลาวัณย์ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 06:52:25

ความคิดเห็นที่ 36 บางคนอ่านหนังสืออก...แต่แปลความไม่ออก...ไม่เข้าใจประเด็นของปัญหา....เขียนยาวขนาดนี้ก็ยังไม่เข้าใจ ผมถามเถอะว่า...พวกคุณรู้จักคำว่า "สิทธิ" มั้ย....ว่าสิทธิคืออะไร....สิทธิที่จะได้ถือกำเนิดมาโดยปกติมนุษย์...คือมีพ่อ แม่ ตามธรรมชาติที่ครบสมบูรณ์ มันเป็นคนละกรณีกับการที่เกิดมาแล้ว  พ่อ/แม่ทิ้งไปบ้านแตก  หรือพ่อ/แม่ ตาย  อย่างนี้ถือว่าเกิดมาตามธรรมชาติ   แต่เพราะมันมีเหตุทำให้การสมรสสิ้นสุดลง   ซึ่งไม่มีใครอยากให้เด็กเกิดมาในสภาพอย่างนั้น....มันก็ต้องรับสภาพกันไปเลี้ยงดูกันไปเป็นเวรเป็นกรรมของเด็กน้อยไป....แต่อย่างน้อยเค้าก็รู้ว่าเค้าเกิดมาจากใคร...ญาติพ่อ ญาติแม่ก็ยังมีอยู่....ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า  น้า  อา ก็ยังมี แต่ไอ้การอุตริทำเด็กให้เกิดมาโดยผิดธรรมชาติ....มันเป็นการจงใจให้เค้าเกิดมาโดยไม่มี พ่อ หรือ แม่ ตามธรรมชาติ....เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการที่ผิดๆ ของตัวเอง.....โดยเฉพาะคนที่มีความคิดเช่นนี้ก็มีความผิดปกติในจิตใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว....เมื่อคนไม่สมประกอบทางความคิดมาเลี้ยงเด็ก...แล้วเด็กมันจะโตมาโดยสมประกอบได้อย่างไร....กลายเป็นเด็กมีปัญหาหมด.... ถามหาพ่อก็ไม่รู้ว่าพ่อเป็นใคร....ปู่ก็ไม่มี  ลุงก็ไม่มี  อาก็ไม่มี....ญาติพ่อหายไปจากสารบบหมด... และที่สำคัญคนที่ไม่อยากมีคู่ครองแต่อยากมีบุตร....คุณคิดว่าคนพวกนี้สัญชาตญาณความเป็นพ่อ แม่ เค้ามีสูงเหรอ.....เค้ารู้หรือว่าบทบาทความเป็นผู้นำครอบครัวต้องทำอย่างไร....การดูแลและเสียสละเพื่อครอบครัวต้องทำอย่างไร....การใส่ใจดูแลภริยาต้องทำอย่างไร....ความรับผิดชอบต่อครอบครัวต้องทำอย่างไร.....สิ่งเหล่านี้เค้าไม่รู้แล้วเค้าจะไปปลูกฝังเยาวชนรุ่นต่อไปได้อย่างไร แค่เจตคติเพียงเท่านี้มันก็อันตรายต่อการมีชีวิตคู่แล้ว....ยังจะคิดไปสร้างเด็กขึ้นมา....ไม่อันตรายกว่าเหรอ สิ่งใดที่เราเห็นแล้วมันจะเป็นปัญหาสังคมในอนาคตเราต้องยับยั้งมัน.....ป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น....หากพวกคุณมีจิตสำนึกต่อสังคมให้มากกว่านี้  ขยายทัศนคติมุมมองให้กว้างกว่านี้....อย่าเอาความต้องการตนเองมาเป็นที่ตั้ง  แล้วพิจารณาให้รอบด้านคุณจะทราบเองว่าปัญหามันอยู่ที่ตรงไหน อย่าลืมนะครับ...มนุษย์เป็นสัตว์สังคม....เราทุกคนต้องการครอบครัวที่สมบูรณ์....ใครที่เกิดมาเป็นกำพร้ามันก็เป็นความโชคร้ายของเด็กคนนั้น....แต่ไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้น.... แต่นี้จงใจให้เด็กเกิดมาโดยผิดปกติ...ไม่ให้เค้ามีสิทธิที่จะพ่อ หรือ แม่ ตามธรรมชาติ....เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองเพียงฝ่ายเดียว....แค่นี้ก็สอบไม่ผ่านความเป็น พ่อ เป็น แม่ แล้วครับ....เพราะเห็นแก่ตัวอย่างรุนแรง.....ไม่คิดถึงจิตใจผู้อื่น.....คนเช่นนี้ขนาดลูกหมาผมยังไม่แนะนำให้เลี้ยงเลย....แล้วจะให้มาเลี้ยงลูกคนได้อย่างไร.... เขียนขนาดนี้ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็แสดงว่า.....ไม่มีความเข้าใจคำว่าสายสัมพันของครอบครัวจริงๆ....น่าเป็นห่วงความคิดนะครับ จากคุณ : อินทร์นิล เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 07:30:59

ความคิดเห็นที่ 37 ย้ำนะครับ...การที่เด็กเกิดมากำพร้า ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด....มันเป็นกรรมของเด็กที่เกิดมาเช่นนั้น....มันต้องจำยอมต่อสภาพเช่นนั้น แต่กรณีนี้มันเป็นการจงใจให้เด็กเกิดมาโดยไม่มี พ่อ หรือ แม่ ตามธรรมชาติ....เป็นการยัดเยียดความกำพร้าให้แก่เด็กคนนั้น....โดยไม่คิดถึงจิตใจของเด็ก มันต่างกัน...แยกแยะด้วย....พวกคุณมีแม่...จำความรู้สึกตอนเด็กๆ ได้มั้ย...วันแม่ยังได้กราบท้าวแม่....ตอนเด็กๆ ยังร้องไห้หาแม่....ยังมีแม่คอบปลอบใจดูแล...มีแม่เป็นที่พึ่งทางจิตใจ....แล้วคุณมีสิทธิอะไรที่จะบังคับให้เค้าเกิดมาโดยไม่มีแม่..... คนที่เกิดมากำพร้าเค้าก็มีความทุกข์ในจิตใจอยู่แล้ว.....แต่นั้นมันจำเป็น....และมันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่นี่จงใจให้เค้าเกิดมาโดยไม่มี พ่อ หรือ แม่ ....คิดกันได้อย่างไร....จิตใจทำด้วยอะไร เอาเถอะนะ....สุดแต่ใจใครจะคิดก็แล้วกัน.....ผมก็พูดได้แค่นี้.... แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 08:09:24 จากคุณ : อินทร์นิล เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 08:02:07

ความคิดเห็นที่ 38 ยุบหนอ พองหนอ จากคุณ : ยัย..ฉอเล๊าะ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 08:30:52

ความคิดเห็นที่ 39 ผมสงสัยอยู่อย่างคุณเจ้าของกระทู้ไม่มีความเบี่ยงเบนทางเพศใช่หรือเปล่าครับ ผมสงสารเด็ก จากคุณ : Rising shot เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 08:32:00

ความคิดเห็นที่ 40 เราว่า จขกท ไม่เข้าใจ (หรือพยายามไม่เข้าใจ) สิ่งที่คุณอินทร์นิลพยายามจะสื่อ ลองทำใจเย็นๆ หายโกรธแล้ว ลองมานั่งอ่านใหม่นะ คิดถึงความรู้สึกของตัวเองไปด้วย คุณบอกว่า มีปู่ย่าช่วยเลี้ยง แปลว่า คุณพ่อคุณแม่ยังอยู่ ลองไปกราบเท้าท่าน กอดท่าน แล้วคิดว่า ถ้าไม่มีท่าน คุณจะเป็นอย่างไร คุณคิดว่า จะเลี้ยงเขาให้เติบโตเป็นคนดีได้ อันนั้นไม่มีใครเถียง แต่จิตใจ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก การเติบโตโดยขาดแม่ เป็นเรื่องหนึ่ง (อย่าลืมว่า ปู่ย่า ทดแทน พ่อแม่ ไม่ได้) การถูกทำให้ขาดแม่ โดยเหตุธรรมชาติ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง (เช่นตาย หย่าร้าง) การถูกทำให้ขาดแม่ โดยจงใจ (กรณีนี้) เป็นการทำร้ายจิตใจเด็กอย่างรุนแรง หากเขารู้ (และเขาจะต้องรู้สักวันหนึ่ง) เขาอาจจะโกรธคุณ จนถึงอาจจะไม่ให้อภัยคุณด้วยซ้ำ ที่ทำให้เขาไม่มีแม่เหมือนคนอื่นๆ เขาเหมือนเกิดมาจากโรงงานที่ใครๆก็สามารถสั่งเด็กมาสักคนหนึ่งได้ เหมือนสั่งเอาตุ๊กตามาเล่น ไม่ได้คำนึงถึงจิตใจของเขาเลย แค่คิด เราก็สงสารเด็กมากมาย เราไม่ได้ว่า คุณเพี้ยน เพราะมีหลายคนที่คิดแบบนั้น แต่การที่ทำความคิดให้เป็นความจริง มันทำไม่ได้ทุกเรื่อง มันมีองค์ประกอบอีกมากมายที่ทำให้เราต้องหยุด คิดถึงข้อดีข้อเสีย คิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต บางเรื่อง แม้มีโอกาสเพียงหนี่งในแสน หรือหนึ่งในล้าน เราก็จะเสี่ยงไม่ได้เป็นอันขาด อยากให้คุณ ken กลับมาอ่านอีกสักหลายๆครั้ง เราเชื่อว่า คุณคิดมานาน คิดมามาก แต่ลองมองกลับในอีกมุมด้วยนะคะ แล้วคิดให้นาน คิดให้มาก เหมือนที่คุณเคยคิดในมุมของคุณ ถ้าเป็นไปได้ ลองอ่านหรือศึกษาเรื่องพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะเรื่องจิตใจ และพัฒนาการของเด็กในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ การเป็นคนดี ต่างจาก การเป็นคนเต็มคน คนที่อบอุ่น จริงใจ พร้อมที่จะรักคนอื่น และพร้อมที่จะถูกคนอื่นรัก ใจเย็นๆค่ะ คุณยังอายุไม่มาก ยังมีเวลาคิดไตร่ตรองอีก ไตร่ตรองข้อดีข้อเสีย ประโยชน์และโทษ โดยเฉพาะกับชีวิตอีกชีวิตหนึ่ง ที่ไร้เดียงสา และ totally created by you จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 08:33:58

ความคิดเห็นที่ 41 อ้อ....เดี๋ยวจะหลงประเด็นอีก คุณต้องแยกกันระหว่าง  "การอุปการะ"  กับ  "การให้กำเนิด"   การเลี้ยงเด็กกำพร้าเอาเด็กที่มีปัญหามาเลี้ยง....กับ....การทำกิ๊ฟ...เพื่อสร้างเด็กขึ้นมา....มันเป็นคนละกรณีกัน.... ก่อนจะแสดงความเห็นควรอ่านให้เข้าใจ  อ่านให้ครบถ้วน  ตีประเด็นให้แตกก่อนว่าในเรื่องนี้เค้าคุยเรื่องอะไร....ไม่ใช่อ่านไม่จบ  อ่านไม่เข้าใจแล้วมาเถียงในประเด็นที่ไม่ใช่เรื่องในกระทู้ จากคุณ : อินทร์นิล เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 08:41:32

ความคิดเห็นที่ 42   กระทู้นี้ร้อนแรง จากคุณ : porter_port เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 09:00:24

ความคิดเห็นที่ 43   คุณ จขกท. ยังไม่เจอรักแท้ไงค่ะ คุณยังไม่เคยรู้จักความรักระหว่างหญิงกับชาย คุณถึงยังไม่อยากจะมีเมีย ถ้าวันหนึ่งคุณได้เจอกับคนๆนั้นคุณอาจจะลืมเรื่องอุ้มบุญไปเลยก็ได้เพราะคุณอยากจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์และอบอุ่นกับคนรักของคุณมันมีความสุขมากนะคะ (เกี่ยวกับประเด็นรึเปล่าเนี่ย...แต่อยากตอบค้า) จากคุณ : สงสัย เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 09:10:09 A:cache2 X:118.173.239.210 TicketID:218785

ความคิดเห็นที่ 44 จขกท ลองหาข้อมูลจากต่างประเทศ หรือแพทย์ในไทยอะไรแบบนี้ดีกว่าครับ น่าจะได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริงในโลกมากกว่า ไม่งั้นต่างฝ่ายต่างคิดเองเออเองหมด ในกระทู้นี้   ถามคนที่มีข้อมูลจริงๆดีกว่า ไม่โดนยกตนข่มท่านด้วยนะเอ้อ จากคุณ : Silent-Viper เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 09:23:34

