Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมื่อ 2009 บ้านบุกบ้าน เอาหน้ากากบ้าๆของท่านคืนไปเถอะ แล้วช่วยส่ง tamiflu มา  

ดิฉันเป็นประชาชนคนหนึ่งที่เดือดร้อนจากความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการควมคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากรัฐบาล สมาชิกในบ้านของดิฉันถูกปฏิเสธในการตรวจวินิจฉัยและการได้รับยาอย่างที่ควรจะได้ตามสิทธิ์ประกันสังคมและสิทธิ์ในการได้รับการรักษาอย่างที่ประชาชนไทยคนหนึ่งพึ่งจะได้ ทำให้โรคลุกลามติดสมาชิกอื่นๆในบ้านทั้งที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีถึงสองคน และคนท้อง ซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ออันตรายจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ดิฉันจึงขอเล่าเรื่องให้ทุกท่านทราบ เพื่อให้ทุกท่านเผื่อใจไว้หากไม่ได้รับการรักษาตามที่ควรจะได้ และทราบถึงวิธีการรับมือกับปัญหาในปัจจุบันของรัฐบาล และหวังว่าเสียงของดิฉันจะเป็นเสียงหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในการจัดการกับปัญหาระดับประเทศนี้

รายละเอียดของเรื่องมีดังต่อไปนี้

วันที่ 2 สค 2552 แม่บ้านที่ทำงานที่บ้านของดิฉันเดินทางกลับมาจากไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด ต่อมารู้สึกเป็นไข้ตัวร้อน วันที่ 3 สค 2552 จึงได้ไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งตามสิทธิ์ในสังกัดประกันสังคม โรงพยาบาลเพียงตรวจเบื้องต้นเฉยๆ ไม่ได้มีการตรวจวินิจฉัยเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งที่มีอาการและประวัติบ่งชี้ถึงความน่าจะเป็น

ต่อมาวันที่ 5 สค 2522 หลานของดิฉัน อายุ 1 ปี 10 เดือน ซึ่งอยู่ในบ้านเดียวกัน ไม่สบายตัวร้อนได้ไปตรวจอาการที่ รพ เอกชนแห่งหนึ่งได้รับการทำการตรวจสอบโรคไข้หวัดใหญ่เบื้องต้น (screening test) ผลเป็น positive แพทย์วินิจฉัยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากเด็กได้รับการฉีดวัคซินป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลแล้ว แต่ผลตรวจที่จะยืนยันได้ต้องรอในวันรุ่งขึ้น ทว่าก็ได้รับยา tamiflu เลยเนื่องจากเป็นเด็กเล็กอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ในวันเดียวกันนั้นหลังจากทราบผล screening test ของ หลานชาย จึงส่งให้ แม่บ้าน ไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เช่นเดียวกับครั้งแรก ทางโรงพยาบาลปฏิเสธการทำการตรวจวินัจฉัยใดๆเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งๆที่ได้เล่าเรื่องว่ามีผู้ป่วยในบ้านและขอทำ screening test โรงพยาบาลอ้างเพียงว่าต้องจ่ายมาก่อน 3,500 บาทจึงจะยอมทำ screening test ให้ (แม่บ้านที่ทำงานบ้านธรรมดาๆจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายได้ ทั้งๆที่เขาก็จ่ายให้ประกันสังคมอยู่แล้วทุกๆเดือน)

วันที่ 6 สค 2552 บุตรสาวของดิฉัน อายุ 1 ปี 4 เดือน มีอาการเป็นไข้ตัวร้อน ได้รับการตรวจ screening test ที่ รพ เอกชน ผลเป็น positive และได้รับยา tamiflu พร้อมกับในเย็นวันเดียวกันผลตรวจของหลานชาย ได้รับการยืนยันว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ดิฉันจึงมั่นใจว่าทั้งบุตรสาวและแม่บ้าน เป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยผลยืนยันของบุตรสาวตามมีมาในวันรุ่งขึ้น

วันที่ 7 สค 2552 เนื่องจากแม่บ้านยังคงอาการไม่ดีขึ้น มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ค่อยสะดวก และมีเด็กถึงสองคนในบ้านได้รับการยืนยันว่า เป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงให้แม่บ้านเดินทางไป รพ ตามสังกัดประกันสังคม อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เช่นเดียวกับทุกๆครั้ง ทางโรงพยาบาลปฏิเสธการทำการตรวจวินัจฉัยใดๆเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ในวันเดียวกันน้องสะใภ้ของดิฉันที่อยู่บ้านเดียวกันที่ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน มีอาการตัวร้อน ได้รับการทำ screening test ไข้หวัดใหญ่เบื้องต้นที่ รพ เอกชน ผลเป็น positive และได้รับการยืนยันว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในวันรุ่งขึ้น

