 |
ความคิดเห็นที่ 5 |
|
สำหรับเรา low carb , low calorie เมื่อก่อนตอนทำ balance diet เราเอาไว้เป็นเทคนิคค่ะ อิอิ แต่หลังๆ เริ่มเอาไม่อยู่ แตกก่อนทุกที 5555
อ้อ มีอีกเรื่องที่อยากจะช่วยเสริมเอาไว้นะคะ พอดีได้ไปอ่านในหนังสือ diet secret ของคุณนก ชลิดา มาค่ะ ได้เตือนเรื่องการรับประทานอาหารแนวโลว์คาร์บ ไว้อย่างนี้ค่ะ
ในการทานแบบโลว์คาร์บ ช่วงแรกที่น้ำหนักลดลงเร็วมาก เพราะร่างกายดึงเอาพลังงานคาร์โบไฮเดรตสำรองในร่างกายที่ชื่อว่าไกลโคเจนมาใช้ (ไกลโคเจนนั้นสะสมอยู่ในตับและกล้ามเนื้อ และกักน้ำเอาไว้ด้วย) เมื่อพลังงานไกลโคเจนถูกดึงออกมาใช้หมด น้ำที่กักอยู่จึงถูกปล่อยออกไปด้วย ทำให้น้ำหนักตัวลดลง เมื่อไกลโคเจนถูกใช้จนหมด ไขมันสะสมถึงจะเป็นแหล่งต่อไปที่ร่างกายจะดึงเอาพลังงานมาใช้ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอเพื่อป้องกันอาการคีโตซิส
นอกจากนี้ เซลล์สมอง ประสาทส่วนกลางและเลือด ต้องการกลูโคสมาหล่อเลี้ยงให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดึงพลังงานจากไขมันและโปรตีนมาใช้ เนื่องจากขาดคาร์โบไฮเดรตนั้นไม่ใช่ข้อเลือกที่ดีที่สุด เพราะเมื่อขาดคาร์โบไฮเดรตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ร่างกายจะเริ่มดึงเอาโปรตีนจากเนื้อเยื่อของตัวเราออกมาใช้ ถึงแม้ว่าจะรับประทานโปรตีนมากก็ตาม แต่การสูญเสียมวลกล้ามเนื้ออย่างนี้ไม่ดีแน่ๆ
ข้อควรระวังอีกอย่างคือ การเผาผลาญไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรตนั้นเป็นการเผาผลาญที่ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดสารตกค้างชื่อคีโตน เนื่องจากกระบวนการคีโตซิสจะเกิดขึ้นเพื่อปลดปล่อยคีโตนออกไปจากร่างกายโดยขับออกทางปัสสาวะ หากเราไม่สนใจที่จะแก้ไขระบบร่างกายให้กลับเป็นปกติ คีโตซิสสามารถทำให้กรดยูริกในเลือดสูงจนเป็นโรคเกาต์และนิ่วในไตได้ นอกจากนั้นคีโตซิสยังขัดขวางการสะสมของแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย และอาจเกิดอาการโคม่าได้ในกรณีที่รุนแรง
ผู้ที่ให้การสนับสนุนการรับประทานแนวโลว์คาร์บ (แบบงดคาร์บโดยสิ้นเชิง) อาจแย้งว่ากระบวนการคีโตซิสนั้นเป็นเรื่องตามธรรมชาติของร่างกาย และการสะสมของคีโตนในเลือดนั้นเป็นอันตรายเฉพาะกับคนที่มีปัญหาโรคเบาหวาน คนติดเหล้า หรือคนที่ขาดอาหาร ขณะที่นักวิชาการจาก American Dietetic Association(ADA) กล่าวว่า การมีคีโตนอยู่ในร่างกายทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อ่อนเพลีย และสูญเสียมวลกล้ามเนื้อที่ดีได้ ทั้งยังแนะนำว่าแทนที่จะรับประทานอาหารแนวโลว์คาร์บ น่าจะหันมารักษากล้ามเนื้อเพื่อช่วยเผาผลาญแคลอรี่โดยการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่พอดีกับความต้องการของร่างกายจะดีกว่า
.....................................................................................................
รู้แบบนี้แล้ว ก็เอามาปรับเป็นเทคนิคกันนะคะ ทำได้ แต่อย่าไปทำนานๆ เนาะ สู้ๆ ค่า
แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 52 22:08:12
จากคุณ |
:
เพื่อนคนใหม่
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ส.ค. 52 22:04:38
|
|
|
|
 |