ความคิดเห็นที่ 45 เราว่านานาทัศนคติ มองอย่างใจเป็นกลางดีที่สุดค่ะ เราว่าทั้งจขกท.และทุกความคิดเห็น เอาใจเขาใส่ใจเรา แล้วค่อยๆ คิด ใจร่ม ๆ ค่ะ จากคุณ : j (L.ROVER) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 09:29:24

ความคิดเห็นที่ 46 ผมมีความเห็นนะว่า ไปรับเลี้ยงเด็กที่ไม่มีพ่อเเม่ดีกว่าอ่ะ เหมือน เเองจี้ กับ เเบรด พิท ^^ จากคุณ : Thaumaturge เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 09:53:23

ความคิดเห็นที่ 47 อยากให้เจ้าของกระทู้ หยุดคิดซักนิด ว่า คุณมั่นใจแล้วในเหตุผลคุณหรือ... อยากให้เจ้าของกระทู้ ลองเดินเข้าไปหาพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ว่าเขาคิดอย่างไรถึงลงเอยด้วยกัน มีทายาทด้วยกัน... แล้วอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ จขกท มีความสุข จนถึงทุกวันนี้ เพราะใครคนเดียวหรือไม่ หรือว่าเพราะหลายๆ คนประกอบกัน... เรื่องใกล้ตัวที่สุด คุณลองไปถามแม่คุณสิ ว่า ถ้าไม่มีแม่ แล้วให้พ่อ สร้างคุณขึ้นมา โดยบังคับเพศให้เป็นเพศชาย นั่นคือคุณ เขาเลือกที่จะทำแบบนี้หรือไม่...เอาแบบใกล้ตัวกันไปอีก แบบว่าให้แม่คุณคือคนที่อุ้มบุญคุณมาเลยด้วยซ้ำ และในใบเกิดคุณ ไม่ต้องมีชื่อแม่คุณด้วยนะ... คุณเองล่ะจะเอาไหม... หากครอบครัวคุณ เออออ กันหมด ก็ถือว่า มันเป็นธรรมชาติในนิยามของครอบครัวขึ้น... ซึ่ง หลายๆ คน ยังแยกตรรก ไม่ได้ว่า ธรรมชาติที่แท้จริงคืออะไร... ทุกวันนี้มีแต่คนท้าทายที่จะเอาชนะธรรมชาติ... การมีลูกก็คือการรับผิดชอบในชีิวิตของคนๆนึง ซึ่งคุณจะรักเขาโดยไม่ต้องมีเหตุผลมารองรับอะไรมากมาย... แต่อย่าลืมว่า คุณต้องรับผิดชอบสังคมด้วย และลูกคุณก็คือ หนึ่งในสังคมนั้น... ป.ล.1 ถ้าจะเลี้ยงลูกแบบที่คุณคิดว่าจะสร้างขึ้นมาเอง ต้องอยู่บนพื้นฐานว่าคิดเลี้ยงเองนะครับ อย่าเพิ่งเอาความคิดว่า (ให้ปู่กะย่าเขามาช่วยเลี้ยง) ทำให้เต็มที่นะครับ... ปล. 2 หลังคลอดช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือ ช่วงที่แม่ได้ให้นมลูก และลูกอยู่ในอ้อมกอด ช่วงที่ปวดร้าวที่สุด คือ ต้องพรากลูก ไปทำงานที่ออฟฟิศ (เพราะลางานได้มากสุด 90 วัน) เสียใจ และแอบน้อยใจที่ลูกติดคนอื่น ถึงแม้ว่า คนที่เลี้ยงลูกให้เราจะเป็น ปู่ย่า ตายาย ก็ตาม... ความรู้สึกแบบนี้ คุณเคยสัมผัสไหมครับ... ผมเองยังไม่เคยเจอเหมือนกัน... แต่เข้าไปห้องชานเรือนบ่อย... แต่กำลังจะได้สัมผัส ในอนาคต... จากคุณ : ธรรมชาติมีไว้ให้เข้าใจ (BLee) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 09:57:15

ความคิดเห็นที่ 48 หลายคนไม่เข้าใจ  "ฐานความคิด"  ของผู้ชายและผู้หญิงว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่แม้ไม่ได้เป็นนางสาวไทยก็รักเด็กได้.....พอเห็นเด็กก็จะอยากอุ้ม  อยากเลี้ยง....มันเป็นเพราะสัญชาตญาณความเป็นแม่ทำงาน.....ผู้หญิงทุกคนจะมีความเป็นมารดาผู้ให้กำเนินอยู่ในตัว....มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป.... ดังนั้น  การที่ผู้หญิงที่ยังไม่มีสามี  ยังไม่มีแฟน  แต่อยากมีลูกมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก.....เพราะว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ทำงาน.... แต่ในต่างประเทศเมื่อเทคโนโลยี่ทำกิ๊ฟออกมาใหม่ๆ มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการมีคู่....ไม่ต้องการมีสามีแต่อยากมีบุตรโดยลำพัง.....ได้แห่กันไปทำกิ๊ฟ....แต่ผลมันกลับออกมาว่าเด็กบางคนที่ผ่านการเลี้ยงดูโดยมารดาที่ไม่เข้าใจสัมพันธภาพในครอบครัวระหว่าง สามี ภริยา ไม่สามารถเลี้ยงเด็กให้สมบูรณ์ได้ ซึ่งหญิงประเภทนี้ต้องการมีลูกเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัว.....อาจจะเกิดจากความเหงาว้าเหว่......ไม่ใช่เพื่อดำรงเผ่าพันธ์มนุษย์ตามที่ควรจะเป็น.....เด็กที่เกิดจากการเลี้ยงดูโดยหญิงเหล่านี้จึงเติมโตมาโดยไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว...ขาดความอบอุ่น....ไม่มีทักษะในการเข้าสังคม....ไม่มีทักษะในการใช้ชีวิตคู่.....ไม่เข้าใจบทบาทของการเป็นสามีหรือพ่อ  เพราะขาดแบบอย่างความเป็นผู้นำจากพ่อ....ขาดแบบอย่างในการเป็นสามีที่ดี.........มีทัศนคติเชิงลบต่อสังคม....ไม่เข้าใจสัมพันธภาพระหว่างบุคคล....เกิดเป็นปัญหาสังคมตามมา ซึ่งในต่างประเทศเค้าจะยอมรับความเสี่ยงให้เกิดขึ้นกับพลเมืองในอนาคตอย่างนี้ไม่ได้.....เค้าต้องการพลเมืองที่มีคุณภาพ.....เค้าจึงได้ออกกฎหมายมาควบคุมการทำกิ๊ฟให้ทำได้เฉพาะชายหญิงที่แต่งงานแล้วมีบุตรยาก....ไม่ใช่ทำเพื่อตอบสนองความเป็นแม่ของหญิงบางคนที่ไม่อยากมีสามีแต่อยากมีบุตร ดังนั้น...ความคิดของหญิงที่ไม่มีสามีแต่ต้องการให้กำเนิดบุตรจึงได้รับการต่อต้านจากสังคม.....และไม่เป็นที่ยอบรับจากสังคม ถามว่าแล้วฐานความคิดเช่นนี้มันต่างอย่างไรกับผู้ชาย...??? ผู้ชายถูกสร้างให้มาเป็นผู้นำครอบครัว....ธรรมชาติจึงสร้างผู้ชายให้มีความเข้มแข็งมากกว่าอ่อนโยน.....แต่การที่ผู้ชายจะเป็นพ่อคนได้นั้นเค้าต้องเรียนรู้ที่จะอ่อนโยนและรักให้เป็น....ธรรมชาติจึงสร้างให้ผู้ชายมีแรงผลักดันทางเพศ....มีความต้องการทางเพศ....กระตุ้นให้ผู้ชายต้องการมีครอบครัว.....เมื่อมีครอบครัวภาวะผู้นำจะตามมา....ความอ่อนโยนที่ได้รับจากภริยาจะทำให้ชายลดความแข้งกระด้างลงไป.....และมีความอ่อนโยนทะนุถนอมมากยิ่งขึ้น.... เมื่อถึงตอนนั้นชายจึงพร้อมที่จะเป็นพ่อคน....มีความรับผิดชอบ.....มีความสามารถที่จะปกป้องและคุ้มครองครอบครัวได้.....เป็นแบบอย่างผู้นำที่ดีให้กับบุตรหลานได้ ดังนั้น....ผู้ชายถ้าเป็นสามีที่ดีไม่ได้ก็ยากที่จะเป็นพ่อที่ดีได้เช่นกัน....ผู้ชายจึงต้องเรียนรู้ที่จะเป็นสามีที่ดีก่อนจึงจะสมควรมีบุตร ดังนั้น....."ฐานความคิด" ....ของชายและหญิงในเรื่องการมีลูกจึงต่างกันเช่นนี้.....การที่ชายไม่อยากมีภริยา....มีทัศนคติเชิงลบต่อการมีครอบครัว....แต่อยากมีบุตรของตนเองโดยลำพัง......คุณคิดว่าฐานความคิดตรงนี้มันปกติหรือ...... อย่าลืมนะครับการมีบุตรไม่ได้มีเพื่อความสนุกหรือเป็นผลพลอยได้ของการมี SEX แต่มันคือหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการดำรงเผ่าพันธ์ของมนุษย์.....มันคือความรับผิดชอบต่อสังคมในการผลิตพลเมืองเพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม....สิ่งที่สังคมต้องการคือพลเมืองที่มีคุณภาพอันจะเป็นทรัพยกรที่สำคัญในการพัฒนาชาติต่อไป (แก้คำผิด) แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 20:11:14 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 10:14:23 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 10:09:53 จากคุณ : อินทร์นิล เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 10:01:06

ความคิดเห็นที่ 49 เราชอบความคิดของคุณ อินทร์นิล นะคะ แต่ไม่ได้ว่าๆ จขกท ผิดแปลกหรือเพี้ยนนะคะ ที่คุณบอกว่าไม่อยากมีภรรยาแต่อยากมีลูกชายนั้นเป็นความต้องการของคุณ ซึ่งดิฉันแน่ใจว่าคนที่มีกำลังทรัพย์มากๆสามารถทำได้แน่ๆ แต่ถ้าคุณ จขกท มีลูกแล้ว จะรู้ว่ามันมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดมากค่ะ แต่เป็นชีวิตและจิตใจของคนอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อเด็กเกิดมา คุณสามารถอธิบายให้เด็กเข้าใจได้แน่ แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเด็กจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ เพราะเด็กที่เกิดมาก็เป็นคนอีกคนหนึ่ง มีความคิดและจิตใจเป็นของตัวเองซึ่งเขาอาจจะไม่คิดแบบเดียวกับคุณ ลูกพ่อลูกแม่รับ DNA กันมาแท้ๆ บางทียังมีความคิดอ่านในเรื่องต่างๆต่างกันเลยค่ะ ส่วนเด็กที่มีพ่อหรือแม่คนเดียวสามารเติบโตเป็นผู้ใหญที่ดีได้ค่ะดิฉันก็เชื่อเช่นนั้น แต่ถ้าเทียบสัดส่วนในสังคมเด็กที่เป็นแบบนี้จะมีเด็กแบบนี้สักกี่คนที่สามารถเติบโตสมบูรณ์พร้อมทางสังคมและจิตใจโดยไร้ปัญหา ขนาดบางครอบครัวมีพ่อมีแม่รักใคร่อบอุ่บกันดี เด็กบางคนยังเติบโตมาอย่างมีปัญหาเลยค่ะ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรคะว่าเด็กคนนี้จะไม่มีปัญหา เคยได้ยินคนเขาพูดและสงสัยกันไหมคะ ว่าทำไมครอบครัวที่อบอุ่นพ่อแม่รักกันเลี้ยงดูลูกอย่างดีที่สุดแต่ทำไมบางทีเด็กถึงยังมีปัญหาได้ จากลักษณะนิสัยคุณ ชอบอยู่ ชอบไปไหน ชอบทำอะไร ที่เป็นอิสระ ไม่อยากผูกมัดกับใคร แล้วการมีลูกนี่ผูกมัดกว่าการมีภรรยาอีกนะคะ คนเป็นแม่เมื่อลูกยังเล็กต้องประคบประหงมดูแลใกล้ชิดค่ะ จะไปไหนทียังห่วงลูกพะวักพวงเลย กว่าจะวางใจกันได้ระดับหนึ่งต่อเมื่อลูกเริ่มโตจนเข้าโรงเรียนแล้วค่ะ ต่อให้มีเงินจ้างพี่เลี้ยงหรือแม้แต่ญาติๆเองยัง ไม่อาจวางใจได้เลยว่าจะดูแลลูกได้เท่ากับพ่อหรือแม่แท้ๆได้ไหม แบบนี้ยังจะอิสระไหมค่ะ เด็กเริ่มโตขึ้นรู้ว่าใครเป็นพ่อเป็นแม่ก็ย่อมอยากใกล้ ชิด อยากอยู่กับพ่อแม่ ให้แม่สอนหนังสือ คุณพ่อพาไปกินข้าว ไปเที่ยว เล่นด้วยกัน นี่คือการให้เวลาลูกค่ะ ถ้าให้ไม่พอกับที่เด็กต้องการก็จะขาดความอบอุ่นไป การให้กำเหนิดเป็นเรื่องง่าย แต่อยากเตือนว่าการจะเลี้ยงใครสักคนแบบโตขึ้นมาเป็นคนดีไม่มีปัญหานี่ยากมากๆ ลองคุยปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ดูนะคะ แล้วจะรู้ว่าการเลี้ยงลูกมันมันยุ่งยากกว่าการทำให้เด็กเกิดมามากนัก ซึ่งท่านอาจจะให้คำปรึกษาที่ดีกับคุณได้แน่ๆค่ะ ถ้าคุณมั่นใจ หรือตัดสินใจจะทำจริงๆใครก็คงห้ามคุณ หรือเปลี่ยนความคิดคุณไม่ได้  ขอให้โชคดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 52 10:03:47 จากคุณ : PinkCappuccino เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 10:01:38