วันที่ 8 สค 2552 ได้ส่ง แม่บ้าน กลับไปที่ รพแห่งเดิมอีกครั้ง แต่ก็ต้องฝากเรื่องกับแพทย์ที่รู้จักจึงได้รับยา tamiflu ในที่สุด ทั้งๆที่เลยเวลา 48 ชม ที่ยาจะได้ผลดีที่สุดมานานมากแล้วโดยที่ถ้าได้รับยาอย่างรวดเร็ว โรคคงไม่แพร่กระจายสู่คนในบ้านมากขนาดนี้ รวมแล้วแม่บ้านของดิฉันต้องเดินทางไป รพ ถึง 4 ครั้ง โดยไปวันเว้นวันพร้อมทั้งต้องมีการฝากฝังจึงจะได้รับยา สงสัยนโยบายของรัฐบาลคือยื้อการให้ยาหรือการตรวจรักษาให้มันนานที่สุด เผื่อว่ามันจะได้หายเอง ไม่ต้องเปลืองยาแถมไม่ต้องรายงานตัวเลขผู้ป่วยด้วย??

แค่นี้ยังไม่พอ ทั้งนี้ในช่วงเช้าที่ยังไม่ทราบว่า รพ จะให้การรักษาแม่บ้าน ตามสมควรหรือไม่ ดิฉันมีความอึดอัดใจมาก จึงได้โทรไปเพื่อจะร้องเรียนที่ 1111 ที่รัฐบาลเปิดขึ้นมา ทว่าสิ่งที่ได้รับคือความเฉยชาและไม่สามารถทำอะไรได้ของเจ้าที่หน้าที่รับแจ้งเรื่อง ให้ข้อมูลเพียงว่าต้องทำเป็นหนังสือเข้ามา แล้วไม่ทราบว่าจะเปิด call center ขึ้นมาหาสวรรค์อะไรถ้าต้องการจะมาบอกแค่ว่าให้ทำเป็นหนังสือขึ้นมา และกว่าจะทำหนังสือเดินเรื่องเสร็จแม่บ้านของดิฉันมิตายไปก่อนแล้วหรือ นอกจากนี้ก็ได้รับแจ้งว่าให้โทรไปโดยตรงที่กระทรวงสาธารณะสุขเบอร์ 1422

ด้วยความไม่เดียงสาต่อความไร้ประสิทธิ์ภาพในการทำงานของรัฐบาล ดิฉันก็บ้าจี้เสียเวลาโทรไปอีก ทั้งๆที่มีลูกเล็กป่วยต้องดูแลแต่ยังดีที่คราวนี้ไม่ต้องเปลืองน้ำลาย เพราะสายด่วนที่กระทรวงเปิดขึ้นมามีแต่เครื่องรับให้ข้อมูล ไม่มีมนุษย์รับแต่อย่างไร ไม่ว่าจะเพียรกด 0 กี่ทีตามที่เครื่องรับบอกไว้ก็ตาม คล้ายๆกับข้างต้น วิเคราะห์กลยุทธ ของรัฐบาลก็คือ ก็เปิด call center ขึ้นมา ตอนแรกให้มันโทรไปที่ A ก่อน แล้วค่อยบอกให้มันโทร B C D... เรื่อยไปตามลำดับ จนกว่ามันจะเหนื่อยไปเอง เรื่องจะได้จบๆ

และนี่ก็เป็นเรื่องราวเดือดร้อนของดิฉันซึ่งอาจเป็นเรื่องเล็กๆในสายตารัฐบาล ยังไงก็ขอให้คิดถึงหัวอกคนเป็นแม่ที่เห็นลูกเล็กๆต้องร้องให้อย่างทรมาร หิวข้าวหิวนมอยากจะกินก็กินไม่ได้เพราะเจ็บคอมาก อยากจะนอนก็นอนไม่ได้เพราะไม่สบายเนื้อตัว ร้องไห้ให้แม่อุ้มตลอดเวลา ดิฉันก็เพียงแต่หวังว่ารัฐบาลนี้จะปรับปรุงการจัดการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นของขวัญในวันแม่ปี 2009 เพื่อไม่ให้แม่คนอื่นๆจะต้องเห็นลูกเจ็บจากโรคเหมือนดิฉัน

แม่ผู้เดือนร้อน 2009

จากคุณ : แม่ผู้เดือดร้อน 2009
เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 07:13:40 A:124.122.181.121 X: TicketID:228125




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com