ความคิดเห็นที่ 50   อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ ไม่อยากมีเมียเพราะ อยากอิสระ ไม่อยากผูกมัด แต่อยากมีลูก ขอโทษนะครับ มีลูกเนี่ยไม่ใช่แค่ผูกมัดนะ มันเป็นหน้าที่ของคุณ ที่จะต้องรับผิดชอบชีวิตคนๆนึงเลย รึว่าคุณจะเอาเด็กมาแล้วให้คนอื่นเลี้ยง? ถ้าคุณมีลูก ความอิสระไม่ต้องพูดถึง ไม่มีหรอก ถ้ามีเมีย ยังพอหนีเที่ยวได้ แน่ใจหรอว่าคุณคิดดีแล้ว จากคุณ : Astro เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 10:13:37 A:61.90.201.123 X: TicketID:221155

ความคิดเห็นที่ 51 เฮ้อ.....อ่านแล้วเหนื่อย (ยาว) เอาเป็นว่า คุณ อินทร์นิล มาช่วยตอบในส่วนของความเป็นพ่อ เป็นแม่คนแล้ว เราขอออกมาตอบในส่วนของความเป็นลูก ที่มีครอบครัวไม่สมบูรณ์แล้วกัน เพื่อช่วยเป็นหนึ่งความคิด ที่อาจจะเป็นความรู้สึกของลูก จขกท ในอนาคตก็ได้ เราเชื่อว่า จขกท มีครอบครัวที่สมบูรณ์ มากๆ เพราะถ้าคุณขาดพ่อหรือแม่ไปสักคน คุณจะไม่คิดแบบที่คิดตอนนี้ คุณจะเข้าใจความรู้สึก "ขาด" อะไรไปสักอย่างในชีวิต เข้าใจหัวอกคนที่มีพ่อเลี้ยงคนเดียว มีแม่เลี้ยงคนเดียว จริงๆ นะ เราไม่ได้เป็นหมอดู แต่เราเจอมากับตัวเอง เราไม่เคยรู้สึกขาดที่แม่เลี้ยงเรามาคนเดียวโดยไม่มีพ่อ นานแค่ไหนจำไม่ได้แล้ว แต่มันไม่ได้หมายความว่าชีวิตเราไม่ต้องการพ่อนี่นา เรามีสิทธิที่จะอยากมีพ่อ เรามีสิทธิที่จะได้รู้ว่าพ่อของเราเป็นใคร หน้าตายังไง นิสัยยังไง กรณีของเรา เกิดจากการหย่าร้าง นั่นหมายความว่า อย่างน้อยๆ เราก็รู้ว่าพ่อเราเป็นใคร แต่ไม่ได้มีโอกาสได้อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว เราอยากให้ จขกท คิดถึงลูกมากกว่าคิดถึงตัวเองนะคะ ต่อให้คุณทำให้เค้าเกิดมา คุณก็มีเวลาอยู่เลี้ยงเค้าแค่ไม่กี่สิบปี แล้วชีวิตที่เหลือลูกคุณก็ต้องเผชิญเอาเอง แล้วปมในจิตใจเค้า จะติดอยู่กับตัวเค้าไปตลอดชีวิต ทุกวันนี้ เราคิดตลอดว่า เรารักแม่มาก แต่เราจะพยายาม....พยายามทุกทาง ที่จะไม่ให้ครอบครัวแตกแยกเหมือนที่แม่กับพ่อเราเป็น สังเกตดีดีนะคะ คนที่ครอบครัวแหว่งเว้าแบบนี้ คนเป็นลูกจะมีพฤติกรรมแยกออกเป็น 2 ทาง ทางแรก คือ เป็นคนที่เข้มแข็งมากกว่าคนทั่วไป เพราะมันต้องสะกดกลั้นความรู้สึกขาดมาตั้งแต่เด็ก ทางที่สอง แหลวแหลกไปเลย ควบคุมชีวิตไม่ได้ โหยหาในสิ่งที่ขาดตลอดเวลา ทำตัวเรียกร้องความสงสารและเห็นใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบแรก อยากให้ จขกท นั่งคิดอีกทีนะคะ แต่เปลี่ยนมุมคิด ลองสมมติว่าตัวเองเป็น "ลูกในอนาคต" ของคุณดูค่ะ แล้วถามตัวเองว่าอะไรบ้างที่เราอยากมี ถ้าตอนนี้คุณมีครอบครัวพร้อมหน้า พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เราขอบอกว่าคุณโชคดีมากๆๆๆๆ และเราอิจฉาคุณมากๆๆๆ ค่ะ จากคุณ : เมื่อไหร่จะมีชื่อที่ใครพอใจ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 11:16:49

ความคิดเห็นที่ 52 เริ่มต้นฝึกการมีลูก ทดสอบดูก่อน ว่าเราจะเลี้ยงดูลูกคนเดียวจริงๆได้หรือเปล่า ด้วยการไปรับเด็กกำพร้าสักคนมาเลี้ยงดู สักระยะ ก็ไม่เลวนะคะ ลองฝึกดูนะคะ ตั้งแต่ อาบน้ำแต่งตัว พาไปเดินห้าง ซื้อของเล่น ไปส่งโรงเรียน ไปเที่ยวสวนสัตว์ สอนทำการบ้าน ไปรับ-ส่งให้เรียนพิเศษ เล่นกีฬาด้วยกัน ลองใช้ชีวิตด้วยกันสักพัก ดูว่าคนรักอิสระ ไม่มีเมียกวนใจ แต่มีลูกกวนตัว จะทำยังไง วันนี้ลูกอยากอยากกินKFC  อีกวันอยากได้การ์ตูนเรื่องใหม่ พรุ่งนี้อยากไปเตะบอลบ้านเพื่อน คุณต้องเป็นคนพาไปนะ เด็กไม่ใช่ทาส ให้คุณสั่งต้องทำโน้นทำนี่ แต่คุณต้องสอน ว่าอันไหนถูก อันไหนควร อันไหนดี อันไหนผิด เด็กจะเหมือนเจ้านายที่คุณต้องดูแลและตามใจ ผู้ชายบางคนที่เขาเลือกมีเมีย เพราะบางทีเขาก็ขี้เกียจมาซักผ้าอ้อมลูก ไม่อยากรีดเสื้อลูก อยากมีเวลาไปนั่งดูบอล โดยไม่ต้องสอนการบ้านลูก คือยกหน้าที่ทุกอย่างให้เมียทำนั่นเอง ลองคิดถึงภาระที่ต้องทำดูนะคะ พอรับได้ อยากใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อใครสักคน อยากเอาเงินที่ตนเองหาได้ ให้ใครสักคนใช้สักครึ่งชีวิตของเขา ก็ลองดู ถ้าคุณมีใจรักเด็ก มีลูกเป็นเด็กกำพร้าสักคนเป็นไรไป เลี้ยงดูจนดีแน่ใจแล้ว ก็หาสาวสักคน อุ้มบุญ เงินหนาๆหน่อย ทำไมจะไม่ได้  พอมีลูกของตนเองแล้ว คราวนี้ คุณจะเป็นคนมีประสบการณ์ เลี้ยงลูกตนเองได้ดีนะ ( เพราะลองผิดลองถูก กับเด็กกำพร้ามาแล้ว ) แล้วก็จะดูเป็นครอบครัวมากขึ้น เพราะลูกของคุณก็จะมีพี่เลี้ยง และมีเพื่อน ไม่เหงาเดียวดาย เพราะมีทั้งพ่อและพี่ ส่วนแม่ คุณพร้อมอยากมีเมียเมื่อไหร่ ลูกก็มีแม่เลี้ยงเองแหละ รับได้ไม่ได้ ก็ต้องรับ เพราะเป็นชะตากรรม ที่คุณลิขิต ไม่ให้ลูกคุณลิขิต ปล. จะเลือกสาวใดอุ้มบุญ ดูนิสัยใจคอและหน้าตาหน่อยนะ เอาแบบที่คุณชอบ เลือกให้ตรงสเป็คหน่อย ลูกเกิดมาเหมือนแม่ จะได้รับได้ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 11:51:39

ความคิดเห็นที่ 53 ทำไม ข้อความที่เราพิมพ์หายไปหว่า เอาใหม่สั้นๆ มีลูกความอิสระจะหายไป เป็นเวลาจน 20 ปี ไม่รู้ว่าที่คุณบอกว่าเลี้ยงให้ดีที่สุดนี่ใช้อะไรเลี้ยง เงิน ปู่ ย่า ??? ยิ่งเด็กเล็ก ความลำบากจะยิ่งมาก ป้อนนม เช็ดอึ เช็ดฉี่ นมนี่ก็ควรเป็นนมแม่ เพื่อให้เด็กมีความต้านทาน ให้นานขนาด 5เดือน- 1 ปีกันเลย แม่บางคนปั้มนมไว้ให้ลูกกินตลอด   คุณจะทำยังไง เด็กเล็กๆจะตื่นมากลางดึก บ่อยๆเพื่อกินนม คุณจะคอยตื่นดูเค้า รึให้พี่เลี้ยง รึปู่ย่า ดู ??? แล้วยิ่งถ้าคุณติดเที่ยวนะ เที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้า นี่อย่าคิดมีลูก เพราะเด็กยังไงก็อยากอยู่กับพ่อแม่ อยากให้พ่อแม่มีเวลาอยู่กับตัวเองมากๆ ช่วงวัยรุ่น ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คุณยิ่งต้องมีเวลาเอาใจใส่ลูกมากๆ เพราะช่วงนี้อันตรายสุดๆว่าเค้าจะเป็นคนดีหรือเหลวแหลก เลี้ยงลูกไม่ใช่ง่ายๆโดยเฉพาะการเลี้ยงคนเดียว ลองหาลูกหมาซักตัวมาซ้อมเลี้ยงก่อน แล้วคุณจะรู้ว่า เด็กต้องเอาใจใส่มากกว่าลูกหมาอีก ปล.เราเลี้ยงหมา 1 ตัว เลิกงานก็ต้องรีบกลับบ้าน จะไปเที่ยวไหนก็ไปไม่ค่อยได้ เพราะไปนานๆก็ห่วง ต้องรีบกลับ ไป ตจว.ต้องหอบเค้าไปด้วย จะฝากคนอื่นเลี้ยงมันก็ไม่เหมือนเราดูแลเอง คิดดีๆถ้าจะมีลูกเพราะถ้ามีแล้วความอิสระจะหายไปในทันที มีเมีย(ที่ดี)ยังยุ่งยากกว่ามีลูกอีก จากคุณ : ข้าวปั้นหน้าไข่กุ้ง เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 12:33:49

ความคิดเห็นที่ 54 แค่คิดนะง่ายมากๆ คะ ใครๆ ก็พูดได้นะว่า จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด จะเลี้ยงเขาให้เป็นคนดี เรายังพูดได้เลยคะ จะเอาหรูแค่ไหน เราก็พูดได้ เราจะเป็นแม่ดีเด่นประจำชาติ หรูไหม... แต่เรื่องจริง ชีวิตจริง เอาง่ายๆ แค่คุณไปทำงาน คาดว่าคุณจะต้องทำงานเนอะ ใครจะดูแลลูกคุณคะ ปล่อยไว้กับพี่เลี้ยงเหรอ คิดน้อยไปไหมคะ ถ้าจะมาบอกว่ารักลูกและจะเลี้ยงลูกอย่างดีมากน่ะ ความเป็นจริง พี่เลี้ยงเขาไม่ใช่แม่ของลูก เขาทำแค่ตามหน้าที่ แต่เขาจะไม่ใส่ใจในตัวลูกคุณ ยังไม่รวมไปเจอพี่เลี้ยงโหดๆ อีกนะคะ คุณหาทางแก้ปัญหายังไง เวลาที่คุณต้องไปทำงานคะ หรือตามมีตามเกิด ตามแต่เวรแต่กรรมของเด็ก ชั้นทำดีที่สุดแล้ว... ถ้าโชคร้ายก็ถือว่า มันเป็นโชคร้ายของเด็ก ดวงมันซวยเอง ถ้าคิดแบบนี้ อย่าพึ่งมีเลยดีกว่าไหมคะ ลองคิดให้กว้าง และถี่ถ้วนอีกนิดคะ ลองไปถามคนเป็นคุณแม่ๆ ทั้งหลายดูคะ ห้องชานเรือน ลองเข้าไปดู และถามคุณแม่เหล่านั้นว่า ลูกหนึ่งคนนะ เขาเลี้ยงมา เขาต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง เหนื่อยแค่ไหน ใช้เวลาแค่ไหนในหนึ่งวัน ไม่ก็ลองไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กดูก่อนคะ ขอลูกญาติมาเลี้ยงสักพักก็ได้ ถ้าเขาให้นะ จะรู้ว่าเด็กนะโคตรเรียกร้องและยุ่งยากเลย เลี้ยงลูกไม่ได้เหมือนต้นไม้นะคะ ที่จะโต จะงอกได้เองอ่ะ อาศัยเทวดาให้น้ำยังได้เลย มันมีปัจจัยหลายๆ อย่างคะ มีพ่อแม่ครบคู่ เด็กบางคนยังบอกว่าขาดเลยคะ และคุณจะเป็นพ่อใบเลี้ยงเดี่ยว ได้ลูกเป็น ผญ จะทำไงคะ เพราะปรกติลูก ผญ ไม่สนิทกับพ่อเท่าไหร่นะ เวลาลูกมี ปจด ใครจะกล้ามาขอให้พ่อสอนใช้ผ้าอนามัย เวลาจะซื้อชั้นใน ใครจะกล้าบอกให้พ่อไปเป็นเพื่อน จิปาภะอีกมากมายนะคะ.... เล็กๆ น้อยๆ แต่ปัญหามันสะสมได้ และจะเกิดเป็นปมให้ลูกได้ ถ้ายังยืนยันอยากมี และคิดว่าทำได้ ก็แล้วแต่คุณคะ ลองติดต่อตามคลีนิคผู้มีบุตรยากดู เขาน่าจะให้คำแนะนำที่ดี แนะนำค่าใช้จ่าย และเรื่องต่างๆ ได้คะ จากคุณ : thangthai_ladypink เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 13:33:47

ความคิดเห็นที่ 55 เออแปลก... เขามีแต่คนอยากมีเมียแต่ไม่อยากมีลูก อย่างผมเป็นต้น แหะๆ.....เพราะว่า เมียน่ะเลิกได้ เบื่อก็เลิก ลูกน่ะ ยุ่งจนตายเลยละ ไม่ไหว ไม่เอา "...ราหุลัง ชาตัง" จำได้ว่าพระศาสดาเคยอุทานเมื่อรู้ว่าลูกชายเกิด ก่อนหนีออกบวช จากคุณ : เตาเผาผี (เตาฟืน) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 14:06:38

ความคิดเห็นที่ 56 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 14:10:01

ความคิดเห็นที่ 57   ถ้า จขกท มีความตั้งใจที่จะเลี้ยงเด็กคนนึงให้เป็นคนดี มีทั้งความมุ่งมั่น ทุ่มเท เวลา และความพร้อมทางด้านการเงิน ถ้า จขกท มั่นใจก็ทำเถอะค่ะ อย่าไปสนใจคนอื่นมาก คนที่นี่เค้าเติบโต และการเลี้ยงดูคนละแบบกับ คุณ ทัศนคติเค้าก็คนละแบบ บางคนคงเกิดมาครอบครัว ครบ พร้อมสมบูรณ์ โตมา แต่งงาน มีสามี/ภรรยา และมีลูก เค้าก็คิดว่าสิ่งที่เค้ามี เค้าเป็น สมบูรณ์พร้อม และเอามาเป็นบรรทัดฐานของชีวิต ถ้าไม่ยึดมั่นแนวอนุรักษ์นิยมมาก ตอนเด็กๆก็คงเล่น พ่อ แม่ ลูก มากไปหน่อยน่ะค่ะ โตมาเลยยังยึดติดว่าชีวิตตัวเอง และทุกคนในโลกต้องเป็นแบบนั้น (มันฝังใจ) เราเชื่อว่า คน คนเดียวก็สามารถเลี้ยงเด็กคนนึงให้ดีได้ค่ะ คน คนนึงอยากมีลูกผิดตรงไหนคะ ถ้าไม่แต่งงาน ห้ามมีลูก ต้องอยู่แบบแห้งๆตายไปคนเดียวถึงจะถูกต้องใช่ไหมคะ? เราว่าเด็กได้พ่อ อุตริ คิดอยากมีลูกโดยไม่มีภรรยา แต่เลี้ยงเค้าให้ดีได้ เด็กคงจะรู้สึกสำนึกในบุญคุณ ที่ให้โอกาสเค้าเกิดและเลี้ยงดูเค้าอย่างดีมามากกว่า เด็กคงเข้าใจว่าพ่อเค้าต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน เด็กคงอยากมีพ่อแบบนี้ มากกว่าพ่อ+แม่พร้อมหน้าแต่มีจิตใจคับแคบนะคะ ครอบครัวแบบนั้นคงเลี้ยงลูกมาได้แคบๆเพิ่มอีก 1 คนในโลก แย่จัง จากคุณ : พีช เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 14:16:16 A:58.8.92.25 X: TicketID:151518

ความคิดเห็นที่ 58 ผมก็อยากมีลูก  แต่อยากหยุดการเติบโตลูกไว้ที่ 7 ขวบ  อยากให้เป็นเด็กแบบนั้นตลอดไป  ต้องดูแลเหมือนเด็กๆตลอดชีวิตก็ยอม ไม่อยากให้มันโตไปสร้างปัญหาน่ะ  -  -  " จากคุณ : La Gioconda เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 14:52:45

ความคิดเห็นที่ 59 จขกท. ลองติดต่อไปที่บ้านเด็กกำพร้า หรือองค์กรที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วลองอุปการะเด็กสักคนก่อนดีมั้ยคะ เริ่มต้นอาจแค่เป็นการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนให้กับเด็กคนนึง และคุณก็ลองไปเยี่ยม ไปใช้ชีวิตอยู่กับเค้าบ้างเป็นครั้งคราว อย่างน้อยจะเป็นการช่วยคุณชั่งใจดูอีกครั้งว่าการจะเลี้ยงเด็กคนนึงมีขั้นตอน และการใช้เวลาใกล้ชิดมากน้อยแค่ไหน คุณยอมรับได้แค่ไหน ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป...ลูกทั้งคน อย่าให้ความคิดชั่ววูบมาบั่นทอนอนาคตของเด็กเลยนะคะ จากคุณ : Ayook เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 14:54:07

ความคิดเห็นที่ 60 รับอุปการะเด็กดีกว่านะ ที่ว่าเลี้ยงเด็กให้ดีได้ สมบูรณ์แบบได้ มันไม่มีหรอกค่ะ เพราะพอถึงวัยหนึ่งเด็กจะเลียนแบบและพัฒนาการ  การที่ขาดฝ่ายแม่ไปจะทำให้การพัฒนาการสะดุดได้ เด็กอาจจะเติบโตมาอย่างเข้มแข็ง หรือ อ่อนแอไปเลย ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาซึมซับหรือลอกแบบมาอย่างไร ถ้าว่าตามฟรอยด์แล้ว เด็กผู้ชายจะเลียนแบบพ่อ เพื่อให้แม่ชื่นชม แต่เด็กผู้หญิงจะเลียนแบบแม่เพื่อให้พ่อชื่นชม  การที่คุณมีแต่ฝ่ายพ่อ ไม่มีแม่นั้น อาจจะส่งผลต่อขั้นนี้ก็ได้น่ะ การดูแลเด็กไม่ใช่เพียงแค่เงินเท่านั้นนะ แต่สภาพจิตใจก็สำคัญ การห้ามปราม การต่อว่า การตามใจ ทุกอย่างมีผลต่อนิสัยเด็กหมด และเชื่อกันว่า สภาพจิตใจของเด็กจะหล่อรูปแบบถึงแค่ 5 ขวบ แล้วหลังจากนั้นจะเริ่มแสดงนิสัยที่ได้รับมาออกมาน่ะ  อาจจะเปลี่ยนแปลงได้แต่ก็ยากกว่าในช่วงแรกแล้ว มันเหมือนการวางเงื่อนไขน่ะ ถ้าเด็กทำดีแล้วได้ของตอบแทน ดูเหมือนเป็นการให้รางวัลเด็กฝึกเด็ก  แต่โตขึ้นเด็กคนนั้นอาจจะกลายเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ต้องการก็ได้ หรือ จะทำอะไรก็จะหวังของรางวัลของตอบแทนเสมอ  ถ้าไม่ได้ก็จะไม่ทำ  มันเป็นการเสี่ยงมากนะ กับการเลี้ยงเด็กซักคนหนึ่งให้โตขึ้นมามีนิสัยอย่างที่เราคาดหวังว่า นี่เป็นสิ่งดี สมบูรณ์แบบน่ะ คำว่าเลี้ยงได้ดูของคุณ จขกท หมายถึงอะไรบ้าง เพราะมันไม่ใช่แค่จิตใจข้างนอกหรอก แค่คุณดูแลช้าไป ปล่อยให้เด็กหิวนมบ้าง หรือ เข้มงวดไปกับการฝึกฝนเด็กอย่าง การขับถ่าย การห้ามดูดนิ้ว การห้ามเล่นอวัยวะเพศ มันก็ส่งผลต่อสภาพจิตใจเด็กแล้ว และอาจจะเป็นนิสัยในภายหน้าก็ได้ อย่างชอบกัดเล็บ ชอบดึงผม เป็นคนจู้จี้ เป็นคนขี้ระแวง เอาแต่ใจ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:19:12

ความคิดเห็นที่ 61 ตอบในแง่ของDNAบ้าง ดีกว่าค่ะ เห็นเจ้าของกระทู้ยืนยันว่า ไม่อยากรับเลี้ยงเด็กเพราะขาดความผูกพันทางพันธุกรรม เด็กนั้นเกิดมาจากDNA 2 สายคือจากฝ่ายพ่อ และ แม่ วิถีทางธรรมชาตินั้น พ่อและแม่ต้องมีความพอใจกันก่อน จึงให้กำเนิดลูก แต่ถเ คุณให้กำเนิดลูกจากผู้บริจาคไข่ ถ้าลูกของคุณมีพฤติกรม หรือรูปร่างหน้าตาไม่ถูกใจคุณ คุณก็จะโยนความผิดให้DNAที่มาจากไข่  ใช่ไหมคะ ดิฉันคิดแค่นั้น ก็ สยอง ละ -_-" จากคุณ : angy_11 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:41:44

ความคิดเห็นที่ 62 ตัวเราเองก็อยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี แต่ถ้าให้ดีก็มีครบ ๆ ถ้าจะดีกว่า เพราะเรากลัวว่า ถ้าวันนี้เราเลือกให้เค้าไม่มีพ่อได้ วันนึงข้างหน้าในอนาคต เค้าโตมาอยู่ ๆ เค้าบอกว่า เค้าก็อยากเลือกไม่ให้เราเป็นแม่เค้า เราคงเศร้าใจน่าดู จากคุณ : pls star pls เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:46:27

ความคิดเห็นที่ 63 อื้ม . . . . เข้าใจอารมณ์ คุณเจ้าของกระทู้นะคะ ลองศึกษากฎหมาย วิธีตามที่หลายๆท่านบอกแล้วกันค่ะ ^ ^ แต่ว่าบางที . . . เด็กที่เกิดมา วันนึงเค้าอาจมีจะคำถามว่า แม่เค้าอยู่ไหน เป็นใครนะคะ  แต่ถ้าคุณ"พร้อม" จะสู้ ลุยเลยค่ะ  ^ ^ ปล.เราไม่อยากมีลูก ไม่อยากมีผะอัว - -*  เราคิดแปลกกว่า จขก. อีกค่ะ     คำว่า มีลูก กินความหมายมากนะคะ เค้าจะออกมาเป็น 1 ชีวิตที่ต้องอยู่     ในโลกนี้ ปัจจัยการดำรงชีวิตของมนุษย์ไม่ได้จะกำหนดได้ง่ายๆนะคะ      คิดดีๆน๊า คิดให้แน่ว่า รักและพร้อม ที่จะมีเค้าจริงๆรึเปล่า ถ้าใช่จริงๆก็      ทำตามใจคุณเถอะค่ะ      ^ ^   แต่ว่าถ้าคุณยังไม่รักผู้หญิงคนไหนถึงขนาดจะมาเป็นเมียคุณได้               แล้วคุณพร้อมจะรัก จะดูแลลูกหรอแล้วหรอคะ               (ลูกยิ่งกว่าเมียอีกนะคะคุณ) เอิ๊กๆ จากคุณ : เจ้าสาวกลัวฝน (NonGMUoo) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 15:52:23

ความคิดเห็นที่ 64 ผมกลับมองว่า หลายๆความเห็น ไม่ได้ตอบคำถามของ จขกท แต่กลับพยายามจะเปลี่ยนความคิดของ จขกท ผมว่า ความคิดของ จขกท ไม่ผิด แต่แปลก และความคิด ... ค่อนข้างต่างจากคนส่วนใหญ่แค่นั้น ส่วนคำถามของ จขกท ผมไม่มีความรู้หรอกครับ ลองจ้างสิครับ จ้างผู้หญิงที่เดือดร้อนเรื่องเงิน และมีเพศสัมพันธ์ด้วยและพร้อมมีลูก ค่าว่าจ้างอุ้มลูกสาวจนโตขึ้น 1 ล้านบาท ถ้าเป็นลูกชาย 2 ล้านบาท น่าจะพอหาได้อยู่ หรือว่า จขกท ขี้เกียจทำอีก ส่วนใครที่อยากมีลูก แต่ไม่อยากมีปั๋ว ไม่ต้องจ้างก้ได้ครับ น่าจะมีแต่คนเต็มใจ ตั้งกระทู้หาเอาตามสวนลุม รัชดา หว้ากอ มีให้เลือกเยอะแยะ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:15:16

ความคิดเห็นที่ 65 คห อื่นๆ พูดไว้หมดแล้ว และถ้าเป็นเรา เราไม่อยากเกิดเป็นลูก จขกท. เลย คุณอาจจะยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง คิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง แล้วคุณแน่ใจหรอ ว่าลูกที่คุณคิดจะมีในสถานะแบบนี้ เขาจะยินดีด้วยกับความคิดของคุณ เรามีเพื่อนเป็นเด็กหลอดแก้ว แต่กลับกันเค้ามีแต่แม่คนเดียว เพื่อนคนนี้ นัยน์ตาดูเศร้าตลอดเวลา พูดน้อย และไม่คอยเห็นรอยยิ้มจากเขาสักเท่าไหร่ และเราไม่เคยจะเห็นเขาหัวเราะแบบสุดๆเลยสักครั้งเดียว จากคุณ : แพนด้าท้องแก่ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:38:32

ความคิดเห็นที่ 66 เราไม่อยากมีลูกนะ ไม่อยากมีภาระ เลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้โต น่าเบื่อมาก เห็นเพื่อนมีลูก ก็ไม่เคยเข้าใจว่า เขาทนกันได้อย่างไร บางคนบอกว่า มีลูกแล้วอบอุ่น (ชั้นก็อบอุ่นอยู่แล้ว) บางคนบอกว่า มีลูกแล้วจะภูมิใจที่ลูกของเรา ทำอะไรๆ ได้ (แล้วเราทำได้เอง ไม่ภูมิใจกว่าลูก รึ) บางคนบอกว่า อีกหน่อยแก่ตัวลง จะได้มีความสุขเมื่อเห็นลูกหลาน (โอ่โฮ  แล้วถ้าพวกมันไม่ทำให้เป็นสุข นี่จะอย่กันยังไง) สรุปแล้ว ไม่เข้าใจค่ะ ไม่เข้าใจ จากคุณ : angy_11 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:42:13

ความคิดเห็นที่ 67   เห็นด้วยกับความคิดคุณอินทร์นิล ค่ะ ดิฉันเป็นคนนึงที่อยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามีเลยอายุเท่ากับเจ้าของกระทู้ค่ะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนความคิดแล้ว คิดมานานแล้วด้วยค่ะแต่ไม่นานเท่า จขกท. คิดมา3-4ปีที่แล้วเองแล้วก็เที่ยวบอกเพื่อนแบบนี้ตลอดจนเพื่อนบอกว่าบ้า แต่มีอยู่แว๊บนึงที่นึกขึ้นได้ตอนสมัยเด็กๆคุณพ่อทะเลาะกับคุณแม่ คุณแม่หอบเสื้อผ้าหนีไปนอนบ้านคุณยายเกือบเดือน ตอนนั้นเราอายุยังไม่ถึง10ขวบเลย เราเครียดมากไม่อยากไปโรงเรียน กลับมาบ้านไม่เจอแม่ ญาติพี่น้องทางพ่อก็ถามว่าแม่ยังไม่กลับหรอบ้างก็ว่าแม่หนีไปหรอ จนคุณพ่อไปง้อคุณแม่กลับมานั่นแหละค่ะชีวิตเราถึงได้มีความสุขอีกครั้ง นี่เราแค่ขาดแม่ไปแค่ไม่ถึงเดือนนะคะ เรายังจิตใจแย่ขนาดนี้ แล้วถ้าเด็กซักคนเกิดมาโดยที่ไม่เคยรู้จักแม่เลยล่ะ จริงอยู่เค้าอาจจะได้รับความรักจากคุณเต็มที่และปู่ย่าจากใครๆอีกมากมาย แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าลึกๆแล้วเขาจะไม่อยากรู้ว่าแม่คือใคร การเลี้ยงเด็กซักคนยากมากนะ กว่าที่จะให้เขาเพอเฟ็คอย่างที่เราต้องการ ยิ่งถ้าเขาไม่มีพ่อหรือไม่มีแม่ซักคนคุณยิ่งต้องให้ความรักเขามากกว่าเดิมกว่าเด็กที่เขามีครบทั้งพ่อแม่หลายเท่า ที่นี้พอเขาได้รับมากๆก็จะเหมือนถูกสปอยล์ เรียกร้องมากขึ้นอีก ยังไงละทีนี้ก็ต้องตามใจไม่ตามใจก็ไม่ได้หรอกคนเป็นพ่อแม่ต้องให้ลูกทุกอย่าง ครอบครัวคนรวยพ่อแม่ครบเลี้ยงลูกดีอย่างกับไข่ในหิน แต่เด็กออกมาเป็นเด็กใจแตกถมถืด แม้จะอยู่ในสังคมที่ดีแค่ไหนก็ตาม ในทางตรงข้ามพ่อแม่จน อดมื้อกินมื้อไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกเพราะเอาเวลาไปทำมาหากิน ลูกเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เป็นคนดีก็มีอยู่มากมาย ทั้งๆที่สิ่งแวดล้อมไม่ได้ดีเลย คุณจะบอกว่าคุณจะเลี้ยงดูเค้าให้ดีที่สุด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเขาจะเป็นคนดีนะ คุณบอกว่า "เด็กหลายคน มีแม่คนเดียว หรือ มีพ่อคนเดียว หรือไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ เขาก็เติบโตมาได้ หลายคนก็เป็นคนดีได้ แล้วทำไม เด็กคนเดียวที่ผมจะเลี้ยงเขา(ให้ปู่กับย่าเขามาช่วยเลี้ยงด้วย) จะเติบโตมาเป็นคนดีไม่ได้ครับ" ก็มีเด็กจำนวนมากที่เป็นเด็กบ้านแตกเพราะพ่อแม่แยกทางกันไม่ใช่หรอสัดส่วนมากกว่าด้วยซ้ำ เฮ้อ เจ้าของกระทู้มีปมอะไรในใจหรือเปล่าคะ "ถึงไม่อยากมีเมีย" จากคุณ : ปราถนาดี เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:46:01 A:61.90.136.94 X: TicketID:224196

ความคิดเห็นที่ 68 รักอิสระ แต่อยากมีลูก คุณมีลูก คุณไม่อิสระหรอกครับ จากคุณ : medmed เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 16:48:31

ความคิดเห็นที่ 69 ลูก เป็นภาระผูกพันทั้งชีวิต ยิ่งกว่ามีเมียอีกนะคะ คิดดีแล้วใช่ไหม? จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:09:45

ความคิดเห็นที่ 70 ตกลงมีใครตอบคำถามคุณ Ken จขกท ได้ไหมนั่น ข้าพเจ้าก็อยากรู้นา -"- จริงๆ ใครคิดจะทำอะไร ถ้ามันไม่ได้เดือดร้อนผู้อื่น มันก็เป็นสิทธิของเค้า คนเรามีสมองด้วยกันทั้งนั้น โตแล้ว คิดเองได้ ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แต่มันน่ารำคาญจริงๆ ที่บางคนชอบเอาบรรทัดฐานของตัวเองไปตัดสินคนอื่น คนเรามีเป็นร้อยล้าน จะให้คิดเหมือนกันไปซะทุกอย่างได้ยังไง ใครเพี้ยนกันแน่หนอ? แต่ที่คุณจขกทบอกมาว่า "..ผมชอบอยู่ ชอบไปไหน ชอบทำอะไร ที่เป็นอิสระ ไม่อยากผูกมัดกับใคร.." แล้วไอ้นิสัยแบบนี้ มันจะเหมาะกับการมีลูกเหรอ? เพราะเมื่อไหร่ที่คุณมีลูก คุณจะมีห่วงที่หนักที่สุดในชีวิตที่เคยเป็นมา ยังมีเวลาให้คุณคิดอีกนาน แนะนำให้ลองไปเลี้ยงหลาน เลี้ยงเด็กๆ ลูกคนที่รู้จัก เอาแค่อยู่กับเค้าสัก 4-5 ชั่วโมง ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว จริงๆ แนวคิดแบบคุณ สมัยนี้ก็เยอะค่ะ ข้าพเจ้าก็เคยคิด อยากมีลูก แต่ไม่อยากมีสามี เอ.. ไม่ใช่ไม่อยากมี แต่คิดว่าอาจจะหาสามีไม่ได้ตะหาก -"- ไม่เหมือนลูก ที่เรามีได้ แค่หาพ่อพันธ์ -"- แต่ก็ไม่คิดทำจริงดีกว่า ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ มีก็มี ไม่มีก็ไม่มี ง่ายๆ แบบนั้นล่ะค่ะ ... จากคุณ : Spirited A's way เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:16:48

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้าเราเป็นคุณเราจะ รับอุปการะเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง อย่างน้อยเป็นการลดภาระสังคม คนเรารักเพื่อนมนุษย์ได้ ไม่จำเป็นต้องมาจาก DNA ของตัวเอง เด็กก็เกิดจากวิธีการธรรมชาติ ไม่ต้องเสียเงินทำหลอดแก้วให้วุ่นวาย จากคุณ : Tingle เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:27:02

ความคิดเห็นที่ 72   กำลังจะบอกเหมือน คห.8 พอดี ^^' จากคุณ : ติ๊ดดึก เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:39:21

ความคิดเห็นที่ 73   ไม่สนับสนุนแนวคิดของ จขกท ลองคิดดูให้ดี ๆ นะคะ เพราะ คุณจะเป็นคนกำหนด ชีวิตของเด็กคนหนึ่ง (ในกรณีที่คุณยืนกรานว่าจะผลิตเด็ก หนึ่งคน) โดยที่ เด็กคนนั้น เค้าไม่ได้รู้เรื่อง เค้าต้องรับสภาพ นั้น ๆ .... สภาพจิตใจ และอื่นๆ อีกมาก จะรู้ได้งัยอะ ว่าเด็กได้ทุกอย่าง เท่ากับ เด็กที่มีความสุข ไม่ขาด หรือ มีปม ใด ๆ รายละเอียดมีมากกว่าที่คิด จากคุณ : NO. 1 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:49:31 A:159.50.249.149 X: TicketID:226750

ความคิดเห็นที่ 74 อยากมีลูกแต่ยังหาแม่ไม่ได้เช่นกัน ฮ่าๆ จากคุณ : Ultimatum เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 17:49:59

ความคิดเห็นที่ 75 ตอบแบบตรงไปตรงมา -กฎหมายยังไม่น่ายอมรับการอุ้มบุญในลักษณะนี้ (คุณอินทร์นิลน่าจะรู้ดีที่สุด เพราะคุ้นๆว่าจะเป็นนักกฏหมาย) -ถึงแม้ยอมรับทางกฏหมาย แต่คนอื่นๆที่เกี่ยวข้องเช่น หมอ, คนที่จะท้องให้คุณ ก็ต้องมีความต้องการในแนวทางเดียวกัน ซึ่งคงหายาก เรายังนึกไม่ออกว่าจะมีหมอคนไหนยอมทำ -ถ้ายอมทำให้ ค่าใช้จ่ายถ้าเป็นเด็กหลอดแก้วแล้วอุ้มบุญ ไม่ต่ำกว่าหลักแสน -เลือกเพศไม่ได้ -ง่ายที่สุดคือ มีพสพ.แล้วจ้างให้เขาท้องให้คุณ (อันนี้ตอบแบบตรงๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเห็นดีเห็นงามนะ) จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 18:01:19

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่คิดว่าเด็กจะอยากมีแม่ แต่ไม่อยากมีพ่อ บ้างเหรอคะ  = = จากคุณ : -‘•[I]dentity•’-[22] เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 18:02:43

ความคิดเห็นที่ 77 อ่านกระทู้นี้แล้ว..ยังอุ่นใจในหลายๆความเห็น ถ้าโลกนี้มีแต่คนทำ  สิ่งที่ตัวเองอยากทำซะอย่าง คงปั่นป่วนน่าดู จากคุณ : OldOakT เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 18:56:03

ความคิดเห็นที่ 78 ไม่แฟร์ที่ลูกของคุณจะไม่มีแม่เหมือนที่คุณเคยมีตอนเกิดและตอนเด็กๆ จากคุณ : Future is on my hand เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 18:56:27

ความคิดเห็นที่ 79 ถ้าชอบชีวิตอิสระ การมีลูกนี่ละ คือการผูกมัดดีๆนี่เอง จากคุณ : คนหัวฟู เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 19:54:42

ความคิดเห็นที่ 80 เอ่อ ผมก็...... ไม่เห็นด้วย อ่ะครับ รู้ว่าคุณมีความสามารถ แต่เด็ก ต้องการที่จะมีครอบครัวที่อบอุ่น เหมือนกันนะครับ หากเขาเห็นเพื่อนๆ เขา มีพ่อ มีแม่ เขาย่อมคิดถึงตัวเขา (ประสบการณ์ตรงเลยครับ) - -" ยังไง ลองตึกตรอง ดูดีๆ อีกสักหลายๆ ครั้งนะครับ จากคุณ : ขวดโหลที่ว่างเปล่า เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 19:58:26

ความคิดเห็นที่ 81   แล้วคุณคิดเหรอครับว่าเด็กคนนั้นอยากเกิดมาโดยไม่มี แม่ จากคุณ : adeeagus เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 20:07:47

ความคิดเห็นที่ 82 เหมือนผมเลยครับ ผมอยากมีเมียนะ แต่หาถูกใจไม่ได้สักที นิสัยคุณผู้หญิงเนี่ย หลายๆอย่าง ใช้ไม่ได้เสียเลย ใจร้อน อารมณ์เสีย ขี้หงุดหงิด เนี่ย เป็นกันทุกคนเลยหรือ จากคุณ : โกอ้วน เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 20:12:18

ความคิดเห็นที่ 83 อืม..ถ้างั้นจะไปหาใครเป็นแม่ ..แล้วอยากได้ลูกแบบไหน....ผสมเทียมเหมือนหมีแพนด้าหรอ...เอาใครมาท้อง ..คิดๆๆๆๆ อืม..แล้วใครจะมีชื่อเป็นแม่ในใบเกิดของเด็ก ..แล้วคุณจะเลี้ยงเค้าด้วยนมอะไร...นมผงหรอ...เค้าก็เป็นลูกวัวอ่ะดิ..(ปัจจุบันเรารณรงค์ให้เลี้ยงด้วยนมแม่ตั้ง 6 เดือน) อืม..แล้วใครจะซักผ้าอ้อม เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ..จ้างคนเลี้ยงหรอ . อืม...แล้วถ้าเขาโตขึ้น เขาถามว่า "หนูออกมาจากไหน ใครเป็นแม่..คุณจะตอบว่างัยคะ..บอกลูกว่า "ลูกออกมาจากกระบอกไม้ไผ่หรอ" อืม...แล้วเด็กจะไม่มีปัญหาหรอตอนเข้าไป รร. เขาจะตอบคำถามเพื่อนๆอย่างไร "ไหนแม่เธอ" ...." เธอเป็นเด็กผสมเทียมหรอ" อืม..ปัญหาจะตามมาอีกเยอะเลยค่ะ... สนับสนุนในหลายๆความคิดของคุณอินทรนิล  นะคะ อย่าทำเลยค่ะ ฉันว่าคุณยังไม่เจอคนที่คุณรักมากกว่า..รอถึงวันนั้น คุณเจอคนที่คุณอยากจะมีลูกกับเขา..และเขาอยากจะมีลูกกับคุณ คุณจะอยากเป็นพ่อ...และคุณจะเป็นพ่อที่สมบูรณ์... ขอเอาใจช่วยละกันนะคะ.. คุณยังอายุน้อยอยู่เลย... จากคุณ : klint77 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 20:27:51

ความคิดเห็นที่ 84 เหมือน ค.ห. 1 เป๊ะ อยากมีลูก ไม่อยากมีปั๋ว ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็อยู่คนเดียวไปเลยดีกว่าเรา จากคุณ : The Field Where I Died เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 20:35:59

ความคิดเห็นที่ 85 ลองจ้างเด็กที่ต้องการเงิน แบบที่จะไม่มีปัญหาเรียกร้องภายหลัง เช่น เด็กสาวกระเหรี่ยงพม่า ไม่มีบัตร ตกลงราคากันไปเลย ให้มาอยู่ที่บ้านเป็นเมียเก็บจนกว่าจะคลอดลูก แล้วส่งกลับไม่ให้มาติดต่อกันอีก อนาคตถ้าลูกถามหาแม่ก็ตอบตามจริงว่าแม่เป็นใคร แต่อย่าบอกว่าจ้างมาให้ทำลูก(สงสารเด็ก) แตในกรณีนี้เสนอว่า ผู้หญิงพวกนั้นบางทีเขาสามารถทนอยู่ในสถานะแบบนั้นได้ คือไม่มีสถานภาพเป็นเมีย แต่เป็นแม่และช่วยคุณเลี้ยงลูกได้ แล้วก็ไม่มีสิทธิวุ่นวายกับชีวิตคุณแบบเมียด้วย จากคุณ : KAVINT เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 21:09:31

ความคิดเห็นที่ 86 เราไม่ควรคิดแทนคนอื่น แล้วเอาใจเรา ไปใส่ในความคิดคนอื่น คนที่ว่าคนอื่นว่าเพี้ยนเพราะคิดไม่เหมือนตัวเองคงไม่เข้าใจ ควรจะไปปรึกษาจิตแพทย์ก่อนดีกว่ามั้ง เราเชื่อว่าคุณ Ken จะเลี้ยงลูกให้ดีได้ค่ะ ขอให้สมหวังนะคะ จากคุณ : ดาหลารัศมี เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 21:24:06

ความคิดเห็นที่ 87 กระทู้ล่อป้า  ล่อเป้า หรือเปล่าคะ จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 21:37:34

ความคิดเห็นที่ 88 เคยคิดเหมือนกันนะ ลูกเพื่อนแม่เราก็ไปจ้างคนอุ้มบุญให้เพราะเค้ามีลูกเองไม่ได้ แต่อันนั้นครอบครัวเค้าพร้อมอ่ะนะ ใจเย็นๆค่อยๆศึกษาไปแล้วกัน เรียนรู้ที่จะรัก และเสียสละ ควบคุมอารมณ์และความอดทนให้ได้ก่อนนะ จริงๆในความคิดเรานะ แล้วการมีคู่อาจไม่จำเป็นก็ได้ แต่การมีคู่นั้นทำให้เราผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่จะรัก และเสียสละ ยอมที่จะเสียเวลารอคนที่เรารัก อดทนในการปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างใกล้ชิด ทำให้พร้อมที่จะมีลูก เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเราได้เรียนรู้ที่จะอดทน และเสียสละความเป็นส่วนตัวเพื่อดูแลใครซักคน เพื่อให้อีกคนมีความสุข เมื่อนั้นเด็กเกิดมา กระบวนการนี้จะถูกนำมาใช้ คุณยอมจะเสียสละความเป็นส่วนตัวนั้นหรือไม่? คุณพร้อมจะดูแลเด็กคนนี้ไม่ว่ายามเจ็บไข้ ยามเค้าอึเลอะเทอะ ฉี่ไปทั่ว ยามเค้าร้องแหกปากเอาแต่ใจสามชั่วโมงไม่หยุด ยามเค้าหิว ยามเค้าไม่มีเหตุผล คุณพร้อมจะยืนข้างๆเค้ามั้ย? ในยามที่เึค้าร้องจะเอาของเล่น ทั้งๆที่เพิ่งซื้อไป เค้าลงไปนอนดิ้นไม่ฟังคุณ คุณจะทำอย่างไร? พูดจาขวานผ่าซากเหมือนพูดกะผู้ใหญ่คนหนึ่งเหรอ? คุณสตอไม่เป็น แต่จริงๆคุณไม่คำนึงถึงจิตใจคนฟังต่างหาก ถ้าคุณไม่รู้จักถนอมจิตใจของคนอื่นไม่ว่าใคร คุณไม่รู้หรอกว่า คุณอาจทำร้ายจิตใจของเด็กคนหนึ่งไปตลอดชีวิต ด้วยคำพูดไม่ตั้งใจของคุณ ในคำที่คุณคิดว่าปกติก็พูดแบบนี้ สตอไม่เป็น เด็กรับได้ แต่รู้มั้ยมันจะกลายเป็นบาดแผลในใจชั่วชีวิตของเด็ก ถ้าคุณไม่เรียนรู้ที่จะยับยั้งชั่งใจ และอดทนมากกว่านี้ คุณพร้อมจะตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวให้ลูกคุณ เตรียมหาอาหารให้ทาน จับขึ้นรถ และคุณต้องขับรถติดเป็นชั่วโมงๆ พร้อมเสียงตะเบ่งแหกปากร้องไห้ของลูกคุณ ทุบตีคุณเพราะไม่อยากไปโรงเรียนได้มั้ย? คุณพร้อมจะอดทนมั้ย? ในวันที่งานคุณยุ่งสุดๆ แต่ลูกคุณมีการบ้านงานฝีมือต้องส่งพรุ่งนี้ คุณจะเลือกอะไร จะโยนภาระให้ใครเหรอ? คุณมั่นใจว่าคุณพร้อมจะมีเค้าจริงๆเหรอ? ไม่ได้ว่ามีครอบครัวจะดีหรือสามารถโยนภาระให้ใครได้นะ แต่มันคือหน้าที่ของคุณ ไม่ว่าจะมีญาติพี่น้อง เมีย หรือ สามี แต่เค้าคือลูกคุณ คุณจะเดินหนีภาระเหล่านี้เหรอ? ถ้าคุณพร้อมจะมี คุณต้องไม่โยนภาระนี้ให้ใคร เ้พราะมันคือหน้าที่ของคุณโดยตรง แล้วถ้า DNA ของคุณ เกิดอุบัติเหตุทำให้เค้าเกิดมาพิการไม่สมประกอบ หรือปัญญาอ่อนล่ะ? คุณจะทิ้งขว้างเค้ามั้ย? ถ้าเค้าดูแลตัวเองไม่ได้ตลอดไป ต้องไปโรงพยาบาลทุกๆสองวัน หรือ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจราคาเป็นแสนๆ ตลอดเวลา คุณพร้อมจะดูแลรับผิดชอบเค้ารึเปล่า? ถ้าเค้าเรียนรู้ช้ากว่าเด็กอื่นๆล่ะ? ลูกคนอื่นวิ่งได้ออเซาะฉอเลาะได้แล้ว แต่ลูกคุณยังน้ำลายย้อย ไม่ค่อยคลาน ไม่ค่อยมีพัฒนาการ และงานคุณกำลังวิกฤต คุณจะทำยังไง คุณพร้อมรับมือรึยัง? ประเด็นเราไม่ได้มาสนับสนุนให้มีเมียนะ เราต้องการถาม ไม่ว่าคุณ หรือ ใครก็ตามที่อยากมีลูกซักคน คุณพร้อมรับสิ่งเหล่านี้มั้ย? วางแผนชีวิตไว้แน่แล้วหรือยัง? ที่จะรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิดมา เค้าเป็นคน ไม่ว่าจะในสภาพไหน เค้าอาจเป็นปีศาจหรือเทวดานั่นอยู่ที่เราสร้าง ในยามที่เค้าเป็นปีศาจเราพร้อมจะเป็นเทวดาสำหรับเค้าหรือไม่? ถ้าคุณเตรียมใจรับกับสิ่งแย่สุดๆได้ คุณก็จะได้รับสิ่งที่มีค่าที่สุดกลับไป นั่นอาจจะหมายถึงแค่รอยยิ้มน้อยๆของลูกคุณ ที่แม้แต่ชีวิตคุณก็ยอมแลกได้เพื่อเค้า ขอให้คุณและคนที่จะมาเกิดเป็นลูกคุณไม่ว่าแบบไหนโชคดี และมีความสุขตลอดไป จากคุณ : บางเวลา เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 21:42:55

ความคิดเห็นที่ 89   ต่างคนต่างความคิด แต่สิ่งนึงที่จะลืมไม่ได้คือเรายังอยู่ในสังคมนี้อยู่ถ้ามันผิดแผกแตกมากๆก็ลำบากนะคะ จากคุณ : สาวเมืองขอนแจร้น เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 21:49:31 A:125.26.149.41 X: TicketID:219832

ความคิดเห็นที่ 90 เราว่าบางความเห็นเขาก็พูดถึงสถานะความเป็นครอบครัวได้เป็นอย่างดี เขามีเหตุผลนะถ้าเพียงแต่ตั้งใจอ่านดูและคิดตามไป แต่เอาเหอะในเมื่อจขกท.ปิดกระทู้แล้วนี่ คห.เราคงทำให้ไม่พอใจเพราะดันไปเข้าข้างคห.ที่ทำให้จขกท.โมโหเสียอีก คุณอาจเป็นพ่อที่ดีก็ได้นะ ใครจะไปรู้ได้ สุดท้ายมันอยู่ที่ตัวคุณเอง จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 21:49:45

ความคิดเห็นที่ 91 ผมเข้าใจครับคุณจขกท. เรื่องที่ไม่อยากรับอุปการะ ความรัก ถ้าลองรู้ว่าลูกนั้นเป็นสายเลือดเรา มันจะให้ความรักได้มากกว่าจริงๆ ตอนนี้ผมเองก็เริ่มรักเด็กคนหนึ่ง รักเหมือนน้องชายแท้ๆ สนิท เล่นด้วย ไปค้างที่บ้าน โดดเรียนไปเที่ยวกับมัน ทำทุกอย่างมาแล้ว ผมพอจะเข้าใจครับ เพราะผมเองก็คงยังไม่เจอเนื้อคู่ ถ้าผมมีลูกผมจะเลี้ยงเขาแบบเพื่อน คุยกันได้ทุกเรื่องดีกว่า ต่างคนต่างความคิด ป.ล. ถ้าผมเป็นลูกคุณ ผมจะภูมิใจในตัวคุณมากๆ ที่สร้างผมให้เกิดมา ความคิดผมไม่เหมือนคนทั่วไป บ้าใช่ไหมเนี่ย จากคุณ : รัตนลาวัณย์ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 22:04:44

ความคิดเห็นที่ 92 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 31 ส่วนคำถามของเจ้าของกระทู้ มีวิธีการเขียนที่ไม่ล่อแหลมกว่านี้นะครับ เขียนล่อแหลม เรื่องมันเลยยาว (หรือว่า ล่อเป้า?) จากคุณ : เหอๆ (PoyeCUD37) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 22:18:45

ความคิดเห็นที่ 93 เครียดอะไร มากมายกับชีวิต ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ... อะไร ถูกอะไร ผิด เอาอะไรมาวัด   ความคิดคุณหรือ ? การยอมรับจากสังคม ? มีครอบครัวที่พร้อม แล้วเด็กจะออกมาเป็นคนดีจริง ? ถ้าแบบนั้นสังคมนี้ก็คงมีแต่คนดีแล้วละ คนบางคนเติมเท่าไร มันก็ไม่เต็ม จากคุณ : ไชโป๊ผัดไข่ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 22:21:33

ความคิดเห็นที่ 94 กระทู้นี้อ่านแล้วได้ข้อคิดหลากหลาย.... จงอย่าไปตัดสินผู้อื่น ถ้าไม่อยากให้ผู้อื่นตัดสินท่าน สิทธิและเสรีภาพของเขา เขาจะทำอย่างไรก็ได้ มันก็เป็นเรื่องของเขา  ไปตัดสินเขาทำไมเน๊อะ ทำไมคนอื่นที่เห็นไม่ตรงกับเราถึงเป็นคนผิดอยู่เรื่อยเลย จริงไหม อัตตาของบางคนช่างสูงส่งเลยจริงๆหนอ กล. (เกือบลืม)  อยากมีลูกเพื่อให้มารับมรดก  เหมือนกัน  อิอิ จากคุณ : นรกาฬ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 23:28:44

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นด้วยกับความคิดส่วนใหญ่(80-90%)ของคุณอินทร์นิล จากคุณ : JJ@CM เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 23:54:15

ความคิดเห็นที่ 96 จะตอบตามคำถามนะคะ ...   ( ผู้ตั้งกระทู้ถาม ตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็ไม่เสนอความคิดและความรู้สึกร่วม เพราะไม่เกี่ยวกับคำถาม จขกท) คุณสามารถหาแม่อุ้มบุญได้คะ ราคาตามแต่ตกลงกันหรืออย่างมากแค่หลักแสน ไม่ใช่ 7 หลักหรอก แพงไป .. เพราะว่าการทำเด็กหลอดแก้ว เปอร์เซ็นการติด ไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ ไม่แน่คุณอาจจะทำ 5-6 รอบกว่าจะติดก็ได้ (เฉลี่ยรอบละ 130,000 บาทขึ้นไป ต่อการทำเด็กหลอดแก้ว 1 ครั้ง  ) ถ้าคุณจะใช้ไข่บริจาค ค่อนข้างยุ่งยาก ใหนจะหาไข่บริจาค ใหนจะหาคนมาอุ้มท้องให้  ที่สำคัญหมอโรงพยาบาลใหนก็ไม่อยากรับ ปัญหาซับซ้อน แต่ถ้าคุณหาใครสักคนที่พอจะมีลูกให้ได้แล้ว ยอมคลอดและยกลูกให้คุณจะง่ายกว่า ทุกกรณีที่ว่ามา  ( ไม่ได้พูดเรื่องศิลธรรมนะ ) แต่อย่างหนึ่งที่อยากให้รู้ เด็กไม่ว่าหญิงหรือชาย จะติดแม่มากกว่าพ่อ เพราะแม่นั้นเสียสละที่สุดแล้ว  ถ้าคุณคิดว่าตัวเองทำหน้าที่ตรงนั้นได้  คุณคงต้องเสียสละหลายๆอย่างเพื่อเขาเลยทีเดียว ... คำถามแบบนี้ ไปถามในเวปคลีนิครักดีกว่าคะ ..คุณจะได้คำตอบที่ตรงกับคำถาม จากคุณ : แช มัน ฮวา เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 00:13:46

ความคิดเห็นที่ 97 อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับกระทู้เท่าไหร่ แต่ก็เห็นข้อคิดที่ดี เคยฟังเรื่องผลของการมีครอบครัวที่มีลูกเพียงคนเดียว ลูกก็จะไม่รู้จักคำว่าพี่น้อง ไม่รู้จักคำว่าลุงป้า น้าอา ไม่รู้จักคำว่าน้าเขย ไม่ีมีลูกพี่ลูกน้อง ไม่มีหลาน ชีวิตนี้ก็จะมีแค่ ตา ยาย ปู่ ย่า พ่อ แม่ เท่านั้น ไม่รู้จักการปรับตัวเข้าหาผู้อื่น ไม่มีการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมชายคากับคนที่ำไม่ได้สนิท ขบวนขันหมากอาจจะเหลือกันแค่ 3 คน หลายๆ อย่างที่ได้ฟังมา ยอมรับเลย ว่าไม่เคยคิด เคยคิดแต่ว่าลดจำนวนประชากรดี อยากให้ จขกท มองหลายๆ มุมนะคะ ลูกที่เกิดโดยไม่มีแม่(ที่เป็นตัวตน) จะมีผลกระทบอะำไรบ้าง อย่างน้อยๆ ที่เรานึกออกก็คือ 1. ลูก ต้องไม่มีตา ยาย น้า จำนวนญาติในสายตระกูลจะลดลงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว 2. ถ้าได้ลูกสาว คงจะเป็นแค่ย่าเท่านั้นแหละ ที่สอนเรื่องผู้หญิงๆ ให้ลูกรู้ 3. แล้วถ้าเกิดในอนาคต ครอบครัวอาจจะมีจำนวนน้อยลงอีก จากการที่มีคนในครอบครัวจากไป ใครจะดูแลลูกคุณไหว หากคุณไม่อยู่ ภาระก็ต้องตกอยู่กับปู่ย่า วัยห่างกันเกินไป เข้าถึงกันยากแน่ๆ [มีกรณีหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าการมีแม่เลี้ยงก็ดีเหมือนกัน แม่เพื่อนเป็นมะเร็งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันก่อน ส่วนพ่อเค้ากำลังเป็นมะเร็งตับระยะท้ายๆ ทั้งสองตรวจเจอมะเร็งพร้อมๆ กันเมื่อปีที่แล้ว ลูกสองคนอยู่ในวัยเรียน โชคดีที่เค้ายังมีแม่เลี้ยงเป็นหลักให้ - ขนาดมีทั้งพ่อทั้งแม่ เหตุการณ์แบบนี้ยังเกิดขึ้นได้เลย] จากคุณ : kidmark เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 01:07:30

ความคิดเห็นที่ 98 แค่คุณบอกว่าคุณวางแผนการมีบุตรโดยการผสมเทียมตั้งแต่อายุ 20 เพราะไม่อยากมีเมีย คุณไปเล่าให้ใครฟัง เค้าก็ต้องว่าคุณเพี้ยนแน่ๆ หลายๆเรื่องที่คุณ อินทนิล ว่ามาเป็นไปตามข้อมูลในวิชา HumanWisdom และวิชา Man&Society เลยครับ ดังนั้นผมคิดว่า จขกท ลองพบปรึกษาจิตแพทย์ดูมั่งก็ดี ว่าสิ่งที่ จขกท คิดและอยากทำอยู่นั้นเป็นเรื่องควรหรือไม่ ความรู้เกี่ยวกับความรักที่ผมได้มาจากการเรียน คือ ถ้าคุณรักใครสักคน เป็นเพราะคุณหวังดีต่อเค้าจริงๆ ยอมเสียสละทุกสิ่ง ยอมให้คนที่รักไปอยู่กับคนที่เค้าดีกว่าเรา หรือยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิต ให้เค้าได้เจอกับสิ่งดีๆได้หรือไม่ หรือ คุณรักเค้า อยากดูแลเค้า อยากมีเค้าอยู่ด้วย เพื่อให้ตัวเองได้มีความสุข โดยลืมนึกถึงสภาพจิตใจ ทัศนคติ EQ และชีวิตในอนาคตของคนที่คุณรัก ใช่หรือไม่   ผมว่าคุณ จขกท ยังไม่เข้าใจถึงความละเอียดอ่อน ของสายสัมพันธ์ของมนุษย์ในบทบาทต่างๆต่อสังคม สังคมคนเรา ประกอบด้วย จารีตประเพณีและวัฒนธรรม การให้อภัย การรับฟังผู้อื่น การน้อมรับ การควบคุมสภาพจิตใจต่อสิ่งเร้าต่างๆ ซึ่งตรงนี้ผมว่า จขกท ยังขาดอยู่และไม่พร้อมที่จะมีบุตร หรอกครับ ผู้ชายที่อยากมีเมีย โดยส่วนใหญ่ยังไม่คิดมีบุตรหรอกครับ แต่พอได้เมียแล้ว และมีฐานะพอ ก็เริ่มอยากมีลูก เพื่อมาเติมเต็มชีวิตที่สมบูรณ์ ทั้งต่อคนในครอบครัวและต่อสังคมภายนอกครอบครัว  แต่ชีวิต ที่มีลูก โดยไม่มีเมียนี่มันจะทำให้ทุกอย่างผิดเพี้ยนครับ   บ่นมาพอแล้วสรุปสั้นๆละกันครับว่า อย่าไปทำอะไรที่มันผิดธรรมชาติ และไปพบจิตแพทย์ดูนะ ถ้า จขกท ไม่สบอารมณ์กับความคิดเห็นของผม ก็ถือซะว่า ผมไม่ได้พิมพ์อะไร และถือว่าเราไม่ขุ่นเคืองกันนะ เพราะผมก็ไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับคนที่ไม่เปิดรับฟังความเห็นผู้อื่น  แต่ถ้าเก็บสิ่งที่ผมพิมพ์มาไปคิดไตรตรองดูบ้างสักเล้กน้อยก้เป็นเรื่องน่ายินดีครับ จากคุณ : Rapter เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 01:32:12

ความคิดเห็นที่ 99 Cloning ครับ   เก็บเซลล์เอาไว้ก่อน ตอนนี้ อายุ 27 ยังทัน (สารประกอบบางอย่างสำหรับการโคลนนิ่ง ยิ่งเก็บไว้เร็ว ยิ่งดีครับ) จากคุณ : Snowwave เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 01:35:55

ความคิดเห็นที่ 100 เห็นด้วยกับความเห็นหลายๆคนค่ะ ว่าจะอ่านเฉยๆแต่ก็อดตอบไม่ได้ ตอนนี้เราท้องอ่อนๆได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว แพ้ท้องเริ่มหนักขึ้นทุกที (เมื่อกี้ก็มีอาเจียนไปจนตื่นมากลางดึกเลย) สามีดูแลเราดีมาก เราอยากให้ลูกของเรามีพ่อ-แม่ครบเพื่อครอบครัวที่สมบูรณ์เท่าที่จะทำได้ จขกท.อย่าทำเลยแบบที่คิดเลยนะ เราสงสารเด็ก เราคิดว่าคุณอาจจะยังไม่เจอรักแท้จริงๆก็ได้นะ ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่ดีพอ ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงดีๆที่พร้อมให้คุณรักอีกเยอะนะคะ จากคุณ : k.lover เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 02:36:36

ความคิดเห็นที่ 101 แค่สงสัยว่า ครอบครัวที่อบอุ่นนี่มันต้องมี พ่อ แม่ ลูก ด้วยเหรอคะ? สมมุติว่ามีพ่อสองคน หรือแม่สองคนล่ะ? จะว่าเค้าว่าครอบครัวเค้าไม่สมบูรณ์หรือเปล่า? บางที เรื่องบางเรื่องคนเราจะมีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน เราเห็นอย่างนึง อีกคนเห็นอย่างนึง แต่เราจะไปตัดสินคนอื่นจากมุมมองของเราได้ยังไง? เราก็ได้แค่บอกว่า การจะรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตเนี่ย มันไม่ใช่เกม ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เด็กไม่ใช่หมา แมว หรือตุ๊กตา แต่ถ้าคุณจขกท.ยังยืนยันความคิดนี้จริงๆ เราก็ว่ามันไม่ผิดนะ มันก็แค่แปลกเท่านั้นเอง แตกต่างไปจากสิ่งที่คนทั่วไปคุ้นเคย แต่เรื่องกฏหมาย เราไม่รู้ว่าทำได้หรือเปล่าน่ะค่ะ.. จากคุณ : คนรักแมวตี๋ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 04:00:57

ความคิดเห็นที่ 102 ตอบคำถามจขกทไม่ได้ ได้แต่ให้กำลังใจ คนคนเดียวก็เลี้ยงเด็กให้ดีได้ แม่เราเลี้ยงเรามาคนเดียวตั้งแต่เราไม่ถึงขวบ แม่เราทำมันให้เป็นเรื่องธรรมดา ไม่เคยอ่อนแอให้เห็น เราเห็นคนอื่นมีพ่อแม่ครบ ยังไม่เคยรู้สึกแย่ อิจฉา หรือรู้สึกไม่เต็ม ถามแม่ว่าทำไมหนูไม่มีพ่อ อะไรแบบนั้น แม้แต่ครั้งเดียว และถ้าถามว่าอยากมีชีวิตแบบอื่นไหม ตอบได้เลยว่า ไม่ เรามีความสุขมากและ independent สุดสุด ใครจะว่าก็ช่างเขาเถอะค่ะ ความคิดแบบนี้ปกติอย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่มีแต่คุณคนเดียวหรอก เพื่อนเราก็คิด มันเลือกเชื้อชาติด้วย เราก็คิด โคตรเข้าใจเลยว่าคุณรู้สึกยังไง ก็เหมือนเมื่อก่อนที่การผสมเทียม เด็กหลอดแก้ว ถูกต่อต้านแทบตาย แต่ดูเดี๋ยวนี้สิ โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ขอให้สมหวังล่ะ จากคุณ : ลัลลา เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 04:47:07

ความคิดเห็นที่ 103 พอเข้าใจความต้องการนะ แต่ว่า "ผมชอบอยู่ ชอบไปไหน ชอบทำอะไร ที่เป็นอิสระ ไม่อยากผูกมัดกับใคร ประมาณนั้น" พอเห็นประโยคนี้แล้วคิดขึ้นมาทันใดว่า... ลูกนั่นแหละ เป็นข้อผูกมัดยิ่งกว่าเมีย เพราะว่า เมีย อย่างน้อยก็โตพึ่งพาตัวเองได้ ถึงแม้่ว่าจะมีอารมณ์ผู้หญิงบ้างอะไรบ้าง ก็ถือว่า ยังมีวุฒิภาวะที่จะทำอะไรได้อีกมาก แต่สำหรับลูก คุณคิดว่า ชอบทำอะไร ที่เป็นอิสระ ในตอนมีลูก แทบเป็นไปไม่ได้ และมันจะยุ่งยากกว่าการมีเมีย ถ้าคุณตัด ข้อที่คุณว่าได้ คุณก็มีลูกได้ เพราะถ้าคุณคิดจะมีลูกโดยปราศจากเมีย คุณต้องทำงานหนักเพิ่มเป็น 2 เท่า และคุณจะไม่มีอิสระ อย่างที่คุณคิด เพราะฉะนั้น นอกจากศึกษาหาข้อมูลเรื่องหาแม่อุ้มบุญแล้ว ศึกษาตัวเองกับหมอทางด้านจิตวิทยาด้วย ว่าคุณสามารถดูแลเด็กได้จริงหรือเปล่า คนเราอาจจะพูดได้ว่าผ่านมาหลายอย่าง สามารถทำหน้าที่นั้นได้ แต่มันยังไม่เคยได้ประสบ มันก็พูดได้ทุกคน เราเองก็เคยผ่านเรื่องทำนองนี้มาแล้ว พออายุมากจน ณ บัดนี้ กลับคิดได้ว่า เมื่อก่อนไม่น่าคิดอย่างนั้น และที่สำคัญ โชคดีที่ไม่ได้ตัดสินใจอะไรแบบนั้นไป ถึงคุณจะบอกคนอื่นหัวชนฝา ว่า จะทำได้ไหม กฎหมายรับรองไหม สิ่งที่คุณต้องทำอันดับแรกคือ  สิ่งที่ผูกมัดหนะคุณยอมรับมันได้มากกว่าเมียหรือเปล่า จากคุณ : Ex-TeRMinaToR เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 05:12:42

ความคิดเห็นที่ 104   เอาเป็นว่า ผมจะเล่าให้ฟังล่ะกันนะครับ ผมเป็นเด็กคนนึง ที่ไม่มีพ่อ แล้วเจอพ่อใหม่ ที่สันดาน อาจต่ำนิดนึงมาเยอะ แล้ว เอาเป็นว่าผมอยู่ได้ ตอให้พวกแต่งคำพูดสวยหรูว่าเด็กที่เกิด มาจะมีปัญหา เพราะครอบครัวขาดแม่ หรือพ่อ แต่ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่ามันเก่าแล้วครับ พวกคุณจะเอาไปเทียบกับอเมริกาได้ไง ในเมื่อวัฒนธรรมเราต่างกันมากเลย แล้วขาพเจ้าเชื่อว่า เด็กจะมีปัญหาก็ต่อเมื่อ เจอสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี คบเพื่อนไม่ดี ไม่มีตัวอย่างที่ดี แต่ข้าพเจ้าสามารถเอาหัวเป็นประกันได้เลยว่า ไม่มีเด็กคนไหนที่เกเร กเลวราช เพราะขาดแม่หรือพ่อหรอกครับ ลองมองมุมคนอื่นมั่งนะครับ ผ็นด้วย จขกท อย่างยิ่ง ถ้ามีก็แนะนำให้เลี้ยงเค้าให้ดีที่สุดนะครบ ถ้ามีพ่อมีแม่ ครบแต่ต้องมาทนดูคนทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน บางทีถ้าเรามีผู้ปกครองเพียงคนเดียว เราว่าปรับตัวได้ดีกว่านะครับ ตอนนี้เราก็อยู่กับแม่ แม่เป็นทั้งเพื่อน ทั้ง แม่ ที่บ้านก็ไม่ได้รวย แตท่านก็ทำงานหนักมาก (เแาเป็นท่าน จบ ป.4 แต่ไม่เคยขอเงินจากผู้ที่เป็น เพศผู้เลยสักบาท) ตอนี้เราจะจบราม กับ มทร. พร้อมกันและ รักแม่มากนะครับ จากคุณ : micmon (MicMon) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:10:01

ความคิดเห็นที่ 105   เราว่า จขกท.ต้องหาผู้หญิงมาอุ้มบุญให้ค่ะ เดี๋ยวนี้มีผู้หญิงที่ยินดีกับเรื่องอุ้มท้องให้นี่เยอะค่ะ แล้วเราว่าค่าจ้างก็คงไม่แพงเท่าไหร่แล้วด้วย เราเป็นอีกคนที่ไม่คิดว่าคุณเพี้ยน และเราว่าคุณคงเป็นคนมีความคิดค่อนข้างไกลทีเดียว ยังไงก็อย่าเครียดค่ะ สู้ๆ จากคุณ : สู้เพื่อลูก เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:18:47 A:115.67.34.86 X: TicketID:225400

ความคิดเห็นที่ 106 จขกท มีเหตุผลไหมครับว่าทำไมถึงไม่อยากมีเมีย? อย่างเช่น - กลัวว่าอยู่ๆ ไปแล้วเมียมีชู้ เมียมักมากในกาม เมียแอบพาชู้เข้าบ้าน มานอนบนเตียงเรา มาทำอะไรกันในห้องน้ำของเรา มาทำอะไรกันบนโซฟาของเรา - หรือกลัวประเด็นการแบ่งสมบัติ เพราะคุณมีทรัพย์สินเยอะ กลัวอยู่ๆ ไปเมียฟ้องหย่าแล้วต้องหารสมบัติคนละครึ่ง - กลัวได้เมียเป็นคนไม่ดี นำแต่ความทุกข์มาให้คุณ อยู่ด้วยกันแล้วเครียด ไม่มีความสุข - กลัวได้เมียชอบเที่ยว ขี้เหล้าเมายา (ในขณะที่คุณชอบอยู่บ้าน ไม่ชอบเรื่องเหล้าบุหรี่) เมียชอบใช้จ่ายเงินทอง สร้างหนี้ให้คุณต้องเคลียร์เป็นประจำ - กลัวได้เมียที่วันๆ หาเรื่องทะเลาะกับคุณได้ทุกวัน ตะค่อกด่า เสียงดังไปเจ็ดบ้านแปดบ้าน เควี้ยงแก้ว ทุกกระจก (เพื่อนบ้านผมประจำ) เดินออกจากบ้านก็แทบซุกแผ่นดินหนี้ เพื่อนบ้านรู้หมดมันทะเลาะอะไรกัน - กลัวได้เมียขาวีน ขึ้นปรี๊ดกับคุณได้ทุกที่ ไม่ว่าตามห้าง ที่สาธารณะ ห้องอาหาร วีนได้ทุกสถานะการ์ณ (พี่สาวผมเป็นงี้กะผัวเค้าประจำ) ถ้าเป็นความกลัวเหล่านี้ ผมว่าผู้ชายหลายคนก็คงไม่ชอบแน่หากได้เมียแบบนี้ครับ ผมคนหนึ่งล่ะ เพราะเคยเห็นและประสบพบเจอจนขยาด และคิดว่าหากจะมีเมีย คงต้องดูแล้วดูอีก หาเมียดีๆ ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ตอนคบๆ กันอาจจะดี แต่พออยู่ด้วยกันก็อาจทำเราปวดหัว สู้อยู่คนเดียวดีกว่าหากจะต้องมีเมียแย่ๆ จากคุณ : LamoonMan เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 10:20:50